เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 13 มีนาคม 2024.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพไปร่วมทำวัตรเช้าร่วมกับว่าที่พระอุปัชฌาย์ของคณะสงฆ์หนกลาง ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม (แห่งที่ ๒) ตำบลขุนแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม

    นอกจากบรรดาว่าที่พระอุปัชฌาย์ของจังหวัดกาญจนบุรีที่คุ้นหน้าคุ้นตากันแล้ว บรรดาว่าผู้เข้ารับการอบรมพระอุปัชฌาย์ของปีนี้ ในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๑๔ ยังมีท่านเจ้าคุณชนะ - พระศรีธวัชเมธี (ชนะ ธมฺมธโช ป.ธ.๙) หลวงพ่อพระครูปฐมกิตติวัฒน์ (คชา ปญฺญาธโร) หลวงพ่อพระครูปฐมโชติวัฒน์ (เสวก โชติธมฺโม) หลวงพ่อพระครูปฐมธีรวัฒน์ (บัญชา ฐิตธมฺโม ป.ธ.๓)

    กระผม/อาตมภาพ พอเห็นบรรดา
    เพื่อนฝูง - ลูกศิษย์ จากจังหวัดนครปฐมแล้วก็อดขำไม่ได้ เนื่องเพราะว่าสมณศักดิ์ของท่านนั้น แทบจะต่างกันแค่ตัวเดียว จึงทำให้บุคคลอื่นที่ได้ยินสมณศักดิ์แล้วก็มักจะสับสนวุ่นวายกับชีวิต

    โดยเฉพาะท่านสุดท้ายก็คือ ท่านพระครูสังวรสาธุวัตร (สำรวย สํวโร) ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมเรียนกันมา ตั้งแต่ระดับประกาศนียบัตรกิจการคณะสงฆ์ จนกระทั่งท่านมาเป็นเจ้าอาวาสวัดไทยาวาส ขึ้นมาเป็นเจ้าคณะตำบล ในสมัยนั้นยังเป็นพระครูใบฎีกาสำรวย สํวโรอยู่เลย ปัจจุบันนี้เปลี่ยนจากบุคคลที่รูปร่างหน้าตาเหมือนสามเณรน้อย กลายมาเป็นศีรษะมีผมหงอกแซมไปมากมายแล้ว เมื่องอนิ้วนับย้อนหลัง
    กระผม/อาตมภาพก็ยังตกใจว่า "นี่พวกเราเรียน ป.บส. ผ่านมากันถึง ๒๐ ปีแล้ว" ไม่น่าเชื่อก็ต้องเชื่อ..!

    เมื่อได้ร่วมทำวัตรและฉันเช้าเรียบร้อยแล้ว ก็ไปขอตัวกับพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ และพระเดชพระคุณพระราชวชิรโมลี (สมชาย พุทฺธญาโณ ป.ธ.๗) รองเจ้าคณะภาค ๑๔ ว่าขออนุญาตเดินทางไปเพื่อรับสังฆทานจากท่านอ้น (คุณวัชรเรศร วิวัชรวงศ์) ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณแย้มก็ปรารภว่า "เขาก็นิมนต์ข้าเหมือนกัน แต่ติดงานตรงนี้ ก็เลยไปไม่ได้" จึงกราบเรียนท่านว่า "ขออนุญาตหนีงานวันนี้ครับ พรุ่งนี้ถึงจะมาช่วยงานใหม่"

    ว่าแล้วก็เดินทางไปยังศูนย์สุขภาพพระสงฆ์ บ้านวังด้ง หมู่ที่ ๑ ตำบลวังด้ง อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี กว่าที่จะฝ่ารถติดไปถึง กระผม/อาตมภาพก็เป็นพระสงฆ์รูปสุดท้ายที่เข้าสู่บริเวณพิธี..!
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เนื่องเพราะว่าผู้ที่จะเข้ารับสังฆทานจากท่านอ้นนั้น ประกอบไปด้วยพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชวิสุทธาภรณ์ (ทองดำ อิฏฺฐาสโภ ป.ธ.๖) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าอาวาสวัดพระแท่นดงรังวรวิหาร

