แนวทางปฏิบัติธรรมของ หลวงปู่ต่างๆ

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย aprin, 20 เมษายน 2008.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่สาย เขมธัมโม
    วัดป่าพรหมวิหาร อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู

    ?temp_hash=bb8af7ca166993c963fda4909ecf52a8.jpg
    "เป็นเณรให้ละ เป็นพระให้วาง
    อย่าหลงทางพระพุทธองค์ อย่าหลงสมมุติ
    ละให้สุด สมมุติอย่าเอาไว้
    ถ้าอยากได้ของจริง ให้ทิ้งของปลอม
    อย่ายอมแพ้ แก้ให้จบ จะพบของจริง
    สิ่งที่ต้องการ พระนิพพานอยู่ที่นั่น
    ขอท่านจงเข้าใจ..."

    หลวงปู่สาย เขมธัมโม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ
    วัดป่าศิลาพร อ.เมือง จ.ยโสธร

    ?temp_hash=bb8af7ca166993c963fda4909ecf52a8.jpg
    " ที่จริง ศีล สมาธิ ปัญญา ก็ใจอันเดียวกัน
    ศีล คือ เรื่องตัดโทษ
    สมาธิ คือ เรื่องทำใจให้มั่นคง
    ปัญญา คือ ความรู้ตามสภาพความเป็นจริง"

    หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Por_bunmee.jpg
      Por_bunmee.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18.3 KB
      เปิดดู:
      310
  3. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    พระคติธรรมสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
    ?temp_hash=6fcac00d65b32841b71cc0375c1d159e.jpg
    "ปัญญาเป็นหัวหน้า"

    มรรคมีองค์ ๘ นี้ ก็เท่ากับ ปัญญา ศีล สมาธิ นั่นเอง อันแสดงว่า "ปัญญา" เป็นหัวหน้า แต่ที่แสดงไว้เป็นข้อปฏิบัติโดยลำดับทั่วไปว่า ศีล สมาธิ ปัญญา พระพุทธเจ้าได้ตรัสรับรองไว้ด้วยว่า สัมมาทิฏฐิเป็นหัวหน้า

    เพราะเมื่อมีสัมมาทิฏฐิก็ย่อมรู้เห็นทุก ๆ อย่างว่าผิดหรือถูกอย่างไร และเมื่อมีความเพียรชอบ ความระลึกชอบเข้าประกอบ ก็จะทำให้มีความเพียร มีสติละทุกสิ่งที่ผิด ทำทุกสิ่งที่ถูกให้เกิดขึ้น จนถึงเป็นความถูกต้องสมบูรณ์

    แต่ทั้งนี้ก็ต้องอาศัย "สมาธิ" เป็นหลักเป็นที่ตั้งแห่งทุก ๆ ข้อ เพราะจิตที่ไม่มีสมาธิย่อมดิ้นรนกระสับกระส่าย ไม่อาจที่จะใช้ปัญญาอบรมปัญญาที่มีอยู่ให้เจริญขึ้นได้ เหมือนอย่างไฟฉายที่แกว่งไปแกว่งมา ไม่อาจจะส่องอะไรให้มองเห็นชัดเจนได้ จึงต้องทำจิตให้สงบด้วยสมาธิเป็นหลัก ก็จะปฏิบัติให้มรรคทุกข้อแวดล้อมเข้ามา

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,662
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    LpLee1.jpg
    “การตัดชาติภพ” คือ การรวมความรู้ให้สั้นเข้า ต้องยกสถานที่ตั้ง ของจิตให้ปักแน่นอยู่ภายในร่างกาย โดยไม่ยึดถืออาการกิริยาใดๆ ภายนอกเลย ปล่อยวางทุกสิ่ง ทุกอย่างที่เป็นไปโดยสภาพธรรม อันมีการเกิดดับและเสื่อมสลายไปตามธรรมดา

