.oO เรื่องสั้น ปั้นแต่ง Oo.

​

เสด็จประทับ ณ วัดไก้เตี้ย
ขบวนเรือแห่ออกจากคลองชักพระ เลี้ยวซ้ายออกสู่คลองบางกอกน้อย มองเห็นวัดไก่เตี้ยแต่ไกล ขบวนเรือยิ่งใกล้ก็ยิ่งสังเกตเห็นประชาชนที่มารอรับเสด็จอย่างเนืองแน่น ในขณะที่พระบรมสารีริกธาตุเสด็จถึงท่าน้ำวัดไก่เตี้ย เจ้าอาวาสวัดนางชี ก็จะอัญเชิญเสด็จพระบรมสารีริกธาตุจากเรือองค์พระส่งมอบให้เจ้าอาวาสวัดไก่เตี้ย เพื่ออัญเชิญขึ้นประดิษฐานที่ศาลารับเสด็จพระธาตุ ปัจจุบันได้อัญเชิญเสด็จขึ้นมาประดิษฐานที่พระอุโบสถ พระบรมสารีริกธาตุจะเสด็จประทับอยู่ที่วัดไก่เตี้ยประมาณ ๒ ชั่วโมง คือตั้งแต่เวลาประมาณ ๑๑.๐๐ น. ถึง เวลา ๑๓.๐๐ น. ในระหว่างนี้ ประชาชนก็จะเข้ากราบนมัสการถวายสักการบูชาพระบรมสารีริกธาตุกันอย่างเนืองแน่น

​

ทายกทายิกาของวัดไก่เตี้ย ได้จัดภัตตาหารเพลถวายแด่พระภิกษุสามเณร และได้จัดตั้งโรงทานเลี้ยงประชาชนเป็นจำนวนมาก ตลอดจรถึงมีการละเล่นกระตั๊วะ สิงโต การละเล่นแบบไทยๆ ที่นำไปจากวัดนางชีขึ้นแสดงบนเวที ลานหน้าวัด และจากการแสดงที่ทางวัดไก่เตี้ยได้เตรียมไว้ด้วย นับว่าเป็นงานกุศลที่สนุกสนานครึกครื้น ประชาชนยิ้มแย้มแจ่มใส เป็นการต้อนรับที่เปี่ยมไปด้วยไมตรีจิต

จากวัดไก่เตี้ยสู่วัดนางชี
พระบรมสารีริกธาตุจะเสด็จประทับอยู่ที่วัดไก่เตี้ย ถึงเวลา ๑๓.๐๐ น. ก็จะอัญเชิญเสด็จทางเรือไปตามคลองบางกอกน้อยออกแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านวัดอรุณราชวราราม เลี้ยวขวาเข้าคลองบางหลวง เลี้ยงซ้ายเข้าคลองด่าน ถึงวัดนางชีประมาณเวลา ๑๕.๐๐ น.

​

การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุเสด็จข้ามสะพาน เป็นภาพที่เสด็จลงจากสะพานแล้วเชิญลงเรือ ซึ่งทุลักทุเลเหมือนกัน บางครั้งมีเรือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติแล่นผ่านมาเร็ว เกิดคลื่นโคลงเคลง นายท้ายเรืออัญเชิญเสด็จ ก็ตะโกน......(เซ็นเซอร์) ห้ามออกอากาศ....... ​

ระหว่างเส้นทางการอัญเชิญเสด็จ
การอัญเชิญเสด็จพระบรมสารีริกธาตุไปตามลำคลองที่ขบวนแห่ผ่าน มีธรรมเนียมปฏิบัติที่สำคัญยิ่งคือ การอัญเชิญเสด็จข้ามสะพาน จะไม่อัญเชิญเสด็จลอดใต้สะพานหรือทางเดินเป็นอันขาด ซึ่งในสมัยเมื่อหลายสิบปี่ก่อนจะมีสะพานเพียงไม่กี่จุด แต่ปัจจุบันมีถนนและสะพานเกิดขึ้นใหม่มาก ทำให้ต้องอัญเชิญเสด็จข้ามสะพานถึง ๑๕ จุดด้วยกัน

