เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 17 กรกฎาคม 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,385
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,528
    ค่าพลัง:
    +26,367
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,385
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,528
    ค่าพลัง:
    +26,367
    วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ระยะนี้ทางอำเภอทองผาภูมิฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลเป็นพิเศษ เป็นการวัดบารมีว่าพระภิกษุสามเณรของเรานั้น มีความอดทนอดกลั้นต่อความยากลำบากเท่าไร ? ถ้าหากว่ายอมแพ้พ่ายต่อดินฟ้าอากาศเพียงแค่นี้ ก็แปลว่ากำลังใจของเรายังไม่คู่ควรกับธรรมะที่สูงไปกว่านี้ เนื่องเพราะว่าระดับของธรรมะยิ่งสูงมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งอยู่ในลักษณะที่ต้องแลกกันด้วยชีวิตเท่านั้น..!

    เมื่อวานนี้ทางหมอนุ้ย (แพทย์หญิงนวลจันทร์ เวชสุวรรณมณี) ผู้อำนวยการโรงพยาบาลทองผาภูมิ ได้นำเอาประกาศเกียรติคุณของกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ที่ได้ยกวัดท่าขนุนขึ้นเป็น "วัดส่งเสริมสุขภาพ ระดับยั่งยืน" ซึ่งวัดส่งเสริมสุขภาพนั้นจะต้องมีการตรวจประเมินเช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าเอกสารในการตรวจประเมินนั้น ปกติเขามอบให้พระในวัดที่รู้เรื่องมากที่สุดเป็นผู้ประเมินให้

    แต่ว่าของวัดท่าขนุนนั้น ด้วยความที่ร่วมงานกับโรงพยาบาลทองผาภูมิมาเป็นสิบ ๆ ปี หมอนุ้ยก็เลยจัดการประเมินให้เอง..! ซึ่งวัดส่งเสริมสุขภาพนั้นมีอยู่ ๓ ระดับ ระดับแรกเรียกว่า "ระดับพื้นฐาน" ระดับที่ ๒ คือ "ระดับก้าวหน้า" ส่วนระดับที่ ๓ ที่ถือว่าเป็นระดับสูงสุดก็คือ "ระดับยั่งยืน" ในเมื่อผู้อำนวยการโรงพยาบาลเป็นผู้ประเมินเอง จึงได้รับความเชื่อถือจากทางกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขเป็นอย่างยิ่ง จนได้รับประกาศเกียรติคุณมา ในลักษณะที่ว่าบังคับให้อยู่ในระดับนี้ ห้ามตกต่ำไปกว่านี้..!

    กระผม/อาตมภาพได้บอกกล่าวกับทุกท่านอยู่เสมอว่า "การขึ้นสู่ที่สูงนั้นไม่ยาก แต่การรักษาระดับนั้นยากกว่า งานต่าง ๆ เกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพของทางวัดท่าขนุนนั้น กระผม/อาตมภาพได้ให้พระภิกษุสามเณร แม่ชีและฆราวาส ช่วยกันดำเนินงานต่อเนื่องกันมาตลอด โดยเฉพาะโครงการ ๑ วัด ๑ โรงพยาบาล และ โครงการ ๑ ตำบล ๑ โรงพยาบาล เป็นต้น

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น การที่ได้รับประกาศเกียรติคุณวัดส่งเสริมสุขภาพระดับยั่งยืน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของกระทรวงสาธารณสุข ต้องบอกว่าไม่มีรางวัลวัดส่งเสริมสุขภาพที่สูงไปกว่านี้อีกแล้ว เพียงแต่ทำอย่างไรที่เราจะรักษาระดับนี้เอาไว้ได้ ก็คือทุกคนจะต้องเหนื่อยกันต่อไป เพื่อที่จะให้ปัญหาสุขภาพของบุคคลในวัด และบุคคลรอบวัดนั้นจะได้ดีขึ้นกว่านี้
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,385
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,528
    ค่าพลัง:
    +26,367
    เรื่องปัญหาสุขภาพนั้นเป็นการบั่นทอนกำลังของประเทศชาติเป็นอย่างยิ่ง กระผม/อาตมภาพยังรู้สึกดีใจที่ว่า ทางรัฐบาลมีโครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค มีโครงการบัตรทอง เป็นต้น ทำให้สามารถเข้าถึงการรักษาสุขภาพ หรือว่าเข้าถึงสาธารณสุขพื้นฐานได้ทั่วถึงกัน

    แล้วปัจจุบันนี้การใช้บัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกโรงพยาบาลก็มีการกำหนดเอาไว้ ๔๐ กว่าจังหวัดไปแล้ว แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าจังหวัดใหญ่ ๆ อย่างกาญจนบุรีนั้น ยังไม่ได้อยู่ใน ๔๒ จังหวัด เนื่องเพราะว่ากาญจนบุรีมีชนต่างด้าวอยู่เยอะมาก ถ้าหากว่าใช้บัตรประชาชนใบเดียว ก็ยังต้องมาดูว่าบัตรประชาชน ๑๐ ปีที่เป็นของต่างด้าวก็ดี บัตรสีชมพู บัตรสีฟ้า ที่เป็นบัตรบุคคลในพื้นที่สูงก็ตาม สามารถที่จะใช้ในโครงการนี้ได้หรือไม่ ? ไม่เช่นนั้นก็จะเกิดความลักลั่นกันขึ้นมา จึงทำให้จังหวัดกาญจนบุรีน่าจะเป็นจังหวัดท้าย ๆ ที่จะได้รับอนุมัติในโครงการบัตรประชาชนใบเดียวรักษาทุกโรค