    พระเดชพระคุณพระโสภณกาญจนาภรณ์ (ทอมสันต์ จนฺทสุวณฺโณ ป.ธ.๔) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี รองเจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง)

    พระเดชพระคุณพระสมณานัมธีราจารย์ (เดชาธร เกวิ๊กซัน) ปลัดซ้ายของเจ้าคณะใหญ่อนัมนิกาย เจ้าอาวาสวัดถาวรวราราม หรือหลวงพ่อเจ้าคุณวัดญวน

    ถัดมาก็เป็นพระครูกาญจนสมาจาร (หลวงพ่อลูกอินทร์) รองเจ้าคณะอำเภอพนมทวน

    แล้วก็เป็นกระผม/อาตมภาพ พระครูวิลาศกาญจนธรรม รองเจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ

    ปิดท้ายด้วยท่านพระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเทวสังฆาราม (พระอารามหลวง)

    ส่วนพระเถระเจริญพระพุทธมนต์ที่อยู่บนอาสนะสงฆ์นั้น ที่มองเห็นอยู่ก็คือ ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิพงษ์เมธี, ดร. (วีระ มหาวีโร ป.ธ. ๗) เจ้าคณะอำเภอศรีสวัสดิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง)

    ท่านเจ้าคุณพระเมธีปริยัติวิบูล, ดร. (ศิริ สิริธโร ป.ธ. ๙) เจ้าคณะอำเภอเมืองกาญจนบุรี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) เป็นต้น

    ได้ฟังพิธีกรสรรเสริญเจริญพรให้กระผม/อาตมภาพเสียมากมาย เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้นเท่ากับเป็นเจ้าภาพใหญ่รูปหนึ่ง ที่ช่วยเหลือในการสร้างศูนย์สุขภาพพระสงฆ์บ้านวังด้ง จังหวัดกาญจนบุรีแห่งนี้ขึ้นมา
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เมื่อท่านอ้นมาถึง ก็ยกมือไหว้ทักทายบรรดาประชาชนที่มาร่วมงานอยู่มากต่อมากด้วยกัน เสียงทักให้เซ็งแซ่ไปหมดว่า "ท่านอ้นเป็นอย่างไร ? สบายดีหรือไม่ ? เมืองไทยร้อนหรือเปล่า ?" เหล่านี้เป็นต้น

    เมื่อท่านยกมือไหว้พระเถระทุกรูปเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ทำการจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย สมาทานศีล แล้วก็ถวายผ้าป่าเพื่อซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับทางศูนย์สุขภาพพระสงฆ์แห่งนี้ ปรากฏว่ามีผู้ร่วมถวายปัจจัยทอดผ้าป่าครั้งนี้ โดยมอบให้กับท่านอ้นจำนวน ๒ รายด้วยกัน รายแรกจำนวน ๑๙๙,๙๙๙ บาท รายที่ ๒ จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท

    โดยความที่ญาติโยมทั้งหลายล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีความรักความเคารพในสถาบันพระมหากษัตริย์ เมื่อเห็นท่านอ้นก็ทำท่าจะคุกเข่า เล่นเอาท่านอ้นถึงกับตกใจ ลุกขึ้นรีบประคองให้อีกฝ่ายยืนขึ้น แล้วก็รับซองปัจจัยมา บอกว่า "ผมเป็นคนธรรมดาครับ อย่าทำอย่างนั้น" ดูแล้วท่านมีความน่ารักเป็นอย่างยิ่ง

    แล้วท่านก็ทำการทอดถวายผ้าไตรผ้าป่า โดยมีพระเดชพระคุณพระราชวิสุทธาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้พิจารณาผ้าไตร จากนั้นท่านก็มาประเคนสังฆทานที่บริเวณเบื้องหน้าคณะของกระผม/อาตมภาพ ส่วนบรรดาผู้ติดตามและญาติโยมเจ้าภาพก็ไปประเคนไทยธรรมที่เบื้องหน้าพระเจริญพระพุทธมนต์ด้านบนอาสนะสงฆ์

