คนที่ทำอนันตริยกรรม สามารถไปสวรรค์ได้ไหม

คือเมื่อเขาใช้กรรมในอเวจีเสร็จ ถ้าเขามีบุญถึงจะสามารถไปสวรรค์ได้ไหม

หรือต้องเป็นมนุษย์ท่าเดียวเลย รบกวนตอบทีครับ

ขอบคุณมากครับ

 

มีอยู่ 6 อย่างค่ะ
1. ชาติก่อนทำความดีไว้มากแต่ชาตินี้ทำบาป จึงทำให้ตกนรกพอสิ้นอายุในนรกความดีที่ทำในชาติก่อนๆไม่หมดจึงขึ้นสวรรค์
2. ชาติก่อนทำความชั่วตกนรกแต่หนีพยายม(วันที่เขาปล่อยคนตายขึ้นมารับบุญที่ญาติอุทิศให้)แต่ชาติปัจจุบันทำกรรมดีเยอะ แต่พยายมตามตัวเจอจึงทำให้ต้องตกนรกด้วยกรรมเก่าและขึ้นสวรรค์
3.ทำชั่วชาตินี้แล้วเกิดความสำนึกผิดแล้วทำดีมากก่อนตายนึกถึงความชั่วจึงตกนรกแล้วขึ้นสวรรค์เหมือนพระอชาตศัตรูที่ฆ่าบิดาเพราะเชื่อคำพระเทวทัต พระพุทธเจ้าได้แสดงพระธรรมให้ฟังจึงสำนึกและทำนุบำรุงศาสนาให้รุ่งเรือง
4.ทำทั้งดีและชั่วเท่าๆกันแต่ทำเยอะก่อนตายนึกถึงความชั่วจึงตกนรกแล้วมาขึ้นสวรรค์
5.ต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานแล้วมาขึ้นสวรรค์ เนื่องจากเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานแต่ได้ทำความดีไว้จึงเกิดเป็นเทวดา
6.ต้องเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานอีกหลายชาติแล้วมาเกิดเป็นมนุษย์ยากจนหรือพิกลพิการแต่ถ้าทำความดีต่อไปก็จะได้เกิดมาเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์


อนุโมทนาค่ะ โทษทีพิมพ์ยาวไปหน่อย^ ^~

http://palungjit.org/posts/3254158
_________________________________

สุขใดเหมือนแม้นการไม่เกิดไม่มี" "จะไม่ละความเพียรถ้ายังไม่ถึงซึ่งนิพพาน"
"สุขใดในโลกล้วนไม่ยั่งยืน ผู้ใดปล่อยวางพิจารณาในความทุกข์เห็นโทษของความสุขผู้นั้นชื่อได้ว่าพบความสุขอันยิ่งใหญ่"<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ขอบคุณมากครับ

 

รู้แต่ว่าห้ามสวรรค์ ห้ามนิพพาน แต่ไม่ห้ามนรกครับ

 

แต่เมื่อใช้กรรมเสร็จ ถ้าบุญถึงก็ได้ไปโอปปติกะที่สวรรค์ นะครับ

 

ผู้ที่ทำอนันตริยกรรม ประตูสวรรค์ ประตูพระนิพพานปิดหมด บาปหนักมาก เราเกิดมาเป็นแสนชาติเขายังไม่พ้นเลย รู้แล้วอย่าทำ และกว่าที่เขาจะได้เกิดมาเป็นคนยากมาก ต้องผ่านอบายภูมิทั้ง 4 ก่อน
อนัน แปลว่าอะไรล่ะ แล้วอนันตริยกรรม ไม่อยากคิดและแปลเลย หยองพองขนน่ะ

 

-เทวทัต หลังจากพ้นอกุศลนี้ ก็จะได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าครับ

“พระพุทธเจ้าทรงยอมให้เทวทัตบวชตั้งแต่แรก ก็เพราะทรงเห็นว่า ตอนจบนี่
เทวทัตจะขอถือพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง ถ้าไม่ได้บวชเลย จะทำกรรมหนักกว่านี้ แม้จะทำกรรมหนักก็จริง
แต่ก็ยังมีบุญอยู่บ้าง ต้องอีกแสนกัปข้างหน้า เทวทัตถึงจะได้ไปบำเพ็ญบุญต่อ
จะได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า นามว่า อัฏฐิสสระ”

สาธุครับ

 

ใครที่ทำบาปไว้ ก็ควรทำบุญทดแทนนะครับ นี่คือที่ผมคิด

อย่างเช่น พระเจ้าอชาติศัตรู และ พระเทวทัต ที่จะได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นดุสิต
เมื่อเขาทั้ง 2 ใช้กรรมในนรกเสร็จ

ขออนุโมทนากับทุกๆคนนะครับ

 

เกิดสมมุตินะครับ สมมุติ

ถ้าคนที่ทำอนันตริยกรรม แต่มีบุญมากๆๆๆๆ

พอเขาใช้กรรมเสร็จ เขามีสิทธิ์จะได้ไป สวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตดี

ได้ไหมครับ อยากรู้จัง ?

