พระดี พิธีใหญ่ รับประกันแท้ทุกรายการ!!! เชิญชม บูชา ในกระทู้ได้เลยครับ"

ติดจองยุครับ ถ้าหลุดจองผมแจ้งให้ทราบนะครับ

 

3191.เหรียญรุ่นบริบูรณ์ทรัพย์ หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม ปี พ.ศ.2554 ให้บูชา 550 บาท เลี่ยมกันน้ำพร้อมบูชา

​

หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน ท่านเป็นลูกศิษย์ หลวงพ่อหว่าง อดีตเจ้าอาวาส วัดกำแพงแสนวัตถุมงคลของหลวงปู่ที่เป็นที่นิยมอยู่ในขณะนี้คือ เหรียญมากมายหลายรุ่น ตะกรุดลูกปืน และตะกรุดชนิดต่างๆด้วยประสบการณ์จากผู้ที่บูชา ทำให้เริ่มเป็นที่รู้จักอยู่ในหมู่ลูกศิษย์และผู้ที่ศรัทธาทั้งในประเทศและต่างประเทศ
" เหรียญรุ่นบริบูรณ์ทรัพย์ " หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน ปี พ.ศ.2554 จัดสร้างและออกวัดกำแพงแสน จ.นครปฐม หลวงปู่แผ้วเมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสก ณ.พระอุโบสถ วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2554 มีผู้ที่เคารพและศรัทธาหลวงปู่ มาร่วมพิธีอย่างมากมาย
เจตนาการจัดสร้าง เพื่อนำเงินสร้างศาลาเอนกประสงค์ ณ วัดกำแพงแสน
หลวงปู่แผ้วได้พัฒนาและได้สร้างความเจริญให้วัดกำแพงแสนนี้มากมาย มีโบสถ์ ศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ และมณฑปหลวงพ่อสว่าง อดีตเจ้าอาวาส หลวงปู่แผ้วท่านจำพรรษาอยู่วัดกำแพงแสนนานถึง 50 ปี แล้วจึงได้ย้ายไปอยู่วัดรางหมัน
หลวงปู่แผ้วมีอำนาจจิตสูงมาก วัตถุมงคลที่ท่านปลุกเสกแจกให้โยมไปใช้ต่างมีคุณวิเศษให้คุณแก่ผู้ใช้อย่างเหนือความคาดหมาย วัดกำแพงแสนได้สร้างเหรียญรุ่นแรกปี 2538 โด่งดังมาก เช่นเดียวกับเหรียญใบขี้เหล็กหรือเหรียญปลอดภัยปี 2547 ก็เป็นเหรียญยอดนิยมของนักสะสมไปแล้ว เช่นกัน
พระครูวิมลสมณคุณ พร้อมด้วย กำนันเนิน นายก อบต.และไวยาวัจกร เป็นตัวแทนจากวัดกำแพงแสน ได้พากันไปกราบขอบารมีหลวงปู่แผ้วและอาจารย์โกร๋นเจ้าอาวาสวัดรางหมัน ขออนุญาตจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นบริบูรณ์ทรัพย์ เพื่อนำรายได้ไปสร้างศาลาอเนกประสงค์ให้แล้วเสร็จ ซึ่งก็ได้รับเมตตาจากหลวงปู่แผ้วออกใบอนุญาตให้จัดสร้างอย่างถูกต้อง
เหรียญรุ่นบริบูรณ์ทรัพย์ เป็นชื่อรุ่นที่หลวงปู่แผ้วและพระอาจารย์โกร๋นตั้งชื่อให้ เป็นเหรียญรูปไข่ครึ่งองค์ ออกแบบโดย ช่างพิศาล วินิชชัยอาภรณ์ ด้านหน้ารูปเหมือนหลวงปู่ครึ่งองค์มีชื่อแนวโค้ง ด้านหลังเหรียญเป็นยันต์เหรียญรุ่นแรกของวัดกำแพงแสนปี 2538

 

3192.หลานแท้ๆ พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน พระปิดตาจัมโบ้รุ่นหมดหนี้ มหาบารมี เนื้อผงธูปกรรมฐาน หลวงปู่อิ่ม วัดทุ่งนาใหม่ ให้บูชา 550 บาท ด้านหลังบรรจุเกศาหลวงปู่

​

หลวงปู่อิ่มหรือพ่อท่านอิ่ม วัดทุ่งนาใหม่ เกจิอาจารย์แดนใต้หลานแท้ๆ พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน อายุ 106 ปีจัดสร้างพระปิดตาจัมโบ้รุ่นนี้ตามแบบปรมาจารย์พระปิดตาหลักแสนอย่างหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี โดยพระที่นำมาให้บริการนี่้ป็นเนื้อผงธูปกรรมฐานผสมผงเก่าหลวงปู่โต๊ะและพ่อท่านคล้าย ด้านหลังมีเกศาของหลวงปู่อิ่มบรรจุแบบเยอะมาก มีการยิงเลเซอร์โค้ตและหมายเลขกันการปลอมแปลง พ่อท่านอิ่มอธิษฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว

 

3193.พระขุนแผนหลังยันต์จักรพรรดิ เนื้อดินเผา เคลือบน้ำมันยาง หลวงพ่อเฉลิม วัดพระญาติการาม ให้บูชา 650 บาท เสก 6 ปี ในโบสถ์ วัดพระญาติการาม

​

“ขุนแผนกูไม่ได้เจ้าชู้นะโว้ย รวยอย่างเดียว” หลวงปู่ท่านได้เคยกล่าวกับคณะศิษย์

พระโบราณคณิสร (หลวงปู่เฉลิม วัดพระญาติ)

มีโยมมากราบ "ลูกศิษย์หลวงปู่เฉลิมหรือ ? โมทนาด้วย นั่นแหละสายตรงหลวงปู่กลั่น วัดพระญาติเลย ท่านเป็นพระที่สมถะสุด ๆ ใครให้อะไรท่านไม่เอาทั้งนั้น ท่านเป็นพระครูสังฆรักษ์มากี่ปีก็ไม่รู้ จนกระทั่งเขายัดเยียดให้เป็นเจ้าคุณ

หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ท่านเป็นต้นตำรับวิชาชาตรี บางคนเรียกว่าวิชาหินเบา เอาหินทุ่มหัวนี่ไม่รู้สึก โหม่งเล่นเป็นลูกฟุตบอลเลย ถัดจากหลวงปู่กลั่นมาก็เป็นหลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ หลวงพ่ออั้นแล้วก็มาเป็นหลวงพ่อเฉลิม แต่ไม่มีใครรู้ว่ามีรุ่นเดียวกับหลวงพ่อเฉลิมอีกรูปหนึ่ง เป็นถึงสมเด็จพระราชาคณะ ก็คือหลวงพ่อนิยม หรือหลวงพ่อสมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม

หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ถ้าเขาไม่หาเหรียญของท่านที่ติด ๑ ในเบญจภาคี ก็จะหาตะกรุดชาตรี หาปลาตะเพียน บางคนโชคดีได้สายคาดเอวไปก็หวงอย่าบอกใครเลย มารุ่นหลวงพ่ออั้นนี่เขาหาขุนแผนเคลือบ เพราะว่าขุนแผนหลวงพ่ออั้นนี่ใส่ผงพระขุนแผน กรุวัดใหญ่ชัยมงคลลงไปเยอะมาก"

พระยันต์มหาวิเศษ “ มหาจักรพรรดิ์” นี้ท่านกล่าวอุปเท่ห์คุณานุภาพไว้ดังนี้
หลักใหญ่ใจความของพระยันต์จักรพรรดินั้นอยู่ตรงไหนกัน
พระยันต์นี้มีกำลังสามส่วน ด้วยกัน คือ
กำลังพระพุทธคุณ
กำลังพระธรรมคุณ
กำลังพระสังฆคุณ
ตัวยันต์ประกอบด้วย ๑๐๘ อักขระ โดยแต่ละอักขระคือ
๑ พระคาถา ดังนี้
พระพุทธคุณ ๕๖ พระคาถา
พระธรรมคุณ ๓๘ พระคาถา
พระสังฆคุณ ๑๔ พระคาถา
รวมเป็น ๑๐๘ พระคาถา
ในการลงแต่ละอักขระก็ท่องบทอิติปิโสรัตนมาลาไปด้วย เช่นว่าเขียน "อิ" ก็ท่องบท "อิฎโฐ สัพพัญญุตะญาณัง อิจฉันโต อาสะวักขะยัง อิฎฐัง ธัมมัง อนุปปัตโต อิทธิมันตัง นะมามิหัง" จนครบ ๑๐๘ (ในกรณีที่ลงเอง ทวนเอง ยากมากๆครับขอบอก) เคล็ดลับคือต้องท่อง ๑ พระคาถา ต้อง ๓ จบ ทุกพระคาถาไป

