รวบรวมรายชื่อสถานที่หลบภัยในช่วงภัยพิบัติ

***********
นิมิต...เป็นจริง
***********

ฝัน นิมิต คือ สรุป
เหตุการณ์ในนิมิตกำลังเป็นจริง
รายละเอียดกำลังมา กำลังปรากฏขึ้นเรื่อย

ประเทศไทย คนไทยทุกคนจะลำบากมาก
เกิดการเปลี่ยนแปลง....ใหญ่หลวง

โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต

รีบค้นหา
"สัจจะ"
"โลกุตตระ"
เป็นหนทางเบี่ยงเบนกรรมที่กำลังทะยอยเข้ามา

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

-*- ไม่ได้กวนน่ะครับ แต่ผม ตีความเรื่องราวที่ คุณหนุมาน โพสมาแต่ล่ะเรื่องได้ไม่ค่อยกระจ่างเท่าไหร่ โอกาสต่อๆไปรบกวน ขอให้โพสแบบชี้ชัดฟันธง อีกสักน่อยน่ะครับ เอาแบบไม่ต้องแปลไม่ต้องตีความน่ะครับ ภูมิธรรมผมยังน้อย
ปล. นำสารมาแล้วส่งให้ถึงน่ะครับ อย่าให้ การสื่อสารล้มเหลว

 

สำหรับเรื่องภัยพิบัตินี้ ที่เมืองนอกเค้าก็เชื่อกันและมีการเตรียมการ กันเงียบๆ ที่หลบภัยที่ผมได้มีโอกาสไปดูมาที่สิงคโปร์นั้นเค้าจะใช้ ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินทั้งหมดของเขา ซึ่งเชื่อมต่อกับชั้นใต้ดิน ลึก 2-3 ชั้นของทุกห้างย่านออร์ชาต เอาอาหารใน ซูเปอร์เป็นเสบียง รองรับคนได้ หลายหมื่นจนถึงแสนคน สำหรับที่พักอย่างเดียวนะครับ ส่วนหัวจริงๆ เค้าทำเป็นประตูห้องนิรภัยขนาดใหญ่ ความแข็งแรงน่าจะป้องกันการทิ้งระเบิด และหลบ นิวเคลียร์ได้บ้าง ตั้งอยู่บริเวณ เอสปาเนด ฮอลล์ หรือตึกทุเรียนครับ ส่วน ถ้าเจอน้ำท่วมใหญ่ ละก้อ ไม่จืดครับ บังเอิญไปเห็นมาครับ เลยเก็บมาเล่าให้ฟัง

 

หลบในสวรรค์ รอดชัวว์..

 

บ้านเราภูเขาเยอะสูงกว่าเกาะหลายเกาะคงรอดเยอะ

 

กระบวนการเปิดเหมืองเริ่มแล้ว!!!

ตอนนี้ขอบอกว่ากระบวนการเปิดเหมืองของพระศรีอาริย์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วครับ จากตำนานและจากที่ครูบาอาจารย์ได้บอกว่าเหมองของพระศรีอาริย์จะปรากฏที่ภาคเหนือของไทยนั้น ตอนนี้ขอให้สังเกตดูปรากฏการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นที่ภาคเหนือครับ มีน้ำท่วมเกิดขึ้นบนดอยที่ผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่าตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยเห็น ก็เพราะว่าจะทำให้เกิดการพังทลายของหน้าดินและจะเปิดเผยให้เห็นเหมืองทองคำที่ซ่อนอยู่ยังงัยครับ และตอนนี้ผูที่เป็นใหญ่ในบ้านเมืองก็คงรู้แล้ว เพราะเมื่อวานมีข่าวว่าชาวบ้านแถวจังหวัดทางภาคเหนือได้พบเห็นขบวนรถถังและรถหุ้มเกราะของกองทัพมากกว่า 30 คันเคลื่อนที่ไปไหนไม่ทราบ!!!