    การสาธารณสุขพื้นฐานของไทยเรานั้นเป็นที่ชื่นชมของต่างชาติเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดโรคระบาด อย่างประเทศของเรา ช่วงที่เชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาดนั้น อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ได้มีบทบาทที่โดดเด่นมาก ๆ กระผม/อาตมภาพก็อาศัยคณะอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านตำบลท่าขนุน ซึ่งมีอยู่ทั้งหมด ๑๐๐ กว่าคน นำโดยคุณสายใจ สินค้าประเสริฐ ประธานอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านตำบลท่าขนุน ช่วยกันดำเนินการช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ทุกด้าน

    ไม่ว่าจะเป็นการเย็บหน้ากากอนามัย เพื่อไปแจกจ่ายให้ประชาชนในชุมชนได้รับการป้องกันอย่างทั่วถึง การแจกจ่ายแอกอฮอล์และเจลล้างมือ การแจกจ่ายยาเม็ดฟ้าทลายโจรเพื่อบรรเทาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย และท้ายที่สุดถึงขนาดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนาม

    จังหวัดกาญจนบุรีนั้นมี "ศูนย์พักคอย" ทั้งหมดอยู่ ๘๖ แห่ง และ "โรงพยาบาลสนาม" ๑ แห่ง โรงพยาบาลสนามแห่งนั้นก็คือ "โรงพยาบาลสนามวัดท่าขนุน" เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า ทางวัดท่าขนุนของเรานั้นมีความพร้อมทุกอย่าง ไม่ว่าทางโรงพยาบาลต้องการห้องปลอดเชื้อ หรือว่าต้องการอะไรก็ตาม ทางวัดสามารถที่จะจัดการให้ได้ทั้งหมด ทำให้ทางโรงพยาบาลทองผาภูมิ สามารถที่จะแบ่งเอาแพทย์พยาบาลมาช่วยดูแลคนไข้ได้ ยังเสียดายอยู่ว่าวัดท่าขนุนรับคนไข้ได้ไม่เกิน ๘๐ เตียงเท่านั้น
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,385
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,528
    ค่าพลัง:
    +26,367
    กระผม/อาตมภาพยังได้ไปเยี่ยมคนป่วยอยู่บ่อย ๆ ไปแต่ละทีก็ทำเอาแพทย์พยาบาลหัวใจจะวาย..! เพราะว่าบางทีก็ใกล้ชิดผู้ป่วยจนกระทั่งผู้ที่เรียนมาในด้านของการสาธารณสุขตกใจไปตาม ๆ กัน แต่ก็ยังดีที่ว่ายังบุญพาวาสนาช่วย ที่ทองผาภูมิเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แพร่ระบาดมา ๑๐ กว่าระลอกแล้ว กระผม/อาตมภาพยังอยู่รอดมาได้ทุกยุคทุกสมัย โดยเฉพาะบรรดาท่านที่ไปประมาท หลังจากที่ทางราชการประกาศไม่บังคับใส่หน้ากากอนามัยแล้ว ทางวัดท่าขนุนก็ยังใส่กันเป็นปกติ ส่วนใหญ่จึงรอดมาได้

    ในที่นี้ก็ต้องเจริญพรขอบพระคุณทางชาลิสาเภสัช โดยคุณชาลี - คุณอริษา ทองเรือง ที่ได้มอบเครื่องไม้เครื่องมือในการดูแลสุขภาพมาให้อย่างสม่ำเสมอ แม้แต่อาทิตย์ที่ผ่านมาก็ยังส่งหน้ากากอนามัยไปให้เป็นลังใหญ่ ๆ หรือว่าบรรดาชุดตรวจเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ แบบเร่งด่วนที่เรียกว่า ATK ก็ดี บรรดาเจลแอลกอฮอล์ ตลอดจนกระทั่งแอลกอฮอล์ค่าเชื้อก็ตาม สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้ช่วยทั้งพระภิกษุสามเณร แม่ชี ฆราวาสในวัด และช่วยบรรดาชาวบ้านรอบวัดได้ดีเป็นอย่างยิ่ง

    อีกส่วนหนึ่งก็คือชมรมรักษ์ธรรมรักษ์ไทย ซึ่งนำโดยไอ้ตัวเล็ก (นางสาวพัชรีภรณ์ หยกอุบล) ที่พยายามติดต่อประสานงานฝ่ายโน้นฝ่ายนี้บ้าง เพื่อที่จะนำเอาสิ่งที่จำเป็นในการต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บ มาส่งไว้ให้กับทางวัดท่าขนุน

