ผงรุ่นแรกลป.เย็นลพ.สอน วัดศาลเจ้าพระผงหลวงปู่บุญวัดบ้านนาระยอง พระปิดตาลป.เจียง เนินหย่องระยอง.

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Jumbo A, 17 สิงหาคม 2022.

  1. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    1734329395109.jpg
    หลวงพ่อแกละวัดลำลูกบัว
    ท่านเป็นลูกศิษย์ #หลวงพ่อเต๋ คงทอง สุดยอดพระเกจิอาจารย์ เจ้าของตำนาน กุมารเบอร์๑ ของเมืองไทย
    หลวงพ่อท่านเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้องกับ หลวงปู่แย้ม แห่งวัดสามง่ามครับ.. ท่านมีนามว่า

    พระครูพัฒนาภินันท์ หรือ หลวงพ่อแกละ วัดลำลูกบัว จ.นครปฐม
    หลวงพ่อแกละ เกิดเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2465 เป็นเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกรูปหนึ่งของจังหวัดนครปฐม ซึ่งที่เคารพนับถืออย่างสูงจากศิษยานุศิษย์จำนวนมาก
    หลวงพ่อแกละนั้นเป็นพระสงฆ์ที่เป็นที่เคารพรักของชาวบ้านทั่วไปรอบๆวัด เนื่องด้วยท่านเป็นพระที่มีเมตตาอย่างมาก และเท่าที่ได้ทราบมา ท่านเป็นนักพัฒนาวัดอีกด้วยครับ.. รวมถึงสิ่งก่อสร้างสาธารณะที่เป็นประโยชน์อย่างมากครับ
    หลวงพ่อแกละ วัดลำลูกบัว ท่านศิษย์เอกหลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม ร่ำเรียนวิชาอาคมจนแตกฉานว่ากันว่าท่านสำเร็จวิชาการสร้างตุ๊กตาทอง หรือ กุมารทองสามารถกำหนดจิตมีตัวมีตนได้ครับ..ตามรอยหลวงพ่อเต๋อาจารย์ของท่านเลยครับ..กุมารทองของท่านเป็นที่เสาะแสวงหาๆยากมากๆครับใครมีไว้ต่างห่วงแหนสุดๆครับ..เพราะใช้แทนของหลวงพ่อเต๋ได้สบายๆครับ
    ส่วนวัตถุมงคลอย่างอื่นของท่านเหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อแกละมีประสพการณ์แคล้วคลาด มหาอุตม์มากๆครับและเป็นวัตถุมงคลของดีราคาเบาอีกด้วยครับ..กิตศัพท์คนนครปฐมทราบกันดี
    หลวงพ่อแกละ ในอดีตอดีตท่านเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอดอนตูม ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ในยุคปี 30 กว่าอีกองค์หนึ่ง ที่ปฏิบัติดี และปฏิบัติชอบ เป็นที่นับถือของชาวบ้านในละแวกนั้น และใกล้เคียง ที่สำคัญท่าน "เก่ง" แต่แบบเงียบ ๆ ไม่แสดงตัวครับ
    หลวงพ่อแกละมรณภาพเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2549 ด้วยโรคไตวาย สิริอายุรวม 84 ปี พรรษาที่ 64 ในงานพระราชทานเพลิงสรีระสังขารของท่านมีศิษยานุศิษย์ร่วมงานอย่างคับคั่งหลายพันคนมาร่วมสักการะท่านเป็นครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ของที่ระลึกที่แจกในงานคือพระรุ่นพระราชทานเพลิงยังได้ปลุกเสกโดยหลวงพ่อแย้ม ศิษย์ร่วมอาจารย์เดียวกับท่านอีกด้วย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    พระสมเด็จสุขใจหลวงพ่อแกละวัดลำลูกบัว ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)

    IMG_20241216_122710.jpg IMG_20241216_122740.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2024
  2. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +6,890
    ขอจองครับ
     
  3. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1734333481626.jpg
    1938-2f107.jpg
    หลวงพ่อวิชา รติยุตโต คณาจารย์รูปหนึ่งที่มีความคุ้นเคยกับสายหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นอย่างดี ท่านเป็นสหธรรมิกกับพระเดชพระคุณพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษีวัดท่าซุง)หลวงพ่อวิชาท่านได้ศึกษาวิชาความรู้จาก พ่อท่านคล้าย วัดจันดี จ.นครศรีธรรมราช หลวงพ่อทบ วัดชนเเดน เรามักจะเห็นหลวงพ่อวิชาร่วมในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลของครูบาอาจารย์ อาทิ พิธีพุทธาภิเษกพระปัจเจกพุทธเจ้า วัดเขาวง , พิธีพุทธาภิเษกหล่อสมเด็จองค์ปฐมสี่ศอก วัดท่าขนุน เเม้ว่าอายุพรรษาหลวงพ่อวิชาจะห่างกับหลวงพ่อฤาษีมากอยู่ เเต่บ่อยครั้งที่หลวงพ่อวิชาได้ไปร่วมงานพุทธาภิเษก ณ วัดท่าซุง และเคยได้เฝ้ารับเสด็จในหลวงในการเสด็จที่วัดท่าซุง ซึ่งท่านได้พาศิษย์ที่เป็นเสือเป็นโจรพาไปเข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณกลับเนื้อกหลับตัวเป็นคนดีของชาติ และท่านยังได้ถวายพระเครื่องซึ่งเป็นพระสมเด็จเนื้อนิลกาฬ (นิลตะโก) ให้กับในหลวง ซึ่งคนที่ไปฝ้ารับเสด็จในวันนั้นยังบอกเล่าให้ฟังอีกว่าพระทุกรูปที่ไปเฝ้ารับเสด็จนั้นก็ถวายพระเครื่องกับในหลวง แต่ในหลวงรับแล้วส่งต่อให้กับข้าราชบริพาน แต่พอในหลวงรับวัตถุมงคลของหลวงพ่อวิชาท่านเก็บวัตถุมงคลนั้นไว้ในกระเป๋าฉลองพระองค์ ของพระองค์เอง และล่าสุดในปี 2549 ในหลวงได้มีพระกระแสรับสั่งให้นิมนต์หลวงพ่อวิชาไปเข้าฝ้าที่วังไกลกังวลหัวหิน เพื่อให้หลวงพ่อดำเนินการสร้างเขื่อนอีซ่า ที่จ.อุทัย ให้แล้วเสร็จ ซึ่ในขณะนี้ท่านได้สร้างเขื่อน เสร็จแล้ว ใช้งบประมาณทั้งหมด 13 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากศรัทธาของท่านเอง ไม่เคยใช้เงินของรัฐแม้เต่บาทเดียว
    หลวงพ่อเล็กวัดท่าขนุนเคยปรารภถึงหลวงพ่อวิชาว่า
    “วันนี้หลวงพ่อวิชา วัดศรีมณีวรรณ ซึ่งปัจจุบันนี้น่าจะอยู่ที่วัดป่าหิมพานต์ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี หลังจากที่ไปอยู่ที่สำนักสงฆ์ชอนทุเรียนที่ตากฟ้ามาระยะหนึ่ง ถ้าท่านทั้งหลายไม่รู้จัก ก็ต้องบอกว่าท่านอยู่ในรุ่นครูบาอาจารย์เลย ท่านใดที่เคยไปวัดท่าซุงในระยะแรกเริ่มในการก่อสร้างอุโบสถวัดท่าซุง ตลอด ๓ ปี คือ พุทธศักราช ๒๕๑๗-๒๕๑๙ กำลังใหญ่ส่วนหนึ่งที่ช่วยงานก็คือหลวงพ่อวิชา วัดศรีมณีวรรณนี่เอง
    การพุทธาภิเษกวัตถุมงคลระยะนั้นทุกครั้ง หลวงพ่อวัดท่าซุงจะนิมนต์หลวงพ่อวิชาเข้าร่วมพิธีกรรมด้วย แม้ว่าในขณะนั้นท่านยังเป็นพระหนุ่มเณรน้อยอยู่ อายุน้อยกว่าอาตมาตอนนี้เยอะมาก แต่ท่านมีความรู้ความสามารถที่แท้จริง ปัจจุบันนี้อายุกาลพรรษาก็ ๗๐ กว่าเข้าไปแล้ว วันนี้ก็มีความเมตตาให้กับครูบาวิฑูรย์ เดินทางมาร่วมพิธีด้วย เดี๋ยวถ้าเห็นหลวงพ่อที่ห่มสีกรักเขียว ๆ เหมือนพระธรรมยุต ก็ให้รู้ว่าเป็นหลวงพ่อวิชา ต้องบอกว่าท่านอยู่ในระดับของครูบาอาจารย์ของอาตมาอีกทีหนึ่ง”
    เก็บตกงานออกนิโรธกรรม - สืบชะตาครูบาวิฑูรย์ ชินวโร
    วันอาทิตย์ที่ ๒๗ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๕๘
    (ขอบพระคุณข้อมูลจากเก็บตกเว็บวัดท่าขนุน)

