พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

รับทราบการจองครับ ขอบคุณมากครับ

 

633. พระดีแดนใต้ครับ หายาก ปิดตารุ่นแรกท้องอุ เนื้อผงว่านผสมน้ำนมควาย หลวงพ่อเขียว วัดหรงบล จ.นครศรีธรรมราช พ.ศ. 2510 (#2) ให้บูชา 3,000 บาท ปิดรายการครับ

​

พ่อท่านเขียว เกิดปี พ.ศ. 2424 อุปสมบทที่วัดคงคาวดีเมื่ออายุได้ 22 ปี ท่านศึกษาวิชากับสำนักพ่อท่านเอียด วัดหรงบน ซึ่งเชี่ยวชาญวิปัสสนา คาถาอาคม อักขระโบราณต่าง ๆ พ่อท่านเป็นพระคงแก่เรียน ปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด มีอาจารย์ดีหลายท่านถ่ายทอดวิชาอาคมให้ พ่อท่านเขียวออกธุดงค์ จาริกตามป่าเขาในเขตภาคใต้จนถึงปี 2459 ท่านกลับไปวัดหรงบนแต่อาจารย์เอียดมรณภาพไปแล้ว ชาวบ้านจึงอาราธนาท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดหรงบน ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ยุคเดียวกับอาจารย์นำ วัดดอนศาลาและพ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง ซึ่งทั้งสามท่านได้รับนิมนต์ร่วมในงานปลุกเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่เพิ่มที่ วัดกลางบางแก้วในปี 2513 เกียรติคุณของพ่อท่านเขียวยิ่งโด่งดังเมื่อท่านมรณภาพแล้ว (ปี 2519) ทางวัดทำพิธีฌาปนกิจท่านแต่ปรากฏว่าเผาแล้วร่างท่านไม่ไหม้ไฟ แม้กระทั่งจีวรเก็บไว้ก็ไม่เน่าเปื่อยกลายเป็นหินเป็นความมหัศจรรย์จากความ ศักดิ์สิทธิ์ของพ่อท่านเขียว

พ่อท่านเขียว วัดหรงบน สมัยท่านมีชีวิตอยู่คนไม่ค่อยจะรู้จัก เคยอ่านพบในหนังสือเล่มหนึ่งว่าตอนที่ท่านมาปลุกเสกพระกริ่งพุทธชัยศรีที่ วัดกลางบางแก้วช่วงที่นั่งพักผ่อน ญาติโยมที่ไปร่วมงานไม่มีใครสนใจท่านเพราะไม่เป็นที่รู้จัก แต่พระดังๆในสมัยนั้นคนรุมล้อมเพียบ

คนที่เขียนบทความนั้นก็ไม่รู้จักท่านแต่ได้เข้าไปถามท่านว่ามาจากไหน ท่านบอกว่ามาจากวัดหรงบน ท่านได้มอบรูปหล่อให้ด้วย ตอนท่านอยู่ชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักในวงแคบ วัตถุมงคลของท่านมีประสบการณ์มากมายในพื้นที่ แต่ไม่มีการประชาสัมพันธ์ จนหลังจากท่านมรณภาพไปแล้วก็ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก ท่านมาดังเอาจริง ๆจัง ๆก็ตอนงานฌาปนกิจศพของท่าน หลังจากท่านมรณภาพแล้วศพของท่านไม่เน่าเปื่อย กลับแข็งเป็นหิน พอถึงวันฌาปนกิจ ศพของท่านเผาไฟไม่ไหม้ แม้แต่จีวรห่อศพก็ไม่ไหม้ เป็นที่อัศจรรย์ ทางวัดจึงเก็บสรีระของท่านเอาไว้ให้คนไปกราบไหว้ นอกจากสังขารของท่านจะไม่เน่าเปื่อยแล้ว เล็บและผมของท่านงอกยาวออกมาเรื่อยๆ ต้องได้ปลงทุกปี

วัตถุมงคลอย่างหนึ่งที่ท่านได้สร้างเอาไว้ องค์นี้ก็คือ พระปิดตา ซึ่งสร้างเพื่อแจกแก่ผู้มาร่วมทำบุญในงานก่อเจดีย์ทรายของวัดหรงบนในปี 2510 พ่อท่านเขียวได้มอบผงวิเศษให้ลูกศิษย์นำไปผสมกับมวลสารอย่างอื่น เช่น ว่าน เกสรดอกไม้ ดินกรุ ชันโรง ชานหมาก เส้นเกศา ฯลฯ โดยนำมวลสารมาคลุกเคล้าให้เข้ากันโดยมี "น้ำนมควาย" เป็นตัวผสมช่วยในการประสานเนื้อพระ โดยในครั้งนั้นได้พระจำนวนมากพอสมควร จากนั้นท่านได้ปลุกเสกเดี่ยวตลอด 15 คืน แล้วนำออกแจกในงานก่อเจดีย์ทราย เมื่อปี 2510 พระปิดตารุ่นนี้ส่วนมากเนื้อหาจะแก่ว่านและผงมาก มีหลายโซนสีทั้งสีออกแดง ,เทา สีใบลานผิวไขหว่านขาว ๆ นอกจากนี้ในคราวเดียวกัน พ่อท่านเขียวก็ได้สร้างพระปิดตาด้วยเนื้อตะกั่วลงถม ขนาดเท่านิ้วก้อย อีกด้วยจำนวนการสร้างก็พอ ๆ กับเนื้อว่านผสมชานหมาก

ว่าไปแล้วชาวบ้านทางใต้ เขานิยมใช้พระปิดตาของท่าน มากกว่าเหรียญกับรูปเหมือนของท่านเสียอีกเพราะท่านพูดเสมอๆ ว่าเหรียญกับรูปเหมือนเป็นของที่คนอื่นทำมาให้ท่านปลุกเสก สู้ของที่ท่านทำเอง สร้างเองไม่ได้ ประสบการณ์ก็ดีครบทุกด้าน ตั้งแต่เมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุตม์

ท่านบอกวันมรณะภาพให้ศิษย์และพระในวัดรู้ แต่ก็ไม่มีใครสนใจกันนัก คงจะลืม แล้วท่านก็จากไปด้วยความสงบเมื่อเผาร่างของท่านเป็นชั่วโมง ๆ ไฟที่จุดนั้นไม่ลุกติดจีวรของท่านเลยแสดงถึงบุญอภินิหาร และท่านฉันว่านยาเป็นนิจ ทำให้ร่างกายของท่านเผาไม่ไหม้ไฟปัจจุบันร่างท่านแข็งเป็นหินไปแล้วพระสงฆ์ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ขนาดว่ามรณะภาพแล้วเผาไฟก็ไม่ไหม้ นานไปร่างก็แข็งเป็นหินอีก ในประเทศไทยมีกี่รูปกัน

