.oO เรื่องสั้น ปั้นแต่ง Oo.

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย สร้อยฟ้ามาลา, 22 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  2. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  3. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  4. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  5. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  6. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  7. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 ตุลาคม 2013
  8. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    เรื่องที่ ๓๔

    วัดดังนาม “วัดมงคลจินดาราม” มีใครรู้จักบ้าง

    ห่างหายไปนานเป็นเวลาพอสมควร ก็ไม่ได้ไปซนที่ไหนเลยไม่มีเรื่องราวมาเขียนกระทู้ พอดีเมื่อวานวันที่ ๑๖ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ได้พาคุณพ่อกับคุณแม่ไปเยี่ยมญาติแถวๆ พุทธมณฑลสาย ๕ ตอนขากลับก็เลยพาไปไหว้พระ ที่จริงวัดแห่งนี้เคยไปหลายครั้งแล้วส่วนมากจะไปวันหยุดคนเยอะมาก แต่เมื่อวานเป็นวันธรรมดาและไปถึงวัดก็ประมาณเกือบบ่ายสี่โมงเย็น คนน้อยมากเดินสบาย ถ่ายรูปสะดวก ก็ได้เห็นเด็กนักเรียกละแวกนั้นพากันมาไหว้พระหลังเลิกเรียน จึงคิดว่าโรงเรียนใกล้วัดก็ดีอย่างนี้นี่เอง เด็กๆ รู้จักเข้าวัด รู้จักไหว้พระ เกริ่นมาพอสมควรไปไหว้พระกันดีกว่า
    วัดที่จะพาไปในครั้งนี้ ชื่อว่า วัดมงคลจินดาราม นั่นไม่รู้จักหล่ะสิ สร้อยฟ้ามาลาก็ไม่รู้จักเหมือนกัน แต่ถ้าพูดว่า วัดไร่ขิง คงไม่มีใครไม่รู้จัก


    [​IMG]

    วัดมงคลจินดาราม(ไร่ขิง)

    วัดมงคลจิดาราม(ไร่ขิง) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ตำบลไร่ขิง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม

    เดิมเป็นวัดราษฎร์ สร้างเมื่อประมาณ พ.ศ.๒๓๙๔ โดยสมเด็จพระพุทธฒาจารย์(พุก) ขณะนั้นดำรงสมณศักดิ์ที่พระธรรมราชานุวัตร ท่านเป็นชาวเมืองนครชัยศรี มณฑลนครชัยศรี ในขณะที่ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ท่านได้กลับมาสร้างวัดไร่ขิงและวัดดอนหวาย ซึ่งเป็นบ้านโยมบิดาและมารดาของท่าน แต่ยังไม่ทันแล้วเสร็จ สมเด็จพระพุทธฒาจารย์(พุก) ก็ได้มรณภาพเสียก่อน เมื่อปีวอก พ.ศ.๒๔๒๗ สิริอายุ ๙๑ ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิรุณหิศ สยามมกุฎราชกุมาร พระราชทานเพลิงศพ ณ วัดศาลาปูนวรวิหาร เมื่อวันที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๔๒๘ ตรงกับวันพฤหัสบดี แรม ๑๐ ค่ำ เดือน ๕ ปีระกาต่อมาเมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๓๓วัดมงคลจินดาราม(ไร่ขิง) ได้ยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ


    [​IMG]


    ที่มาของชื่อ ไร่ขิง
    มีเรื่องเล่าว่า พื้นที่แห่งนี้ในอดีตมีชาวจีนปลูกบ้านเรือนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมากและนิยมปลูกขิงกันอย่างแพร่หลาย จนเป็นที่มาของชื่อหมู่บ้านจึงเรียกชุมชนแถบนี้ว่า “ไร่ขิง” ต่อมาเมื่อชุมชนหนาแน่นขึ้นจึงได้มีการสร้างวัดเพื่อเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้าน วัดจึงได้ชื่อตามชื่อของหมู่บ้านหรือชื่อชุมชนว่า “วัดไร่ขิง”


