เรื่องของยักษ์

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Mdef, 7 มิถุนายน 2021.

  1. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    unnamed.jpg
     
  2. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    15230673_1274887105865504_9185390462891736998_n.jpg

    บันทึกธรรมพระราชพรหมยาน เรื่องของยักษ์
    .... หลวงพ่อ : อสูรเป็นเทวดาพวกหนึ่ง อสูรเขาแปลว่าไม่กล้า.....
    .....ยักษ์เขาแปลว่า “ บุคคลที่ควรบูชา “ ถ้าแปลอีกคำหนึ่งให้ตรงศัพท์เขาแปลว่า “เทวดา” แต่เราไปตีความหมายเขาผิด ถ้ายักษ์ละก็รูปร่างน่ากลัว แต่ไอ้ยักษ์ที่น่ากลัวมียักษ์เดียวคือ ....” ยักยอก “... ยักนี้มันไม่มีเขี้ยว มีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เผลอเมื่อไรเป็นเอาหมดเลย....

    คนที่จะเป็นอสูรได้เพราะทำบุญผสมโทสะ หมายความว่าเวลาทำบุญมีคนมาพูดนิดๆ หน่อยๆ มันเกิดโมโห พอจะรับศีลก็มีคนมาสะกิดแขนอีกแล้ว ก็โมโห ฉะนั้นหน้าก็ยุ่งไปนิด หน้าเขาสวยน้อยกว่าเทวดานิดเดียว และเขาก็มีวิมานเหมือนกัน
    และอีกประการหนึ่งคำว่า “กามาวจร “ ซึ่งแปลว่า “อารมณ์ที่เที่ยวไปในความใคร่ “ คำว่าใคร่ตัวนี้ อย่านึกว่าเทวดาเขาใคร่เหมือนคนนะ ถ้าเทวดามีความใคร่เท่าคนเขาไม่เรียกเทวดา เขาเรียกว่า...คนเทว.... แปลว่า ...ประเสริฐ...

    ทีนี้ความใคร่ของผู้ประเสริฐนั้นหมายความถึงมีความเนื่องถึงกัน โดยมีความรู้สึกว่า คนนี้เป็นสามี คนนั้นเป็นภรรยา คนนี้เป็นลูก คนนั้นเป็นบริวาร ก็มีเท่านั้น ยังมีความห่วงใยกันอยู่ในฐานะที่เคยมีความสัมพันธ์กันมา ก็ยังมีความกังวลเรื่องความประพฤติว่าเขาจะทำดีหรือทำชั่ว จะพลัดลงไปในอบายภูมิหรือเปล่า ฉะนั้นเทวดาพวกที่มีผัวเมียก็เหมือนกับคนที่รักษาอุโบสถ คนที่เขารักษาอุโบสถเขาก็เว้นจากกามารมณ์เหมือนกัน เทวดาจึงไม่มีการเสพกาม
    การเกิดของเทวดาถ้าจะเกิดเป็นลูก พอตายจากมนุษย์ปั๊บก็ไปเกิดบนตักของเทวดาองค์ใดองค์หนึ่ง ถ้าเป็นผู้ชายเขาเรียกเทพบุตร ถ้าเป็นผู้หญิงเรียก เทพธิดา เป็นหนุ่มมสาวเท่านั้นจนกว่าจะจุติ

    ถ้าหากว่าไปเกิดในที่นอนของใครหมายถึงว่าเป็นคู่ครองขององค์นั้น บรรดาบริวารทั้งหลายเป็นพันเป็นหมื่นไม่มีการเลื่อนฐานะ ไม่มีการยกอันดับเหมือนเมืองมนุษย์นะ
    ถ้าหากว่าเกิดเป็นบริวาร ถ้าเกิดในวิมานของใครตั้งแต่รั้ววิมานเข้าไป ก็เป็นขององค์นั้น แต่ถ้าเกิดกึ่งกลางจากวิมานไหนก็ตามสี่หลังวัดไปเท่ากัน แต่ว่าหันหน้าไปวิมานไหน ก็เป็นบริวารของวิมานนั้น ของเทวดาองค์นั้น

    ทีนี้ความรู้สึกของพรหม ซึ่งแปลว่า ผู้ประเสริฐที่ไม่เรียกว่า....กามาวจร...ก็เพราะว่าความใคร่ไม่มี เพราะพรหมอยู่ผู้เดียว ขึ้นชื่อว่าสามี ภรรยา บุตรธิดาไม่มี คำว่าบริวารนั้นหมายถึงพวกพ้อง ต่างคนต่างอยู่วิมานคนละหลัง ฉะนั้นอารมณ์เนื่องกันถึงกันในฐานะต่างๆ จึงไม่มีในพรหม พรหมเขาอยู่ด้วยอำนาจของธรรมปีติ ดังนั้นพวกพรหมจึงมีอารมณ์สงบกว่าเทวดา ไม่มีกังวลอย่างเทวดา จิตเขาเลยเบากว่าเทวดา....

