เรื่องเด่น อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๓๖ : พระหกกษัตริย์

ในห้อง 'อดีตที่ผ่านพ้น' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 14 สิงหาคม 2019.

  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,538
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,537
    ค่าพลัง:
    +26,373
    36.jpg
    อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๓๖ : พระหกกษัตริย์


    สมัยยังหนุ่ม ๆ (แฮ่...ยอมรับว่าแก่แล้ว) อาตมาออกเสาะหาพระเครื่องเป็นการใหญ่ จนไปเจอดีจากหลวงปู่ฝั้น อาจาโร ท่านว่า “ดีนอกเอาไปเดี๋ยวก็หล่นหาย เอาดีในซิ...” ดีในของท่านคือ “พุทโธ” ท่านว่าคำเดียวคุ้มได้ทั้งสามโลก...

    หลวงปู่ให้ของดีแบบนั้น อาตมากลับไม่ชอบใจ (จะเอาอะไรกับเด็กโง่แต่อวดฉลาด) เที่ยวเสาะหาเรื่อยไป หมดเงินหมดทองไปไม่รู้เท่าไรต่อเท่าไร แต่พระแบบที่อยากได้กลับไม่ได้ซักที พระที่ว่าคือ พระเครื่องของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค จังหวัดพระนครศรีอยุธยา...

    หลวงปู่ปานนั้น นอกจากจะมีชื่อเสียงทางรักษาโรค และเป่ายันต์เกราะเพชรแล้ว เครื่องรางของขลังอื่น ๆ ของท่าน ก็มีชื่อเสียงเลื่องลือไม่แพ้กัน โดยเฉพาะพระดินเผาชุดที่เรียกว่าพระหกกษัตริย์ เป็นที่สรรหาของเหล่านักสะสมพระเครื่องเป็นอย่างยิ่ง...

    พระเครื่องและเครื่องรางของขลังนั้น บางสำนักเขาโจมตีว่าเป็นเรื่องเหลวไหล บ้างก็ว่าเป็นเดรัจฉานวิชา หลอกลวงให้คนหลงงมงาย ช่างน่าสมเพชเวทนาที่ท่านมีความคิดสั้น ๆ โดยไม่มองให้เห็นถึงอุบายอันชาญฉลาดของคนโบราณที่แฝงไว้...

    "หลวงพ่อ"
    บอกว่าคนเล่นพระเครื่อง ไม่ใช่ว่าจะไม่มีดีเอาเลย ถ้าจิตเขาเกาะจริง ๆ จัดเป็นพุทธานุสติหรือสังฆานุสติ ถ้าตายไปอย่างน้อยก็เกิดเป็นเทวดาได้ (แต่พวกที่เอาพระไปทำเม็ดถั่วกำทายกัน เล่นการพนัน รับรองว่าลงนรกแน่...! อันนี้อาตมาว่าเอง)

    อานุภาพของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ย่อมตามรักษาผู้ที่ระลึกถึง อย่างน้อยก็ป้องกันอบายภูมิได้ จิตที่เกาะพระคือจิตที่เป็นกุศล ผู้ที่จิตเป็นกุศลเขาห้ามลงอบายภูมิ ถ้าไม่เชื่อลองไปถามพระยายมราชดูซิ... (หรืออยากลงเลยก็เชิญตามสบายนะจ๊ะ...)

    พระราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) วัดดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม พูดถึงกำลังใจของผู้ที่แขวนพระเครื่องไว้ว่า...

    กำลังใจสูงสุดเข้มข้นมาก ปืนจะยิงไม่ออก (มหาอุตม์)
    กำลังใจอ่อนลงมานิดหนึ่ง ยิงออกแต่ไม่ถูก (แคล้วคลาด)
    กำลังใจปานกลาง ยิงถูกแต่ไม่เข้า (คงกระพัน)
    กำลังใจอ่อนมาก ยิงเข้าแต่ไม่ตาย (โชคดี)
    กำลังใจอย่างแย่ที่สุด ยิงตายแต่ไปสวรรค์ (สุคติ)

    ครูบาอาจารย์สมัยก่อนท่านมีความฉลาดมาก หาอุบายให้คนเกาะความดีด้วยประการต่าง ๆ การสร้างพระขึ้นมาแจกก็เป็นวิธีการอย่างหนึ่ง ท่านจะแนะนำให้ผู้รับพระเครื่องไป ตั้งอยู่ในศีลในธรรม ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามด่าแม่เขา โดยสำทับว่า ถ้าทำไม่ได้พระจะไม่คุ้มครอง ผู้ที่รับพระไป จึงกลายเป็นคนมีศีลสัตย์ไปโดยปริยาย...