 

634. สมเด็จพุทธคุณหนุนชีวิตหลังรูปถ่าย หลวงปู่ผาด วัดไร่ ให้บูชา 850 บาท

​

สมเด็จพุทธคุณหนุนดวง หลวงปู่ผาดปลุกเสกนาน 30 ปี ถือเป็นเพชรน้ำหนึ่ง ของวัตถุมงคลของหลวงปู่ เพราะจัดสร้างด้วยเนื้อผง พุทธคุณล้วน ๆ เป็นพระเครื่องที่พลังอำนาจ เกื้อหนุนชีวิต ให้เจริญ รุ่งเรือง ก้าวหน้า ทั้งเรื่องการเงิน การงาน เลื่อนยศตำแหน่ง เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม ทั้งแคล้วคลาดคงกะพัน อุดมด้วยโชคลาภ และโภคทรัพย์ น่าบูชามากครับ

 

635. หลวงปู่ทวดรุ่นแรก พิมพ์เตารีด 2536 วัดในหาน จ.ภูเก็ต พิมพ์เตารีด 4โค้ด (กรรมการ) และ พิมพ์รูปหล่อเบ้าทุบ ให้บูชาองค์ละ 999 บาท

​

​

จัดสร้างขึ้นมาในปี ๒๕๓๖ วัตถุประสงค์เพื่อหาเงินทุนจัดสร้างพระอุโบสถ บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะต่างๆ ภายในวัดในหานซึ่งขณะนั้นเป็นวัดที่ยากจนมาก
การจัดสร้างเหรียญหลวงปู่ทวด ครั้งนี้ คณะทำงานวัดในหานได้ประกอบพิธีบวงสรวงสักการะบูชาดวงวิญญาณหลวงปู่ทวด เพื่อขออนุญาตการจัดสร้าง
สำหรับชนวนมวลสารที่ใช้ สร้างจากก้านชนวนจากการสร้างพระหลวงปู่ทวดรุ่นเก่าๆหลายรุ่น โดยใช้ทรงพิมพ์หลวงปู่ทวดรูปหล่อลอยองค์ที่หล่อดินไทยที่กรุงเทพเป็นแบบ พระทำออกมาได้สวยงามมาก

สำหรับพระหลวงปู่ทวดที่วัดในหานขึ้นรุ่นแรก จัดสร้างมี 3 แบบดังนี้
1. รูปหล่อหลวงปู่ทวดเบ้าทุบ เนื้อนวโลหะ เนื้อทองผสมเปียกทอง เนื้อสตางค์แดง และเนื้อสตางค์แดงผิวไฟ
2. รูปหล่อหลวงปู่ทวดพิมพ์บัวรอบ เนื้อนวโลหะ เนื้อทองผสมเปียกทอง เนื้อสตางค์แดง และเนื้อสตางค์แดงผิวไฟ
3. เตารีดหลวงปู่ทวด เนื้อนวโลหะ เนื้อทองผสมเปียกทอง เนื้อสตางค์แดง และเนื้อสตางค์แดงผิวไฟ

เนื้อโลหะที่จัดสร้างแบ่งเป็น
1. เนื้อนวโลหะ พระทุกพิมพ์จะมีน้ำหนักมากกว่าเนื้อโลหะอื่นๆเพราะผสมทองคำไว้ด้วย
2. เนื้อทองผสมเปียกทอง โดยใช้เทคโนยีสมัยใหม่ เนื้อพระจะดูเงางามตลอดเวลา
3. เนื้อสตางค์แดง ใช้เทคโนโลยีเปียกทองเหมือนกัน แต่เนื้อนี้จะมีการนำเหรียญสตางค์แดงโบราณมานำผสมลงด้วย
4. เนื้อผิวไฟ เนื้อนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ถ้าได้เข้ากล้องส่องพระจะเห็นเนื้อโลหะต่างๆนำมาผสมอย่างชัดเจน เป็นพระเนื้อสัมฤทธิ์ที่เจตนาสร้างไม่ให้เนื้อโลหะหล่อละลายกลมกลืน วิธีแบบนี้จะพบเห็นได้บ่อยจากพระสัมฤทธิ์โบราณ

พระเกจิอาจารย์ 3 ท่านที่ปลุกเสกก็เป็นที่ยอมรับถือว่าเป็นสุดยอดซึ่งได้แก่
1. อาจารย์นอง วัดทรายขาว
2. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย และ
3. หลวงปู่สุภา วัดสีลสุภาราม พระเถระที่เป็นที่นับถือของจังหวัดภูเก็ตอายุท่านกว่า 112 ปีแล้ว

การตอกโค๊ตแยกเป็น
1.โค๊ตตัว “นะ”
2.โค๊ตชื่อวัด “ในหาน”
3.โค๊ต “ภูเก็ต” เฉพาะพิมพ์เบ้าทุบ
4.โค๊ต เลขหนึ่งไทย “๑” เฉพาะพิมพ์เบ้าทุบ

พระอาจารย์นองเป็นสหธรรมิกกับพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ เคยร่วมสร้างพระเครื่องหลวงพ่อทวดเนื้อว่านเมื่อปี 2497 จนโด่งดังทั่วสารทิศ และต่อมาพระอาจารย์นองได้สร้างเครื่องรางของขลังที่ดังไปทั่วเมืองไทย คือตะกรุดนารายณ์แปลงรูปและพระเครื่องหลวงพ่อทวดเนื้อว่านฝังตะกรุด นอกจากนั้นแล้วพระอาจารย์นองยังเป็นพระนักพัฒนารูปหนึ่งที่ได้รับการยกย่อง ชมเชยตลอดมา และเป็นพระอยู่ในนิกายมหานิกาย
ปัจจุบันท่านอาจารย์นอง ได้ถึงแก่มรณภาพแล้วครับเมื่อวันเสาร์ที่ 11 กันยายน 2542 ณ.โรงพยาบาลโคกโพธิ์ สิริอายุ 80 ปี 60 พรรษา ได้รับพระราชทานเพลิง ณ เมรุวัดทรายขาว เมื่อวันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม 2545 ซึ่งแม้สังขารของท่านจะสลายไป แต่ความดีของท่านที่มีอยู่มากมายส่งผลให้ท่านยังคงเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ยังอยู่ในความทรงจำของบรรดาลูกศิษย์ นอกจากนี้แล้วความเข้มแข็งในวิทยาคมยังส่งผลให้ท่านกลายเป็นตำนานบทหนึ่งคู่กับพระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ ใน "ฐานะพระผู้ก่อให้เกิดตำนานความศักดิ์สิทธิ์" ของพระเครื่องเมืองใต้ ที่แผ่บารมีความศักดิ์สิทธิ์ไปทั่วประเทศในนาม "หลวงปู่ทวด วัดช้างไห้"
ดังนั้นพระหลวงปู่ทวด วัดในหาน รุ่นแรก ปี 2536 จึงน่าบูชาเก็บไว้มาก เพราะมีพระเกจิดังถึง 3 องค์ร่วมปลุกเสก โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาจารย์นองท่านร่วมปลุกเสกด้วย และในขณะนี้ทั้งอาจารย์ทองและหลวงปู่สุภาท่านเป็นเกจิภาคใต้ที่ดังมาก