 

จริงเหรอเนี้ย

 

เมื่อสักครู่ก็เพิ่งมีข่าว การค้นพบ"แร่ทองคำ" จำนวนมากแถวรอยต่อ จังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์ เพิ่มขึ้นใหม่อีกที่ด้วยครับ กำลังเตรียมเปิดเหมืองใหม่
ตรงกับที่เบื้องบนบอกเคยว่า แถบเพชรบูรณ์นี้ ภายหลังจะมีการค้นพบทองคำที่อยู่ใต้ภูเขาจำนวนมหาศาลทีเดียวครับ

ถ้าจะกู้ชาติได้จริงๆก็ทองคำนี่ล่ะครับ..แต่ถ้ามีคนโลภเข้ามาคงจะยุ่งเกี่ยว อาจเกิดการแย่งชิงตามที่อ่านจากข้อมูลคุณเกษมก็เป็นได้ครับ..แต่อย่าให้ถึงขั้นนั้นเลยครับ

ขอให้มีสิ่งดีๆเกิดขึ้นในประเทศไทยมากๆ (สายแร่ สายน้ำมัน ผู้มีอภิญญาทั้งหลาย)..และเป็นดินแดนแห่ง"สุวรรณภูมิ"สมชื่อครับ..สาธุ

 

ขอเล่าความฝันของผมให้ฟังเล่นๆครับ เล่นฝันติดๆกัน สามรอบสามวันเลย ผมเลยคิดว่าต้องมีเหตุไม่ธรรมดาแน่ๆ เลยมาเล่าสู่กันฟังครับ

-วันแรกฝันว่ากำลังเดินเที่ยวอยู่แถวท่าน้ำใกล้ๆบ้านครับ อยู่ๆ ก็เกิดสึนามิขึ้น ในฝัน รู้สึกว่าตอนน้ำมาเรากำลังอยู่ ที่ตึกจอดรถ ประมาณชั้นสอง ชั้นสาม แต่พอน้ำมา เราดันวิ่งลงมาจากตึกจอดรถมายังชั้นล่างเพราะพยายามจะกลับบ้าน ผลคือน้ำมาพอดี เราก็รีบกระโดดไปกอดเสาตึกเอาไว้ น้ำก็พัดใส่ร่าง ก็พอดีตกใจตื่นครับ

--วันต่อมา (ฝันไม่ติดวันกัน ประมาณวันเว้นวัน) ฝันอีกว่ากำลังอยู่บนตึกสูงหลังหนึ่ง เป็นเหมือนตึกที่อยู่อาศัย ชั้นที่ยืนอยู่ ประมาณ ชั้นที่สิบ เราก็มองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นท้องฟ้า เป็นพายุสีดำมืดมิด เห็นลมหอบเอาบ้านปลิวเป็นหลังๆ ลอยขึ้นบนท้องฟ้า และลมพายุที่ม้วนตัวรุนแรง ก็เคลื่อนตัวมาทางตึกที่เรายืนอยู่ เราก็ยืนมองอยู่จนกระทั่งเริ่มคิดในใจว่ามันมาถึงเราแน่ๆ ก็เริ่มมองหาที่ปลอดภัยในตึกว่าจะไปที่ไหนดี ห้องอื่นๆก็ปิดหมด จุดที่เรายืนก็อยู่ใกล้ช่องทางบันได ซึ่งมีกระจกเต็มไปหมด เราก็คิดในใจว่า ถ้าพายุมา กระจกต้องแตกและปลิวกระจายมาบาดตัวเราแน่ๆ คิดได้ดังนี้ก็ตกใจตื่นครับ

--ส่วนเมื่อวันก่อนฝันยิ่งสมจริงเข้าไปอีก ฝันว่า ผมกับน้องชาย กำลังเดินเที่ยวอยู่ที่ ภูเก็ต ริมชายหาดเลยในใจบอกว่าเป็นหาดกะตะ ใกล้ๆกับโรงแรม อะไรซะอย่าง ในฝัน ฝันว่าพ่อโทรศัพท์มาหาบอกว่า ให้มาหาพ่อหน่อยที่สะพาน แต่เสียงพ่อในโทรศัพท์เหมือนกับเสียงหลวงพ่อ ฤาษีครับ ผมกับน้องก็เลยเดินเพื่อจะไปหาพ่อ และมีพนักงานโรงแรมมาบอกให้เดินเลียบชายหาดไป ทางน้องผมก็ดุเขาว่าจะเดินอ้อมทำไมมันไกล ให้เดินตัดในโรงแรมดีกว่า เราก็เลยเดินตัดในโรงแรม ระหว่างที่กำลังเดิน ผมก็เห็นน้ำทะเลไหลกลับสูบเอาคนที่เล่นน้ำอยู่ในทะเล กลืนลงทะเลไปหมด ผมก็เลยตะโกนบอก พนักงานโรงแรมว่า เกิดสึนามิแล้ว และในใจก็คิดว่า ลูกนี้ใหญ่กว่าคลื่นครั้งที่แล้วแน่นอน และก็ออกวิ่ง พอมองไปว่าจะไปหลบที่ไหนดี ก็พบว่า โรงแรมที่เรากำลังเดินผ่านสูงแค่ 4 ชั้น ในใจคิดว่าไม่พอแน่นอน เลยรีบมองหา ตึกที่สูงกว่านี้ ก็พอดีมองเห็น อีกโรงแรมหนึ่งสูงประมาณ สิบชั้น แต่มีทางน้ำขวางอยู่ ก็ตัดสินใจเอามือถือมาคาบไว้ในปาก ส่วนในใจ เราก็คิดว่าโชคดีนะที่เราฝึกฝนร่างกายมา มีความแข็งแรงทางกายภาพดี และคิดไปอีกว่า ส่วนคุณพ่อเราน่าจะเป็นอันตราย เพราะอยู่ในที่โล่ง และไกลออกไปเราไปช่วยไม่ได้ ส่วนตัวเราต้องมีชีวิตรอดต่อไปให้ได้เพื่อภาระกิจอื่นต่อไป จากนั้นก็ว่ายน้ำไปจนถึงตึกที่หมายตาจากนั้นก็เริ่มวิ่งขึ้นตึก พอถึง ชั้น 2-3 ก็รู้สึกว่าน้ำมา ก็พอดีตกใจตื่น แต่รอบนี้สมจริงมากมีเหนื่อยจริงๆด้วยเลยมานั่งคิดว่าเราคงต้องไปแข่งวิ่งขึ้นตึกแล้ว ยังไม่แกร่งจริงนี่นา จากนั้นก็มานั่งคิดว่าทำไมมันฝันแต่เรื่องแบบนี้ทั้งนั้นเลยเรา

