.oO เรื่องสั้น ปั้นแต่ง Oo.

ศาลพระโพธิสัตว์ อวโลกิเตศวร
เมื่อคราวที่แล้ว ไม่ได้ถ่ายรูปมา...​

 

​

 

​

 

​

 

​

 

...........ปิดท้ายด้วย ดอกสาละ.............​

 

เรื่องที่ ๒๖

สมเด็จโต องค์ใหญ่ ที่วัดโบสถ์​

วันจันทร์ที่ ๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๓ ขณะเดินทางกลับบ้านหลังจากที่ไปทำบุญที่วัดม่วง อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง และไปเข้าวัง พระราชวังบางปะอินแล้ว ขากลับใช้เส้นทางถนนกาญจนาภิเษก พอถึงช่างสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ในเขตจังหวัดปทุมธานี บังเอิญคุณแม่ไปเห็นว่ามีสมเด็จพระพุฒาจารย์โต องค์ใหญ่ อยู่ในวัดใกล้ๆ กับแม่น้ำเจ้าพระยา เอ ขับรถผ่านมาหลายครั้งไม่เคยเห็นแฮะ เลยตัดสินใจเลี้ยวรถเข้าซอยแถวๆ นั้น วัดชื่ออะไรก็ไม่รู้จัก อาศัยอ่านป้ายข้างทางว่า วัดโบสถ์ ขับรถมาถึงวัดก็ ๕ โมงเย็นกว่าๆ แล้ว คนบางตา ลมพัดเย็นๆ เดินสบายๆ อยากนั่งอยู่ที่วัดนี้นานๆ จัง เงียบสงบดี....​

​

วัดโบสถ์
วัดโบสถ์ตั้งอยู่ที่ตำบลบ้านกลางทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี

วัดโบสถ์ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๑๖๔โดยชาวมอญที่อพยพมาจากเมืองหงสาวดี เดิมเป็นวัดเก่าโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นวัดที่มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คือหลวงพ่อเหลือถือเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของเมืองปทุมธานี บริเวณรอบๆ วัด มีทิวทัศน์ที่สวยงามสถานที่ตั้งของวัดโบสถ์อยู่บริเวณคุ้งน้ำท้องมังกรของแม่น้ำเจ้าพระยา

​

ชื่อวัดโบสถ์นำมาจากชื่อหมู่บ้านที่ชาวมอญอพยพมาจากเมืองมอญเช่นเดียวกับวัดอีกหลายวัดในปทุมธานี เช่น วัดหงษ์ วัดบางตะไนย์ประชาชนมักมาที่วัดเพื่อสักการะหลวงพ่อสามพี่น้องในพระอุโบสถและรูปหล่อหลวงปู่เทียน (พระครูบวรธรรมกิจ) พระเถระผู้ทรงคุณวิทยาส่งเสริมด้านการศึกษาให้ชาวปทุม วัดนี้ยังคงมีวิหารเก่าเหลืออยู่ ๑ หลังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่จากรามัญ คือ พระแสงอาญาสิทธิ์และยังเก็บรักษาสิ่งสำคัญคือ ช้างสี่เศียรและบุษบกสัมฤทธิ์สำหรับประดับเสาหงส์และรูปปั้นสุนัขย่าเหลหล่อด้วยตะกั่วที่เจ้าอาวาสได้รับพระราชทานมาจากรัชกาลที่ ๖ เมื่อครั้งเสด็จประพาสเมืองปทุมธานี

​

วัดโบสถ์มีรูปปั้นเหมือน ของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โตพรหมรังสี) เทศนาธรรมองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งมีความสูงถึง ๒๘ เมตร ความกว้างหรือหน้าตัก ๑๒ เมตรลักษณะเป็นปางเทศนาธรรม วัตถุประสงค์เพื่อเสริมดวงเมืองของประเทศไทย หมายถึงการให้สติ เตือนใจคนด้วยหลักธรรมของพระพุทธเจ้าหรือเอาธรรมะของพระพุทธเจ้าเป็นใหญ่เหมือนกับที่มีคำกล่าวว่าผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นตถาคตพระธรรมจึงเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้าและอำนาจแห่งธรรมจะสามารถสยบความชั่วร้ายและอัปมงคลให้กับประเทศไทยได้

