พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

จองพระผงลป.บุดดา/พระสทเด็จลป.เปลี่ยน/สสทเด็จลป.สมเกียรติ

 

รับทราบครับพี่ ขอบคุณมากครับ

 

สวัสดียามเช้า

 

2827.รุ่นนี้เสกด้วยมนต์บัวบาน มีไว้ยกดวงหนุนชะตา พระผงรูปเหมือนอายุ 100 ปีหลวงปู่ทอง วัดสามปลื้ม รุ่นรวยทรัพย์ไพศาล ปิดรายการครับ

​

​

พระมงคลวุฒหรือหลวงปู่ทอง วัดสามปลื้ม พระเกจิอาจารย์อายุเกินร้อยที่สมเด็จพระเทพฯให้การนับถืออย่างยิ่งยวด ทรงเคยพระราชทานผ้าไตรส่วนพระองค์ถวายหลวงปู่ทองถึงสองครั้งด้วยกัน
สำหรับพระผงรุ่นนี้จัดสร้างเมื่อคราวที่มีหลวงปู่ท่านมีอายุ 100 ปี สร้างจากผงวิเศษ ผงตะไบศักดิ์สิทธิ์มากมาย ด้านหลังประทับยันต์บัวบานของท่านอันเป็นวิชาสำคัญ สัญลักษณ์แห่งความก้าวหน้า หนุนดวง ยกชะตา และยังปิดจีวรที่หลวงปู่ท่านใช้จริงอันเปรียบเสมือนธงชัยพระอรหันต์

 

2828. พระสมเด็จเนื้อว่านหลังกดเหรียญ รุ่นแรก ปี 2502หลวงพ่อผิว วัดสง่างาม จ.ปราจีนบุรี ให้บูชา 2200 บาท

​

ในบรรดาพระสงฆ์เมืองปราจีนบุรีที่เป็นศิษย์สืบทอดพุทธาคมของท่านพระครูปราจีนมุนี หรือหลวงพ่อทอง วัดหลวงปรีชากุล เกจิคณาจารย์เรืองวิทยาคุณในยุคก่อนปีพ.ศ.2460 ซึ่งมีชื่อเสียงและตำแหน่งทางการปกรองคณะสงฆ์มีอยู่ด้วยกัน 3 รูป คือ

พระครูสิทธิสารคุณ (หลวงพ่อจาด) วัดบางกระเบา เจ้าคณะอำเภอบ้านสร้าง เกจิดังยุคสงครามอินโดจีน, พระวิสุทธิธรรมาจารย์ (หลวงพ่อทรัพย์) วัดใหม่กรงทอง เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี ผู้ให้กำเนิดสำนักเรียนบาลีแห่งแรกของ จ.ปราจีนบุรี และสุดท้ายคือ พระครูสีลวิสุทธาจารย์ (หลวงพ่อผิว สีลวิสุทโธ) วัดสง่างาม เจ้าคณะตำบลบางบริบูรณ์

ทั้ง 3 ท่านนี้เป็นสุดยอดเกจิดัง-ขลัง-ดี ที่มีวิชาอาคมเป็นเลิศ และเป็นผู้สร้างพระเครื่องที่มากด้วยพุทธคุณไม่แพ้กัน

หลวงพ่อผิว วัดสง่างาม นับเป็นพระเถระที่สูงด้วยอายุและพรรษากาลถึง 93 ปี 72 พรรษา และเป็นเกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังองค์หนึ่งทางภาคตะวันออก มีผู้เคารพนับถือทุกระดับชั้น ทั้งข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนในจังหวัด และในถิ่นที่ห่างไกลออกไป

ภาพลักษณ์ของท่านคือพระนักพัฒนา ที่เก่งทั้งพัฒนาวัตถุนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่อาราม และเก่งในการพัฒนาบุคคลจนได้ดีมีชื่อเสียงจำนวนมาก

ยิ่งในเรื่อง วัตถุมงคลล้วนเป็นที่สนใจของบรรดานักสะสม เพราะท่านสร้างได้ขลังจริง มีประสบการณ์ดีทุกด้าน ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด มหาอุด คงกระพันชาตรี ส่วนใหญ่จะเป็นเหรียญซึ่งมีอยู่หลายรุ่นด้วยกัน อาทิ เหรียญรูปไข่รุ่นแรกปี 2502, รุ่น 2 ปี 2512, รุ่น 3 ปี 2515 ที่ระลึกครบ 80 ปี, รุ่น 4 ปี 2517 รูปอาร์ม, รุ่น 5 ปี 2519 รูปหยดน้ำ เป็นต้น นอกนั้นก็มีพระสมเด็จเนื้อว่านรุ่นแรก ปี 2502 หลังปั๊มรูปเหรียญรุ่นแรก, พระสมเด็จ 9 ชั้น, รูปหล่อปั๊มรุ่นแรก ปี 2515, แหนบลงยา, ล็อกเกตภาพสี ฯลฯ

"วัดสง่างาม" เป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2456 ตั้งอยู่เลขที่ 1 บ้าน บางบริบูรณ์ หมู่ 2 ต.บางบริบูรณ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดิน ที่ตั้งวัดมีเนื้อที่ 36 ไร่ 3 งาน 78 ตารางวา มีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนามคือ หลวงพ่อฮวบ, หลวงพ่อกลีบ, หลวงพ่อเพิ่ม, หลวงพ่อลิ, หลวงพ่อไผ่, หลวงพ่อพู่, หลวงพ่อผิว และพระครูสิริพัฒนโสภณ รูปปัจจุบัน

"หลวงพ่อผิว" เป็นสมภารรูปที่ 7 ปกครองวัดอยู่ในช่วงปีพ.ศ.2466-2528 ชาติภูมิเป็นชาวบ้านท่างาม อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เกิดเมื่อปีมะโรง ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ค.2435 เยาว์วัยช่วยพ่อแม่ทำนา อาศัยศึกษาเรียนรู้อยู่กับพระที่วัดเลียบ ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน จนอ่านออกเขียนได้ทั้งหนังสือไทยและขอม พออายุ 21 ปีก็เข้าอุปสมบทที่วัดเลียบ เมื่อเดือนมิ.ย.2456 มีพระครูปราจีนมุนี (หลวงพ่อทอง) เจ้าคณะจังหวัดปราจีนบุรี วัดหลวงปรีชากุล เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อหร่ำ วัดเลียบ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "สีลวิสุทโธ"

