เสียงธรรม อานิสงส์ของการสร้างพระไตรปิฎก

ในห้อง 'วัฏสงสารและกฎแห่งกรรม' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 11 ตุลาคม 2009.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    [​IMG]
    พระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ)


    อานิสงส์ของการสร้างพระไตรปิฎก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • v05_004.wma
      ขนาดไฟล์:
      5.1 MB
      เปิดดู:
      426
  2. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    คัดลอกมาจากหน้าบอร์ด..^_^

    -------------------------

    อานิสงส์ที่ยิ่งใหญ่แห่งธรรมทาน การเผยแผ่พระพุทธศาสนา

    พุทธพจน์:

    “...ดูกรสุภูติ หากชายคนหนึ่งทำทานโดยการ
    ถวายทานด้วยสมบัติกองสูงเท่ากับภูเขาพระสุเมรุทั้ง
    จักรวาลมารวมกัน ส่วนอีกคนหนึ่ง รับฟังคำสอนไว้
    ในใจ อ่าน เรียนรู้ จดจำ แล้วสั่งสอนผู้อื่น
    บุญกุศลของชายคนแรกยังไม่มากเท่าหนึ่งใน
    ร้อย หนึ่งในพัน หนึ่งในแสน ของบุญกุศลที่ชายคน
    ที่สองได้รับ เพราะไม่สามารถจะเปรียบกันได้เลย


    1.)ให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง

    2).ในเชตวันมหาวิหาร ณ กรุงสาวัตถี
    พระสารีบุตรเถระเจ้า ทูลถามกับพระพุทธเจ้า
    "ว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าชนทั้งหลายให้พุทธศาสนายืนยาวถึง ๕ พันวัสสา จะมีอานิสงส์เป็นประการใด พระพุทธเจ้าข้า "

    พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ดูกรท่านสารีบุตร ถ้าชนทั้งหลายมีจิตรศรัทธาเลื่อมใสเช่นนั้นแล้ว

    เมื่อตายไปแล้วก็จักรได้เสวยราชสมบัติเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชถึง ๘ หมื่น ๔ พันกัลป์ ใช่แต่เท่านั้น
    เมื่อเคลื่อนจากความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิแล้ว ก็จะได้เป็นพระราชา มีอนุภาพอีก ๙ อสงไขย
    ต่อจากนั้นก็ได้เสวยสมบัติในตระกูลต่าง ๆ เป็นลำดับไป คือตระกูลพราหมณ์มหาศาล ตระกูลเศรษฐีคฤหบดี
    และเป็นภูมิเทวดาอากาศเทวดา อย่างละ ๙ อสงไขย

    ต่อแต่นั้นก็จะได้เสวยในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น เป็นลำดับไปชั้นละ ๘ อสงไขย

    เมื่อ จุติจากชั้นเทวโลกแล้ว มาถือกำเนิดเกิดเป็นมนุษย์ ก็จะมีร่างกายบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นที่รักใคร่แก่คนทั้งหลายที่ได้พบเห็นทั้งน้ำใจก็บริสุทธิ์
    สุจริตปราศจากบาปธรรมอกุศลทั้งปวง และเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาดรอบรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม


    ดังนี้เป็นต้น ดูกรท่านสารีบุตรเมื่อตถาคตสร้างบารมีอยู่ได้เกิดเป็นอำมาตย์ของพุทธบิดา แห่งสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    พระนามว่า ปุราณโคดม ได้สร้างพระไตรปิฎกไว้ให้สืบองค์ได้ตั้งความปรารถนา ขอตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเถิดในอนาคตกาลโน้น
    สมเด็จพระปุราณโคดมบรมศาสดาทรงพยากรณ์ไว้ว่า อำมาตย์ผู้นี้ต่อไปภายภาคหน้า จะได้ตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง
    มีพระนามว่า พระสมณโคดมก็คือพระตถาคต
    เรานี้เองดังนี้แลก็สิ้นสุดพระกระแสธรรมเทศนา ที่พระบรมศาสดาทรงแสดงแก่พระสารีบุตรเถระเจ้าแต่เพียงเท่านี้<!-- google_ad_section_end -->


    ครั้งนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าจึงมีพระพุทธฎีกาว่า

    “ดูก่อนพระสารีบุตร อันบุคคลผู้ใดสร้างพระไตรปิฎกถวายในพระศาสนานี้ ย่อมได้อานิสงส์เป็นอันมาก
    สุดที่จะนับจะประมาณได้ก็ป่วยการกล่าวไปใยถึงอานิสงส์สิ้นทั้งนั้นเล่า เฉพาะอานิสงส์แห่งอักขระตัวเดียว ก็จะนับประมาณมิได้
    สารีบุตรผลานิสงส์แห่งบุคคลผู้ใดสร้างซึ่งอักขระตัวเดียวไว้ ในศาสนา นี้
    ก็อาจให้ผลยังตนให้ประสบสุขสิ้นกาลช้านาน
    คือจะได้เป็นสมเด็จพระจักรพรรดิ์เป็นเวลานานถึง 84,000 กัลป์
    จะได้เป็นพระเจ้าแผ่นดินในประเทศราชเป็นเวลานานถึง 9 อสงไขย
    จะได้เป็นมหาเศรษฐีคหบดีผู้ใหญ่มีทรัพย์สมบัติมากเป็นเวลานาน 9 อสงไขย
    และเสวยทิพย์สมบัติในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา นิมมานรดี และปรนิมมิตวสวดีเหล่านี้ ชั้นละ 9 อสงไขย เป็นกำหนด

    ครั้นจุติจากเทวโลกแล้ว ก็จะเกิดมาในโลกมนุษย์อีก
    จะได้เป็นคนมีทรัพย์นับวิชามากด้วยสมบัติศฤงคารบริวาร
    จะได้เป็นคนดีมีศีลมีสัตย์ยินดี อยู่ในการบำเพ็ญกุศล
    จะได้เป็นคนมีรูปโฉมงาม มีน้ำใจโอบอ้อมอารีแก่ชนทั่วไป
    จะบริบูรณ์พูนเกิดไม่รู้จักพกพร่อง

    ทั้งนี้เพราะอานิสงส์อักขระตัวเดียว ของบุคคลผู้สร้างพระไตรปิฎกไว้ในพระศาสนา การที่จะกำหนดอานิสงส์แห่งการสร้างพระไตรปิฎกนั้น
    เป็นอาจินไตร”
     

แชร์หน้านี้

Loading...