หลวงพ่อเหลือ​

รูปเหมือนสมเด็จโต พรหมรังสี สร้างขึ้นจากมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากทั่วประเทศ เช่น ผงสมเด็จโตจากวัดระฆังโฆสิตาราม ผงเจ้าคุณนรรัตนราชมานิต วัดเทพศิรินทร์ ผงหลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งผงธูป
และแผ่นทองจากวัดศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ อาทิ วัดโสธรวราราม วัดพระแก้ว วัดพระพุทธชินราช วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดหลวงพ่อทวด เป็นต้น ดินจาก ๗๖จังหวัด น้ำพระพุทธมนต์จากทั่วประเทศใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างตั้งแต่ช่วงเข้าพรรษาของปี พ.ศ.๒๕๔๙ แล้วเสร็จเมื่อวันที่๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๑ ประมาณ ๑ ปี ๖ เดือน งบประมาณเฉพาะองค์พระประมาณ ๑๐กว่าล้านบาทวางศิลาฤกษ์โดยพระพรหมเมธี กรรมการมหาเถรสมาคมและเลขาธิการคณะธรรมยุตวัดเทพศิรินทราวาสปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวนิยมไปกราบไหว้กันเป็นจำนวนมาก

​

การเดินทาง
การเดินทางไปวัดโบสถ์ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาถนนวงแหวนตะวันตก ลงทางด่วนบางปะอินเลี้ยวซ้ายไปประมาณ ๕กิโลเมตร พอขึ้นสะพานก็จะเห็นรูปเหมือนสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โตพรหมรังสี) เทศนาธรรมองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

โชคดีจังไดทำบุญอีกวัดก่อนถึงบ้าน.......


ออกจากวัดก็เกือบทุ่มได้มั้ง ถึงบ้านทุ่มกว่าๆ หมดแรงเลย อากาศร้อน เพลียเลยหล่ะ.....



...................................................

กุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำในครั้งนี้ขออุทิศถวายแด่ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดาคุณมารดา วงศาคณาญาติทั้งหลาย คุณครูบาอาจารย์ เจ้าฟ้า พระมหากษัตริย์เจ้านายทุกพระองค์ เทพยดาทั้งหลาย พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ท่านท้าวเวสสุวรรณ เจ้ากรุงพาลี ภูมิเจ้าที่ทั้งหลาย คุณแม่พระธรณี พระคงคา พระพาย พระเพลิง พระโพสพ พระยายมราช เจ้ากรรมนายเวร และขอให้ผลบุญจงได้สำเร็จผลแด่เพื่อนๆ สมาชิกในเว็ปพลังจิต ทุกท่าน ด้วยกุศลนี้จงเป็นเหตุปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้พบพระพุทธเจ้าและศาสนาของพระองค์ในทุกๆ ชาติ จนถึงพระนิพพานเป็นที่สุด​

ข้อมูลจาก : www.cm77.com , www.holidaythai.com
เรียบเรียงข้อมูลโดย : สร้อยฟ้ามาลา
ภาพโดย : สร้อยฟ้ามาลา​

.......................​

​

.............​

 

​

 

​

 

วังมัจฉา.... ท่าน้ำวัดโบสถ์​

 

​

 

ท่าน้ำ

..........................

รูปหมดแล้ว

ถ้าวันหยุดใครไม่รู้จะไปไหน
ไปที่วัดโบสถ์แห่งนี้ก็ดีนะ
ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ด้วยหล่ะ

........................
​

 

เรื่องที่ ๒๗

สงกรานต์ปีนี้ มีเรื่องมาเล่าให้ฟัง



​

ก็ช่วงเทศกาลสงกรานต์ในปี ๒๕๕๓ นี้รัฐบาลประกาศให้วันที่ ๑๖ เมษายน เป็นวันหยุดราชการอีกหนึ่งวันทำให้มีวันหยุดยาวตั้งแต่วันที่ ๑๓ - ๑๘ เมษายน รวมเป็น ๖ วันสร้อยฟ้ามาลาจึงเดินทางไปจังหวัดนครสวรรค์ ระหว่างเดินทางตามทางแยกใหญ่ๆของถนนหลวงจะเห็นป้ายประชาสัมพันธ์งานบุญต่างๆ ป้ายใหญ่บ้าง เล็กบ้างแต่โดยมากไม่ได้อ่าน เพราะอ่านไม่ทัน เดินทางมาถึงบ้านก็บ้านเย็นๆ ในวันที่ ๑๓เมษายน

​

พอตกค่ำๆ ญาติก็ได้ชวนไปบุญที่วัดเนินพยอม อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์มีงานปิดทองฝังลูกนิมิตและฉลองพระอุโบสถ์