อยู่จำพรรษาและเล่าเรียนพระธรรมวินัยเป็นเวลา 10 พรรษาจึงย้ายมาอยู่วัดสง่างาม ซึ่งอยู่ห่างออกมาทางทิศตะวันออกของวัดเลียบคนละฝั่งแม่น้ำประมาณ 3 กิโลเมตร โดยได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสตั้งแต่ปีพ.ศ.2466 จนกระทั่งมรณภาพในปีพ.ศ. 2528 รวมระยะเวลา 62 ปี

หลวงพ่อผิว วัดสง่างาม จ.ปราจีนบุรี ท่านมีตำ แหน่ง-หน้าที่ และสมณศักดิ์ เริ่มจากปี พ.ศ.2466 เป็นพระ กรรมวาจาจารย์ ปีพ.ศ.2475 เป็นเจ้าคณะหมวด (เจ้าคณะตำบล) บางบริบูรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ปีพ.ศ.2482 เป็น พระอุปัชฌาย์ ปีพ.ศ.2493 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี มีราชทินนามว่า "พระครูสีลวิสุทธา จารย์" ปีพ.ศ.2506 เลื่อนเป็น เจ้าคณะตำบลชั้นโท ในนามเดิม ปีพ.ศ.2513 เลื่อนเป็นเทียบผู้ช่วยเจ้าอาวาสพระอารามหลวงชั้นเอก

หลวงพ่อผิว เป็นพระที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง ตั้งแต่เริ่มปกครองวัดก็ได้บูรณปฏิสังขรณ์ และพัฒนาสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อพระศาสนาและพุทธศาสนิกชนอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะด้านการศึกษาท่านได้ก่อตั้งโรงเรียนพระปริยัติธรรมขึ้นเป็นครั้งแรก ของวัด และปรากฏว่าในสมัยนั้นมีพระหลายรูปที่สอบได้นักธรรมตรี โท และเอก ซึ่งลูกศิษย์ของท่านที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ ได้เป็นเปรียญหลายรูป

สำหรับ ผลงานที่โดดเด่นที่สุดก็คือ โบสถ์หลังปัจจุบันของวัดสง่างาม ซึ่งท่านได้ใช้ความสามารถก่อสร้างเสร็จในระยะเวลา 5 ปี สิ้นงบประมาณไปเกือบ 2,000,000 บาท

คุณวิเศษอย่างหนึ่งของหลวงพ่อผิว ที่เล่าขานกันนั่นก็คือ ความเป็นพระผู้มีเมตตาธรรมสูง โดยได้ใช้วิชาความรู้ด้านการแพทย์โบราณช่วยเหลือสงเคราะห์ อนุเคราะห์แก่ผู้เจ็บป่วย เช่น แขนหัก ขาหัก กระดูกหัก จนหายได้อย่างน่าอัศจรรย์ แม้แต่นายแพทย์สมัยใหม่ยังต้องมาให้ท่านช่วยต่อกระดูกก็มี รวมไปถึงสัตว์ต่างๆ อาทิ ช้าง ม้า วัว ควาย ที่ขาหักท่านก็ช่วยรักษามา นับไม่ถ้วน

นอกจากนี้ ท่านยังเป็นหนึ่งในบรรดาพระเกจิอาจารย์ดังที่มักได้รับอาราธนาไปในพิธีพุทธาภิเษกพระเครื่องหลายต่อหลายรุ่น ซึ่ง ครั้งที่เป็นเกียรติประวัติก็คือ ได้รับฎีกาเข้าไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกเหรียญพระแก้วมรกต ภปร.ในพระบรมมหาราชวัง ในงานฉลองวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อปีพ.ศ.2525

พระเครื่องและวัตถุมงคลที่ท่านสร้างปรากฏความขลังในด้าน พุทธคุณ มีประสบการณ์ดีทั้งด้านเมตตามหานิยม อยู่ยงคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย เหรียญบางรุ่นยังพอเช่าหาได้ในราคาไม่แพง แต่ถ้าเป็นเหรียญรุ่นแรก ปีพ.ศ. 2502 เนื้อทองแดง กะไหล่ทอง คงต้องว่ากันที่ "หลักหมื่น"

 

2829.พระสมเด็จปรกโพธิ์รุ่นสร้างโรงพยาบาลสงฆ์ หลวงปู่ลี วัดเอี่ยมวนาราม จังหวัดอุดรธานี ให้บูชา 550 บาท เกจิอาจารย์สายสำเร็จลุน

​

หลวงปู่ญาท่านลี อุตตโร วัดเอี่ยมวราราม อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี บูรพาจารย์ศิษย์สายสำเร็จลุน และพระครูวิโรจน์รัตโนบล(หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง) หลวงปู่ญาท่านลีท่านเป็นศิษย์คนสนิทผู้อุปฐากหลวงปู่ญาท่านตู๋ครับ ท่านเป็นคนมีนิมิตรล่วงหน้า เช่น ก่อนที่จะมีคนจมน้ำตายที่ชลประทานห้วยถำแข้ ท่านจะบอกลูกหลานอย่าลงเล่นน้ำ แต่ตนที่เสียชีวิตมักจะมาจากที่อื่นมาเล่นน้ำหรือมักจะมาจากกรุงเทพฯ สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อยเช่นเดียวกับหลวงปู่ญาท่านสวน วัดนาอุดมครับ
สำหรับพระสมเด็จปรกโพธิ์รุ่นนี้เป็นพระดีมีประสบการณ์ที่สุดอีกรุ่นหนึ่งของท่านเพราะเจตนาการสร้างนั้นดีมากๆ คือเพื่อนำปัจจัยไปสร้างโรงพยาบาลสงฆ์ประจำจังหวัดอุบลราชธานี ด้วยเจตนาที่ดีและวิทยาคมของท่าน จึงทำให้พระรุ่นนี้มีประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง

 

