"กระทู้จับฉ่าย".. สัพเพเหระ สิ่งละอันพันละน้อย เรียงร้อยเป็นเรื่องราว

จาก facebook
Thailand Vision
49 นาที

วันที่ 24 ตุลาคม 2562 สำนักข่าวโพสต์ทูเดย์ รายงานว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้เข้าร่วมประชุม Guangdong–Hong Kong – Macao Greater Bay Area หรือการประชุมเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า: ขอบเขตใหม่แห่งการปฏิรูปและเปิดกว้างของจีน แนวปฏิบัติใหม่ของหลักการ ‘หนึ่งประเทศ สองระบบ' ที่ เขตบริหารพิเศษฮ่องกง พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “การประชุมเขตอ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า : ขอบเขตใหม่แห่งการปฏิรูป และเปิดกว้างของจีน”

การจัดประชุม ครั้งแรกของ Greater Bay Area (GBA) สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลจีน ต่อการพัฒนา GBA การเดินทางมาเยือนฮ่องกงครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสพิเศษ ถูกที่ และถูกเวลา เพราะเป็นเดือนตรงกับการฉลองครบรอบ 70 ปี ในการสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อพลิกฟื้นประเทศจีนได้อย่างน่าอัศจรรย์ สะท้อนถึง “จีนในยุคใหม่” ตามที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศไว้ว่า “ไม่มีพลังใดหยุดจีน ไม่ให้เดินไปข้างหน้า ไม่มีอำนาจใด สั่นคลอนสถานะของจีนหรือหยุดยั้งคนจีน และชนชาติจีนไม่ให้ก้าวเดินไปข้างหน้า ” โดยครั้งนี้มีผู้เข้าร่วม กว่า 600 คน

ทั้งนี้ไทยให้ความสำคัญกับจีนมากกว่า การเป็นประเทศคู่ค้าและหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา แต่จีนเปรียบเสมือน “มิตรแท้และเพื่อนจริงใจ” กับไทยทุกสถานการณ์ จุดมุ่งหมายการเดินทางมาครั้งนี้ ตั้งใจมาให้กำลังใจผู้บริหารสูงสุด นางแคร์รี หลำ เพราะเสมือนมิตรสนิทที่นับถือ เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ความขัดแย้งทางความคิด จนลุกลามเป็นความขัดแย้งในสังคมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ความขัดแย้งเหล่านี้เคยเกิดขึ้นในประเทศไทย จึงขอเป็นมิตรแท้อยู่เคียงข้างและให้กำลังใจชาวฮ่องกงเสมอ และเชื่อมั่นกับฮ่องกงในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค จากนโยบาย Belt and Road ของจีนที่ส่งเสริมระบบการค้าที่เสรี มี 122 ประเทศ และ 29 องค์การระหว่างประเทศเข้าร่วมกับข้อริเริ่ม BRI และใช้ยุทธศาสตร์ GBA เชื่อมกับโลกทุกมิติ โดยเฉพาะกลุ่ม CLMV ของไทย เป็นประตูส่งผ่านการค้าออกไปทั่วโลก

นอกจากนี้ ไทยยังมุ่งเน้นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เร่งรัดพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การปรับปรุงกฎระเบียบให้เอื้อต่อการค้าการลงทุน จึงเร่งรัดการพัฒนาเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (EEC; Eastern Economic Corridor) และได้จัดตั้งสำนักงานเศรษฐกิจการค้าฮ่องกงประจำประเทศไทย (ETO; Economic and Trade Office) เพื่อร่วมมือกับ Hong Kong Cyberport ตั้งบริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) ให้เป็นศูนย์บ่มเพาะนวัตกรรม และผู้ประกอบการสตาร์ตอัป แห่งอนาคตของไทย หวังเชื่อมโยงกับฮ่องกงในด้านตลาดเงิน ตลาดทุน และ creative economy รองรับนโยบาย ไทยแลนด์4.0 ซึ่งหวังว่าผู้บริหารสูงสุดฮ่องกงจะกลับคืนสู่ความสดใสอีกครั้งในไม่ช้า

ด้านนางแคร์รี หลำ ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ GBA เป็นนโยบายใหม่ของรัฐบาลจีนปักกิ่ง เพื่อร่วมมือกันทั้งมณฑลกวางตุ้ง-มาเก๊า-ฮ่องกง เชื่อมโยงไปสู่โลกภายนอก การเผชิญกับเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน เมื่อฮ่องกงเป็นศูนย์กลางตลาดเงิน อันดับ 3 ของโลก อันดับ 1 ของเอเชีย เป็นตลาดหลักทรัพย์ฯ สำคัญอันดับ 6 ของโลก ฮ่องกง ให้ความสำคัญกับ "เยาวชนคืออนาคตของพวกเรา" (Young People are Our Future) ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชน โดยเฉพาะการยกระดับความสามารถ และการเข้าถึงโอกาสและเงินทุน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาฮ่องกงมีการพัฒนามาถึงปัจจุบัน เพราะอัตลักษณ์พิเศษฮ่องกง คือ การปกครองภายใต้ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ทำให้ฮ่องกงมีอำนาจอธิปไตยในการปกครองตนเองสูง มีระบบกฎหมาย และระบบเศรษฐกิจที่แตกต่างจากจีนแผ่นดินใหญ่ เป็นศูนย์กลางการค้าการลงทุนของนานาชาติ ซึ่งจะเป็นจุดเด่นที่จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาของ GBA ต่อไป แม้การชุมนุมประท้วงจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของฮ่องกง แต่รัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกงเชื่อมั่นว่าสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ และรัฐบาลเขตบริหารพิเศษฮ่องกง จะใช้อัตลักษณ์และจุดแข็งของฮ่องกง ภายใต้การปกครองตามหลักการ "หนึ่งประเทศ สองระบบ" ในการเสริมสร้างความร่วมมือที่ทุกฝ่ายล้วนได้รับผลประโยชน์
---------------------------
แหล่งข้อมูล
https://www.posttoday.com/economy/news/604418
---------------------------
กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันสถานการณ์โลกกับ Thailand Vision


.

 

จาก facebook
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
2 ชม.