สิทธิการิยะ ท่านทิศาปาโมกขาจารย์ ท่านได้ประชุมกันสร้างมหายันต์นี้ขึ้น โดยจารึกไว้บนแผ่นหินบรรจุไว้ในสระน้ำใหญ่ เพื่อหวังที่จะให้กุลบุตรผู้ใดที่เล่าเรียนพระไตรปิฎกได้อาบกินน้ำในสระนั้นแล้ว สติปัญญาความทรงจำจะได้ดีขึ้น
อนึ่ง ถ้าหากกุลบุตรผู้ใดปรารถนาจะใคร่จำเริญในลาภและยศ ท่านให้นำตะกรุด“มหาจักรพรรดิ์”อธิฐานทำ กินบ้าง ลูบหน้าบ้าง เอารดศรีษะบ้าง บำบัดโรคภัยทั้งหลาย ทั้งจะมีอายุยืนนาน บังเกิดลาภยศตามแต่จะถึงปรารถนา อธิษฐานเอาเถิดได้สำเร็จความปรารถนาทุกประการแล
อนึ่ง จะให้มีตบะเดชะ ให้เอาตะกรุดมหาจักรพรรดิ์ราชนี้ผูกเอวไว้ ให้รูตะกรุดนั้นไว้ข้างหน้า ใครเห็นใครก็กลัว ใครเห็นใครรักแล ถ้าจะเล่นการพนันให้รูดตะกรุดนั้นมาไว้ข้างหน้า ตั้งใจอธิฐานเอาว่าจะต้องการเงินสักเท่าไหร่ ก็ให้พึงเอาเพียงนั้นเถิด พึงตั้งมั่นอยู่ในความสัตย์ ให้ตั้งความปรารถนาทุกอย่างไม่แพ้แก่ใครในการเล่นการพนันเลย
อนึ่ง ถ้าจะให้ทำมาค้าขึ้น เพื่อที่จะขายสินค้าได้คล่อง ๆ ให้เอาตะกรุดนี้แช่ทำน้ำมนต์ เอาน้ำมนต์นั้นประพรมสินค้า ก็จะซื้อง่ายขายคล่องแล ถึงแม้ว่าผีเข้าคนอยู่ก็ดี เกิดโรคภัยไข้เจ็บทุกขเวทนาต่าง ๆ ก็ดี เอาน้ำมนต์ที่แช่ตะกรุดนี้ประพรมผีร้ายออกหนีไปสิ้นมิอาจจะอยู่ได้เลย เป็นอันขาดทั้งโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ก็จะบรรเทาสูญหายถอนแก้กระทำย่ำยีถูกเสน่ห์ยาแฝดหายสิ้นทุกประการ ประพรมบ้านเรือนปัดเป่าตัวเสนียดจัญไรต่าง ๆ หายสิ้นกันฟ้ากันไฟก็ได้ ถ้าหากถูกคดีเป็นถ้อยร้อยความ ให้เอาน้ำมนต์แช่ตะกรุดนี้อาบรด จะมีชัยชนะแก่คู่ความแล
อนึ่ง ถ้าจะกันโจรผู้ร้ายมิให้ทำอันตรายแก่เรา ให้เอากรวดหรือทรายมาแล้วเอาน้ำมนต์ที่แช่ตะกรุดนี้ประพรมบริเวณบ้านเรา อธิษฐานขอเอาบารมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสงฆ์คุณ จงมาช่วยคุ้มครองป้องกันอันตรายบรรดาคนคิดร้ายที่เข้ามาเหยียบถูกเอากรวดทรายที่หว่านโปรยไว้ จะบันดาลให้มีอันเป็นไปต่าง ๆ นานา มิสามารถที่จะทำร้ายเราได้เลย

 

3194. พระสมเด็จสายในดง หลวงปู่นวย กิตติปญโญ วัดเทพประทานพร ถ้ำวัวแดง มวลสารสายในดง ปี2545 ให้บูชา 750 บาท

​

หลวงปู่นวย กิตติปัญฺโญ พระอภิญญาเหนือโลก แห่งวัดเทพประทานพร ถ้ำวัวแดง

หลวงปู่นวย กิตติปัญโญ ที่อดีตเคยรับใช้ชาติได้รับพระราชทานยศถึง "พันเอกพิเศษ" และเป็นอดีตผู้บังคับการกรมทหารพรานจู่โจมค่ายปักธงชัย ซึ่งถูกขนานนามว่า"นักรบชุดดำ" หน่วยจรยุทธที่ถูกทางราชการจัดตั้งขึ้นมาเพื่อภาระกิจลับพิเศษในในสมัยนั้น ทหารพรานจู่โจมค่ายปักธงชัย คือส่วนหนึ่งของการรบทั้งในและต่างประเทศ แทบทุกสมรภูมิที่มีการรบ"ทหารพรานจู่โจมค่ายปักธงชัย"จะถูกส่งไปอยู่แนวหน้าแทบทุกสมรภูมิ ยุทธภูมิเขาค้อเพชรบูรณ์
ยุทธภูมิบ้านกรวดบุรีรัมย์ "ชค513"ผ่านมาหมด จนมีคำขวัญของทหารพรานจู่โจมค่ายปักธงชัย ว่า "กูผู้ชนะ"และหลวงปู่นวย กิติปุญโญก็คือ "พันเอกพิเศษอำนวย ราชภักดี"ก่อนที่ท่านเปลี่ยนชื่อเป็น"พันเอกพิเศษจักรชัย ราชภักดีและลาออกจากราชการในช่วงอายุแค่๔๗ปีด้วยปัญหาสุขภาพที่ไม่สมบูรณ์บาดแผลจากสงครามและจากอุบัติเหตุ แต่ลูกศิษย์ของท่านจะเรียกชื่อเดิมของท่านว่า"หลวงปู่นวย"
ในปี๒๕๒๗พระสองรูปลูกศิษย์ของหลวงปู่บุญตา หรือพระครูอินทรีธรรมโสภิต วัดอินทรียสังวรวนารามจ.ชัยภูมิ ท่านเป็นอริยะสงฆ์ทรงอภิญญาองค์หนึ่งศิษย์ของหลวงปู่โลกอุดร องค์หนึ่งคือพระอาจารย์สุชีพ อุตตโม อีกองค์หนึ่งคือหลวงปู่นวย กิติปัญโญ ธุดงค์มาพักปักกลดที่บริเวณ"ถ้ำวัวแดง"ซึ่งในขณะนั้นยังรกร้างว่างเปล่า ทั้งสององค์แยกย้ายกันปฏิบัติธรรมอดนอนผ่อนอาหารตามแบบพระป่าตามแบบครูบาอาจารย์ของท่านที่ได้อบรมสั่งสอนมา
สถานที่บริเวณ"ถ้ำวัวแดง"กว้างใหญ่ไพศาลมากเหมาะแก่การปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง หลวงปู่นวยได้อยู่บริเวณเชิงเขาก่อนถึงทางขึ้นถ้ำประมาณ800เมตรซึ่งในเวลาต่อมาได้สร้างเป็นวัดชื่อ"วัดเทพประธานพรถ้ำวัวแดง" ส่วนพระอาจารย์สุชีพได้ขึ้นไปอยู่ตีนเขาและต่อมาได้สร้างเป็น"วัดถ้ำวัวแดง"ในปัจจุปัน จะเห็นว่าที่ถ้ำวัวแดงจะมีสองวัดติดๆกันแต่คนส่วนใหญ่จะไม่รู้คิดว่ามีวัดเดียวคือวัดถ้ำวัวแเดง ซึ่งจริงๆมีสองวัดคือวัดแรกคือ"วัดเทพประธานพรถ้ำวัวแดง"อยู่800เมตรซ้ายมือก่อนถึง"วัดถ้ำวัวแดง"ซึ่งเป็นวัดที่สอง

