สงเคราะห์พ่อแม่ตอนเป็น ถือว่าเป็นบุญเป็นกุศลอย่างยิ่ง

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 2 มิถุนายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,582
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,543
    ค่าพลัง:
    +26,383
    EAF29A0B-6052-437E-82A9-4F9A3F77970C.jpeg

    พระอาจารย์เล่าว่า "อาตมาเองเป็นทหาร อายุ ๒๔-๒๕ ปีแล้วยังนอนกลิ้งอยู่บนตักแม่อยู่เลย เพราะว่าคนแก่ไม่เคยเห็นลูกโต นอนไปแม่ก็บอกว่ายังเห็นตัวแดง ๆ ดิ้นกระแด่ว ๆ อยู่เลย ใครจะไปนึกว่าโตเร็วขนาดนี้

    สงเคราะห์ท่านตอนเป็นถือว่าเป็นบุญเป็นกุศลอย่างยิ่ง สิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เราทำเพื่อพ่อเพื่อแม่ จะเป็นบุญทันตาในชาตินี้ อาตมาเห็นมาเยอะแล้ว ถ้าทำไม่ดีกับพ่อกับแม่ไว้ ตัวเองมีลูกเมื่อไรโดนคืนหลายเท่า เป็นเรื่องอัศจรรย์

    ในเรื่องของพระคุณพ่อ พระคุณแม่ พระพุทธเจ้าท่านตรัสเอาไว้ชัด ท่านบอกว่าบุรุษผู้มีกำลัง นำบิดามารดาวางไว้บนบ่าแห่งตน เลี้ยงดูท่านเป็นอย่างดี ให้ท่าน กิน ถ่าย นอน บนนั้นอยู่ตลอดร้อยปี ยังชดใช้หนี้ที่ท่านเลี้ยงมาไม่ได้

    ในพระไตรปิฎกมีกล่าวถึงพระภิกษุลูกชายเศรษฐีที่ไปบวช เสร็จแล้วพ่อแม่รักษาสมบัติไม่ได้ โดนข้าทาสบริวารเพื่อนพ้องโกงจนหมดตัวกลายเป็นขอทาน พอทราบข่าวท่านก็ไปนำพ่อแม่มาเลี้ยงไว้ สร้างกระต๊อบในป่าให้อยู่ ได้ข้าวปลาอาหารมาก็ให้พ่อแม่กินอิ่มก่อน เหลือเท่าไรตนเองก็ฉันแค่นั้น ได้ผ้ามาก็เอามาเย็บมาย้อมแล้วเอาให้พ่อแม่ตนเองนุ่งก่อน ตนเองก็เอาผ้าเก่าของพ่อแม่มาทำให้เสียสี เย็บย้อมเป็นจีวรเอามานุ่งห่ม ลำบากตรากตรำจนกระทั่งผอมดูไม่ได้เลย พระท่านก็ร่ำลือไปต่าง ๆ นานา

    พอพระพุทธเจ้าทราบเหตุเข้าจึงต้องตรัสประชุมว่า พระภิกษุรูปนั้นทำถูกต้องแล้ว เพราะว่าพ่อแม่ถือว่าเป็นแดนเกิด ถ้าไม่มีท่านก็ไม่ได้เกิดมาจนกระทั่งได้บวช ได้พบพระธรรม แล้วทรงมีพระบรมพุทธานุญาตให้พระภิกษุสามารถเลี้ยงดูพ่อแม่ด้วยปัจจัยสี่ได้ตามสมควร คำว่า "ตามสมควร" ในที่นี้คือให้ท่านดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ลำบากมาก

    ในสมัยหลวงปู่ปานท่านก็เอาโยมแม่ของท่านมาเลี้ยงดูอยู่ ถึงเวลาก็อุ้มเข้าห้องน้ำห้องท่า ซักผ้าซักผ่อนให้ ตากอยู่ในศาลา พระอื่นก็ไปว่าท่าน ไปตำหนิท่าน ท่านก็บอกว่าท่านถือตามที่พระพุทธเจ้าอนุญาต ในเมื่อพระพุทธเจ้าอนุญาตให้เลี้ยงดูพ่อแม่ได้ท่านก็เลี้ยงดู เขาก็บอกว่าท่านเอาผ้านุ่งแม่ไปตากบนศาลา คนเดินข้างล่างก็ลอดไปลอดมา ท่านก็บอกว่าตอนเกิดมาคุณยิ่งกว่าลอดใต้ผ้านุ่งอีก..!

    ดังนั้นใครที่ยังมีพ่อมีแม่อยู่ ขอให้รู้ว่าจริง ๆ แล้วเราโชคดีมาก บุคคลที่เกิดมาในครอบครัวเดียวกัน อย่างน้อยก็ต้องเคยสร้างบุญสร้างกรรมร่วมกันมา เป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่เราจะทดแทนท่าน เพื่อบรรเทากรรมที่เคยล่วงเกินกันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

    และถ้าถึงวาระที่สำคัญ เช่น ปีใหม่ ตรุษจีน สงกรานต์ หรือวันเกิดของพ่อแม่ ก็ให้หาดอกไม้ธูปเทียนไปขอขมาท่าน กรรมที่ผูกพันกันมาแต่อดีตจะได้ขาดลงเสียที”
    ...................................
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน
    www.watthakhanun.com
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...