ติดตามสถานะการณ์

ใครที่กู้มาก็หนี้ท่วม ส่วนใครที่ใช้เงินตัวเองก็คิดว่าเงินหาย

หยบลมพายุแอบร้องในห้องน้ำหลังจากหลังคาปลิวทุกอย่างพังสวนยางที่กำลังจะตัดได้ล้มหมดสวนผลไม้ล้มหมดแล้วที่บ้านนคร

 

โพสต์ทูเดย์


ปภ.แถลงพายุปาบึกสร้างความเสียหาย 8 จังหวัด มีผู้เสียชีวิต 3 ราย


#พายุปาบึก #พายุโซนร้อนปาบึก

 

Senee Pholpinih


ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา

"พายุ “ปาบึก” (PABUK)"

ฉบับที่ 23 ลงวันที่ 05 มกราคม 2562

เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (5 ม.ค. 62) พายุดีเปรสชัน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณทะเลอันดามัน โดยมีศูนย์กลางอยู่ห่างจากชายฝั่งทางทิศตะวันตกของอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา ประมาณ 5 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 8.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 98.2 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยอย่างช้าๆ ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ โดยจะมีผลกระทบต่อไปอีก 1 วัน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำได้

สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันยังคงมีกำลังแรง โดยทะเลมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ ระวังอันตรายจากลมแรง และคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรงดการเดินเรือต่อไปอีก 1 วัน


ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง


ประกาศ ณ วันที่ 5 มกราคม 2562 เวลา 11.00 น.


(ลงชื่อ)


(นายภูเวียง ประคำมินทร์)


อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา

 

Rti Fanpage


นักอุตุนิยมวิทยาไต้หวันชี้ พายุปาบึกทุบสถิติ 2 รายการ เป็นไต้ฝุ่นลูกแรกที่พัดผ่านแหลมมลายูและเป็นลูกแรกที่ก่อตัวในแปซิฟิกแต่พัดข้ามเข้าสู่มหาสมุทรอินเดีย...#RtiFanpage

 

Rti Fanpage


ไต้หวันบริจาค 2 แสนดอลลาร์ ช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุในฟิลิปปินส์

 

Wattana Kanbua


ผลการพยากรณ์เส้นทางเดินพายุโซนร้อน "ปาบึก" ในทะเลจีนใต้

ออกประกาศจาก JTWC http://www.metoc.navy.mil/jtwc/

เวลา 10.00 น. วันที่ 5 มกราคม 2562

http://www.metoc.navy.mil/jtwc/products/wp3618.gif

 

พนิดา แม่สาย


พายุไปแล้ว ก็จะทิ้งร่องรอยความเสียหายมากมาย

แต่ยุคสื่อสารออนไลน์รวดเร็ว การเสียชีวิตแทบไม่มี

เป็นกำลังใจให้คนที่ต้องซ่อมแซมบ้านเรือน

ได้ข่าวว่า รัฐบาลให้จังหวัดละ20ล้าน

Cr ภาพข่าว

 

Wattana Kanbua


Pabuk Long Floater - Visible Imagery Loop

------------------------------------------------------------


https://www.ssd.noaa.gov/PS/TROP/floaters/36W/flash-vis-long.html

 

Richard Whitt


• กลุ่มตัวแทนจากรัฐบาลจีน...ได้รับอนุญาตให้เข้าไปบริหารจัดการสิทธิประโยชน์ทั้ง...'ปิโตรเคมีภัณฑ์และอุตสาหกรรมเหมืองแร่' ที่มี...'เพชรพิ้งก์สตาร์' (Steinmetz Pink) มีคุณภาพดีที่สุดในโลกของสาธารณรัฐคองโก ทำให้สภาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ (CFR) อดรนทนไม่ไหวจึงส่งหน่วยปฏิบัติการพิเศษนาวิกโยธินไปสร้างสถานการณ์เพื่อให้เกิดวิกฤตการณ์...ในการปิดล้อมจีน

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 5) แบงก์ชาติจีนให้คำมั่นสนับสนุนสถาบันการเงินปล่อยกู้ภาคเอกชนต่อเนื่องในปีนี้: ธนาคารกลางจีนประกาศเดินหน้าสนับสนุนสถาบันการเงินให้สามารถปล่อยเงินกู้ให้กับภาคเอกชนได้ต่อไปในปี 2562 โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทขนาดเล็กและขนาดย่อม
ธนาคารกลางจีนระบุในแถลงการณ์ภายหลังการประชุมคณะทำงานเมื่อวานนี้ว่า รัฐบาลท้องถิ่นจะได้รับการสนับสนุนให้จัดตั้งกองทุนเพื่อการระดมเงินทุนให้กับบริษัทเอกชน รวมทั้งจะสนับสนุนให้มีการใช้เครื่องมือสำหรับการระดมเงินทุนผ่านหลักทรัพย์และหุ้นกู้สำหรับบริษัทเอกชน ซึ่งจะครอบคลุมถึงบริษัทเทคโนโลยีขั้นสูง ภาคธุรกิจเกิดใหม่ และกลุ่มผู้ผลิตที่กำลังอยู่ในระหว่างการยกระดับเชิงโครงสร้าง
นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบรอบคอบต่อไป ซึ่งหมายถึงการไม่คุมเข้มหรือผ่อนคลายนโยบายการเงิน ขณะเดียวกันก็จะรักษาสภาพคล่องให้อยู่ในระดับที่เพียงพอและเหมาะสม และรักษาอัตราดอกเบี้ยในตลาดให้อยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพและเหมาะสมเช่นกัน
ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ธนาคารกลางจีนได้ประกาศปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 1% เมื่อวานนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยการปรับลด RRR จะมีการดำเนินการ 2 รอบ โดยเป็นการปรับลด RRR 0.5% ในวันที่ 15 ม.ค. และอีก 0.5% ในวันที่ 25 ม.ค.
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนคาดหวังว่า มาตรการปรับลด RRR ดังกล่าวจะทำให้มีการระบายเงินสดจำนวน 8 แสนล้านหยวนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ และช่วยผ่อนคลายปัญหาสภาพคล่องตึงตัวในช่วงเทศกาลตรุษจีน สำนักข่าวซินหัวรายงาน
Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช
https://www.cnbc.com/2019/01/04/china-cuts-banks-reserve-ratios-by-100-bps-as-economy-slows-.html