2830. ของดี สายในดงครับ!!! นานๆได้มา เหรียญหล่อ รุ่น2 หลวงพ่อพลอย วัดเงินบางพรม ปี36 วัดเงินคลองบางพรม กทม ใช้แทนรุ่นแรก หลายแสนได้เลย ปิดรายการครับ

​

สร้างจากเนื้อระฆังเก่า ส่วนผสมของแร่ในดงอยู่ทั้งสิ้นซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับหลวงตาดำสามารถใช้สื่อติดต่อกับอาจารย์ในดงลี้ลับได้และสื่อนี้นำกระแสพลังทั้งยังสามารถเป็นสื่อกลางนำพาพลังจิตคำอธิษฐานของผู้ถือครองแร่นี้ไปสื่อถึงอาจารย์ในดงได้เช่นกันสามารถสื่อได้ทั้งสองทางคล้ายคลื่นวิทยุสื่อสารแต่ความชัดเจนขึ้นอยู่กับพลังจิตของผู้สื่อสาร ส่วนระฆังใบใหญ่ที่ชำรุดนั้นต่อมาในปี 2536 หลวงพ่อชาญณรงค์ปลุกเสก นะครับ มีส่วนผสมของแร่ในดงอยู่ทั้งสิ้น

เหรียญหล่อหลวงปู่พลอย ปี 2536
ในสมัยหลวงปู่พลอย พรหมโชโต พ.ศ.2468 ที่หลวงปู่พลอยเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่วัดประสาท คลองบางพรมนั้น ท่านได้ดำริสร้างวัตถุมงคลคู่วัดประสาท 7 สิ่งดังนี้
1. พระพุทธบาทสี่รอย
2. พระพุทบูชารูปประจำตัวหลวงปู่พลอย
3.รูปจำลองหลวงตาดำองค์อาจารย์
4.ระฆังใบใหญ่หนึ่งใบ(นำมาสร้างเหรียญหล่อย้อนยุคปีพ.ศ. 2536)
5.ระฆังใบเล็กหนึ่งใบ
6.แผ่นสื่อหนึ่งแผ่น
7. เหรียญหล่อพิมพ์หยดน้ำ
วัตถุดิบมงคลที่เก่ามาข้างต้นล้วนมีส่วนผสมของแร่ในดงอยู่ทั้งสิ้นซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเกี่ยวเนื่องกับหลวงตาดำสามารถใช้สื่อติดต่อกับอาจารย์ในดงลี้ลับได้และสื่อนี้นำกระแสพลังทั้งยังสามารถเป็นสื่อกลางนำพาพลังจิตคำอธิษฐานของผู้ถือครองแร่นี้ไปสื่อถึงอาจารย์ในดงได้เช่นกันสามารถสื่อได้ทั้งสองทางคล้ายคลื่นวิทยุสื่อสารแต่ความชัดเจนขึ้นอยู่กับพลังจิตของผู้สื่อสาร ส่วนระฆังใบใหญ่ที่ชำรุดนั้นต่อมาในปี 2536 ทางวัดได้นำมาจัดสร้างเหรียญหล่อหยดน้ำ มีการอัญเชิญท่านหลวงตาดำเชิญครูบาอาจารย์ทั้งอดีตเจ้าอาวาสและดวงวิญญาณของหลวงปู่พลอย พรหมโชโตอย่างถูกต้องสมบูรณ์อีกทั้งยังนิมนต์พระคณาจารย์ผู้มีวิทยาคุณในสมัยนั้นมาทำการปลุกเสกอย่างเข้มขลัง พระรุ่นนี้เดิมทีไม่มีใครรู้ว่าเป็นของดีเด่นอย่างไร จนเมื่อปี 6 เมษายน2536 หลวงพ่อชาญณรงค์ ท่านอาพาธหนัก ไม่สามารถปลุกเสกวัตถุมงคลแจกแก่ศิษย์ได้ จึงให้ลุงจุกไปเช่าเหรียญหลวงปู่พลอยรุ่นนี้ จำนวน200องค์มาแจก ท่านได้อธิบายให้ลุงจุกฟังว่า "พระนี้เป็นของดีมาตั้งแต่เนื้อพระด้วยพระนี้สร้างจากเนื้อระฆังเก่ามีแร่ในดงผสมอยู่เมื่อนำมาหล่อเป็นองค์พระขึ้นมาแม้นไม่ปลุกเสกก็มีความศักดิ์สิทธิ์ดีอยู่แล้วเมื่ออัญเชิญวิญญาณหลวงตาดำองค์เดียวรับรู้มาเสกให้ก็เหลือเกินแล้ว ท่านอาจารย์กล่าวย้ำว่าความจริงไม่ต้องจัดพิธีกรรมพุทธาภิเษกใดใดเลยก็ได้ พระนี้ไม่ต้องเสกซ้ำก็เต็มแล้วแต่การให้พระเกจิอาจารย์ มานั่งปรกปลุกเสกถือว่าเป็นมงคลยิ่งขึ้น ฉันรับรองดีกว่าพระรุ่นเก่าของหลายสำนักที่เขาเคยสร้างก็แล้วกัน" "หากสนใจบูชาเพื่อคุ้มชีวิตหวังพึ่งในพุทธคุณความขลังไม่ได้เพียงแขวนขอเพื่ออวดว่าเป็นของเก่าโบราณทันหลวงปู่พลอยแล้วแล้วก็รุ่นย้อนยุคนี้ดีครบทุกทางไม่แพ้กันเลย" หลวงพ่อชาญณรงค์ท่านกำชับให้ศิษย์เอาไปแจกลูกหลาน ให้เอาแขวนคอไว้ เด็กเล็กๆ แขวนไว้คุ้มตัว ทั้งยังได้รับพลังจากอาจารย์ในดงที่ท่านแผ่ออกมาช่วงใกล้รุ่งราว ตีสามของทุกวัน เด็กเล็กลูกหลานจะเลี้ยงง่าย ปัญญาดี มีไหวพริบฉลาดหลักแหลมว่านอนสอนง่ายเชื่อฟังพ่อแม่ ภายหลังจากหลวงพ่อมรณภาพแล้ว พ.อ.ชม สุคันธรัต ท่านยังมาบูชาไปแตกคนใกล้ชิด โดยท่านบอกว่าต่อไปบ้านเมืองเดือดร้อนให้เอาพระรุ่นนี้แขวนติดตัวตลอด อาศัยพลังจากอาจารย์ในดงช่วยคุ้มครอง ข้อมูลจาก หนังสืออภินิหารสะท้านไตรภพ พระอาจารย์อภิชิโต ภิกขุ(ชาญณรงค์ ศิริสมบัติ)