    อีกส่วนหนึ่งก็ต้องขอบพระคุณพระครูปฐมสาธุวัฒน์ หรือว่า "ท่านอาจารย์เทพ" วัดสี่แยกเจริญพร ที่หาแม้กระทั่งเตียงพยาบาลไฟฟ้า รถเข็นสำหรับคนไข้ เครื่องผลิตออกซิเจน เหล่านี้มาถวาย โดยที่ตัวท่านอาจารย์เทพเองก็รู้สึกว่าจะ "ชักหน้าไม่ถึงหลัง"

    โดยเฉพาะเมื่อมีทางด่วนสาย ๘๑ ก็คือทางด่วนสายบางใหญ่ - กาญจนบุรีเกิดขึ้น แม้ว่าในปัจจุบันนี้จะเปิดใช้แค่ช่วงจังหวัดนครปฐม - กาญจนบุรีก็ตาม ทำให้วัดสี่แยกเจริญพรเงียบเป็นผีหลอก บุคคลที่เคยวิ่งผ่านหน้าวัดก็เปลี่ยนมาขึ้นทางด่วนฟรีกันหมด ไม่ทราบเหมือนกันว่าเมื่อทางด่วนเก็บเงินแล้ว สถานการณ์
    ของวัดสี่แยกเจริญพรจะดีขึ้นหรือไม่ ?
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,385
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,528
    ค่าพลัง:
    +26,367
    แต่พระครูเทพก็แจ้งว่า "ปีนี้ผมไม่ทำวัตถุมงคลแล้วครับหลวงพ่อ ขอเก็บของเก่าของหลวงพ่อ ไม่ว่าจะเป็นเหรียญพญาเต่าเรือนเปิดโลกพลิกชีวิต พิมพ์ซุ้มเศรษฐี หรือว่าเหรียญสมเด็จองค์ปฐมยิ้มรับทรัพย์ มาให้บรรดาเจ้าภาพกฐินปีนี้ได้บูชากัน เพื่อร่วมทอดกฐินสามัคคีของวัดสี่แยกเจริญพร

    กระผม/อาตมภาพก็อนุโมทนาด้วย เนื่องเพราะว่าท่านเองช่วยเหลือคนทั่วประเทศไทย แต่พอถึงเวลาตัวเองเดือดร้อนขึ้นมากลับหาคนช่วยไม่ได้ ต้องบอกว่าน่าจะเกิดวันเดียวกับกระผม/อาตมภาพ ซึ่งโบราณท่านบอกเอาไว้ว่า คนที่เกิดวันอาทิตย์นั้น "ฯลฯ จักพึ่งผู้อื่นมิได้สักครา เขากลับพึ่งพาดีเนื้อดีใจ..ฯลฯ"

    เมื่อพูดมาถึงเรื่องของวัตถุมงคล ก็ขอกล่าวถึงเรื่องประหลาดอยู่เรื่องหนึ่ง ก็คือตอนที่หลวงพ่อพระครูสิริสีลวัตร รักษาการเจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ ให้คณะญาติโยม
    จำนวน ๔๐๐ คน มาถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝน กระผม/อาตมภาพจะค้นเอาพระเนื้อยาวาสนาจินดามณี พิมพ์สะดุ้งกลับ เพื่อเอามาแจกจ่ายเป็นของที่ระลึกให้กับญาติโยม ปรากฏว่าหาเท่าไรก็หาไม่เจอ ไม่ทราบเหมือนกันว่าใครเอาไปซุกไว้ที่ไหน ?!

    จนกระทั่งต้องออกไปรับญาติโยมมือเปล่า ได้แต่แสดงสัมโมทนียกถา เพื่อช่วยเพิ่มกำลังใจให้แก่ญาติโยม ที่อุตส่าห์เดินทางมาไกลแสนไกลเท่านั้น แต่เป็นเรื่องอัศจรรย์ที่ว่า พอรุ่งขึ้น พระเนื้อยาวาสนาจินดามณี พิมพ์สะดุ้งกลับ ก็ตั้งอยู่ที่เดิมนั่นเอง แล้วก่อนหน้านี้หายไปไหน ? ทั้ง ๆ ที่อยู่ในลังใบใหญ่ทีเดียว กระผม/อาตมภาพก็ยังอัศจรรย์อยู่จนถึงวันนี้

    ถ้าหากว่าท่านใดต้องการก็ไปบูชาเอาในเว็บวัดท่าขนุน ซึ่งไม่รู้ว่าทางไอ้ตัวเล็กเหลืออยู่เท่าไร แต่ว่าเหลืออยู่ที่กระผม/อาตมภาพนั้นก็ในระดับหลักพันเท่านั้น ตั้งใจว่าถ้าหากว่าเหรียญนาคเกี้ยวกันภัย เนื้ออื่น ๆ ออกไม่ทันในช่วงกฐิน ก็จะเอา พระเนื้อยาวาสนาจินดามณี พิมพ์สะดุ้งกลับ นี้ มาให้ญาติโยมได้ทำบุญกฐินแทน

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพุธที่ ๑๗ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...