    หลวงพ่อวิชา รติยุตฺโต วัดศรีมณีวรรณ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท
    กำเนิด
    ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๔๘๗ ที่บ้านคุ้งสำเภา อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท บิดาชื่อเจียด สมสุด มารดาชื่อ เนียม สมสุด การศึกษาพื้นฐาน ม.ศ.๓ อุปสมบท ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๑๔ (อายุ ๒๗ ปี) ปัจจุบัน(๒๕๕๙) อายุ ๗๒ ปี ๔๕ พรรษา
    วัดในความปกครอง
    (เจ้าอาวาส) : วัดศรีมณีวรรณ อ.มโนรมย์ จ.ชัยนาท
    วัดสาขา : วัดชอนทุเรียน ต.พุนกยูง อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์,
    วัดชายเขา ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี
    วัดคลองหวาย ต.ทองหลาง อ.ห้วยคต จ.อุทัยธานี
    ที่พำนักหลัก สำนักฯ บ้านชอนทุเรียน หมู่ที่ ๒ ต.พุนกยูง อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์
    ที่พำนักปัจจุบัน : สวนส้ม ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี (ใกล้วัดชายเขา)
    กำลังปลูกป่าสมุนไพร และสร้างศาลาทำบุญให้วัดชายเขา
    การฝึกกรรมฐาน เริ่มเมื่ออายุประมาณ ๑๒-๑๓ ปี
    ครู-อาจารย์ผู้ให้สืบทอดวิทยาคม
    ๑.หลวงปู่อนงค์ ปะสันนะจิตโต (พระธุดงค์) เป็นอาจารย์สอนกรรมฐานองค์แรก ได้สำเร็จวิชาเปิดโลก
    ๒.หลวงพ่อสด ธัมมะธะโร เจ้าอาวาสวัดหนองสะแก (คูเมือง) อ.หนองขาหย่าง จ.อุทัยธานี ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติสำหรับบรรพชิต, เรียนเวทย์วิทยาคม, เรียนทำกุมารทองด้วยกิ่งกาฝากทอง ให้แต่คุณ ไม่ให้โทษ มีชื่อเสียงมาก ฯลฯ
    ๓.พระครูเนกขัมมวิสุทธิ์ (หลวงปู่เกตุ จันทะสุวัณฺโณ) เจ้าอาวาสวัดศรีเมือง ต.ไกรกลาง อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัยเรียนอักษรขอม, เรียนกรรมฐาน, เรียนเวทย์วิทยาคม เช่น วิชาการยิงกระสุนคต, วิชาทำตะกรุดมหากระดอน(สืบตำราจากหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า) เป็นต้น
    ๔.พระครูวิชิตพัชราจารย์ (หลวงพ่อทบ ธัมมะปัญโญ) เจ้าอาวาสวัดช้างเผือก อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ ศึกษาเวทย์วิทยาคม เช่น วิชาดับพิษไฟ, ตะกรุดโทน(ยันต์คู่ชีวิต) ฯลฯ
    ๕.พระครูพิศิษฐ์อรรถการ (พ่อท่านคล้าย จนฺทสุวณฺโณ-วาจาสิทธิ์) เจ้าอาวาสวัดจันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช สืบทอดวิชาวาจาสิทธิ์, การเจริญจิตเข้าสู่อัปปนาสมาธิ การเจริญจิตเข้าสู่ฌานสมาบัติขั้นอภิญญา, การปลุกเสกวัตถุมงคลเพื่อให้เข้มขลัง ไม่มีคำว่าพลังเสื่อม ไม่มีข้อจำกัดในการใช้วัตถุมงคล ห้ามอย่างเดียวคือ “ห้ามถอดจากตัว ถ้ากลัวภัย”
    วัตถุมงคลที่สร้างชื่อเสียง วัตถุมงคลที่สร้างเน้นความโดดเด่นทั้งทาง เมตตา มหานิยม แคล้วคลาดภัย มหาอุด คงกะพันชาตรี กันสารพัดภัยอธิษฐานตามปรารถนาที่ชอบด้วยทำนองคลองธรรม เป็นของที่ขลังแบบตัวจริงเสียงจริง ไม่ต้องโฆษณาชวนเชื่อ (วัตถุมงคลของหลวงพ่อท่านห้ามทดลอง เพราะจะวิบัติ มีผู้นำไปยิง แล้วประสบอุบติเหตุถึงแก่ชีวิตมาแล้ว)
    ๑.เหรียญเสมารูปเหมือน หลังยันต์พุทธนิมิต รุ่นแรก เนื้อทองเหลือง ชุบเงิน ๒๕๑๘ ออกงานผูกพัทธสีมาอุโบสถวัดศรีมณีวรรณ อ.มโนรมย์ พุทธคุณดีทุกด้าน ประสบการณ์ มีผู้รอดชีวิตจากการถูกยิง,ถูกแทง,อุบัติเหตุ และถูกปล้น เช่น ครูแหม่ม สอนที อ.มโนรมย์ ถูกโจรผลักล้ม ใช้เท้าเหยียบอก ควานหาสร้อยทอง ๓ บาทที่ห้อยเหรียญนี้เหรียญเดียวแต่ควานหาอย่างไรโจรก็หาไม่พบ จนมีพลเมืองดีประสบเหตุ โจรได้หนีไปมือเปล่า
    ๒. เหรียญรูปเหมือน หลังหลวงพ่อ ๓ พี่น้อง (พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของวัด) รูปไข่ เนื้อทองแดง ๒๕๑๘ ออกงานผูกพัทธสีมา พุทธคุณดีทุกทางประสบการณ์โดดเด่นทางแคล้วคลาด เช่น นายเจริญ พันธุ์รุ่งมณี ชาวลานสัก บัดกรีแบตเตอรี่รถบรรทุก บังเอิญไฟลัดวงจร แบตฯเกิดระเบิด นายเจริญเล่าว่าเหมือนมีแผ่นเหล็กขนาดใหญ่มากั้นตัวเขา จึงไม่มีน้ำกรดและเศษแบตฯมากระทบตนเองเลย, อีกครั้งหนึ่งบุคคลคนเดียวกันนี้ถูกไฟฟ้าแรงสูงนับหมื่นโวลด์ดูด ขณะเดินสายโทรศัพท์พลัดตกลงมาจากยอดเสา แต่ปลอดภัย
    ๓.เหรียญรูปเหมือน รุ่นสร้างเขื่อนอีซ่า ปี ๒๕๓๓ เนื้อทองแดงรมดำ หลังยันต์ครู ประสบการณ์โดดเด่นทางมหาอุด แคล้วคลาด คงกะพันชาตรี เช่น วัยรุ่น ชาวบ้านชายเขา ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัย ถูกคู่อริจับล็อกแขน แล้วปาดคอด้วยคัตเตอร์ใหญ่ แต่คัตเตอร์ไม่ระคายผิวแม้แต่น้อย ,กลุ่มคนที่หลงผิด เช่น โจรเสือ ผ่านความตายมาทุกครั้ง หลวงพ่อให้ปฏิญาณตนให้เลิกอาชีพผิดกฎหมายประมาณ ๒๐๐ คน
    ๔.ตะกรุดโทนยันต์คู่ชีวิต เนื้อตะกั่ว ยาว ๓ นิ้ว ๕๕๖ ดอก,เนื้อทองเหลือง ยาวประมาณ ๓.๕ นิ้ว ประสบการณ์ มหาอุด แคล้วคลาด คงกะพันชาตรี กันสัตว์เขี้ยวเล็บงา งูพิษอ้าปากไม่ออก นายตำรวจ อ.มโนรมย์ (ขอสงวนนาม) รั้นเอาไปทดลองยิง แต่ยิงไม่ออก หลังจากนั้นถูกรถพ่วงทับตายชาวนครสวรรค์ผู้หนึ่ง (ปลายปี ๒๕๕๖) ถูกรถปิกอัพชน แล้วตามทับซ้ำ และขับหนีไป ชายผู้นี้ได้ลุกขึ้นได้เป็นปรกติ ไม่บาดเจ็บใดๆ เลยนายเล็ก ชาว อ.มโนรมย์ ถูกรถปิกอัพชน จนร่างกระเด็นขึ้นไปอยู่บนกระโปรงรถคันนั้น แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ เลย (เกิดปลายปี ๒๕๕๖)
    ๕.มีดหมอ ด้ามเศียรฤาษี, มีดปากกา ๒.๕ นิ้ว ใบเหล็กขาว และ ขนาดใหญ่ ๕ นิ้ว (ใบเหล็กขาว และใบเหล็กแหนบ) รุ่นปัจจุบันสร้างเมื่อ ๒๕๕๐-๒๕๕๖ประสบการณ์และพุทธคุณ ป้องกันและขับภูตผีปีศาจร้าย สัตว์เขี้ยวเล็บงา กันคุณไสย ลมเพลมพัด(ของที่หมออาคมปล่อยโดยไม่เจาะจง) กันศาตราวุธ และกันภัยทั้งปวง (โดดเด่นมากๆ)
    ๖.คทาและไม้เท้า ประสบการณ์และพุทธคุณ กันสัตว์มีเขี้ยวงา เช่น เสือ วัว ควาย งูพิษ, กันอาวุธทั้งปวง,กันฤทธิ์ยักษ์, ปีศาจร้าย,เทวดารักษา,กันคุณคนคุณไสย, กันสารพัดภัย คุ้มบ้าน คุ้มตัว คุ้มรถ
    ๗.กุมารทอง แกะทีละองค์จากไม้กาฝากทอง (ทองกวาว) ใส่ขวดพร้อมน้ำมันจันทน์ เป็นรูปลักษณ์เด็กชาย ประจุพลังทิพย์ของหลวงพ่อวิชา ไม่ใช่เทพ ไม่ใช่ผี บูชาแล้วให้ตั้งชื่อเอาเอง เมื่อนำเข้าบ้านก็บอกว่าอนุญาตให้รับประทานข้าวปลาอาหารพร้อมกับตัวเราทุกครั้ง (บอกครั้งแรกครั้งเดียวก็ได้) บอกให้เฝ้าบ้าน,บอกให้เฝ้ารถ,บอกให้ติดตามคุ้มครอง, บอกให้ช่วยธุระในเรื่องต่างๆ, ให้ช่วยทำมาค้าขาย, ช่วยด้านคดีความ, ขอโชคลาภ ฯลฯ ประสบการณ์โดดเด่นในทุกๆ ด้าน เช่น ป้องกันรถยนต์และทรัพย์สินในรถ ขณะจอดในห้างใหญ่ที่เจ้าของลืมเลื่อนกระจกข้างขึ้น จนห้างปิด, ถูกงัดห้อง แต่โจรเอาอะไรไปไม่ได้สักอย่าง (ทั้งเงิน นาฬิกา พระเครื่อง) ,บอกหวยแก่ผู้ครบครองหลายครั้ง(เฉพาะในช่วงที่มีดวงได้), ช่วยให้รถยนต์ที่ขณะขับเกิดยางแตก แต่รถหยุดกึกอยู่กับที่ (เหตุเกิดที่ จ.อยุธยา)
    ๘.พระปิดตาชานหมาก มหาลาภ ๒๕๕๖ สร้างด้วยชานหมาก ผสมเกศา และมวลสารสำคัญๆ ๒๘ รายการ ประจุตะกรุดเงินทุกองค์ พุทธคุณ มหาเมตตา มหานิยม อุดมลาภ แคล้วคลาดกันสารพัดภัย เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ทำมาหากินและค้าขายดีประสบการณ์ที่ทราบขณะนี้คือ คนที่คล้องถูกลอตเตอรี่ ๓-๔ งวดติดกัน และแคล้วคลาดอันตราย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20241215_182115.jpg IMG_20241215_182149.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ธันวาคม 2024
  4. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    IMG_5511.jpg
    สาธุ!! เมื่อมีคนบอกว่า หลวงปู่สี..เป็นพระที่ไม่น่านับถือ แต่หลวงพ่อฤาษีลิงดำกลับพูดว่า กราบฉันแสนครั้งยังไม่เท่าได้กราบหลวงปู่สีครั้งเดียว!!
    เรื่องราวปาฏิหาริย์และบารมีของหลวงปู่สีนั้นนับได้ว่ามีมากนัก ท่านได้รับขนานนามว่า พระอรหันต์ ๗ แผ่นดิน หลวงปู่สี ฉนฺทสิริ ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๙๒ ตรงกับปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ และท่านได้มรณภาพเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๒๐ ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ รวมอายุได้ ๑๒๘ ปี บวชพระมาได้ ๘๙ พรรษา เรื่องราวของบารมีของหลวงปู่สีนั้น แม้แต่ หลวงพ่อฤาษีลิงดำก็ได้กล่าวไว้ว่า
    "กราบฉันแสนครั้งยังไม่เท่าได้กราบหลวงปู่สีครั้งเดียว" เรื่องมีอยู่ว่า
    สืบเนื่องจากคณะชาวชลบุรีเกิดความ ศรัทธาหลวงปู่ที่หลวงปู่ได้ไปโปรดที่จังหวัดชลบุรี จึงตามมาหาหลวงปู่ถึงวัด ครั้นพอถึงเวลาฉันเพลแล้ว ชาวชลบุรีก็นำอาหารที่เตรียมมาถวายเพล ท่านก็ลุกขึ้นมานั่งยอง ๆ ฉันอาหาร โดยมีแมวและสุนัขนั่งล้อมหน้าล้อมหลัง ชาวจังหวัดชลบุรีกลุ่มนั้น เมื่อได้เห็นอากัปกิริยาของหลวงปู่เช่นนั้น คือนั่งไม่สำรวม ก็ไม่ศรัทธา จึงได้พากันเดินทางต่อไปยังวัดท่าซุง เพื่อกราบนมัสการหลวงพ่อฤาษีลิงดำ พวกเขาได้เล่าให้หลวงพ่อฤาษีลิงดำฟังถึงหลวงปู่สีว่า
    "เป็นพระที่ไม่น่านับถือ"
    แต่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านกลับตอบไปว่า
    "กราบฉันแสนครั้งยังไม่เท่าได้กราบหลวงปู่สีครั้งเดียว"
    ต่อมาภายหลังชาวชลบุรีกลุ่มนี้ก็กลับกลายมาเป็นศิษย์ที่นับถือหลวงปู่สีมาก ที่สุดกลุ่มหนึ่งอย่างไม่น่าเชื่อ และได้สร้างพระถวายหลวงปู่สีอยู่หลายรุ่น
    หลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค จ.นครสวรรค์ ปี๒๕๑๗ มีสร้างด้วยกัน ๔ สี คือ แดง ดำ เทา และ ขาว .. จัดสร้างโดยพระครูวิศิษฐ์สมโภชน์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนฯ กทม. เพื่อนำปัจจัยไปสร้างศาลาและกุฎิสงฆ์ที่วัดบ้านเกิดของท่าน ซึ่งหลวงปู่สี ท่านก็อนุญาติตามนั้น มวลสาร ผงว่าน 108 - ดอกบัวบูชา หลวงพ่อพุทธโสธร - ผงธูปจากที่บูชาสมเด็จโตฯ วัดระฆังฯ - ผงธูปและดอกไม้จากศาลเจ้าพ่อหลักเมือง - ดอกไม้บูชาพระแก้วมรกต - ดอกไม้บูชาพระนอนวัดโพธิ์ - ชานหมาก น้ำหมาก และผงวิเศษของหลวงปู่สี แต่เพิ่มส่วนผสมผงปูน และเศษทองปิดองค์พระพุทธรูปปูนในวัดโพธิ์ท่าเตียนจำนวนมาก โดยกดพิมพ์กันที่วัดพระเชตุพนฯ แล้วจึงนำไปให้หลวงปู่สีปลุกเสกเดี่ยว ..มีประสบการณ์เรื่องเมตตา มหานิยม มหาลาภเด่นดังมาก สภาพสวย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับจากเว็บไซต์ต่างๆ
    วรรณสีพระเรียกว่าสีแก่น้ำหมาก
    ให้บูชา 450 บาทค่าจัดส่ง 30 บาทครับ
    1373912-53a6a.jpg