​

ซึ่งในวันนี้เป็นวันสุดท้ายวัดแห่งนี้เป็นวัดเล็กๆ ของชุมชนแต่มีพื้นที่บริเวณวัดกว้างขวางสร้อยฟ้ามาลาไม่ทราบประวัติความของวัดว่ามีความเป็นมาอย่างไร พระอุโบสถหลังใหม่นี้เป็นพระอุโบสถหลังเล็กๆ ไม่ใหญ่ ได้ทราบมาว่ามีผู้มีจิตศรัทธาสร้างถวายวัดและถวายองค์ทรงของตายายที่รับรักษาและแก้ไขปัญหาต่างๆ ของผู้คนในระแวกนี้ มีลูกศิษย์ลูกหามากมายไม่ใช่เฉพาะแค่ในหมู่บ้าน ยังมีผู้เคารพนับถือหลายๆ จังหวัดรวมถึงกรุงเทพมหานครก็มี

​

สร้อยฟ้าฯ เคยมาหาตายายมา ๒ ครั้ง ญาติๆ ชวนมาก็เลยมาไม่ขัดศรัทธา ตอนนั้นพอดีมีรูปลอยองค์ของท้าวเวสสุวรรณอยู่ก็เลยถือโอกาสให้ช่วยเบิกเนตรและขอสายสิจญ์มาผูกรถยนต์ ครั้งที่ ๒ ญาติๆ ให้พาไปดูเรื่องการสอบเข้าทำงานให้หน่อยก็เลยพาไป ที่จริงร่างทรงก็เป็นญาติๆ กันนั่นแหล่ะ

​

เรื่องของเรื่อง น้าทีเป็นร่างทรงนี้ เมื่อก่อนทำไร่ทำนา วันดีคืนดีไปไถดินก็ไปเจอเครื่องเงินเชี่ยนหมากเจ้าของเดิมถ้าเข้าใจไม่ผิดก็คือองค์ที่ลงทรงนี่แหล่ะ เขาเล่าให้ฟังว่าเป็นตายายชอบจำศีลภาวนา แต่ตอนนี้ลงมาช่วยเหลือคนและร่าง สร้อยฟ้าฯ ก็ฟังไว้ โบราณท่านว่า ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ตอนที่ไปครั้งแรกก็ได้พูดคุยกับองค์ทรงตายาย อืมมม..... มีหลักธรรมะดีทีเดียวเลยหล่ะ

พระประธานในพระวิหาร

​

อุ๊ย เล่ามานี่เรื่องของวัดเนินพยอมมีนิดเดียวเอง ก็ไม่มีข้อมูลเลยไม่รู้จะเล่าอะไร พอปิดทองลูกนิมิตที่พระอุโบสถเสร็จแล้ว ก็มากราบพระที่พระวิหารเก่า สร้อยฟ้าฯ เดินเข้าไปในพระวิหาร แทบแย่ หน้าต่างไม่เปิด อบไปด้วยควันธูปหายใจไม่ออก แต่ก็อดทนจุดธูปไหว้พระจนเสร็จ

มีลิเกด้วย ลิเกโรงนี้ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านตายาย ซึ่งวันนี้ก็มีงานประจำปีเหมือนกัน​

จากนั้นก็เดินดูงานวัด มีปาโป่ง ร้านค้า โรงลิเก แต่รู้สึกว่าไม่มีชิงช้าสวรรค์ เดินเล่นได้สักพักก็พากันกลับบ้าน ระหว่างทางผ่านบ้านตายาย มีโรงลิเกตั้งอยู่หนึ่งโรง ซึ่งมีงานประจำปี ก็จอดรถไปดูกันหน่อย จากนั้นก็กลับบ้าน อาบน้ำนอน .........

 

​

วันที่ ๑๔ เมษายน ตอนเช้าไปทำบุญที่วัด พอสายๆ ก็จะไปจ่ายตลาดที่ตัวเมือง แต่ก่อนที่จะเข้าตัวเมือง ระหว่างทาง ญาติๆ ก็ชวนเข้าวัดห้วยรั้วซึ่งมีงานปิดทองลูกนิมิตพระอุโบสถ

​

ตอนแรกเข้าใจว่าปิดทองฝังลูกนิมิต แต่พออ่านป้ายเล็กๆ ข้างทางแล้วไม่ใช่ เป็นงานปิดทองลูกนิมิต ที่ป้ายบอกว่าเป็นพระอุโบสถประดับแก้วเจียระไนแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ก็เลยลองไปดู ไปถึงวัดห้วยรั้วก็เกือบจะ ๑๑ โมงเช้า อากาศร้อนมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ งานวัดที่เคยไปก็จะไปแต่ตอนกลางคืนมากกว่าตอนกลางวัน มาคราวนี้มาตอนกลางวัน คนไม่มีเลย มีแต่พระ มัคทายกประกาศเชิญชวนกับพ่อค้าแม่ค้ากำลังจัดข้าวของแต่งร้านอยู่ วัดเงียบมาก.........

