รวมสุดยอดสายวิชาแหวนนพสูรย์+ปรอทกินทอง

สุดยอดเลยครับ ใครได้ไปเป็นมงคลสูงสุดคุ้มครองได้ถึงดวงชะตา ขอบคุณที่นำมาให้รับชมครับ ขอบคุณมาก

 

.


ขอนำภาพพิธีหล่อแหวน"นพสิทธิ์ฤทธิชัยมงคล"
ซึ่งจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 23 มิ.ย. อันเ็ป็นวันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ มาให้ชมกัน

พิธีนี้ พระอาจารย์มานิตย์ วัดรัษฎาธิษฐาน (วัดเงิน) ตลิ่งชัน เมตตาเป็นเจ้าพิธี

พร้อมทั้งหลวงปู่ดี ธัมมธีโร รับนิมนต์เดินญาณมาร่วมเสก​

พระอาจารย์มานิตย์อธิษฐานและประพรมน้ำมนต์ในชุดมวลสาร ก่อนเริ่มพิธี
​

...
​

 

.


ตามกำหนดการ หล่อแหวน

10.31 น. ประกอบพิธีบวงสรวง
12.00 น. เป็นราชาฤกษ์ ประกอบพิธีหลอมทองชนวนทั้งหมด และหล่อแหวน

​

ชุดแผ่นยันต์และมวลสาร ที่ผ่านการประพรมน้ำมนต์โดยพระอาจารย์มานิตย์
เห็นแล้วอึ้งเลยครับ
ทางขวา-ล่างของภาพ ยันต์มหาจัรพรรดิ์ , ยันต์โสฬสมหาพรหม จารบนแผ่นเงินหนา ยันต์สำคัญอื่นๆก็มี เห็นแล้วตาลาย

​

รูปบน ที่ลูกศรชี้ อันนี้ได้มาสดๆก่อนพิธี แค่ 1 ชั่วโมง
เป็นลูกสะกดเนื้อเมฆสิทธิ์ หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง นนทบุรี
ท่านสร้่างเมื่อเสาร์ ๕ ปี 2554
ตามตำรับพระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์ หลวงพ่อทับ วัดอนงค์
ลองอ่านมวลสาร จากลิงค์นี้ครับ ลูกสะกดเนื้อเมฆสิทธิ์ หลวงพ่อตี๋ วัดหูช้าง

​

ช่วงเช้า ก่อนถึงเวลา ได้ให้ช่างทำการหล่อรวมชนวนแผ่นยันต์เนื้อเงินก่อน
ขั้นแรก ชั่งตวงโลหะต่างๆให้ได้น้ำหนักตามสูตร

จากนั้น ก็หลอมแผ่นยันต์เงินต่างๆทีละแผ่นในเบ้า กลายเป็นแท่งชนวนเงิน


ปล.
การหล่อแหวนเงินครั้งนี้ อยากบอกเบื้องหลังการสร้างไว้เป็นกำลังใจกับผู้จองแหวน

เนื้อเงินที่ใช้ครั้งนี้ เป็นเนื้อเงินที่ผ่านการจารยันต์ 100%
ไม่มีเนื้อเงินใหม่(ที่ไม่ผ่านการจารยันต์)ผสมปนเลยครับ


​

ส่วนเนื้อสัตโลหะก็ไม่เบาเช่นกัน
วันศุกร์ที่ 22 มิ.ย. (เป็นวันฤกษ์ดีมาก) ได้หลอมเป็นแท่งนับน้ำหนักได้ 41 กิโลกว่า
ในวันเดียวกัน ก็มีอีกคณะมาที่โรงหล่อเพื่อหลอมชนวนเช่นกัน
ทางนั้น เค้าก็มีชนวนเก่าดีๆเช่นกัน
เค้าเห็น หมออนุภาคมีมวลสารมากถึง 41 กิโลกว่า
(นับว่ามากจริงๆสำหรับคนที่เก็บสะสมเองเพียงคนเดียว)

ก็เลย ขอตักแบ่งน้ำโลหะแลกกัน คนละ 1 ช้อนหล่อใหญ่ (ใจกว้างดีทั้ง 2 ฝ่าย)

ใครอยากรู้มวลสารทางฝั่งโน้น เดี๋ยวรอหมออนุภาคมาเฉลยเองนะครับ

...
​

 

.

​

เมื่อได้ฤกษ์เวลา หมออนุภาคจุดธูปเทียนบูชาพระ

​

และจุดธูปเทียนธูปที่โต๊ะพิธี

...
​

 

.


















...

 

.



ภาพพิธีหล่อแหวน"นพสิทธิ์ฤทธิชัยมงคล"

เดี๋ยวจะลองลงVideo ให้ชมด้วยครับ

 

.



