    อ้างอิง : หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ( ฉบับพิเศษ ๓ ) โดยหลวงพ่อพระมหาวีระ ถาวโร หน้า ๓๖-๒๘

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มิถุนายน 2021
  3. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    106480810_3474757412574915_3291266220180803253_n.jpg
    อาฬวกยักษ์

    ถาม : อาฬวกยักษ์ เป็นยักษ์แต่ทำไมบรรลุเป็นพระโสดาบัน ?

    ตอบ : คำว่า ยักษ์ ในที่นี้หมายถึงผู้ประเสริฐ เป็นเทวดาในชั้นจาตุมหาราชิกาภูมิ ยักษ์ในสมัยก่อนที่เป็นผู้ประเสริฐ ก็คือ เทวดาจำพวกหนึ่งในบริวารของท้าวเวสสุวรรณ แต่ยักษ์ในความหมายของเรา บาลีเรียกว่า รากษส คือ พวกกินคน

    อาฬวกยักษ์อยู่ที่เมืองอาฬวี พระพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดเป็นการเฉพาะ
    เพราะเห็นว่ามีวิสัยที่จะบรรลุธรรมได้ พอพระองค์เข้าไปยังที่อยู่ของอาฬวกยักษ์
    บรรดาสนมบริวารทั้งหลายของอาฬวกยักษ์เห็นพระพุทธเจ้าก็ดีใจ
    ได้ข่าวมานานเหลือเกินแล้วว่าพระสมณโคดมเกิดขึ้นในโลกแต่ไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้า
    พอพระองค์เสด็จมาก็ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี

    ตอนนั้นอาฬวกยักษ์ไปเฝ้าท้าวเวสสุวรรณอยู่
    เพื่อนยักษ์คือเหมวตยักษ์ บอกว่า
    "ลาภใหญ่มาถึงท่านแล้ว พระสมณโคดมอยู่ที่สำนักของท่าน รีบกลับไปต้อนรับเถิด"

    อาฬวกยักษ์โกรธจนไฟขึ้นหัว แสดงว่าสาวสวย ๆ เยอะ
    กลัวว่าพระพุทธเจ้าจะไปแย่งสาว ๆ ของตัว จึงรีบกลับมายังที่อยู่ของตน
    แสดงว่ายักษ์ในสมัยนั้นก็ไม่ได้มีศรัทธาในพระพุทธศาสนาทั้งหมด

    ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุดคือ การสวดภาณยักษ์ ภาณพระ
    การสวดภาณยักษ์ก็คือ การที่ท้าวมหาราชทั้ง ๔
    โดยมีท้าวเวสสุวรรณเป็นหัวหน้า มีความเห็นว่า
    ท่านทั้งหลายก็ได้นับถือศาสนาพุทธแล้ว แต่ไม่แน่ว่ายักษ์อื่น ๆ จะนับถือศาสนาพุทธ

    ดังนั้น..ถ้าหากว่าพระภิกษุในพุทธศาสนาไปธุดงค์ปฏิบัติธรรมในสถานที่ต่าง ๆ
    อาจถูกบริวารยักษ์ที่ไม่นับถือทำร้ายเอาได้
    ท่านจึงผูกบทสรรเสริญคุณพระพุทธเจ้าขึ้นมา
    แล้วเรียกประชุมยักษ์ทั้งหมดประกาศให้ทราบว่า จะนำคาถาบทนี้

    มีเนื้อความว่าดังนี้ ไปถวายพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า
    เพื่อมอบให้แก่ภิกษุสามเณรในการสวดสาธยาย
    ถ้าหากว่าภิกษุสามเณรท่านใดสวดสาธยายพระคาถานี้
    แล้วยักษ์บริวารไม่ว่าระดับไหนก็ตามไปทำการเบียดเบียน
    จะปรับโทษเท่ากับขบถ
    เพราะท้าวเวสสุวรรณท่านถือว่าเป็นจอมกษัตริย์ของบรรดายักษ์ทั้งหลาย