 

เรื่องผลกรรมนี่ มีความพิสดารมาก ถ้าเป็นบางเรื่องบางประเด็น ก็พอตอบกันได้บ้าง แต่ถ้าลงลึกลงไปในรายละเอียด บอกได้เลยว่า มนุษย์ตอบไม่ได้หรอกครับ เพราะฉะนั้น คงต้องใช้วิจารณญาณว่าอะไรที่น่ารับฟัง อะไรที่ฟังแล้วก็ผ่านไป

มีหลักใหญ่ๆว่า การเสวยผลกรรมที่เป็นกุศลกรรมก็ดี อกุศลกรรมก็ดี ผลกรรมนั้นย่อมมีวันหมด คนโบราณเค้าใช้คำดีนะครับ ใช้คำว่า "เสวย" เมื่อเสวยไปเรื่อย ก็หมดไปเรื่อย

กรณีทำอนันตริยกรรมก็เหมือนกัน แม้เป็นกรรมหนัก ช่วงเวลาในการใช้กรรมในนรกนั้นยาวนานกว่ากรรมชั่วอย่างอื่น แต่ก็มีวันหมดเหมือนกัน เมื่อหมดผลกรรมที่ต้องทนทุกข์ทรมานในนรกแล้ว จะมาเกิดในสวรรค์ชั้นนั้นชั้นนี้ จะมาเกิดเป็นมนุษย์ หรือสัตว์ หรืออะไรก็ตามแต่ ก็เป็นสิ่งที่มนุษย์ไม่อาจบอกได้อย่างชัดเจน ไม่อาจฟันธงหรือ confirm เพราะถ้ามนุษย์คนไหนบอกได้อย่างชัดเจนร้อยเปอร์เซนต์ แสดงว่ามนุษย์คนนั้น ต้องมีญาณหยั่งรู้ มีตาทิพย์ชนิดที่มองข้ามภพข้ามชาติไปได้นับไม่ถ้วน ซึ่งทั้งสามโลกนี้ มีเพียงหนึ่งเดียวที่จะบอกได้ นั่นก็คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เพราะฉะนั้น ที่เจ้าของกระทู้ถามต่อว่า มีสิทธิจะไปสวรรค์ชั้นปรนิมมิตรสวัตดีมั้ย ก็ต้องใช้การคาดคะเนว่า "อาจจะเป็นไปได้"

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็มีตัวแปรอื่นมาแทรกอีก เช่น เศษกรรม ปกติมนุษย์ที่พ้นขึ้นมาจากขุมนรก ก็จะต้องมาเสวยผลกรรม เช่น เป็นเปรต อสุรกาย หรือเป็นสัตว์เดรัจฉาน หรือเกิดมาพิกลพิกาล ซึ่งจะเห็นได้ว่า ไม่ใช่พ้นจากนรกปุ๊ป มาเกิดเป็นเทวดาปั๊ปเสมอไป เพราะฉะนั้น ก็น่าคิดว่า ผู้ที่พ้นจากอเวจีมหานรกหรือโลกันต์มหานรก แล้วจะไม่เสวยเศษกรรมเชียวหรือ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง มนุษย์ผู้นั้นก็ยังไม่อาจเป็นเทวดาได้ ปะเหมาะเคราะห์ร้าย ทำชั่วต่อ ตายลงไป ก็ลงไปนรกอีก อดขึ้นสวรรค์กันพอดี

ที่ยกตัวอย่าง เป็นเรื่องเฉพาะเศษกรรมนะครับ ซึ่งนอกจากเศษกรรมแล้ว ก็อาจจะมีปัจจัยแทรกอย่างอื่นอีกที่เราๆท่านๆไม่ทราบ เพราะไม่ได้มีญาณวิเศษ

สุดท้าย อยากจะบอกว่า เรื่องผลกรรมเป็นเรื่องที่มีความพิศดาร เหนือการหยั่งรู้ของมนุษย์ มนุษย์อาจรู้ได้บางกรณีเท่านั้น ไม่ใช่ทุกกรณี เพราะฉะนั้น ตรงนี้จะดีกว่ามั้ย ถ้าเราท่องแต่คำว่า "จงทำความดี ละเว้นความชั่ว" ถ้าเป็นอย่างนั้น เราก็ไม่ต้องมาวิตกสงสัยว่าทำกรรมอะไร จะได้รับผลอะไร เอาเวลามาทำความดีจะดีกว่า

 