​

พอลงจากรถ ก็เดินไปที่ซุ้มประชาสัมพันธ์ ซื้อดอกไม้ธูปเทียน มีทองคำเปลวปิดลูกนิมิตแล้วก็มีไม้เสียบใบโพธิ์เงินโพธิ์ทอง พอเสียบเงินที่ใบโพธิ์เงินโพธิ์ทองเสร็จแล้ว ก็เข้าไปในพระอุโบสถไหว้พระก่อน พระอุโบสถยังสร้างไม่เสร็จเลย แต่สีที่ทาเริ่มซีดแล้ว ด้านหลังของพระประธานประดับด้วยแก้วเจียระไนหากถูกแสงแล้วจะสวยงามมาก......

​

แต่ก็ยังไม่เสร็จประดับไปได้หน่อยเดียวเอง ทีแรกนึกภาพในใจว่าคงจะระยิบระยับแต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น กราบพระ ปิดทองลูกนิมิตในพระอุโบสถเสร็จ ก็ออกมาปิดทองลูกนิมิตรอบๆ พระอุโบสถ เห็นคนที่มาปิดทองมีไม่ถึงสิบคน ปิดมาได้เกือบจะครบเหลือสองลูกสุดท้าย อ้าว! ลูกนิมิตหายไปไหน มองซ้ายมองขวาเห็นเจ้าหน้าที่อุ้มไปไว้หน้าพระอุโบสถ โดยมีหลวงพี่รูปหนึ่งกำกับงานอยู่ หลวงพี่ท่านบอกว่ากลัวโยมร้อนเลยให้มาไว้หน้าโบสถ์ที่มีเต้นท์กางจะได้ปิดทองได้ง่าย ก็จริงอย่างท่านว่า เวลาปิดทองลูกนิมิตก็ต้องถอดรองเท้า แล้วไม่มีร่ม พื้นซีเมนท์ร้อนๆ ต้องรีบปิดรีบใส่รองเท้าไม่อย่างนั้นเท้าสุก...

หลวงพ่อวิปัสสนา จรณสัมปันโน


​

หลวงพี่รูปนี้ท่านมีอัชฌาสัยดี ท่านเห็นสร้อยฟ้าฯ ถ่ายรูป ท่านก็บอกว่าไปถ่ายรูปในโบสถ์หรือยัง ก็เลยบอกกับท่านว่าได้ถ่ายแล้ว และจำนำรูปไปลงในเว็ปไซด์ ท่านก็เลยบอกว่าช่วยประชาสัมพันธ์วัดให้ด้วยก็เลยได้คุยกับหลวงพี่นานหน่อย ท่านบอกว่า เมื่อก่อนท่านเป็นพระธุดงค์ บวชเรียนอยู่ที่เชียงใหม่ ธุดงค์ไปเรื่อยๆ จนมาเจอวัดนี้ วัดห้วยรั้วสร้างมานานแล้ว พระอุโบสถหลังนี้ก็สร้างมาร่วม ๒๐ ปีแล้วแต่ก็ยังไม่เสร็จสักทีเพราะว่าทางวัดไม่มีเงินไม่มีปัจจัย เป็นวัดไม่มีชื่อเสียงโด่งดังอะไร ญาติโยมเลยไม่รู้จัก ที่มาอยู่วัดนี้ส่วนหนึ่งก็ตั้งใจจะสร้างพระอุโบสถให้เสร็จ ป้ายที่เขียนไว้ตามริมทางก็ไม่มีเงินทำป้ายโฆษณาใหญ่ๆ ที่เห็นนั้นเป็นไม้จากฝาโลงศพทั้งสิ้น