จากข้อมูลของกองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุข้อมูลตั้งแต่เดือน ม.ค.-ส.ค.62 ว่า 10 จังหวัดที่มีรายได้มากที่สุดจากการท่องเที่ยวเรียงลำดับ ดังนี้

1. กรุงเทพฯ มีรายได้จากการท่องเที่ยว 697,968 ล้านบาท
2. ภูเก็ต มีรายได้จากการท่องเที่ยว 313,186ล้านบาท
3. ชลบุรี มีรายได้จากการท่องเที่ยว 181,598 ล้านบาท
4. กระบี่ มีรายได้จากการท่องเที่ยว 78,653 ล้านบาท...
5. สุราษฎร์ธานี มีรายได้จากการท่องเที่ยว 72,683 ล้านบาท

6. เชียงใหม่ มีรายได้จากการท่องเที่ยว 67,393 ล้านบาท
7. สงขลา มีรายได้จากการท่องเที่ยว 48,687 ล้านบาท
8. พังงา มีรายได้จากการท่องเที่ยว 35,410 ล้านบาท
9. ประจวบคีรีขันธ์ มีรายได้จากการท่องเที่ยว 26,073 ล้านบาท
10. ระยอง มีรายได้จากการท่องเที่ยว 21,975 ล้านบาท


.

 

จาก facebook
Legend Siam

เชิญคุณลอยกระทง เสริมดวงชะตาที่เลเจนด์ สยาม พัทยา ธีมพาร์คเชิงวัฒนธรรมไทยแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ในวันที่ 2-11 พฤศจิกายน 2562

คุณจะได้พบกับงานลอยกระทงสุดยิ่งใหญ่ที่นำเสนอความเป็นไทยออกมาได้ครบถ้วน

กิจกรรมเสริมดวงภายในงานที่ไม่ควรพลาด
✨ พิธีสืบชะตา พระสงฆ์ให้ศีลพร พรมน้ำมนต์
✨ แขวนระฆังเขียนชื่อ และคำอธิษฐาน
✨ ไหว้ขอพรกับเทพศักดิ์สิทธิ์ประจำโครงการ
✨ รับพลังจักรวาลและขอพรเรื่องการเพิ่มอำนาจ บารมี
✨ ขอพร สะเดาะเคราะห์ วัดมังกรกมลาวาส
✨ ลอยกระทง พร้อมเสริมดวงชะตาด้วยการเลือกยันต์มงคล ดอกไม้ และธูปเทียน
✨ ลอยกระทงสามชายสำหรับคนโสด พร้อมขอพรเรื่องความรัก

และเรายังมีโปรโมชั่นส่งเสริมวัฒนธรรมไทย สำหรับคนที่ใส่ชุดไทย เข้าฟรี!

#legendsiam #legendsiampattaya #เลเจนด์สยาม #พัทยา


legendsiam.com
เที่ยวงานลอยกระทงสุดยิ่งใหญ่ที่เลเจนด์ สยาม พัทยา
เรียนรู้เพิ่มเติม


ไปที่กูเกิล > คลิกที่รูป

 

จาก facebook
สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya กำลังรู้สึกตื่นเต้นที่ สวนนงนุช พัทยา Nongnooch Garden Pattaya
เมืองพัทยา

เมื่อเหล่าแมลงแห่ง สวนนงนุชพัทยา ถูกลำแสงขยายร่าง จนมีร่างกายใหญ่โตมโหฬาร กลายเป็น "สวนแมลงยักษ์" ที่สวยงาม แปลกตาและร่มรื่น อลังการ สะใจ ถูกใจทุกคนแน่นอน












ไปที่กูเกิล > คลิกที่รูป

 

จาก facebook
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
5 ชม.

“ชิมช้อปใช้” เฟสแรก กระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 9 พันล้านบาท
ส่วนเฟสที่ 2 เปิดให้ลงทะเบียนแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 ต.ค. 62 อย่าลืมนะคะ


.

 

จาก facebook
Thon Thamrongnawasawat
10 ชม.

เมื่อวานเพิ่งมีการเซ็นสัญญารถไฟความเร็วสูง 3 สนามบินระหว่างรัฐ-เอกชน ถือเป็นโครงการยักษ์ของ EEC จึงอยากเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนธรณ์ฟังครับ

EEC คือเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก สิ่งสำคัญคือโลจิสติกส์

ที่ผ่านมาเริ่มเห็นกันบ้าง เช่น สร้างมอเตอร์เวย์ไปพัทยา-ระยอง (น่าจะใกล้เปิดแล้ว) ขยายสนามบินอู่ตะเภา (ยื่นซองกันไปแล้ว) ขยายท่าเรือแหลมฉบัง-มาบตาพุด รถไฟรางคู่ เฟอรี่ข้ามอ่าว ฯลฯ
การเชื่อมต่อ 3 สนามบินด้วยรถไฟความเร็วสูง ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา งบลงทุนมหาศาล (224,000 ล้าน เอกชน/รัฐ) จะทำให้เกิดการจ้างงานและการพัฒนาใน EEC อีกเยอะเลย

โครงการนี้แบ่งง่ายๆ เป็น 3 ส่วน คือ รถไฟในเมือง (แอร์พอร์ตลิงค์/ต่อขยาย), รถไฟเชื่อมต่อสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา (สร้างใหม่) และ การพัฒนาพื้นที่ธุรกิจ

สถานีรถไฟในเมือง = ดอนเมือง บางซื่อ พญาไท ราชปรารภ มักกะสัน รามคำแหง หัวหมาก ทับช้าง ลาดกระบัง สุวรรณภูมิ
มีทั้งขบวนธรรมดา CityLine และขบวนเร่งด่วน 160 กม./ชม.

ใครที่หวังอยากได้สถานีเพิ่มที่ใกล้บ้าน คงต้องบอกว่าไม่ใช่ เพราะสถานีหลักที่เปิดใหม่มีแค่บางซื่อกับดอนเมือง เนื่องจากเป็นรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบิน
แต่อาจคาดหวังได้กับบริการที่ดีขึ้นและรถไฟที่มาเร็วขึ้น เพราะตอนนี้ยืนรอกันนานมาก
เมื่อเอกชนได้สัมปทานไป ก็คงมีรถไฟให้บริการมากขึ้น ไม่งั้นมันก็เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมาหลายปี
บ้านผมต้องใช้สถานีรามคำแหง อันที่จริงก็ไม่ไกลจากเอกมัย แต่แทบไม่เคยใช้เพราะขี้เกียจยืนรอครับ