...
​

 

ชนวนเข้มขลังจริงๆ ครับ หาอย่างนี้ไม่ได้อีกแล้ว

 

3. ทางด้านมหาอำนาจ-มหาปราบ เช่น ยันต์มหาพิชัยสงคราม (ตำรับ ลพ.ฤาษีฯ)
ยันต์มหาปราบ มหาระงับ พาหุงฯ ตะกรุด 4 มหา พระไพรีพินาศ
4 มหาปราบ (พระนารายณ์ หนุมาน พาลี สุครีพ)
เสือ สิงห์ราชสีห์พญาฉัททันต์ เป็นต้น

 

4. พวกเทพต่างๆ เนื่องจากมีอาวุธเทพปรากฏอยู่ในแหวน
จึงต้องหารูปลักษณ์เพื่อเป็นสื่อน้อมนำบารมีขององค์มหาเทพต่างๆ เช่น
พระตรีมูรติ พระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม พระพิฆเนศ
พระสยามเทวาธิราช พระอินทร์ ท้าววิษณุกรรม
ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวจตุโลกบาล แผ่นยันต์หัวใจเทพแต่ละองค์

 

ชนวนเทพต่อ

ชนวนเทพที่ใส่ลงไปมีครบทั้ง 3 มหาเทพ และเทพระดับสูง
เช่น พระพิฆเนศ พระอินทร์ พระวิษณุกรรม ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4

 

ชนวนเทพต่อ

พระสยามเทวาธิราช อรุณเทพบุตร
เทวดาประจำทิศทั้ง 8 จตุคามรามเทพ
พระพรตมุนี พระพิราพ ฯลฯ

 

5. อาวุธเทพต่างๆ เช่น เทพอาวุธทั้ง 5 (ปรากฏอยู่ในเหรียญนารายณ์ 10 กรมหาปราบ) ยันต์เทพอาวุธทั้ง 5
อาวุธทั้ง 4 ของพระนารายณ์ (ตรี คฑา จักร สังข์) ตรีศูลพระศิวะ
กระบองท้าวเวสสุวรรณ ขวานรามสูร
พระขรรค์เทวดา พระขรรค์เพชรพระพุทธเจ้า
จักรแก้วพระพุทธเจ้า ธรรมจักร รัตนจักร
กิมกังซู่ (วัชรปาณี) อาวุธของพระโพธิสัตว์ เป็นต้น

 

ชนวนเทพอาวุธ (ต่อ)
ชุด จักร+สังข์

นับได้ว่าเป็นความยากลำบากกว่าจะหาอาวุธเทพที่เกี่ยวเนื่องกับแหวนได้ครบ

 

6. ทางโภคทรัพย์ เช่น พระเศรษฐีนวโกฏิ พระสังกัจจายน์ พระสิวลี
จักรพรรดิรัตนเจ็ด (สมบัติของพระมหาจักรพรรดิ)
ยันต์จตุโร จินดามณี ยันต์โภคทรัพย์ พระสังข์เรียกทรัพย์ เป็นต้น

 

7. ทางเมตตามหานิยม เช่น นะหน้าทอง นะหน้าสิงห์ สาลิกา
นะฤาชา นะฤาชัย ตะกรุดเมตตา ตะกรุดโมรปริตร เป็นต้น



8. ทางรักษาโรค เช่น เหรียญทำน้ำมนต์ต่างๆ อาทิ
เหรียญทำน้ำมนต์พระไภสัชคุรุ เหรียญทำน้ำมนต์ ลป.ศรี มหาวีโร
เหรียญทำน้ำมนต์ครูบาตั๋นปุญโญ เหรียญทำน้ำมนต์ปิดตาพังพการ เป็นต้น<O</O

 

9. ชนวนอาถรรพ์ เช่น ตะปูสังขวานร เกศและเศียรพระพุทธรูปชำรุด
เงินพดด้วง ทองจังโก เหล็กยอดฉัตร
ประแจทองเหลืองโบราณ (เป็นเคล็ดสะเดาะผ่านตลอด)
เข็มโลกธาตุ (เป็นเคล็ดแทงทะลุตลอดปลอดโปร่ง) เป็นต้น

 

10. แร่ต่างๆ เช่น เหล็กน้ำพี้ โคตรเหล็กไหล แร่โคตรเศรษฐี แร่ดูดทรัพย์

 

สมเด็จองค์ปฐมบรมพุทธมหาจักรพรรดิ หน้าตัก 9 นิ้ว ที่สร้างถวาย 108 วัด
ใช้เวลาดำเนินการ 5 ปี กว่าจะหล่อและถวายได้ครบ ทำแบบมีกำลังก็ทำไปเรื่อยๆ
ซึ่งองค์ปฐมรุ่นนี้ได้รวบรวมชนวนไว้เยอะมาก ประมาณ 23 หน้ากระดาษ A4 เลยทีเดียว
ซึ่งก็ถือได้ว่าเป็นชนวนหลักของแหวนรุ่นนี้เลยทีเดียว เพราะได้หลอมชนวนเก็บไว้ถึง 10 กว่ากก.







