วิบัติกรรมจากการทำร้ายพระอรหันต์ (เมตตาเรื่องเล่าโดย "องค์หลวงปู่ไม อินทสิริ" )

เรื่อง วิบัติกรรมจากการทำร้ายพระอรหันต์
(เมตตาเรื่องเล่าโดย "องค์หลวงปู่ไม อินทสิริ" )

หลวงปู่สามท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงปู่มั่นองค์หนึ่งน่ะ แต่พวกเรายังไม่รู้ล่ะมั่ง หลวงปู่สามนี่ท่านเป็นพระไม่ค่อยพูด นานๆจะพูดทีหนึ่ง พูดคำสองคำ ก็พอแล้วอย่างนี้ (“หลวงปู่สาม อกิญฺจโน” อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าไตรวิเวก ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ ได้คำชื่นชมจาก “หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต” ท่านอาจารย์ใหญ่ว่า "เป็นผู้เจริญด้วยธุดงควัตร จำพรรษาได้มากแห่งและ เป็นผู้เคร่งครัดในธุดงควัตร" )

ท่านอาศัยการปฏิบัติมาก มีผู้เล่าประวัติความเป็นมาในคราวที่ท่านไปอยู่ทางเมืองเหนือ อยู่เชียงใหม่ สมัยนั้นติดตามหลวงปู่มั่นไปใหม่ๆ ท่านไปพักอยู่ที่แห่งหนึ่ง หลวงปู่สามท่านไปภาวนาอยู่ แล้วพระกรรมฐานอย่างเราไปอยู่ที่ไหนจะมีศัตรูเด้

ศัตรูก็คือพระเหมือนกันนี้แหละ พระก็เป็นศัตรูกันเด้ คือพระนิกายเขาไม่อยากให้พระกรรมฐานเราเติบโต แต่พวกเราก็ไปไม่ได้แย่งชิงใครหรอก ไปก็เพื่อไปปฏิบัติธรรมนั่นแหละ "แสวงหาโมกขธรรม"

ทีนี้หลวงปู่สามท่านเล่าว่า ท่านไปภาวนาอยู่ก็เกิดมีคนศรัทธา คนเหนือมาศรัทธา ศรัทธาก็ไม่มากหรอกสมัยนั้นแค่คนสองคน สามคน สี่คน ห้าคนหรอกอย่างนี้แหละ มาส่งมาถวายอาหารบิณฑบาต กลางคืนท่านก็เดินจงกรมแล้วท่านก็นั่งสมาธิ

ตอนนั่งสมาธิน่ะท่านก็อยู่ในมุ้งกลดน่ะ กางกลดเอาไว้ท่านนั่งอยู่ในมุ้งกลด ตอนนั้นจิตของท่านก็ไปท่องเที่ยวอยู่บนสวรรค์น่ะ ท่านว่าน่ะ จิตของท่านก็ไปท่องเที่ยวอยู่บนสวรรค์ สนุกสนานอยู่กับพวกเทพเทวดาโน้นน่ะ

ทีนี้มีพระบ้านน่ะ เขาให้ทายกวัดมาทำลาย มาทำลายหลวงปู่สาม คือว่าจะฆ่าให้ตายเลยว่างั้นเถอะ มาสามคนมาก็เอาก้อนหินก้อนใหญ่ๆทุ่มใส่เลย มุ้งกลดมันก็กั้นอยู่ แต่มันก็บางๆมันก็กันอะไรไม่ได้แหล่ว ก้อนหินใหญ่ๆนี่ใส่หน้าตุ๊บ หน้าหลวงปู่สามนี้แตกเลย เลือดไหลอาบลง แต่จิตท่านไม่ได้อยู่นั้นแล้ว อยู่บนสววรค์ อยู่กับพวกเทพเทวดา

ถ้าเป็นพวกเราจะเป็นยังไงละ คิดไปถึงตอนนี้...
"โอ้ย ! มันหวาดเสียวเด้เน๊าะ" พอเช้ามาตีห้าจิตของท่านถอนออกจากสมาธิ พอท่องเที่ยวบนสวรรค์จบลงแล้ว พอจิตถอนออกมาแล้วก็คลำขึ้นมาๆ คลำขึ้นมาถึงหน้า หน้าแตกหมดนะ เลือดไหลอาบตัวลงไป