    ดังนั้น..การประกาศให้ยักษ์ทั้งหลายรู้
    จึงได้เรียกว่า ภาณยักษ์ คือ ยักษ์พูด , ภาณะ คือคำพูด
    อย่างเช่นผู้หญิงชื่อ สุภาณี แปลว่า พูดดี พูดเพราะ

    ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ก็เข้าเฝ้าพระพุทธเจ้า ตรัสเล่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้
    พร้อมทั้งบทพระคาถาถวายแก่พระพุทธเจ้า
    พระพุทธเจ้าเมื่อรับพระคาถามาแล้วก็เรียกประชุมพระภิกษุสามเณร
    ตรัสบอกให้ทราบถึงอานิสงส์ของพระคาถาและที่มา

    ตอนพระพุทธเจ้าตรัสบอกพระทั้งหลายให้ทราบ เรียกว่า ภาณพระ คือพระพูด
    ในเมื่อยักษ์ทั้งหลายไม่ได้เคารพพระพุทธเจ้าเสมอกัน
    อาฬวกยักษ์โกรธพระพุทธเจ้าที่เข้าไปในสำนักโดยไม่ได้รับเชิญ
    จึงรีบกลับมายังสำนักตน มาถึงก็ตวาดไล่ให้ออก

    พระพุทธเจ้าท่านก็เดินออก อาฬวกยักษ์ถึงกับงง
    "ไหนว่าพระสมณโคดมมากด้วยศักดานุภาพ
    แม้แต่พรหมทั้งหลายก็ไม่อาจจะต้านทานอานุภาพได้
    แล้วทำไมเราไล่แล้วออกง่าย ๆ ?"

    เอาความคิดและนิสัยของตัวไปใส่ให้พระพุทธเจ้า ว่าถ้าเป็นตัวเองจะไม่ออกแน่
    พอบอกพระพุทธเจ้าให้หยุด ท่านก็หยุด บอกให้กลับเข้าไป ท่านก็กลับเข้าไป
    อาฬวกยักษ์ก็เลยงงว่าพระพุทธเจ้าว่าง่ายขนาดนี้เชียวหรือ ?
    หารู้ไม่ว่าเป็นเทคนิควิธีการสอนอย่างหนึ่ง
    ว่าคนที่กำลังโมโหมาจะทำอย่างไรให้หายโมโห
    อีกฝ่ายหนึ่งพอโทสะลดลงแล้ว ท่านถึงได้เทศน์โปรด แล้วก็ได้บรรลุมรรคผล

    เพราะฉะนั้น..ยักษ์ในที่นี้
    เป็นหนึ่งในสี่เหล่าเทวดาของชั้นจาตุมหาราช มีโอกาสบรรลุมรรคผลได้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เดือนธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๕๓ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    ที่มา www.watthakhanun.com
     
  4. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869




    ]
     
  5. PWDef

    PWDef สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2022
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +8
    999B803C-8199-4D71-AD46-89C559CE29D6.jpeg


    #พี่ยักษ์ทองทิพย์ถ้ำเมืองนะ

    พี่ยักษ์อยู่ถ้ำเมืองนะมานาน
    อยู่ที่นี่มาเป็นพันปีแล้ว
    พี่ยักษ์ หล่อ และใจดี
    มีที่ไหน ยักษ์ยิ้มหล่อเห็นฟัน32ซี่
    มีที่นี่ ที่เดียว..ถ้ำเมืองนะ

    เมื่อก่อน ภาพที่มักจะเห็นจนชินตา
    ก่อนวันหวยออก..คนไปไหว้ ไปกระซิบบางคนชอบไปนั่งเก้าอี้สวดมนต์ ใกล้พี่ยักษ์ บางทีก็นอนสวดมนต์ ตรงนั้นเลย นอนในถ้ำ จนถึงเช้า

    พวงมาลัยของพี่ยักษ์ ไม่เคยขาด
    เพิ่มตลอด

    การอยู่ถ้ำเมืองนะ
    นอกจากหลวงปู่หลวงตาแล้ว..
    ก็มีพี่ยักษ์อีกองค์นี่แหละ
    ที่ทำให้อุ่นใจ..ขึ้นถ้ำกลับกุฏิ..มืดๆ
    เดินจงกลมทั้งคืน..ชิวๆ..อุ่นใจ
    ไปไหนมาไหน มีอะไร ก็บอกพี่ยักษ์
    พี่ยักษ์ดูแลด้วยน๊า จัดระเบียบด้วย

