อาสันนกรรม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 17 กันยายน 2020.

  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +70,473
    กรรมใดสามารถเพื่อจะให้ระลึกถึงในเวลาใกล้ตาย กรรมนั้น ชื่อว่า ยทาสันนกรรม หรือเรียกอีกอย่างว่า อาสันนกรรม
    .................
    ...พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงจำแนกกรรมไว้ ๑๑ อย่าง คือ ทิฏฐธรรมเวทนียกรรม ๑ อุปปัชชเวทนียกรรม ๑ อปรปริยายเวทนียกรรม ๑ ครุกกรรม ๑ พหุลกรรม ๑ ยทาสันนกรรม ๑ กฏัตตาวาปนกรรม ๑ ชนกกรรม ๑ อุปัตถัมภกรรม ๑ อุปปีฬกกรรม ๑ อุปฆาตกกรรม ๑.
    …ฯลฯ...
    อธิบายยทาสันนกรรม
    ส่วนในบรรดากุศลกรรมและอกุศลกรรมทั้งหลาย กรรมใดสามารถเพื่อจะให้ระลึกถึงในเวลาใกล้ตาย กรรมนั้น ชื่อว่ายทาสันนกรรม.๑-
    ......................
    ๑- คำว่า ยทาสันนกรรม ก็คือ อาสันนกรรม

    ยทาสันนกรรมนั่นแหละ เมื่อกุศลกรรมและอกุศลกรรมเหล่านั้น ถึงจะมีอยู่ก็ให้ผล (ก่อน) เพราะอยู่ใกล้มรณกาล เหมือนเมื่อเปิดประตูคอกที่มีฝูงโคเต็มคอก บรรดาโคฝึกและโคมีกำลัง ถึงจะอยู่ในส่วนอื่นๆ (ไกลปากคอก) โคตัวใดอยู่ใกล้ประตูคอก โดยที่สุดจะเป็นโคแก่ ถอยกำลังก็ตาม โคตัวนั้นก็ย่อมออกได้ก่อนอยู่นั่นเองฉะนั้น.
    ในข้อนั้น มีเรื่องดังต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง

    เรื่องคนเฝ้าประตูชาวทมิฬ
    เล่ากันมาว่า ในบ้านมธุอังคณะ มีนายประตูชาวทมิฬคนหนึ่งถือเอาเบ็ดไปแต่เช้า ตกปลาได้แล้วแบ่งออกเป็น ๓ ส่วน ส่วนหนึ่งเอาแลกข้าวสาร ส่วนหนึ่งแลกนม ส่วนหนึ่งต้มแกงกิน. โดยทำนองนี้ เขาทำปาณาติบาตอยู่ถึง ๕๐ ปี ต่อมาแก่ตัวลง ล้มหมอนนอนเสื่อ.
    ในขณะนั้น พระจุลลปิณฑปาติกติสสเถระชาวคิรีวิหาร รำพึงว่า คนผู้นี้ เมื่อเรายังเห็นอยู่อย่าพินาศเสียเลย แล้วไปยืนอยู่ที่ประตูเรือนของเขา. ขณะนั้น ภริยาของเขาจึงบอกว่า นี่! พระเถระมาโปรดแล้ว เขาตอบว่า ตลอดเวลา ๕๐ ปี เราไม่เคยไปสำนักของพระเถระเลย ด้วยคุณความดีอะไรของเรา ท่านจึงต้องมา เธอจงไปนิมนต์ให้ท่านไปเสียเถิด.
    นางบอกพระเถระว่า นิมนต์ไปโปรดสัตว์ข้างหน้าเถิด เจ้าข้า.
    พระเถระถามว่า อุบาสกมีพฤติการทางร่างกายอย่างไร.
    นางตอบว่า อ่อนแรงแล้ว เจ้าข้า.
    พระเถระเข้าไปยังเรือนให้สติ แล้วกล่าวว่า โยมรับศีล (ไหม). เขาตอบว่า รับ ขอรับพระคุณเจ้า นิมนต์ให้ศีลเถิด. พระเถระให้สรณะ ๓ แล้ว เริ่มจะให้ศีล ๕. ในขณะที่อุบาสกนั้นว่า ปญฺจ สีลานิ นั่นแหละ ลิ้นแข็งเสียแล้ว. พระเถระคิดว่าเท่านี้ก็พอควร แล้วออกไป. ส่วนเขาตายแล้วไปเกิดในภพจาตุมหาราชิกะ.
    ก็ในขณะที่เขาเกิดนั้นแหละ รำลึกว่า เราทำกรรมอะไรหนอจึงได้สมบัตินี้ รู้ว่าได้เพราะอาศัยพระเถระ จึงมาจากเทวโลก ไหว้พระเถระแล้วยืนอยู่ ณ ที่สมควรส่วนข้างหนึ่ง เมื่อพระเถระถามว่า นั่นใคร. ตอบว่า กระผม (คือ) คนเฝ้าประตูชาวทมิฬครับ พระคุณเจ้า. พระเถระถามว่า ท่านไปเกิดที่ไหน. ตอบว่า ผมเกิดที่ชั้นจาตุมหาราชิกภพ ครับพระคุณเจ้า ถ้าหากพระคุณเจ้าได้ให้ศีล ๕ แล้วไซร้ ผมคงได้เกิดในชั้นสูงขึ้นไป ผมจักทำอย่างไร. พระเถระตอบว่า ดูก่อน (เทพ) บุตร ท่านไม่สามารถจะรับเอาได้เอง. เทพบุตรไหว้พระเถระแล้ว กลับไปยังเทวโลก.
    นี้เป็นเรื่อง (ตัวอย่าง) ในกุศลกรรมก่อน.

    เรื่องมหาวาตกาลอุบาสก
    ก็ในระหว่างแม่น้ำคงคา ได้อุบาสกชื่อว่ามหาวาตกาละ. เขาสาธยายอาการ ๓๒ เพื่อมุ่งโสดาปัตติมรรคถึง ๓๐ ปี ถึงทิฎฐิวิปลาสว่า เราสาธยายอาการ ๓๒ อยู่อย่างนี้ก็ไม่อาจให้เกิดแม้เพียงโอกาสได้ ชะรอยพระพุทธศาสนาจักไม่เป็นศาสนาเครื่องนำสัตว์ออกจากภพ (เป็นแน่) กระทำกาลกิริยาแล้วได้ไปเกิดเป็นลูกจระเข้ยาว ๙ อุสภะที่แม่น้ำมหาคงคา. คราวหนึ่ง เกวียนบรรทุกเสาหิน ๖๐ เล่มเดินทางไปตามท่ากัจฉปะ. จระเข้นั้นฮุบกินทั้งโคทั้งหินเหล่านั้น จนหมดสิ้น.
    นี้เป็นเรื่อง (ตัวอย่าง) ในอกุศลกรรม.
    .............
    ข้อความบางตอนใน อรรถกถานิทานสูตร อรรถกถา อังคุตตรนิกาย ติกนิบาต
    https://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=20&i=473
    #กรรม #ใกล้ตาย #ระลึกถึง
    #อาสันนกรรม #ยทาสันนกรรม

    mdAwap0Vuw6CNfalUWMs3323Mq7l5IAhUwd-3DxEDEUU&_nc_ohc=S8haFjl26K4AX-XKuzC&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...