    IMG_20241216_204348.jpg IMG_20241216_204423.jpg
     
  5. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    9s.jpg

    พระครูอุดมวิชชากร (เหมือน อินทโชโต) เป็นชาวชลบุรีโดยกำเนิดนามเดิมชื่อ เหมือน ถาวรวัฒนะ บิดาชื่อตึ๋ง มารดาชื่อปุ่น มารดาเป็นน้องสาวพระครูชลโธปมคุณมุนี (หลวงพ่อเจียม) อดีตเจ้าอาวาสวัดกำแพง เกิดวันอังคารที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๔๓๖ ปีมะเส็ง สมัยรัชกาลที่ ๕ อุปสมบทเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๕๖ พระอธการจั่น วัดเสม็ด องเมือง จ.ชลบุรี เป็นพระอุปัชชายะ เมื่ออุปสมบทได้ ๖ พรรษา ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกำแพงต่อจากพระอธิการหมอน เพิ่งได้ลาสิกขาไปปี พ.ศ. ๒๔๖๒ ได้รับพระราชฐานสมณศักดิ์เป็นพระครูอุดมวิชชากร พ.ศ.๒๔๙๕ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าคณะตำบลบางปลาสร้อย เขต ๒ พ.ศ.๒๕๐๒ ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งพระอุปัชชาย์ และเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูเจ้าคณะตำบลชั้นเอก พ.ศ. ๒๕๒๒ หลวงพ่อเหมือนศึกษาไสยเวทย์ วิทยาคม จากหลวงพ่อเจียมผู้เป็นลุงแห่งสำนักวัดกำแพงแห่งนี้ ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้มากมาย เป็นที่เสาะแสวงหาของชาวเมืองชลและชาวภาคตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระปิดตาปี พ.ศ. ๒๕๐๐ แะเหรียญรุ่นแรกซึ่งเสาะแสวงหาบูชาได้ยากยิ่ง หลวงพ่อเหมือนเป็นพระที่มีอายุยืนยาวพูดน้อย ประพฤติดี ปฏิบัติดี สงบเสงี่ยม เรียบร้อย สุขุม เยือกเย็น มีเมตตาสูง ลูกศิษย์ลูกหามากมาย วิทยาคมสูงล้ำทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด โชคลาภค้าขาย ท่านเป็นผู้มีคุณูประการต่อการศึกษาของลูกหลานชาวชลบุรีเป็นอย่างมากเป็นผู ก่อตั้งโรงเรียนวัดกำแพง ก่อตั้งมูลนิธิพระครูอุดมวิชชากร เพื่อนำดอกผลอันมาจากที่ดินรวมถึงทรัพยสินของวัดให้การสนับสนุนการศึกษาแก่ กุลบุตร กุลธิดาของเหล่าญาติโยม เป็นองค์อุปถัมย์ยุวพุทธิกสมาคมชลบุรีมาแต่ยุคเริ่มก่อตั้ง เป็นพระเกจิอาจารย์ในยุคปีพ.ศ. ๒๕๐๐ ที่รับหน้าที่ปลุกเสกประพรมน้ำพระพุทธทนต์ตอนปีใหม่รวมถึงวัตถุมงคลแก่ชาว ชลบุรีทุกปี มาเป็นเวลาอันยาวนาน จนถึงมรณภาพ หลวงพ่อเหมือนมรณภาพ วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๒๗ ศิริอายุรวม ๙๒ ปี พรรษา 71
    ไม่ธรรมดา’
    เมื่อไฟพระราช ทานมาถึงก็บังเกิดเหตุที่ไม่น่าเป็นไปได้ขึ้น ด้วยมีลมพายุอันแรงกล้าพัดกระหน่ำลงในบริเวณวัดอย่างรุนแรง... แรง...ขนาดที่ว่าต้นไม้ใหญ่หน้ายุวพุทธิกสมาคม ชลบุรี ถึงกับถอนรากล้มตึงลงทีเดียว ผู้คนตระหนกตกใจกับเหตุการณ์เฉพาะหน้าอันไม่ทันตั้งตัวนี่ยิ่งนัก
    เมื่อ ลมร้ายฟาดงวงฟาดงาจนเต็มที่แล้วก็พลันสลายตัวไปอย่างรวดเร็ว จนไม่อยากจะเชื่อว่าเมื่อกี้นี้มีมหาวาตภัยเกิดขึ้นในวัด ความเสียหายปรากฏอยู่ทั่วบริเวณ แต่ที่น่าอัศจรรย์คือ เครื่องประดับประกอบเมรุไม่มีอะไรเสียหายเลย กระทั่งพวงหรีดหรือดอกไม้บูชาต่าง ๆ ในแจกันก็ไม่ล้มลงเลยแม้แต่อันเดียว
    ผมเคยถามพระภาวนาจารย์ผู้เป็นศิษย์องค์สำคัญของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ท่านหนึ่งว่า
    “เมื่อเทพมาชุมนุมกันมาก ๆ จะเป็นเหตุให้เกิดลมอย่างนั้นหรือ”
    ท่านตอบทันทีว่า “ใช่”
    ก็ ท่านเป็นผู้บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิงในพรหมจรรย์ ย่อมเป็นเหตุให้เทพพรหมพึงใจแลเคารพรักยิ่ง เมื่อวันต้องพรากสังขารท่านไปด้วยไฟ ท่านผู้ลี้ลับซึ่งอยู่ต่างภพภูมิจึงแสดงอาการอาลัยอาวรณ์เป็นครั้งสุด ท้าย
    ความเป็น หลวงปู่เหมือน ไม่อาจทำให้ท่านโด่งดังได้เฉกเช่น หลวงปู่แหวน สุจิณโณ อาจเป็นด้วยจริยาวัตรที่อ่อนโยนไม่มุทะลุดุดันดังเช่นบางอาจารย์หรือไม่ก็เป็นเพราะ บารมี ของท่านที่สั่งสมมา แบบเงียบ ๆ อย่างนั้นเอง
    แต่ความ ‘ดังเงียบ’ ของท่านก็ดังไกลไปถึงดอยแม่ปั๋ง เมื่อมีคนเมืองชลกลุ่มหนึ่งนำทีมโดยบิดาของเพื่อนผม จัดรถทัวร์หอบลูกน้ำเค็มไปกราบพระภูเขาถึงถิ่น เมื่อพระเลือดอีสานนามลือชาถูกพระอุปัฏฐากเข็นรถออกมา ชาวชลบุรีก็กรูเข้าไปกราบ ครั้นหลวงปู่แหวนทักทายไปสักหน่อย ท่านก็เอื้อนเอ่ยว่า
    “มาจากไหน”
    ชาวชลบุรีก็ตอบอย่างภาคภูมิใจกับการเดินทางมาราธอนว่า
    “มาจากชลบุรี”
    คำถามต่อมาคือ
    “พระดีเมืองชลก็มี ทำไมมาถึงนี่ ท่านวัดกำแพงน่ะ”
    เอ ! ใครคือ ท่านวัดกำแพง คนอะไรชื่อแปล๊ก แปลก พอสติแล่นก็ อ๋อ ! หลวงปู่เหมือน นั่นเอง
    ครั้นกลับจากวัดดอยแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ วัดกำแพงก็คลาคล่ำไปด้วยนักแสวงบุญลูกน้ำเค็มผู้มองไกล จนลืมใกล้
    อะไร ? ที่ทำให้หลวงปู่แหวนเอ่ยปากถึง ‘ท่านวัดกำแพง’ ก็ในเมื่อหลวงปู่แหวนไม่เคยมาชลบุรี และ ‘ท่านวัดกำแพง’ ก็ไม่เคยไปเชียงใหม่ ท่านรู้จักกันได้อย่างไร ? ค้นความจริงยากเหลือเกิน ขอโยนเรื่องไปที่ ‘ญาณ’ อันสูงสุดจะคาดเดาของท่านทั้งสองก็แล้วกัน
    ท่านได้สร้างวัตถุมงคลไว้มากมาย เป็นที่เสาะแสวงหาของชาวเมืองชลและชาวภาคตะวันออก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระปิดตาปี พ.ศ. ๒๕๐๐ แะเหรียญรุ่นแรกซึ่งเสาะแสวงหาบูชาได้ยากยิ่ง หลวงพ่อเหมือนเป็นพระที่มีอายุยืนยาวพูดน้อย ประพฤติดี ปฏิบัติดี สงบเสงี่ยม เรียบร้อย สุขุม เยือกเย็น มีเมตตาสูง ลูกศิษย์ลูกหามากมาย วิทยาคมสูงล้ำทางด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด โชคลาภค้าขาย
    ท่านเป็น ผู้มีคุณูประการต่อการศึกษาของลูกหลานชาวชลบุรีเป็นอย่างมากเป็นผูก่อตั้ง โรงเรียนวัดกำแพง ก่อตั้งมูลนิธิพระครูอุดมวิชชากร เพื่อนำดอกผลอันมาจากที่ดินรวมถึงทรัพยสินของวัดให้การสนับสนุนการศึกษาแก่ กุลบุตร กุลธิดาของเหล่าญาติโยม เป็นองค์อุปถัมย์ยุวพุทธิกสมาคมชลบุรีมาแต่ยุคเริ่มก่อตั้ง เป็นพระเกจิอาจารย์ในยุคปีพ.ศ. ๒๕๐๐ ที่รับหน้าที่ปลุกเสกประพรมน้ำพระพุทธทนต์ตอนปีใหม่รวมถึงวัตถุมงคลแก่ชาว ชลบุรีทุกปี มาเป็นเวลาอันยาวนาน
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญ ล.ศ.ช.หลวงปู่เหมือน
    ให้บูชา 200 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20241217_131141.jpg IMG_20241217_131209.jpg
     
  6. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    12316438_1141366969248801_5020729797854453532_n.jpg
    เหรียญหลวงพ่อแช่ม รุ่นสร้างโรงพยาบาล ปี2535 ประวัติการสร้างเหรียญรุ่นนี้
    เมื่อ หลวงพ่อแช่มได้รับอุปถัมภ์สร้างตึกคนไข้พิเศษ โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม (พ.ศ.๒๕๓๕) เป็นตึก ๔ ชั้น ขณะนั้นหลวงพ่อแช่มอายุ ๘๕ ปี การสร้างตึกคนไข้พิเศษต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้าง จำนวน ๒๕ ล้านบาท จึงได้มีการจัดสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อแช่มขึ้นมา เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม สร้างเป็นเหรียญรูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อแช่มครึ่งองค์ ห่มจีวรลดไหล่พาดสังฆาฏิ ด้านหนังเป็นยันต์พระเจ้า ๕ พระองค์ ตามแบบฉบับของหลวงพ่อแช่ม สร้างเป็นเนื้อทองคำ เงิน นวะโลหะ และทองแดง
    ใน ครั้งแรก คณะกรรมการสร้างวัตถุมงคลเหรียญหลวงพ่อแช่มรุ่นดังกล่าวจะจัดพิธีพุทธาภิเษก นิมนต์พระเกจิอาจารย์ในจังหวัดนครปฐมมาร่วมนั่งปรกปลุกเสก จึงได้เข้าไปปรึกษาหลวงพ่อแช่ม เมื่อหลวงพ่อแช่มได้ฟังท่านก็นั่งนิ่งแล้วต่อมาก็ยิ้มๆ ด้วยความเมตตา แล้วก็ปรารภว่า “ไม่เป็นไร ฉันเชื่อว่าฉันทำได้ ชาติเสือไม่ต้องขอเนื้อใครกิน” ด้วยเหตุนี้เองหลวงพ่อแช่มและหลวงพ่ออวยพรจึงได้ร่วมกันปลุกเสกเหรียญรุ่น พิเศษ สร้างตึกคนไข้โรงพยาบาลศูนย์นครปฐม พิธีปลุกเสกจัดขึ้นเวลากลางคืนที่ตึกกรรมฐานบูรพาจารย์ของวัดดอนยายหอม โดยหลวงพ่อแช่มเป็นผู้จุดเทียนชัย หลังจากนั้นท่านก็นั่งบริกรรมภาวนา โดยมีหลวงพ่ออวยพรร่วมนั่งปรกปลุกเสกด้วย เมื่อนั่งปรกไปได้ระยะหนึ่งปรากฏมีเสียงระเบิดขึ้นที่หลังคาหอกรรมฐาน คณะกรรมการวัดจึงปีนขึ้นไปดู พบว่ากระเบื้องหลังคาแตกเป็น รูใหญ่ ทุกคนเชื่อว่าเป็นพลังจิตตานุภาพของหลวงพ่อแช่มและหลวงพ่อพระครูอวยพรที่ นั่งปรกแผ่กระแสจิตออกมาอย่างเต็มที่จนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว จึงได้พากันเรียกเหรียญหลวงพ่อแช่มรุ่นนี้ว่า “รุ่นหลังคาระเบิด” ประชาชนที่ทราบข่าวพากันมาเช่าบูชาเหรียญรุ่นหลังคาระเบิดอย่างเนืองแน่น ทั้งนี้เพราะเชื่อมั่นว่าเหรียญรุ่นนี้มีพลังพุทธคุณสูงเป็นพิเศษ ทำให้ได้เงินสมทบทุนสร้างตึกคนไข้พิเศษสำเร็จเสร็จสิ้นภายในปีเดียว รวมงบประมาณ ๒๕ ล้านบาทเศษ โรงพยาบาลศูนย์นครปฐมได้ตั้งชื่อตึกดังกล่าวนี้ว่า “อาคารพระครูเกษมธรรมานันท์ (หลวงพ่อแช่ม)” และได้หล่อรูปเหมือนหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอมไว้ที่หน้าตึก เพื่อให้คนได้สักการบูชา และลำลึกถึงคุณความดีที่ท่านได้อุปถัมภ์จนสามารถสร้างอาคารหลังนี้ได้เป็นผล สำเร็จ
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    บูชา 270 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20241217_131249.jpg IMG_20241217_131334.jpg
     
  7. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    get_auc1_img (12) (1).jpeg