กาฝากยม นำมาจากเขมร​

วัดนี้เป็นวัดสอนกรรมฐาน มีการสอนและนั่งกรรมฐานทุกวัน เป็นกรรมฐานสายหลวงพ่อจรัล จังหวัดสิงห์บุรี ที่วัดจะมีของดีที่เด่นๆ คือ ตะกรุด มีญาติโยมได้กาฝากยมมาจากเขมรแต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรก็เลยนำมามอบให้ แล้วยังมีกาฝากรักอีกด้วย ท่านบอกว่าตะกรุดนี้ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ให้ลองดูนะ ถือตะกรุดนี้แล้วเดินออกไปขวางหน้ารถสิบล้อที่กำลังวิ่งอยู่ ให้ลองดู ตายทุกราย โห หลวงพี่นึกว่าจะบอกว่ารอด ฟังแล้วก็ขำ แต่ใจในขณะนั้นก็คิดของคุณที่ท่านเตือนเป็นนัยๆ ว่าทุกอย่างอย่าตั้งอยู่บนความประมาท สนทนากันนานพอสมควร ท่านได้มอบตะกรุดให้ ๒ ดอก และมอบกาฝากรักให้อีกด้วย ก็ขอกราบขอบพระคุณหลวงพี่ท่านเป็นอย่างสูง หลวงพี่บอกว่าพระอุโบสถนี้ด้านในจะไม่เขียนภาพเพราะเห็นว่าแทบทุกวัดในแถบจังหวัดแถวนี้จะหาดูได้เกือบทุกวัดเลยคิดว่าจะประดับกระจกซึ่งกระจกนี้ไม่เหมือนกับกระจกที่ประดับกันทั่วไปจะเป็นกระจกแก้วเจียระไน ถ้าถูกแสงแล้วจะเป็นประกายสวยงามมาก ถ้าทำเสร็จแล้วจะติดโคมไฟไว้ด้านหลังองค์พระประธาน แค่นั้นก็จะสว่างไปทั้งโบสถ์ สร้อยฟ้าฯ คิดว่าเป็นการลดภาวะโลกร้อนได้ดีเลยหล่ะ

​

ท่านยังบอกว่าโบสถ์หลังนี้มีทางลอดใต้โบสถ์เพื่อเสดาะเคราะห์ด้วย พอพูดคุยกับหลวงพี่เสร็จแล้ว ก็เลยเดินลอดโบสถ์กัน การเดินลอดโบสถ์หลังนี้ทางเข้าจะอยู่ด้านหลังโบสถ์แล้วลอดออกทางด้านหน้าโบสถ์ ใต้พระอุโบสถมีพระพุทธรูปเก่าองค์หนึ่งกับอ่างน้ำมนต์เก่า ไหว้พระพุทธรูปใต้พระอุโบสถเสร็จ ระหว่างเดินออกมา น้องสาวที่มาด้วยกันบอกว่าอยากได้ตะกรุดบ้างแต่ไม่กล้าขอ ก็เลยเดินไปขอกับหลวงพี่ให้ บอกว่าจะขอเช่า แล้วก็ขอชื่อหลวงพี่กับเบอร์โทรศัพท์ เพื่อจะได้ช่วยประชาสัมพันธ์ในการสร้างถาวรวัตถุอาคารและสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในวัดได้บ้าง ท่านก็เลยเขียนชื่อและเบอร์โทรศัพท์ให้ว่า หลวงพ่อวิปัสสนา จรณสัมปันโน เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๐ ๐๘๖ ๓๘๘๐ อิ อิ สร้อยฟ้าฯ หน้าแตกพูดกับหลวงพ่อว่าหลวงพี่ตลอดเลย แต่ท่านเขียนแทนตัวท่านเองว่าหลวงพ่อ ก็ใครจะรู้เห็นแล้วกะว่าอายุยังไม่เยอะ พอได้ตะกรุดแล้วก็ลาออกมาจะกลับแล้ว ทางหน่วยประชาสัมพันธ์ก็พูดไปเรื่อยๆ ถึงการจัดงานในครั้งนี้ บังเอิญไปได้ยินเขาประกาศว่าวัดนี้มีหลวงพ่อนักปฏิบัติธุดงค์มาจากทางเหนือและเป็นเจ้าอาวาสแห่งนี้ โอ้.....หน้าแตกครั้งที่สอง ยืนคุยกับเจ้าอาวาสตั้งนานสองนานไม่รู้เรื่ื้องเลย เพราะดูท่านน่าเคารพเลื่อมใสและเป็นกันเองมาก....