    กระทำดีก็ไม่ให้ จิตวิ่งแล่นออกไปสู่ความดี ต้องให้ผลของความดีแล่นเข้ามาอยู่ในจิต ดึงทุกสิ่งทุกอย่าง ให้มันหลบซ่อนเข้ามาอยู่ภายในดวงจิตของเรา ไม่ปล่อยให้จิตแผ่ซ่านออกไปยินดียิน ร้ายกับผลของการกระทำ และวัตถุภายนอก เหมือนกับผลมะตูมที่มันเก็บ ลำต้น กิ่งก้าน และดอกใบของมัน ไว้ให้รวมคุดอยู่ภายในผลแห่งเดียว

    เมื่อตัดเชื้อภายนอกที่จะประสานต่อเชื่อม กับเชื้อภายในของมันแล้ว มันก็จะไม่ขยายกิ่งก้านให้แตกออกเป็นผลมะตูมอีกต่อไป

    #ท่านพ่อลี ธัมธโร
     
  5. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,662
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    LpSilaSumungkalo.jpg
    "คนที่ยังนับถือเจ้าเข้าทรงต่างๆ นับถือฤาษี นับถือผี นับถือศาลนั่นศาลนี่ มีพิธีกรรมที่แปลกๆต่างๆนาๆ คนพวกนี้ยังไม่ถึงซึ่งพระรัตนตรัยหรอก เพียงแต่ปากบอกว่าพุทธังสรณังคัจฉามิ ธัมมังสรณังคัจฉามิ สังฆังสรณังคัจฉามิ เฉยๆแต่จิตใจยังไม่มีศรัทธาต่อพระรัตนตรัยเลยแม้แต่นิดเดียว ทำตามหมู่เพื่อนไปงั้นๆแหละพอให้เขาไม่ว่าเอาได้ คนพวกนี้มันชอบไปนับถือวิญญาณต่างๆให้มันมาเป็นเจ่าของชีวิตตัวเอง ให้มันมาสิงร่างตัวเองอาศัยกัดกินเนื้อหนังจนกระดูก เพราะคนพวกนี้ยอมเป็นทาสของพวกนี้ผีมันเลยมีที่อาศัยและควบคุมเราได้ ถ้าคนที่มีพระรัตนตรัยในใจ หมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิภาวนาอยู่บ่อยๆ ผีเหล่านี้มันไม่กล้าเข้าใกล้หรอกมันกลัวคนมีบุญกุศล อำนาจบุญกุศลนี้มหาศาลไปทั่วสามแดนโลกธาตุเลยน่ะ ฉะนั้นจึงอยากให้ทุกคนทำกาย วาจา ใจ ให้เข้าถึงซึ่งพระรัตนตรัยกำกับใจเราไว้ด้วยคุณงามความดี อย่าพากันไปนับถือสิ่งที่พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนไว้ ให้พากันปฏิบัติตามแนวทางที่พระพุทธเจ้าสอนไว้สิถึงจะไปสู้มรรคผลนิพพานได้อย่างแท้จริง"

    #หลวงปู่ศิลา สุมงฺคโล
    วัดป่าท่าสิมมา จ.อุดรธานี
     
  6. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ทองอินทร์ กตปุญฺโญ
    วัดประชาคมวนาราม (ป่ากุง) จ.ร้อยเอ็ด

    ?temp_hash=a42b3e877362c3124b09b50dff091ae5.jpg
    “แสงอาทิตย์เป็นร้อยเป็นพัน ก็ส่องไม่เห็นสวรรค์นิพพาน เท่าแสงปัญญาดวงเดียว”

    หลวงปู่ทองอินทร์ กตปุญฺโญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    พระคติธรรม สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
    upload_2020-6-10_3-55-17.jpeg
    " กระจกหน้าต่างประตูหรือกระจกเงา เป็นต้น ที่ใสสะอาดอยู่เดิม แต่ไม่ได้รับการเช็ดถูนานเข้า ฝุ่นละอองที่มีอยู่ทั่วไปแม้ไม่อาจเห็นได้ด้วยตาเปล่า จับมากขึ้นตามวันเวลาที่ล่วงไป ย่อมทำให้กระจกหน้าต่างประตูนั้นกระจกเงาเป็นต้นนั้น มีความสกปรกขุ่นมัวปกคลุมมากขึ้น จนปิดบังสภาพใสสะอาดเดิมได้ ฉันใด