    หลวงพ่อมหาโพธิ์ท่าน มรณะภาพ เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2549 สิริอายุ 86 ปี
    ประวัตท่านบางส่วนครับ
    ฝึกวิชา
    พระอาจารย์บุญยังได้พยายามถ่ายทอดวิชาต่างๆ ด้านพุทธคุณให้ ตอนแรก ๆ หลวงพ่อไม่สนใจ แต่เมื่ออยู่กับท่านนาน ๆ ไปหลวงพ่อเริ่มมีความสนใจขึ้น เห็นพระอาจารย์ท่านทำอะไร ๆ แปลกๆ ให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ เช่น ทำควายธนูด้วยตอกสาน โดยสานมือเดียวแล้ววางไว้ ควายธนูก็มีการขยับเขยื้อนได้ เสกน้ำมันจนเดือดเหมือนน้ำร้อน ฟองเดือดขึ้นมา แต่เมื่อไปสัมผัสด้วยมือกลับไม่ร้อน ทำให้ท่านอยากจะเรียน พระอาจารย์ของหลวงพ่อก็ถ่ายทอดให้ทั้งคาถาปลุกเสก และวิธีฝึก
    วิชาเกราะเพชร
    วิชาหนึ่งที่ท่านชอบและฝึกมาตั้งแต่ต้น คือ “ยันต์เกราเพชร” หรือตาข่ายเพชร โดยหลวงพ่อบุญยังได้เล่าให้ท่านฟังว่าสมัยหลวงปู่ศุข ยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ลองวิชาเกราะเพชรกับพระะรูปหนึ่ง ที่แก่กล้าวิชาที่เดินทางผ่านวัดปากคลองมะขามเฒ่า โดยบอกหลวงปู่สุขว่าจะขี่ม้าพยนต์เข้ามาในโบสถ์ให้ดู หลวงปู่ศุขท่านได้เอาผ้ายันต์เกราะเพชรขึงไว้หน้าประ ตู ปรากฎว่าม้าพยนต์ไม่สามารถผ่านยันต์เกราะเพชรหรือตาข ่ายเพชรไปได้ พระรูปนั้นเมื่อแพ้วิชาของหลวงปู่ศุข ก็ได้เดินทางกลับไปจากวัดปากคลองมะขามเฒ่าเมื่อหลวงพ ่อมหาโพธิ์ได้ฟังจากหลวงพ่อบุญยังเล่าท่านจึงสนใจและ เล่าเรียนวิชาเกราะเพชรลงตระกรุด และผ้ายันต์เกราะเพชรมาตลอดอายุของท่าน
    การลงยันต์เกราะเพชร ต้องท่องสูตรคาภาพระอิติปิโสรัตนมาลา ๕๖ บาท ให้ได้จนขึ้นใจทั้งเดินหน้า และถอยหลังได้รวมทั้งบทปลีกย่อยอื่น ๆ อีกมากมาย ในการลงยันต์เกราะเพชร ท่านบอกว่ายันต์เกราะเพชร เป็นยันต์ที่ค่อนข้างยากผู้เรียกจะต้องมีความขยันหมั ่นเพียร กับความอดทน และการประสิทธิ์ประสาทจากครูบาอาจารย์ น้อยคนนักที่จะลงยันต์เกราะเพชรได้ บางคนมาขอเรียนเห็นพระคาถา ๕๖ บาท ก็ท้อแล้วไม่อยากจะท่องจำ ความเพียรพยายามไม่มี การลงยันต์ก็ต้องหายใจลงตามสูตรพระคาถา ๕๖ บาท ผู้ที่ฝึกฝนใหม่ ๆ ต้องใช้เวลาเรียนเกือบทั้งวันกว่าจะลงยันต์เสร็จ อย่างตัวของหลวงพ่อเองใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่งโมง ถือว่าลงได้เร็วมากแล้วเพราะท่านฝึกมา ตั้งแต่อายุยังรุ่นอยู่
    ในสมัยก่อนยามว่าง ท่านมักลงตระกรุดเกราะเพชรและทำผงพุทธคุณเกราะเพชรทั ้งชนิดป้องกันตัว และถอนคุณถอนของคนที่ถูกผีเข้า ท่านจะเอาตะกรุดเกราะเพชรที่เป็นแผ่นแบบยังไม่ได้ม้ว นเป็นตะกรุด ตบหัวคนถูกผีเข้า ผีจะทรุดลง และออกจากตัวคนไข้ไปทันที ตะกรุดส่วนใหญ่ท่านจะใช้แผ่นทองแดงมาลงยันต์เกราะเพช ร ยกเว้นแผ่นถอนของท่านจะใช้แผ่นตะกั่ว ส่วนตะกรุดเนื้อเงินท่านจะลงให้เฉพาะกับศิษย์ใกล้ชิด เท่านั้น เกี่ยวกับประสบการณ์ในตะกรุดเกราะเพชร มี ส.ส.ท่านหนึ่งใน จ.ชันนาท ที่เคารพนับถือหลวงพ่อมากได้ขอตะกรุดท่านไปใช้พกติดต ัว ขณะหาเสียงถูกผู้ที่ปองร้ายใช้ระเบิดปาใส่ ปรากฏว่า ส.ส.ท่านนั้นไม่เป็นอะไรเลย วิชาลงตะกรุดใต้น้ำ
    หลวงพ่อบุญยังได้เรียนวิชาตะกรุดใต้น้ำจากหลวงปู่ศุข โดยสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ลงให้กับลูกศิษย์ทุกปี แม้กระทั่งพระสมุห์กลับ แสงเขียว ก็ยังขอให้ท่านช่วยลงตะกรุดใต้น้ำที่วัดดอนตาลให้ โดยก่อนที่จะประกอบพิธีจะต้องตั้งเครื่องบูชาครูริมแ ม่น้ำ และต้องตอกเสาหลักไว้ในน้ำสำหรับผู้ที่จะลงตะกรุดเกา ะไว้ ไม่อย่างนั้นจะถูกน้ำพัดลอยไปตามกระแสน้ำ ตะกรุดจะลง และปลุกเสกใต้น้ำเสร็จแล้วจะปล่อยให้ลอยขึ้นมาบนผิวน ้ำ พวกลูกศิษย์ก็จะแจวเรือคอยเก็บอยู่ข้างบน หลวงพ่อบุญยังเล่าให้หลวงพ่อบุญยังฟังว่าน้ำที่
    วัดดอนตาลน้ำเย็นเหลือเกิน หลวงพ่อมหาโพธิ์เล่าว่า ท่านเคยขอเรียนวิชาตะกรุดใต้น้ำนี้จากท่านอาจารย์บุญ ยัง ซึ่งอาจารย์ท่านก็รับปากถ่ายทอดให้แต่ต้องเรียนในวัน เพ็ญเดือน ๑๒ แต่ยังไม่ทันถึงเดือน ๑๒ หลวงพ่อบุญยังก็มรณะภาพลงเสียก่อนเมื่ออายุได้ ๕๕ เป็นที่น่าเสียดายยิ่งนัก ที่หลวงพ่อท่านเรียนจากพระอาจารย์ไม่ทันจึงทำให้วิชา นี้สูญไป
    เกี่ยวกับวันที่หลวงพ่อบุญยังมรณภาพ ชาวบ้านแถบวัดปากคลองมะขามเฒ่า ได้เห็นลูกๆไฟดวงใหญ่ลอยเดินทางไปยังวัดหนองน้อย และได้ลอยกลับมาโดยมีลูกๆไฟดวงเล็กตามมาด้วยเป็นที่ตื อันตาตื่นใจแก่ผู้คนในสมัยนั้นมากเล่าขานกันมาจนถึงปัจุบันนี้
    ชีวิตฆราวาส
    ท่านได้สมรสกับ นางสุขใจ เป็นผู้ที่ค่อนข้างจะมีฐานะดีในจังหวัดชัยนาท แต่ไม่มีบุตรด้วยกัน ได้มีร้านค้าขายของชำอยู่ในอำเภอวัดสิงห์ ยามว่างท่านก็จะไปศึกษาวิชาความรู้ทางไสยศาสตร์กับ พระสมุห์กลับ แสงเขียว วัดดอนตาล ซึ่งถือกันว่าเป็นศิษย์มือขวาของหลวงปู่ศุขเลยทีเดีย ว พระสมุห์กลับภายหลังท่านสึกจากพระเสียอีก
    ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๕๐๐ หลวงพ่อมหาโพธิ์ซึ่งตอนนั้นท่านอยู่ในเพศฆราวาส ท่านได้ลงสมัครเลือกตั้งเป็น เทศมนตรีเทศบาล อำเภอวัดสิงห์ ในวาระ ๔ ปำถึง ๒ สมัย รวมเป็น ๘ ปีถึง พ.ศ.๒๕๐๗ ท่านได้เล่าไห็ฟังว่าตอนหาเสียงท่านก็ไม่ค่อยได้ออกไ ปหาเสียงที่ไหนอยู่ในร้านค้าของท่านในอำเภอวัดสิงห์ ค้าขายของไปวัน ๆ หนึ่ง แต่อาศัยที่ท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาไสยศาสตร์จากหลว งพ่อบุญยัง และพระสมุห์กลับ ด้วยอานุภาพความศักดิ์ของวิชา นะฤาชา ที่หลวงพ่อบุญยัง ถ่ายทอดไห้มาเป็นพิเศษ จึงทำให้ท่านเป็นที่รู้จักเลื่องลือไปทั้งอำเภอวัดสิ งห์ เป็นที่นิยมชมชอบของประชาชน อำเภอวัดสิงห์ ท่านลอกว่าท่านไม่ต้องไปเหนื่อยกับการหาเสียงเลย ประชาชนทั่วไปเลือกท่านเป็นเทศมนตรีเทศบาล อำเภอวัดสิงห์ ถึง ๒ สมัย จนในปี ๒๕๑๗ กระทรวงมหาดไทยมอบใบประกอบในประกาศนียบัตร ชมเชยในการทำงานของท่าน ที่พัฒนา อำเภอวัดสิงห์ ให้มีความเจริญก้างหน้าแก่ ท้องถิ่น หลังจากที่ท่านได้หมดวาระในตำแหน่งเทศมนตรีไปแล้ว ๙ ปี
    เหตุที่กลับมาบวช
    หลวงพ่อมหาโพธิ์ท่านได้เล่าว่า ชีวิตของท่านมีความผูกพันกับวัดเสมอห่างจากวัดไม่ได้ แม้จะครองเพศฆราวาสก็ต้องวนเวียนอยู่กับวัด ก่อนที่ท่านจะกลับมาบวชจิตใจก้รุดมร้อน ทำอะไรก็เหมือนคนเสียสติ จนต้องเข้าโรงพยาบาลรักษาตัวโดยไม่มีสาเหตุของโรค จนมีอยู่วันหนึ่งขณะนอนอยู่ที่โรงพยาบาล ท่านได้ลุกขึ้นมาเขียนยันต์ต่าง ๆ ตลอดจนยันต์ครูที่ท่านเคยเรียนมา ได้ทิ้งไปนานไม่ได้ทบทวนเลย ซึ่งในเพศฆราวาสท่านก็ไม่ได้ฝึกฝนทบทวนต่อ เพราะเวลาว่างใหญ่จะไปทางโลกหมด ต้องวุ่นวายกับครอบครัวเรื่องการทำมาหากินเวลาปฏิบัต ิทางธรรมทางวิชาคุณพระก็หย่อนยานไป ขาดการไหว้ครูทุก ๆ ปี ก็เลยทำให้ท่านผิดปรกติ แต่ก็ดลจิตให้นึกขึ้นมาได้ ว่าสาเหตุจากแรงครูนี้เองโดยไม่ต้องให้แพทย์รักษา ในปี พ.ศ.๒๕๐๙ ท่านก็ได้เข้ามาสู่สมณเพศ อุปสมบทเป็นพระภิกษุอีกครั้งที่วัดพานิชนาราม อำเภอวัดสิงห์ จ.ชัยนาท โดยมีพระอุปัชฌาย์ คือ พระครูสิงหชยสิชฌน์ (เจริญ) พระกรรมวาจารย์ พระคูครูแบน เจ้าอาวาสวัดโคกสุข และพระแช่ม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ เมื่อวันที่ ๒๖ เดือน มิถุนายน พ.ศ.๒๕๐๙ เวลา ๑๖.จ๕ น.และได้มาตำพรรษา สังกัดวัดโคกสุข ต.หนองน้อย อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาม จนถึงปี พ.ศ. ๒ษ๕๑๓ ได้ย้ายมาตำพรรษาอยู่ ณ วัดคลองมอญ ในวันที่ ๒๖ กันยายน เพราะวัดคลองมอญในเวลานั้นเกือบจะเป็นวัดล้างอยู่แล้ วไม่มีพระภิกษุจำพรรษาอยู่เลย ชาวบ้านที่อาศัยแถววัดคลองมอญ ได้นิมนต์ท่านให้มาปกครองวัดคลองมอญอยู่หลายครั้ง จนท่านต้องมาเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดคลองมอญ ได้สร้างความเจริญให้กับวัดคลองมอญเป็นอันมาก
    กิตติคุณของหลวงพ่อ
    ซื่อเสียงของท่านล่ำลือไปไกลหลายจังหวัด ในเรื่องการรักษาโรคต่าง ๆ ที่ไม่มีสาเหตุ ซึ่งแพทย์แผนปัจจุบันรักษาไม่ได้ บางคนต้องมารักษาเป็นแรมเดือน ตอนนั้นท่านอยู่ในโบสถ์ รักษาคนไข้โรคแปลกๆ มีทั้งคนถูกคูณถูกของ ทั้งเสน่ห์เล่ห์กลต่าง ๆ น้ำมันพรายฯลฯ บางคนป่วยปางตายท่านก็รักษาจนหายมีชีวิตอยู่รอดได้ ผู้มีจิตศรัทธาจำนวนมากต่างก็มานมัสการท่านขอความเมต รตาจากท่านๆก็ได้สงเคราะห์ให้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหน ื่อย ไม่เลือกชั้น วรรณะ ให้ ความเสมอภาคกับทุกๆ คนเสมอมา จนถึงปี พ.ศ. ๑๔๒๖ ท่านก็ได้หยุดรักษาคนไข้ ประกอบกับอายุสังขารท่าน ก็ชราภาพมากแล้วจึงต้องได้รับการพักผ่อน บำรุงรักษาร่างกายให้มีสุขภาพดี เป็นเนื้อนาบุญให้กับลูกศิษย์ และญาติโยม จะได้พึ่งบารมีของท่านไปได้อีก นาน ๆ จนถึงปัจจุบันนี้ (พ.ศ.๒๕๔๔ ) หลวงพ่อมาหาโพธิ์ญาณสังวโร เป็นทายาทศิษย์สายตรงของหลวงปู่ศุข ที่ถ่ายทอดตำราคัมภีร์ด้านพุทธคุณในศิษย์รุ่นที่ ๓ ที่ได้รับมาแต่ผู้เดียว
    การรักษาโรค
    หลวงพ่อมหาโพธิ์ท่านได้สอนวิธีการรักษาให้กับผู้เขียนในตัวผู้ป่วยที่อยู่ในอาการต่างๆ อาการอย่างไรควรรักษาด้วยวิธีการใด บางคนเป็นแผลเน่าไปทั้งตัว เคยไปรักษาที่โรงพยาบาล หมอปัจจุบันบอกว่าเป็นมะเร็ง รักษาอยู่หลายปีไม่หาย ได้ยินชื่อเสียงของหลวงพ่อมหาโพธิ์ ญาติพี่น้องได้พามารักษาที่ วัดคลองมอญ เมื่อหลวงพ่อดูอาการแล้วบอกว่า “โดนผีคุณ” ไม่ไช่มะเร็งหลวงพ่อท่านได้ใช้ปูนกับน้ำมนต์รักษาคนไ ข้ ใช้มีดหมอสับ และไม้เท้ากดตามตัวคนไข้ ก่อนทำการรักษาต้องมีดอกไม้ ธูปเทียน และเงิน ๖ บาทสลึงเป็นค่าบูชาครู และต้องบนครูด้วยว่า เมื่อหายจากอาการป่วยแล้วจะถวายครูด้วยไก่ ๑ ตัว, เหล้าขาว ๑ ขวด ,กล้วย ๑หวี, ข้าวสาร ๑ ถ้วย , และเงิน ๖ บาทสลึง เป็นสิ่งที่แปลกผู้คนส่วนมาก ที่มารักษาจากหลวงพ่อหายจากโรคร้ายทุกคน เมื่อถึงวันไหว้ครูจะมีผู้คนมามากมายถวายขวัญข้าวครู เต็มโบสถ์ไปหมดแทบจะไม่มีทางเดินเลย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    เหรียญเกราะเพชร กองพลที่๑ เหรียญใหญ่ ขนาด ๑.๕ นิ้ว สร้างน้อย และ หายากกว่า เหรียญเล็ก
    ให้บูชา
    500 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ (ปิดรายการ)
    IMG_20241217_131407.jpg IMG_20241217_131455.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2024 at 11:52
  8. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +6,890
    -ขอจอองครับ
     