อีกอย่างที่จะมาใหม่คือมักกะสันคอมเพล็กซ์ ในสัญญามีที่ดินให้เอกชนพัฒนา 140 ไร่
เป็นที่ดินชั้นยอดใจกลางกรุง ซึ่งคงจะมีการพัฒนาอย่างมากเพื่อให้เกิดรายได้เข้าโครงการ
น่าจะมีพื้นที่ 2 ล้านตร.ม. ทั้งห้าง รร. ศูนย์ประชุม ฯลฯ (ขอสีเขียวเยอะๆ หน่อยนะฮะ)
มักกะสันคอมเพล็กจะส่งผลต่อพื้นที่รอบด้าน โดยเฉพาะถนนอโศก-เพชรบุรี-แยกพระรามเก้า
ใครมีคอนโดแถวนั้นก็ยิ้มได้เลยจ้ะ

ผมเชื่อว่าในส่วนมักกะสัน/แอร์พอร์ตลิงค์เดิม คงเร่งสร้าง/ปรับปรุงแบบด่วนจี๋ เพราะยิ่งทำเสร็จเร็วยิ่งได้รายได้เข้าโครงการ และเป็นพื้นที่ซึ่งไม่ค่อยมีปัญหาในการส่งมอบ
คิดว่าภายใน 1-2 ปีก็คงเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงแล้วครับ

สำหรับเส้นทางต่อขยายไปดอนเมือง ต้องสร้างใหม่ผ่านโน่นนี่นั่นเยอะ คงต้องใช้เวลาอีกพอควร แต่ไงๆ ก็น่าจะเสร็จภายใน 3-4 ปี

ส่วนที่นานหน่อยคือนอกเมือง จากสุวรรณภูมิไปอู่ตะเภา ต้องสร้างใหม่ทั้งหมด
ระยะทาง 170 กิโลเมตร รถไฟไฮสปีดวิ่ง 250 กม./ชม. จะเป็นไฮสปีดสายแรกที่คนไทยจะได้ใช้
มีแค่ 6 สถานี คือ สุวรรณภูมิ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ศรีราชา พัทยา และอู่ตะเภา

จุดที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลงเยอะหน่อยคือศรีราชา เพราะมีพื้นที่พัฒนาธุรกิจอยู่ด้วย อีกทั้งศรีราชาถือเป็นเมืองริมทะเลที่โตอย่างก้าวกระโดดในระยะ 10 ปีที่ผ่านมา
คณะประมงมีสถานีวิจัยอยู่ริมทะเล สมัยแรกๆ ผมไปที่นั่นแทบไม่มีอะไร จะกินผัดไทต้องนั่งรถเข้าเมืองไกลนะ

แค่ไม่กี่ปีมีตึกสูงริมทะเลเพียบ ลามเข้ามาเรื่อยๆ จนมองจากหาดหน้าสถานีเห็นตึกสูงเต็มไปหมด
อีก 3-4 ปีข้างหน้า รถไฟความเร็วสูงจะมา อีกทั้งห้างเซนทรัลก็จะเปิดใหม่ ห่างจากสถานีวิจัยแค่ไม่กี่ร้อยเมตร
ในอนาคตนิสิตจะได้นั่งรถไฟความเร็วสูงไปฝึกงาน/วิจัยก่อนไปชอปปิ้ง โห...เท่เลยฮะ เพราะฉะนั้น มาเรียนประมงสิจ๊ะ

ในฐานะรองคณบดี ก็กำลังคิดอยู่ว่าเราจะปรับเปลี่ยนสถานีวิจัยให้สอดคล้องกับการพัฒนาที่มาใหม่อย่างไรบ้าง
คงจะต้องเน้นการเพาะเลี้ยงผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง รวมถึงประเด็นสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้มากขึ้นครับ

อีกเมืองที่น่าจะเปลี่ยนเยอะคือพัทยา แม้ไม่มีพื้นที่พัฒนาธุรกิจที่สถานี แต่ก็จะช่วยให้คนเดินทางไปมาง่ายและเร็วขึ้น
ลองคิดถึงต่างชาติ ลงสุวรรณภูมิ ขึ้นรถไฟไปพัทยาไม่ถึงชั่วโมง

ค่ารถไฟไม่แน่ใจ แต่ถ้าทั้งสายไม่เกิน 500 บาท (ตามที่ข่าวบอกไว้) จากสุวรรณภูมิไปพัทยาน่าจะ 200-300 บาท ถือว่าพอรับได้นะครับ

หรืออีกทางหนึ่ง เมื่ออู่ตะเภาขยายขนาดขึ้นเรื่อย (เป้าแรก 3 ล้านคน คงเป็นไปได้ครับ)
คนลงเครื่องบินนั่งรถไฟมาพัทยาแค่ไม่กี่นาที ราคาไม่น่าเกิน 150 บาท
ยิ่งถ้าเป็นอนาคต (อันไกลโพ้น) เป้าสุดท้ายคือ 60 ล้านคนต่อปี คงมีคนมาเที่ยวพัทยาอีกเยอะเลย


ตามที่คณะกรรมการ EEC มองเป้าไว้ ตัวเลขนักท่องเที่ยวพัทยาคือ 10 ล้านคน/ปี
หากรถไฟทำเสร็จ ผมพอมองเห็นภาพว่าเป็นไปได้ เพราะเมืองริมทะเลอย่างภูเก็ต ใช้เครื่องบินกันอย่างเดียว ตอนนี้ก็ทะลุ 10 ล้านไปแล้ว

ปัญหาสำคัญที่อาจดึงพัทยาไว้ คือ จากสถานีรถไฟเข้าเมืองอย่างไร ?
ยังฝันว่าสักวันจะเห็นโมโนเรลหรืออะไรก็ตามที่เชื่อมต่อพาคนเข้าเมืองได้ดีกว่านี้ ไม่งั้นจะยิ่งส่งผลให้รถติดในพัทยา

อีกอย่างหนึ่งคือเรื่องของสิ่งแวดล้อม ขยะ-น้ำท่วม-น้ำเสีย ที่จะส่งผลกระทบลงทะเลตามการพัฒนาที่มากขึ้น
เท่าที่ผมทำได้คือพยายามมุ่งเป้า “หน่วยปฏิบัติการต่อต้านขยะทะเล” ให้จัดกิจกรรม งานวิจัย และเก็บข้อมูลพื้นฐานบริเวณนั้นไว้ให้มากที่สุด
ยังรวมถึงข้อมูลคุณภาพสิ่งแวดล้อม/ระบบนิเวศในทะเลแบบต่างๆ