รวมน้ำหนักชนวนทั้งหมด 40 กิโลกรัมพอดี
ซึ่งชนวนเหล่านี้ได้สะสมมาตั้งแต่เริ่มหล่อพระบูชาสมเด็จองค์ปฐมปางมหาจักรพรรดิ หน้าตัก 9 นิ้ว ถวาย 108 วัด เป็นต้นมา
โดยในการหล่อพระแต่ละครั้ง จะเทชนวนเก็บไว้เป็นแท่งก่อนหล่อทุกครั้ง
เฉพาะแท่งที่เป็นหัวชนวนล้วนๆ นี่ก็นับได้เกือบ 20 กก.แล้ว
ยังไม่รวมชนวนอื่นอีกมาก ที่นำมาลงไว้เป็นเพียงชนวนหลักๆ เท่านั้น
ที่ปลีกย่อยยังมีอีกมากมาย

ในการนี้ได้สละกริ่งวัดสุทํศน์ฯ เนื้อเงินก้นทองคำ นวะก้นนาค ลงไปเป็นชนวนด้วย
อีกทั้งพวกเหรียญต่างๆ ที่เป็นชนวนบังคับเกือบทั้งหมด
ได้นำไปให้ อ.ธรรมนูญ บุญธรรม แห่งสำนักสักยันต์บัวแปดกลีบ (สำนักท่านย่าเฒ่า) ชลบุรี
ได้ลงอักขระหัวใจของแต่ละเหรียญตามรูปแบบของเหรียญนั้น
เช่น เหรียญหลังสิงห์ ก็ลงหัวใจสีหราช และนะทางมหาอำนาจ
เหรียญหนุมาน สุครีพ หรือเทพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพระศิวะ พระพรหม พระนารายณ์ก็เช่นเดียวกัน

ชนวนต่างๆ เหล่านี้ ก่อนนำมาหลอมก็ได้แบ่งส่วนหนึ่งไปให้ครูบาอาจารย์เสกชนวนมาก่อนแล้ว เช่น
- ลป.นาม วัดน้อยชมพู่
- ลพ.สมคิด วัดถ้ำเขาวงศ์
- ลป.สุพีร์ วัดถ้ำซับมืด
- อ.ธรรมนูญ บุญธรรม

 

ชนวนทั้งหมดในวันหลอมชนวน รวมนน. 40 กก.


ตอนแรกตั้งใจว่าในวันงาน จะบวงสรวงก่อนแล้วค่อยทำพิธีหลอมชนวน
แต่เนื่องจากชนวนเยอะมาก รวมแล้วน้ำหนัก 40 กิโลกรัมพอดี
ทางช่างกลัวว่าวันงานจะหลอมชนวนไม่ทันตามฤกษ์
จึงได้ทำพิธีหลอมชนวนทั้งหมด (ยกเว้นเนื้อเงิน)
ในวันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน 2555 เวลา 11.00 น. ซึ่งเป็นลาภะฤกษ์
โดยใช้เวลาหลอมถึง 4 รอบกว่าชนวนจะหมด
ใช้เวลาหลอมชนวนตั้งแต่เวลา 11.00 - 16.00 น.


ก่อนหน้านี้ 1 วัน คือในวันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน
ได้มีคณะอาจารย์คณะหนึ่งได้มาทำการหล่อพระกริ่งวัดสุทัศน์ฯ (น่าจะเป็นกริ่งรุ่น 155 ปีสมเด็จพระสังฆราชแพ)
โดยได้นำชนวนของสมเด็จพระสังฆราชแพแท้ๆ มาหลอมด้วย
และยังได้ใส่ทองคำลงไปอีก 20 บาท
และก็ให้บังเอิญที่มีขี้ตะกรันที่เกิดจากการหล่อทิ้งเอาไว้โดยที่ช่างไม่สนใจ
ซึ่งเมื่อลองนำไปร่อนดู ปรากฏว่าเป็นเศษทองปนอยู่ในเนื้อโลหะทั้งนั้น
นน. ทองคะเนแล้วน่าเกือบ 2 สลึงได้ ก็เลยได้นำใส่ลงไปในเบ้าด้วยเลย

หมายเหตุ สายเคเบิลทองแดงที่เห็นไม่ใช่สายทองแดงทั่วๆไป
แต่เป็นสายทองแดงที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากครูบาอาจารย์ต่างๆ หลายรูป
และยังได้นำเข้าในพิธีฉลองพุทธชยันตี ที่ วัดเขาวง สระบุรี ของหลวงตาวัชรชัย ด้วย