คาถาบูชา หลวงปู่ทวด "นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา"
การขอบารมีอันศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ทวด : ด้วยการจุดธูป 16 ดอก บูชาวัตถุมงคลของท่านรุ่นใดก็ได้ หรือ ระลึกถึงท่าน ตั้งจิตให้เป็นสมาธิแน่วแน่และศรัทธา ท่อง " นะโม โพธิสัตโต อาคันติมายะ อิติภะคะวา " 16 จบ เท่านี้ท่านก็รับรู้แล้ว

 

636.พระผงพิมพ์สามหอม เนื้อว่านผสมเกษร ครูบาไฝ วัดพันอ้น จ.เชียงใหม่ ปี 2513 (พิมพ์กดมือหลังเรียบ) ให้บูชา 650 บาท

​

พระผงพิมพ์สามหอม เนื้อว่านผสมเกษร ครูบาไฝ วัดพันอ้น จ.เชียงใหม่ สร้าง พ.ศ.2513
จัดสร้างขึ้นโดยท่านพระครูศรีปริยัติยานุรักษ์ (ครูบาไฝ) เจ้าอาวาสวัดพันอันในขณะนั้น เนื้อหามวลสารรวบรวมผงมงคลหลายชนิด เนื้อว่านผสมเกษร108, ผงพระกรุสามหอมชำรุดมากมาย, ผงพระกรุเชียงใหม่, ผงพระกรุลำพูน ฯลฯ
อ.ไสว สุมมโน เจ้าพิธี ในการจัดสร้างวัตถุมงคลโดยท่านเจ้าคุณไฝ พิธีได้นิมนต์
พระเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพบูชาของสาธุชนมีพระเกจิอาจารย์ดังๆในสมัยนั้นมาร่วมปลุกเสกถึง 19 รูปด้วยกันและหลังจากพิธีปลุกเสกแล้วยังมีการสวดมนต์สมโภช โดยคณาจารย์ เช่น เจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัดอีกราม 108 รูป ใช้เวลาสวดมนต์ถึง 2 วัน 2 คืนเต็มๆ โดยผลัดเปลี่ยนกันโดยมิได้หยุดพิธี

รายนาม พระเกจิอาจารย์ 19 รูปมี ดังนี้
1.)สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์วัดสามพระยา
2.)สมเด็จพุฒาจารย์(เสงี่ยม) วัดสุทัศน์ฯ
3.)พระอาจารย์ไสว สุมโน วัดราชนัดดา
4.)หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
5.)หลวงพ่อบุญส่ง วัดเขาบันไดอิฐ
6.)หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
7.)หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
8.)หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
9.)พระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญชัย
10.)ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
11.)ครูบาชัยวงศา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
12.)ครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง
13.)ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
14.)ครูบาคำแสนใหญ่ วัดสวนดอก
15.)ครูบาคำแสนเล็ก วัดดอนมูล
16.)ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
17.)ครูบาบุญมี วัดท่าสะต๋อย
18.)ครูบาน้อย วัดบ้านปง
19.)หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน
และพระเกจิล้านนาสายครูบาเจ้าศรีวิชัยอีกนับไม่ถ้วนร่วมอธิษฐานจิตในยุคนั้น

 

637. เล็กดี รสโต พระนิรันตราย หลวงพ่อโชติ วัดวชิราลงกรณ์ จ.นครราชสีมา ปี 2506 ให้บูชา 1550 บาท

​

หลวง พ่อโชติ คุณสัมปันโน (พระเทพสุทธาจารย์) วัดวชิราลงกรณ์ ลูกศิษย์ของหลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์และหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล


หลวง พ่อโชติ คุณสัมปัณโณ วัดวชิราลงกรณวรวิหาร ปากช่อง นครราชสีมา ท่านเป็นศิษย์สายพระกรรมฐาน ท่านสร้างวัตถุมงคลไว้หลายอย่าง ซึ่งแต่ละอย่างก็มีไม่มากนัก
1.เหรียญระลึกชาติ จำนวนการสร้าง 9,999 เหรียญ เป็นเหรียญเนื้อเงินสร้างไม่ถึง50เหรียญ พอปั๊มครบจำนวน บล็อกด้านหน้าก็แตกชำรุดใช้การไม่ได้ เหรียญรุ่นนี้ท่านอธิฐานจิตให้ 3 เดือน (ไตรมาส) ปี 2516 ภายในถ้ำราชสุทธาจารย์ จนถึงตี 3 ทุกคืนไม่ขาดสักวันเดียว ท่านตั้งใจนำเหรียญรุ่นนี้ขึ้นทูลเกล้าถวายในหลวงและพระราชินี เหรียญรุ่นนี้มีประสบการณ์อภินิหารมาก ทั้งทางด้านโชคลาภ แคล้วคลาด
2.เหรียญกตัญญู เนื้ออัลปาก้า ปี 2517
3.พระนิรันตราย พิมพ์ใหญ่ ปี 2506 แจกผู้ชาย
4.พระนิรันตราย พิมพ์เล็ก ปี2506 แจกผู้หญิง


ส่วน พระสมเด็จของท่านที่ขึ้นชื่อมากก็คือ พระสมเด็จเสด็จมาเอง ซึ่งประวัติว่ามีผู้นำมาถวายให้ท่านที่โบส์ถ ประมาณ2กล่อง ถวายแล้วก็ลงจากโบส์ถเดินหายไปในป่า ท่านว่า ช่วงที่นั่งวิปัสนาในถ้ำราชสุทธาจารนั้น ท่านได้นิมิตว่า องค์สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต)มาบอกให้ท่านสร้างพระสมเด็จ ท่านก็บอกไปว่า สร้างไม่เป็น สมเด็จโตจึงบอกว่า ไม่เป็นไรเดี๋ยวจะเอามาให้ จึงเป็นที่มาของ พระสมเด็จเสด็จมาเอง