 

หางพายุ “ปาบึก” โหมคลื่นซัดเมืองสัตหีบ บ้านเรือนสะพาน พังพินาศ 5 January 2019



รายงานข่าวเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 5 ม.ค.61 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบความเสียหายบ้านเรือน ในชุมชนชายทะเล หมู่1 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี หลังได้รับผลกระทบจากหางพายุ “ปาบึก” ทำให้ชายฝั่งมีลมกรรโชกแรง คลื่นสูงกว่าปกติ และระดับน้ำทะเลชายฝั่งหนุนสูงกว่า 4 เมตร ทำให้บ้านเรือนกว่า 20 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหาย ชาวบ้านต้องอพยพพากันหนีน้ำ ซึ่งบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายล้วนเป็นพื้นทำจากไม้ ทำให้ถูกแรงคลื่นซัดจนพังพินาศ


ส่วนบริเวณสะพานปลาห้องเย็น ยังถูกเกลียวคลื่นซัดคอสะพานจนขาดออกจากกัน และเรือประมงเล็กที่ทิ้งสมอจอดลอยลำอยู่บริเวณชายฝั่งใกล้เคียง ก็ถูกคลื่นซัดจมหายไปในทะเลเกือบ 10 ลำ ขณะนี้ กลุ่มชาวประมงกำลังระดมกันช่วยกู้ซากเรือขึ้นจากทะเล อย่างไรก็ตาม ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ดังนั้นทางกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ออกประกาศให้ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่ง โปรดใช้ความระมัดระวังอย่างมาก และเพื่อเป็นการป้องกันภัยอันตรายจากคลื่นทะเล เรือประมงเล็กและใหญ่ ขอให้หยุดออกทะเลหาปลาในช่วงนี้จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ






ด้านนายภูเวียง ประคำมินทร์ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุ “ปาบึก” (PABUK)" ฉบับที่ 24 ลงวันที่ 05 มกราคม 2562 เมื่อเวลา 11.00 น. ของวันนี้ (5 ม.ค. 62) พายุดีเปรสชัน “ปาบึก” (PABUK) บริเวณทะเลอันดามัน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 15 กิโลเมตร จากชายฝั่งทางทิศตะวันตกของอำเภอตะกั่วป่า จังหวัดพังงา หรือที่ละติจูด 8.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 98.1 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อยด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลักษณะเช่นนี้ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่ โดยจะมีผลกระทบต่อไปอีก 1 วัน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขังในที่ลุ่มต่ำได้


สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันยังคงมีกำลังแรง โดยทะเลมีคลื่นสูง 3-5 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ ระวังอันตรายจากลมแรง และคลื่นลมแรงที่พัดเข้าหาฝั่ง ชาวเรือควรงดการเดินเรือต่อไปอีก 1 วัน ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวพยากรณ์อากาศ และประกาศเตือนภัยได้ที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา https://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

http://www.thansettakij.com/content/370455

 

สถานการณ์โลก ด้านความมั่นคง

สถานการณ์ขณะนี้และเศรษฐกิจโลกแบบนี้: ใครอยากเอามือไปซุกหีบก็เชิญตามสบาย/ผู้นำไต้หวันขอนานาชาติสนับสนุนหลังถูกจีนแผ่นดินใหญ่ขู่ โดยใช้คำว่าเพื่อรักษาระบอบประชาธิปไตยและวิถีชีวิตแบบไต้หวัน/ แนะนำให้เชิญสหรัฐเป็นคนแรกเข้ามาสนับสนุน เพราะขายอาวุธให้ไต้หวันและหาเงินเข้ากระเป๋ารัฐบาลเงาสหรัฐไปมากโขอยู่/

 