​

ออกจากวัดได้ก็ไปจ่ายตลาด ในตัวเมืองมีการเล่นสาดน้ำกันแต่ไม่มากเท่าไหร่ เห็นอุบัติเหตุบ้าง รถยนต์ชนกันบ้าง รถมอเตอร์ไซด์ล้มบ้าง แต่ไม่มีเหตุรุนแรง พอจ่ายตลาดเสร็จก็เดินทางกลับบ้าน มาถึงทางใกล้ๆ ทางเข้าวัดห้วยรั้ว เลยจอดรถดูป้ายให้ชัดๆ ว่าเป็นไม้อะไร ฝาโลงศพ จริงๆ ด้วย

ป้ายจาก ฝาโลงศพ ทั้งนั้นเลย​

 

วันนี้ตอนเย็นซิ่งมอเตอร์ไซด์ไปดูนา ไปกัน ๒ คัน ปรากฏว่า เกิดยางรั่ว ๑ คัน เลยยกรถขึ้นรถไถนาพ่วงสารี่ น้องสาวที่ให้ขอตะกรุดให้หน่อยเลยสอนให้สร้อยฟ้าฯ ขับรถไถนากลับบ้าน เลยได้ออกแรงหมุนข้อเหวี่ยงสตาร์ทเครื่อง ต้องระวังถ้าหมุนไม่ดีถูกดีดตีคางแตกได้ พอเครื่องติดน้องสาวก็สอนการบังคับว่าขับอย่างไร คุมรถอย่างไร จากที่นาถึงบ้านร่วม ๑๐ กิโลเมตร ทางเป็นหลุมเป็นบ่อ เป็นระยะๆ ก็บิดสุดคันเร่ง ควา่มเร็วพอใช้ได้แต่พอลงหลุมนี่สิต้องค่อยๆ ลง ขนาดค่อยๆ ยังกระเด่งน่าดูเลย เครื่องก็สั่้ืนไปตลอดทาง

​

กลับถึงบ้าน ปวดแขน ปวดไหล่ ปวดขาไปหมดเลย...........

 

วันที่ ๑๕ เมษายน ตื่่นเช้่า ทำบุญที่วัด แล้วก็รีบกลับบ้านกลัวโดนสาดน้ำ


วันนี้ขับรถกระบะไปนา ไปถ่ายรูปแล้วก็ไปรับหลานมาที่บ้าน ที่บ้านเลี้ยงแมวไว้ ๑๑ ตัว สุนัข ๓ ตัว วันๆ สร้อยฟ้าฯ วิ่งเล่นแมว กำลังน่ารัก ซนๆ ทั้งนั้นเลย

๓ ตัว จาก ๑๑ ตัว น่ารักไหม....

​

แมวชอบนอนกลางวัน ก็ไปลากออกมาเล่น จนมันหนีกันหมด หนีก็ไม่รอด ไล่จับมาเล่นใหม่ อิ อิ

​

พอตอนบ่ายจัดๆ ที่วัดหนองกรด ใกล้ๆ บ้านมีพิธีสรงน้ำพระ เลยพากันถือกระบอกน้ำไปสรงน้ำพระ คนเยอะมาก มีดนตรีด้วย วันนี้เป็นวันที่ร้อนจัดอีกวันหนึ่ง




ตอนเย็นๆ ไม่รู้จะทำอะไร เลยเดินเล่นเข้าไปในสวนข้างบ้าน ไปสอยมะม่วงมาได้เข่งใหญ่ๆ หันไปหันมาเลยถ่ายรูปดอกไม้ใบหญ้าเล็กๆ เป็นการถ่ายรูปแบบmarco

​

พลบค่ำ ฝนตกอากาศเย็นดี น่าจะนอนสบาย สร้อยฟ้าฯ นอนในห้องชั้นบนของบ้าน เปิดหน้าต่างเปิดประตูรับลม แต่คืนนี้เกือบตีหนึ่งแทบไม่ได้นอน อากาศเย็น แมวเลยคึกวิ่งเล่นกันเข้ามาในห้อง ไล่ๆ ก็ไป แป๊ปเดียวมาใหม่ วิ่งกันให้โครมครามไปหมด นอนไม่ได้ เขาเรียกว่า เวรกรรมทันตา ไปแกล้่งแมวเมื่อตอนกลา่งวัน มาตอนนี้โดนเอาคืน........