    กิเลสที่มีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่งแม้ไม่อาจแลเห็นได้ด้วยตามเปล่า ก็จะปกคลุมจิตใจที่ไม่ได้รับการระวังรักษา ทำให้สภาพที่บริสุทธิ์ประภัสสรของจิตเดิมไม่อาจปรากฏได้ ฉันนั้น นึกภาพกระจกที่ฝุ่นจับหนา แล้วก็นึกถึงใจที่ไม่พยายามหนีให้ไกลกิเลส เป็นเช่นเดียวกัน "

    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่หลอด ปโมทิโต
    วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนา) จ.กรุงเทพมหานคร

    01C36B98-CD3A-47D3-A196-A0BE9AC4C87D.jpeg
    “คำว่าวิเวก หมายถึง ความสงัด (สงัดภายนอก สงัดภายใน) ผู้แสวงหาวิเวกภายในควรคำนึงถึงสถานที่ปฏิบัติธรรมที่วิเวกด้วย สถานที่ก็คือภายนอก หรือวิเวกภายนอก เพราะถ้าสถานที่วิเวกอำนวยให้การปฏิบัติ วิเวกภายในก็จะเกิดได้เร็วขึ้น ถึงอย่างไรก็ตามสถานที่อันสงบสงัดเยือกเย็นก็เป็นเพียงปัจจัยเกื้อหนุนเท่านั้น สำคัญอยู่ที่ตัวเองต้องคอยดูแลตนให้ดี ตามหลักการจึงจะพบวิเวกภายในได้ วิเวกหรือไม่วิเวกอยู่ที่ตัวเรานี้

    ธรรมะนี้มันอยู่ในกายเรานี้ อยู่ใต้คางเรานี้ อยู่ที่ลมหายเข้าออกนี้ศาสนาก็อยู่ตรงนี้ วิเวกก็อยู่ตรงนี้ กว้างศอก ยาววา หนาคืบ ไม่ได้อยู่อื่นไกลแล้วจะตัดกิเลสทำลายกิเลสก็ที่ใจ ใจคือปัจจัยภายในเรานี้ มันไม่ได้อยู่ที่ป่าไหนเขาไหน แต่ก่อนอาตมาเข้าใจว่าการเดินธุดงค์คือการเดินหาธรรมะ คือการเดินหาวิเวก แต่ตอนนั้นอาตมาไม่รู้ว่าธรรมะอยู่ตรงไหน พอปฏิบัติเข้าจริงๆ แหม! หลงไปเดินหาธรรมะหาวิเวกอยู่นาน พอวิเวกภายในมีธรรมะมันก็มี ที่ใจเรานี้ พญามารก็ที่ใจเรานี้ รัก โลภ โกรธ หลง ราคะ โทสะ โมหะ นี่แหละพญามาร มันได้อยู่ผาไหน ถ้ำไหน จะปราบพญามารก็อยู่ที่ใจ นิพพานก็ที่ใจ นิพพานมีอยู่ที่ใจ มิได้อยู่ที่ไหนเลย

    พอได้รู้ได้ปฏิบัติเข้าจริงๆ อาตมาก็คิดว่านะ เมื่อก่อนเราไปเดินหาธรรมะแถวอีสาน เหนือ กลาง ใต้ ขึ้นเขาบุกป่าเพื่อหาวิเวกอยู่ตั้งหลายปี จริงๆ ของจริงก็อยู่ใต้คางเรานี่เอง ฉะนั้น สถานที่ก็เป็นเพียงปัจจัยเท่านั้น