ปัญหาคือมันต้องใช้ทุนสูงมากที่จะทำให้ครบวงจร ตอนนี้ก็คงทำไปเท่าที่ได้ และจะพยายามผลักดันทางนั้นทางนี้เท่าที่มีปัญญา
ยังฝันว่าสักวันจะเห็นการดูแลสิ่งแวดล้อมทั้งบก/ทะเลเมืองพัทยาอย่างครบวงจร ใช้เทคโนโลยีทันสมัย จัดระเบียบนี่นั่นได้ แต่ก็คงต้องรอต่อไปและต่อไป

รถไฟไปถึงอู่ตะเภา แต่ในอนาคตคงมีเส้นทางไปถึงระยอง
หรือแม้จะไม่มี ระยองก็คงจะขยายตัวอีกไม่น้อย โดยเฉพาะเมือง/ฝั่งมาบตาพุดมาจนถึงอู่ตะเภา



ทั้งหมดนี้คือเรื่องเล่าถึงรถไฟและความเปลี่ยนแปลงที่จะทยอยกันมาไม่เกินปี 66
นำมาบอกเพื่อนธรณ์ไว้เผื่อจะมีประโยชน์บ้าง เพราะคนเราต้องปรับตัวเพื่อรับความเปลี่ยนแปลงที่จะมา (เห็นเขาว่าจะเกิดการสร้างงาน 100,000 อัตราเชียวนะจ๊ะ)

นักอนุรักษ์/นักสิ่งแวดล้อมก็ต้องตามการพัฒนาให้ทัน ไม่งั้นมันเกิดคำว่ายั่งยืนไม่ได้หรอก
รถไฟไฮสปีด มีประโยชน์ช่วยลดโลกร้อนจากเดิมที่ใช้รถ แต่ก็นำความเจริญ/คนเข้ามาเพิ่มมากขึ้นในพื้นที่

รู้เขารู้เราและเตรียมตัวไว้ ย่อมเป็นเรื่องดี
โดยส่วนตัวก็เตรียมรับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว เพราะมีนี่นั่นอยู่บ้างในพัทยาและระยอง จะได้ใช้ชีวิตหลังเกษียณอย่างเป็นสุขฮะ

 

จาก facebook
Thailand Vision
6 ชม.

วันที่ 25 ตุลาคม 2562 สำนักข่าวฐานเศรษฐกิจ รายงานว่า กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF (International Monetary Fund) ได้ปรับลดประมาณการณ์การขยายตัว GDP ของไทยในปี 2562 เหลือ 2.95% จากเดิมที่เคยประเมินไว้เมื่อเดือนเมษายน ที่คาดว่าจะขยายตัว 3.5%
.
IMF ชี้ว่าเปอร์เซ็นต์การขยายตัว GDP ของไทยลดลง เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว จากผลของสงครามการค้า ระหว่างสหรัฐและจีน และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศ
.
แต่อย่างไรก็ตาม มีการวิเคราะห์กันว่า การที่ IMF เปลี่ยนผลการประเมิน GDP ของไทย อาจมีความเชื่อมโยงกับกรณีที่ รัฐบาลสหรัฐฯของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และสำนักงานผู้แทนการค้าของสหรัฐฯ หรือ USTR (United States Trade Representative) ประกาศยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร หรือ GSP (Generalized System of Preferences) สำหรับสินค้าไทยหลายรายการ รวมถึงสินค้าอาหารทะเลของไทย ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ภายใน 6 เดือน โดยอ้างเหตุผลว่า “รัฐบาลไทยล้มเหลวในการยกระดับสิทธิแรงงาน ให้เท่าเทียมมาตรฐานสากล”
.
นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์กันอีกว่า ทั้งกรณีที่ IMF ประเมิน GDP ประจำปี 2562 ของไทยให้ลดน้อยลง และกรณีที่รัฐบาลสหรัฐฯประกาศยกเลิกสิทธิพิเศษ GSP น่าจะมีเหตุผลมาจากการที่คณะกรรมการวัตถุอันตรายของไทย มีมติให้ประกาศยกเลิกการใช้สารเคมี 3 ชนิด ได้แก่ พาราควอต คลอร์ไพริฟอส และไกลโฟเซต ซึ่งทางสถานทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทย ได้ส่งหนังสือของกระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ ไปถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีไทย เพื่อคัดค้านการแบนสารเคมีทั้ง 3 ชนิดที่บริษัทเอกชนของสหรัฐฯเป็นผู้จำหน่ายให้กับไทย
.
โดยสิ่งที่สหรัฐกังวลมากที่สุด คือ จะมีผลกระทบต่อการนำเข้าถั่วเหลือง ข้าวสาลี กาแฟ แอปเปิ้ล และองุ่น จากสหรัฐ มูลค่า 51,000ล้านบาท ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นยังไม่รวมถึงผลกระทบที่ตามมาของผู้ผลิตอาหาร เช่น อุตสาหกรรมเบเกอรี่และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่พึ่งพาข้าวสาลีที่นำเข้า 100% เพื่อมาดำเนินธุรกิจมูลค่า 40,000 ล้านบาท
.
ทั้งนี้ มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า การที่รัฐบาลสหรัฐฯอ้างเหตุผลว่า “รัฐบาลไทยล้มเหลวในการยกระดับสิทธิแรงงาน ให้เท่าเทียมมาตรฐานสากล” เป็นสิ่งน่าสงสัยมาก เพราะข้ออ้างดังกล่าวขัดแย้งกันกับจุดยืนของสหภาพยุโรป (EU)
.
เนื่องจากเดือนมกราคมปี 2562 ที่ผ่านมา สำนักข่าวสยามรัฐ รายงานว่า สหภาพยุโรปได้ประกาศว่า ประเทศไทยได้ “ใบเขียว” การทำประมง ซึ่งปลอดการกระทำที่ผิดกฎ IUU (Illegal, Unreported, and Unregulated Fishing) และสหภาพยุโรปยังชี้อีกว่า รัฐบาลไทยได้แก้ปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นรูปธรรม เป็นผลให้ประเทศไทยได้รับรางวัลรองชนะเลิศรางวัล STOP IUU FISHING AWARD เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
.
แม้แต่สำนักข่าวกรุงเทพธุรกิจ ก็ยังรายงานข่าวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เกี่ยวกับรายงานปัญหาการค้ามนุษย์ปี 2019 ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ โดยชี้ว่า ประเทศไทยถูกจัดให้อยู่ในระดับ Tier 2 อันแสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยมีพัฒนาการเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ และมีมาตรการคุ้มครองแรงงานที่ดีมากกว่าในอดีต ซึ่งขัดแย้งกับคำประกาศในปัจจุบันของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่อ้างว่า “รัฐบาลไทยล้มเหลวในการยกระดับสิทธิแรงงาน”
.
คำสั่งระงับมาตรการจีเอสพีกับไทย จะเริ่มบังคับใช้ใน 6 เดือนข้างหน้า หรือภายในวันที่ 25 เม.ย.2563 และมีผลกระทบกับสินค้าที่อยู่ภายใต้ข้อตกลงราว 1 ใน 3 ส่วน คิดเป็นมูลค่ารวม 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 39,000 ล้านบาท
---------------------------
แหล่งข้อมูล
https://www.thansettakij.com/content/412965
https://www.thansettakij.com/content/413005
https://siamrath.co.th/n/60740
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/829007
https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/838479
---------------------------
กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันสถานการณ์โลกกับ Thailand Vision




