เรื่องเด่น ใช้คาถาอย่างไรให้ได้ผล และความสำคัญของบทบารมี ๓๐ ทัศ

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย ธรรมวิวัฒน์, 5 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,419
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,442
    ใช้คาถาอย่างไรให้ได้ผล และความสำคัญของบทบารมี ๓๐ ทัศ

    26907523_1772808212789476_4791120364006568239_n.jpg

    พูดถึงเรื่องของคาถาแล้ว คำว่า“คาถา”นั้น มีรากศัพท์มาจากบาลีว่า “กถา” แปลว่า วาจาเป็นเครื่องกล่าว หมายความว่า คำพูดทุกอย่างก็คือคาถา

    แต่คาถาในความรู้สึกหรือว่าเข้าใจของพวกเรานั้น เป็นถ้อยคำศักดิ์สิทธิ์ ที่จะบันดาลผลให้ผู้ที่ท่องบ่นภาวนาได้ ถ้าจะนับอย่างนั้นก็ได้ แต่ว่าให้ส่วนของคาถานี้ จะว่าไปแล้วเป็นไสยศาสตร์


    คำว่าไสยนั้นตรงข้ามกับพุทธ “ไสยะ”แปลว่า“หลับ” ส่วน“พุทธะ”แปลว่า“ตื่น” ไสยศาสตร์ คือ ความรู้ที่ยังไม่พ้นจากการหลับ ส่วนพุทธศาสตร์ คือ ความรู้ที่ทำให้เราตื่น แต่โบราณาจารย์ท่านเก่ง ท่านให้เราภาวนาเกี่ยวกับไสยศาสตร์จนจิตเคยชิน พอชินกับสิ่งเหล่านี้แล้ว เมื่อเปลี่ยนมาปฏิบัติกรรมฐานตามแบบของพุทธศาสตร์ ก็จะทำได้ดี แล้วก็ง่ายกว่า

    ดังนั้น..ถ้าหากใครเขาว่า เราปฏิบัติหรือว่าทำในเรื่องของไสยศาสตร์ ให้ยอมรับไปเลย หลวงปู่ หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์ของผม ท่านทำอย่างนี้มาตลอด ตั้งแต่ต้นมาจนบัดนี้ เริ่มต้นที่ไสยศาสตร์จบลงที่พุทธศาสตร์ ไม่ใช่เริ่มที่ไสยศาสตร์ แล้วออกทะเลกลับไม่เป็น

    การที่เราจะใช้คาถาให้ได้ผล อย่างน้อยจิตต้องทรงตัวเป็นอุปจารฌานขึ้นไป ก็แปลว่าเกือบจะถึงปฐมฌาน แล้วต้องมีความแน่วแน่มั่นคง จิตที่จดจ่อแน่วแน่นั่นแหละ จะเป็นตัวบันดาลให้เป็นไป


    คาถานั้นเกิดขึ้นมา ๓ แบบด้วยกัน
    แบบที่ ๑ คือ พระพุทธเจ้าท่านประทานให้
    แบบที่ ๒ คือ พรหม เทวดาหรือว่านางฟ้า ท่านบอกให้
    แบบที่ ๓ คือ บุคคลที่ได้อภิญญาผูกคาถาขึ้นมา แล้วอธิษฐานทับด้วยอำนาจอภิญญาของท่าน


    การที่เราจะป้องกันตัวจากไสยศาสตร์ หรือจากบุคคลที่ไม่ประสงค์ดี หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านบอกให้เสกข้าวกิน คาถาที่ท่านบอกให้ใช้มี อยู่ ๒ - ๓ บทด้วยกัน

    บทแรกคือ บารมี ๓๐ ทัศ ต่อด้วย นะโมพุทธายะ ท่านบอกว่า ก่อนจะฉันอาหาร ให้เสกข้าวโดยการทำน้ำมนต์พรมเสียก่อน แต่อย่างนั้นรู้สึกว่ายุ่งยาก ผมเองไม่ค่อยชอบความยุ่ง ผมจะภาวนากำหนดภาพพระ ครอบไปหมดทั้งบริเวณนั้นเลย

    ท่านบอกว่า ถ้าหากว่าเป็นสิ่งที่ไสยศาสตร์ทำมา จะกลับคืนสภาพเดิม ถ้าหากว่าไม่มีก็แปลว่าปลอดภัย คาถาท่านว่า

    "อิติปาระมิตตา ติงสา อิติสัพพัญญู มาคะตา
    อิติโพธิ มะนุปปัตโต อิติปิโส จะ เตนะโม"


    นี่เป็นบารมี ๓๐ ทัศ แล้วต่อด้วยพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ คือ นะโมพุทธายะ ว่าเป็นชุดเดียวกันไปเลย เสกข้าวกิน

    ส่วนอีก ๒ บท บทหนึ่งเป็นของพระพุทธเจ้าพระนามว่าพระพุทธกัสสปะ อีกบทหนึ่งเป็นของท้าวเวสสุวรรณ ท่านบอกว่า เสกคาถานี้แล้ว จะทำลายยาพิษยาสั่งที่เขาใส่มาในอาหารได้ อาหารที่เหลือจากการขบฉันของเรา จะเป็นยารักษาโรคของผู้ที่นำเอาไปกินต่อด้วย

    บทแรกท่านว่า "พุทธังมัดจิต ธัมมังมัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ" นี่เป็นของพระพุทธกัสสปะท่าน

    บทที่ ๒ ว่า "พุทธังมัดจิต ธัมมังมัดใจ โรคภัยทั้งหลาย วินาศสันติ" นี่เป็นของท้าวเวสสุวรรณท่าน

    ทั้ง ๒ บทนี้ ให้เสกต่อเนื่องเป็นบทเดียวกันไปเลย แต่ว่าการใช้คาถาตามแบบของหลวงปู่ หลวงพ่อ ท่านให้บูชาครูเสียก่อน โดยใช้ ธูป ๕ ดอก เทียนขาว ๕ เล่ม ดอกบัวขาว ๕ ดอก บูชาครูขออนุญาตใช้คาถานี้

    ถ้าหากว่าเราใช้บารมี ๓๐ ทัศ ต่อด้วยนะโมพุทธายะ จะทำลายของไสยศาสตร์ทั้งหมดที่เขาทำมา แต่ว่ายาพิษยาสั่งนั้น เป็นอันตรายที่เกิดจากวัตถุธาตุ ไม่ใช่ไสยศาสตร์ ท่านให้ใช้บท "พุทธังมัดจิต ธัมมังมัดใจ ศัตรูทั้งหลาย วินาศสันติ" นี้ทำลายยาพิษยาสั่ง

    ส่วน "พุทธังมัดจิต ธัมมังมัดใจ โรคภัยทั้งหลาย วินาศสันติ" ท่านบอกว่าจะช่วยเป็นยารักษาโรคภัย สำหรับท่านทั้งหลายที่นำเอาอาหารส่วนที่เหลือจากพระไปกินไปใช้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    ปกิณกธรรมจากเกาะพระฤๅษี
    บันทึก - วันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๕๐
    ภาพและที่มา : เว็บวัดท่าขนุน
     
  2. madeaw23

    madeaw23 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +188
    กราบสาธุครับ
     
  3. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,398
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,634

แชร์หน้านี้

Loading...