    พระหกกษัตริย์นั้น หลวงปู่ปานเรียนวิธีทำมาจากชีปะขาวที่ปรากฏตัวมาบอก เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งอยู่บนหลังสัตว์พาหนะ ๖ ชนิด ประกอบด้วย ครุฑ หนุมาน ไก่ ปลา เม่น และนกกระจาบ ตำราสร้างพระชุดนี้ ตกทอดมาจากสมัยพระร่วงโน่น...

    วิธีการทำพระก็แสนยาก ต้องเป็นผู้ที่คล่องในสมาบัติ ๘ เท่านั้น ถ้าเป็นพระอนาคามีหรือพระอรหันต์ ก็ต้องเข้านิโรธสมาบัติด้วย ปิดโบสถ์ทำผงพระ ๑๕ วัน ๑๕ คืน ดื่มได้แต่น้ำสะอาดเท่านั้น (ถ้าไม่แน่จริงก็ลมใส่วายปราณไปเองแหละ...)

    การทำผงเริ่มด้วยการเอาผ้าขาวมาเสกเป็นรูปสัตว์นั้น ๆ เช่น เสกเป็นครุฑ ครุฑก็จะกางปีกออก มีคาถาปรากฏอยู่ที่ปีก ให้ลอกคาถานั้นมาเขียนด้วยดินสอพองบนกระดานชนวน เสกไป เขียนไป ลบไป จนได้ผงวิเศษมากพอ ที่จะบรรจุในพระชนิดนั้น ๆ...

    ทำพระผงหนุมานก็เสกผ้าขาวเป็นลิงเผือก ลิงจะแบมือออกให้เห็นคาถา ถึงจะเป็นพระไก่ พระปลา พระเม่น และพระนกกระจาบก็เช่นกันคือ เสกผ้าขาวเป็นสัตว์ชนิดนั้น แล้วลอกคาถามาเขียนลบทำผงวิเศษ (อาตมาเสกเท่าไรก็เป็นผ้าขาวอย่างเดิม...ฮิ...ฮิ...)

    องค์พระทำจากดินเหนียวเผาไฟ เจาะรูด้านบนสำหรับบรรจุผงวิเศษ ซึ่งผงแต่ละชนิดมีอานุภาพต่าง ๆ กันไป แต่เวลาหลวงปู่ปานเสกเสร็จ ท่านเอาผงทั้ง ๖ ชนิดเคล้ารวมกัน ดังนั้นพระเครื่องของท่านทุกองค์ จึงมีอานุภาพครบถ้วนทั้ง ๖ ประการ ดังนี้...

    พระหนุมานเป็นพระหมอ ใช้ทำน้ำมนต์รักษาโรคทุกชนิด
    พระครุฑ ใช้ทำน้ำมนต์ครรภ์รักษา หญิงมีครรภ์ดื่มกินจะคลอดบุตรง่าย
    พระนกกระจาบ ใช้ทำน้ำมนต์พรมไร่นา ข้าวกล้าจะได้ผลดี
    พระปลา ใช้ทำน้ำมนต์พรมสินค้า จะซื้อง่ายขายคล่อง
    พระไก่ ใช้พกติดตัว ไปไหนมีแต่คนรักใคร่เมตตา
    พระเม่น ใช้พกติดตัวเวลาเดินทาง ช่วยป้องกันอันตรายทั้งปวง

    ดังกล่าวแล้วว่า พระทุกองค์มีอานุภาพครบทั้ง ๖ ประการ

    นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการกระทำทางไสยศาสตร์ คุณผีคุณคน และถอนพิษสัตว์ได้ทุกชนิด เมื่อจะถอนพิษให้เอาองค์พระชุบน้ำปิดลงที่แผล โดยหันเศียรพระขึ้นด้านบน พระจะดูดติดแน่นกับแผลจนกว่าพิษจะหมด เมื่อพิษหมดพระจะหลุดออกมาเอง (ระวังตกหายนะจ๊ะ...)