คำเตือนเยลโลว์สโตน: แผนฉุกเฉินของนาซ่าเพื่อชะลอไม่ให้ทำงาน - นี่คือเหตุผล

แผนฉุกเฉินของ NASA เพื่อทำใหซุปเปอร์ภูเขาไฟเยลโลว์สโตน สงบ โดยสูบน้ำแรงดันสูง เข้าสู่โลก ลึก10 กม. เพื่อทำให้มันเย็นลงจะไม่ทำงานตามที่ผู้เชี่ยวชาญของภูเขาไฟกล่าว โดย FREDDIE JORDAN 20:05, พุธ, 2 มกราคม 2019 | อัปเดต: 20:08, พุธ, 2 มกราคม 2019
เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาบีบีซีรายงานว่า NASA เชื่อว่า "ทางออกที่เป็นไปได้มากที่สุด" ต่อความเป็นไปได้ของซุปเปอร์ภูเขาไฟ เยลโลว์สโตน ที่มีการปะทุอย่างรุนแรง โดยจะเจาะลึกลงไปในสระแมกมาของภูเขาไฟหลายไมล์ การเจาะจะไม่แตะหินหนืด เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการเกิดแรงดันภูเขาไฟอย่างกะทันหัน แต่จะทำอยู่เหนือหินหนืด แนวคิด 3 พันล้านปอนด์ได้รับแรงฉุดขณะที่เยลโลว์สโตนได้รับการจัดอันดับให้เป็น“ ภูเขาไฟที่มีความเสี่ยงสูง” แต่เป็นการสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา
เมื่อถามโดย Express.co.uk ว่าเขาคิดว่าแผนนั้นเป็นไปได้หรือไม่เขาก็ตอบว่า“ ไม่”
เขาหัวเราะต่อ:“ ไม่
“ เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่ฉันได้อ่านรายงานตัวเอง
ซุปเปอร์ภูเขาไฟ เยลโลว์สโตน : ภูเขาไฟที่มีความเสี่ยงสูงโดยการสำรวจทางธรณีวิทยาของสหรัฐอเมริกา
(ภาพ: เก็ตตี้)
“ ฉันไม่คิดว่ามันเป็นตัวเลือกที่มีประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์”
ข้อสรุปของเขาคือข่าวร้ายสำหรับผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึงของการปะทุที่เยลโลว์สโตน
ดร. สปาร์กอธิบายว่าฤดูหนาวของภูเขาไฟจะน่ากลัวสำหรับการดำรงอยู่ของเราในฐานะเผ่าพันธุ์
เขาอธิบายเพิ่มเติม:“ ถ้ามีอยู่มันจะมีผลกระทบต่อโลกอย่างมหาศาล มันจะมีผลกระทบร้ายแรงต่อความมั่นคงด้านอาหาร เพื่อการค้าและในช่วงเวลาสั้น ๆ ไม่กี่ปีก็จะมีการแช่แข็งลึก
“ จะมีผลกระทบสภาพอากาศอย่างมหาศาล
“ การปะทุครั้งใหญ่มากทำให้เกิดมลพิษมากมายในบรรยากาศ ที่สะท้อนรังสีของดวงอาทิตย์ที่อยู่ห่างจากโลก
“ การปะทุครั้งยิ่งใหญ ่ยิ่งมีมลพิษมากขึ้นและมลภาวะก็จะยาวนานขึ้น
“ ดังนั้นด้วยการปะทุครั้งใหญ่เหล่านี้ฤดูหนาวของภูเขาไฟจึงรุนแรงมาก
“ แบบจำลองชี้ให้เห็นว่าอุณหภูมิลดลงประมาณสิบสิบห้าองศาเซนติเกรดทั่วโลก”
Yellowstone WARNING: NASA's emergency plan to slow supervolcanoes WON'T work - here's why
NASA’s emergency plan to calm Yellowstone supervolcano by pumping high-pressure water 10 km into the Earth to cool it down won’t work, according to a volcano expert. By FREDDIE JORDAN 20:05, Wed, Jan 2, 2019 | UPDATED: 20:08, Wed, Jan 2, 2019
Last August, it was reported by the BBC that NASA believes the “most viable solution” to the possibility of the Yellowstone supervolcano having a catastrophic eruption would be to drill several miles down into the volcano’s magma pool to pump down water at a high pressure. The drill would not touch the magma due to the risk of sudden depressurisation setting the volcano off, but would sit just above. The £3 billion idea gained traction as Yellowstone was ranked a ‘high-risk’ volcano but the US Geological Survey.
When asked by Express.co.uk whether he thought the plan was feasible, he simply replied: “No.”
Laughing, he continued: “No.
“It’s surprising, I’ve read that report myself.
Yellowstone Supervolcano: The volcano is branded 'high-risk' by the US Geological Survey
Yellowstone Supervolcano: The volcano is branded 'high-risk' by the US Geological Survey (Image: Getty)
“I don’t think its a scientifically viable option.”
His conclusion is bad news for the potentially apocalyptic outcome of an eruption at Yellowstone.
Dr Sparks explained that a volcanic winter would be dire for our existence as a species.
He elaborated: “If there was one it would have an enormous global impact. It would have dire consequences for food security, for trade and for a short time, a few years, there would be a deep freeze.
“There would be enormous climate effects.
“A very big eruption puts a lot of pollution into the atmosphere that reflects the sun’s radiation away from the Earth.
“The bigger the eruption, the more pollution there is and the pollution lasts for a longer time.
“So with these very big eruptions the volcanic winter is really severe.
“The models suggest that the temperature drops by maybe ten, fifteen degrees centigrade across the Earth.”
https://www.express.co.uk/news/worl...arning-apocalypse-volcano-update-Ring-of-Fire

 

ทันข่าว กระบี่

5ไร่ ไปเกือบหมด น่าเสียดาย เพราะปาบึกตัวเดียว พิกัด นครศรีฯ

 

ข่าวช่องวัน

บางแสนน้ำทะเลหนุน ชาวบ้านบอกเพิ่งเคยเจอ

 

3-5 พันล้านเป็นแค่สูญรายได้จากการจับจ่ายของประชาชนและนักท่องเที่ยว แต่ความเสียหายจากทรัพย์สินของประชาชนและหน่วยงานต่างๆ มีมูลค่าเท่าไหร่



‘พายุปาบึก’ ทำเศรษฐกิจภาคใต้เสียหายหนัก หอการค้าไทย ประเมินไม่ต่ำกว่า 3,000 ล้านบาท 5 มกราคม 2019

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย ประเมินพายุปาบึกส่งผลกระทบเศรษฐกิจคาดเสียหายประมาณ 3,000 – 5,000 ล้านบาท ปิดสนามบิน จ.นครศรีธรรมราช และ จ.สุราษฎร์ธานี กระทบการท่องเที่ยว

นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินว่า พายุปาบึกส่งกระทบการจับจ่ายของประชาชนและนักท่องเที่ยว คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 3,000 – 5,000 ล้านบาท แต่เชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายและฟื้นตัวกลับเข้าสู่ภาวะปกติในเร็ววันนี้ ขณะที่สมาคมธุรกิจท่องเที่ยว ระบุว่ายังไม่พบความเสียหายทางอย่างมีนัยสำคัญ ยกเว้นในพื้นที่ที่มีการปิดสนามบินพร้อมเสนอให้รัฐบาลใช้โอกาสนี้ ชี้แจงความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน ในการดูแลนักท่องเที่ยวและประชาชน ที่อาจได้รับผลกระทบจากพายุปาบึกอย่างเป็นระบบต่อสื่อมวลชนทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นการท่องเที่ยว