Thailand Vision ได้เพิ่มรูปภาพใหม่ 7 ภาพลงในอัลบั้ม: ทัพเรือไทย-รัสเซีย ลงนาม MOU
16 นาที

วันที่ 24 ตุลาคม 2562 พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และ Adm. Nikolai EVMENOV ผู้บัญชาการทหารเรือรัสเซีย ร่วมกันลงนาม MOU ในบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมทั้งสองประเทศ ว่าด้วยความร่วมมือระหว่างกองทัพเรือ

โดยจะเป็นการขยายความร่วมมือตามความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับสหพันธรัฐรัสเซีย ว่าด้วยความร่วมมือทางการทหารและการสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงทางทหารระหว่าง 2 รัฐบาลซึ่งจะส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือ ที่จะร่วมพัฒนาในด้านการฝึกทางทะเล การยกระดับการศึกษา การเยี่ยมเยือนระหว่างผู้บังคับบัญชา และหน่วยกำลังทางเรือ ตลอดจนร่วมกันสร้างพันธมิตรความมั่นคงทางทะเล ซึ่งจะเป็นประโยชน์สูงสุดระหว่าง ทร. ทั้งสองประเทศต่อไป
---------------------------
แหล่งข้อมูล
https://www.navy.mi.th/index.p…/main/detail/content_id/18211
https://www.facebook.com/944648738895977/posts/2991094917584672
---------------------------
กด Like และ ติดตามเพจ เพื่อรู้เท่าทันสถานการณ์โลกกับ Thailand Vision

 

จาก facebook
News1
57 นาที

“บิ๊กตู่”ไม่ทิ้ง“พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์”ตั้งเป็นที่ปรึกษานายกฯ ด้านพระพุทธศาสนา วิษณุยันไม่มีอำนาจ แต่มีบทบาท ส่งสัญญาณสางปัญหาในวงการพุทธศาสนาต่อ รัฐมีไพบูลย์-พงศ์พร ฝ่ายค้านมีนิยม-พรเพ็ญ บวกฝ่ายรัฐสายธรรมกายอย่างสมเกียรติ นักวิชาการขั้วอำนาจเก่าออกโรงค้าน

https://news1live.com/detail/9620000102715

● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : https://line.me/R/ti/p/%40news1
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO


.

 

จาก facebook
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
5 ชม.

กรณีสหรัฐมีคำสั่งระงับข้อตกลงตามมาตรการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ของประเทศไทย กับสินค้าบางชนิดที่นำเข้าจากไทยเป็นการชั่วคราว โดยอ้างเหตุผลเรื่องที่ไทยไม่สามารถยกระดับสิทธิแรงงานให้เทียบเท่ามาตรฐานสากลนั้น ท่านนายกฯทราบข้อมูลตั้งแต่เมื่อครั้งที่ รมว.พาณิชย์ สหรัฐฯ มาร่วมการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียนที่ไทย ซึ่งมีการหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาหารือ

นอกจากนี้ รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ จุรินทร์ ได้มีหนังสือรายงานถึงประเด็นดังกล่าวมายังท่านนายกฯด้วย ซึ่งยืนยันได้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการที่ไทยห้ามนำเข้าสารเคมีทางการเกษตรของสหรัฐอย่างแน่นอน โดยกระทรวงพาณิชย์จะเป็นผู้แถลงชี้แจงในรายละเอียดต่าง ๆ ต่อไปค่ะ


จาก facebook
Commerce News Agency
5 ชม.
“พาณิชย์”ตรวจสอบเชิงลึก พบสหรัฐฯ ตัดจีเอสพีไทยรวม 573 รายการ คิดเป็น 40% ของสินค้าที่ไทยใช้สิทธิในปี 61 เผยการถูกตัดสิทธิ มีผลต่อการส่งออกไม่มากนัก แต่บางรายการที่ใช้สิทธิมากอาจมีผลแรงกว่าสินค้าอื่น แนะเร่งกระจายความเสี่ยงส่งออกไปยังตลาดอื่นเพิ่มเติม เพื่อชดเชยตลาดสหรัฐฯ

อ่านเพิ่มเติม>>>https://www.commercenewsagency.com/news/2670


commercenewsagency.com
“พาณิชย์”เปิดโพย 573 สินค้าถูกตัดจีเอสพี ยันส่งออกกระทบน้อย เว้นรายการที่ใช้สิทธิมากส่อห

 

จาก facebook
ไทยคู่ฟ้า
24 นาที

#ไทยคู่ฟ้า การสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในช่องปากแก่หญิงตั้งครรภ์และเด็กวัยเรียน เป็นเรื่องสำคัญในการวางรากฐานการมีสุขภาพช่องปากที่ดี รัฐบาลได้จัดสรรกองทุนบัตรทองในปีงบประมาณ 2563 เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการให้มากขึ้น โดยคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. จึงกำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายค่าบริการทันตกรรมให้มีความสอดคล้องกับปัจจุบัน จากเดิมเหมาจ่ายรวมไปกับงานส่งเสริมป้องกันโรคอื่น ๆ โดยให้ปรับมาเป็นการจ่ายชดเชยตามรายการบริการ (Fee schedule) ใน 3 รายการ ดังนี้

1. บริการตรวจและป้องกันสุขภาพช่องปากในหญิงตั้งครรภ์ (อย่างน้อย 1 ครั้ง) จ่ายชดเชย 500 บาท/ราย

2. บริการเคลือบฟลูออไรด์ในเด็กอายุ 4-12 ปี เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่ฟัน จ่ายชดเชย 100 บาท/ครั้ง

3. บริการเคลือบหลุมร่องฟันกรามถาวร (ซี่ 6 และ 7) ในเด็กอายุ 6-12 ปี เพื่อป้องกันฟันแท้ผุ จ่ายชดเชย 250 บาท/ซี่ (ไม่เกิน 4 ซี่/ราย/ปี)

ท่านใดสนใจสามารถไปใช้บริการได้ที่หน่วยบริการทั้งโรงพยาบาลและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใกล้บ้าน หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน โทร. 1330


.