    หลังจากนั้นท่านก็มารับของที่ระลึกจากหลวงพ่อเจ้าคุณวัดญวน เป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ กระผม/อาตมภาพเมื่อเห็นว่ามีการมอบของที่ระลึกเช่นนั้น จึงได้ล้วงเอาเบี้ยแก้หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว จำนวน ๔ ตัวที่ติดตัวอยู่ มอบให้กับท่านอ้นไป โดยบอกว่า "ให้ทั้ง ๔ พี่น้องเลย" ท่านถามว่า "เป็นวัตถุมงคลอะไรครับ ?" จึงได้บอกว่า "เบี้ยแก้หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว สามารถให้ผู้ติดตามหาข้อมูลจากกูเกิ้ลได้"

    ท่านเองก็ยังชอบอกชอบใจ รีบให้ผู้ติดตามนำใส่กระเป๋าถือที่ติดตัวอยู่ทันที แล้วก็เข้าไปเดินดูกิจการงานต่าง ๆ ของทางศูนย์สุขภาพพระสงฆ์ ซึ่งมีคนมาใช้บริการมากขึ้นไปเรื่อย ๆ เนื่องเพราะว่ามีบุคคลที่เส้นโลหิตในสมองแตก แล้วเกิดอาการอัมพฤกษ์ อัมพาต โดยเฉพาะพระสงฆ์จากที่ไกล ๆ ขนาดสุราษฎร์ธานี ชุมพร ก็ยังขึ้นมาใช้บริการที่นี่ ซึ่งได้รับการอำนวยความสะดวกและดูแลรักษาเป็นอย่างดี จนสุขภาพแข็งแรง สามารถที่จะกลับไปทำกิจของสงฆ์ได้

    กระผม/อาตมภาพก็กราบลาบรรดาพระมหาเถระ โดยเฉพาะหลวงพ่อเจ้าคุณวัดญวน กราบเรียนท่านว่า "ช่วงงานฉลองวัดญวนนั้น กระผมอยู่ที่ประเทศจีนครับ" เพราะว่าคุณปิยมงคล โชติกเสถียร ได้มอบค่าทัวร์ให้ ๒ ที่นั่ง เพื่อเดินทางไปเมืองจีนในช่วงนั้น
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เมื่อได้ยินดังนั้น หลวงพ่อวัดญวนท่านจึงกล่าวว่า "ถ้ามีงานสำคัญก็ไม่เป็นไร สามารถที่จะไปก่อนงานหรือว่าหลังงานก็ได้" กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่กราบพระมหาเถระ ที่ทั้งต่างนิกายและต่างวัย ท่านเองก็ยังมีเมตตา งานวัดท่าขนุนท่านก็ไปไม่ขาด แต่พองานของท่าน เรากลับไม่สามารถที่ไปจะตอบแทนท่านได้ แล้วกราบลาออกมาทางด้านนอก ท่ามกลางเสียงกำชับกำชาจากพระเถรานุเถระว่า "รบกวนช่วยส่งรูปให้ด้วยครับ"

    กระผม/อาตมภาพก็ยังนึกขำอยู่ในใจ เนื่องเพราะว่าปัจจุบันนี้น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ผู้ที่มีหน้าที่เป็นพลขับให้กระผม/อาตมภาพ ได้ทำหน้าที่ไปทุกอย่าง แม้กระทั่งการถ่ายรูปงาน ในการถ่ายรูปงานนั้น ก็มักจะรู้จังหวะว่า จังหวะไหนควรที่จะถ่าย จังหวะไหนควรที่จะเว้น แล้วก็มุมไหนที่ควรมี มุมไหนที่ซ้ำกันมากก็เว้นไป เป็นต้น จึงทำให้ทางคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ลามไปถึงคณะสงฆ์ภาค ๑๔ เมื่อถึงเวลาเห็นถ่ายรูป ก็มักจะบอกว่า "ช่วยส่งให้ด้วย" เหล่านี้เป็นต้น

