เรื่องเด่น “มนุษย์และสัตว์”สับเปลี่ยนภพชาติได้หรือไม่

ในห้อง 'ภพภูมิ-สวรรค์ นรก' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 26 มีนาคม 2018.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    “มนุษย์และสัตว์สับเปลี่ยนภพชาติเป็นอื่นได้หรือไม่”

    467092029-1.jpg


    ก็เราผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าและผลัดเปลี่ยนกางเกงก็ยังได้
    จิตจะผลัดเปลี่ยนภพชาติของตนไม่ได้อย่างไร
    การผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเราถือเป็นของธรรมดา ว่าต้องผลัดเปลี่ยนกันได้ทั่วโลก

    การผลัดเปลี่ยนภพชาติของใจ ก็เป็นกฎธรรมดาของกรรมที่ตนทำไว้
    ให้ผลัดเปลี่ยนไปได้ตามสิ่งผลักดันอันเป็นเจ้าของผู้มีอำนาจเหนือจิต ในระยะที่กิเลสวัฏฏะ กรรมวัฏฏะ และวิปากวัฏฏะ
    เรืองอำนาจครองใจอยู่ สิ่งทั้งนี้มีอำนาจผลักดันจิตให้เกิดได้ในกำเนิดต่าง ๆ โดยไม่รอให้จิตได้มีเวลาพิจารณาและตัดสินใจเลย เพราะความกดดันของกรรมที่ครองจิต ส่วนไหนมีกำลังมาก ส่วนนั้นต้องเข้าทำหน้าที่ควบคุมจิตให้เป็นไปตามอำนาจของตน
    .
    ฉะนั้นจิตจึงไม่มีโอกาสจะใคร่ครวญไตร่ตรองดูสถานที่เกิด และภพกำเนิดของตน จนปรากฏตัวออกมาซึ่งเป็นสิ่งที่เหลือวิสัยจะแก้ไขแล้ว จึงจะทราบได้ว่าตนเกิดเป็นอะไร แต่สัตว์บางจำพวกก็ไม่มีโอกาสจะทราบได้ว่าตนเป็นสัตว์ประเภทไร นอกจากมนุษย์และภูมิที่สูงกว่ามนุษย์เท่านั้นจะพอทราบได้ในภพกำเนิดของตน ๆ
    .
    พระพุทธเจ้าท่านเล็งเห็นการจุติ คือเคลื่อนจากร่าง และการปฏิสนธิ คือการเข้าสู่ภพชาติของมวลสัตว์ว่า เป็นไปไม่มีประมาณ ทั้งภูมิสูง ภูมิต่ำ
    และการสับเปลี่ยนแห่งภพชาติสู่ความเป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นต้น และเป็นไปได้ทุก ๆ ภายในบรรดาสัตว์ผู้มีกิเลส เป็นเจ้าครองใจ จึงทรงสั่งสอนให้อบรมจิตไปในทางที่ดี คือทาน ศีล ภาวนา เสียตั้งแต่เมื่อยังมีชีวิตอยู่ เมื่อถึงคราวจวนตัวใจจะมีที่พึ่ง ไม่กระสับกระส่ายและเขวไปในทางผิด โดยไม่คว้าเอากำเนิดตุ๊กแกมาครองเสียบ้าง นับว่าเป็นกำเนิดที่ขาดทุนอย่างย่อยยับในภพเช่นนั้น
    .
    เราเป็นพุทธศาสนิกชนและเป็นนักปฏิบัติ เพื่อรู้สาเหตุของการเกิดการตาย ซึ่งเป็นการท่องเที่ยวแห่งจิต ของผู้ยังไม่หมดเชื้อ ของความหมุนเวียน จึงควรถือเป็นกิจจำเป็นอย่างยิ่งเหนืองานใด ๆ คือพยายามอบรมจิตให้มีความสงบเยือกเย็นและฉลาดแยบคาย เพื่อให้ทันความเคลื่อนไหวของจิตที่จะออกทำการติดต่อกับเรื่องต่าง ๆ

    และพยายามรื้อฟื้นสิ่งที่ติดแนบอยู่กับใจ และแก้ไขด้วยปัญญา อย่านิ่งนอนใจ ความเป็นอยู่แห่งภพชาติของเรา มีความสุข ความทุกข์ ขนาดไหนที่เคยเป็นมา โปรดประมวลมาพิจารณาโดยตลอด อย่ายอมหมักหมมเอาไว้ จะเป็นเชื้อต่อทุกข์ภัยมาถึงตัว เช่นที่เคยเป็นมาตามภพชาติต่าง ๆ จงพยายามพิจารณา และถอดถอนออก ให้หมดด้วยความเพียร
    .
    ถ้าจิตหมดเชื้อโดยสิ้นเชิงแล้ว เรื่องทุกข์ในภพไหน ๆ จะไม่มีอีกต่อไป นั่นแล ท่านเรียกว่า ผู้หมดทุกข์โดยประการทั้งปวง

    .

    คำว่า นิพฺพานํ ปรมํ สุญฺญํ โปรดทราบว่า คือ สูญทุกข์ทั้งมวลภายในใจนั่นเอง แต่ผู้ที่รู้ว่าทุกข์สูญสิ้นไปนั้นคือผู้บริสุทธิ์โดยสิ้นเชิง มิได้สูญไปด้วย เช่นเดียวกับหัวกลอยหัวมันที่ถูกต้มจนจืดสนิทดีแล้ว ไม่มีรสคันฝังเหลืออยู่ ย่อมทรงรสชาติอันดีไว้ในหัวของมันอย่างสมบูรณ์ มิได้สูญไปตามรสคันอันเป็นพิษ รับประทานย่อมมีรสเอร็ดอร่อยดีฉะนั้น
    ……………………………………………………
    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    เทศน์อบรมฆราวาส ณ วัดป่าบ้านตาด
    เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๐๖
    “ยึดหลักมัชฌิมาไว้ให้ดี”



    -------------------
    ขอบคุณที่มา
    https://thekiller994.wordpress.com/2018/03/22/มนุษย์และสัตว์สับเปลี/
     
  2. เเสงเทียน

    เเสงเทียน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2017
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +156
    สาธุครับ
     
  3. mrmos

    mrmos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +1,101

แชร์หน้านี้

Loading...