    หลวงตาบอก พี่ยักษ์เขาเป็นเทวดา
    หลวงตาเลยหล่อรูปลักษณ์พี่ยักษ์
    หน้าเป็นเทวดา..หล่อเหลา น่ารักมาก
    ไปดู ไปขอโชคได้..ที่สาขาสันป่าตอง
    ....วัดป่าพรหมปัญโญ สันป่าตอง

    หลวงตาบอก พี่ยักษ์เขาชอบ
    คนสวดมนต์..เวลาสวด นึกถึงเขาด้วย
    พี่ยักษ์คร้าบ..ช่วยเหลือเกื้อกูลกันนะ
    คร้าบ

    หลวงตาสอนให้เรา
    อ่อนน้อมถ่อมตน
    ฝากความดีไว้แก่กัน
    ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์ สัตว์
    เทพพรหม เทวดา
    หรือวิญญาณใดๆ..
    ท่านว่าเราเกิดคนเดียวไม่ได้..
    เราสร้างบารมีคนเดียวไม่ได้..
    เราต้องมีพวก..
    ยิ่งมีพวกเป็นเทพพรหมเทวดา
    ที่มีกำลัง เป็นโพธิสัตว์ด้วย ยิ่งดีใหญ่ จะทำอะไรก็ง่าย..
    ปลอดภัยด้วยประการทั้งปวง..
    ท่านเรียกว่า”ฝากกระแส”
     
  6. พิลก

    พิลก สะหรีธรรมจักรพรรดิติลก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +31
    มีเรื่องเกิดกับตัวเองมาเล่าครับ เมื่อต้นปีที่ผ่านมาผมไปบูชาผ้ายันต์พญายักษ์(ท้าวเวสสุวรรณ) มาจากวัดแห่งหนึ่งในภาคเหนือตอนบน บูชามา 8 ผืน เหตุที่บูชามาเพราะอยู่บ้านคนเดียวแล้วตกกลางคืนมักถูกผีอำ โดยเฉพาะวันโกนจะโดนอำทุกครั้ง เป็นลักษณะรูปร่างเงาดำๆมานั่งบนอก จะรู้สึกอึดอัดหายใจลำบากแม้จะนอนหงาย จนตกใจตื่นและเจอเงาดำนี้ทุกครั้ง ครั้งสุดท้ายถูกลากจนตกเตียง ตกลงครึ่งตัว (ขา-เอวตกเตียง)
    หลังจากผมบูชาผ้ายันต์มาแล้วก็นำไปติดที่เสาเรือนสูงติดเพดาน (หัวเสา) จำนวน 4 ผืน ทั้ง 4 มุมบ้าน ที่ประตูห้องนอน 1 ผืน ที่หัวนอน 1 ผืน ที่ประตูเรือนด้านหน้าบ้าน 1 ผืน หลังบ้าน 1 ผืน รวม 8 ผืนด้วยกัน หลังจากวันนั้นผมก็ไม่โดนผีอำหรือฝันเกี่ยวกับผีทำร้ายอีกเลย และช่วงต้นปีที่ผ่านมามีพายุฝนพัดถล่มจนหลังคาเพื่อนบ้านใกล้เคียงผมทั้ง4ด้าน หลังคาปลิวเสียหายหลังคาเรือนละหลายสิบแผ่น แต่น่าแปลกที่บ้านผมเองกลับไม่มีความเสียหายเลยสักแผ่นเดียว ซ้ำร้ายช่วงโควิดระบาดรอบล่าสุด เพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงทั้ง 4 ด้านของผม ติดโควิดกันทุกหลังคา แต่ตัวผมเองกลับไม่ติดโควิดเลย
    ที่เล่ามานี้โดยส่วนตัวคิดว่าเกิดจากอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในรูปผ้ายันต์เทพอสูรยักษ์แน่นอน และที่ไม่บอกสถานที่บูชาผ้ายันต์ที่ว่าก็เพราะไม่ต้องการจะให้ใครคิดว่าผมมาโฆษณาขายของ แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องจริงที่เจอมากับตัวครับ
     