    ส่วนที่พิสดารคือ ชาวบ้านแถวบางนกแขวก จังหวัดสมุทรสงคราม เอาไปแขวนกันไข้จับสั่น (บ่แม่นจับไข่สั่นเด๊ออ้าย...!) เห็นว่าได้ผลชะงัดนัก ขนาดสั่นเป็นจ้าวเข้าแล้ว แขวนไว้พักเดียวหาย (หายไข้นะจ๊ะ ไม่ใช่พระหาย...)

    การทำน้ำมนต์รักษาโรค ให้เอาน้ำสะอาดมา ๑ แก้ว เอาองค์พระแช่น้ำ จุดธูปเทียน บูชาพระ สวดนะโมฯ ๓ จบ ว่าไตรสรณาคม ตั้งแต่ พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ จนถึง ตติยมฺปิ สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ สวดอิติปิ โสฯ ทั้งสามห้อง แล้วว่าคาถาดังนี้...

    “อิทธิฤทธิ พุทธนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่มะอะอุนี้เถิด” แล้วอธิษฐานว่า “ขอบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ และพระ...ขอจงทำน้ำนี้เป็นน้ำมนต์ รักษาโรค...ให้หายโดยพลันด้วยเถิด...”

    ที่เว้นวรรคไว้เติมเอาเอง เช่น พระหนุมาน โรคเอดส์ เป็นต้น แล้วเอาน้ำมนต์ให้คนป่วยดื่ม ถ้าไม่หายก็ตายแล...เอ๊ย...ถ้าไม่กรรมหนักจริง ๆ รับรองว่าหาย ก่อนให้ดื่มก็เอาพระออกก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวอร่อยจัด พาลดื่มพระลงท้องไปด้วย มันจะยุ่งกันใหญ่...


    "หลวงพ่อ"
    และเพื่อนพระช่วยกันพิมพ์พระ เจาะรู สุมไฟ บรรจุผงวิเศษ อยู่หลายเดือนจึงได้พระมา ๘๘๐ ปีบ เอามาให้หลวงปู่ปานเสก วันแจกพระคนมาอย่างกับมีงานมหกรรม หุงข้าวพร้อมกันทีละ ๘ กระทะ ยังไม่ทันคนกินเลย...

    การแจกก็แจกฟรี ๆ ให้คนละ ๑ องค์ จึงมีคนหัวดี (ในด้านเลว) เวียนเทียนเข้ามารับ ขนาดหลวงประธานถ่องวิจัย เอาปูนป้ายเสื้อทำเครื่องหมายไว้ มันออกไปกลับเสื้อแล้วเข้ามารับใหม่จนได้ (คนจะโกงซะอย่าง จับไม่ได้ไล่ไม่ทันหรอก)

    หมดพระไป ๔๔๐ ปีบ ที่เหลือบรรจุเอาไว้ในเจดีย์...วันหนึ่ง... "หลวงพ่อ" เล่าว่า หลวงปู่ปานมาบอกว่า ผู้ที่ได้พระเครื่องของท่านไป ไม่ว่าจะจริงหรือปลอมก็ตาม ถ้านึกถึงท่านมีอานุภาพเท่ากันหมด อาตมานึกอยากได้พระของท่าน จึงอธิษฐานขอเอาดื้อ ๆ และได้พิมพ์ขี่ไก่หางพวงมา ๑ องค์ (โดนมือดีงาบไปแล้ว...)

    การแขวนพระเครื่องไว้กับคอ ให้หมั่นนึกถึงท่าน จิตใจจะเกาะอยู่แต่ในด้านกุศล ฉวยพลาดพลั้งอะไรไป พระท่านช่วยไม่ได้จริง ๆ เราก็ยังไม่ลงอบายภูมิละน่า...ถ้ารอดนรกได้ซะอย่าง เรื่องอื่นว่ากันทีหลัง ถ้าไม่นึกก็ไม่มีใครช่วยได้เน้อ...

    ๒๒ มีนาคม ๒๕๓๓
    พระใบฎีกาเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    หมายเหตุ :
    ปัจจุบันนี้อาตมามีพระหลวงปู่ปานทั้งพิมพ์ขี่ไก่ และพิมพ์ขี่ครุฑ รวม ๔ องค์

    ๘ กรกฎาคม ๔๙
    พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    ที่มา www.watthakhanun.com
    ภาพประกอบโดย สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...