ด้านนายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธนาคารได้เตรียมมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนผู้ประสบภัย จากพายุปาบึกแล้ว เบื้องต้น ให้พนักงานในพื้นที่นำถุงยังชีพไปมอบแก่เกษตรกรและผู้ประสบภัยในศูนย์อพยพ หรือ จุดรวมพลต่างๆ รวมทั้ง จัดหาอาหาร น้ำดื่ม บริการสุขาเคลื่อนที่ เต็นท์สนาม รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านอื่นๆ เช่น ค่าเช่าเรือ ค่าเช่ารถบรรทุก ค่าแรงงาน หลังสถานการณ์คลี่คลาย ธนาคารจะเร่งสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาพิจารณาให้ความช่วยเหลือฟื้นฟูหลังประสบภัย เช่น การมอบเงินเพื่อสมทบทุนสร้างบ้านหลังใหม่ การซ่อมแซมทรัพย์สินของใช้จำเป็น การซ่อมแซมเครื่องจักรการเกษตร และค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องในการให้ความช่วยเหลือกรณีฟื้นฟูหลังประสบภัย รวมทั้งพิจารณาขยายระยะเวลาชำระหนี้เกษตรกร และผู้ประสบภัย ในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก และให้สินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินและฟื้นฟูการประกอบอาชีพเป็นกรณีพิเศษต่อไป



https://workpointnews.com/2019/01/05/พายุปาบึก-ทำเศรษฐกิจภา/

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 4) 2562 ปีแห่งความผันผวน ศึกค้าโลกจุดความเสี่ยงต่อ: เศรษฐกิจโลกปีหมู 2562 อาจไม่หมูดังชื่อ เพราะเต็มไปด้วยปัจจัยเสี่ยงทั้งเศรษฐกิจและการเมือง ไม่ว่าจะเป็น "สงครามการค้า" ที่ต้องรอลุ้นผลเจรจาระหว่างสหรัฐกับจีน "เบร็กซิต" ที่ใกล้ถึงกำหนดเส้นตาย ในเดือน มี.ค.นี้ "เศรษฐกิจจีนขาลง" ที่อาจฉุดหลายประเทศลงไปด้วย "เฟด" ที่จะส่งผลกระทบต่อธนาคารกลางไปจนถึงตลาดหุ้นทั่วโลกในปีนี้ และ "การเลือกตั้ง" ที่น่าจับตาในหลายประเทศของเอเชีย

"สงครามการค้า"กดดัน ศก.ต่อ

สงครามการค้าที่ทำให้ทั่วโลกโล่งใจ มาได้พักหนึ่งกับการสงบศึกชั่วคราว 90 วัน จะกลับมาเป็นประเด็นร้อนที่เขย่าเศรษฐกิจโลกให้ผันผวนอีกครั้งตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ โดยผู้แทนของสหรัฐและจีนจะร่วมประชุมกันนัดแรกที่กรุงปักกิ่งในเดือน ม.ค.นี้ หากมองในเชิงบวกนั้น นักวิเคราะห์มองไปที่สัญญาณต่อเนื่องของจีนที่ผ่อนคลายลง อาทิ การเตรียมเปิดตลาดมากขึ้น การเตรียมร่างกฎหมายห้ามบังคับให้บริษัทต่างชาติถ่ายโอนเทคโนโลยี การเตรียมลดการอุดหนุนตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) การลดภาษีรถยนต์สหรัฐเหลือ 15% และการรับซื้อสินค้าเกษตรและพลังงานของสหรัฐเพิ่ม

ทว่าก็ยังไม่มีสำนักวิเคราะห์ใดที่เชื่อว่าสงครามการค้าจะจบลงได้ภายใน 90 วัน เพราะปัญหาระหว่างสหรัฐกับจีนคือหนังม้วนยาวที่ลามไปถึงภาคเทคโนโลยีของจีน ทั้งในแง่เทคโนโลยี 5จี ที่จะมีการประมูลคลื่นในหลายประเทศปีนี้ ซึ่งจีนเป็นเบอร์ 1 ด้านอุปกรณ์ 5จี อยู่ รวมไปถึงการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ที่จีนมีเป้าหมายเป็นผู้นำโลกด้านเอไอภายในปี 2030 นอกจากนี้ แกนนำฝั่งเดโมแครตหลายคนและสายเหยี่ยวรอบตัวผู้นำสหรัฐก็ยังมีท่าทีแข็งกร้าว ดังนั้น จึงยังวางใจไม่ได้ และอาจต้องเตรียมรับผลกระทบตามมาอีก เช่นล่าสุดที่บริษัทแอปเปิ้ล อิงค์ ต้องหั่นคาดการณ์รายได้ไตรมาสสุดท้ายของปี 2018 ลง เพราะคาดว่ารายได้จะหายไปเยอะในตลาดจีน

ฟาก "เศรษฐกิจจีน" คาดว่าจะรับผลกระทบสงครามการค้าที่ดีเลย์ไปเห็นผลในปีนี้มากกว่า ซึ่งธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) คาดว่าจีดีพีจีนปีนี้จะโตได้เพียง 6.2% ซึ่งจะเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี จากเดิมที่โตได้ 6.5% ในปีที่แล้ว โดยปัจจุบันจีนและหลายประเทศส่งออกในเอเชียเริ่มเจอแรงกดดันหนักขึ้นตั้งแต่ช่วงไตรมาส 4 ที่ผ่านมา อาทิ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ของจีนในเดือน ธ.ค. ปรับลงแตะ 49.7 จาก 50.2 ในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 19 เดือน นับตั้งแต่เดือน พ.ค. 2017 และหลุดระดับ 50 หรือเข้าขั้นถดถอยเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี ซึ่งสะท้อนว่าภาคการผลิตจีนกำลังย่ำแย่หนัก สอดคล้องกับดัชนีพีเอ็มไอในอีกหลายที่ เช่น ไต้หวัน ที่ 47.7 หรือต่ำสุดนับแต่เดือน ก.ย. 2015 ของมาเลเซียอยู่ที่ 46.8 ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนเวียดนามอยู่ที่ 53.8 ลดลงจาก 56.5 และฟิลิปปินส์ปรับลงแตะ 53.2 จาก 54.2

อย่างไรก็ดี จีนยังไม่ส่งสัญญาณว่าจะใช้มาตรการกระตุ้นทางการเงินหรือการคลังครั้งใหญ่ เหมือนที่เคยใช้มาเมื่อราว 10 ปีก่อน แต่ระบุเพียงว่าจะจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และใช้มาตรการกระตุ้นอย่างรอบคอบ แต่เชื่อว่าหากสถานการณ์ในปีหน้ายังไม่กระเตื้องขึ้น จีนอาจจำเป็นต้องงัดยา กระตุ้นแรงมาใช้ในที่สุด