อย่ากระนั้นเลย ขึ้นไปถามพระท่านดีกว่า ผลปรากฏว่า ที่ฝันๆนั้น เป็นการฝึกพิเศษ ประเภท SIM (simulated) ครับ พระท่านให้ลองดูว่าในสถานะการณ์เหล่านั้นเราจะรับมือได้หรือไม่ ผลก็คือ ตายเกลี้ยงครับ พอประมวลผลดู วันแรกตายเพราะโง่ จะวิ่งกลับบ้านครับ ซึ่งที่ถูกคือควรวิ่งสูงขึ้นไปครับ
วันที่สอง ก็ไม่รอดเพราะมัวแต่ยืนดูเพราะไม่เคยเห็นพายุ แทนที่เมื่อเห็นว่าพายุหอบบ้านเป็นหลังๆลอยขึ้นมาก็ควรรีบหาที่ปลอดภัยไว้หลบได้แล้ว ส่วนวันที่สามนั้น ก็คงไม่รอดเช่นกันเพราะ วิ่งขึ้นตึกช้าไปครับ ไอ้ที่ตกใจตื่นน่ะ เกมโอเวอร์ครับ
สรุปรวมแล้ว
1.เราต้องมีข้อมูลในการจัดการกับสถานการณ์ที่เกิดภัยพิบัติให้แม่นยำกว่านี้
2.เราต้องฝึกฝนร่างกายให้แข็งแกร่งกว่านี้ อีกมากๆครับ ฝึกจิตอย่างเดียวยังไม่พอแน่นอนครับ
3. เราต้องมีแผนรองรับและสถานที่หลบภัยที่มั่นใจได้แน่นอนครับ
4.เราต้องเตรียมใจไว้เสมอในกรณีที่เราไม่รอดครับ ต้องมีมรณานุสติไว้ครับ ในฝันผมล่อไปสามแล้วครับ ไม่ควรประมาท

ก็คิดว่าผมเล่าความฝันให้ฟังสนุกๆนะครับ ถ้าคิดว่ามีสาระแฝงอยู่ก็ลองพิจารณาดูว่าจะประยุกต์ใช้อย่างไรบ้าง แต่ความรู้สึกลึกๆมันบอกว่า สึนามิลูกใหม่กำลังมาและอาจจะรุนแรงกว่าเดิมด้วยครับ

 

ที่จริง ณ เวลานี้ภัยพิบัติก็กำลังเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาทั่วโลก แต่เราจะรู้สึกว่ามันเกิดขึ้นจริงๆ ก็ต่อเมื่อเราได้ประสบกับมันด้วยตัวของเราเองนั้นล่ะ ดังนั้นอย่าประมาทและเตรียมพร้อมไว้เสมอครับ เพราะเราไม่รู้ว่า เราจะเจอกับมันเมื่อไร

 