 

วันที่ ๑๖ เมษายน วันนี้ตอนเช้าก็ไปทำบุญที่วัดเช่นเคย ช่วงเกือบเที่ยงก็ไปที่วัดวังกระสูบ จังหวัดพิจิตร ไปถวายผ้าสไบห่มพระ ซึ่งคุณเจง ศยามล ส่งพัสดุมาให้สร้อยฟ้าฯ ช่วยถวายพระให้ ซึ่งวัดนี้ประวัติความเป็นรู้แต่ว่าถูกสร้างขึ้นด้วยความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้าน แต่ผู้ที่เป็นกำลังสำคัญหนึ่งในนั้นก็เป็นญาติกันอีกนั่นแหล่ะ และเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดแห่งนี้ด้วย ในชั้นของปู่ของพ่อได้มาหักล้างถางพง เอารถไถมาปรับพื้นที่สร้างกุฏิกัน ไม่เห็นมีใครเคยบอกเพิ่งรู้ว่าเป็นของญาติๆ ที่ช่วยกันสร้าง...

​

พอไปถึงวัดพระสงฆ์กำลังฉันภัตตาหารเพลอยู่ก็เลยต้องคอย พอดีมีหลวงพ่อรูปหนึ่งหันมาถามว่ามาทำอะไร ก็เลยบอกไปว่าจะมาถวายผ้าห่มสไบ ท่านก็เลยบอกว่าคอยก่อนนะฉันเพลก่อน เดี๋ยวไปเปิดโบสถ์ให้ ก็เลยพากันไปคอยที่โบสถ์ ผ่านไปสักครู่ใหญ่ หลวงพ่อก็เดินมาหาแล้วก็เปิดโบสถ์ให้ เปิดไฟ เปิดพัดลมให้ เป็นพระอุโบสถหลังใหญ่ สวยมาก ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธประวัติ พระประธานเป็นหลวงพ่อเพชรจำลองเท่าองค์จริงของหลวงพ่อเพชรวัดท่าหลวง จังหวัดพิจิตร

​

งานนี้ต้องเดือนร้อนหลวงพ่อช่วยปีนห่มผ้าสไบพระให้ด้วย ฐานชุกชีสูงมาก ปีนยาก แต่ในพระอุโบสถมีบันไดสแตนเลสอยู่อันหนึ่ง หลวงพ่อเลยกรุณาช่วยสงเคราะห์ให้ ก่อนถวายก็ตั้งจิตอธิษฐานว่าขอข้าพเจ้าและครอบครัวขอเป็นตัวแทนของคุณศยามล....และครอบครัวถวายผ้าห่มสไบแก่หลวงพ่อเพชรเพื่อเป็นพุทธบูชาขอให้กุศลนี้จงสำเร็จจนถึงพระนิพพานเทอญ...

​

หลวงพ่อท่านบอกว่ามองดูไม่เท่าไหร่ แต่ปีนจริงๆ เสียวเหมือนกัน ตกมาไม่ตายหรอกแต่เจ็บ ระหว่างที่กำลังห่มผ้าอยู่ หลวงพ่อก็พูดกับองค์พระประธานว่า หลวงพ่อเขามาถวายผ่าห่มให้หลวงพ่อ ให้เขาร่ำรวยนะแล้วอะไรอีกก็ไม่รู้จำไม่ได้ เพราะกำลังคอยช่วยลุ้นอยู่กลัวหลวงพ่อเหยียบพลาด.....

ผ้าห่มสไบที่คุณเจง ศยามลให้สร้อยฟ้าฯ เป็นตัวแทนถวาย








​

พอถวายห่มผ้าสไบพระประธานหลวงพ่อเพชรจำลองเสร็จแล้ว หลวงพ่อยังอุตส่าห์หาขวดพลาสติกกรอกน้ำพระพุทธมนต์ในพระอุโบสถให้อีก ท่านบอกว่าเอาไปเถอะของดีแล้วยังบอกว่าให้ถ่ายรูปภาพจิตรกรรมฝาผนังไปด้วย เป็นภาพมงคลทั้งนั้น ก็ได้กราบขอพระคุณหลวงพ่ออย่างสูงที่ช่วยอนุเคราะห์ให้ในครั้งนี้

​

ก่อนกลับสร้อยฟ้าฯ ได้จองผ้าป่าไว้ ๓ กองด้วยหล่ะ จุดประสงค์ของผ้าป่าเพื่อสร้างศาลาการเปรียญซึ่งขณะนี้ได้ลงเสาเข็มไว้แล้ว...