  9. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    1734500536500.jpg
    ระหว่างของขลังกับธรรมะมีความเหมือน
    หรือแตกต่างกันอย่างไรครับ?
    -เป็นคนละเรื่องกัน และมีความแตกต่างกัน เพราะของขลังเป็นเรื่องของไสยศาสตร์ เป็นเรื่องลี้ลับที่พิสูจน์ให้เห็นด้วยการปฏิบัติป้องกันภัย และเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ส่วนธรรมะเป็นการศึกษาจากตำรา นั่งสมาธิ หรือพระสงฆ์เทศนาสั่งสอนญาติโยมด้วยหลักธรรมะ และผู้ที่จะเข้าถึงธรรมะได้ก็สามารถเข้าถึงได้ทั้งสองทาง ไม่ว่าจะเป็นไสยศาสตร์ หรือธรรมะ
    ญาติโยมควรเลือกไสยศาสตร์หรือธรรมะดีล่ะครับ?
    -อาตมาว่าเลือกธรรมะจะดีกว่า เพราะจะได้ช่วยบ่มเพาะจิตใจ เพราะไสยศาสตร์บ่มเพาะจิตใจไม่ได้ ไสยศาสตร์มีไว้ติดตัว ที่ญาติโยมส่วนใหญ่หันมาพึ่งไสยศาสตร์กันมาก ก็เพราะว่าโลกเราถึงคราววิบัติ ไม่ว่าจะมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ถูกปล้น หรือถูกลอบวางระเบิด ยิ่งสงครามด้วยแล้ว ทุกคนจะต้องหาเครื่องรางฯ ไว้ติดตัวป้องกันอันตรายต่างๆ นั่นเอง
    เรื่องไสยศาสตร์สอนให้คนงมงายได้ไหมครับ
    -จะเป็นเรื่องงมงายหรือไม่นั้น อาตมาว่าอยู่ที่ตัวคนมากกว่า ถ้าคนเราเชื่ออย่างมีปัญญาว่าสิ่งเหล่านี้ใช้คุ้มครอง มีแล้วก็จะเป็นสิริมงคลกับตัวเองจึงไม่งมงาย กลุ่มคนเหล่านี้ก็เหมือนเดินอยู่บนสายกลาง แต่หากบางคนเชื่อจนไม่ลืมหูลืมตา เชื่อแบบไม่มีเหตุไม่มีผล คนพวกนี้ก็ถือว่าเป็นคนงมงาย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    พระปิดตาฝังตะกรุด ๖ รอบและเหรียญ ๕ รอบ ลพ.ประสิทธิ์ วัดไทรน้อย
    ให้บูชา 250 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20241218_123854.jpg IMG_20241217_131711.jpg IMG_20241217_131745.jpg IMG_20241217_131822.jpg IMG_20241217_131856.jpg IMG_20241217_131638.jpg
     
  10. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    showimage (13).jpeg

    การสร้างพระของ ลพ.สง่า นั้นท่านจะชอบสร้างพระหล่อมากกว่าเหรียญ เนื่องจากพิธีกรรมการสร้างและการใช้เนื้อโลหะที่นำมาสร้างล้วนแต่มีความหมายจากที่ถามท่าน หลวงพ่อจะเป็นผู้รวบรวมเนื้อโลหะเองพร้อมการผสมเนื้อแต่ละอย่างลงไปมาหล่อหลวมอย่างเช่น ใบพัดเรือเก่าๆมีความหมายว่าให้นำพาเราโลดแล่นไปอย่างปลอดภัย ตะบันตำหมากขันลงหิน เหมือให้มีกินตลอด ระฆังเก่าๆที่แตกชำรุดก็ให้ดังกังวาลมีชื่อเสียง บางครั้งผมเห็น ลพ.สง่าใช้เศษทองแดงท่อแอร์ด้วยครับ ของพวกนี้ ลพ.สง่าไปหาซื้อมาเองบางทีญาติโยมก็ไม่เอาสตางค์เพราะรู้ว่าหลวงพ่อพ่อนำไปสร้างพระบางครั้งหลวงพ่อท่านเกรงใจก็จะใช้ลูกศิษย์ไปซื้อแทนเพื่อที่ให้ญาติโยมจะได้เงินไปใช้บ้าง การทำก็ออกแบบเองจ้างช่างที่มีเครื่องมือมีช่วยเพราะหลวงพ่อไม่มีงบประมาณมากมายก็จะทำเองที่วัดหนองม่วง จะเห็นว่าการที่ไม่ใช่มืออาชีพแต่ท่านศึกษาร่ำเรียนมาก็อยากทำเองและทุนทรัพย์ก็น้อย จำทำให้พระของท่านที่หล่อออกมากแล้วไม่สวยเหมือนพระโรงงานหรือมืออาชีพ แต่ท่านรู้หรือไม่ว่าหลวงพ่อท่านตั้งใจทำมากขนาดไหน สมัยก่อนที่ท่านอยู่วัดหนองม่วงผมยังเคยไปนั่งดูพระลุกวัดท่านนั่งแต่พระเหรียญหล่อของท่านปี36เลยผมเห็นแล้วศัทรามากถาม หลวงพ่อว่าทำไม่จ้างเขาทำและหลวงพ่อบอกว่าเราทุนทรัพย์น้อยให้เขาไปทำเราไม่เห็นใส่เนื้ออะไรไม่รู้ให้เราบ้างพิธีกรรมก็ไม่ถูกต้องตามหลักเขา ของเราถึงไม่สวยแต่ครูบาอาจารย์มอบให้ดีทั้งหมดและถึงหูแหว่งตาเหล่ แขนขาก็ดียังดีกว่าพระที่สร้างโรงงานนำมาเสกกัน5นาที10นาทีก็โฆษณากันกันไปคนเอาไปใช้ไม่รู้เป็นไงบ้าง ถ้าเองไม่พอใจก็ไม่ต้องเอาไปหรอก นี้แหละผมถึงรู้คุณค่าว่าท่านตั้งใจขนาดไหน
    หลวงพ่อ วัดบ้านหมอ ท่านดุ แต่ใจดี พูดคำไหนคำนั้น
    หลวงพ่อเคยบอกว่า "หากคิดถึงท่าน ให้จุดธูปบอกกล่าวกับท่าน"
    ท่านเป็นคนบ้านหมอ แต่ไปได้รับตำแหนางเจ้าอาวาสที่วัดหนองม่วงสุดท้ายท่านลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหนองม่วง กลับ ไป จำพรรษาที่ วัดบ้านหม้อ และก็ไม่รับตำแหน่งเจ้าอาวาสด้วย เป็นพระลูกวัดธรรมดา ท่านอยู่ที่วัดบ้านหม้อ อยู่บนศาลาหลังใหญ่ ไม่มีกุฎิ (ปัจจุบันคือที่ตั้ง โลงบรรจุสังขารของท่าน) พอเริ่มมีคนมาหาเยอะขึ้น ท่านจึงย้ายลงมาอยู่ศาลาข้างล่าง
    ท่านมีความต้องการสร้างพิพิทภัณฑ์ เก็บรวบรวมพระบูชาทั้งเก่าและใหม่ ไม่สนว่าแท้หรือไม่ แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะท่านมรณภาพก่อน ท่านน่าจะอาพาธด้วยโรคหอบ เพราะเห็นท่านนั่งหอบแล้วน่ากลัวเหลือเกิน
    วัตถูมงคลของท่าน ดังเช่น เหรียญรุ่นแรกมากประสบการณ์ ตะกรุดโทนที่ท่านจารมือ หายากมากๆ ส่วนมากพบเห็นตะกรุดปั๊มเหรียญรูปเหมือนท่าน ปี 2537 นำไปหล่อเป็นชนวนหล่อพระประธานที่วัดแห่งหนึ่ง
    ใน ราชบุรี เหรียญไม่ละลายต้องตักขึ้นมา เหตุการณ์ที่ชาวต่างชาติบุกยึด รพ.ราชบุรี คณะตำรวจส่วนหนึ่ง ได้เข้านมัสการท่านเย็นนั้นก่อนที่จะไป เปิดปฏิบัติการณ์สำเร็จโทษ ท่านได้พรมน้ำมนต์พร้อมแจกเหรียญให้ จึงมีชื่อรุ่นว่า "ปราบ GOD ARMY"
    พระสมเด็จที่ออกที่วัดหนองม่วง ผมได้ยินเขาคุยกัน หลานเขาแขวนพระพิมพ์นี้ไปเที่ยว ซ่อง เดินเข้าประตูซ่อง พระแตกเลย
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ให้บูชา 320 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
    IMG_20241218_193634.jpg IMG_20241218_193548.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ธันวาคม 2024 at 23:49
  11. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1734527031926.jpg
    มกราคม พ.ศ. 2445 อุปสมบทที่วัดอนงคารามฯ กรุงเทพฯ โดยมีสมเด็จพระพุฒาจารย์ (นวม พุทฺธสโร) เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า “จนฺทโร” ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยอยู่ที่วัดอนงคารามฯ และฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชาอาคมกับ “หลวงปู่ศุข” วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท และ “หลวงพ่อปาน” วัดบางนมโค
    จ.พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งได้ศึกษาวิชาโหราศาสตร์จากโหรหลวง ก่อนมาเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าข่อยในปี พ.ศ. 2470 ต่อมาได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสัญญาบัตร ราชทินนามว่า “พระครูจันทโรภาส” และได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลวังไม้ขอน ก่อนท่านจะมรณภาพเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2548 สิริรวมอายุ 104 ปี โดยดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสยาวนานถึง 78 ปี พระมหาสกุล กล่าวว่า เมื่อครั้งช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ได้ส่งตัวแทนมานิมนต์ “หลวงปู่จันทร์” วัดป่าข่อย จ.สุโขทัย พร้อมกับ “หลวงพ่อจง” วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา และ “หลวงพ่อจาด” วัดบางกระเบา จ.ปราจีนบุรี ซึ่งทั้ง 3 ท่านนี้เป็นพระสุปฏิปันโน มีเวทมนต์คาถาอาคมขลัง จึงนิมนต์ให้ขึ้นไปนั่งบนเครื่องบินโปรยทรายเสกคาถาลงมา เพื่อป้องกันภยันตรายให้แก่บ้านเมืองอีกทางหนึ่งด้วย ปัจจุบัน “หลวงปู่จันทร์” แม้ว่าท่านจะมรณภาพมานานถึง 12 ปีแล้ว แต่คุณงามความดีและวัตรปฏิบัติอันงดงามยังคงอยู่ อีกทั้งสรีระสังขารก็ไม่เน่าเปื่อย สร้างความอัศจรรย์ใจแก่ประชาชนและบรรดาสานุศิษย์อย่างมาก จึงมีการเก็บรักษาร่างของท่านไว้ในโลงแก้ว ตั้งในศาลาจตุรมุข “หลวงปู่จันทโรภาส” วัดป่าข่อย ต.เมืองสวรรคโลก อ.สวรรคโลก จ.สุโขทัย เพื่อให้ประชาชนได้กราบไหว้ขอพร
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญเสมาลป.จันทร์ให้บูชา 170 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20241218_193346.jpg IMG_20241218_193414.jpg
     
  12. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    0082.jpg
    หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ
    หลังจากอุปสมบทแล้วท่านก็ได้อยู่จำพรรษาที่วัดวชิรคามเรื่อยมาเพื่อศึกษาวิชาการต่างๆ ซึ่งหลวงพ่อเก๋ นั้นมีความสามารถโดดเด่นในเชิงช่างไม้ พอสอบนักธรรมตรีได้
    หลวงพ่อทองอยู่ เจ้าอาวาสวัดแม่น้ำ จึงขอตัวท่านให้มาช่วยงานที่วัดแม่น้ำ หลวงพ่อทองอยู่ท่านมีชื่อเสียงในด้านวิชาอาคมทำตะกรุดใต้น้ำและแพทย์แผนโบราณ เก่งสมุนไพร ว่านยา ทำให้หลวงพ่อเก๋ได้ศึกษาวิชาการต่างๆเหล่านี้จากหลวงพ่อทองอยู่ไว้จนหมดสิ้น
    ต่อมาหลวงพ่อทองอยู่ได้นำท่านไปฝากตัวเป็นลูกศิษย์ ”หลวงพ่อโต วัดคู้ธรรมสถิต” และ “หลวงพ่อรอด วัดบางขันแตก” ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านวิชาอาคมขลัง
    นอกจากนี้ท่านยังได้ฝากตัวเป็นศิษย์เรียนกรรมฐานและพุทธาคมกับหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม หลวงปู่บ่าย วัดช่องลม
    โดยในเวลากลางวันท่านจะไปเรียนกับหลวงปู่บ่าย พอตกเย็นท่านก็จะเดินทางไปจำวัดที่วัดบางกะพ้อม เพื่อเรียนวิชากับหลวงพ่อคง ในเวลากลางคืน โดยร่ำเรียนแบบนี้อยู่หลายปี นอกจากนี้ท่านยังได้ไปศึกษากับหลวงพ่อแก้ว วัดหัวนา อีกด้วย
    ในพรรษาที่ ๖ ซึ่งตรงกับปี พ.ศ. ๒๔๗๙ หลวงพ่อเก๋ ท่านได้เริ่มเดินธุดงค์วัตร โดยท่านได้ธุดงค์ไปที่จังหวัดอุตรดิตร์ พิษณุโลก และเลยขึ้นไปทางภาคเหนือ
    ซึ่งในสมัยนั้นเป็นบ้านป่าบ้านดง รกร้าง ไม่ค่อยมีผู้คนอยู่อาศัย โดยท่านจะเดินธุดงค์ทุกปี แต่เมื่อถึงเวลาอันสมควรท่านก็จะเดินทางกลับมาที่วัดแม่น้ำ เพื่อให้ทันเข้าพรรษาเนื่องจากท่านเป็นพระที่สวดปาฏิโมกข์ เป็นอย่างนี้เรื่อยมา
    หลวงพ่อเก๋ ท่านเป็นพระที่เก่งกาจ ใครยิงฟันกันถ้ามีของดีของหลวงพ่ออยู่ในคอรับรองว่าไม่เสียเลือด ขนาดที่มีศิษย์ของท่านโดนยิงตกคลองร่องสวน ยังลุกขึ้นมาเดินปร๋อ จนเป็นที่ฮือฮา นอกจากนี้ท่านยังมีอุปนิสัยรักความเป็นระเบียบและรักความถูกต้อง ท่านจะไม่ออกเลี่ยไล่ให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อน ท่านสร้างและบูรณะวัดของท่านไปเรื่อยๆ รวมทั้งท่านยังไม่รับตำแหน่งพระอุปัชฌาย์ ด้วยท่านเบื่อหน่ายกับคนที่จะมาบวชที่ท่องบทขอบวชได้มั่งไม่ได้มั่ง ต้องบอกต้องสอนกันตอนบวช เป็นที่น่าเบื่อหน่าย
    ท่านจะสอนศิษย์เสมอๆว่าให้ละเว้นความชั่วต่างๆ เพื่อจะได้ใช้ชีวิตได้อย่างอยู่เย็นเป็นสุข ไม่ต้องกลัวภัยอันตรายใดๆ เพราะความดีจะเป็นเกราะคุ้มกันเอง.
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    เหรียญหล่อหลวงพ่อเก๋วัดแม่น้ำ
    ให้บูชา 220 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20241218_193443.jpg IMG_20241218_193519.jpg
     