ขณะที่ "ราคาน้ำมันโลก" น่าจะกลับมากระเตื้องขึ้นในปีนี้ เพราะการลดกำลังการผลิตของกลุ่มประเทศ ผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ (โอเปก) และรัสเซีย จะมีผลบังคับใช้ในปีนี้ แต่หลายสำนักยังเชื่อว่าจะขึ้นได้ไม่มาก เพราะยังมีแรงกดดันเรื่องซัพพลายล้นตลาดอยู่ โดยเฉพาะการผลิตจากฝั่งเชลออยล์ ในสหรัฐ โดยซิตี้แบงก์คาดว่าราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสปีนี้จะอยู่ที่เฉลี่ย 49 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ส่วนแบงก์ ออฟ อเมริกา เมอร์ริล ลินช์ ให้ที่ 59 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่ราคาเมื่อวานนี้อยู่ที่ราว 45.35 ดอลลาร์/บาร์เรล

ด้าน "ธนาคารกลางสหรัฐ" หรือ เฟด ปรับลดคาดการณ์ขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ลงเหลือ 2 ครั้ง จากคาดการณ์เดิมที่ 3 ครั้ง และตลาดทุนคาดการณ์ว่ามีสิทธิจะลดลงเหลือเพียง 1 ครั้งด้วย หากสถานการณ์เศรษฐกิจแย่ลง ขณะที่รอยเตอร์สรวมความเห็นนักวิเคราะห์ว่า ปี 2562 น่าจะเป็นปีที่แบงก์ชาติทั่วเอเชียได้ "พักยาว" เพราะมีแรงกดดันจากเฟดลดลง และคาดว่าอัตราเงินเฟ้อปีนี้จะไม่ขยายตัวมากนัก ยกเว้นแต่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ เช่น เงินทุนไหลออกกดดันค่าเงินของตัวเองอย่างหนัก ซึ่งจะทำให้ต้องขึ้นดอกเบี้ยสกัดเอาไว้

การเมืองเอเชีย 2562 ร้อนแรง

"จีน" เปิดศักราชใหม่พุ่งเป้าไปที่ "ไต้หวัน" โดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน กล่าวปราศรัยในวาระครบรอบ 40 ปี ความสัมพันธ์กับไต้หวันที่ดีขึ้น ย้ำถึงการผนึกรวมไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนว่า เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเตือนไม่ให้พยายามแยกตัวเป็นอิสระจากจีน โดยย้ำว่าจะไม่ตัดทางเลือกการใช้แสนยานุภาพทางทหารเพื่อผนึกรวมไต้หวันเข้ากับจีนด้วย ทำให้ประธานาธิบดี ไช่อิงเหวิน ของไต้หวัน กล่าวตอบโต้แข็งกร้าวไม่ยอมรับการรวมชาติ และไต้หวันไม่ยอมรับหลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ของจีน ทำให้สถานการณ์ช่องแคบไต้หวันกลายมาเป็นประเด็นร้อนใหม่ทางการเมืองฝั่งเอเชียในปีนี้ที่น่าจับตาอย่างยิ่ง

ด้านสถานการณ์บน "คาบสมุทรเกาหลี" ยังคงเป็นภาคต่อที่ต้องติดตามว่าจะได้ไปต่อหรือล้มเหลวลง หลังจากที่มีการเปิดศักราชใหม่แก้ปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือมาในปีที่แล้ว โดยผู้นำสองเกาหลีได้ลงนามปฏิญญาปันมุนจอม เพื่อสันติภาพ ความรุ่งเรือง และการรวมชาติบนคาบสมุทรเกาหลี อีกทั้งยังมีการพบกันครั้งประวัติศาสตร์ระหว่างประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์ และผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ คิมจองอึน ที่สิงคโปร์

สุดท้าย ปัจจัยการเมืองโลกที่ต้องจับตาย่อมหนีไม่พ้นการเลือกตั้งใหญ่ทั่วเอเชีย ตั้งแต่ "ประเทศไทย" ซึ่งเป็นการเลือกตั้งครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี ในเดือน ก.พ. จากนั้นไปต่อที่การเลือกตั้งทั่วไปใน "อินเดีย" ในเดือน มี.ค.-เม.ย. และการเลือกตั้งประธานาธิบดี "อินโดนีเซีย" ในวันที่ 17 เม.ย.

สำนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ยังไม่มีใครมองว่าจะเกิดเซอร์ไพรส์ เพราะฝ่ายรัฐบาลทุ่มอัดนโยบายประชานิยมกันหนัก และฝ่ายค้านยังไม่สามารถทำคะแนนไล่สูสีได้ เช่น อินโดนีเซีย ซึ่งประธานาธิบดี โจโก วิโดโด มีคะแนนนำ ปราโบโว ซูเบียนโต ที่เกือบ 55% ต่อ 30.6% เช่นเดียวกับในอินเดีย ที่คาดว่าพรรคภารติยะ ชนตะ (บีเจพี) ของนายกรัฐมนตรี นเรนทร โมที จะยังชนะแม้จะได้เสียงลดลง ซึ่งชัยชนะต่อเนื่องจะทำให้รัฐบาลอินเดียสามารถสานต่อยุทธศาสตร์ทั้งในและระหว่างประเทศที่ช่วยคานจีนในปีแห่งความผันผวนนี้ด้วย
ทีมข่าวต่างประเทศโพสต์ทูเดย์
Source: Posttoday

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 5) 3 แบงก์รัฐเยียวยาผู้ประสบภัย : ธนาคารรัฐ 3 แห่ง ทั้ง ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เตรียมมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนปาบึก ด้วยการพักหนี้ ลดดอกเบี้ย ให้กู้เพิ่ม โดย ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ลูกค้าของธนาคารที่อาศัยหรือมีสถานประกอบการในพื้นที่ได้รับการประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัย หากได้รับผล กระทบเสียหาย ส่งผลให้รายได้ลดลง และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น สามารถพักชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยได้เป็นระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งเมื่อครบกำหนดแล้ว ให้พักชำระเงินต้นได้อีก 2-3 ปี โดยในระหว่างพักชำระเงินต้น ให้ชำระเฉพาะส่วนที่เป็นดอกเบี้ยรายเดือน 50-100% ของดอกเบี้ยที่เกิดขึ้น โดยเงื่อนไขการพักชำระหนี้หรือการผ่อนชำระหนี้ดังกล่าว จะพิจารณาตามความรุนแรงหรือผลกระทบที่ลูกค้าได้รับ

ฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. กล่าวว่า ได้เตรียมวงเงิน 1,000 ล้านบาท ทำโครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปี 2562 เช่น การลดดอกเบี้ยและเงินงวดผ่อนชำระให้กับลูกค้า โดยเดือนที่ 1-4 อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี เดือนที่ 5-16 อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (เอ็มอาร์อาร์) ลบ 2.50% เดือนที่ 17-24 อัตราดอกเบี้ย เอ็มอาร์อาร์ ลบ 2.00% ปีที่ 3 อัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ลบ 1% และปีที่ 4 จนถึงตลอดอายุสัญญาเงินกู้กรณีลูกค้าสวัสดิการ ดอกเบี้ยเท่ากับ เอ็มอาร์อาร์ลบ 1%

นอกจากนี้ ยังเปิดให้ลูกค้าสามารถขอกู้เพิ่ม หรือกู้ใหม่ เพื่อปลูกสร้างอาคารทดแทนหลังเดิม หรือกู้ซ่อมแซมอาคารที่ได้รับความเสียหายรายละไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อ 1 หลักประกัน คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้คงที่ 3.00% นาน 3 ปี หลังจากนั้น กรณีลูกค้าสวัสดิการคิดอัตราดอกเบี้ย เอ็มอาร์อาร์ลบ 1.00% ส่วนลูกค้ารายย่อยคิดอัตราดอกเบี้ยเอ็มอาร์อาร์ลบ 0.50%

กรณีลูกค้าขอประนอมหนี้เพราะหลักประกันเสียหายสามารถประนอมหนี้ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี 4 เดือน คิดอัตราดอกเบี้ย 0% นาน 4 เดือนแรกโดยไม่ต้องชำระเงินงวด จากนั้นเดือนที่ 5-16 อัตราดอกเบี้ย 1% โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน และเมื่อครบระยะเวลาประนอมหนี้ ให้ลูกหนี้กลับมาใช้อัตราดอกเบี้ยตามสิทธิเดิมก่อนที่จะใช้มาตรการนี้

สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้ประนอมหนี้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี อัตราดอกเบี้ย 1% โดยให้ผ่อนชำระเงินงวดไม่น้อยกว่าดอกเบี้ยรายเดือน ส่วนลูกหนี้ที่เสียชีวิตหรือทุพพลภาพถาวร ให้ผ่อนชำระโดยใช้อัตราดอกเบี้ย 0.01% ตลอดระยะเวลาที่คงเหลือตามสัญญากู้ กรณีที่อยู่อาศัยได้รับความเสียหายทั้งหลังและไม่สามารถซ่อมแซมได้ ให้ปลอดหนี้ในส่วนของราคาอาคาร และให้ผ่อนชำระต่อเฉพาะในส่วนของที่ดินที่คงเหลือเท่านั้น

ทางด้าน สมเกียรติ กิมาวหา ผู้ช่วยผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ธนาคารได้ตั้งศูนย์บัญชาการกิจการสาขาภาคใต้ตอนบนและตอนล่าง เพื่อเกาะติดผลกระทบพายุปาบึกเพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์จังหวัดภาคใต้ที่ได้รับกระทบเพื่อนำมาประเมินออกเป็นมาตรการช่วยเหลือผู้ประสบภัย

ในเบื้องต้น ธ.ก.ส.เตรียมมาตรการรองรับ 2 ส่วน ได้แก่ มาตรการรองรับลูกค้าของธนาคารซึ่งยังไม่ประเมินว่ามีกี่รายได้ เพราะต้องรอดูสถานการณ์ในช่วง 2-3 วันนี้ก่อน โดยมาตรการที่จะนำม่ใช้จะเป็นมาตรการเดียวกับมาตรการช่วยเกษตรกรลูกค้าที่ประสบภัยธรรมชาติ ซึ่งที่ทั้งมาตรการพักหนี้ ยืดระยะเวลาชำระหนี้ และมาตรการดูแลเรื่องทรัพย์สินของธนาคาร

"ต้องรอดูสถานการณ์ในช่วงนี้ก่อนว่าจะออกมาแบบไหน ได้รับผลกระทบในวงกว้างหรือไม่ ซึ่งธนาคารได้ตั้งศูนย์บัญชาการเกาะติดสถานการณ์อย่าง ใกล้ชิด" สมเกียรติ กล่าว

เมทินี ศุภสวัสดิ์กุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกำกับธุรกิจสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ณ วันที่ 4 ม.ค. 2562 มีธนาคารพาณิชย์จำนวน 5 แห่ง ได้แจ้งหยุดทำการชั่วคราว สาขาที่ได้รับผลกระทบจากพายุปาบึก ใน 3 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ นครศรีธรรมราช สงขลา และสุราษฎร์ธานี รวม 64 สาขา

ทั้งนี้ เป็นการปิดสาขาใน จ.นครศรีธรรมราช 50 สาขา (คิดเป็นประมาณ 45% ของจำนวนสาขาทั้งหมดในจังหวัด) จ.สงขลา 4 สาขา (คิดเป็น 3% ของจำนวนสาขาทั้งหมดในจังหวัด) และ จ.สุราษฎร์ธานี 10 สาขา (คิดเป็น 7% ของจำนวนสาขาทั้งหมดในจังหวัด) ในขณะที่สถาบันการเงินเฉพาะกิจ (SFIs) ได้รับผลกระทบจำนวน 4 แห่ง โดยเป็นการปิดสาขาใน จ.นครศรีธรรมราช 14 สาขา และ จ.สุราษฎร์ธานี 2 สาขา

สารัชต์ รัตนาภรณ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส ผู้บริหารสูงสุดลูกค้าบุคคล และผู้บริหารสูงสุดเครือข่ายสาขา ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่า ธนาคารติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดในพื้นที่ดังกล่าว และพื้นที่จุดอื่นๆ ที่มีแนวโน้มที่จะเกิดความเสี่ยงมากขึ้น ก็อาจมีการปิดสาขาเพิ่มเติมได้ เนื่องจากอาจกระทบต่อการให้บริการ และการเดินทางมาทำงานของพนักงานสาขาในระหว่างนี้ได้ จึงมีกำหนดการปิดสาขาไม่มีกำหนด