เหตุการณ์นี้แบบนี้ถ้าเป็นของจริง อาจตัดสินใจได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นนะครับ ถือเป็นการซ้อมใหญ่แบบเสมือนจริงตั้งสามครั้ง (simulated)
เรายังสามารถเรียนรู้ได้จากคนอื่นๆ จากข่าว และประสบการณ์จริงของคนอื่นๆเหมือนมีครูสอนให้ดูตลอดเวลา บางทีความอยากรู้อยากเห็นและความสงสัยของคนเราก็นำภัยมาสู่ตัวได้เหมือนกันนะครับ เช่นตอนน้ำทะเลลดลง ก็เดินไปหาเก็บปลา เก็บเปลือกหอย พอคลื่นมาก็วิ่งหนีกันไม่ทันแล้ว

เคยฝันเหมือนคุณ kananun เหมือนกันครับ ประมาณว่าอยู่บนห้องกระจกชั้นสองกับเพื่อนๆ แล้วเห็นยอดคลื่นสูงๆจากในทะเลรี่เข้ามา ก็วิ่งลงมาไปที่จอดรถด้านหลังตึกครับ แต่ไม่ทันถึงคลื่นก็มาถึงตัวเร็วมากๆ Game Over! คิดแว่บแรกว่า ไม่น่าลงมาเลยเรา..

 

*******
แม่น้ำโขง
*******

ภาคเหนือ...แม่น้ำโขง จะสร้างอันตรายและภัยพิบัติ
ถ้ามีฝนตกหนักทางตะวันตกของจีน
แม่น้ำที่จะรองรับน้ำได้ ๑ ในนั้นคือ แม่น้ำโขง
น้ำปริมาณมากจะไหลลงมาตามลำน้ำโขง

บริเวณเหนือสุดที่ติดกับแม่โขงบริเวณเชียงแสน เชียงของ
จะมีน้ำทะลักเข้าแผ่นดินไทย เกิดน้ำวนขนาดใหญ่...
ดิน หิน ภูเขาจะหลุดทะลายไปตามกระแสน้ำ
ทุกสิ่งทุกอย่างจะถูกขุดรากถอนโคนไปตามกระแสน้ำ
น้ำจะไหลผ่านจังหวัดต่างๆ ตั้งแต่เหนือ จนถึงอ่าวไทย
จังหวัดที่น่าจะเสี่ยงและควรหาทางเตรียมหนีขึ้นเขาสูง
เชียงราย เชียงใหม่ ลำพูน พะเยา แพร่ ลำปาง ตาก กำแพงเพชร
และจังหวัดที่อยู่ใต้จนลงมาถึง กรุงเทพฯ

ขอให้ประชาชนหมั่นติดตามฟังข่าว....
หากฝนตกหนักมากทางตะวันตกของจีน
ระดับแม่น้ำโขงสูงขึ้นเร็ว
ต้องรีบเตรียมอพยพ หัดอ่านแผนที่หาที่หนีภัยใกล้ตัว...ไว้ล่วงหน้า
เพราะเหตุการณ์นี้....จะรุนแรงมหันต์
จำเป็นต้องช่วยตัวเองให้ได้ก่อน

พระไตรปิฎก...ได้ส่งมอบ "สัจจะ"
เป็นหนทางปฏิบัติของมนุษย์แล้ว
อยู่ที่จะ "เชื่อ" หรือ "ไม่เชื่อ"

ศึกษาใน.......
กระทู้ "หนทางรอดสุดท้าย สัจจะ---กับ---โลกุตตระ"

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

รับทราบ...

 

จงระวัง ภัยอันตรายใกล้มากแล้ว
แม้แต่คนดีมีศีลธรรมยังต้องลำบาก
รักษาตนเองก่อน ส่วนคนอื่นๆแล้วแต่ผลบุญของเขา
(ยกเว้นผู้ที่มีหน้าที่โดยตรงที่รับอาสามาช่วยเหลือจากเบื้องบน)
(ส่วนผู้ที่มีหน้าที่ฟื้นฟูก็คงเริ่มๆรู้ตัวกันตามวาระแล้ว)

 

***************
จะหาใครช่วยได้อีก ?
***************

เวลานี้...จะหวังพึ่ง
ผู้มีบารมีเก่า....ไม่เหลือใครแล้ว
ข้าพระพุทธเจ้า.......จึงต้องทำ
ทุกวันนี้...ทุกคนต้งพึ่งตนเอง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

***********************
สัจจะ...ที่จะช่วยฟื้นฟูพุทธศาสนา
***********************

พระพุทธเจ้า....
กล่าวว่า "การซื้อขายพระ ... เป็นการทำลายศาสนา"

ดังนั้น
ผู้ที่ยังเกี่ยวข้องและสนับสนุนการซื้อ การขายพระ
ทั้งที่เจตนา หรือ ไม่เจตนา
ทั้งที่ทำเอง หรือ เป็นการสนับสนุน
จึงกลายเป็นบาปติดตัวไป....อย่างไม่รู้ตัว

แต่บางคนรู้ ก็ยังทำ
เพราะมักจะมองเฉพาะบุญที่จะได้
ไม่ได้มองต่อๆไป มองมุมกว้างว่า
เป็นการกระทำที่ทำลายศาสนา
เป็นการทำบาป !!!