    สิ่งที่ท่านทั้งหลายได้ฟังมา ประการที่ ๑ ก็คือกระผม/อาตมภาพทำไมถึงต้อง "แหกขี้ตา" ไปทำวัตรเช้า ท่านทั้งหลาย..พวกเราเองนั้น มักจะให้แต่อาหารกาย ไม่ได้ให้อาหารใจแก่ตนเองเลย ในเมื่อจิตใจของเราหิวโหยแล้ว ถ้าเราไม่หาอาหารดี ๆ ให้กิน จิตใจของเราก็จะไปหากินเอง แล้วมักจะได้ รัก โลภ โกรธ หลง เข้าไปเป็นอาหารจำนวนมาก เราจึงควรที่จะหาความดีใส่ตัวของเรา เป็นอาหารใจไว้ทุกเช้า เนื่องเพราะว่าเวลาเช้าเป็นเวลาที่สำคัญที่สุด ถ้ามีสิ่งดี ๆ เข้าสู่ใจแล้ว สิ่งที่ไม่ดีก็ไม่สามารถเข้าสู่ใจของเราได้

    ครั้นเดินทางกลับมาถึงที่พัก เข้าไปทำหน้าที่ผู้ตรวจการณ์ในเว็บไซต์วัดท่าขนุน แล้วก็เกิดอาการ "น้ำตาจิไหล" เนื่องเพราะว่าอุตส่าห์กัดฟัน นำเอาสุดยอดเบี้ยแก้ของประเทศไทย คือเบี้ยแก้หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว และเบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง เจ้าของเครื่องรางสะท้านแผ่นดิน "เบี้ยขลังวัดนายโรง" ที่ตนเองหามาด้วยความยากลำบากไปลงเอาไว้ ซึ่งระยะหลังการลงวัตถุมงคลแต่ละชิ้น
    กระผม/อาตมภาพก็ต้องมานั่งลุ้นว่า "จะได้คืนหรือไม่ ?" ถ้ามีผู้รู้คุณค่าเห็นเข้า ก็มักจะรีบคว้าไปทันที..!
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    กระผม/อาตมภาพอุตส่าห์ไม่บอกแล้วว่า สามองค์หลังของเบี้ยแก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรงนั้น "สวยสมบูรณ์สุด ๆ" เพราะว่าเบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง ส่วนใหญ่แล้วหูเบี้ยจะขาดหายหมด กว่าที่จะหาที่สวยสมบูรณ์แบบนี้ได้ ก็แทบจะล้มประดาตาย แต่ว่ากลับมา ปรากฏว่าบรรดา "ท่านผู้รู้จักของ" กวาดไปเรียบแล้ว..!

    ส่วนเบี้ยแก้ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้วนั้น กระผม/อาตมภาพเองมีน้อยกว่าเบี้ยแก้หลวงปู่รอด วัดนายโรง อาจจะเป็นเพราะว่าตนเองเป็นคนนครปฐม ในเมื่อคนนครปฐมไปหาเบี้ยแก้หลวงปู่บุญ ซึ่งคนนครปฐมรู้คุณค่าดี จึงไม่มีใครที่อยากจะ "ปล่อย" ให้ ท่านที่พอจะปล่อยมือให้ ก็บอกราคามาเสียสูงติดฟ้าไปเลย เป็นต้น โดยเฉพาะมักจะบอกใน "ราคาเซียน" ในท้องตลาด ซึ่งเป็นเลข ๗ หลักบ้าง ๗ หลักกลาง ๆ บ้าง ทำเอากระผม/อาตมภาพอยู่ในอาการ "จดไม่ติด"

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงกลายเป็นว่าสิ่งที่ตนเองหามาโดยยากนั้น เหาะหายไปจากการครอบครองอีกแล้ว กว่าที่จะหามาได้ใช้เวลาหลายปี แต่ท่านผู้รู้คุณค่าคว้าไปภายในไม่กี่นาทีเท่านั้น ได้แต่ลุ้นว่าส่วนที่เหลืออยู่ จะมีอะไรรอดไปจนถึงวันที่ ๑๕ มีนาคมนี้บ้าง

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายแก่พระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพุธที่ ๑๓ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...