 

จาก facebook
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
28 นาที
ขอขอบคุณ คุณไอซ์-ปรัชญา นงนุช และมติชนทีวี ที่ให้โอกาสมานั่งพูดคุยบอกเล่าเรื่องราวการทำงานในฐานะโฆษก นายกรัฐมนตรีค่ะ

youtube.com
เจาะอดีตชีวิต ‘โฆษกแหม่ม’ ลิขิตเอง หรือ ‘โชคชะตา’ กำหนด ?: Matichon TV
.

 

จาก facebook
สนธิญาณ ชื่นฤทัยในธรรม
5 นาที

คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ (กสทช.)มีมติเห็นชอบให้ยุติการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 2G ในวันที่ 31 ต.ค. 2562 เวลา 23.59.59 น.

#กสทช #2G
#สนธิญาณ


.

 

จาก facebook
ไทยคู่ฟ้า
43 นาที

#ไทยคู่ฟ้า แม้วันนี้หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้ยกเลิกการขอสำเนาบัตรประชาชนในการติดต่อหรือทำธุรกรรมแล้ว แต่กับงานบริการบางประเภทยังคงจำเป็นต้องใช้เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนอยู่ เช่น การรับมอบอำนาจระหว่างบุคคล เป็นต้น ทีมงานไทยคู่ฟ้าจึงมีวิธีการรับรอง “สำเนาถูกต้อง” อย่างถูกวิธีมาฝากกันครับ


.

 

จาก facebook
Thailand Vision
8 ชม.

นายกฯชี้ยังคุยสหรัฐฯได้
เป็นคู่ค้าสำคัญ-ความสัมพันธ์ยังดี
เตรียมหารือในประชุมอาเซียนฯ

ไบเทค บางนา 28 ต.ค. - สำนักข่าวไทย รายงานว่านายกรัฐมนตรี ระบุมีเวลาอีก 6 เดือน หลังถูกตัด GSP มั่นใจยังพูดคุยสหรัฐฯ ได้ หากไม่ได้ ขอเอกชนปรับตัว โดยเฉพาะเรื่องแรงงาน อย่าโยงสาเหตุอื่นจนทำสถานการณ์แย่กว่าเดิม มองไม่มีประโยชน์ หากจวกกันไปมา เตรียมนำประเด็นนี้หารือในที่ประชุมสุดยอดอาเซียนด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีสหรัฐฯ ประกาศตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรสินค้า (GSP) กับไทยกว่า 571 รายการ ว่า การประกาศระงับสิทธิ์ดังกล่าว ไม่ได้ระงับแค่ประเทศไทยประเทศเดียว ยังมีประเทศอื่นที่ถูกระงับเช่นกัน เป็นเรื่องของสหรัฐฯ ที่ผ่านมาสหรัฐฯ ได้ให้สิทธิประโยชน์นี้กับไทย เป็นระยะเวลา 9 ปีแล้ว ต้องยอมรับว่าบางเรื่องมีกำหนดเวลาของมัน และนี่อาจเป็นไปตามระยะเวลาที่สหรัฐฯ ระบุไว้ จึงไม่ต้องการให้คาดเดากันไปมา ว่าการตัดสิทธิ์นั้นมาจากสาเหตุใด การระงับสิทธิ GSP ดังกล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลทราบมาอยู่แล้ว และได้ดำเนินการแก้ไขมาโดยตลอด กระทรวงพาณิชย์ก็มีการเจรจา แต่ข้อสำคัญคือ ต้องแก้ปัญหาภายในประเทศของเราเองด้วย โดยเฉพาะเรื่องแรงงาน ว่าเราสามารถทำได้มากน้อยแค่ไหน เราก็มีปัจจัยหลายอย่างเกี่ยวกับกฎระเบียบของเรา เช่น เรื่องการก่อตั้งสหภาพของต่างด้าว ต้องดูว่าทำได้มากน้อยเพียงใด

“รัฐบาลขอยืนยันว่า พยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด วันนี้ยังไม่มีประเทศใดเดาได้ว่า แต่ละประเทศจะทำอย่างไรต่อไป จึงขึ้นอยู่กับกติกาว่าจะเป็นอย่างไร กติกาของประเทศเขา เราก็เคารพ ไม่ใช่เรื่องที่เราจะต้องตื่นตระหนก หรือกล่าวให้ร้ายกันไปมา เพราะไม่เกิดประโยชน์” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่ดูจากตัวเลขการถูกตัดสิทธิ์มีไม่มากนัก เพราะจากที่เริ่มเก็บภาษีตามปกติใน 571 รายการ ความเป็นจริงเราส่งออกเพียง 300 กว่ารายการเท่านั้น สิ่งสำคัญในวันนี้ประเทศไทยต้องตื่นตัว ขณะนี้ รัฐบาลก็ตื่นตัวแล้ว เหลือแต่เอกชนที่ต้องตื่นตัวไปด้วย โดยเฉพาะเรื่องแรงงาน จึงขอให้ทุกคนช่วยกันแก้ไขปัญหา ไม่ใช่มัวแต่ว่ากันไปมา เพราะจะไม่ได้อะไรขึ้นมาต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหา

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า มีการส่งตัวแทนของประเทศไทยไปเจรจาในทุกกรณีที่มีปัญหา ปัญหาอยู่ที่ว่าประเทศต้นทางยินยอมมากน้อยเพียงใด ขณะนี้ยังมีเวลาอีก 6 เดือน ที่ไทยต้องหาทางเจรจา หากไม่ได้ก็คือไม่ได้ เพราะคือกฎหมายของประเทศเขา พร้อมกับย้ำว่า

“ขออย่าคาดเดาว่าเกี่ยวข้องกับเรื่องใด ขออย่าให้เป็นปัญหาทางการเมืองอีก อย่าพูดให้ทุกอย่างเลวร้ายไปกว่าเดิม ขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ยังดีอยู่ และยังคงเป็นคู่ค้าที่สําคัญของไทย” นายกรัฐมนตรี กล่าว
.
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จะมีการนำเรื่องนี้เข้าหารือในที่ประชุมสุดยอดอาเซียนที่จะถึงนี้ด้วย พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า การที่สหรัฐฯ เก็บภาษีนำเข้าตามปกติกับไทย อาจเป็นไปได้ว่ารายได้ต่อเดือน ต่อหัวของประเทศไทยดีขึ้น แต่มั่นใจว่าสามารถพูดคุยกับสหรัฐฯ ได้ เนื่องจากทั้งสองประเทศยังคงความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอีกทั้งยังเป็นประเทศคู่ค้าที่สำคัญต่อกัน
-----------------------------------
แหล่งข่าว
https://tna.mcot.net/view/XJu0d8S


.