 

2831. เหรียญหล่อหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต พิมพ์ปรกโพธิ์ เมตตาอธิษฐานจิตโดย หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่ จ.เชียงใหม่ ปิดรายการครับ

​

วัตถุประสงค์ เพื่อนำรายได้สมทบทุนค่ารักษาพยาบาล หลวงปู่ชม ฐาณคุตโต อดีตเจ้าอาวาส วัดป่าท่าสุด ศิษย์สร้างถวาย
จัดสร้างจำนวน
1.ชุดกรรมการ 100 ชุด ประกอบด้วย เหรียญหล่อเนื้อเงิน 1 องค์ เนื้อตะกั่ว 1 องค์ เนื้อโลหะผสมกะไหล่ทองคำ 1 องค์ เนื้อโลหะผสม 1 องค์
2.เนื้อตะกั่ว 100 องค์ (แจกกรรมการอุปถัมภ์)
3 เนื้อโลหะผสม 1,000 องค์

 

2832. เหรียญนั่งเต็มองค์ หลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว ปี 2517 (รุ่น3) ให้บูชา 1550 บาท

​

เหรียญรุ่นนี้ นับเป็นพระเหรียญ รุ่นสุดท้ายของ หลวงพ่ออบ วัดถ้ำแก้ว ที่หลวงพ่ออบท่านปลุกเสก ซึ่งมหาชนวน ส่วนผสมที่นำมาสร้างเหรียญนั้น เป็นการนำเอาชนวนเก่าของเหรียญ รุ่นแรก ปี 2516 นำมาผสม เป็นชนวนเก่าต่างๆที่หลงเหลืออยู่ ซึ่งถ้าใครที่ได้อ่านประวัติในการจัดสร้าง เหรียญรุ่นแรก นั้นจะทราบดีว่า มหาชนวนมากมายเข้มขลังขนาดไหน สำหรับ การจัดสร้างเหรียญรุ่นนี้ มี เนื้อทองคำ เนื้อเงิน และ เนื้อนวะโบราณ ทำออกมาด้วยกัน 2 บล็อก คือ บล็อกมีดอกจันทร์ และ ไม่มีดอกจันทร์ .. นับเป็นเหรียญที่สุดยอดอีกรุ่นนึง ที่หลวงพ่ออบท่านปลุกเสกนาน หลวงพ่ออบท่านเลือกในวันเสาร์ 5 หรือ วันฤกษ์ดีในการปลุกเสก สำหรับเหรียญรุ่นนี้ เป็นเหรียญมีประสบการณ์ เป็นที่ประจักษ์ชัด

 

สวัสดีตอนสาย

 

​

 

2833.เหรียญเสมา รุ่นแรก ปี45 หลวงปู่แผ้ว ปวโร ออกวัดกำแพงแสน รุ่นชูศิลป์กุล สร้างถวาย รุ่นประสบการณ์ ปิดรายการครับ

​

 

2834. ตะกรุดไม้ตาลฟ้าผ่า หลวงปู่แผ้ว วัดรางหมัน นครปฐม ปิดรายการครับ

​

ตะกรุดตาลฟ้าผ่า สามกษัตริย์ หลวงปู่แผ้ว และ หลวงพ่อจำลอง วัดเจดีย์แดง หลวงปู่ทิม วัดพระขาว แผ่นเงินตรงกลางมีชื่อหลวงปู่แผ้ว แผ่นทองเหลืองหลวงปู่ทิม และทองแดงหลวงพ่อจำลอง ตรงกลางเป็นไม้ตาลฟ้าผ่า ด้านข้างติดด้วยแผ่นใบลานจารยันต์

 

2835. พระสมเด็จภะคะวา มหาโชค รุ่นพิเศษ วัดโพธิ์ ท่าเตียน กทม. ปี 35 ให้บูชา 399 บาท หลวงพ่อคูณ หลวงปู่หล้าตาทิพย์ ร่วมเสก

​

พระสมเด็จภะคะวา มหาโชค วัดโพธิ์ ท่าเตียน กทม. ปี 35
พระผงรุ่นนี้ให้ชื้อว่า พระสมเด็จห้าพลัง
ทำขึ้นจากมวลสาร 108 โดยผสมผงหิน ดิน ขี้ธูป เกสรดอกไม้ เกล็ดพระศรีมหาโพธิ์จากสถานที่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากประเทศอินเดีย และมวลสารจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศ มีผงอิทธิเจ เกสรดอกไม้ริมทางจากสถานที่บนบานศาลกล่าว เกสรดอกไม้ ดิน หิน ธูป จันทร์ทั้ง 5 ไม้มงคลทั้ง 9 พระผงสมเด็จเก่าที่แตกหักจากกรุอยุธยา เชียงแสนสุโขทัย เปลือกหอยนางรม หอยมุข มวลสารจากวัดปากน้ำซึ่งได้สะสมมานานถึง 7 ปีและได้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกมาแล้ว 5 ครั้ง
มีทั้งหมด 3 พิมพ์คือ
1 พระสมเด็จประทานพร
2 พระสมเด็จปรกโพธิ์
3 พระสมเด็จภะคะวา

เป็นพระสมเด็จ 5 พลังพิเศษ ท้าพิสูจน์รุ่นแรกวัดโพธิ์
วัตถุมงคลทั้ง 3 พิมพ์นี้ได้รับการปลุกเสกเดี่ยวโดยพระอาจารย์ผู้ทรงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์มีฌานอันแก่กล้าพร้อมพลังเมตตามหานิยมครอบจักรวาลคือ
1 หลวงปู่คูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่นครราชสีมา
2 หลวงปู่คง จตฺตมโร วัดเขาสมโภชน์ อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี
3 พระอาจารย์พิมพ์ ผลปุญโญ วัดพฤษะวัน พิจิตร
4 หลวงปู่หล้า ตาทิพย์ วัดป่าตึง จังหวัดเชียงใหม่
5 พระอาจารย์อดุลย์ ฐิตสจฺโจ วัดไผ่เหลืองนนทบุรี