  13. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    วันนี้ จัดส่ง
    1734669548866.jpg

    ขอบคุณครับ
     
  14. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1734671958998.jpg
    ประคำของท่าน จะทำมาจากแก่นไม้มงคลหลากหลายชนิด บางเส้นที่พบเจอจะมีเม็ดประคำทำจากไม้หลายชนิด บางเส้นก็จะชนิดเดียวล้วนๆ โดยแต่ละชนิดก็ล้วนแล้วแต่เป็นไม้มงคลและชื่อที่เป็นมงคล อาทิเช่น ไม้ประดู่ คูณ ขนุน ยม มะขาม รัก วาสนา สัก พะยุง กันเกรา ทองหลาง ชัยพฤกษ ราชพฤกษและอีกหลากหลายชนิดฯลฯ โดยใช้แก่นไม้ส่วนที่แข็ง นำมาแกะเป็นเม็ดๆ ขัดตกแต่งเคลือบผิว ตามพิธีตำหรับตำรา แล้วค่อยเข้าพิธีปลุกเสก
    เป็นวัตถุมงคลที่มีชื่อเสียงของหลวงพ่ออุตตมะมาเป็นเวลาเนิ่นนานหลายสิบปีมาแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งที่หลวงพ่ออุตตมะเข้ามาอยู่ในเมืองไทยใหม่ ๆ หลวงพ่อท่านก็ได้นำประคำมาแจกให้กับผู้ที่ไปกราบนมัสการท่าน นอกจากจะให้ช่วยปกป้องคุ้มครองตัว และเป็นเมตตามหานิยมแล้ว ยังมีนัยเพื่อให้เป็นเครื่องระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ และพระสังฆคุณ หรือคุณพระศรีรัตนตรัยอีกด้วย เพื่อให้ผู้ที่ได้รับประคำไปนั้นมุ่งมั่นกระทำแต่ความดีตามรอยบาทพระศาสดา นอกจากประคำไม้ยุคแรกๆแล้ว ท่านยังได้ทำไว้หลายแบบ หลายชนิดเช่น ประคำผง ประคำกรามช้าง เป็นต้น
    หลวงพ่ออุตมะท่านก็สร้างตามตำรามอญโบราณ สำหรับผู้ที่เคยไปนมัสการหลวงพ่ออุตตมะ แห่งวัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ภาพที่พบเห็นหลวงพ่อท่านจะนั่งทักทายลูกศิษย์ลูกหาพร้อมร้อยพวงเม็ดประคำของท่านไปด้วย และคงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่าร้อยทั้งร้อยจะต้องได้ประคำสายหลากหลายชนิดติดคอกลับมาแทบทุกคน "เห็นประคำก็เหมือนได้เห็นหลวงพ่อ ถ้าได้พบเจอหลวงพ่อก็ต้องได้เห็นประคำ" ดังนั้น ประคำ จึงเปรียบเสมือนเครื่องรางที่เป็นเอกลักษณ์ของหลวงพ่ออุตตมะมาเนิ่นนานแล้ว
    ซึ่งแต่ละชนิดก็สร้างจำนวนไม่มากค่ะ บางท่านอาจสงสัย พร้อมคำถามว่า เส้นประคำเม็ดกลมโต ถ้าหากคล้องคอไปไหนมาไหนอาจจะดูไม่เหมาะกับการทำงานในสภาพปัจจุบันนัก ซึ่งก็โดยมากที่หลวงพ่อท่านให้นั้น ก็ไว้เพื่อพกพาติดตัว ติดรถติดบ้าน เพื่อความปลอดภัย แคล้วคลาด เมตตามหานิยม บันดาลโชคลาภ อีกทั้งไว้ฝึกจิตนับลูกประคำสำหรับทำสมาธิในแต่ละครั้ง ระลึกพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตลอดจนคุณครูบาอาจารย์
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ลูกประคำเสาร์ ๕ มหามงคลหลวงพ่ออุตตมะรูปถ่าย
    แจกงานพระราชทานเพลิงศพ ข้าราชการทหารอากาศปี๒๕๓๙

    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
    IMG_20241220_122812.jpg IMG_20241220_122745.jpg IMG_20241220_122825.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ธันวาคม 2024 at 16:17
  15. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1734797657254.jpg
    พระครูสุทธิวัตรสุนทร (บุญ สุสฺมโณ) วัดบ้านนา ต.บ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง
    พระผู้ถือสันโดษเป็นยิ่ง
    โดย...รณธรรม ธาราพันธุ์
    คนเก่าในเมืองระยองแทบสิ้น คึกเมื่อสิ้นหลวงปู่ทิม หลายคนพยายามมองหาพระเก่งเพื่อเพิ่มความคึก เล็งแลกันอยู่นานศิษย์รุ่นเก่าแก่ของหลวงปู่ทิมก็กระซิบกับผมว่า มีพระเก่งอยู่รูปหนึ่งนิสัยใจคอคล้ายกับหลวงปู่ทิม ความเก่งความชำนาญชาญเชี่ยวในเชิง ‘ฤทธิ์’ ก็ไม่น้อยไปกว่าหลวงปู่ทิมเท่าใดนัก
    ผมรีบกระซิบคืน “ใครครับ” ท่านว่า “หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา”
    เมื่อผมไปเยี่ยมน้องสะใภ้ที่ ต.ซำฆ้อ ใน อ.แกลง ก็ได้ยินมารดาของสาวเจ้าเล่าความขลังของเกจิรูปหนึ่งให้ฟังว่า...
    มี ครอบครัวคนทำสวนยางใกล้บ้านครอบครัวหนึ่ง มีลูกเป็นเด็กทารกอายุไม่กี่เดือนอยู่ด้วย แต่ก่อนร่อนชะไรเจ้าตัวเล็กก็ไม่มีปัญหา แต่หลังจากที่พ่อไปทำสวนยางใหม่กลับมาลูกน้อยก็ร้องไห้อย่างไม่มีสาเหตุ ผู้เป็นพ่อเป็นแม่ก็กลุ้มจนนอนไม่หลับ
    แต่ ‘โชคดี’ ยังให้ความเอ็นดูผู้เป็นพ่ออยู่บ้าง
    วัน หนึ่งของทำสวนยาง ผู้พ่อก็พบผ้ายันต์สีขาวผืนหนึ่งตกอยู่ในสวนของตน ไม่ทราบที่ไปและไม่ทราบที่มา แต่เมื่อเป็นรูปพระในฐานะที่เป็นคนพุทธก็ต้องให้ความเคารพไว้ก่อน ด้วยความไม่รู้จักมักจี่กับเจ้าของยันต์ก็เลยเอายันต์นั้นแปะไว้ที่หน้าบ้าน ตน
    ‘โชคดี’ ยังเป็นของเขาอยู่อีก
    เพราะ นับจากวันที่ยันต์ปริศนามาอยู่ร่วมชายคา หนูน้อยเสียงดีก็เป็นอันหยุดร้องสนิทราวกับปิดสวิทซ์เครื่องเทป ยังความปลาบปลื้มยินดีให้พ่อแม่เป็นอันมาก
    แต่ ‘โชคร้าย’ ก็ใช่ว่าจะหนีไปไกล
    เมื่อ วันหนึ่งของทำสวนยาง ผู้แม่ก็ล้มพับลงไปท่ามกลางป่ายาง ครั้นใครหลายคนจะเข้าไปช่วยเหลือเจ้าหล่อนก็กลับลุกพรวดพราดทำตาขวาง พลางลุกขึ้นกรีดร้องเผ่นโผนออกจากสวนอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย หมู่พวกจึงพากันทิ้งงานกวดตามหลังอย่างตระหนกตกใจ
    พอ เจ้าหล่อนห้อตะบึงมาถึงบ้านก็ทำท่าจะวิ่งตรงเข้าประตูไป และก่อนที่จะเป็นดังนั้น ความอัศจรรย์ก็พลันเกิด เมื่อเธอหยุดกึก พลางจับจ้องไปที่ผ้าผืนน้อยสีขาวหน้าบ้านชนิดตาไม่กระพริบ แล้วทรุดฮวบลงกับพื้นพลางร้องไห้คร่ำครวญเหมือนจะขาดใจ
    หมู่ พวกที่ตามมาถึงก็พากันระส่ำระสายจะเข้าช่วยก็ไม่กล้า เพราะดูท่าแล้วมันไม่ใช่เรื่อง ‘ธรรมดา’ พอผู้เป็นสามีเข้าไปจับเนื้อต้องตัวเพื่อสอบถามเรื่องราว เจ้าหล่อนกลับสวนมาว่า
    “ฉันไม่ใช่เมียแก”
    เอาละสิ อยู่กันจนมีลูก จู่ ๆ มาบอกไม่ใช่เมีย ถึงตอนนี้ชาวบ้านชาวช่องก็พากันมารุมล้อมประสา ‘ไทยมุง’ คนเฒ่าคนแก่พากันซุบซิบให้ความเห็น
    “ผีเข้าแหง ๆ”
    หลาย คนแสดงตนเป็นผู้รู้ คอยปลอบประโลมจนคนผีเข้าคลายทุกข์โศกลงบ้าง คนผีสิงก็ปริปากว่าตนชื่อ ลำดวน (นามสมมุติ) ถูกฆ่าตายแล้วฝังเอาไว้ในป่ายาง ทุกข์ทรมานมากทั้งมืดทั้งหนาว คิดถึงลูกมากแต่ไปหาไม่ได้ เพราะตนถูกผู้ฆ่าเอากระโหลกไปให้คนมีวิชาทำพิธีสะกดวิญญาณ แล้วไปฝังในสวนยางจึงไปไหนไม่ได้ พอได้ยินเสียงเด็กเลยคิดถึงลูก จึงมาที่บ้านทุกวันเพื่อมาเล่นด้วย แต่ตอนนี้รักเด็กคนนี้มากจึงอยากเอาไปอยู่ด้วย
    ได้ยินอย่างนี้ผู้เป็นพ่อก็สะดุ้งตากลับ
    แล้วก็ใจชื้นขึ้นเป็นกอง เมื่อเมียรักชี้ไปที่ผ้าสีขาวแล้วเอ่ยว่า แต่ตอนนี้เข้าไปหาเด็กไม่ได้แล้วเพราะกลัวผ้ายันต์นี้มาก คนทำเก่ง ร้อนมาก สู้ไม่ได้ พอเห็นแม่เด็กเดินมาใกล้ ๆ จึงเข้าทับเพื่อมาหาเด็กเข้าใจว่าจะเข้าบ้านได้ แต่ก็เข้าไม่ได้อีก คิดถึงลูกเหลือเกิน
    จาก นั้นคนผีเข้าก็ร้องไห้คร่ำครวญต่อไปอีก เป็นที่เวทนานัก ชาวบ้านจึงถามชื่อแซ่ เธอก็บอกเล่าให้ฟังหมด ถามถึงฆาตกรเธอก็เล่าด้วยความแค้นเคืองได้ความว่า คนฆ่าคือสามีของตัวเองที่เกิดไปมีเมียน้อยแต่ไม่รู้จะหนีไปอย่างไร จึงเอาจอบตีเมียตอนทำครัวจนสลบ ผัวเข้าใจว่าตายแล้วจึงเอายางรถยนต์เก่ามาซ้อน จับตนขึ้นนั่งแล้วเผาทั้งเป็นที่หลังบ้านของตัวเอง
    แล้วผัวตัวแสบก็ ไปแจ้งความทำทีว่าถูกโจรปล้นแล้วฆาตกรรมภรรยา ปรากฏว่าแผนสำเร็จด้วยดีสามีใจโหดเลยรอดตัว ได้ขายสวนยางและบ้านช่องให้คนอื่น ก่อนที่จะหอบผ้าผ่อนไปอยู่กับเมียที่ต่างตำบล
    ทุกคนได้ฟังก็ต่าง สงสาร รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะช่วยเหลือทุกทางจนวิญญาณแค้นพอใจแล้วออก จากร่างไป สิ่งที่ตามมาคือการทำบุญงานใหญ่อุทิศให้ผี และการตามสืบเรื่องผ้ายันต์จนได้ความว่าเป็นของ