ท่าน เป็นลูกศิษย์รักของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ อดีตชาติของหลวงพ่อโชติเป็นพี่ชายมารดาของท่านในชาติปัจจุบัน เมื่อถึงแก่กรรมแล้วด้วยความรักเป็นห่วงน้องสาว จึงเกิดมาเป็นลูกน้องสาวของท่านในชาติปัจจุบัน ท่านสามารถบอกเล่าเรื่องราวในอดีตชาติของท่านได้จนหมดสิ้น จนมีผู้เรียกขานว่า “ หลวงพ่อโชติ ระลึกชาติ” ท่านมรณะภาพเมื่อ ๒๔ มีนาคม ๒๕๑๗


สมณศักดิ์ครั้งสุดท้ายของหลวงปู่โชติ ก็คือ พระเทพสุทธาจารย์ เรื่องราวเกี่ยวกับคุณธรรมของท่านมีมากมาย ท่านมรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๘ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล ได้เมตตานำพาสังขารวัย ๘๘ ของท่านเดินทางไปเผาศิษย์รักของท่านเมื่อวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๑๘ ที่วัดวชิราลงกรณ์ อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ในครั้งนั้นด้วย

​

 

638.พระปิดตาปลดหนี้ เจิมแป้งเสกในพิธี วัดสุทธาราม พ.ศ.2555 ให้บูชา 400 บาท

​

พระปิดตาปลดหนี้ เจิมแป้งเสกในพิธี วัดสุทธาราม สำเหร่ พ.ศ.2555

ปลุกเสกนานนับปี พุทธคุณแรงสุดๆ
พระดี เจตนาการสร้างดี มวลสารเยี่ยม พิธีพุทธาภิเษกใหญ่
จัดสร้างโดยหลวงพ่อดนัย เจ้าอาวาสวัดสุทธาราม สำเหร่
เพื่อหารายได้บริการล้างไต สงเคราะห์ประชาชนผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์วันละ 100 ราย และเป็นที่ระลึกครบรอบ ๓๐ ปีมูลนิธิศรีรัตนโกสินทร์ เลื่อนยศฉลองเจ้าคุณ วัดสุทธาราม ในงานวันพระเจ้าตากสินมหาราช ปี 2555
มวลสารที่นำมาสร้างพระ ได้แก่
ผงสมเด็จพระจิตรลดา ,
ผงอธิษฐานจิตของ หลวงปู่โต๊ะวัดประดู่ฉิมพลี ,
ผงอธิษฐานจิตของ หลวงพ่อแพวัดพิกุลทอง ,
ผงอธิษฐานจิตหลวงพ่อเทียมวัดกษัตราธิราช ,
ผงของหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา ,
ผงหลวงพ่อแช่มของ วัดดอนยายหอม ,
ผงอธิษฐานจิตหลวงพ่อสุดวัดกาหลง ,
ผงอธิษฐานจิตของหลวงปู่หิน วัดระฆัง ,
ผงวัดสุวรรณคีรี , ผงไม้มงคล 9 ชนิด ,
ผงธูป-ดอกไม้วัดพระแก้ว และ ศาลหลักเมือง ,
ผงดิน 9 วัง , ผงว่าน 108 ,
ผงตะไบพระกริ่งปวเรศ ,
ผงวัดโสธรวราราม ,
ผงอธิษฐานจิตพระราชมงคลรังษี ( ยง ) วัดโสธรวราราม ,
ผงวัดระฆังโฆสิตาราม ,
ผงไม้เสาชิงช้าก ทม. ผงวัดพระพุทธชินราช ,
ผงสมเด็จพระมหาธีราจารย์วัดชนะสงคราม ,

พิธีกดพิมพ์ยิ่งใหญ่ กดไป เสกไป เป็นเวลา 30 วัน 30 คืน ภายในวิหารวัดสุทธาราม หลังจากนั้นจึงนำเข้าพิธี พุทธาภิเษกใหญ่ สุดยอดเกจิอาจารย์แห่งยุคเข้าร่วมปรกปลุกเสก อาทิ
เจ้าคุณเที่ยง วัดระฆังฯ,
หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร,
หลวงพ่อสิริ วัดตาล,
หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่,
หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง,
หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน,
หลวงพ่อสาย วัดซำป่างาม,
หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม,
หลวงพ่อเพิ่ม วัด ป้อมแก้ว,
หลวงพ่อรักษ์ วัดสุทธาวาสวิปัสสนา,
หลวงพ่อดี วัดสุทธาราม,
หลวงพ่อเณร วัดศรีสุดาราม ,
หลวงพ่อดำ วัดสุวรรณคีรี
หลังจากนั้นปลุกเสกโดยคณะสงฆ์วัดสุทธารามทุกวัน อัดพลัง นานนับปี จึงเข้มขลัง พุทธคุณแรงสุดๆ

 

99

 

639. อีกหนึ่งเครื่องรางที่สร้างชื่อให้กับหลวงปู่ครับ พญาครุฑรุ่น 4 ปี 2555 เพชรกลับรุ่นพิเศษ เนื้อนวะโลหะผิวรุ้ง หลวงปู่ผาด วัดไร่ จ.อ่างทอง ให้บูชา 3,550 บาท

​

พญาครุฑรุ่น 4 ปี 2556 เพชรกลับรุ่นพิเศษ เนื้อนวะโลหะผิวรุ้ง ใช้มวลสารจากครุฑรุ่น 1 2 3 มาจัดสร้าง รุ่นสุดท้ายที่ทันหลวงปู่ปลุกเสก จำนวนสร้างเพียง 3000 องค์

พญาครุฑรุ่นนี้ เป็นรุ่นพิเศษ (ครุฑเพชรกลับ รุ่นพิเศษ) ที่หลวง "หลวงปู่ผาด อภินันโท" พระเกจิอาจารย์ชื่อดังวัดไร่ จ.อ่างทอง ปลุกเสกเป็นวาระพิเศษ เนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบ 97 ปี 76 พรรษา

เอ่ยชื่อพญาครุฑ ต้องคิดถึงหลวงปู่ผาด วัดไร่ ครุฑ กับวัดไร่ เป็นของคู่กัน ทำวิชามาด้วยกัน พิสูจน์ได้จาก ป้ายชื่อวัดไร่ ทั้งที่ติดน้ำ และติดถนน ที่หลวงปู่ผาด สั่งให้ปั้นเมื่อปี พศ. 2524 มีรูปพระครุฑอยู่ตรงกลาง มีหงส์ทองเป็นบริวารข้างละตัว เ ป็นป้ายชื่อวัด ที่ไม่เหมือนใคร ไม่เหมือนวัดไหนในประเทศ บ่งบอกถึงอะไร ??? ใครคิดออก ใครตีโจทย์ถูก ต้องขนลุกว่า “ หลวงปู่ผาด องค์นี้ ไม่ธรรมดา รู้เหตุการณ์ล่วงหน้า เป็นสิบ ยี่สิบปี ” ท่านสร้างครุฑทีไร ผู้มีทางใน เหมือนได้ลองวิชา เพราะเห็นครุฑบินมาเต็มฟ้า เรื่องอย่างนี้ ถึงพิสูจน์ไม่ได้ แต่คนใจสูงยืนยัน 100%