หลวงปู่นวย กิตติปัญโญ
พระผู้เด็ดเดี่ยวเรืองฤทธิปากทางถ้ำวัวแดง
พ.อ.(พิเศษ)จักรชัย ราชภักดี หรือ หลวงปู่นวย กิตติปัญโญ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เบื่อหน่ายต่อการรบราฆ่าฟันแม้จะเป็นหน้าที่ก็ตาม ท่านจึงอุปสมบทที่วัดอินทรีย์สังวราราม จ.ชัยภูมิ โดยมีพระครูอินทรีย์ธรรมโสภิตหรือหลวงปู่บุญตา เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า
"กิตติปัญโญ"แปลว่า ผู้มีปัญญาอันบุคคลยกย่อง
โดยที่หลวงปู่นวย เคยรับราชการเป็นนายทหารสัญญาบัตรชั้นสูงมีผู้ใต้บังคับบัญชานับร้อยนับพันท่านจึงเป็นพระที่เข้มงวดในพระธรรมวินัยเอาจริงเอาจังกับการฝึกฝนร่ำเรียนพระเวทย์วิทยาคมจากอุปัชฌาย์ของท่านที่มีชื่อเสียงเรื่องลือในคุณวิเศษทั้งอุปัชฌาย์ของท่านยังเป็นศิษย์เอกของ"หลวงปู่โลกอุดร" การฝึกฝนปฏิบัติพระเวทย์วิทยาคมของท่านจึงเป็นวิชาในดงของหลวงปู่โลกอุดรล้วนๆ อีกทั้งท่านเอาจริงจังกับการร่ำเรียนฝึกฝนปฏิบัติจึงสำเร็จในพระเวทย์วิทยาคมที่ร่ำเรียนอย่างรวดเร็ว ในปีพศ.๒๕๒๗ หลังบวชปีเดียว
หลวงปู่บุญตาซึ่งเป็นอาจารย์ท่านได้ให้ท่านเดินทางมาอยู่"ถ้ำวัวแดง"เพื่อร่ำเรียนวิชากับ"บรมครูหลวงปู่โลกอุดร" พร้อมกับสหธรรมิกของท่านคือพระอาจารย์สุชีพ
อุตตโม โดยหลวงปู่นวยท่านสร้างวัดที่ปากทางก่อนถึงถึงถ้ำวัวแดงและได้ตั้งชื่อว่า "วัดเทพประธานพรถ้ำวัวแดง"ในเวลาต่อมา
หลวงปู่นวยเป็นพระที่พูดน้อยสันโดด พูดจริงทำจริงและดุมากจึงเป็นที่เกรงกลัวของลูกศิษย์ และด้วยความเคารพรักในหลวงปู่บุญตาครูบาอาจารย์ของท่านมากท่านจึงสักรูปนกอินทรีย์ไว้ที่ร่างกายท่านเพื่อระลึกถึงว่าท่านเป็นศิษย์ของวัดอินทรีย์สังวราราม จ.ชัยภูมิ

ปลัดขิกบินได้ ครั้งหนึ่งมีนักบินปีกหมุนของทหารบกได้มาที่วัดและถามว่า"วัดนี้มีเกจิอาจารย์เก่งๆไหม" คนที่ต้อนรับบอกที่นี่ไม่มีเกจิอาจารย์ดังมีแต่พระปฏิบัติเท่านั้น กลุ่มนักบินจึงเล่าว่าพวกเขาเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์มีอยู่วันหนึ่งกำลังบินอยู่แถวรอยต่อเทือกเขาเพชรบูรณ์และชัยภูมิ อยู่ๆมีวัตถุประหลาดลอยอยู่ในอากาศพอมองไปเห็นชัดเจนว่าเป็นปลัดขิกขนาดใหญ่ลอยในอากาศกำลังวิ่งมาบริเวณตีนเขาถ้ำวัวแดงจึงบินตามดูจนเห็นว่าปลัดบินลงมาที่วัดนี้เขากำหนดพิกัดไว้ชัดเจนวันนี้จึงมาตามหาหลวงปู่นวยก็ไม่ตอบรับพอดีนายทหารกลุ่มนี้เหลือบไปเห็นปลัดขิกตัวใหญ่ที่วางไว้ในกุฏิจึงพูดว่า"ปลัดตัวนี้แหละที่ผมเห็นบินแข่งกับผม" และครั้งหนึ่งศิษย์ใกล้ชิดที่ดูแลอุปถากหลวงปู่เล่าว่าเห็นหลวงปู่นวยเสกปลัดขิกในบาตรขณะที่ท่านกำลังปลุกเสกอยู่นั้นมีเสียงเกลียวกราวในบาตรสักพักปลัดขิกในบาตรก็วิ่งออกมานอกบาตรตกที่พื้นเต็มไปหมด

ย่นระยะทางไปบิณบาตรในเมือง ตามปรกติหลวงปู่นวยท่านจะพูดน้อยมาก วันหนึ่งหลวงปู่นวยเล่าให้แม่ชีพรเทวี ศิษย์ที่ดูแลอุปถากรับใช้หลวงปู่มานานหลายสิบปีว่า เช้าวันหนึ่งท่านได้พิจารณาด้วยอนาคตังสญานเห็นผู้ใจบุญท่านหนึ่งที่อยู่ในเมืองตั้งจิตปรารถนา
"อยากทำบุญใส่บาตรกับหลวงปู่โลกอุดร"แต่ไม่รู้ว่าจะใส่บาตรกับหลวงปู่โลกอุดรได้อย่างไร หลวงปู่นวยพิจารณาถึงความมุ่งมั่นของโยมท่านนี้แล้วจึงได้ไปรับบาตรแทนหลวงปู่โลกอุดรในเช้าวันนั้น ซึ่งระยะทางจากวัดไปในเมืองห่างกันเป็นร้อยกม.หากหลวงปู่นวยไม่ใช้วิชาย่นระยะทางแล้วเป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะไปบิณฑบาตรในเมืองได้และในวันนั้นก็มี"ต้มยำกุ้ง"จริงๆในบาตรท่าน

เรียกเหล็กไหลในอากาศมาแจกในวันไหว้ครูต่อหน้าศิษย์
ในพิธีไหว้ครูทุกปีที่วัดเทพประธานพรถ้ำวัวแดง ลูกศิษย์ทั้งหลายจะตั้งตารอคอยการทำพิธีเรียกเหล็กไหลโดยหลวงปู่นวยท่านจะตั้งพานขันธ์ห้าขันธ์แปดเคารพครูบาอาจารย์และเหล่าเทพพรหมเทวดาหน้ากุฏิของท่าน จากนั้นท่านจะยืนบริกรรมภาวนาเรียก"เหล็กไหล"จากอากาศมาที่มือท่าน ไม่ใช่ว่าแค่ชิ้นสองชิ้นท่านเรียกมาครั้งละนับร้อยชิ้นเหมือนดาวตกแจกลูกศิษย์ที่มารอรับ เหล็กไหลที่ท่านเรียกมามีสีดำแวววาวเป็นประกาย

 

สวัสดียามเช้าครับ

 

3195.พระกริ่งหล่อตัดช่อหล่อโบราณรุ่นฉลองเจดีย์ หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญญบรรพต อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย "รุ่นฉลองเจดีย์"ตอกโค๊ดกำกับ สร้างปี 2541 ให้บูชา 750 บาท พี่sunmkจองครับ

​

สร้างออกให้ทำบุญในคราวที่หลวงปู่ท่านมีอายุครบรอบ ๘๖ ปี ในวันที่ ๘ ม.ค. ปี พ.ศ.๒๕๔๑เป็นพระที่คนหารู้ไม่ว่านี่คือที่สุดของความเข้มขลัง กลับพากันมองข้ามไปถนัดตา หลวงปู่เหรียญท่านเมตาเททองหล่อพระด้วยตัวของท่านเอง ณ วัดอรัญบรรพต ในช่วงวันอายุวัฒนมงคลของท่านคือวันที่ ๘ - ๑๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๔๑ ในกาลนี้ได้มีช่อชนวนโลหะต่างๆ ซึ่งถูกรวบรวมมาจากพ่อแม่ครูอาจารย์ พระอริยะบุคคลศิษย์สายกัมมัฏฐานในพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เกือบจะทั้งหมดก็ว่าได้ เช่นช่อชนวนที่เหลือจากการหล่อพระกริ่งกับพระชัยวัตร รูปหล่อเหมือนลอยองค์ รูปหล่อโบราณของพระคณาจารย์ต่างๆของสายอีสานที่ราบสูง..เป็นต้น
หลวงปู่ท่านเคยปรารพอยู่เสมอๆว่า พิธีนี้จักมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทั้งหลวงพ่อหลวงปู่ หรือสหธรรมมิกอีกหลายๆรูปหลายๆท่าน ที่จะส่งกระกระแสจิตมาร่วมอธิฐานจิตปลุกเสก ประสทธิพลังพุทธาคมอันเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ ด้วยกฤตยาคมอันล้ำเลิศแห่งอภิญญาญาณทัศนะ เจตนาเพื่อสืบอายุพระศาสนา..หลวงปู่เหรียญท่านเพ่งรู้โดยวาระจิตของท่านครับ ตามวิสัยทัศน์แห่งพระอริยะบุคคลผู้หลุดพ้นจากโลกธรรม๘

 

3196.พระขุนแผนแสนเสน่ห์ พิมพ์แขนอ่อน หลวงปู่หลอด ปโมทิโต รุ่นแรก วัดใหม่เสนานิคม ให้บูชา 750 บาท