 

2836. ชุดมวลสารเก่าของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ให้บูชาชุดละ 350 บาท เหลือ 3 ชุดสุดท้าย

​

ผมไปร่วมงานไหว้ครูกับอาจารย์มาครับ เลยได้ชุดมวลสารหลวงพ่อกวยมาแบ่งครับ

ในหนึ่งชุดจะมีตะกรุดธูปพิธีไหว้ครูพ่อกวยเมื่อวันที่ 18 ที่ สำนักอาจารเฉลิมชัยแถมไปไห้ด้วยครับ
(ชุดสุดท้ายครับ)มาบอกบุญครับ
(เพราะต่อไปอาจารย์เฉลิมชัยท่านไม่ทำแบ่งแล้วครับเพาะท่านอายุเยอะมากแล้วครับ(แล้วของที่มีก็หมดเเล้วครับ)

ใน 1 ชุด จะมี 6 อย่าง
1.เศษจีวรพ่อกวยปี21
2.เศษจีวรรองโรงเก่าหลวงพ่อ
3.สายสินเก่าในโลงแก้ว
4.ผงพุทธคุณที่หลวงพ่อกวยเสกไว้
5.ผงเศษไม้โลงเก่าหลวงพ่อ
6.เกศาหลวงพ่อกวย

 

2837. ตะกรุุดอิติปิโสนพเคราะห์ รุ่นแรก หลวงปู่ทองเจ้าคุณทอง วัดปลดสัตว์ ปิดรายการครับ

​

ตะกรุดนี้ท่านว่า มีกำลังใหญ่ เพราะอัญเชิญบารมีพระรัตนตรัย เป็นแม่บท ว่าไปถึงกำลังพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ รวมเรียกว่า มหาจักรพรรดิ มีกำลัง 108
หลวงปู่ท่านลงอิติปิโสนั้นแหละ แต่ท่านลงกำกับทิศทั้ง 8 ทิศข้างตัวเบื้องบนเบื้องล่างไม่มีที่ว่างเว้น ศูนย์กลางตะกรุดคือตัวผู้ใช้ (ตัวเรานั้นเอง) คราวนี้ บารมีพระรัตนตรัย รวมกับบารมีของครูบาอาจารย์สืบ ๆ กันมาอัญเชิญมาด้วย แต่ละองค์บำเพ็ญบารมีมายาวนาน มีพลังมาก
จึงทำให้ตะกรุดดอกเล็กแต่สวยงามมีเอกลักษณ์นี้มีอานุภาพแก้ดวงที่ไม่ดีล้มๆลุกๆอยู่นั้นเอง
ให้ลองพกตะกรุดนี้เป็นการสะเดาะห์เคราะห์ เสริมดวงชะตา สิริมงคลชีวิตได้ดีมาก เคราะห์ร้ายกลายเป็นดี เคราะห์ดีก็ดียิ่งขึ้นไป เพราะอัญเชิญ บารมีพระทั้งปวงมาช่วย มาหนุน แต่สำคัญต้องมีใจเคารพศรัทธา เห็นผลมากมายนักต่อนักแล้ว
หลวงปู่ท่านเจ้าคุณทอง ท่านตั้งใจสร้างเพียวครั้งเดียว ใครเชื่อก็เอาไปใช้ ใครไม่เชื่อก็เอาไว้ที่วัดปลดสัตว์ นี้แหละ วัดนี้จะได้เจริญสืบพระศาสนาต่อไป หลวงปู่ท่านไม่ออกให้บูชาทั้งหมด ท่านต้องฝังไว้ที่วัดบ้าง ทำพิธีต้องดูฤกษ์ผานาที สืบไปข้างหน้าลูกหลานหาตะกรุดนี้ไม่ได้ อาจจะมาเขี่ยดินที่วัดปลดสัตว์ เทวดาดลใจเจอของดีของท่านเจ้าคุณทอง นำไปยกฐานะตัวเองก็ได้ใครจะไปรู้
(อิติปิโสนพเคราะห์ รวม กำลังพุทธคุณ บุญญานุภาพ พุทธปริวัตร บารมีเทพนพเคราะห์ และวิชาศักดิ์สิทธิ์ เข้าด้วยกันเป็นการสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตาสิริมงคลชีวิตได้ดีมาก เคราะห์ร้ายกลายเป็นดี เคราะห์ดีก็ดียิ่งขึ้นไป มีทรัพย์มีถุงมิขาด)

 

2838.พระพุทโธ รุ่นแรก ปี 26 หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก วัดทุ่งสามัคคีธรรม จ.สุพรรณบุรี สร้างจากผงพระพุทโธน้อยรุ่นแรกปี94คุณแม่บุญเรือนที่ชำรุด และอัฐิคุณแม่บุญเรือน ปิดรายการครับ