​

อันเนื่องมาจากงานประเพณีชักพระ
การแห่พระบรมสารีริกธาตุทางเรือ มีมานานถึงกับว่าทางราชการนำมาตั้งชื่อเป็นชื่อคลองที่ขบวนเรือแห่ผ่าน เรียกว่า “คลองชักพระ” ตั้งชื่อสะพานว่า “สะพานชักพระ” ตั้งชื้อแยกว่า “แยกชักพระ” หรือร้านค้าก็เอาไปตั้งเป็นชื่อว่า “ชักพระค้าไม้” อันเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเก่าแก่ของประเพณีชักพระนี้เป็นอย่างดี


ก็สิ้นสุดชบวนเรือการแห่พระบรมสารีริกธาตุวัดนางชี เพียงแค่นี้ ขึ้นจากเรือได้ก็สะบักสะบอมพอสมควร อาการจะไม่สบายเริ่มอีกแล้ว ปวดศีรษะ แต่พอกลับถึงบ้าน ได้พักผ่อนนอนหลับตื่นเช้าขึ้นมาหายเป็นปลิดทิ้ง แข็งขาก็ไม่ปวด

สุดท้ายนี้อันกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำในครั้งนี้ขออุทิศถวายแด่ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดาคุณมารดา วงศาคณาญาติทั้งหลาย คุณครูบาอาจารย์ เจ้าฟ้า พระมหากษัตริย์เจ้านายทุกพระองค์ เทพยดาทั้งหลาย พระอินทร์ พระพรหม พระยม พระกาฬ ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ ท่านท้าวเวสสุวรรณ เจ้ากรุงพาลี ภูมิเจ้าที่ทั้งหลาย คุณแม่พระธรณี พระคงคา พระพาย พระเพลิง พระโพสพ พระยายมราช เจ้ากรรมนายเวร และขอให้ผลบุญจงได้สำเร็จผลแด่เพื่อนๆ สมาชิกในเว็ปพลังจิต ทุกท่าน​

<EMBED height=80 type=application/x-shockwave-flash width=315 src=http://www.ijigg.com/jiggPlayer.swf?Autoplay=1&songID=V24EEF74PA0 wmode="transparent" scale="noscale">​

อ้างอิง :
ข้อมูลจาก​

หนังสือ พระบรมสารีริกธาติวัดนางชี
โดย พระราชปัญญาภรณ์ เจ้าอาวาสวัดนางชี



ภาพโดย สร้อยฟ้ามาลา


เดี๋ยวจะมีเรื่องมาลงให้อ่านอีก ยังไม่จบเสียทีเดียว นะจ๊ะ....



........................







......................​

 

กำหนดการของงานประเพณีชักพระ​

ในวันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ ของทุกปี ทางวัดได้จัดให้มีงานแห่และสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ เพียงปีละครั้งเท่านั้น เคยถามผู้เฒ่าผู้แก่ว่าทำไมต้องเป็นแรม ๒ ค่ำ ได้รับคำตอบว่า
๑. ในช่วงเวลานี้น้ำเต็มตลิ่ง การเดินทางสะดวกไม่ติดขัด
๒. ในช่วงก่อนวันแรม ๒ ค่ำ ๒ วัน ทางวัดจะมีการเทศน์มหาชาติ ๑๓ กัณฑ์ ได้มีญาติโยมนำผักผลไม้มาถวายเป็นกัณฑ์เทศน์มากมาย ได้นำมาใช้ในงานชักพระประจำปี ซึ่งเป็นประเพณีนิยมที่ได้ปฏิบัติกันมามากว่า ๒๐๐ ปีแล้ว
ปัจจุบัน การจัดงานได้กำหนดจัดเป็นเวลา ๓ วัน ดังนี้

แรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๒ เป็นวันเปิดงาน

เวลา ๐๙.๐๐ น. ทำพิธีบวงสรวงบูชาเทพ
เวลา ๑๓.๐๐ น. อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุสู่มณฑลพิธี คณะกรรมการจะทำการเปิดนับพระบรมสารีริกธาตุเพื่อให้ทราบจำนวนว่าปีนี้ก่อนสรงน้ำมีจำนวนเท่าใด
เวลา ๑๕.๐๐น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์เจริญพระพุทธมนต์เปิดงาน
เวลา ๑๖.๐๐ น. ประธานในพิธีสรงน้ำพระบรมสารีริกธาตุ เปิดโอกาสให้ประชาชนได้สรงน้ำจนถึงเวลา ๒๒.๐๐ น.