​

ด้านหน้าพระพุทธปางมารวิชัย ประทับบนบัลลังก์ ภายในซุ้มเรือนแก้วด้านหลังยันต์ทศบารมี หรือ บารมีสิบทัศ ในรูปองค์ยันต์แปดทิศสิบสองมุม ถอดพระอักขระได้ดังนี้ เตชะสุเนมะภูจะนาวิเว เสติ (บารมีสิบชาติสุดท้ายก่อนจะมาเป็นพระพุทธเจ้า) ตรงกลางเป็นยันต์นะจตุโร (บังเกิดโภคทรัพย์) สำเร็จด้วยยันต์เฑาะว์ขัดสมาธิจตุทิศ ความหมายของยันต์ทศบารมี คือการนำพระบารมีทั้ง ๑๐ พระชาติก่อนของพระพุทธเจ้า มาเป็นเกราะคุ้มป้องกันภัยจากภายนอก นะจตุโรคุ้มครองตรงกลางหัวใจ เฑาะว์ขัดสมาธิคุ้มครองธาตุทั้ง ๔
พระขุนแผน ลป.หลอด ปโมทิโต เด่นทางคุ้มรองป้องกันภัยอันตรายต่างๆ จากการกระทำทางคุณไสยใฝ่ต่ำต่างๆ สัมภเวสีผีเร่ร่อนทั้งหลายที่จะมารังควาน ดังนั้นอย่าได้นำไปใช้ในทางชู้สาว ประพฤติผิดในศีลข้อกาเมฯ เป็นสำคัญ พระขุนแผน ลป.หลอด นี้สร้างด้วยขนาดกำลังเหมาะใช้ได้ทั้งชายหญิง กว้าง ๒.๓๐ ซ.ม. สูง ๔.๓๐ ซ.ม. มวลสารในการสร้างพระขุนแผนแสนเสน่ห์ พิมพ์แขนอ่อน จากการบันทึกของ คุณสุรินทร์ ตั้งสันติภาพ มวลสารที่นำมาจัดสร้างได้รับความเมตตาจากหลวงพี่เขียว พระอุปัฏฐากรับใช้หลวงปู่หลอด และมวลสารสำคัญส่วนหนึ่งที่คุณสุรินทร์ เก็บรักษาไว้ ดังนี้
๑.พระอังคุลีธาตุ (ข้อนิ้ว) ของพระพุทธเจ้า
๒.ดินจากสี่สังเวชนียสถาน ประสูติ ตรัสรู้ ปฐมเทศนา และปรินิพพาน
๓.ดินจากมูลคันธกุฏี ที่ประทับของพระพุทธเจ้า
๔.ดินจากสถานที่พระพุทธเจ้าแสดงยมกปาฏิหาริย์
๕.ดินจากสถานที่บ้านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
๖.ใบโพธิ์จากต้นพระศรีมหาโพธิ์ สถานที่ตรัสรู้
มวลสารทั้ง ๖ นี้ ลป.หลอด มอบให้มาเป็นส่วนผสมหลักของพระขุนแผนแสนเสน่ห์ พิมพ์แขนอ่อนนี้

๗.ผ้าจีวร เกศาธาตุ โลมาธาตุ ชานหมาก ผงที่เหลือจากการสร้างวัตถุมงคล ปี ๓๙-๔๐
๘.ผงที่เหลือจากการสร้างพระสมเด็จปรกโพธิ์ รุ่นแรก
๙.ผงพรายกุมาร หลวงทิม อิสริโก วัดระหารไร่ ระยอง
๑๐.ผงพระสมเด็จ พระขุนแผน ลป.ปรง สาสโน วัดธรรมเจดีย์ สิงห์บุรี
๑๑.แร่กายสิทธิ์ต่างๆ พลอย-หินขวานฟ้า
๑๒.ว่าน ๑๐๘ ของหลวงปู่เสรี พระวิปัสสนาจารย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
๑๓.ผงพระแตกหักชำรุดต่างๆ เช่น พระวัดสามปลื้ม พระนาดูน พระบางขุนพรหม พระวัดประสาท ฯลฯ
๑๔.ธนบัตรเก่าที่ชำรุด
๑๕.ผงยาจินดามณี ตำรับวัดกลางบางแก้ว หลวงปู่เจือ ปิยสีโล
ฯลฯ
นอกจากนี้ยังมีว่านสำคัญเป็นมวลสาร เช่นว่านเสน่ห์ขุนแผน ว่านขุนแผนสะกดทัพ ว่านกุมารทอง ว่านม้าสีหมอก ว่านทางเมตตามหานิยม คงกระพันชาตรีอีก ส่วนหนึ่งซึ่งเกินจะกล่าว พระชุดนี้กดพิมพ์ภายในวัดใหม่เสนาทุกขั้นตอน

ในการกดพิมพ์พระ ลป.หลอด เป็นองค์ปฐมฤกษ์ขณะผสมมวลสารพึงภาวนาว่า อะสังวิสุโลปุสะพุภะ เมื่อปั้นเป็นก้อนกลมภาวนา สุนะโมโล เมื่อกดปั้มเป็นองค์พระภาวนา อะสังวิสุโลปุสะพุภะ สัตถุโน พุทโธ เมื่อหยิบองค์พระออกจากบล็อกแม่พิมพ์ ภาวนา นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ นะมะอะอุ เมื่อกดพิมพ์สำเร็จแล้วนำองค์พระไปผึ่งลมจนแห้งได้ที่ ก่อนนำไปเข้าพิธีปลุกเสกอีกครั้ง โดยมีฆราวาสผู้สำรวมอินทรีย์จิตภาวนาเป็นผู้นำไปเก็บรักษาและเจริญพระคาถาหัวใจพระไตรปิฏก ได้แก่ อาปามะจูปะฯ ทีมะสังอังธุฯ สังวิธาปุกะยะปะฯ ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐานขอรูปพิมพ์พระขุนแผนนี้ จงมีความขลังความศักดิ์สิทธิ์ ด้วยพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ ด้วยอำนาจพระเดช คือ คุณธรรม เมตตาธรรม กรุณาธรรม เมื่อเก็บรักษาองค์พระเรียบร้อยแล้ว หลวงปู่หลอด ปโมทิโต จะอธิษฐานจิตภาวนาเบิกพระเนตรให้เสร็จเป็นองค์พระในทีเดียวก่อนบริกรรมพระคาถาเฉพาะ... นอกจากองค์หลวงปู่หลอดเมตตาจิตเดี่ยวตลอดพรรษา ยังได้รับความเมตตาอธิษฐานจิตจากหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน หลวงปู่ศรี มหาวีโร เป็นกรณีพิเศษอีกด้วย

 

3197.พระสมเด็จอรหันต์ วัดป่ากิตติพร จ.เลย ปี 2539 ลป.ศรีจันทร์ วัณณาโภ วัดศรีสุทธาวาส จ.เลย เมตตาอธิฐานจิตตลอดไตรมาส (3 เดือน) ให้บูชา 450 บาท

​

มวลสารพระสมเด็จอรหันต์ วัดป่ากิตติพร
-ผง อังคาร ลป.เทศก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง
-ผง อังคาร ลป.ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์
-ผง อังคาร ลป.ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
-ผง อังคาร ลป.ชา สุภัทโธ วัดหนองป่าพง
-ผง อังคาร ลป.หล้า เขมมปัตโต วัดภูจ้อก้อ
-จีวร ลป.ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์
-จีวร ลป.แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง
-จีวร ลป.ศรีจันทร์ วัณณาโภ วัดศรีสุทธาวาส
-จีวร ลป.ชา สุภัทโธ วัดหนองป่าพง
-จีวร ลป.เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวก
-เกศา ลป.ชอบ ฐานสโม วัดป่าสัมมานุสรณ์
-เกศา ลป.แหวน สุจิณโณ วัดดอยแม่ปั๋ง
-เกศา ลป.ศรีจันทร์ วัณณาโภ วัดศรีสุทธาวาส
-เกศา ลป.เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวก

ลป.ศรีจันทร์ วัณณาโภ วัดศรีสุทธาวาส จ.เลย เมตตาอธิฐานจิตตลอดไตรมาศ 3 เดือน

 

3198.พระสมเด็จหลังจาร หลวงพ่อจรูญ วัดเฉลิมอาสน์ เนื้อผงพุทธคุณผสมผงเก่าหลวงพ่อกวย และครูบาอาจารย์สายในดง ให้บูชา 550 บาท

​

 

3199.ชุดนิรันตรายแดนใต้ หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว อธิษฐานจิตปลุกเสก ให้บูชาชุดละ 650 บาท (ได้รับพระ 3 องค์)

​

1).เหรียญใบจิกหลวง ปู่ทวด&อาจารย์นอง วัดทรายขาว จ.ปัตตานี ปี 2535 รุ่น"สร้างวิหาร" เหรียญทองแดงผิวไฟ
2).พระหลวงปู่ทวด พิมพ์ใหญ่ วัดเอี่ยมวรนุช กรุงเทพฯ ปี 2536 พระอาจารย์นองปลุกเสก
3).พระลป.ทวด พิมพ์พระรอดหลังยันต์หลวงปู่สิทธิชัย ท่านพระอาจารย์นอง ปี 2538