​

​

ประวัติการสร้างพระพุทโธ รุ่นแรก หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก
ย้อนหลังไปประมาณปี 2526 ในขณะนั้นพระอุโบสถวัดทุ่งสามัคคีธรรม จังหวัดสุพรรณบุรี กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก ได้ ปรึกษาหารือกับสหธรรมมิก ของท่านคือหลวงพ่อสุวรรณ ปภัสโร ( สุวรรณ ทองนาค ) วัดอาวุธ โดยท่านเป็นศิษย์ใกล้ชิดคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติมมาตั้งแต่ก่อนที่ท่านจะบวชเป็นพระ ) ถึงการหาจตุปัจจัยที่จะมาดำเนินการให้แล้วเสร็จ หลวงพ่อสุวรรณ จึงให้ความเห็นว่าควรจะสร้างวัตถุมงคลเป็นพระพุทโธ แบบอย่างคุณแม่บุญเรือนเพื่อสมนาคุณแด่ผู้ที่มาร่วมถวายจตุปัจจัย ซึ่งหลวงพ่อสังวาลย์ท่านก็เห็นสมควรด้วย หลวงพ่อสุวรรณท่านจึงรับอาสาจัดสร้างพระพิมพ์พุทโธนี้เพื่อถวายแด่หลวงพ่อสังวาลย์โดยไม่คิดมูลค่าใดๆ ท่านหวังเพียงเพื่อร่วมรับอานิสงค์ในการจัดสร้างพระอุโบสถ วัดทุ่งสามัคคีธรรมในครั้งนี้เท่านั้น การจัดสร้างนั้นกินเวลาค่อนข้างนานเนื่องจากหลวงพ่อสุวรรณท่านไม่มีความชำนาญในการสร้าง ได้ทำการลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ มีการเปลี่ยนและแก้ไขแม่พิมพ์ทั้งด้านหน้าและหลังหลายครั้ง จนส่งผลให้พระชุดนี้มีความหลากหลายทั้งพิมพ์ทรง และเนื้อหา แต่หากสังเกตดีๆแล้ว พระทั้งชุดจะมีความเกี่ยวเนื่องกันในแต่ละองค์ ไม่มากก็น้อย และพระที่สร้างเสร็จในแต่ละคราวก็จะทยอยนำมาที่วัดทุ่งสามัคคีธรรม โดยทั้งที่หลวงพ่อสังวาลย์ท่านลงมารับเองและที่หลวงพ่อสุวรรณท่านนำขึ้นไปถวาย ในช่วงนั้นหลวงพ่อสังวาลย์ท่านขึ้นๆ ลงๆ มาที่วัดอาวุธถึงเดือนละ 4 รอบเลยทีเดียว
หลังจากที่ได้พระมาในแต่ละครั้งหลวงพ่อสังวาลย์ท่านจะทำการอธิษฐานจิตด้วยตัวท่านเองเงียบๆ โดยไม่มีพิธีรีตองใดๆทั้งสิ้น จนบางครั้งพระ ชี ในวัดยังไม่ทราบเลยว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งให้พระรุ่นนี้ไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนเท่าที่ควร หรือได้รับรู้ข้อมูลกันมาแบบผิดๆ จึงทำให้พระชุดนี้เป็นของดีที่ถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดาย เพราะทั้งผู้สร้างและผู้เสกล้วนแล้วแต่เป็นพระผู้ทรงคุณทั้งสององค์
มวลสารการจัดสร้างพระพุทโธ
- ดินนิมิต จากวัดเขาสารพัดดี หลวงพ่อสังวาลย์ท่านนั่งเห็นดินที่มีคุณวิเศษในตัวอยู่ในสระน้ำของวัดเขาสารพัดดี ท่านได้นำหลวงพ่อบุญลือและคณะศิษย์ ไปชี้ตำแหน่งและขุดขึ้นมาโดยปั้นเป็นก้อนกลมๆขนาดกำปั้นผู้ใหญ่โดยเอาผ้าห่อเอาไว้แล้วขนกลับมาที่วัด เมื่อมาถึงที่วัดแล้วท่านก็นำบาตรของหลวงพ่อป้อง ที่ได้ได้รับการถวายมาจากกำนันวงษ์ ( พี่ชายหลวงพ่อสุวรรณ ) มาใส่น้ำแล้วอธิษฐานขอบารมีหลวงพ่อป้องให้ท่านช่วยปลุกเสกดินให้เป็นรอบแรก แล้วจึงนำดินที่เป็นปั้นนั้นลงไปละลายในบาตรเพื่อนำมาเป็นวัตถุดิบในการสร้าง
หมายเหตุ : หลวงพ่อป้องเป็นพระที่หลวงพ่อสังวาลย์ให้ความเคารพนับถือมากอีกรูปหนึ่ง ปัจจุบันกะโหลกส่วนศรีษะท่านที่เผาไม่ไหม้ หลวงพ่อสังวาลย์ท่านได้นำมาใส่ไว้ในโกศ แล้วเอาสายสิจญ์พันรอบหลายๆชั้นด้วยตัวท่านเอง เพื่อป้องกันการเปิดออก โกศนั้นตั้งวางให้บูชาอยู่บนเรือนไทย ที่วัดสังฆทาน กทม
- พระพุทโธน้อยคุณแม่บุญเรือน โตงบุญเติม แตกหัก ซึ่งเก็บรักษาอยู่ที่กุฏิ พระเทพเมธากร เจ้าอาวาสวัดอาวุธในสมัยนั้น หลวงพ่อสุวรรณท่านได้ถวายปัจจัยทำบุญ 20,000 บาทแล้วนำมาทั้งหมด โดยได้พระพุทโธแตกหักและผงมวลสารเก่าๆสมัยคุณแม่บุญเรือนประมาณ 2 ถังใหญ่ สาเหตุหลักที่หลวงพ่อสุวรรณท่านเจาะจงมวลสารนี้เพราะท่านได้รับคำสั่งสอนมาจากคุณแม่บุญเรือนว่า “ ฉันอธิษฐานพระให้เพียงหนเดียวเท่านั้น และพระฉันถึงแตกหักอย่างไร เมื่อนำมาบดแล้วสร้างใหม่ ก็ยังคงศักดิ์สิทธิ์เหมือนเดิมเช่นที่ฉันอธิษฐานให้ “ ซึ่งหลังจากการอธิษฐานพระพุทโธน้อยแล้วคุณแม่ก็ไม่ได้อธิษฐานพระที่ใดอีกเลย
- ศิลาน้ำ คุณแม่บุญเรือน หลวงพ่อสุวรรณท่านได้รับมาจากคุณแม่บุญเรือนเป็นจำนวนมาก ได้นำมาตำจนละเอียด
- ข้าวตอกพระร่วง คุณแม่บุญเรือน หลวงพ่อสุวรรณท่านได้รับมาจากคุณแม่บุญเรือนเป็นจำนวนมาก ได้นำมาตำจนละเอียด ในส่วนผสมนี้หากใช้กล้องส่องจะพบว่าเป็นเม็ดดำๆคล้ายๆนิลปนอยู่ในเนื้อพระ
- ปูนเสก คุณแม่บุญเรือน
- และส่วนผสมที่สำคัญที่สุดในพระชุดนี้คือ อัฐิธาตุ และ ผงอังคารธาตุ ของคุณแม่บุญเรือน จำนวนมาก ที่หลวงพ่อสุวรรณท่านได้เก็บรักษาไว้ โดยหลวงพ่อสุวรรณท่านได้บอกกล่าวขออนุญาตคุณแม่แล้วนำมาบดใส่ทั้งหมดที่ท่านมีอยู่ซึ่งท่านที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนใส่บอกว่า ท่านกำอัฐิธาตุและผงอังคารธาตุที่บดแล้วใส่ในการผสมเนื้อในแต่ละครั้งละเป็นกำๆเลยที่เดียว
-น้ำที่ใช้ประสานเนื้อในพระชุดนี้เป็นน้ำที่ได้มาจากการทำพิธีเสกน้ำ จากศิลาน้ำของคุณแม่บุญเรือนทั้งสิ้น และยังมีน้ำเสกที่คุณแม่เคยเสกไว้ให้ รวมทั้งน้ำที่ได้จากการล้างบาตรหลวงพ่อป้อง (ล้างเพื่อเอาดินที่ติดอยู่ออก)
-ในการปั๊มพระแต่ละครั้งแป้งที่ใช้โรยเพื่อไม่ให้พระติดพิมพ์นั้นก็เป็นแป้งอธิษฐานของหลวงปู่บุดดา ทั้งสิ้น โดยหลวงพ่อสุวรรณได้ไปเช่าบูชา มาเป็นลังๆ (แป้งสปริงซอง)