    ถึงแม้จะพบสถานที่ที่ดีเพียงใด ก็ตาม แต่ถ้าเราไม่ดีไม่รู้จักพิจารณา ไม่รู้จักฝึกใจ เราก็จะไม่พบความสงบสุขอยู่นั่นเอง ตนจึงสำคัญกว่าสิ่งอื่นๆ ทั้งหมด”

    หลวงปู่หลอด ปโมทิโต
     
  9. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมพระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร)
    วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) จ.ร้อยเอ็ด

    F13E7F71-E485-4197-B294-8A42B9DC3FAD.jpeg
    “ถ้าหากธรรมะเข้าถึงใจ มีคุณค่ามาก เอาธรรมะขั้นไหนก็ตาม ขั้นทานนี้ก็ให้มันถึงใจ ขั้นศีล ก็ให้ถึงใจ ขั้นสมาธิ ก็ให้ถึงใจ...”

    หลวงปู่ศรี มหาวีโร
     
  10. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
    วัดป่านาคำน้อย จ.อุดรธานี

    ECB7CE8F-0C09-42A0-825B-3D93DFBACADB.jpeg
    “ตอนเราฝึกหัดสมาธิ
    เราควรจะเอาสติดูใจของเรา กำหนดดูใจของเรา
    ส่วนอื่นทิ้งไว้ก่อน อย่านำมาคิด
    ที่ผ่านๆมาแล้วทิ้งไว้ก่อน
    ในขณะนี้ ตอนที่เรากำลังฝึกหัดอยู่ตอนนี้
    เราจะเอาสติให้อยู่กับตัวเองให้มากที่สุด
    นี่แหละคือความถูกต้องที่พ่อแม่ครูบาอาจารย์
    หลวงปู่หลวงตาท่านได้กฎได้เกณฑ์ ท่านก็ย้ำจุดนี้”

    หลวงพ่ออินทร์ถวาย สันตุสสโก
     
  11. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่อ่ำ ธัมมกาโม
    วัดสันติวรญาณ อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์

    2E397579-EB05-4428-A374-199B46D9B257.jpeg
    รู้ดี รู้ชั่ว คือ ตัวปัญญา
    รู้ยึด รู้ติด ผิดทางพ้นทุกข์
    รู้ละ รู้วาง ถูกทางปัญญา
    รู้ไม่ยึด ไม่ติด จิตหลุด คือ "พุทโธ”

    หลวงปู่อ่ำ ธัมมกาโม
     
  12. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่อสุชาติ อภิชาโต
    วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร จ.ชลบุรี

    055CF400-49C7-4DE1-B09F-1D2BA780C136.jpeg
    “การเจริญสติ”

    ถาม : การที่เรากำหนดรู้มีสติไม่ส่งจิตออกนอกกายทำถูกไหมคะ

    หลวงพ่อ : คือการมีสตินี้ ใจเราต้องมีอะไรผูกไว้สักอย่างหนึ่ง เช่นคำบริกรรมพุทโธๆ อันนี้เราก็แสดงว่าเรากำลังเจริญสติ คือการเจริญสตินี้ก็เพื่อไม่ให้ใจไปคิดเรื่องราวต่างๆ ทีนี้เราจะใช้พุทโธก็ได้ เราจะใช้การเฝ้าการเคลื่อไหวของร่างกายก็ได้ เช่นเรากำลังทำอะไรอยู่ เราก็จดจ่ออยู่กับการกระทำอย่างนั้น เพียงอย่างเดียว ไม่ปล่อยให้ใจไปคิดเรื่องอื่น อย่างนี้ก็เรียกว่าเป็นการสร้างสติ เจริญสติเหมือนกัน

    สนทนาธรรมบนเขา วันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๕๙
    หลวงพ่อสุชาติ อภิชาโต
     
  13. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    พระนิพนธ์สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
    D707DF1F-170B-48BA-A625-FDBA832EA2BC.jpeg