หลวงปู่ทวด (เหยียบน้ำทะเลจืด) พิมพ์ใหญ่ ปี 2536
พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว จัดสร้างเพื่อช่วยหาทุนบูรณะเสนาสนะวัดเอี่ยมวรนุช จัดสร้างรวม 2 พิมพ์
พิมพ์ใหญ่และพิมพ์เล็ก
มีส่วนผสม
1.) ผงสมเด็จพุฆจารย์(โต) ผงพระสมเด็จบางขุนพรหม ปี 2509, ปี 2517 และ ปี 2531 ของวัดใหม่อมตรส บางขุนพรหมฯ
2.) ผงพุทธคุณของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ที่ท่านได้มอบให้ไว้
3.) ผงว่าน 108 ผงว่านหลวงปู่ทวดรุ่นเก่าและดินกากยายักษ์ จากวัดช้างให้และวัดทรายขาว ท่านเจ้าอาวาสวัดช้างให้และพระอาจารย์นองมอบไว้ให้
ปลุกเสกเมื่อเสาร์ห้า วันที่ 27 มีนาคม ปี 2536 โดยพระครูธรรมกิจโกศล (อาจารย์นอง ธมมภูโต )

ขออนุญาติลงบทความ ในใบฝอยอธิบายเหตุการสร้างพระหลวงปู่ทวด
พระผงว่านลป.ทวด พิมพ์พระรอดหลังยันต์หลวงปู่สิทธิชัย ท่านพระอาจารย์นอง ปี 2538 รุ่นครบ 5 รอบของคุณทวีป ทวีพานิชย์
การสร้างเหรียญหลวงปู่ทวด และพระหลวงปู่ทวดเนื้อผงผสมว่านรุ่น"ครบ 5 รอบ" เนื่องจากผมได้เป็นลูกศิษย์ของท่านอาจารย์ทิม (พระครูวิสัยโสภณ) วัดช้างให้ ท่านอาจารย์เนื่อง (พระราชปัญญารังษี) และท่านอาจารย์นอง (พระครูธรรมกิจโกศล)วัดทรายขาว
ตั้งแต่ผมไปรับราชการที่ จ.ยะลา เมื่อปี พศ. 2504 จนถึงปัจจุบันเป็นวลา 35 ปี ท่านอจารย์ทั้ง 3 รูป ได้เป็นผู้ร่วมจัดสร้างพระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เนื้อว่านรุ่นแรก (พ.ศ. 2497) และรุ่นอื่นๆ ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะบูชาขอพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ เนื่องจากท่านอาจารย์ทิมและท่านอาจารย์เนื่องได้สิ้นบุญไปแล้ว ปัจจุบันคงเหลืออยู่แต่ท่านอาจารย์นองเพียงรูปเดียว ซึ่งเป็นผู้สืบทอดการสร้างพระหลวงปู่ทวด ท่านอาจารย์นองได้ทราบว่าผมจะมีอายุครบ 5 รอบ ในวันที่ 28 สิงหาคม 2538 ท่านได้บอกผมว่าเนื่องจากผมได้เป็นลูกศิษย์ของท่านมาเป็นเวลานานถึง 35 ปี และในปัจจุบันท่านก็มีอายุมากแล้ว(77 ปี) ท่านจึงมีความตั้งใจจะสร้างพระหลวงปู่ทวด ให้ผมไว้สักรุ่นหนึ่ง เพื่อให้ผมไว้มอบให้ผู้ที่ผมเคารพนับถือญาติสนิทมิตรสหาย ผู้ใต้บังคับบัญชาฯลฯ โดยจะจัดสร้างให้เป็นรุ่นพิเศษโดยเฉพาะ จึงขอให้ผมไปออกแบบรูปพระหลวงปู่ทวดให้มีพระพุทธลักษณะสวยงามและกระทัดรัด ท่านจะทำพิธีนั่งปรกบริกรรมปลุกเสกด้วยตนเอง และ ให้จัดสร้างแต่เนิ่นๆ ท่านจะได้นั่งปรกบริกรรมปลุกเสกนานๆ และหลายๆ ครั้ง ผมจึงเชื่อมั่นได้ว่าพระหลวงปู่ทวด รุ่นที่ระลึกครบ 5 รอบ ที่ท่านอาจรย์นองได้จัดสร้างให้เป็นรุ่นพิเศษจะต้องมีความศักดิ์สิทธิ์ มีความขลัง และมีพระพุทธคุณเช่นเดียวกับพระหลวปู่ทวดรุ่นก่อนๆ อย่างแน่นอน เพราะเป็นความตั้งใจจริงของท่านอาจารย์นองที่จะจัดสร้างพระหลวงปู่ทวดรุ่นนี้ให้เป็นรุ่นพิเศษจริงๆ
พระพุทธลักษณะของพระเนื้อผงผสมว่าน จัดสร้างเป็นพระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เนื้อผงผสมว่าน มีพระพุทธลัษณะแบบเดียวกับพระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เนื้อว่านรุ่นแรก พิมพ์เล็ก(พิมพ์พระรอด) ด้านหน้าเป็นรูปพระหลวงปู่ทวด ด้านหลังเป็นยันต์ของหลวงปู่สิทธิชัย โดยผสมเนื้อผงพระพุทธคุณของพระหลวงปู่ทวดรุ่นก่อน, เนื้อผงพระพุทธคุณของพระสมเด็จพระพุทธาจารย์ (โต พรหมรัษี) และพระเครื่องต่างๆ ที่ได้ผ่านการกระทำพิธีพุทธาภิเษกมาแล้วหลายครั้ง
ในการจัดสร้างพระหลวปู่ทวด รุ่นที่ระลึกครบ 5 รอบครั้งนี้ ท่านอาจารย์นองได้กรุณาให้ความเมตตาเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในกาจัดสร้างทั้งสิ้นและยังเป็นผู้ทำพิธีนั่งปรกบริกรรมปลุกเสกด้วยตนเองอีกด้วย
พิธีพุทธาภิเษกได้กระทำพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดช้างให้จ.ปัตตานี ในวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2538 โดยมีพระคณาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากจังหวัดภาคใต้จำนวน 9 รูป นั่งปรกบริกรรมปลุกเสก
พิธีปลุกเสก
ท่านอาจารย์นองได้กระทำพิธีนั่งปรบริกรรมปลุกเสกเดี่ยว ในวันอังคารที่ 6 มิถุนายน 2538 ณ พระอุโบสถวัดทรายขาว จ.ปัตตานี .....

 

3200. ชุดพระผงรุ่น"คูณ ลาภ" หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ปี 2517 ให้บูชา 750 บาท พระดียุคต้นของหลวงพ่อ(ได้รับพระ 4 รายการ)

​

1).พระผงนางพญา"คูณลาภ" หลวงพ่อคูณ ปี 2517
2).พระผงปิดตา"คูณลาภ" หลวงพ่อคูณ ปี 2517
3).พระผงพิมพ์หลวงพ่อเงินบางคลาน"คูณลาภ" หลวงพ่อคูณ ปี 2517
4).พระผงเกษรนิ้วโป้งหลวงพ่อคูณ รุ่น"เป็นหนึ่ง"(ลายนิ้วมือ) หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ปี 2538