 

จาก facebook
Thairath - ไทยรัฐออนไลน์
#ข่าวหน้า1 “บิ๊กตู่” เตือนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกสินค้าไทยถูกสหรัฐฯตัดจีเอสพี ขณะที่กระทรวงแรงงาน-พาณิชย์ ร่วมแฉเล่ห์สหรัฐฯ ปิดทางไทยชี้แจงปมสิทธิแรงงาน


thairath.co.th
กดดันตั้งสหภาพต่างด้าว บังคับไทย ก่อนตัดจีเอสพี .. (อ่านต่อ)


จาก facebook
สมชาย แสวงการ
13 นาที

ไม่เกินคาดครับ
เรื่องสหรัฐอเมริกาตัดจีเอสพีไทย
อย่าไปตื่นเต้น เพราะเราได้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและการดูแลแรงาานในทุกมิติครบถ้วนดีมากแล้ว

เว้นอย่างเดียว ที่รัฐบาลสภาและหน่วยราชการไทยเราคงยอมไม่ได้คือ
การที่ ILO ขอให้ออกกฎหมายให้แรงงานต่าวด้าวตั้งสหภาพแรงงานพม่าลาวกัมพูชาเวียดนามฯลฯในประเทศไทย

แค่นี้แรงงานต่าวด้าวก็ได้สิทธินานานับประการเทียบเท่าแรงงานไทยแล้ว ทั้งเงินเดือนค่าตอบแทน โอที ประกันสุขภาพดแม้กาะทั่งยินยอมให้บุตรเรียนในฟรีในโรงเรียนรัฐบาลไทย ฯลฯ มากมายจนแรงงานไทยน้อยใจด้วยซ้ำ

หน่วยงานต่างๆของสหรัฐเองที่มาตรวจดูเรื่องแรงงานและการค้ามนุษย์ก็ยกระดับมาตราฐานเรื่องนี้ให้ไทยในเกณท์ดีขึ้นๆมาตลอด

แต่นั่นแหละครับ
จะทำให้ตามใจอย่างไรสหรัฐอเมริกาก็คงไม่พอ
หาเรื่อวหทเกณท์จะตัดสิทธินี้ให้ได้

ความจริงก็เสียหายไม่มากครับ
หลายคนในสภาอุตสภาหอบอกตรงกันกับหน่วยราขการว่าเสียหายไม่มากประมาณ1,500ล้านบาทเมื่อเทียบกับมํลค่าส่งออกทั้งหมดหลายล้านล้านบาท

ที่สำคัญบริษัทที่เสียหายจากการได้สิทธินี้บางบริษัทเป็นบริษัทอเมริกันที่มาลงทุนในไทยหวังใช้สิทธิจีเอสพีนี้ด้วย555

อย่างไรก็ดีเรื่องนี้ไทยพึ่งพิงสิทธิพิเศษจีเอสพีนี้มานานกว่า43ปี
ธุรกิจส่งออกไทยก็ต้องปรับตัวครับ คงจะไปหว้งสืทธิลมๆแล้งๆที่เขาหยิบยื่นให้อย่างเคยคงไม่ได้แล้ว
เพราะมหาอำนาจอย่างสหรัฐนั้นเขาก็ต้องถือผลประโยชน์ของชาติเค้าเป็นสำคัญครับ

แล้วจากนี้ก็คงหาเหตุตัดโน่นตัดนี่ต่อรองนั่นนี่ ต่อไปเรื่อยๆครับ
ถ้าไทยไม่ยอมเป็นเด็กว่านอนสอนง่ายเป็นลูกไล่ให้สหรัฐเหมือนแต่ก่อน
คงต้องหานิทานอิสปเรื่องหมาป่ากับลูกแกะมาอ่านเตือนสติกันไว้บ้างนะครับ

อย่าซีเรียส555

 

จาก facebook
China Xinhua News
2 ชม.

ฉลุย! เที่ยวบินปฐมฤกษ์ของเครื่องบินไฟฟ้า 4 ที่นั่งสัญชาติจีน

อาร์เอ็กซ์ 4 อี (RX4E) เครื่องบินไฟฟ้า 4 ที่นั่ง ซึ่งจีนพัฒนาขึ้นเองเป็นลำแรกได้ขึ้นบินเป็นครั้งแรกและประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

www.xinhuathai.com/china/ฉลุย-เที่ยวบินปฐมฤกษ์ขอ_20191028


xinhuathai.com
ฉลุย! เที่ยวบินปฐมฤกษ์ของเครื่องบินไฟฟ้า 4 ที่นั่งสัญชาติจีนXinhuaThai | XinhuaThai
.

 

จาก facebook
ไทยคู่ฟ้า
38 นาที

#ไทยคู่ฟ้า อีกไม่ถึงสัปดาห์ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่ครั้งสำคัญในฐานะประธานอาเซียน ประจำปี 2562 นั่นก็คือ การประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 35 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 2 - 4 พ.ย. 62 ที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดนนทบุรี ซึ่งจะขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนให้ก้าวไปสู่อนาคต ภายใต้กรอบของแนวคิด ‘ร่วมมือ ร่วมใจ ก้าวไกล ยั่งยืน’

 

จาก facebook
BIOTHAI
2 ชม.