    FB_IMG_1734797638626.jpg
    หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา
    ทุกบ้านเลยเป็นอันมีผ้าขาวผืนน้อยติดกันพรึ่บไปหมด ผ้ายันต์เต็มองค์สีเหลือง ปี 2538 (มี 3 สี ขาว, แดง, เหลือง)ผ้ายันต์ครึ่งองค์สีขาว ปี 2538 (มี 3 สี ขาว, แดง, เหลือง)
    ผมเห็นว่าเรื่องนี้แปลกดีเลยนำมาเล่าสู่กันฟัง ผมเองก็ได้ไปดูใกล้ ๆ กับที่เกิดเหตุ พบว่าเปล่าเปลี่ยววังเวกดีพิลึก ก็น่าหรอกที่ผีจะดุ
    ใช่ว่าหลวงปู่จะเก่งกล้าสามารถในเรื่องผีอย่าง เดียวเมื่อไร ยิงไม่เข้า ฟันไม่เข้า ก็ประจักษ์กันมามากต่อมาก ขนาดฟันกันฉับ ๆ หน้าศาลาวัดบ้านนาก็มี แต่ไม่มีใครได้เลือดใคร เพราะมีพระหลวงปู่กันทุกคน
    พูดถึงความสันโดษอันเป็นเอกลักษณ์ของหลวง ปู่นั้น ผมขอยกนิ้วให้เลย ท่านสันโดษจริง ๆ ไปไหนมาไหนไม่ต้องประคองทั้งที่มีอายุถึง 93 ปีแล้ว ผมพบท่านครั้งแรกท่านก็ลุกหนีเลย สาเหตุเพราะผมมาผิดเวลา บอกกันก่อนเลยว่าท่านจะรับแขกตั้งแต่ 8 โมงเช้าถึงเที่ยง ขณะรอท่านถ้าเป็นเวลาฉันห้ามชวนคุย เวลาลุกอย่าเข้าไปประคอง เพื่อนผมเคยหวังดีตั้งท่าเข้าไปหา ท่านว่า
    “ไม่ต้องก็ได้มั้ง”
    เพื่อนผมเลยจ๋อยไป ท่านไม่ใคร่ให้ความสนิทใคร ไม่เอาใจใคร เป็นตัวของตัวเองที่สุด
    หลัง เที่ยงท่านจะเข้ากุฏิเงียบ หรือไม่ก็เอนหลังลงแถว ๆ หน้ากุฏิท่าน แต่อย่าเข้าไปคุยเชียวหนา นอกจากท่านจะเป็นฝ่ายทักก่อน หรือรอจนกว่าจะ 4 โมงเย็นอันเป็นเวลารับแขกไปเรื่อยสิ้นสุดที่ 5 โมงเย็น หากพรวดพราดเข้าไปพูดคุยอาจเป็นเหตุให้มี ‘ฟ้าผ่า’ แบบไม่มี ‘เค้าฝน’ ก็เป็นได้ ด้วยท่านถือเรื่อง กาละ และ เทศะ
    ท่าน ชอบทดสอบคนโดยให้เหตุผลว่า ถ้าเขาต้องการพบเราจริง เขาต้องรอได้ แต่เราเองกว่าจะมาถึงทุกวันนี้เราก็ต้องใช้ความอดทน ถ้าแค่นี้ทนไม่ได้จะไปทำอะไร
    บางคน ท่านเดินผ่านหน้าไป-ผ่านหน้ามาถึงครึ่งชั่วโมง ท่านก็ยังไม่ทัก แต่คนนั้นมาบ่อยรู้แกวท่านจึงนั่งเฉย ๆไม่ทักท่านก่อน สักพักท่านก็นั่งลงแล้วเอื้อนเอ่ย “มีธุระอะไรหรือ” แต่ถ้าใครคนนั้นหมดความอดทนถามท่านก่อนที่ท่านจะเป็นฝ่ายถาม การสนทนาวันนั้นเป็นอันจบ
    นี่คือพระที่ไม่ประจบโยม
    ครั้ง หนึ่งที่ท่านอาพาธด้วยโรคเกี่ยวกับหลัง ผมจึงเอาน้ำมันเลียงผาไปถวายท่านกับคุณสุมิทธิ์ ติสโส ขณะที่ท่านนอนตะแคงซ้ายคุยกับผมอยู่นั้น คุณสุมิทธิ์ก็เกิดความสงสารท่านจับใจคิดขึ้นมาว่า “เออหนอ...หลวงปู่ตั้ง 90 กว่ายังต้องมาเจ็บมาทรมาน ถ้าผมแบ่งความเจ็บมาจากหลวงปู่ได้บ้างสักครึ่ง ผมก็จะทำ” เมื่อจบห้วงความคิดนั้น หลวงปู่ก็พูดลอย ๆ ขึ้นว่า
    “ความเจ็บป่วยเป็นของเฉพาะตัว ใครจะมาช่วยแบ่งเบาก็เป็นไปไม่ได้ นอกจากเจ้าของจะช่วยเหลือตัวเอง”
    คน งงคือผม เพราะผมกำลังคุยกับท่านเรื่องถนนไปบางแสน จู่ ๆ ท่านก็ปรารภเรื่องอะไรไม่รู้ งง!! แต่คนที่ปีติคือคุณสุมิทธิ์ เพราะเขาได้ประจักษ์ชัดว่า ท่านเก่งจริง
    หรือใครว่าการรู้ความคิดคนอื่นเป็นของธรรมดา!
    วัตถุมงคลที่เหลืออยู่เป็นรุ่นที่ 5 ในชีวิตท่าน เรียกว่ารุ่น ‘ซ่อมอุโบสถ’ ด้วยแต่เดิมทางวัดหมายใจจะซ่อมโบสถ์ที่ชำรุดทรุดโทรม ทว่า ความโทรมของโบสถ์มีมากเกินกว่าจะซ่อม จึงตัดสินใจเปลี่ยนโบสถ์เก่าเป็นวิหารไปเสีย แล้วสร้างโบสถ์ใหม่เสียเลย รุ่น ‘ซ่อม’ เลยกลายเป็นรุ่น ‘สร้าง’ โดยฉะนี้แล
    ใคร เช่าพระรุ่นนี้โชคดีนัก เพราะพระสร้างมาแต่ปี 2537 เมื่อเข้าพรรษาปี 37 ท่านอธิษฐานพระชุดนี้ให้ตลอด 3 เดือน เมื่อล่วงมาถึงปี 2538 ปรากฏว่าพระจำหน่ายไม่หมด หลวงปู่ก็เอาเข้ากุฏิเสกอีกตลอดพรรษาปี 38
    บัด นี้ล่วงเข้าพรรษาปี 2539 พระเครื่องทั้งหลายจะไม่มีจำหน่ายบนศาลาเลย ใครคิดไปเช่าช่วงนี้ขอให้ล้มคิดนั้นเสีย เพราะพระอยู่ในกุฏิท่านทั้งหมด ท่าน ‘ซ้ำ’ ให้อีก 3 เดือนตลอดพรรษาปี 39
    พิถีพิถันดีไหม? พระกริ่งบุญอุปถัมภ์ รุ่น 2 เนื้อนวโลหะ ปี 2537
    เหรียญรุ่น 3 เนื้อทองเหลือง ปี 2537
    เหรียญรุ่น 5 'ซ่อมอุโบสถ' เนื้อเงินลงยา ปี 2537
    ออกพรรษาปี 39 ค่อยไปเช่าละกัน เสกมาแล้วตั้ง 9 เดือน เรียกว่ายอดที่สุด ผมเช่าจนเกือบไม่มีตังค์กินหนมแล้ว กระซิบก่อนว่า พระกริ่งรุ่น 2, เหรียญเงินลงยา, พระสมเด็จดำ (พิมพ์ปรกโพธิ์) แน่นอนนัก
    อย่า ลืมแวะเวียนไปวัดหนองจระเข้ด้วยนะครับ ที่นั่นเป็นวัดบ้านเกิดของท่าน ท่านอยู่ที่นั่นมาก่อนจะไปอยู่วัดบ้านนา วัตถุมงคลที่นั่นมากมายตาลายเลยแหละ สวย ๆทั้งนั้น ขลังมากด้วย เพราะท่าน ‘เต็มใจ’ ทำมาก ถ้ามีโอกาสจะเขียนให้ทราบอีกทีว่า ‘ขลัง’ อย่างไร...
    ขอความสวัสดีจงมีแก่ทุกท่านครับ
    หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง
    พระครูสุทธิวัตรสุนทร (บุญ สุสฺมโณ) วัดบ้านนา ต.บ้านนา อ.แกลง จ.ระยอง
    พระผู้ถือสันโดษเป็นยิ่ง
    โดย...รณธรรม ธาราพันธุ์
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของระบบความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ นิตยสารศักดิ์สิทธิ์
    และคุณ รณธรรม ธาราพันธุ์
    สมัยก่อน วัตถุมงคลท่านลงให้บูชาในหนังสือพระเครื่อง มีประสพการณ์มาก แม้ ไม่ค่อยได้ ลงประวัติของท่าน
    พระผงรูปเหมือนหลวงปู่บุญวัดบ้านนาออกวัดหนองจรเข้ วัดบ้านเกิดท่าน ชุด ๓ องค์
    (ผมมีเก็บไว้หลายชุด)
    ให้บูชา 170 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ

    IMG_20241221_221014.jpg IMG_20241221_221044.jpg IMG_20241221_221142.jpg IMG_20241221_221108.jpg IMG_20241221_221206.jpg IMG_20241221_221227.jpg IMG_20241221_221258.jpg IMG_20241221_221324.jpg
     