หาก...ท่านเคยทำ หรือ กำลังทำอยู่ !!!
ก็ให้รีบขอขมาต่อองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ในสิ่งที่ผิดพลาดไป

และ ขอถวาย "สัจจะ" ต่อ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่า
"ไม่ซื้อ ไม่ขาย ไม่สนับสนุนการซื้อขายพระ...ตลอดชีวิต"
และ
ขอพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
โปรดนำส่วนกุศลทั้งหมดนี้แผ่รอบคอบจักรวาล....

ท่านจะเป็นผู้หนึ่งที่ช่วยฟื้นฟูศาสนาพุทธ
ที่กำลังเข้าสู่ยุคพระศรีอาร....

หากท่านทำได้จริง
ชีวิตท่านจะถูกจัดสรรไปในทางที่ดี
รอดพ้นจากภัยพิบัติกึ่งพระพุทธกาลทั้งปวง

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*******
สิ่งสำคัญ
*******

เฮลิคอปเตอร์....ทั้งลำเล็ก ลำใฆญ่
และ เรือเล็ก เรือใหญ่
จะมีความสำคัญอย่างมาก

พยายาม...เตรียมความพร้อม
พยายาม....พึ่งตนเองให้ได้ก่อน

แต่...อย่าลืม "สัจจะ"

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ทำไมเราต้องหนีความตาย
ทั้งๆที่เรารู้ดีว่าอย่างไรก็หนีไม่พ้น

 

********
ใกล้ถึงแล้ว
********

ผู้ที่รอดพ้น
จากภัยพิบัติกึ่งพระพุทธกาล
จะได้พบกับ โลกยุคใหญ่
ที่อุดมสมบูรณ์ยิ่ง
เหมือนในอดีตกาล
เป็นการเข้ายุค พระศรีอาร
จะได้พบกับ "ศรัทธาใหม่"
ที่ "นอสตราดามุส" ทำนายไว้ !!!

อีกก้าวเดียว
รีบ "สะสมการกระทำ"
สะสมบารมีให้มากที่สุด
ทุกเวลา ทุกวินาทีมีค่า
อย่าปล่อยให้สูญเปล่า
ใช้ "สัจจะ" ขจัดนิสัยสันดาลตนเอง

ค้นหาอ่านในกระทู้ "ที่พึ่งสุดท้าย ตือ สัจจะ...กับ....โลกุตตระ"

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

ถ้าตายไปในช่วงภัยพิบัติ แล้วชีวิตและหน้าที่ในชาตินี้ก็ถือว่าจบครับ แต่ถ้ารู้ เรื่องภัยพิบัติล่วงหน้าแต่ไม่สนใจเตรียมตัวเตรียมใจไว้เลย ถ้าท่านตาย ก็แล้วไป แต่ถ้าเกิดไม่ตายขึ้นมาท่านจะอยู่อย่างไรโดยไม่เบียดเบียนหรือเป็นภาระกับคนอื่นครับ รู้แล้วไม่สนใจ ถือว่าประมาทหรือไม่ครับ ลองไตร่ตรองกันดูใหม่นะครับ การปล่อยวางกับการปล่อยปละละเลยบางครั้งมันก็อยู่ใกล้กันจนแยกไม่ออกครับ ผมว่าเราควรพิจารณาข้อมูลที่ได้รับ และใช้สติปัญญาแยกแยะและไตร่ตรองครับ ตอนนี้ธรรมชาติส่งสัญญานบอกชาวโลกจนถ้าเป็นคนก็คงคอแตกแล้ว แต่ไม่มีใครที่สนใจในสิ่งที่ธรรมชาติบอกกับเราอย่างจริงจังเลยครับ ที่จริงมนุษย์เราเล็กยิ่งกว่าเม็ดทรายในจักรวาลเยอะมากๆครับ แต่เราทำร้ายธรรมชาติอย่างรุนแรงครับ ศีลธรรม มโนธรรมก็เสื่อมจากจิตใจลงไปเยอะมาก ทุกสิ่งเป็นกลไกของธรรมชาติครับ "ทุกสิ่งเป็นอนิจจัง แต่เรายังต้องรักษาพระพุทธศาสนาให้ครบ ห้าพันปีครับ"