รายงานข่าวจากธนาคารกรุงเทพ ระบุว่า สาขาธนาคารกรุงเทพที่ปิดให้บริการในวันที่ 4 ม.ค.มี 12 แห่ง ขณะที่ ธนาคารกสิกรไทย รายงานว่า ได้ปิดสาขา 8 แห่ง ธนาคารธนชาตปิดทำการจำนวน 12 สาขา ธนาคารกรุงศรีอยุธยาปิดสาขา 4 แห่ง ที่ จ.นครศรีธรรมราช ด้านธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ปิด 2 สาขา

สำหรับสาขาของธนาคารออมสินที่ได้รับผลกระทบจากเหตุภัยธรรมชาติในครั้งนี้มีจำนวน 7 สาขา ในพื้นที่ธนาคารออมสินภาค 17 จ.นครศรีธรรมราช ได้แก่ สาขาหัวไทร สาขาปากพนัง สาขาท่าศาลา สาขาเชียรใหญ่ สาขาสิชล สาขาขนอม และสาขาบางขัน รวมถึงตู้ ATM ที่ให้บริการนอกพื้นที่สาขาไม่สามารถให้บริการได้จำนวน 88 ตู้ อย่างไรก็ตาม พนักงานธนาคารออมสินในพื้นที่ที่ยังสามารถปฏิบัติงานได้และพื้นที่อื่น ได้นำถุงยังชีพและสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นออกไปช่วยเหลือผู้ได้รับความเดือดร้อน เพื่อบรรเทาในเบื้องต้น
Source: Posttoday

 

Bank of Thailand Scholarship Students

(Jan 5) แบงก์ปรับกลยุทธ์ รับปีหมูหิน : ปี 2562 ยังเป็นปีที่ไม่ง่ายในการทำธุรกิจของธนาคารพาณิชย์ โดยปัจจัยเสี่ยงหลักด้านหนึ่ง คือ การถูก ดิสรัปชั่นจากเทคโนโลยีใหม่ เป็นสิ่งที่ธนาคารรับรู้และเร่งปรับตัวอย่างหนักมาตลอด

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าเม็ดเงินและสรรพกำลังของบุคลากรภาคการเงินต่างทุ่มลงไปในเรื่องการพัฒนาระบบและการให้บริการบนช่องทางดิจิทัล โดยเฉพาะผ่านโมบายแอพพลิเคชั่น

เหตุการณ์สำคัญที่ผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนผ่านสภาพแวดล้อมของการให้บริการทางการเงิน พลิกโฉมจาก อะนาล็อกสู่ดิจิทัลเต็มตัว คือ การยกเลิกค่าธรรมเนียมการโอนเงิน บนช่องทางดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. 2561 ผลักดันให้การโอนเงินรายย่อยเติบโตหลายเท่าตัว

ธนาคารได้สูญรายได้ค่าธรรมเนียมการโอนเงินปีละหลายพันล้านบาท สะท้อนจากผลการดำเนินงานของระบบธนาคารพาณิชย์ไตรมาส 3 ปี 2561 ที่รายได้ค่าธรรมเนียมการโอนเงิน หดตัว 8.7% ขณะที่ปริมาณธุรกรรมการโอนเงินผ่านโมบายและอินเทอร์เน็ตสูงถึง 314 ล้านรายการ ก้าวกระโดด เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปี 2560 ที่มีเพียง 52 ล้านรายการ และในปี 2562 รายได้ค่าธรรมเนียมการโอนเงินจะ ยังติดลบต่อไป

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามผลกระทบรายได้ค่านายหน้าจะยังติดลบ ต่อเนื่องหรือไม่ จากการที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดเกณฑ์การให้บริการที่เป็นธรรม (มาร์เก็ตคอนดักต์) ที่ทำให้การขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินและการลงทุน จะต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่เหมาะสม โดยไตรมาส 3/2561 รายได้ค่านายหน้าหดตัว 12.8% ส่วนใหญ่เป็นค่านายหน้า ขายประกัน

เมื่อรายได้ค่าธรรมเนียมหายไป ธนาคารจึงกลับมามุ่งเน้นรายได้ดอกเบี้ยจากการปล่อยสินเชื่ออีกครั้ง ฉะนั้น เชื่อว่าในปี 2562 จะเป็นปีที่ธนาคารพาณิชย์เริ่มสร้างรายได้จากดิจิทัลอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยขึ้น

"ดิจิทัลเลนดิ้ง" หรือการปล่อย สินเชื่อผ่านช่องทางดิจิทัลจะเป็นแหล่งรายได้สำคัญ ซึ่งจากการมีเทคโนโลยีประมวลผลฐานข้อมูล (ดาต้าอะนาไลติกส์) และนำปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) มาใช้ ส่งผลให้ธนาคารประเมินความเสี่ยงได้ดีขึ้น และปล่อยสินเชื่อได้ตรงกับผู้ที่ต้องการ

ธนาคารได้นำร่องบริการดิจิทัล เลนดิ้งไปเมื่อปี 2561 ในบริการสินเชื่อบุคคล และจะทยอยขยายผลไปยังสินเชื่อประเภทอื่น โดยเฉพาะเอสเอ็มอี และผู้ประกอบการรายเล็ก ให้เข้าถึง สินเชื่อได้ง่ายขึ้น

"สินเชื่อที่มีผลตอบแทนสูง" หรือ ไฮ-ยิลด์โลน เป็นเป้าหมายใหม่ที่ธนาคารจะรุกอย่างเต็มตัว ก่อนหน้านี้ไม่มีเครื่องมือประเมินความเสี่ยงที่ชัดเจน เมื่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ทำให้ธนาคารเลือกปล่อยสินเชื่อที่มี

หลักประกันและมั่นคง อย่างสินเชื่อบ้านและสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ที่ดอกเบี้ยต่ำ ขณะที่สินเชื่อบุคคลและสินเชื่อเอสเอ็มอีที่มีความเสี่ยงสูงกว่ามีการปล่อยอย่างระมัดระวัง