การแบนสามสารพิษ พาราควอต ไกลโฟเซต และคลอร์ไพริฟอสของประเทศไทยนอกจากเป็นข่าวสารสำคัญที่วอชิงตันโพสต์ นิวยอร์คไทม์ บลูมเบอร์ก และหลายสื่อในสหรัฐรายงานแล้ว

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา GMO Free USA กลุ่มรณรงค์ต้านพืชและผลิตภัณฑ์ดัดแปลงพันธุกรรมที่มีผู้ติดตามเกือบล้านคน ยังได้นำข่าวเรื่องนี้ไปขยายผลต่อด้วย โดยแสดงการสนับสนุนคำพูดของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขของไทยที่ระบุว่า "สหรัฐห่วงแต่เรื่องการค้าเท่านั้น แต่เราห่วงสุขภาพของคนไทย"

GMO Free USA วิพากษ์วิจารณ์ว่า ทั้ง EPA และ USDA ไม่เคยทำงานอย่างเข้มแข็งเพื่อปกป้องประชาชนอย่างเพียงพอในหลายๆรัฐบาลที่ผ่านมา แต่ในยุคสมัยของทรัมป์ คณะผู้บริหารชุดนี้ได้แสดงออกอย่างโจ่งแจ้งในการปกป้องผลประโยชน์ของบรรษัทมากกว่าจะปกป้องสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเปิดเผยด้วยว่าที่ปรึกษาด้านนโยบายของทำเนียบขาวเคยกล่าวว่า
"เรามีมอนซานโต้สนับสนุนนโยบายเรื่องสารพิษกำจัดศัตรูพืช มอนซานโต้ไม่ต้องกลัวเรื่องกฎระเบียบใดๆเพิ่มเติม จากรัฐบาลนี้"

โพสต์นี้ของเพจมีผู้แชร์มากกว่า 700 แชร์
( https://www.facebook.com/402058139834655/posts/3376655839041522/ )
โดยข้อความการแสดงความคิดเห็นทั้งหมดนอกจากวิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลของตนอย่างรุนแรงแล้ว ยังได้ชื่นชม สนับสนุนบทบาทและจุดยืนของประเทศไทยในการแบนสามสารพิษอย่างเต็มที่ ตัวอย่างเช่น :
+++++

"ระบบนิเวศของไทยจะได้รับการฟื้นฟู แต่ระบบนิเวศของสหรัฐกำลังเสื่อมโทรมลงอย่างต่อเนื่อง มันทำลายรากฐานของห่วงโซ่อาหาร และสิ่งที่เหลืออยู่จะล่มสลาย"
-David Price

"ยินดีด้วยประเทศไทย ผมสนุกมากในประเทศไทย ผู้คนก็เป็นมิตรมาก ดีแล้วที่ปกป้องส่งแวดล้อมและสุขภาพคนไทย"
-Vicenta Sanchez Dannelley

"เป็นการก้าวไปข้างหน้าอย่างชาญฉลาดของประเทศไทย ประเทศอื่นๆที่เหลือจำเป็นต้องปกป้องประชาชนและธรรมชาติเช่นนั้น"
-Andrew Allen

"ดีจัง ประเทศไทย ตอนนี้เป็นเวลาที่อเมริกาต้องเติบโตเพื่อทำในสิ่งเดียวกัน "
-Rochelle Farage-Liddicoat

"ไม่เหมือนสหรัฐนะ ประเทศไทยไม่รอช้าเพื่อแบนสารพิษเหล่านั้นเลย"
- Tandy Bickham

"เอาละ ตอนนี้ใครเป็นประเทศโลกที่สามกันแน่"
- Kevin Skinner

"ข่าวนี้มันช่างรบกวนจิตใจเราเหลือเกิน ในฐานะประเทศที่ยังคงสนับสนุนการใช้สารพิษในอาหาร บางทีเราอาจต้องย้ายไปประเทศไทยแล้วละ
-Amber Ju-it

ประเทศไทยเดินนำหน้า เพื่อให้โลกเดินตาม
-Tom Moore
++++

อนึ่งพึงทราบว่า แม้สหรัฐอเมริกาจะเป็นประเทศที่ปลูกพืชจีเอ็มมากที่สุดในโลก และบริษัทสหรัฐครอบครองสิทธิบัตรผูกขาดเทคโนโลยีการดัดแปลงพันธุกรรมมากที่สุดแล้ว แต่คนอเมริกันมากกว่าครึ่งหนึ่งไม่สนับสนุนจีเอ็มโอ และมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์เรียกร้องให้รัฐบาลต้องบังคับติดฉลากเพื่อให้คนอเมริกันสามารถเลือกว่าจะซื้อผลิตผล/ผลิตภัณฑ์ดัดแปลงพันธุกรรมหรือไม่


.

 

จาก facebook
ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์
2 ชม.

ย้ำกันอีกครั้งสำหรับผู้ที่จะซื้อบ้าน ธอส.ลดดอกเบี้ยให้เหลือ 2.50% ตลอด 3 ปีแรก สำหรับการซื้อบ้านพร้อมที่ดินวงเงินไม่เกิน 3 ล้านบาท ตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ค่ะ มาตรการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ช่วยลดดอกเบี้ยกู้ไปกว่าแสนบาท เงื่อนไขนี้ใช้ได้ถึง 24 ธ.ค.2563 ค่ะ


.

 

จาก facebook
ไทยคู่ฟ้า
1 ชม.

#ไทยคู่ฟ้า เปิดแล้ว! สะพานมิตรภาพไทย - เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย - ตองยิน แห่งที่ 2 ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษแม่สอด จ.ตาก เป็นโครงข่ายคมนาคมขนส่งสินค้าตามแนวเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก - ตะวันตก เชื่อมโยงเมียนมา ไทย สปป.ลาว และเวียดนาม คาดว่าจะช่วยเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนได้ 100,000 ล้านบาทต่อปี

สำหรับพื้นที่โครงการประกอบด้วย
1) สะพานข้ามแม่น้ำเมย ความยาว 760 เมตร
2) ถนนขนาด 4 ช่องจราจร เชื่อม 2 ฝั่ง และ
3) อาคารด่านพรมแดน

-----------------------------------
​

ไปที่กูเกิล >> สะพานมิตรภาพ ไทย-พม่า

จาก นสพ สยามรัฐ
>> 22 ปี "สะพานมิตรภาพไทย-พม่า (แห่งที่ 1)"
https://siamrath.co.th/n/104593

จาก นสพ ประชาชาติ
>> เปิด ‘สะพานมิตรภาพไทย-พม่า 2’ จุดพลุเขต ศก.พิเศษแม่สอดแสนล้าน
https://www.prachachat.net/property/news-385576