วันแรม ๒ ค่ำ เดือน ๑๒ เป็นวันอัญเชิญเสด็จแห่ทางเรือ
เวลา ๐๖.๐๐ น. เปิดให้ประชาชนได้สรงน้ำ
เวลา ๐๘.๐๐ น. คณะกรรมการจะทำการตรวจนับพระบรมสารีริกธาตุเพื่ออัญเชิญเสด็จแห่ทางเรือ จะว่าเป็นปาฏิหาริย์หรือพุทธานุภาพก็ว่าได้ ปรากฏว่าพระบรมสารีริกธาตุจะเสด็จมาเพิ่มทุกปี เพื่อให้ประชาชนได้สรงน้ำเป็นสิ่งน่ามหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง
เวลา ๐๘.๓๐ น. ได้อัญเชิญเสด็จแห่ทางเรือ ปัจจุบันใช้เรือระราชพิธีเป็นเรือองค์พระแห่ไปตามคลองต่างๆ
เวลา ๑๐.๓๐ น. โดยประมาณ ขบวนแห่ถึงวัดไก่เตี้ย เจ้าอาวาสวัดนางชี ได้อัญเชิญเสด็จขึ้นสู่วัดไก่เตี้ย และได้มอบให้เจ้าอาวาสวัดไก่เตี้ยอัญเชิญเสด็จไปยังที่ประดิษฐานภายในพระอุโบสถ ในช่วงเวลานี้ พระภิกษุสามเณรฉันภัตตาหารเพล ผู้มาร่วมงานได้รับประทานอาหารที่วัดไก่เตี้ยจัดตั้งไว้เป็นโรงทาน ในระยะเวลาที่พระบรมสารีริกธาตุวัดนางชีได้ประดิษฐานที่พระอุโบสถนี้ ได้มีญาติโยมสาธุชนได้เข้ากราบนมัสการ พระบรมสารีริกธาตุวัดนางชี
เวลา ๑๓.๐๐ น. ได้อัญเชิญเสด็จจากวัดไก่เตี้ย ไปตามคลองบางกอกน้อย ออกแม่น้ำเจ้าพระยา ผ่านวัดอรุณาราชวราราม เลี้ยวขวาเข้าคลองบางหลวง เลี้ยวซ้ายเข้าคลองด่าน ถึงวัดนางชี ประมาณ ๑๕.๐๐ น.
ในวันแรม ๒ ค่ำ ขณะที่อัญเชิญเสด็จพระบรมสารีริกธาตุไปตามคลองต่างๆ นั้น ในส่วนของทางวัดนางชี ก็ได้จัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา คือ การแข่งขันการสวดมนต์หมู่สรรเสริญพระรัตนตนัยทำนองสรภัญญะ การปาฐกถา และการกล่าวคำอาราธนาในศาสนพิธี ชิงโล่พระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี โดยมีนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆ ทั้งในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัดเข้าร่วมการแข่งขัน ประมาณ ๘๐๐ คน
เมื่อเรือองค์พระเทียบท่าน้ำวัดนางชี ก็ได้อัญเชิญเสด็จพระบรมสารีริกธาตุขึ้นประดิษฐานภายในพระมณฑป ประชาชนที่เข้าร่วมขบวนแห่ได้รับประทานอาหารที่วัดจัดเตรียมไว้ให้ หลังจากทำการแห่มาแล้ว ทางวัดจะเปิดให้ประชาชนได้เข้ากราบนมัสการอย่างเดียวถึงเวลา ๒๒.๐๐ น.