    " ความดีเป็นสิ่งไม่ตาย เป็นสิ่งทันสมัยอยู่เสมอ อยู่คู่สมัยทุกสมัย
    การคิดถึงความดีเป็นการบริหารจิตโดยตรงที่สุด
    เพราะจะทำให้จิตใจของผู้คิดใสสว่าง
    ว่างจากความรู้สึกนึกคิดในด้านรุนแรงขุ่นมัวเศร้าหมอง
    อย่างน้อยก็ในชั่วระยะเวลาที่กำลังคิดถึงความดีเช่นนั้น
    ใจที่ใสสว่างจากความรู้สึกมัวหมองดังกล่าวเป็นใจที่มีค่า
    ควรเป็นที่พึงปรารถนาอย่างยิ่ง การคิดถึงความดี
    หรือพระคุณของท่านผู้ทำพระคุณแล้วจึงเป็นสิ่งควรทำยิ่งนัก "

    พระนิพนธ์ "การบริหารทางจิต สำหรับผู้ใหญ่ "
    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     
  14. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย

    8C7293F0-5FBC-4899-860C-FE83570BF06F.jpeg
    คนที่จะมีสติกล้าหาญต่อสู้กับความตายน้อยนัก
    โดยมากมีแต่เสื่อมลงไป

    เวลาตายจริงๆจังๆ มันเป็นอย่างนั้น

    ใครมีความกล้าหาญ อาจหาญสักเท่าไหร่ก็เอาเถอะ
    มีวิชาความรู้สักเท่าไหร่ก็เอาเถอะ
    ในเมื่อจะตายนั้น มันเสื่อมสูญไปหมด
    มันจะเหลือแต่ความกระสับกระส่ายกระวนกระวาย
    ยังเหลือแต่กิเลสที่เราละที่เราถอนอยู่ทุกๆวันนั่นแหละ

    อันนั้นมันจะกลับฟื้นคืนมาเป็นผลให้เรายึดถือ

    ผู้มีสติมั่นคงดำรงไว้ซึ่งจิตของตนมั่นคงนั้น
    เป็นของน้อยหนักหนา

    หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
     
  15. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่หล้า เขมปัตโต
    วัดบรรพตศีรี (วัดภูจ้อก้อ) จ.มุกดาหาร

    97800296-75C0-44D5-BAB9-0ECCC3EFABD9.jpeg
    “ผู้ใด พิจารณาอนิจจังบ่อยๆ ทุกขังบ่อยๆ อนัตตาบ่อยๆ ก็คือผู้นั้น ต่อสู้กับอวิชชาบ่อยๆ นั่นเอง“

    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
     
  16. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงพ่อพุธ ฐานิโย
    วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา

    A250C718-5A80-4B53-91CB-2E1C388CED10.jpeg
    ในฐานะที่หลวงพ่อเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์เสาร์องค์สุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ในปัจจุบันนี้ ในสมัยที่เป็นสามเณร ไปปรนนิบัติท่าน อยู่ ๆ ท่านก็พูดขึ้นมาเปรย ๆ ว่า

    “เวลานี้จิตข้ามันไม่สงบ มันมีแต่ความคิด”

    เมื่อเรียนถามท่านว่า “จิตฟุ้งซ่านหรืออย่างไร ท่านอาจารย์” ท่านก็จะบอกว่า

    “ถ้ามันเอาแต่นิ่ง มันก็ไม่ก้าวหน้า จิตข้ามีแต่ความคิด มันไม่สงบ”

    พอถามว่า “ฟุ้งซ่านหรืออย่างไร” ท่านก็ตอบว่า

    “ถ้ามันเอาแต่นิ่งลูกเดียวมันก็ไม่ก้าวหน้า”

    อันนี้เป็นปัญหาที่ลูกศิษย์นักปฏิบัติจะต้องทำความเข้าใจ ที่ท่านอาจารย์ท่านว่าอย่างนั้น มันก็ไปได้ในหลักของสมาธิและฌาน