  16. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1734799674751.jpg

    ประวัติ ปาฏิหารย์ หลวงพ่อเฒ่า(ปั้น) วัดค้างคาว จังหวัดชัยนาท
    (พ่อเฒ่าปั้น) ตามประวัติ ท่านเกิดในสมัยกรุงศรีอยุธยา เป็นนักรบในกองทัพที่เคียงข้าง (สมเด็จพระเจ้าตากสิน) เมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชตัดสินใจ ที่จะแหวกวงล้อม ทหารพม่าที่ล้อมกรุงศรีอยุธยา เพื่อไปตั้งหลักและเตรียมทัพที่จะกู้ชาติ
    พ่อเฒ่าปั้นเป็นหนึ่งในจำนวนทหารสองร้อยกว่าคน ที่ร่วมแหวกวงล้อม โดยพ่อเฒ่าปั้นเป็นนักรบที่มีความเชี่ยวชาญ ในด้านการรบและการไสยเวทย์เป็นอย่างยิ่ง เพราะท่านได้เรียนวิชาคาถาอาคม มาจากสำนักใดสำนักหนึ่งในอยุธยา จนมีความเชี่ยวชาญ ทั้งการรบและการวางแผน อีกทั้งพระเวทย์ที่เข้มขลัง
    เมื่อท่านมาร่วมทัพกับ (สมเด็จพระเจ้าตากสิน) ท่านจึงเป็นคล้ายๆกับ ฝ่ายวางแผนพิชัยสงคราม และไสยเวท์ทั้งปวง จนกระทั่ง สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สามารถกู้ชาติได้สำเร็จ ท่านก็ได้ติดตามมามาอยู่กับสมเด็จพระเจ้าตากสินอีกพักหนึ่ง หลังจากนั้นเมื่อมีการก่อกบฏ ในท้ายรัชสมัยพระเจ้าตากสินมหาราช ท่านก็ต้องหนี เพราะท่านคือบุคคลสำคัญที่ยืนหยัดเคียงข้างพระเจ้าตากสินมาตลอด
    ท่านก็มาอุปสมบท เป็นพระภิกษุกับเพื่อนอีกท่านหนึ่งที่มาด้วยกัน ถามว่าทำไมต้องหนีมา เพราะหนึ่ง ไม่ต้องการที่จะเป็น ข้าสองเจ้า บ่าวสองนาย สองท่านเริ่มจะเบื่อหน่ายในสมบัติ ลาภยศสรรญเสริญ สามราชภัยอาจจะมาถึงตัว เพราะทุกคนรู้ว่าท่านเป็นหนึ่ง ในผู้ที่ทรงวิทยาคมและมีฝีมือในการวางยุทธศาตร์ที่สำคัญ ของพระเจ้าตากสิน ดังนั้นการออกเดินบนเส้นทางของผู้ที่แสวงหาสัจจธรรม จึงสมบูรณ์ที่สุด และได้ใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพื่ออุทิศบุญกุศล ให้กับเหล่าทหารสายเลือดไทย ที่ต้องเสียชีวิต (จากการอยากเป็นใหญ่ของเจ้าเมือง ผู้ครองนคร ผู้ไม่ถึงบุญ และบารมีของตัวเอง ตั้งตัวเป็นใหญ่กันมากมายตอนอยุธยาเสียเมือง) รวมถึงทหารพม่า ที่ต้องสูญเสียชีวิต
    (พ่อเฒ่าปั้น) ท่านจึงออกบวชและศึกษาพระคัมภีร์ จนจบกระบวนความ จากนั้นท่านก็เดินธุดงค์ไปเรื่อยๆ ค่ำไหนนอนนั้นจนกระทั้งมาถึงลำน้ำ แม่น้ำน้อย กระทั้งเป็นตำนานของ (หลวงพ่อเฒ่าปั้น) แห่งวัดค้างคาว ที่ลือลั่นมาจนถึงปัจจุปัน
    ประวัติหลวง (พ่อเฒ่าปั้น) วัดค้างคาว ซึ่งถ่ายทอดมาจาก (พระอาจารย์จิ๊) วัดค้างคาว ว่าคนเก่าๆเล่าสืบทอดกันมา ว่าท่านเป็นชาวบางปลาสร้อย จ.ชลบุรี เกิดในสมัยอยุธยา เคยเป็นทหารของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ภายหลังสงคราม ได้บวชเรียน ที่ จ.อยุธยา แล้วเดินรุกขมูลไปเรื่อยๆกับสหธรรมิก อีกหนึ่งรูปชื่อ (หลวงพ่อแป้น) รูปร่างขาวสูง ส่วนตัว (หลวงพ่อปั้น) นั้นรูปร่างล่ำแบบมะขามข้อเดียวผิวคล้ำ โดยร่วมกันบูรณะวัดวาอารามไปทั่ว และเมื่อตอนที่ท่านมาถึง บริเวนแม่น้ำน้อยที่สร้างวัด ก็ได้อธิษฐาน ด้วยการโยนผ้าอาบไป กระทั่งผ้าอาบปลิวตามลม มาตกในบริเวนดังกล่าว ซึ่งเป็นวัดร้างมาก่อน "หลวงพ่อเฒ่าปั้น" จึงเริ่มรวบรวมศรัทธาบูรณะวัดค้างคาวขึ้น ส่วนหลวงพ่อแป้นก็ล่องเรือต่อไป ทางทิศเหนือแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย
    ตอนที่พ่อเฒ่าปั้นท่านล่องเรือมา ท่านมีลิงตัวผู้มาด้วย ๑ ตัวชื่อ เจ้าหอย ต่อมาคงได้แพร่พันธุ์กับลิงป่าแถววัด จนกลายเป็นฝูงลิงของหลวงพ่อเฒ่า ที่ไม่มีใคร กล้าทำอันตราย จวบจนกระทั่งปัจจุบัน (หลวงพ่อสวัสดิ์) อดีตเจ้าอาวาส ท่านก็รักลิงเหล่านี้มาก และเมื่อไม่นานมานี้เจ้าลิงก็ทำแสบ แอบขโมยใบลานเทศน์ ที่มีลายมือชื่อของ (หลวงพ่อเฒ่าปั้น) ไปเล่นฉีกขาดหลุดหายไป ทำให้ขาดหลักฐาน ทางประวัติศาสตร์ไปอีกชิ้น
    นอกจากพ่อเฒ่าปั้นจะเลี้ยงลิงแล้ว ท่านยังมีช้างอีกสามเชือกช้าง ๓ เชือกนี้ ชื่อ บุตร ทรัพย์ และ กระสอบ เป็นช้างแสนรู้ มีความกตัญญูสูง นอกจากจะช่วยชักลากไม้ และเป็นพาหนะในการเดินทางให้หลวงพ่อเฒ่าแล้ว ทั้งสามยังได้ช่วยกันไปหาฟืน นำมาให้หลวงพ่อเฒ่าและพระในวัดใช้ โดยมิต้องสั่งหรือบังคับแต่อย่างใด โดยภายหลังได้มอบให้ลูกศิษย์เอกคือ (หลวงพ่อสงฆ์) วัดสว่างอารมณ์ ไปหนึ่งเชือกคือ พังกระสอบ หลวงพ่อสงฆ์นี้เป็นพระอาจารย์ของ (หลวงปู่เมฆ) วัดท่าอิฐ หลวงปู่เมฆ วัดท่าอิฐนี้เป็นพระอาจารย์ของ (หลวงปู่เชิญ) ท่าน (พระอาจารย์จิ๊) ยืนยันว่า แต่ก่อนท่านเคยเห็นที่วัดมีตำราคาถาอาคม ของหลวงพ่อเฒ่า ที่คัดโดยหลวงพ่อสงฆ์ แล้วเขียนระบุไว้เลยว่าหลวงพ่อสงฆ์ท่านเป็นคนคัด แต่ปัจจุบันหายไปบ้างลางเลือนไปบ้าง
    "พ่อเฒ่าปั้น" เป็นพระภิกษุ ที่คนพื้นที่ให้ความเคารพ และเกรงกลัวท่านเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากท่านเป็นพระที่มีอาคมขลัง เป็นพระที่มากด้วยบารมี ท่านเป็นบูรพาจารย์ ของหลวงพ่อหลวงปู่ในยุคปัจจุบันนี้มากมาย แต่ไม่เป็นที่รู้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะท่านต้องการเช่นนั้น แต่มิได้หมายความว่า ความขลัง หรือความศักดิ์สิทธิ์ของท่านจะหายไปกับกาลเวลา ในทางตรงข้ามยิ่งนานวัน ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านกลับเปี่ยมล้นมากมาย
    อดีตเล่ากันว่า มีคนไปเดินสนามพระ ไปเจอ (เหรียญพ่อเฒ่าปั้น) คนนั้นยังไม่รู้จัก แต่รับมาด้วย หลังจากนั้น มีกลุ่มผู้นิยมพระแต่ไม่นิยมบูชา นิยมลองของกัน ได้จัดเตรียมยิงปืนใส่พระ โดยมีกลุ่มเดียวกันมารวมกัน และเอาทั้งพระทั้งตระกรุด ทั้งเครื่องรางของขลังของครูบาอาจารย์ ที่ว่าแน่ๆแห่งยุค มายิงปืนใส่ ผลปรากฏตามความคาดหมาย เหรียญพระเครื่องรางของขลัง กระจุยกระจายไม่มีชิ้นดี โดยเฉพาะพระเกจิที่ไม่ถึงขั้น แต่โด่งดังขึ้นมาด้วยแรงเชียร์ แต่แทบไม่น่าเชื่อ มีอยู่เหรียญหนึ่งที่ยิงเท่าไรก็ไม่ออก เหรียญนั้นคือเหรียญที่ชายคนนั้นได้มาจากสนามพระ เพราะพ่อค้าพระแถมมาด้วยนั้นเอง เขาจึงต้องถามหาว่าเหรียญใคร ท่านอยู่ไหน แต่ไม่มีใครรู้จัก จนเด็กชัยนาทซึ่งเป็นศิษย์หลวงพ่อกวย เข้าไปพบเข้าจึงตอบว่า เป็น "เหรียญหลวงพ่อเฒ่าปั้นแห่งวัดค้างคาว) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คนที่ทราบข่าวก็ตามเก็บกันทุกสนาม อย่างมั่นใจ เพราะไม่มีปลอม
    ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านอีกประการหนึ่งคือเหรียญหรือพระของท่านไม่มีใครกล้าปลอม เพราะมีเรื่องเล่ากันว่า แต่เดิมมีคนแถวๆภาคกลางไปปลอมเหรียญท่าน แล้วตายอย่างน่าเกลียดที่สุด จากนั้นก็มีอีก คนทำก็ตายอีก เหรียญท่านเลยยังไม่มีปลอม แต่ในวันนี้ ไม่แน่เหมือนกัน และคาดว่าผู้ทำคงประสบชะตากรรมไปแล้ว ไม่ใช่ท่านทำให้ตาย แต่อาจเป็นเพราะกรรมของผู้นั้นที่ไปเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บรรดาบริวารของท่าน เลยเล่นงานเอา
    *ที่มา:พระเกจิ แดนสยาม
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ

    ให้บูชา 170 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
    IMG_20241221_014724.jpg IMG_20241221_014749.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2024 at 00:24
  17. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    FB_IMG_1734803893630.jpg
    พระอรหันต์ผู้เข้านิโรธสมาบัติได้
    ครั้งหนึ่งได้มีโอกาศเข้ากราบนมัสการ หลวงปู่เจียง วัดเนินหย่อง จ.ระยอง
    เมื่อถวายสังฆทานทำบุญกับท่านในช่วงที่ท่านว่างๆจากญาติโยม
    อ.วิกรานต์ ได้กราบเรียนถามปัญหาท่านว่า
    เวลาพระที่ธุดงค์อยู่ในป่าแล้วถ้าเกิดเหตุจวนตัวมีไฟไหม้ป่าแล้วถ้าหาทางออกไม่ได้พระธุดงค์เหล่านั้นต้องทำอย่างไรครับ?
    ท่านตอบว่า
    ถวายเป็นชีวิตเป็นพุทธบูชาอย่าอาลัยในชีวิต
    ถ้าตัดใจได้ คนเราถ้าไม่ถึงคราวตาย บุญจะช่วย เทวดาจะช่วยเอง ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่เป็นอะไรมีโอกาศรอด
    แต่ถ้าเป็นพระอรหันต์บางองค์ท่านก็อธิษฐานเข้า นิโรธสมาบัติ อย่างนี้ก็รอดเหมือนกันแล้วท่านก็หัวเราะอย่างอารมณ์ดี
    อ.วิกรานต์ จึงเรียนถามต่อว่า
    ถ้าเข้านิโรธสมาบัติแล้วจะร้อนไหมครับ? จีวรไหม้ไฟไหมครับ?
    ถ้าเข้า นิโรธสมาบัติ แล้วนี่มันดับหมดไม่ร้อนไม่รู้สึก
    แต่จีวรนี้ศาลาที่อาศัยนี้ถ้าไม่อธิษฐานไว้ก็เอาเรื่องอยู่นะแต่ตัวไม่เป็นไร
    เมื่อได้รับคำตอบดังนั้นจึงกราบเรียนถามท่านว่าแล้วผมเคยได้ยินมีคนเล่ามาว่า
    หลวงปู่ไปงานเททองแล้วงานนั้นมีอุบัติเหตุ
    ตอนนั้นหลวงปู่ทำอย่างไร?
    ท่านยิ้มๆแล้วท่านก็บอกว่า เรื่องอย่างนี้เป็นเรื่องปัจจัตตัง ของใครของเขานะ เรื่องนี้อย่าพูดเลยเดี๊ยวจะพาคนเป็นบาปกันไปปล่าวๆแล้วท่านก็หัวเราะ
    เลยไม่ได้รับคำตอบจากท่าน
    แต่ผมห็ยังเชื่อว่า
    ท่านคงเข้านิโรธสมาบัติแน่ๆครับและคิดว่าท่านต้องมีญาณทัศนะหยั่งรู้เรื่องในอนาคตว่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้น
    ท่านจึงนั่งเข้าสมาธิชั้นลึกขนาดนี้
    แล้วท่านหันมาถาม อ.วิกรานต์ ว่าแล้วนี่ภาวนาอย่างไง?
    อ.วิกรานต์ กราบเรียนท่านว่า
    ภาวนาไปเรื่อยๆครับ พุทโธบ้าง นำมอออนี้ถ่อฮุกบ้าง สัมมาอะระหังบ้าง คาถาบ้าง กำหนดรู้บ้างประมาณนี้ครับ
    ท่านว่า ดีๆ ภาวนาอะไรก็ได้ขอให้สงบ
    เมื่อเห็นท่านอารมณ์ดีมีเมตตา
    จึงได้โอกาศอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ
    พระอมิตาภะพุทธเจ้า ให้ท่านชมพิจารณา
    ท่านจับขึ้นมาพนมมือแล้วกล่าวว่า
    ของพระ(พุทธเจ้า)โบราณ
    ภาวนาถึงพระองค์ท่านนี้ดีมากนะ
    แล้วท่านถามว่า
    ภาษาจีนเขาภาวนาว่าอะไร?
    จึงกราบเรียนท่านว่า
    นำมออนี้ถ่อฮุก
    ท่านพยักหน้ายิ้มๆ
    ต่อมาภายหลังจู่ๆก็ท่านถามอีกครั้งกับ คุณซัน ว่าภาวนาว่าอะไรนะ?
    ท่านคงลืมเพราะเป็นภาษาจีนซึ่งท่านคงไม่คุ้นกับภาษานี้
    เมื่อ คุณซัน กราบเรียนถวายท่านอีกครั้ง
    ท่านจึงจดไว้แล้วเมตตาท่องภาวนาให้คณะเราได้มีโอกาศฟังจากท่านอีกครา
    นับเป็นบุญแท้ๆในความเมตตาอย่างสูงสุดที่พระเถระผู้เฒ่ามีให้ต่อคณะกลุ่มชมรมสู่ร่มโพธิญาณ
    สิ่งหนึ่งที่แสดงให้ประจักษ์ใจคือ ท่านเปิดกว้างต่อทัศนะคติและความเชื่อต่างๆแม้จะต่างนิกายท่านก็ยอมรับ
    ถ้าหากสิ่งนั้นเป็นสิ่งดีๆครับ
    ขอน้อมกราบแทบเท้า หลวงปู่เจียง ด้วยเศียรเกล้า
    ขอขอบคุณท่านเจ้าของบทความข้อมูลที่มาอย่างสูงครับ
    ปัจจุบันหลวงปู่เจียง มรณภาพแล้ว อายุ ๙๖ ปี
    พระปิดตาหลวงปู่เจียง วัดเนินหย่อง ปี๒๕๔๔ พิธีใหญ่
    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ
    IMG_20241222_010717.jpg IMG_20241222_010759.jpg
     
  18. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
  19. Jumbo A

    Jumbo A เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    12,783
    ค่าพลัง:
    +21,343
    พระผงพิมพ์ชนะมาร เนื้อมวลสารอริยะธาตุกว่า ๑,๐๐๐ ชนิด ฝังพระธาตุสมเด็จพระพุทธกัสสป...โดยกองทุนหลวงปู่ปานฯ
    รายละเอียด พระผงพิมพ์ชนะมาร เนื้อมวลสารอริยะธาตุกว่า ๑,๐๐๐ ชนิด ฝังพระธาตุสมเด็จพระพุทธกัสสป(ทรายคำศรีจอมทอง)
    กองทุนหลวงปู่ปานฯ ได้จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นพุทธบูชา และบูชาคุณพระรัตนตรัยและคุณครูบาอาจารย์ เนื่องในงานเททองหล่อรูปเหมือนอริยะและอริยะเถรี เพื่อตอบแทนบุญท่านผู้ร่วมหล่อรูปเหมือนดังกล่าว และสมทบบุญโครงการบุญต่าง ๆ ของกองทุนหลวงปู่ปาน โสนันโทฯ
    ด้านหน้าเป็นรูปองค์พระพุทธนั่งปางชนะมารใต้ร่มพระศรีมหาโพธิ์ ใต้บัลลังก์มีรูปพระนางธรณีบีบมวยผม ตอนเป็นพยานบุญให้พุทธองค์มีชัยเหนือพญามาร โดยรูปทั้งหมดอยู่ภายใต้กรอบสี่เหลี่ยมทรงสมเด็จ
    ด้านหลังได้นำพระยันต์ยอดพระไตรปิฏกอันศักดิ์สิทธิ์ประทับไว้ด้านหลัง ภายใต้พระยันต์มีคำว่า "กองทุนหลวงปู่ปานฯ"
    เนื้อพระเป็นมวลสารล้วน ๆ ครับ จะมีผสมทรายกับปูนเพียงนิดหน่อยเท่านั้น
    ให้บูชา 300 บาทค่าจัดส่งด่วน 30 บาทครับ(ปิดรายการ)
    get_auc1_img (21).jpeg IMG_20241222_113734.jpg IMG_20241222_113707.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ธันวาคม 2024 at 15:56
  20. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,983
    ค่าพลัง:
    +6,890
    -ขอจองครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...