    [​IMG]


    ในราวปี พ.ศ.๒๔๔๖ สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพมหานคร ได้เสด็จตรวจเยี่ยมวัดในเขตอำเภอสามพราน สมเด็จพระมหาสมณเจ้า ได้เสด็จมาที่วัดไร่ขิง และทรงตั้งชื่อวัดใหม่ว่า “วัดมงคลจินดาราม” ทั้งทรงใส่วงเล็บชื่อเดิมต่อท้ายจึงกลายเป็น “วัดมงคลจินดาราม(ไร่ขิง)” เมื่อเวลาผ่านพ้นไปวงเล็บหายไปคงเหลือเพียงคำว่า “ไร่ขิง” ต่อท้ายคำว่า “มงคลจินดาราม” จึงต้องเขียนว่า “วัดมงคลจินดาราม-ไร่ขิง” แต่ทางราชการยังคงใช้ชื่อเดิมว่า “วัดไร่ขิง” สืบมาจนทุกวันนี้


    [​IMG]

    หลวงพ่อวัดไร่ขิง ไม่มีชื่อเรียกเฉพาะ ประชาชนทั่วไปเรียกว่า “หลวงพ่อวัดไร่ขิง” อนุโลมตามชื่อวัด องค์หลวงพ่อเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยเนื้อสัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตักกว้าง ๔ ศอก ๒ นิ้วเศษ สูง ๔ ศอก ๑๖ นิ้วเศษ ประดิษฐานบนฐานชุกชี ๕ ชั้น มีพุทธศิลป์ผสมผสาน ๓ สมัย คือ พระวรกายโดยทั่วไปดูสง่างามใหญ่โตผึ่งผาย แบบพุทธศิลป์สมัยเชียงแสน ผ้าสังฆาฏิจัดวางพับจับจีบและทอดยาวมาถึงพระนาภี ส่วนชายจีวรจากข้อพระหัตถ์วางทอดลงมายังพระเพลาจัดวางซ้อนไว้อย่างงดงาม นิ้วพระหัตถ์เรียวงามตามแบบพุทธศิลป์สุโขทัย เฉพาะพระพักตร์รูปสี่เหลี่ยม พระเนตรตรงกลางหลบต่ำ ที่สำคัญมีเส้นขอบพระศก(ไรผม) และเม็ดพระศกขนาดเล็กแน่นเหมือนหนามขนุนตามแบบพุทธศิลป์สมัยอู่ทองอย่างเด่นชัด นับเป็นพุทธศิลป์ที่งดงามยิ่งในทางศิลปะที่ผสมผสานพุทธศิลป์ ๓ สมัย อันได้แก่ สมัยเชียงแสน สมัยสุโขทัยและสมัยอู่ทอง ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2013
  9. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    [​IMG]

    หลวงพ่อวัดไร่ขิง เป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดไร่ขิง หันพระพักตร์ไปทางทิศอุดร(ทิศเหนือ) ซึ่งหน้าวัดมีแม่น้ำนครชัยศรีหรือแม่น้ำท่าจีนไหลผ่าน จากประวัติของวัดไร่ขิงได้กล่าวว่า สมเด็จพระพุทธฒาจารย์(พุก) ได้อัญเชิญมาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร โดยนำล่องมาทางน้ำด้วยการทำแพไม้ไผ่หรือที่เรียกกันว่าแพลูกบวบรองรับองค์พระปฏิมากร เมื่อมาถึงหน้าวัดไร่ขิงจึงได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานไว้ภายในพระอุโบสถ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ ซึ่งเป็นวันสงกรานต์จึงมีประชาชนจำนวนมากมาชุมนุมกัน ในขณะที่อัญเชิญองค์หลวงพ่อขึ้นจากแพสู่ประรำพิธีได้เกิดเหตุอัศจรรย์แสงแดดที่แผดจ้ากลับพลันหายไป ความร้อนระอุในวันสงกรานต์ก็บังเกิดเมฆดำทะมึนลมปั่นป่วน ฟ้าคะนองและบันดาลให้มีฝนตกโปรยลงมาทำให้เกิดความเย็นฉ่ำและเกิด ปิติยินดีกันโดยทั่ว ประชาชนที่มาต่างพากันตั้งจิตอธิษฐานเป็นหนึ่งเดียวกันว่า “หลวงพ่อจะทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ดับความร้อนร้ายคลายทุกข์ให้หมดไป ดุจสายฝนที่เมทนีดลให้ชุ่มฉ่ำ เจริญงอกงามด้วยธัญญาหารฉะนั้น” ดังนั้น วันดังกล่าวที่ตรงกับวันสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ของคนไทย ทางวัดจึงได้ถือเป็นวันสำคัญ และจัดให้มีงานเทศกาลนมัสการปิดทองประจำปีหลวงพ่อวัดไร่ขิง สืบเนื่องต่อมาจนถึงปัจจุบัน