หลวงปู่ผาด วัดไร่ อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง เป็นพระดี มีพุทธคุณ เกื้อหนุนชีวิต พิสูจน์ได้จากประสบการณ์จริงมาแล้ว ใครมีบ้านหรือร้านค้า บริษัทติดทางสามแพร่งหรือปลูกคร่อมบ่อ คร่อมตอเก่า เจ้าที่แรง คนในบ้านในบริษัททะเลาะกันเป็นประจำ เงินทองไม่เข้าบ้าน หรือหาได้จริงก็มีเหตุต้องใช้เงินอยู่ไม่ติดบ้าน ไม่ติดร้าน ค้าขายดีๆ กลับสะดุด หรือมีที่ดิน ร้านค้าติดที่ตาบอด ที่ดินติดวัด ติดป่าช้าเก่า ติดโรงพยาบาล ติดเรือนจำ ติดสุสาน อยู่ใต้สะพานข้าม อยู่ในที่อัปโชค หรือรถที่ขับอยู่เป็นรถมือสอง เคยเกิดอุบัติเหตุมีคนเจ็บคนตายมาแล้ว หรือมีแต่เราไม่รู้ หรือมีเลขทะเบียนรถ สีรถ ชงกับดวงคนขับ ขับอยู่ดีๆมีคนมาเบียบมาชนรถเรา ให้ท่านลองบูชาพญาครุฑของหลวงพ่อผาด มาติดบ้าน ร้านคา บริษัท หรือติดรถที่มีปัญหา แล้วท่านจะรู้ว่าอำนาจครุฑมีจริง

ครุฑจะเป็นเครื่องรางช่วยจับจิกตี จับดวงวิญญาณร้าย สัมภเวสีกินเป็นอาหาร ซึ่งตามเทวตำนานเมื่อครุฑเป็นพาหนะของพระนารายณ์ ไม่มีอะไรกินจะจับนาคซึ่งเป็นบริวาลของอนันตนาคราชกิน พระนารายณ์เกรงว่าครุฑกับนาคจะผิดใจกันอีก ท่านจึงอนุญาตให้ครุฑจับสัมภเวสีหรือวิญญาณร้ายที่ให้โทษแก่มนุษย์กินได้ ยิ่งไปกว่านั้น ครุฑจะกางปีกปัดพาความพิบัติขัดสน ความขัดแย้ง อุปสรรคต่างๆ ออกไปจากตัวเรา และจะนำอำนาจ ความร่ำรวยเงินทอง โชคลาภมาหาเรา บูชาติดตัวไว้แล้วอะไรดีๆจะเข้ามาแบบไม่ทันตั้งตัวก็เป็นได้

 

640.ที่สุดแห่งพิธี ที่สุดแห่งฉนวนมวลสาร พระกริ่งนาคราช 100 ปี เนื้อนวะโลหะ / พระชัยวัฒน์นาคราช 100 ปี หน้าอินเดีย เนื้อนวะโลหะ ในการจัดสร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์สมโภชน์๑๐๐ปีวัดนาคราช จ.สมุทรปราการ พิธีใหญ่ วัดสุทัศน์

1.พระกริ่งนาคราช 100 ปี ให้บูชา 2550 บาท

​

2.พระชัยวัฒน์นาคราช 100 ปี หน้าอินเดีย เนื้อนวะโลหะ ให้บูชา 1550 บาท

​

การสร้างพระกริ่งนาคราช 100 ปี ประสงค์ให้เป็นคู่บารมี "พระกริ่งจอมไทย" เพราะพระกริ่งจอมไทย ได้ถือกำเนิดในการเททองหล่อ ณ มณฑลพิธีศักดิ์สิทธิ์วัดนาคราช ในมงคลโอกาศที่วัดนาคราช จะสมโภชครบ 100 ปี พระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดี จึงได้มีเมตตามอบชนวนนวโลหะ ของพระกริ่งจอมไทย ที่เหลือประมาณ 500 กก.ให้วัดนาคราชในการจัดสร้างพระกริ่ง จำนวนประมาณ 210 กก.ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ 9 วัน 9 คืน พร้อมทั้งประกอบพิธีจารและเสกพระยันต์ 108 นะปถมัง 14 พระยันต์เมืองกรุงเก่าอีก 30 พระยันต์ เหมือนกับสมัยที่เจ้าคุณสมเด็จพระสังฆราช แพ จัดสร้าง พร้อมกับพิธีมหาพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่
......... พระกริ่งนาคราช 100 ปี คู่บารมี พระกริ่งจอมไทย ด้วยเพราะเนื้อชนวนเดียวกัน และถอดแบบ จากแม่พิมพ์เดียวกัน สำหรับพระกริ่งนาคราช 100 ปี รุ่นเบิกฟ้า ทุกองค์จะทรงมหิทธานุภาพ อันเข้มขลังด้วยเพราะมีส่วนผสมของเนื้อชนวน พระกริ่งจอมไทย ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ 9 วัน 9 คืน มาแล้ว และเพื่อเป็นความเข้มขลังในสูตรตำราของวัดนาคราช (สังกะสี)ที่จะเพิ่มเติมพุทธคุณด้วยการจัดพิธีพุทธาพิเษกในวาระสมโภชครบ 100 ปีในอุโบสถวัดนาคราช ด้วยมีการอัญเชิญพระคาถาอิติปิโสเดินหน้า 108 จบ ถอยหลัง 108 จบ อีกด้วย
.......... พระกริ่งจอมไทย ที่ยิ่งใหญ่ในตำนาน สะท้านสะเทือนเป็นประวัติศาสตร์ เขย่าตลาดวงการพระแรงสุดๆฉันใด พระกริ่งนาคราช 100 ปี จะคู่บารมีพระกริ่งจอมไทยให้จารึกถึงความอลังการแห่งตำนานการจัดสร้างที่เกิดปรากฎการณ์หยุดยั้งเมฆ ลม และพายุจนท้องฟ้าเปิดใสในวันพิธีเททองหล่อ จึงเป็นที่มาแห่งวลีของ "พระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม" ที่ว่า "พิธีเททองกริ่งนาคราช 100 ปีนี้ ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก" พระเดชพระคุณท่านฯ จึงได้เฉลิมพระนามเป็นอนุสรณ์แห่งเหตุการณ์ว่า "พระกริ่งนาคราช ๑๐๐ ปี รุ่นเบิกฟ้า"
........... พระกริ่งนาคราช 100 ปีคู่บารมี พระกริ่งจอมไทย จะทรงความยิ่งใหญ่แห่งความเป็นอมตะในตำนานแห่งการจัดสร้างพระกริ่งเมืองไทยไปตลอดกาล
........... พระกริ่งนาคราช 100 ปี ได้สร้างจากชนวน พระกริ่งจอมไทย ที่ผ่านพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ 9 วัน 9 คืน มาแล้ว ดังความเข้าใจที่ว่า "ใครไม่มีกริ่งจอมไทย ให้อาราธนาพระกริ่งนาคราชแทน"

 

.........