หลวงพ่อคูณเสกไตรมาส พระผงนางพญาคูณลาภ รุ่นนี้ เป็นพระผงยุคแรกๆ ของพระราชวิทยาคม (คูณ ปริสุทโธ) วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
จัดสร้างโดย พระครูวิศิษฎ์สมโพธิ์ คณะ น ๑๖ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์ท่าเตียน) เป็นผู้สร้างเพื่อหาปัจจัยสมทบทุนบูรณะวัดบรรพตสุธาราม ต.วังงิ้ว อ.บางมูลนาค จ.พิจิตร
เนื้อผงผสมว่านจะออกสีขาวขุ่น ลักษณะคล้ายพระผงแก่น้ำมัน เนื้อพระละเอียดผิวจะตึง มีมวลสารเม็ดเล็กๆ สีขาว ดำ และแดง กระจายทั่วองค์พระ ส่วนที่แก่ผงพระสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์ จะเป็นสีเขียวแบบหินลับมีด มีมวลสารเม็ดสีขาวและดำกระจายทั่วองค์พระ
มวลสารที่ใช้ในการสร้าง อาทิเช่น
1.ผงพระสมเด็จวัดระฆังฯ
2.ผงเสากุฎิของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต) วัดระฆังฯ
3.ผงสมเด็จพระสังฆราช(ป๋า) วัดโพธิ์ฯ
4.ผงสมเด็จพระญาณสังวร
5.ผงสมเด็จจิตรลดา วัดบวรนิเวศ
6.ผงไตรมาสหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
7.ผงหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
8.ผงหลวงพ่อวัดปากน้ำ
9.ผงหลวงพ่อโสธร
10.ผงพระสมเด็จบึงพระยาสุเรนทร์ชำรุด
11.ผงพระวัดสามปลื้มชำรุด
12.ผงพระบาง ลำพูนชำรุด
13.ผงสมเด็จพระสังฆราช (แพ)
14.ผงพระกำแพงสรรค์ชำรุด
15.ผงไม้นางพญางิ้วดำ
16.ผงพระสมเด็จปิลันท์ชำรุด
17.ผงใบเงินใบทองทำน้ำพุทธมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกของหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
18.ลูกอมหลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอกจำนวนมาก
19.ลูกอมหลวงปู่ทิม อิสริโก วัดละหารไร่
20.เกศาหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ และว่าน 108
พิธีกรรมพิธีพุทธาภิเษก
หลวงพ่อคูณ ท่านอธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยวที่วัดสระแก้ว จังหวัดนครราชสีมา ในวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2517 พร้อมกับพระปรกใบมะขามรุ่นแรก ที่คุณเชิดศักดิ์ ภูมิสวัสดิ์ เป็นผู้จัดสร้าง
ท่านพระครูวิศิษฐ์สมโพธิ์ เล่าว่า...“ช่วงก่อนพิธี หลวงพ่อคูณ ได้เข้าจำวัดตั้งแต่ 1 ทุ่ม(19:00น.)พอถึง 5 ทุ่ม(23:00น.) ท่านก็ลุกขึ้นมาทำพิธีด้วยการสวดมนต์ และนั่งบริกรรมปลุกเสกโดยได้ดับไฟทั้งหมด จะมีก็แต่เทียนที่ใช้ในการปลุกเสกเท่านั้นพอถึงเวลาประมาณตีสองครึ่งเศษๆ ผู้นั่งสังเกตการณ์อยู่นอกกุฏิ ก็ต้องตื่นเต้นประหลาดเมื่อมีแสงสว่างเจิดจ้ามาจากกองวัตถุมงคลติดต่อกันเป็นระยะ ถึง 5 ครั้งด้วยกัน"...
พระผงรุ่นนี้เป็นรุ่นที่พิธีเยี่ยมยอดที่สุดรุ่นหนึ่งของหลวงพ่อคูณ เนื่องด้วยท่านปลุกเสกชนวนมวลสาร ถึงขนาดลงมือตำผง ผสมผงเอง มวลสารสุดยอดทั้งมวล ขนาดตำผงพระ ท่านยังกลับสาก เอาด้านแหลมตำ และกล่าวว่า จะเป็น..."ยอดทุกทาง เมตตามหานิยม แคล้วคลาดนิรันตราย และโชคลาภ"...
พอสร้างเสร็จเรียบร้อย หลวงพ่อให้ลูกศิษย์ทำลายแม่พิมพ์ โดยเอาตะไบถู แล้วโยนลงสระที่วัด จากนั้นนำมาแจกจ่ายให้ผู้ร่วมทำบุญ ทอดกฐิน ทอดผ้าป่าที่วัดสระแก้วจนหมด

การสร้างพระผงเกษรพิมพ์"นิ้วหลวงพ่อคูณ" รุ่น"เป็นหนึ่ง"(ลายนิ้วมือ) นี้
ศิษยานุศิษย์ได้ขออนุญาตสร้างพระหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธรุ่นที่แสดงถึงตัวท่าน เพื่อให้พุทธสกสนิกชนได้มีไว้สักการะบูชา
หลวงพ่อคูณ ท่านได้อนุญาตและได้แนะนำให้สร้างเป็น "พระเนื้อผงเกษรลายนิ้วมือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ"ขึ้นเพื่ออานิสงค์แห่ง
ความสำเร็จ
ความเป็นหนึ่ง
และความมีชัยชนะ
"นิ้วโป้งผงลายนิ้วมือหลวงพ่อคูณ"นี้ จัดสร้างด้วยมวลสารสุดยอด ถอดพิมพ์จากนิ้วมือของหลวงพ่อคูณโดยตรง แล้วนำพิมพ์ยางมาขึ้นแม่พิมพ์ เป็นแม่พิมพ์แบบเบ้าประกบ มีอักขระยันต์..."มะอะอุ ยานะยา นะมะพะทะ คูณ"...
มวลสารต่างๆที่ทางวัดบ้านไร่ เก็บสะสมเอาไว้ ได้แก่
ผงพุทธคุณต่างที่หลวงพ่อคูณปลุกเสก, พระเก่าหักชำรุดมากมาย, พระเก่าแตกหักของหลวงพ่อ, มวลสารพิเศษซึ่งได้จากใต้วิหารหลวงพ่อโสธร จ.ฉะเชิงเทรา, ยาเส้นเสกหลวงพ่อคูณ, ดอกไม้ดอกบัวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศ์ศานุวงศ์ พระประยูรญาติทั้งหมดทุกราชสกุลหลายๆพระองค์ที่มากราบสักการะองค์หลวงพ่อคูณที่วัดบ้านไร่ แล้วทางวัดได้รวบรวมเก็บดอกไม้ต่างๆนั้นไว้ ต่อมาได้รวบรวมเป็นมวลสารในการจัดสร้าง
และหลวงพ่อคูณ ท่านเมตตาปลุกเสกให้ตลอดไตรมาส ปี 2538
หลายๆท่านได้รับแจกเนื่องในงานบุญต่างๆของวัดบ้านไร่ แม้กระทั่งวันที่มีการชกมวยชิงแชมป์ระดับโลก ในงานวันเกิดหลวงพ่อคูณ ทุกวันที่ 4 ตุลาคม ของทุกๆปีที่วัดบ้านไร่ ในปี 2538หลวงพ่อคูณท่านก็เมตตาให้นำไปแจกคณะกีฬา และประชาชนที่มาร่วมงานในวันนั้น ปัจจุบันนิ้วมือเนื้อผงรุ่นนี้ได้หมดจากวัดไปนานแล้ว
อุปเท่ห์การบูชา และ การนำติดตัวเพื่ออานิสงส์ แห่งการมีชัยชนะทุกด้าน ทั้งคดีความชนะหมู่มารศัตรู ดีทุกด้านเยี่ยมยอด (เหมือนเวลาที่เจอเหตุการณ์ดีๆสิ่งดีๆก็จะชูนิ้วโป้งเป็นสัญลักษณ์ว่า "เยี่ยมยอด") มีชัยชนะ ความสำเร็จทุกด้าน สมคำว่าเป็นหนึ่ง เหมือนเป็นสิ่งแทนตัวเพื่อเป็นที่ระลึกถึงหลวงพ่อคูณท่าน ที่ท่านช่วยเหลือบรรดาลูกหลานศิษย์ของท่านไม่เลือกชั้นวรรณะให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายและสิ่งไม่ดีทั้งหลาย ประสบการณ์โชคลาภค้าขายก็มีให้เห็นอยู่เสมอ

 

3201.ลูกอมมงคล 38 ประการ ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง ให้บูชา 699 บาท คุณromegat จองครับ