    [​IMG]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2013
  10. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg
    ตำนานหลวงพ่อวัดไร่ขิง
    จากคำบอกเล่าต่อกันมา หรือที่เรียกว่า “มุขปาฐะ” มีหลายตำนาน ดังนี้


    ตำนานที่ ๑ ครั้งเมื่อสมเด็จพระพุทธฒาจารย์(พุก) ชาวเมืองนครชัยศรี ได้มาตรวจเยี่ยมวัดในเขตอำเภอสามพราน ได้เข้าไปในพระอุโบสถวัดไร่ขิง หลังจากกราบพระประธานแล้ว มีความเห็นว่าพระประธานมีขนาดเล็กเกินไป จึงบอกให้ท่านเจ้าอาวาสพร้อมชาวบ้านไปอัญเชิญมาจากวัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยวางลงบนไม้ไผ่และนำล่องมาตามลำน้ำและอัญเชิญขึ้นประดิษฐานในพระอุโบสถ ตรงกับวันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๕ วันสงกรานต์พอดี

    ตำนานที่ ๒ วัดไร่ขิงสร้างเมื่อปีกุน พุทธศักราช ๒๓๙๔ ตรงกับปีสุดท้ายในรัชกาลที่ ๓ ต้นปีในรัชกาลที่ ๔ สมเด็จพระพุทธฒาจารย์(พุก) ซึ่งเป็นชาวเมืองนครชัยศรี ในขณะดำรงสมณศักดิ์พระราชาคณะที่ พระธรรมราชานุวัตร ปกครองอยู่ที่วัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้กลับมาสร้างวัดที่บ้านเกิดของตนที่ไร่ขิง เมื่อสร้างพระอุโบสถเสร็จแล้วจึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปสำคัญองค์หนึ่งจากกรุงเก่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาเพื่อประดิษฐานไว้ในพระอุโบสถแต่การสร้างยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ ท่านได้มรณภาพเสียก่อน ส่วนงานที่เหลืออยู่พระธรรมราชานุวัตร(อาจ จนฺทโชโต) หลายชายของท่านจึงได้ดำเนินงานต่อจนเรียบร้อยและบูรณะดูแลมาโดยตลอดจนถึงแก่มรณภาพ