 

641.พระดีในตำนาน พระขรัวอีโต้ กรุวัดเทพากร จ.กรุงเทพ เนื้อดินปิดทอง ให้บูชา 2,000 บาท

​

ผู้สร้างพระขรัวอีโต้คือสมเด็จพระศรีสมโพธิ พระเถระในสมัยอยุธยาตอนปลาย.. สมเด็จพระศรีสมโพธิ หรือขรัวอีโต้ลอยน้ำท่านได้สร้างพระสืบทอดพระพุทธศาสนา บรรจุเจดีย์ไว้สองแห่งคือที่วัดราษฎรบูรณะหรือวัดเลียบ และวัดเทพากรหรือวัดเทพา ในช่วงสงครามโลก ครั้งที่ 2 เครื่องบินของฝ่ายพันธมิตรได้บินมาทิ้งระเบิดใส่โรงไฟฟ้าใกล้วัดเลียบ แต่บริเวณวัดกลับไม่โดนระเบิด แต่ด้วยแรงสั่นสะเทือนเจดีย์ในวัดได้พังลงมาทำให้พระขรัวอีโต้ซึ่งบรรจุอยู่ในเจดีย์ดังกล่าวแตกกรุออกมาและถูกชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้นนำไปแจกจ่ายติดตัวและแจกให้บรรดาทหารของไทย ต่อมา พระขรัวอีโต้ได้แสดงพุทธคุณให้เป็นที่ประจักษ์ในด้านแคล้วคลาดไม่ต่างจากพระรอดเมืองลำพูนผู้คนจึงได้ขนานนามพระขรัวอีโต้ว่า "พระรอดเมืองใต้ " พระขรัวอีโต้ กรุวัดเลียบ มีอยู่สองพิมพ์ คือ พิมพ์ใหญ่ กับพิมพ์เล็ก พิมพ์ใหญ่ องค์ชัดๆจะเห็นพญานาคอยู่ตรงด้านข้างฐานซ้ายขวา ลงรักน้ำเกลี้ยงสีน้ำตาลอ่อนบางๆ ปิดทองเดิมๆวรรณะออกเหลือง คราบกรุเป็นสีน้ำตาลจางๆ จับแนบสนิทตามซอกส่วนลึก ต่อมาอีกหลายปีได้มีพระขรัวอีโต้ แตกกรุที่วัดเทพากรหรือวัดเทพา เนื้อหาและลักษณะเหมือนกันกับพระขรัวอีโต้ กรุวัดเลียบ พระที่แตกกรุออกมามี 2 พิมพ์เหมือนกัน คือ พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก ถ้าเป็นพิมพ์เล็กพระจะมีลักษณะเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นพิมพ์ใหญ่ ใบหน้าพระที่แตกกรุจากวัดเทพากร จะมีขนาดย่อมกว่าพระที่แตกกรุจากวัดเลียบเล็กน้อย และฐานด้านข้างจะไม่มีเศียรพญานาคเหมือนของกรุวัดเลียบพระขรัวอีโตนี้มีอายุการสร้างประมาณ 200 ปี มีประสบการณ์มากมาย คุ้มครองชีวิตผู้คนให้รอดพ้นจากอันตรายในภาวะสงครามจนเป็นที่ประจักษ์ในพุทธคุณมาแล้วหลายยุคหลายสมัยนับว่าเป็นของดีราคาถูกที่น่าสะสมยิ่ง พระขรัวอีโต้ กรุวัดเทพากรราคาจะเบากว่าพระขรัวอีโต้ กรุวัดเลียบเล็กน้อย แต่พุทธคุณไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

 

642.พระมหาสิทธิโชค เนื้อดิน หลวงพ่อบัณฑูรย์สิงห์ กรุวัดเกตุมวดีศรีวราราม (วัดบางโทรัด) จ.สมุทรสาคร ปี2478 พิมพ์ทรงปลากัด หลวงพ่อปาน, หลวงพ่อจง ร่วมเสก ให้บูชา 1500 บาท

​

พระชุดนี้สร้างโดยท่านพ่อบัณฑูรสิงห์ ท่านเป็นฆราวาส ศิษย์ของหลวงพ่อรุณ วัดช้างเผือก (พระอาจารย์ของหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม) หลวงพ่อนิล วัดตึก (ผู้เป็นสหธรรมิกของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า เคยลองวิชากันและงัดกันไม่ลง) ท่านพ่อบัณฑูรสิงห์เคยบวชเป็นพระ หลวงพ่อรุณ เคยกล่าวว่า ได้ธรรมแล้ว แต่ภายหลังได้ลาสิกขาบทออกมาเป็นฆราวาสเพื่อสร้างบารมีอยู่ที่วัดบางโทรัด (วัดเกตุมวดีศรีวราราม) ซึ่งได้ละขันธ์เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๖ ก่อนละขันธ์ ท่านได้กล่าวว่า “เมื่ออดีตชาติ ท่านได้บำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์มาโดยตลอด และได้รับการพยากรณ์จากพระศากยมุนีพุทธเจ้าว่า ท่านจะมาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 9 นามว่าพระติสสะพุทธเจ้าในอนาคตกาล”
พระชุดนี้ถูกบรรจุอยู่ในพระบรมธาตุเกตุมวดีย์ วัดบางโทรัด จ.สมุทรสาคร เมื่อปี พ.ศ.๒๔๗๘ จนถึงปี พ.ศ.๒๕๒๗ พระครูภาวนาวรคุณ (หลวงพ่อใหญ่) ได้ทำพิธีเปิดกรุออกมา หลวงพ่อใหญ่ได้ขนานนามว่า “หลวงพ่อมหาสิทธิโชค” กล่าวกันว่าว่าท่านพ่อบัณฑูรย์สิงห์ได้พลีดินจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ และดินจากสังเวชนียสถานทั้ง 4 มาผสมด้วย เสร็จแล้วได้นิมนต์ ลพ.ปาน วัดบางนมโค และ ลพ.จง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา ซึ่งเป็นสหธรรมิกกันมาร่วมอธิษฐานจิตก่อนบรรจุกรุ