วัน แรม ๓ ค่ำ เดือน ๑๒ เป็นวันสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ
เวลา ๐๖.๐๐ น. ญาติโยมเข้านมัสการพระบรมสารีริกธาตุ
เวลา ๐๘.๐๐ น. นักเรียนที่เข้ารอบการแข่ง เริ่มลงทะเบียน และทำการแข่งขัน
เวลา ๑๐.๓๐ น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๙ รูป เจริญพระพุทธมนต์ เสร็จแล้วฉันภัตตาหารเพล ได้กราบอาราธนาพระสงฆ์วัดต่างๆ และพระอาจารย์ที่นำนักเรียนเข้าแข่งขันฉันภัตตาหารเพล เป็นการฉลองสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ เป็นวันสุดท้าย
เวลา ๑๕.๐๐ น. มอบโล่พระราชทานและทุนการศึกษาแก่ผู้ชนะการแข่งขัน
เวลา ๑๘.๐๐ น. พระสงฆ์ที่นิมนต์มาจากอารามต่างๆ และที่อยู่ประจำที่วัดนางชี จำนวน ๑๐๘ รูปได้พร้อมใจกันทำวัตรสวดมนต์เย็น เจริญพระพุทธมนต์ “ธรรมจักรกัปปวัตตนสูตร” และนั่งสมาธิภาวนาเป็นพุทธบูชา ซึ่งได้มีญาติโยมมาร่วมพิธีนี้เป็นจำนวนมาก เสร็จแล้วอัญเชิญเสด็จพระบรมสารีริกธาตุสู่ที่ประดิษฐานเดิม พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถาเป็นเสร็จพีธีงานแห่สมโภชพระบรมสารีริกธาตุประจำปี

..............................​

 

ช่วง.....เก็บภาพมาฝาก







ภาพเด็กๆ แต่งชุดไทย เตรียมรับเสด็จพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่ง ๒ ภาพนี้ ถ่ายรูปไว้เมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ได้เขียนกระทู้ เพราะไม่สบายเสียก่อน เลยนำมาลงในปีนี้แทน




ระหว่างทางเดินที่พระบรมสารีริกธาตุเสด็จผ่านไปยังเรือองค์พระ จะมีเด็กๆ และประชาชนเข้าแถวสองข้างทางพร้อมกับถือกลีบดอกดาวเรืองและดอกไม้ เพื่อโปรย เป็นการสักการะ



................................​

 

​

 

​

 

​

 

คุณยาย รอรับเสด็จพระบรมสารีริกธาตุ โบกมือให้ขบวนเรือที่แล่นผ่าน​

 

ประตูน้ำที่เรือทุกลำต้องมาติดแง๊ก ใครใครก็บอกว่าเคยเห็นแต่รถติด จะเห็นเรือติดก็คราวนี้....​

 

กับข้าว กับปลา ที่ทางโรงเรียนวัดไก่เตี้ยจัดเลี้ยง....​

 

​

 

​

 

ขบวนเรืออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุกลับวัดนางชี...
​

 

เมื่อปีก่อนๆ จะมีการแสดงหัวล้านชนกัน แต่มาปีนี้เหลืออยู่คนเดียวเพราะอีกคนเพิ่มถึงแก่กรรมไป....




เป็นเรือแสดงการละเล่น ในเรือมีการแสดงรำกลองยาว....


​

 

การประดับประดาบุปผาชาติของเรือลำที่นั่งมา...​

 

ที่ไหน พอจะมีใครรู้บ้าง.....​

 

ครั้นลอยเรือแลเห็นยอดปราสาท
เหมือนดั่งเห็นภาพวาดแต่ครั้งก่อน
ระลอกคลื่นแหล่งน้ำแห่งสาคร
ให้นึกย้อนกลับครั้งเมื่อยังเยาว์

ช่างสุขเหลือสุขจริงจินตภาพ
เสียงเห่กาพย์กล่อมขวัญในวันเก่า
เคยอบอุ่นอิงแอบแนบชิดเนาว์
เหลือแค่เค้าเลือนลางจางจากตา....​

 

ปราทสาทปรางค์ตระหง่าน
สูงปานพระสุเมรุสิงขร
งามคู่เมืองฟ้าอมร
รัตนนครพารา
.............​

 

พระเกียรติพระเกริกหล้า กำจาย ขจร
พระผ่านพิภพบวร ปกหล้า
ชำนิณรงค์รอน เข้าพุ่ง รบเฮย
กอบกู้เอกราชพ้น เงื้อมราช ศัตรู


.................​

 

​

 

​