    ตำนานที่ ๓ ตำนานนี้เป็นเรื่องเล่าสืบต่อกันมาเกี่ยวกับพระพุทธรูปลอยน้ำมา ๕ องค์ก็มี ๓ องค์ก็มี โดยเฉพาะในเรื่องที่เล่าว่ามี ๕ องค์นั้น ตรงกับคำว่า “ปัญจภาคีปาฏิหาริยกสินธุ์โน” ซึ่งได้มีการเล่าเป็นนิทานว่า
    ในกาลครั้งหนึ่ง มีพี่น้องชาวเมืองเหนือ ๕ คน ได้เป็นเป็นพระภิกษุจนสำเร็จเป็นพระอริยบุคคล ชั้นโสดาบัน มีฤทธิ์อำนาจทางจิตมาก ได้พร้อมใจกันตั้งสัจอธิษฐานว่า เกิดมาชาตินี้จะขอบำเพ็ญบารมีช่วยให้สัตว์โลกได้พ้นทุกข์ แม้จะตายไปแล้วก็จะขอสร้างบารมีช่วยสัตว์โลกให้ได้พ้นทุกข์ต่อไปจนกว่าจะถึงพระนิพพาน ครั้งพระอริยบุคคลทั้ง ๕ องค์ได้ดับขันธ์ไปแล้วก็เข้าไปสถิตในพระพุทธรูปทั้ง ๕ องค์จะมีความปรารถนาที่จะช่วยคนทางเมืองใต้ที่อยู่ติดแม่น้ำให้ได้พ้นทุกข์ จึงได้พากันลอยน้ำลงมาตามลำน้ำทั้ง ๕ สาย เมื่อชาวบ้านตามเมืองที่อยู่ริมแม่น้ำเห็นเข้า จึงได้อัญเชิญและประดิษฐานไว้ตามวัดต่างๆ มีดังนี้



    a.jpg
    พระพุทธรูปองค์ที่ ๑
    ลอยไปตามแน่น้ำบางปะกง ขึ้นสถิตที่วัดโสธรวรวิหาร เมืองแปดริ้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา เรียกกันว่า “หลวงพ่อโสธร”


    พระพุทธรูปองค์ที่ ๒
    ลอยไปตามแน่น้ำนครชัยศรี(ท่าจีน) ขึ้นสถิตที่วัดไร่ขิง เมืองนครชัยศรี เรียกกันว่า “หลวงพ่อวัดไร่ขิง”


    พระพุทธรูปองค์ที่ ๓
    ลอยไปตามแน่น้ำเจ้าพระยาขึ้นสถิตที่วัดบางพลี เรียกว่า “หลวงพ่อวัดบางพลี” แต่บางตำนานก็ว่าหลวงพ่อวัดบางพลีเป็นองค์แรกในจำนวน ๕ องค์ จึงเรียกว่า “หลวงพ่อโตวัดบางพลี”


    พระพุทธรูปองค์ที่ ๔
    ลอยไปตามแน่น้ำแม่กลอง ขึ้นสถิตที่วัดบ้านแหลม เมืองแม่กลอง เรียกว่า “หลวงพ่อวัดบ้านแหลม”


    พระพุทธรูปองค์ที่ ๕
    ลอยไปตามแน่น้ำเพชรบุรี ขึ้นสถิตที่วัดเขาตะเครา เมืองเพชรบุรี เรียกว่า “หลวงพ่อวัดเขาตระเครา”


    ส่วนตำนานของเมืองนครปฐมนั้นเล่าว่า มีพระ ๓ องค์ ลอยน้ำมาพร้อมกัน และแสดงปาฏิหาริย์จะเข้าไปยังบ้านศรีมหาโพธิ์ซึ่งมีต้นโพธิ์ใหญ่อยู่จึงได้เรียกตำบลนั้นว่า “บางพระ” พระพุทธรูป ๓ องค์ ลอยไปจนถึงปากน้ำท่าจีนแล้วกลับลอยทวนน้ำขึ้นมาใหม่ จึงเรียกตำบลนั้นวา “สามประทวน” หรือ “สัมประทวน” แต่เนื่องจากตำบลที่ชาวบ้านพากันไปชักพระขึ้นฝั่งเพื่อขึ้นประดิษฐาน ณ หมู่บ้านของตนแต่ทำไม่สำเร็จต้องเปียกฝนและตากแดดตากลมจึงได้ชื่อว่า “บ้านลานตากฟ้า” และ “บ้านตากแดด” ในที่สุดพระพุทธรูปองค์แรกจึงยอมสถิต ณ วัดไร่ขิง เรียกกันว่า “หลวงพ่อวัดไร่ขิง” ส่วนองค์ที่สองลอยน้ำไปแล้วสถิตขึ้นที่วัดบ้านแหลมจังหวัดสมุทรสงคราม เรียกว่า “หลวงพ่อวัดบ้านแหลม” และองค์ที่สาม ลอยตามน้ำไปตามจังหวัดเพชรบุรีแล้วสถิตที่วัดเขาตะเครา เรียกว่า “หลวงพ่อวัดเขาตระเครา”