ยังไงก็ตามนะคิดว่าทำตนที่ดีที่สุด ละอาสวกิเลสทั้งหลาย ปิดประตูนรก ปิดประตูสวรรค์ในชาตินี้ โดยจะได้ไม่ต้องมาเกิด ไม่มีกรรมดี และไม่มีกรรมชั่ว นั่นแหละทางออก

________________________________

สุขใดเหมือนแม้นการไม่เกิดไม่มี" "จะไม่ละความเพียรถ้ายังไม่ถึงซึ่งนิพพาน"
"สุขใดในโลกล้วนไม่ยั่งยืน ผู้ใดปล่อยวางพิจารณาในความทุกข์เห็นโทษของความสุขผู้นั้นชื่อได้ว่าพบความสุขอันยิ่งใหญ่"<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

พี่ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->khomeraya พยายามบอกผมว่าก่อนจะเสวยกรรมดี ต้องเสวยกรรมชั่วจากเศษกรรมก่อนใช่ไหมครับ ซึ่งผมว่าก็น่าจะใช่ พอใช้เศษกรรมเสร็จคราวนี้ก็อยู่ที่ผลบุญแล้ว

ใครว่าไง บอกทีครับ ?

 

คนที่ทำอนันตริยกรรม สามารถไปสวรรค์ได้ไหม
.................................................................

ผมว่ายิ่งกว่าสวรรค์ก็ไปได้นะครับ

แต่ก่อนหน้านั้นต้องเสวยวิบากความทุกข์นานแสนนาน--นานแสนนาน--นานแสนนาน--สยดสยอง
เกิดภพภูมิไหนก็ลำบากยากแค้นเหลือเกินอีกนานแสนนานนับชาติไม่ถ้วนกว่าจะได้เริ่มเสวยสุขกะเค้าบ้าง

ในที่สุดได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าก็มี(เทวทัต)
ในที่สุดได้เป็นพระอัครสาวกก็มี(ท่านพระมหาโมคคัลลานะ)(แต่สุดท้ายก็ยังมีเศษกรรมคือมีคนมาคอยฆ่า--ทุบหัวแตกตาย)
ศึกษาเพิ่มเติมในพระไตรปิฎกครับ

ระวังระวังตัวทำแต่กุศลจะได้รีบพ้นๆไป
ขออย่าให้เคยผ่านเคยทำอนันตริยกรรมเลยครับ

 

คุณ sri pai
คนเราบางครั้งก็เสวยกรรมดีก่อน แล้วค่อยเสวยผลบาป
บางคนก็เสวยผลวิบากก่อน แล้วค่อยเสวยบุญ
เช่น บางคนทำดีแทบตายอยู่ในศีลในธรรม แต่ทำไมทุกข์จัง ทำอะไรก็ล้มเหลว นั่นเป็นเพราะวิบากมีกำลังแรงกว่า จึงส่งผลก่อน เมื่อวิบากอ่อนแรงลงจึงเสวยผลบุญ นั่นคือความสุข หยิบอะไร ทำอะไรก็สำเร็จ สมปรารถนา
บางคนโกงแล้วโกงอีก ชั่วแล้วชั่วอีก ทำอะไรก็สำเร็จ สมปรารถนาไปหมด นั่นเพราะผลบุญมีกำลังแรงจึงแซงให้ผลก่อน พอผลบุญอ่อนแรงรับวิบากสิทุกข์มาก ๆ เราจึงไม่ควรประมาทในการดำรงชีวิตนะ

 

เรืองกฎแห่งกรรมนี่พระพุทธเจ้าท่านว่าไม่ควรคิดอะครับ มันเป็นอจิณไตย ไม่มีอะไรตายตัวแน่นอนเสมอไป

ในระดับคนธรรมดาทั่วไปเราอาจจะพอคิดได้ง่ายๆตรงๆ ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

แต่เป็นคนที่ไม่ค่อยธรรมดา อยากพวก พุทธภูมิ หรือท่านทั้งหลายที่มีบารมีมาก จะมีกำลังใจสูงกว่าชาวบ้านทั่วไป ท่านเหล่านี้ท่านหนีนรกเป็นปกติครับ ถ้าเผลอพลาดลงก็จะมีคนมาช่วยอยู่เสมอเพราะพวกพุทธภูมิหมู่คณะท่านมาก แต่มีข้อแม้ว่าความชั่วที่ทำไปนั้นเพื่อส่วนรวมนะครับ

เรื่องกรรมนี่มันซับซ้อนจริงๆครับอย่างที่บอก ไม่มีอะไรตายตัวเสมอไป กรรมอาจจะเหมือนกัน แต่คนที่ทำกรรมไม่เหมือนกัน การส่งผลการรับกรรมมันก็สารพัดรูปแบบ

^^

 

ตอบได้ทันทีเลยไม่มีทางค่ะ