ส่วนแม่พิมพ์นั้น หลวงพ่อสุวรรณท่านและศิษย์ที่เป็นหมอฟัน ได้ช่วยกันแกะและถอดพิมพ์โดยใช้ต้นแบบเค้าโครงจากพระพุทโธน้อยของคุณแม่บุญเรือน 2494 และพระพุทโธน้อยของวัดอาวุธ ปี 2511 โดยแม่พิมพ์นั้นได้ทำขึ้นมาหลายพิมพ์
พระชุดนี้เดิมทีท่านตั้งใจสร้าง 84,000 กว่าองค์ แต่สร้างจริงได้เพียง 5หมื่นกว่าองค์เท่านั้นเนื่องจากหลวงพ่อสุวรรณท่านเริ่มมีอาการอาพาท แม่พิมพ์เป็นแบบถอดพิมพ์เอง ไม่ค่อยทนทานจึงทำให้ต้องใช้แม่พิมพ์ในแต่ละแบบค่อนข้างมาก
แม่พิมพ์หลัง มี 2 ประเภทคือ
1.บล็อกมาตรฐาน
- คำว่าพุทโธเป็นภาษาขอม ฐานตรง ( ตัวขอมจะเป็นเอกลักษณ์และจุดตายในการจำว่าเป็นพระหลวงพ่อสังวาลย์ ) ใช้กับพิมพ์เล็ก กลาง ใหญ่
- คำว่าพุทโธเป็นภาษาขอม ฐานเฉียง ( ตัวขอมเส้นจะหนากว่ายันต์ด้านหลังพระพุทโธน้อย 2494 เป็นเอกลักษณ์และจุดตายในการจำว่าเป็นพระหลวงพ่อสังวาลย์ )มี 2 ขนาด ใช้กับพิมพ์เล็ก กลาง
- คำว่าอริยทรัพย์ ๗ และถุงเงินถุงทอง ใช้สำหรับปั๊มพิมพ์จัมโบ้เท่านั้น มี 2 แบบ คือหางเลข ๗ คล้าย จ และ ข
- ยันต์นะอะระหังสัมมาสติ ใช้กับพิมพ์เล็ก พิมพ์กลาง พิมพ์ชินราชและพิมพ์พระแก้วมรกต
2.บล็อกชั่วคราว เป็นลักษณะคล้ายตัวปั๊ม ทำจากตะกั่วเอามาปั๊มหลังจากเอาพระออกมาจากแม่พิมพ์แล้ว
- คำว่าพุทโธ ธาตุทอง ใช้สำหรับในพิมพ์กลางเท่านั้น
- คำธรรมต่างๆ (มรรคทั้ง 8 , อริยทรัพย์ 7 )ใช้สำหรับพิมพ์กลางและเล็ก
- หลังเรียบ มีจำนวนน้อยมากๆเป็นพระที่หลงลืมไม่ได้ปั๊มหลัง และพระลองพิมพ์ ไม่ได้พิเศษอะไร
พระทั้งหมดมีการลองผิดลองถูก ทั้งผสมสีผสมผงลองเนื้อในยุคแรกๆ เมื่อทำออกมาไม่สวยจึงเปลี่ยนส่วนผสม มีทั้งเป็นเนื้อดินดิบและเนื้อดินเผาแต่ส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อดินเผาประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ ในการเผาแต่ละครั้งไฟอ่อนแก่ไม่เท่ากันจึงมีวรรณะสีสรรแตกต่างกันไปตั้งแต่ขาวนวลจนถึงดำเข้ม ซึ่งสีดำเข้มนี้มิได้เป็นพระผสมผงใบลานแต่อย่างใด พระพุทโธปี 2526 นี้ จัดสร้างที่วัดอาวุธเพียงที่เดียว และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์(คุณชูชาติ ทองนาคและคุณทรัพย์ทวี เชื่อมแก้ว)ก็ยืนยันว่ามีการจัดสร้างเพียงครั้งเดียวเท่านั้นผู้ร่วมจัดสร้างก็เป็นลูกศิษย์ลูกหาหลวงพ่อสุวรรณที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงท่านเป็นส่วนใหญ่ หลายท่านยังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ดีการบันทึกประวัตินี้ คณะผู้บันทึกมิได้มีส่วนได้ส่วนเสียแต่อย่างใด ทำเพียงแค่ต้องการเผยแผ่ความจริงของวัตถุมงคลรุ่นนี้เพื่อให้เป็นมาตรฐานต่อไป
ลักษณะเนื้อหา
แบ่งได้เป็น 3 ประเภทคือ
1.เนื้อแก่ผง เป็นพระชุดแรกๆที่ลองผิดลองถูกทำเนื้อหายังไม่คงที่ ใส่ดินลงไปน้อย โดยเฉพาะพิมพ์เล็กหลังสัมมาสติที่ได้ทดลองสร้างเป็นครั้งแรก มีการผสมสีลงไป ถึง 5 สี คือแดง น้ำเงิน ขาว เหลือง น้ำตาล แต่ก็มีบางครั้งที่ผสมออกมาแล้วได้สีเพี้ยนไปบ้าง เช่น เขียว ชมพู และได้ลองนำพิมพ์อื่นมาลองกดดูด้วยเนื้อปรกติ ที่ไม่ใส่สีด้วยโดยเนื้อจะออกเป็นสีขาวตุ่นๆ และมีเมื่อทำออกมาแล้วพระไม่ค่อยแกร่งเท่าที่ควร เผาไม่ได้ จึงหยุดใช้ส่วนผสมนี้ จึงเป็นพระที่มีจำนวนน้อยที่สุดของการสร้างครั้งนี้
2. เนื้อดินเผา เป็นเนื้อที่ส่วนผสมลงตัวที่สุด เมื่อเผาแล้วเนื้อแกร่ง โดยส่วนใหญ่จะเผาออกมาได้เนื้อเป็นสีแดงสวย มีคราบแป้งหุ้ม ส่วนสีดำเป็นพระที่แก่ไฟมีจำนวนน้อยมากๆ แต่เป็นสีที่นิยมทีสุด (ไม่ใช่พระเนื้อใบลานอย่างที่เข้าใจกัน ) ขนาดพระจะเล็กกว่าเนื้ออื่นๆในพิมพ์เดียวกันนิดหน่อยเนื่องจากการหดตัวของดินเมื่อถูกเผา พระพิมพ์นี้เป็นพระที่มีจำนวนการสร้างมากที่สุด สีพระจะหลากหลายตามปรกติของพระที่ทดลองเผากันเอง
โดยคุณชูชาติ ทองนาค บุตรชายหลวงพ่อสุวรรณเป็นแม่แรงในการเผาด้วยการใช้เตาเผาที่ใช้พลังงานจากก๊าซ LPG จนพระส่วนใหญ่มีสีแดงจึงนำออกจากที่เผา แต่ที่พบเห็นจะมี แดง ส้ม ชมพู ขาวอมชมพู ดำ เทาเนื่องจากตำแหน่งการวางพระที่ทับซ้อนและการอุณหภูมิของไฟที่ไม่เท่ากัน
3. เนื้อดินดิบ เป็นพระชุดเดียวกับข้อ 2 .ที่ไม่ได้นำไปเผาเนื่องจากหลวงพ่อสุวรรณและกลุ่มผู้ร่วมจัดสร้างต้องการเก็บไว้เป็นที่ระลึก และเพื่อเก็บไว้เป็นแนวทางในการศึกษาเนื้อพระต่อไป เป็นพระที่มีจำนวนมากกว่าเนื้อแก่ผงไม่มาก สีพระจะออกเทาๆอ่อนๆ หรือเทาอมเหลืองอ่อนๆ(สีดอกพิกุล)
หลังจากเสร็จสิ้นการสร้างแล้วแม่พิมพ์ทั้งหมดหลวงพ่อสุวรรณได้นำไปถวายแด่หลวงพ่อสังวาลย์ โดยหลวงพ่อสังวาลย์ได้มอบพระพุทโธที่ได้ทำการอธิษฐานจิตแล้วกลับคืนมาแด่หลวงพ่อสุวรรณจำนวนหนึ่งซึ่งท่านก็ได้นำมาแจกจ่ายแด่บรรดาผู้ที่ร่วมออกแรงในการสร้างพระชุดนี้ถวายได้แก่ คุณชูชาติ คุณแอ๊ว คุณเจี๊ยบ คุณนก คุณประจวบ คุณป๋อง คุณเจริญ คุณแดง และอีกหลายๆท่านซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบรรดาศิษยานุศิษย์ของหลวงพ่อสุวรรณที่วัดอาวุธ ทั้งสิ้น
ในบั้นปลายชีวิตหลวงพ่อสุวรรณท่านได้ย้ายจากวัดอาวุธมาอยู่วัดทุ่งสามัคคีธรรม เพื่อรักษาตัวจากอาการอาพาธโดยหลวงพ่อสังวาลท่านได้รับอุปการะท่านจนถึงวาระสุดท้ายและได้มีการนำพระพุทโธชุดที่ท่านสร้างนี้มาแจกเป็นที่ระลึกแก่ผุ้ที่มาร่วมงานฌาปณกิจศพของท่านด้วย(หลังธาตุทอง)