    a.jpg


    นี่ก็เป็นประวัติของวัดมงคลจินดาราม-ไร่ขิง และประวัติของหลวงพ่อวัดไร่ขิง พอสังเขปให้ได้ทราบกัน พอไหว้หลวงพ่อเสร็จแล้ว ก็เลยเดินเล่นไปทางท่าน้ำ ที่นี่จะมีวังมัจฉา รู้สึกว่าเมื่อก่อนปลาจะเยอะกว่านี้ ก็ให้อาหารปลาบ้าง อาหารนกบ้าง นกพิราบมาขโมยกินอาหารปลาที่หล่นอยู่บนพื้น

    กว่าจะไหว้พระเสร็จ กว่าจะเดินเล่นเสร็จก็เกือบ ๕ โมงเย็น จึงได้เดินทางกลับ ขากลับผ่านพุทธมณฑลสาย ๔ เห็นว่ามีการอัญเชิญพระไตรปิฎกจากต่างประเทศมาให้ได้สักการะกัน จึงได้แวะกันอีก แต่เดี๋ยวจะแตกกระทู้ออกเป็นอีกหนึ่งกระทู้ คอยติดตามอ่านกันนะจ๊ะ
    ท้ายสุดนี้ กุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำในครั้งนี้ขออุทิศถวายแด่ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดาคุณมารดา วงศาคณาญาติทั้งหลาย คุณครูบาอาจารย์ เจ้าฟ้า พระมหากษัตริย์ เจ้านายพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ เทพยดาทั้งหลาย พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ท่านท้าวเวสสุวรรณ เจ้ากรุงพาลี ภูมิเจ้าที่ทั้งหลาย คุณแม่พระธรณี พระคงคา พระพาย พระเพลิง พระโพสพ ภูมิ เจ้าที่ พระยายมราช ตั้งแต่ชั้นจตุมหาราชิกาจนถึงเบื้อบนพรหมมา เบื้องล่างตั้งแต่อเวจีจนถึงมนุษยโลก โดยรอบสุดขอบจักรวาล อนันตจักรวาล เทวดารักษาตัวของข้าพเจ้า เจ้ากรรมนายเวรและขอให้ผลบุญจงได้สำเร็จผลแด่เพื่อนๆ สมาชิกในเว็ปพลังจิต ทุกท่าน ด้วยกุศลนี้จงเป็นเหตุปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้พบพระพุทธเจ้าและศาสนาของพระองค์ในทุกๆ ชาติ จนถึงพระนิพพานเป็นที่สุด


    ข้อมูลและที่มา
    วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    http://www.itti-patihan.com

    http://www.ezytrip.com/Thailand/th/C...atRaiKhing.htm
    http://www.hamanan.com/tour/nakhonpa...ingtemple.html

    http://www.komchadluek.net


    เรียบเรียงโดย : สร้อยฟ้ามาลา
    ภาพถ่ายโดย : สร้อยฟ้ามาลา






    ..............................




    [​IMG]


    ..............................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  11. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg

    พระปางป่าเลไลยก์ หน้าพระอุโบสถ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  12. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  13. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg

    พระพุทธรูปปางห้ามญาติ ด้านหลังพระอุโบสถ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  14. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  15. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg

    รูปปั้นดินเผา บริเวณสวนหย่อมของวัด....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  16. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  17. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  18. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  19. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    a.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กรกฎาคม 2018
  20. สร้อยฟ้ามาลา

    สร้อยฟ้ามาลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    19,158
    ค่าพลัง:
    +43,837
    เรื่องที่ ๓๕

    สักการะธรรมเจดีย์ คัมภีร์พุทธศาสนาสองพันปี !!!