  7. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
    IMG_6255.jpeg

    ตำนานพระอรหันต์ในแดนเถื่อน

    ตอน ท้าวเวสสุวรรณมาขออุปัฏฐาก


    ช่วงที่อยู่วัดตรีฯราชบุรี พระอาจารย์ใหญ่ได้เล่าให้ฟังว่า เทวดามาขออุปัฏฐากท่าน อุปัฏฐากก็คือมาขอดูแลรักษาท่าน ช่วยงานท่านตามแต่ที่ท่านจะเรียกใช้ เทวดาที่มาขออุปัฏฐากนี้ก็คือ ท่านท้าวเวสสุวรรณ เป็นหนึ่งในหัวหน้าเทวดาชั้นจาตุมหาราชิกา มีหน้าที่ปกครองพวกยักษ์ ภูมเทวดา รุกขเทวดาฯลฯ

    พระอาจารย์ใหญ่เล่าว่า เทวดาที่เป็นบริวารท้าวเวสสุวรรณ จะมาป้องกันคุ้มครองท่านอยู่ตามทิศทั้งสี่ ทั้งกลางวันและกลางคืน พวกเทวดาเขาต้องการสร้างบารมี มาอนุโมทนาบุญกับผู้สร้างบุญสร้างกุศล เพื่อเปลี่ยนภพภูมิให้สูงๆขึ้นไป เทวดาถ้ามีบุญกุศลมากพอ จะสามารถเปลี่ยนภพภูมิตัวเองได้ สามารถฟังธรรมและบรรลุธรรมได้ ท่านจึงเทศน์สอนเทวดาได้บรรลุธรรมมากมายกว่ามนุษย์ เทวดาพอได้ฟังธรรมเขาบรรลุธรรมแล้ว จะถอดเครื่องทรงต่างๆทิ้ง แล้วกราบลา บางองค์ก็นิพพาน บางองค์ก็ยังติดสวรรค์สมบัติ คล้ายๆกับมนุษย์ของเรา สบายกว่ามนุษย์ตรงที่ไม่ต้องวุ่นวายทำมาหากินมีอาหารทิพย์ วิมานทิพย์ ฯลฯ การสอนเทวดาจึงง่ายกว่าการสอนมนุษย์

    พระอาจารย์ใหญ่เล่าให้ฟังว่า ท้าวเวสสุวรรณ มาคุ้มครองและทำงานให้ท่านหลายอย่างแล้วแต่ท่านจะใช้ให้ทำ เช่น ไปดูที่ดิน ที่ญาติโยมมาขอให้ท่านช่วย เพื่อให้ขายได้ไวๆ ท่านก็ส่งท้าวเวสสุวรรณไปดูว่าติดขัดอะไร ท่านเล่าว่า ท้าวเวสสุวรรณวิ่งไปวิ่งมาหลายๆที่จนเหนื่อย เพราะมีงานที่ญาติโยมมาขอความช่วยเหลือเยอะ บางคนก็ใจร้อนอยากขายได้ไวๆ ท่านบอกว่า ต้องรอตามคิว ถ้าคิวยาวก็ช้าหน่อย แต่ถ้ากุศลเขาถึงก็ขายได้ไว บุญมันเปลี่ยนแปลงได้ทุกอย่าง นับวันงานท่านยิ่งมากขึ้น เทวดายังบ่นว่าเหนื่อย แต่เทวดาก็พร้อมที่จะทำงานถวายพระอาจารย์ใหญ่เพื่อสร้างบารมี เทวดามีอายุยาวนานกว่ามนุษย์มาก ยังรีบขวนขวายสร้างกุศล แต่มนุษย์มีอายุน้อยนักเมื่อเทียบกับเทวดา ไม่สมควรจะประมาทในชีวิต ไม่สมควรจะผลัดวันประกันพรุ่ง

    พระอาจารย์ใหญ่ท่านมักจะเทศน์ให้ไม่ประมาทในบุญกุศล รีบสร้างกุศลแข่งกับเวลา สร้างวาสนาแข่งกับความตาย เพราะเวลาเป็นของมีค่า เวลาผ่านแล้วผ่านเลย ชีวิตนี้น้อยนัก ดอกไม้บาน เดี๋ยวก็โรย แม้เป็นพระอรหันต์ก็ต้องตาย บัณฑิตทั้งหลายเขาทำงานตลอด24ชั่วโมง รู้จักเวลา รักษาเวลา ให้เริ่มเลย ไม่สมควรที่จะเสียเปล่า โอกาสมีน้อย

     
  8. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
  9. Mdef

    Mdef เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    1,366
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,869
     

แชร์หน้านี้

Loading...