    ฌานมีอยู่ ๒ อย่าง อารัมมณูปนิชฌาน จิตสงบ นิ่ง รู้อยู่ในสิ่ง ๆ เดียว หรือรู้เฉพาะในจิตอย่างเดียว แล้วก็สงบนิ่งละเอียดไป จนกระทั่งถึงจุดร่างกายตัวตนหาย เหลือแต่จิตดวงเดียว นิ่ง สว่างไสวอยู่เท่านั้น อันนี้เป็นอารัมณูปนิชฌาน เป็นสมาธิในฌานสมาบัติ

    และอีกอันหนึ่ง ลักขณูปนิชฌาน พอจิตสงบนิ่งลงไปนิดหน่อย มันมีวิตก วิตกก็คือความคิด เมื่อความคิดเกิดขึ้น สติก็ทำหน้าที่ตามรู้ ไปทุกระยะ ถ้าหากสมาธิมีความเข้มข้น สติสัมปชัญญะเข้มแข็ง ความคิดมันก็เกิดเร็วขึ้น ๆ ๆ จนรั้งไม่อยู่ ในช่วงแรก ๆ ความคิดเกิดขึ้น ถ้าจิตไปยึดความคิดมันก็มีความยินดีมีความยินร้าย บางทีก็มีสุขมีทุกข์ บางทีก็หัวเราะไปร้องไห้ไปในจิตในใจ ผู้ปฏิบัติ ถ้าไม่เข้าใจผิด ปล่อยไปตามครรลองของมัน เราเอาสติตามรู้ไป พอไปถึงจุด ๆ หนึ่ง จิตมันจะหยุดนิ่งพั๊บลงไป สว่างไสว ร่างกายตัวตนหาย เหลือแต่จิตนิ่งสว่างไสวอยู่ดวงเดียวเท่านั้น สภาวะอันเป็นอารมณ์ และกิเลสทั้งหลาย มันจะมาวนเวียนรอบจิตอยู่ตลอดเวลา พอมาถึงความสว่างของจิต มันจะตกไปๆ เหมือนแมลงบินเข้ากองไฟ อันนี้ความหมายของโอวาทของหลวงปู่เสาร์เป็นอย่างนี้

    พระราชสังวรญาณ (หลวงพ่อพุธ ฐานิโย)
    แสดงพระธรรมเทศนา เนื่องในวันบูรพาจารย์
    ณ วัดป่าสาลวัน อ.เมือง จ.นครราชสีมา
    วันที่ ๒ ธันวาคม ๒๕๔๐ (ท่านมรณะภาพ ๒๕๔๒)
     
  17. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ
    วัดป่าศิลาพร ต.หนองหิน อ.เมือง จ. ยโสธร

    BD2BE264-43C9-4074-864A-6CDAA6A50FAE.jpeg
    " ที่จริง ศีล สมาธิ ปัญญา ก็ใจอันเดียวกัน
    ศีล คือ เรื่องตัดโทษ
    สมาธิ คือ เรื่องทำใจให้มั่นคง
    ปัญญา คือ ความรู้ตามสภาพความเป็นจริง"

    หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ
     
  18. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่ลี กุสลธโร
    วัดป่าเกสรศีลคุณธรรมเจดีย์ (ภูผาแดง) จ.อุดรธานี

    BE6B5593-F124-4724-B020-3A0A328E1FF0.jpeg
    “เรื่องภาวนา หากมันได้ล่ะ มันไม่ขี้เกียจหรอก นี่มัวแต่คิดเรื่องโลกเรื่องสงสาร โดยมากก็ไปตามกิเลส ของมันเคยติดมานาน มันก็มักจะดึงไปทางเดิม ไม่เห็นอะไรล่ะ มันปิดบังนะ อวิชชา...ปัญญาจักษุ มันตีไม่แตกนะ เชื่อมันมานานมาก หากไม่ฝืนเอา ไม่ได้นะ...