 

643. พระพิมพ์งบน้ำอ้อยสองหน้า เนื้อดิน กรุวัดบางยี่หน อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี ให้บูชา 1800 บาท

​

พระกรุวัดบางยี่หน วัดบางยี่หน ตั้งอยู่เลขที่ 28 หมู่ที่ 1 ตำบลตะค่า อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งที่ก่อตั้งขึ้นแต่ครั้งต้นรัตนโกสินทร์

เป็นแหล่งกำเนิดพระกรุขึ้นชื่ออีกสำนักหนึ่งแห่งเมืองขุนแผนจังหวัดสุพรรณบุรี มีประวัติจนเรียกเป็นคำกล่าวขานถึงพระกรุนี้สำนักนี้ว่า พระกรุบางยี่หน . ยิงไม่ออก

ตามประวัติเล่าว่าจัดสร้างราวปี พ.ศ.2445 โดยหลวงพ่อหยัดได้แกะแม่พิมพ์ด้วยตนเอง และนำดินภายในวัดซึ่งผ่านการกรองและนวดจนได้ที่แล้วนำมากดพิมพ์พระ จากนั้นก็ทำการเผาสุมไฟโดยหลวงพ่อหยัดได้สวดภาวนาเพ่งกสิณไปในคราเดียวจนเนื้อพระสุกได้ที่

หลวงพ่อหยัดจึงรวบรวมพระที่เผากดพิมพ์ได้ทั้งหมดปลุกเสกอีกครั้ง เผอิญขณะนั้น หลวงพ่อแก้ววัดสวนหงษ์ อำเภอบางปลาม้า พระเกจิอาจารย์ยุดเดียวกันกับท่านมาเยี่ยมเยียนท่านที่วัดบางยี่หน หลวงพ่อหยัดจึงนิมนต์หลวงพ่อแก้วปลุกเสกพระเครื่องอีกครั้งก่อนที่จะนำพระดังกล่าวทั้งมดบรรจุเจดีย์

เมื่อประมาณปี พ.ศ.2504 มีชาวมอญตระเวณค้าขายสินค้าทางเรือมาจอดเทียบท่าพักแรมใกล้วัดบางยี่หน พอตกกลางคืนได้เข้าไปลักขุดพระในองค์เจดีย์ได้พระไปจำนวนหนึ่ง เผอิญขณะที่กำลังลักขุดกรุอยู่นั้น สุนัขภายในวัดส่งเสียงเห่าหอนไปทั่ว

ทำให้พระอาจารย์พ่วง สุวัณโณ เจ้าอาวาสวัดบางยี่หนในขณะนั้นพร้อมพระลูกวัดตื่นคว้าไฟฉายตรงดิ่งมายังเจดีย์เพื่อตรวจดูว่าเกิดอะไรขึ้น และปรากฎว่าพบพระเครื่ององค์เล็กตกกระจัดกระจายไปทั่ว พระอาจารย์พ่วงจึงสั่งให้พระลูกวัดช่วยกันเก็บพระดังกล่าวขึ้นไปไว้บนกุฏิของท่าน

ภายหลังข่างพระแตกกรุที่วัดบางยี่หนแพร่สะพัดไปทั่ว ชาวบ้านทั้งใกล้ไกลจึงแห่มาขอพระจากพระอาจารย์พ่วงจนพระใกล้หมดท่านจึงงดแจก เพื่อเก็บไว้ให้เป็นที่ระลึกแก่คณะผ้าป่าและกฐินซึ่งจะเดินทางมาทอดที่วัด

พระกรุวัดบางยี่หน เป็นพระลักษณะเนื้อดินเผา แบ่งพิมพ์พระออกเป็นพิมพ์เชียงแสน 2 หน้า, พิมพ์ชินราช 2 หน้า และ พิมพ์ชินราชหลังพระสอง เนื้อชินก็มีแต่พบจำนวนน้อย

 

643. พระดีที่ใช้แทนพระหลวงพ่อปานได้เลยครับ พระผงยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค จ.อยุธยา พิมพ์กลีบบัวสมาธิ ให้บูชา 3500 บาท

​

พระผงยันต์เกราะเพชร หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค
หลวงพ่อฤาษีลิงดำได้เล่าไว้ว่า ครั้งหนึ่งหลวงพ่อเล็กศิษย์ของหลวงพ่อปานที่หลวงพ่อปานให้อยู่รักษาคนไข้เวลาที่หลวงพ่อไม่อยู่ได้ทำพิธีปลุกเสกพระของหลวงพ่อปานเพื่อเป็นการทดลอง ครั้นทำแล้วหลวงพ่อปานก็ตรวจดูท่านได้ถามเป็นเชิงเย้าว่า ปลุกเสกเดี่ยวเลยสิท่า ไม่ได้ชุมนุมเทวดามาด้วยใช่ไหมล่ะ ทำไมล่ะเทวดาน่ะท่านมีทุกหนทุกแห่ง เรียกท่านมารับรู้ท่านก็จะตามไปคุ้มครองต่อเนื่องกันไป ลำพังพลังจิตเราน่ะคุ้มได้ไม่ทั่วหรอกต้องให้เทวดาท่านช่วยบ้าง
หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค เป็นพระที่ค่อนข้างจะอาภัพ เพราะว่าพระกิตติคุณของหลวงพ่อปานคลุมเอาไว้หมด มีคนรู้จักท่านเพียงเป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบางนมโคสมัยหลวงพ่อปานเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่ท่านรักษาโรคได้แบบเดียวกับหลวงพ่อปานและหลวงพ่อปานท่านก็ไว้ใจให้ทำงานแทนท่านอยู่ตลอด
หลวงพ่อเล็กเป็นพระที่มีความกตัญญูและรู้ประมาณ ไม่เคยสร้างพระเลียนแบบหลวงพ่อปานเลย เมื่อหลวงพ่อปานท่านมรณภาพแล้วก็ดำรงตำแหน่งสืบแทนและเป็นผู้ครอบครององผงยันต์เกราะเพชรที่หลวงพ่อปานลบเอาไว้ถึงหนึ่งปีเต็ม ๆ หากหลวงพ่อเล็กจะสร้างพระเนื้อดินเลียนแบบหลวงพ่อปานแล้วบรรจุผงยันต์เกราะเพชรก็ย่อมทำได้ แต่หลวงพ่อเล็กก็ไม่ทำ ท่านกลับนำมาสร้างเป็นพระพิมพ์ที่เป็นเนื้อผงเกราะเพชรโดยใช้ยันต์เกราะเพชรผสมกับปูนเปลือกหอยพิมพ์ออกมาเป็นรูปห้าเหลี่ยมปลายแหลม ด้านหน้าเป็นพระพุทธนั่งสมาธิอยู่บนอาสนะฐานชุกชีแบบพระประธานในพระอุโบสถวัดบางนมโค ด้านหลังเรียบ