อย่างไรก็ตาม จากเทคโนโลยีหลังบ้านที่ถูกยกเครื่องขึ้นใหม่ มีความฉลาดในการประเมินความเสี่ยงจากฐานข้อมูลและพฤติกรรมต่างๆ ทำให้ปี 2562 สินเชื่อบุคคล สินเชื่อเอสเอ็มอี และสินเชื่อแลกเงินต่างๆ ที่ดอกเบี้ยสูง มีโอกาสกลับมาเป็นพระเอกขับเคลื่อนการเติบโตของสินเชื่อได้

"ไพรเวทแบงก์กิ้ง" จะเป็นแหล่งรายได้ค่าธรรมเนียมใหม่ของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งธนาคารได้มีกลยุทธ์ในการเจาะกลุ่มลูกค้าบุคคลที่มีความมั่งคั่งสูง (ไฮ-เน็ตเวิร์ธ) ด้วยบริการที่แตกต่าง อาทิ ธนาคารไทยพาณิชย์พาร์ตเนอร์กับจูเลียสแบร์ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ตั้งสายงานไพรเวทแบงก์ขึ้นใหม่ ธนาคารกสิกรไทยออกบริการใหม่แลนด์โลน บ่งบอกถึงความเอาจริง เอาจังในการรุกลูกค้ากลุ่มนี้เป็นพิเศษ

นอกจากนี้ ธุรกิจเวลธ์ แมเนจเมนต์ สำหรับลูกค้าบุคคลทั่วไปก็เป็นกลยุทธ์สำคัญของธนาคารเช่นกัน โดยมีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ อาทิ โรโบแอดไวเซอร์ ช่วยวางแผนการเงินและการลงทุนที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล

นอกเหนือจากบริการใหม่แล้ว สิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 2562 คือ ธนาคารพาณิชย์จะมีพันธมิตร(พาร์ตเนอร์) ใหม่เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความร่วมมือกับฟินเทค องค์กรธุรกิจ และแพลตฟอร์มออนไลน์ยักษ์ใหญ่ เพื่อต่อยอดการให้บริการ เปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตร สร้างสรรค์บริการใหม่ที่สะดวกและรวดเร็วสำหรับผู้บริโภคร่วมกันในโลกยุคดิจิทัล

ที่เห็นแน่ๆ พาร์ตเนอร์ในการเป็นช่องทางการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นผ่าน "แบงก์กิ้งเอเย่นต์" ซึ่งทำให้ผู้บริโภคสามารถทำธุรกรรมต่างๆ ที่ต้องการได้ในสถานที่ที่สะดวก โดยไม่จำเป็นต้องไปสาขา โดยองค์กรเป้าหมายที่จะเป็นแบงก์กิ้งเอเย่นต์แทนธนาคาร อาทิ ร้านสะดวกซื้อ สถานีบริการน้ำมัน รวมทั้งไปรษณีย์ไทย

แบงก์กิ้งเอเย่นต์เริ่มต้นแล้วในเรื่องฝาก ถอน โอน และปี 2562 นี้จะสามารถเปิดบัญชีได้ หากโครงสร้างพื้นฐานการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ (เนชั่นแนล ดิจิทัล ไอดี) และการพิสูจน์ตัวตนทางดิจิทัลข้ามธนาคารวิธีการต่างๆ ด้วยไบโอเมตริก สามารถให้บริการได้เต็มรูปแบบ ซึ่งคาดว่าจะทำได้ภายในไตรมาสแรกของปีนี้

ความท้าทายของธนาคารพาณิชย์ในปี 2562 ไม่ใช่เพียงเรื่อง ดิสรัปชั่นจากเทคโนโลยี แต่ปัจจัย พื้นฐานอย่างภาวะเศรษฐกิจก็ยังมี ความเสี่ยงที่ทำให้ต้องติดตามสถานการณ์ลูกค้าอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะผู้ที่ทำธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ที่จะเผชิญความ

ไม่แน่นอนจากปัญหากีดกันทางการค้าจากสหรัฐ ซึ่งสำนักวิจัยต่างๆ ประเมินว่า จบยาก และกระทบกับการค้าโลกให้ชะลอตัวลง ขณะที่เศรษฐกิจภายในประเทศกำลังซื้อมีแนวโน้มอ่อนแรงอยู่ ทำให้ธุรกิจเอสเอ็มอีต้องเหนื่อยกับ ยอดขายที่น้อยลงและการปรับตัวให้ทันกับโลกของอี-คอมเมิร์ซ

แรงกดดันในฝั่งค่าใช้จ่ายของธนาคารสำคัญ หนีไม่พ้นปัญหาหนี้ที่ ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ยังเป็นไปด้วยความเข้มข้น และระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง เพราะจะมีผลต่อค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญ ที่เพิ่มขึ้น และยังมีภาระเพิ่มเติมจากมาตรฐานรายงานทางการเงินฉบับใหม่ (IFRS9) ที่มีการคำนวณน้ำหนักความเสี่ยงที่เพิ่มมากขึ้น เป็นแรงกดดันในฝั่งค่าใช้จ่ายของธนาคาร

ขณะเดียวกัน ค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านไอทีและพัฒนาบริการดิจิทัลคงอยู่ระดับสูงอยู่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านจากการให้บริการแบบดั้งเดิมไปสู่การเป็นแพลตฟอร์มทางการเงินที่ลูกค้าเลือกใช้

นับจากนี้ ธนาคารคงไม่ได้ทำธุรกิจง่ายเป็น "เสือนอนกิน" เหมือนเมื่อก่อน ยิ่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่ยิ่งต้องเหนื่อยมากในการปรับตัวทั้งการให้บริการและวัฒนธรรมองค์กรในระยะยาว แต่ภารกิจระยะใกล้ ต้องหาช่องทางสร้างรายได้ใหม่ให้สำเร็จให้คุ้มกับการลงทุนมหาศาลที่ทุ่มลงไป
โดย ศุภลักษณ์ เอกกิตติวงษ์
Source: Posttoday