    เรื่องความเพียร ให้บริกรรมพุทโธ ให้มันอยู่กับพุทโธ ไม่ให้เผลอ มันต้องมีความรู้แปลกๆ ขึ้นมาล่ะ มันจะผุดขึ้นมาเองนะ ธรรมะของพระพุทธเจ้า นี่ทำอะไรก็กลัวแต่จะตาย เลยไม่ทำอะไร...นั่งภาวนาอยู่ก็กลัวตายซะอย่างนั้น มันก็เลยมีแต่กินกับนอนเท่านั้น โอ๊ย...ครูบาอาจารย์ท่านทำนี่ โถ ๆ...จนสลบไสลโน่น ทุกวันนี้มีแต่สอนกันเรื่องพิจารณาไปเลย หากเลยมันก็เลยทะเลล่ะ..."

    หลวงปู่ลี กุสลธโร
    อบรมพระปี พ.ศ. 2541
     
  19. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี

    B17346FA-224F-48FF-91E9-C59A5FCDCF16.jpeg
    ถาม : ทำบุญอย่างไรจึงจะได้บุญขอรับกระผม

    หลวงตาตอบ : ถ้าทำบุญอย่างเรา มีแต่เสื่อกับหมอนเป็นคู่แนบติดคออยู่นี้ ทำวันยังค่ำก็ไม่ได้บุญ ถ้าทำบุญได้บุญนั้นต้องมีความขยันหมั่นเพียร เช่น ไปไหนนึกพุทโธ การทำดีเป็นนิสัยติดใจของเรานี้เรียกว่าทำดีได้ดีแท้ จะทำในป่าในเขาที่แจ้งที่ลับไม่สำคัญ ไม่จำเป็นต้องเอาหมอนมัดติดคอ พวกนี้ได้ดีแท้

    ไอ้พวกเอาหมอนมัดติดคอไม่เป็นท่านะ นี่ส่วนมากพวกเรามันเอาดีด้วยเสื่อด้วยหมอน ไม่ได้เอาดีด้วยความพากความเพียร แล้วจะยังเอาเสื่อเอาหมอนมาอวดหลวงตามามัดหลวงตาอีก เดี๋ยวสลัดทีเดียวตกห้าทวีปโน่นประสาหมอน ตั้งแต่เกิดมาก็หนุนมันแล้วไม่เห็นเลิศเลออะไร ธรรมต่างหากเลิศเลอ นั่น เอาตรงนั้น เข้าใจไหม

    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
    จากหนังสือ "ถามมา ตอบไป"
     
  20. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    โอวาทธรรมหลวงปู่แผ่นทอง จาครโต
    วัดสะพานดำ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์

    A900E62E-914A-4203-A467-4A6BF170D6FF.jpeg
    ก่อนจะถึงพระธรรมแท้เนี้ย ต้องมีศีลบริสุทธิ์ อย่างโยมเนี้ยมีศีลครองแค่ ๕ข้อ ถ้าโยมถือปฏิบัติศีลได้แม้อยู่บ้านก็ได้บุญ ประตูสวรรค์เปิดรอแล้ว แต่พระเนี้ยมีศีลครองมากกว่าโยม เรากินข้าวปลาอาหารโยมต้องทำประโยชน์แก่ผู้ศรัทธาให้จริงจังเด็ดขาดให้เขาเอาข้าวมาแลกปัญญาจากการฝึกอบรมตนพระต้องเพียรพยายามให้มากขึ้นสำรวมระวังให้มากฝึก สติ แต่หลักโยมศีล เอาแค่ ศีล ๕ ให้บริสุทธิ์ ให้มารักษา กาย ๔ วาจา ๑ กายไม่ฆ่าสัตว์, ไม่ลักขโมย, ไม่ผิดผัวเมีย, ไม่ดื่มสุรายาเมา วาจาไม่โกหกใส่ร้าย, แค่นี้ก็ไปนิพพานได้ เมื่อรักษา กาย ๔ วาจา ๑ ใจมันจะมีหิริเองเเละเกิดปัญญา มีแค่นี้แหละหลักฐานของผู้จะถึงธรรม

    หลวงปู่แผ่นทอง จาครโต
    วันที่ ๘ มิ.ย. ๒๕๖๓ หลังทำวัตรเย็น
     

แชร์หน้านี้

Loading...