เสาเข็มศาลาการเปรียญที่กำลังจะสร้าง​

 

ตกบ่ายคล้อยก็ได้พาน้องๆ ร่วมคณะไปสรงน้ำพระที่วัดท่ามะไฟ จังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นวัดที่คุณเจง ศยามลเคยส่งผ้าห่มสไบพระมาให้สร้อยฟ้าฯ ถวายผ้าห่มสไปพระประธานมาแล้วเช่นกัน

หลวงพ่อเดชา​

​

ขากลับแวะนาอีก ไปถ่ายรูปรังนกกระจาบ.....

​

ตอนเย็นนำกระดูกอัฐิไปที่วัดหนองกรด เย็นนี้ที่วัดมีการสวดแจง วันนี้นอน ๔ ทุ่มกว่า แมวไม่กวน เพราะปิดประตูหน้าต่างหมดเลย....

 

วันที่ ๑๗ เมษายน ตื่นเช้า ไปทำบุญที่วัดหนองกรด

หลวงพ่อเจ้าอาวาสได้วานให้ช่วยถ่ายรูปให้หน่อยเพราะจะส่งรูปไปให้กรมการศาสนา กล้องของหลวงพ่อเมมโมรี่เต็ม ก็เลยต้องเป็นช่างภาพวิ่งถ่ายรูป

​

บังสุกุลกระดูกเสร็จ ๙ โมงกว่า กลับบ้านไปสอยมะม่วงต่อ ได้มาหนึ่งกระสอบใหญ่ มดแดงแขวนพวงมะม่วงพรึบเลย


วันนี้กว่าจะเดินทางออกจากนครสวรรค์กลับมาบ้านที่นนทบุรีก็ ๔ โมงเย็นว่า ไม่กล้ากลับทางถนนสายเอเชียกลัวรถติด เลยวิ่งเส้นชัยนาท - สุพรรณบุรี รถไม่เยอะวิ่งสบายถึงบ้่านสามทุ่มกว่า แต่กว่าจะนอนก็เที่ยงคืน เพราะว่าต้องแวะเข้าพลังจิตมาอ่านข้อความหน้าบ้านก่อน เดี๋ยวนอนไม่หลับ........




หกโมงเช้า ตื่นทำงานอีกแล้ว...... ยังไม่หายง่วงเลย.........

..............................................................................

สุดท้ายนี้ เพื่อนๆ ท่านใดมีจิตศรัทธาร่วมกันบริจาคทรัพย์เพื่อร่วมสร้างพระอุโบสถ วัดห้วยรั้ว ตำบลหนองเต่า อำเภอเก้าเลี้ยว จังหวัดนครสวรรค์ ที่สร้างค้างมาแล้วเป็นเวลากว่า ๒๐ ปี ซึ่งปัจจุบันยังไม่แล้วเสร็จสามารถติดต่อได้ที่ หลวงพ่อวิปัสสนา จรณสัมปันโน เจ้าอาวาสวัดห้วยรั้ว หมายเลขโทรศัพท์ ๐๘๐ ๐๘๖ ๓๘๘๐

(ตอนนี้สร้างพระอุโบสถเสร็จแล้วหล่ะ ๙ มี.ค.๕๕)
..................................................................................

กุศลที่ข้าพเจ้าได้เป็นตัวแทนถวายผ้าห่มสไบพระพุทธรูปแทนคุณเจง ศยามล

กุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำในตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้ขออุทิศถวายแด่ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดาคุณมารดา วงศาคณาญาติทั้งหลาย คุณครูบาอาจารย์ เจ้าฟ้า พระมหากษัตริย์เจ้านายทุกพระองค์ เทพยดาทั้งหลาย พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ท่านท้าวเวสสุวรรณ เจ้ากรุงพาลี ภูมิเจ้าที่ทั้งหลาย คุณแม่พระธรณี พระคงคา พระพาย พระเพลิง พระโพสพ พระยายมราช เจ้ากรรมนายเวร และขอให้ผลบุญจงได้สำเร็จผลแด่เพื่อนๆ สมาชิกในเว็ปพลังจิต ทุกท่าน ด้วยกุศลนี้จงเป็นเหตุปัจจัยให้ข้าพเจ้าได้พบพระพุทธเจ้าและศาสนาของพระองค์ในทุกๆ ชาติ จนถึงพระนิพพานเป็นที่สุด และผลแห่งกุศลทั้งมวลนี้จงบังเกิดแก่คุณเจง ศยามลและครอบครัว ประดุจเดียวกับได้สร้างด้วยตนเองด้วยเทอญ....


บรรยายโดย : สร้อยฟ้ามาลา
ภาพโดย : สร้อยฟ้ามาลา​

​

​

.......................










.............​

 

​