 

........

 

2839. พระปิดตาปัฐวีธาตุ (มหาลาภ) หลวงปู่ลี กุสลธโร วัดเกษรศิลคุณธรรมเจดีย์ (วัดภูผาแดง) ปี 2559 ปิดรายการครับ

​

สุดยอดมวลสารผงอังคารธาตุ
หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
หลวงปู่ฝั้น อาจาโร
หลวงปู่ขาว อนาลัย
หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
หลวงปู่เพียร วิริโย
หลวงปู่สุนีย์ สิริจันโท
หลวงปู่ผาง ปริปุณโณ
หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป
หลวงปู่คูณ สุเมโธ
หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท
หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
หลวงปู่ปัญญา ปัญญาวัฑโฒ
หลวงปู่ชอบ ฐานสโม

มวลสารมงคลอื่นๆ ดังนี้
ผงไม้พยุงวัดป่าบ้านตาด ,ผงไม้กุฎิหลวงปู่มั่น ,ภูริทัตโต ,ผงไม้กุฎิหลวงตามหาบัว ,ผงดิน 4 พระธาตุ ,อย่าประคบหลวงปู่ลี-หลวงปู่อุ่นหล้า ,ผงพระวัดพุทธนิมิตนครสวรรค์(หลวงปู่ฝั้น หลวงปู่ขาว หลวงปู่เทศก์ ปลุกเสก) ,พระชัยมงคลปู่ลีที่แตกหัก ,พลอยเสกหลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท
ผงพุทธคุณ
วัดป่าบ้านตาด วัดป่าภูผาแดง วัดป่านาคูณ
ข้าวก้นบาตรและคำหมาก
ข้าวก้นบาตรหลวงตามหาบัว หลวงปู่บุญมี หลวงปู่อุ่นหล้า หลวงพ่อเปลี่ยน หลวงพ่อประสิทธิ์ หลวงพ่ออุทัย หลวงปู่แฟ๊บ และหลวงปู่ลี

 

​