    [​IMG]


    รูปนี้ถ่ายจากป้ายประชาสัมพันธ์ก็เลย ลายๆ หน่อยนึง


    ก็เป็นเรื่องราวต่อจากกระทู้ วัดดังนาม “วัดมงคลจินดาราม” มีใครรู้จักบ้าง
    พอดีขับรถกลับจากวัดมงคลจินดาราม-ไร่ขิง โดยใช้เส้นทางพุทธมณฑลสาย ๔ ก็เลยต้องผ่านพุทธมณฑล ขณะนั้นเวลาประมาณ ๑๗.๐๐ น.กว่าๆ เห็นจะได้ ได้ข่าวว่าทางตัวแทนรัฐบาลไทยได้อัญเชิญคัมภีร์พุทธศาสนาโบราณอายุกว่าสองพันปีซึ่งเป็นต้นกำเนิดพระไตรปิฎกมาประดิษฐานที่อาคารพิพิธภัณฑ์พุทธศาสนาซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณของพุทธมณฑล

    ครั้งแรกสองจิตสองใจว่าจะเข้าไปหรือไม่เข้าไปดีเพราะเห็นว่าเย็นมากแล้ว แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ ลองเสี่ยงเข้าไปดูว่าวันนี้เขาปิดการให้เข้าสักการะหรือยัง พอไปถึงก็โชคดีที่ยังไม่ปิดก็เลยได้มีเรื่องมาเล่าให้ฟังอีกเรื่อง


    เหตุมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ คณะตัวแทนรัฐบาลไทยได้รับมอบ “พระธรรมเจดีย์” ซึ่งถือว่าเป็นต้นกำเนิดพระไตรปิฎกอายุกว่าสองพันปีจากเอกอัครราชฑูตนอร์เวย์ประจำประเทศไทยในนามตัวแทนรัฐบาลนอร์เวย์โดยการอัญเชิญมาครั้งนี้เพื่อเฉลิมฉลองพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระชนมายุครบ ๘๔ พรรษา และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับนอร์เวย์ ซึ่งสืบทอดมาตั้งแต่สมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จเยือนนอร์เวย์เมื่อ ๑๐๐ ปีก่อน โดยเปิดให้ประชาชนเข้าสักการะเป็นเวลา ๙๐ วัน ระหว่างวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ ถึง ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ตั้งแต่เวลา ๐๙.๓๐ – ๑๘.๐๐ น.


    [​IMG]


    ธรรมเจดีย์ คืออะไร สร้อยฟ้ามาลาก็ไม่รู้เหมือนกัน มารู้ก็คราวนี้แหล่ะ

    ธรรมเจดีย์เป็น ๑ ใน ๔ ของพุทธเจดีย์ ๔ อย่างซึ่งแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันได้แก่

    ๑. ธาตุเจดีย์ คือ พระบรมสารีริกธาตุ
    ๒. บริโภคเจดีย์ คือ สังเวชนียสถาน ๔ ตำบล ได้แก่ สถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน
    ๓. ธรรมเจดีย์ คือ จารึกข้อพระธรรมที่เป็นหัวใจแห่งพระพุทธศาสนา ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสว่าให้เป็นตัวแทนแห่งพระองค์และให้พุทธศาสนิกชนใช้เป็นหลักในการปฏิบัติ เผยแพร่และสืบสานพระธรรมคำสั่งสอนนั้น เป็นการจรรโลงพระพุทธศาสนาต่อไป
    ๔. อุเทสิกเจดีย์ คือ สิ่งที่ระลึก เช่น พระพุทธรูป

    ..........................................

    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1235441/[/MUSIC]

    ..........................................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...