​

จัดสร้างโดยลูกศิษย์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ( พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน) ท่านได้รวมรวมมวลสารสำคัญต่างๆในสายหลวงพ่อนำมาจัดสร้างเป็นลูกอมมงคล 38 (หมายถึงรวมสิ่งของมงคลให้ได้จำนวน 38 ชนิด จัดสร้างขึ้นเพื่อแบ่งกันบูชาในหมู่ลูกศิษย์ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก) โดยท่านได้ขออนุญาติหลวงพ่อนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก ประมาณปี 253กว่าๆ (ไม่แน่ใจวันพิธีพุทธาภิเษกครั้งแรก) โดยมีมวลสารสำคัญประกอบด้วย
1. ดินบริเวณที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้จากพุทธคยา
2. ใบโพธิ์จากพุทธคยา
3. ดินปิดตาพระประธานในโบสถ์
4. ดินหุ้มพระธาตุ
5) ผงวิเศษ หลวงปู่แก้ว + หลวงปู่ครูบาธรรมชัย
6. ลูกอมหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค
7. เกษาหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) วัดท่าซุง
8. จีวรของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง + จีวรหลวงปู่บุดดา ถาวโร + จีวรหลวงปู่สี + จีวรเจ้าคุณนรฯ + จีวรหลวงปู่ชุ่ม
9. ผ้ายันต์เกราะเพชร - หลวงปู่ปาน
10. ผ้ายันต์ธงมหาพิชัยสงครามของหลวงพ่อ
11. ผ้ายันต์ธงสีเขียว (ธงท่านปู่พระอินทร์) ของหลวงพ่อ
12. ผ้ายันต์ธงสีม่วง (ธงกรมหลวงชุมพร) ของหลวงพ่อ
13. ผ้ายันต์หลวงปู่บุดดา ถาวโร
14. ผ้ายันต์หลวงพ่ออุตมะ
15. สายสิจน์ในพิธีต่างๆของหลวงพ่อ + สายสิจน์พิธีเข้านิโรธสมาบัติหลวงปู่ชุ่ม + สายสิจน์ที่คล้องลูกนิมิตร วัดท่าซุง
16. หวายรัดลูกนิมิตร วัดท่าซุง
17. เทียนชัยในพิธีพุทธาภิเษกของวัดท่าซุง หลายพิธี
18. ขี้ธูปจากวัดหลวงตาแสงที่ซอยสายลม และโบสถ์วัดท่าซุง
19. น้ำมนต์ในพิธีต่างๆของวัดท่าซุง
20. องค์แก้วหรือทับทิมที่เข้าพิธีพุทธาภิเษก วัดท่าซุงหลายหน
21. ชานหมากของหลวงพ่อ + ชานหมากหลวงปู่ตื้อ + ชานหมากหลวงปู่สี
22. หางหมากของหลวงพ่อ
23. เชือกผูกประคำของหลวงพ่อ
24. เชือกผูกประคำของหลวงพ่ออุตตมะ
25. เชือกผูกประคำของหลวงปู่ธรรมชัย
26. เชือกผูกตระกรุดของหลวงพ่อจง
27. เชือกผูกตระกรุดของหลวงปู่ชุ่ม
28. เชือกผูกตระกรุดของหลวงปู่แก้ว
29. เชือกผูกตระกรุดของหลวงปู่ธรรมชัย
30. ผงอิทธิเจ หลวงพ่อครื้น จ.สุพรรณบุรี
31. ยาจินดามณี
32. ฤษีผสมแล้ว วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่
33. แป้งเสก หลวงปู่บุดดา
34. เชือกแดงของหลวงพ่อและเชือกแดงของหลวงปู่ชุ่ม
35. ดอกมะลิในพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร
36. ข้าวตอกในพิธีเป่ายันต์เกราะเพชร
37. เม็ดมะกล่ำเสก
38. ว่าน 108 ชนิด

จากนั้นท่านผู้สร้างได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกหลายหน แล้วจึงนำออกมาแจกจ่ายกันในกลุ่มของลูกศิษย์สมัยนั้น ซึ่งมวลสารต่างๆที่นำมาจัดสร้างทำให้เป็นที่ต้องการในหมู่ลูกศิษย์มากท่านจึงสร้างลูกอมมงคล 38 นี้อีกเป็นครั้งที่ 2
ส่วนครั้งที่ 2 นั้นท่านได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2535 และนอกจากมวลสาร 38 ประการตามแบบรุ่นแรกแล้ว ในรุ่นที่ 2 ยังเพิ่มมวลสารสำคัญๆ อีกดังนี้
39. พระบรมสารีริกธาตุประมาณ 1 - 5 องค์ทุกลูก
40. ชานหมากชาตรี
41. น้ำมันงาชาตรี
42. ผงที่ได้จากการตะไบแต่งองค์พระคำข้าวและพระหางหมาก ทั้งรุ่น 1 รุ่น 2 และรุ่นพิเศษ ซึ่งท่านผู้สร้างได้นำเข้าพิธีแล้วหลายครั้ง
43. เชือกผูกข้อมือ ของหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค (ผู้ติดตัวไว้กันจมน้ำ)
44. เกษาของหลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุง

 

ปิดรายการนี้ครับ

 

รับทราบครับ ขอบคุณมากครับ

 

​

 

3202.รูปหล่อกริ่งเหล็nไหล หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ นครศรีธรรมราช ปี 2528 สาเหตุที่เรียกว่ารูปหล่อกริ่งเหล็nไหล เพราะเม็ดกริ่งทำจากแร่เหล็nไหล ให้บูชา 800 บาท

​

คนในพื้นที่มักจะหวงแหนพระรุ่นนี้มาก
คนเฒ่าคนแก่มักจะพูดว่า บูชาองค์เดียวได้ถึง 2 คุณ (ภาษาใต้)(พุทธคุณจากพระหลวงปู่ที่ปลุกเสกจนเข้มขลัง และอิทธิคุณของlหล็กไหลธาตุกายสิทธิ์ที่อุดในองค์พระ)
รูปหล่อรุ่นนี้ถือว่าเป็นรูปหล่อปั้มรุ่นแรก ของหลวงปู่จันทร์ ขนาดองค์พระใกล้เคียงกับรูปหล่อปั้มก้นระฆังของหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค เป็นพระที่หลวงปู่จันทร์ตั้งใจสร้างและ ปลุกเสกนานถึงไตรมาส

หลวงปู่จันทร์ หรือ พ่อท่านจันทร์ สุเมโธ วัดทุ่งเฟื้อ ผู้สร้างควายธนูอันโด่งดัง ขลังขนาดต้องทำควายธนูครึ่งตัว เพราะถ้าทำเต็มตัวจะเฮี้ยนเกินไป เลยต้องลดเหลือครึ่งตัว และเป็นผู้ชำนาญด้านเหล็กไหลยิ่งนัก ถึงกับได้ชื่อว่าเป็น เทพเจ้าแห่งเหล็กไหล

สมัยที่พ่อท่านยังมีชีวิตอยู่ชื่อเสียงกิติศัพท์ของพ่อท่านจันทร์ โด่งดังขจรกระจายกว้างไกลเป็นอย่างมาก หลวงปู่จันทร์ผู้มีวิชาอาคมแก่กล้า แม้กระทั่ง “ขุนพันธรักษ์ราชเดช” มือปราบหนังเหนียว ยังมาฝากตัวเป็นศิษย์ขอเรียนวิชา

พล.ต.ต.ขุนพันธรักษ์ราชเดช เคยเล่าว่า พ่อท่านจันทร์สามารถเรียกเหล็กไหลที่มีอยู่ตามถ้ำศักดิ์สิทธิ์ออกมาและตัดด้วยอาคมได้

และยังฝังเหล็กไหลเข้าไปในร่างกายคนได้โดยการใช้อาคม ไม่ต้องผ่าฝังแต่ให้เอามือกำไว้แล้วเสกด้วยเวทย์มนต์เข้าไปและสามารถเรียกออกมาจากตัวเมื่อฝังแล้วก็ได้ ท่านอาจารย์ขุนพันท่านว่าท่านเห็นกับตามาแล้วเมื่อครั้งยังเป็นตำรวจอยู่

หลวงปู่จันทร์ สุเมโธ เป็นพระเกจิอีกที่มรณะภาพแล้วสรีระสังขารไม่เน่าเปื่อย “อมตะสังขาร” พระผู้มีเมตตาธรรม ญาณหยั่งรู้ชั้นสูง มีมหิทธานุภาพอาคมขลัง เก่งกล้าวิชาอาคม สังขารแข็งดุจหิน แม้เวลาล่วงเลยมาหลายปี

หลวงปู่จันทร์ ท่านได้ศึกษาวิชาทางวิปัสสนาฯ จาก พระครูอรรถธรรมรส (พ่อท่านซัง) วัดวัวหลุง พ่อท่านเอียด (ดำ) วัดในเขียว พ่อท่านเอียด (ขำ) วัดหรงบน พ่อท่านทอง วัดดอนสะท้อน ฯลฯ ท่านจึงมีเวทวิทยาคมขั้นสูง สามารถเรียกและตัดเหล็กไหลได้
หลวงปู่จันทร์ หรือ พ่อท่านจันทร์ เกิดวันพฤหัสบดี ที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๔๕๓ ณ บ้านหลาแก้ว อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เมื่ออายุครบ ๒๐ปี ก็ได้อุปสมบทที่วัดศาลาแก้ว มีพระครูพนังศรีวิสุทธิพุทธิภักดี เป็นพระอุปัชฌาย์ อาจารย์เห้ง วัดศาลามีแก้ว เป็นพระกรรมาวาจารย์ หลวงพ่อจันทร์ ได้ฉายาว่า “สุเมโธ” หลวงปู่จันทร์ ได้เดินธุดงค์ไปทั่วทั้ง ๑๔จังหวัดภาคใต้