พระชุดนี้หลวงพ่อเล็กได้แจกให้ผู้คนนำไปติดตัว ท่านสั่งว่าผงเกราะเพชรที่อยู่ในองค์พระสามารถแช่น้ำทำน้ำมนต์ อาบกินรักษาโรค กำจัดเสนียดจัญไรและยังรดไล่ปีศาจที่สิงในตัวคนได้ เวลาใช้ให้อาราธนาถึงหลวงพ่อปานวัดบางนมโคเป็นที่ตั้ง เพราะท่านเป็นเพียงผู้สร้าง แต่เจ้าของผงเกราะเพชรก็คือหลวงพ่อปานนั่นเอง

 

644.พระปิดตา #วัดหัวกระบือ ปี 21 แช่น้ำมนต์ หลวงปู่โต๊ะปลุกเสก ให้บูชา 1550 บาท

​

ประวัติการจัดสร้าง
เมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๑ พระครูวิบูลพัฒนกิจ(พระครูสละ)ได้จัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อมอบให้แก่ผู้ศรัทธาบริจาคในการสร้างวัดขึ้นมาใหม่ เนื่องจากเดิมสภาพวัดหัวกระบือเกือบจะเป็นวัดร้าง มีน้ำท่วมนองไปหมด และยังเต็มไปด้วยป่าแสมดำ โดยท่านได้ไปกราบขอหลวงปู่โต๊ะสร้างพระปิดตาขึ้น ๓ พิมพ์ ซึ่งหลวงปู่โต๊ะได้มอบอักขระยันต์สำหรับประดิษฐานในองค์พระ มวลสารบางชนิดและกรุณาปลุกเสกให้เป็นพิเศษ
#พิมพ์มหาเศรษฐี

 

645. พระสมเด็จคะแนน ผง 12 นักษัตริย์ หลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ จ.ปทุมธานี ปี2509 ให้บูชา 1500 บาท ปิดครับ

​

 

646.พระชัยวัฒน์ศักดิ์สิทธิ์ รุ่นแรกเจริญดี เนื้อนวะโลหะ รุ่นเจริญดี หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ปี 2536 ให้บูชา 750 บาท

​

(หลวงปู่ดำริจัดสร้าง) เป็นนิมิตรหมายแห่งชัยชนะทั้งปวง พุทธคุณครอบคลุมหมด
วัตถุมงคฃของ หลวงปู่คำพันธ์ นัันมีออิทธิคุณมากเช่น เมตตามหานิยมมหาเสน่ห์ ค้าขาย แค้ลวคลาด โชคลาภการเงิน และครอบคลุมทั้งหมด และผมเชื่อว่าพระหลวงปู่กันนิวเคลียร์ได้จริงไม่เฉพาะแต่ปัฐวีธาตุครับ
คุณวิเศษของหลวงปู่คงไม่ต้องว่ากันมาก หลายๆท่านคงรู้จีกกันดีโดยเฉพาะพี่น้องชาวอีสาน ขนาดแม้แต่มีคนถามเรื่องพระพุทธโธน้อย ท่านยังตอบได้ตรงว่าเป็นแม่หญิงสร้าง เจนจบอภิญญาตอนทำเป็นอนาคามีก่อนสิ้นบรรลุอรหันต์ เรื่องอำนาจจิตของท่านเป็นสองรองใครเช่นกัน

 

647.พระโคนสมอ ปางห้ามสมุทร หลวงตาพัน วัดใหม่อมตรส ปี ๒๕๐๒ สร้างด้วยมวลสารเก่า จากก้นกรุในองค์เจดีย์วัดใหม่อมตรสล้วนๆ ซึ่งเป็นมวลสารพระสมเด็จที่หักชำรุด ให้บูชา 1950 บาท

​

พระโคนสมอ ปางห้ามสมุทร หลวงตาพัน สร้างด้วยมวลสารเก่า จากก้นกรุในองค์เจดีย์วัดใหม่อมตรสล้วนๆ ซึ่งเป็นมวลสารพระสมเด็จที่หักชำรุด ถือได้ว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง เพราะ พระสมเด็จ ที่หักชำรุดเหล่านี้เป็น พระสมเด็จ ที่ สมเด็จฯ โต ท่านได้ปลุกเสกเอาไว้ แล้วบรรจุกรุในองค์เจดีย์ที่วัดนี้ ตอนเปิดกรุอย่างเป็นทางการ เมื่อปี ๒๕๐๐ นั้น หลวงตาพัน ท่านเป็นพระลูกวัด อาศัยอยู่ในโบสถ์วัดใหม่อมตรส ท่านจึงอยู่ในเหตุการณ์โดยตลอด พบเห็นพระหักชำรุด ดินก้นกรุที่วัดรื้อขึ้น ท่านก็เก็บรักษาเอาไว้จำนวนมาก ต่อมาปี ๒๕๐๒ ท่านเอาพระหักชำรุดทั้งหมดตำบดอย่างหยาบๆ แล้วเอาพระพิมพ์สมเด็จต่างๆ และพิมพ์โคนสมอ ปางห้ามสมุทร และพิมพ์อื่นๆ เอามาถอดพิมพ์ด้วยยางทำฟัน เป็นแม่พิมพ์อย่างง่ายๆ จากนั้นก็นำผงมวลสารที่ตำบดไว้ผสมน้ำมันตังอิ๊วตามสัดส่วน แล้วกดพิมพ์เป็นองค์พระพิมพ์ต่างๆ ออกมา ส่วนมากเป็น พระพิมพ์สมเด็จ พิมพ์ตื้นๆ ไม่คมลึกมากนัก พอพระแห้งดีท่านเอาแจกจ่ายแก่ลูกศิษย์ที่ไปหาท่าน คนที่อยู่ในวัด หรือละแวกใกล้วัดใหม่อมตรส ตลอดจนลูกศิษย์ทั่วๆ ไป จะรู้ดีถึงคุณค่าของ พระหลวงตาพัน ชุดนี้ เมื่อ พระสมเด็จ กรุเก่า กรุใหม่ ของวัดใหม่อมตรส มีราคาแพงขึ้นเรื่อย หลายคนจึงให้ความสนใจใน พระหลวงตาพัน ชุดนี้กันมาก เพราะสร้างมาจากมวลสารของเก่าที่ สมเด็จฯโต ปลุกเสก ฉะนั้นสรรพคุณความศักดิ์สิทธิ์ จึงย่อมมีดีสุดยอดเช่นเดียวกัน