ทีนี้ทายกวัดที่เป็นลูกศิษย์นี้ก็จะไปเอาเรื่อง ก็รู้อยู่แล้วว่า คนที่มาทำลายนี่เป็นใครอย่างนี้ ก็คือคนในหมู่บ้านเดียวกัน ก็จะไปฟ้องร้องเอาเรื่องนี้แหละ จะไปแจ้งความเจ้าหน้าที่ หลวงปู่สามก็เลยพูดว่า...

ลป.สาม : "เฮ้ย อย่าไป อย่าไป"

ลูกศิษย์ : ไม่ได้ต้องไปท่านอาจารย์ พวกนี้ไม่จัดการมันไม่ได้หรอก

ลป.สาม : เฮ้ย เชื่อเราเถอะ พวกนี้เขามาทำเรา เขาไม่รู้ ถ้าเขารู้เขาไม่มาทำหรอก เขารู้เมื่อไหร่เขาก็หยุดทำ เขาเลวเราก็จะไปเลวกว่าเขาก็ไม่ได้ !!

คิดดูสิน้ำใจของพระกรรมฐาน ท่านก็พูดสั้นๆเท่านี้ก็จบเรื่อง อยู่มาไม่ถึงเดือน คนที่มาทำลายทั้งพระที่สั่งลูกน้องมาน่ะ อยู่ดีๆก็นอนตาย แล้วก็ที่เป็นโยมก็ถูกเขายิงตาย ตกรถตายบ้าง

เพราะมันพิบัติน่ะ มันเกิดภัยพิบัติเกิดขึ้น เขาเรียกว่าวิบัติมันเกิดขึ้น ทำกับพระอรหันต์น่ะ ท่านก็ไม่ได้ไปทำด้วยจิตอาฆาตของท่านหรอก แต่ว่าตัวเองน่ะทำตัวเอง

เหมือนอย่างพระพุทธเจ้ากับพระเทวฑัต พระพุทธเจ้าไม่เคยใส่โทษแม้แต่คำเดียว มีแต่สงสาร "โอ้ เทวทัตเอ๋ย เธอหาทางเอาเองหนอ เราพาทำอย่างหนึ่ง เธอก็ทำอีกอย่าง"

ผลสุดท้ายก็ไปคนละทาง เพราะหาเอาเอง หาเอาเองก็ไปได้ด้วยตัวเอง เราหาบุญเราก็ได้บุญ เราแสวงหาสรรค์ หาพระนิพพาน เราก็ได้สรรค์ ได้พระนิพพาน

คนที่มันแสวงหาโลกมันก็ได้โลกนะ จะเอาโลกมนุษย์มันก็ไม่ได้ โลกมนุษย์มันก็ยังลงไปสู่โลกนรกไปอีก มันไม่ใช่ธรรมดาเด้ นี่จิตคนมันตก มันก็ตกลงไปสู่ในที่ต่ำ

ถอดจากเทปพระธรรมเทศนาหลวงปู่ไม อินทสิริ
วัดป่าเขาภูหลวง อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

ถอดเทป/เรียบเรียง : นรินทร์ ศรีสุทธิ์

==================================

"อนันตริยกรรม 5" หมายถึง กรรมหนักที่สุด
(ครุกรรม) ฝ่ายบาปอกุศล ซึ่งให้ผลทันที

มี 5 อย่าง คือ

มาตุฆาต - ฆ่ามารดา
ปิตุฆาต - ฆ่าบิดา
อรหันตฆาต - ฆ่าพระอรหันต์
โลหิตุปบาท - ทำร้ายพระพุทธเจ้าจนถึงพระโลหิตห้อ ขึ้นไป เช่น พระเทวทัตได้ทำร้ายพระพุทธองค์ ในสมัยพุทธกาล
สังฆเภท - ยุยงสงฆ์ให้แตกกัน ทำลายสงฆ์

==================================