อักขระปรากฏ
คราวหนึ่ง พ่อท่านจันทร์ สุเมโธ ท่านเดินทางธุดงค์อยู่ในป่าช้าจังหวัดพัทลุงขณะที่ท่านเข้าพักแขวนกลดไว้กับ กิ่งไม้ในป่าช้าวัดแห่งหนึ่งบริเวณใกล้ริมคลองป่าเรียบร้อยแล้ว “หลวงพ่อจันทร์”ท่านก็เดินจงกลมคลายความเหน็ดเหนื่อยพอสมควรแล้ว ท่านก็นั่งสมาธิภาวนาในกลด เพราะเป็นช่วงพลบค่ำพอดี ความอัศจรรย์เกิดขึ้นแก่จิต ขณะ ที่นั่งสมาธิจนจิตค่อยสงบลงแล้วสติสัมปชัญญะสมบูรณ์แจ่มใสมาก “หลวงพ่อจันทร์”ท่านได้เล่าให้บรรดาศิษย์ฟังภายหลังว่าจิตสงบดีแล้ว เหตุการณ์การอันอัศจรรย์ก็ปรากฏขึ้น ทำให้เห็นอักขระแบบภาษาขอมลอยขึ้นเด่นชัด จากริมแม่น้ำลำป่า ไปอยู่ในท่ามกลางอากาศก็ได้กำหนดอักขระเหล่านั้นมาพิจารณา แล้วทำอุบายเพ่งเป็นกสิณ โดยอาศัยอักขระโบราณที่ปรากฏมาเป็นนิมิตรหมายแห่งการบำเพ็ญเพ่งเป็นองค์กสิณ ยิ่งนานวัน ความสงบยิ่งแนบแน่นตามลำดับ

พยัคฆามาเยี่ยม
เมื่อความมืดมาปกคลุมไปทั่วลุ่มน้ำลำป่า จังหวัดพัทลุง บริเวณภายนอกกลดอากาศเย็นเป็นพิเศษ ขณะพ่อท่านจันทร์และหมู่คณะของท่านนั่งกำหนดจิตอยู่ ทันใดนั้นความเงียบก็ถูกทำลายด้วยอำนาจเสือโคร่งตัวโต เสียงร้องของมันขู่ข่มขวัญ ทุกคนที่ได้ยิน มันเดินไปวนมาข้างๆกลดเพราะได้กลิ่นมนุษย์ พระธุดงค์ดังกล่าวได้ปฏิบัติตามคำเตือนให้อยู่ในความสงบ นั่งปฏิบัติกันโดยปกติ เสือเหมือนมาทดสอบจิตใจเมื่อพระธุดงค์ทุดท่านมีมานะอดทนที่แน่วแน่ พร้อมทั้งแผ่เมตตาไปยังเสือตัวนั้นในที่สุดเสือโคร่งก็สิ้นความพยายามผละ หายกลับไปในป่าลึก

ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๙๑ พ่อท่านจันทร์ สุเมโธ ท่านได้จำพรรษาที่ วัดทุ่งเฟื้อ เพราะเล็งเห็นว่าเหมาะแก่การเจริญวิปัสสนาสมาธิเป็นอย่างยิ่ง จากอดีต วัดทุ่งเฟื้อ ที่เคยมีสภาพทรุดโทรม ก็ได้รับการพัฒนาเปิดป่า เปลี่ยนเป็นศาลาโรงธรรม หอระฆัง พระอุโบสถและกุฏิสงฆ์ขึ้นมาตามลำดับ ต่อมา พ่อท่านจันทร์ ก็ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส วัดทุ่งเฟื้อ อย่างสมบูรณ์ มีชาวบ้านแถวนั้นเคยเล่าต่อๆกันว่าพ่อท่านจันทร์สามารถยืดตัวให้ใหญ่ และสูงเท่าต้นตาลได้ หลายต่อหลายครั้งที่พ่อท่านแสดงให้เห็น ส่วนมากจะเป็นการเตือนชาวบ้านที่ออกหาปลาในบริเวณวัด หรือหาปลาในวันพระ เมื่อชาวบ้านเข้าไปกราบ ท่านก็จะสั่งสอนว่าบริเวณวัดเป็นเขตอภัยทาน หรือวันพระไม่ควรฆ่าสัตว์ตัดชีวิต

พระสงฆ์ต่างจังหวัดและชาวบ้านต่างมาฝากตัวเป็นศิษย์ท่านเป็นจำนวนมาก เพื่อศึกษาตำราพิชัยสงคราม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องวิชาคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด มหาอุด แต่งคนเลิศดีนักแลฯ ถือเป็นวิชาสุดยอดทั้งนั้นและ หลวงพ่อจันทร์ ก็เคยเดินทางไปศึกษาวิชากับ อาจารย์เอียดดำ วัดในเขียว อีกด้วย

กฎแห่งไตรลักษณ์มีอย่างไรความจริงก็ย่อมปรากฏเช่นนั้น หลวงพ่อจันทร์ ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติจนเกิดฌานจนแก่กล้า สามารถรู้เหตุการณ์ต่างๆแม้แต่วันตาย ดังบันทึกของคณะศิษย์วัดทุ่งเฟื้อ ทุกๆสาย หลวงปู่จันทร์ เป็นพระปฏิบัติสามารถรู้เหตุการณ์ต่างๆแม้แต่วันมรณภาพ หลวงปู่จันทร์ ท่านก็หลับตาลงเป็นครั้งสุดท้ายกำหนดจิตเข้าสู่สมาธิ เป็นลำดับเวลา ๐๘.๓๐น.บรรดาลูกศิษย์ ที่เฝ้าดูอาการของ เห็นผิดสังเกต เพราะศีรษะของท่านโน้นเอียงลงมาเล็กน้อย ซึ่งปกติท่านจะนั่งตัวตรงไม่ไหวติง ศิษย์ที่อยู่ใกล้ชิดท่านย่อมรู้ดี จึงทราบว่า หลวงปู่จันทร์ หรือ พ่อท่านจันทร์ สุเมโธ วัดทุ่งเฟื้อ ได้มรณภาพแล้วการนั่งมรณภาพของ หลวงพ่อจันทร์ เมื่อวันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ ได้ลือกระฉ่อนไปทั่วสารทิศเมืองนครศรีธรรมราช สรีรสังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย สังขารของท่านแข็งดุจหิน

 

.........

 

3203.ล็อกเกตพระแก้วมรกต หลวงพ่อสมบูรณ์ กันตสีโล วัดป่าสมบูรณ์ธรรม พิษณุโลก ให้บูชา 600 บาท

​

มวลสารด้านหลัง ใช้ผงพุทธคุณรวมหลายอย่าง
เกศา แร่ดูดทรัพย์ พลอย หิน ที่องค์หลวงพ่อสมบูรณ์เมตตาอธิษฐานจิตไว้ เจตนาการสร้างเพื่อสมทบทุนสร้างตึกอุบัติเหตุโรงพยาบาลปากชม จังหวัดเลย

 

3204.ล็อกเกต"สำเร็จรุ่นแรก"ฉากขาวลายผ้ายอดนิยม หมายเลข ๑๖๕๕ จารหมึกด้านหลัง ให้บูชา 750 บาท

​

หลวงปู่นาม วัดน้อยชมภู่ ที่วัดเปิดให้บูชาวันแรกก็หมดลงอย่างรวดเร็วมีเกศาหลวงปู่ (เดิมๆมาจากวัด) ล็อกเกตรุ่นนี้น่าสะสม
๑. เป็นล็อกเกตของหลวงปู่นาม วิธีการสร้างโดย ล็อกเกตนี้ทำจากแผ่นโลหะ พออัดรูปไปแล้วก็ต้องเอาไปเผาให้รูปอยู่ติดกับแผ่นโลหะ จากนั้นก็เคลือบผิวด้วยใยหินและเผาเคลือบเงา เหมือนเครื่องเคลือบเซรามิค ทำให้อยูไปอีกร้อยปีก็ไม่ซีดไม่จาง ติดชัดอยู่อย่างนั้น
๒. มวลสาร ด้านหลังอุดผงพุทธคุณ พระเก่า ผงเทพนิมิต ( ผงปู่คง ) ผงพรายพระสำเร็จ ผงสมเด็จวัดระฆัง ผงพระปิลันทร์ที่แตกหักและยังมี จีวร เกศา หินเขี้ยวหนุมาน ตะกรุดสาลิกา
๓. การปลุกเสกที่ยาวนาน เข้าพิธีแรกตอนเป็นองค์ล็อกเกตเปล่าๆด้านหลังยังไม่ได้อุดผง ตั้งแต่วันเสาร์ ๕ วันที่ 20 มีนาคม 2553 ( เสกพร้อมกับเหรียญเงินล้าน ) และนำไปอุดผงด้านหลัง จากนั้นก็นำกลับมาไว้ที่ห้องหลวงปู่อีกครั้ง หลวงปู่ท่านก็เสกเรื่อยๆๆมา พอมีเสกรูปหล่อ ๕ นิ้วและพระกริ่งก็นำไปเสกด้วยครับ เสกไตรมาสและต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 10 ธันวาคม 2553 เสกประมาณ ๙ เดือนครับ
๔. มีโค๊ตและหมายเลขชัดเจนครับ ล็อกเกตหลวงปู่นามมีคำว่า สำเร็จ เป็นคำพรที่หลวงปู่ท่านให้ใครได้ล็อกเกตนี้ไปอธิฐานบนบาน อะไรสำเร็จทุกอย่าง ด้วยคำพูดด้วยความเมตตาของหลวงปู่ว่า รูปเราจะอยูช่วยเขาอีกหลายร้อยปี