><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    4065.เมตตาโชคลาภแคล้วคลาด มวลสารใบลาน ลพ.ปาน วัดบางนมโค
    พระผงกริ่งรุ่นแรก วัดบรมวงศ์ ลพ.จง,ลพ.ยิ้ม,ลพ.ไวทย์,ลป.อยู่,ลป.แป้น ร่วมปลุกเสกมหาพิธี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    -28a9460c3173d49f.jpg

    444782274_2364625863746404_4737460477794309341_n-jpg.jpg
    พระผงกริ่งรุ่นแรก หลวงพ่อไวย์ วัดบรมวงศ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื้อดิน ผสมผงพุทธคุณและใบลานบนเพดานโบสถ์ที่หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2485 พระผงกริ่งรุ่นนี้ถอดพิมพ์จากพระกริ่ง ท่านเจ้าคุณศรี(สนธ์) วัดสุทัศนฯ

    สร้างในสมัยที่ หลวงพ่อไวทย์ ยังจำพรรษาอยู่ วัดสระเกศ เมื่อท่านกลับมาพักที่บ้านเดิมคือ วัดสุธาโภชน์ ครั้งใด ท่านต้องนำหนังสือใบลานเก่าซึ่งเก็บไว้บนเพดานโบสถ์ที่หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค มาสร้างไว้ โดยนำหนังสือใบลานมาทำความสะอาดอยู่เสมอ
    หนังสือใบลานที่ชำรุดผุพังท่านก็นำมาเผาเป็นผงสร้างเป็นพระเครื่องเนื้อผงใบลานขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2485 มีทั้งหมด 10 พิมพ์ด้วยกัน มีพระประจำวัน 8 พิมพ์,พระพิมพ์ห้าเหลี่ยม 2 พิมพ์
    1).พิมพ์แบบพระกริ่งครึ่งซีกหรือพระกริ่งห้าเหลี่ยมของ เจ้าคุณศรี(สนธิ์)วัดสุทัศน์
    2).พระรัศมีประภามณฑลฐานผ้าทิพย์ เป็นพิมพ์ที่หลวงพ่อไวทย์ได้นิมิตขณะเจริญสมาธิ

    สาเหตุที่พระผงรุ่นแรกหายาก มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อครั้งหลวงพ่อไวทย์กดพิมพ์พระเสร็จใหม่ๆ ได้นำพระใส่ถาดผึ่งลมไว้ให้แห้ง นายใช้หลานชายแม่ชีหวล เกตุศักดิ์ ผ่านมาเห็นเข้าด้วยความคึกคะนองจึงลองชักปืนจ่อยิงใส่ถาดที่ตากพระอยู่เป็นพัลวัน แต่ปรากฏว่ายิ่งเท่าไหร่ๆไม่ออก!!? แช๊ะ แช๊ะ แช๊ะ ลูกปืนด้านหมด แต่พอยกปืนยิงขึ้นฟ้า กลับลั่น ปั๊ง..!!!!
    พระภิกษุ สามเณร ศิษย์วัดและชาวบ้านที่ทราบข่าวแห่กันมาหยิบพระกันไปทั้งๆที่พระยังเปียกอยู่
    หลวงพ่อไวทย์ท่านต้องเรียกให้ทุกๆคนนำพาระกลับมาคืน เพราะว่าท่านยังจะจัดพิธีพุทธาภิเษกขึ้นอีก ทุกคนจึงต้องนำมาคืน แต่บางคนไม่อยากคืนให้ ด้วยเหตุผลว่า"ไม่ต้องเข้าพิธีก็ดีแล้ว"

    พิธีพุทธภิเษก
    - ณ พระอุโบสถ วัดสุธาโภชน์ อย่างเงียบๆ ตลอดคืนถึงรุ่งเช้าเพียงคืนเดียว หลวงพ่อไวทย์ ได้นิมนต์พระคณาจารย์ที่เคารพนับถือในอยุธยาที่อยู่ในเขตใกล้เคียงมาร่วมปลุกเสก คือ
    1.) หลวงพ่ออยู่ วัดบ้านแพน
    2.) หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
    3.) หลวงพ่อเปลื้อง วัดคู้สลอด
    4.) หลวงพ่อเนตร วัดใหม่หนองคต
    5).หลวงพ่อปี วัดกระโดงทอง

    และพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคมแห่งวัดเจ้า เจ็ดในอีก 5 องค์คือ
    6.) หลวงพ่อยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน
    7.) หลวงพ่อโฉม วัดเจ้าเจ็ดใน
    8.) หลวงพ่อคำ วัดเจ้าเจ็ดใน
    9.) หลวงพ่อแก้ว วัดเจ้าเจ็ดใน
    10.) หลวงพ่อใหญ่ วัดเจ้าเจ็ดใน
    และ 11.)หลวงพ่อไวทย์ วัดบรมวงศ์ พิธีเพ่งสมาธิจิตปลุกเสกด้วยพุทธาคมเพื่อเป็นการเพิ่มฤทธิ์ให้เข้มขลังยิ่งขึ้น ตามกรรมวิธีตำราโบราณ



    และในตอนเย็นก่อนเริ่มพิธีมี

    หลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่ สิงห์บุรี บังเอิญผ่านมาแวะเยี่ยมหลวงพ่อไวทย์จึงนิมนต์หลวงพ่อแป้นร่วมปลุกเสกด้วย


    วัตถุมงคลของ หลวงพ่อไวทย์
    จัดเป็นของดีที่หลายคนมองข้าม ท่านเป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูงมาก วัตถุมงคลของท่านจะปลุกเสกเน้นทาง เมตตา โชคลาภ แคล้วคลาด เป็นหลัก จะตามด้วยวิชาคงกระพัน เรื่องพุทธคุณในวัตถุมงคลของท่านเต็มเปี่ยมเพียบพร้อมอยู่แล้ว





    ***********************************************

    หลวงพ่อไวย์ วัดบรมวงศ์

    หลวงพ่อไวทย์ท่านเรียนวิชาหาความรู้จากสุดยอดพระเกจิอาจารย์หลายท่าน คือ
    - พระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ
    - พระหมอ หลวงพ่อปาน
    - พระเกจิอาจารย์ หลวงพ่อจง
    - พระเมตตาไหลหลง หลวงพ่อยิ้ม

    ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อไวทย์ท่านไปเรียนวิชาตะกรุดสาริกาสามกษัตริย์ กับหลวงพ่อยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน แต่เมื่อหลวงพ่อไวทย์ไปถึงวัดเจ้าเจ็ดใน หลวงพ่อยิ้ม ล่วงรู้เหตุการล่วงหน้าได้นั่งรอท่านอยู่นานแล้ว ทั้งหมดเป็นที่น่าแปลกใจกับหลวงพ่อไวทย์มาก

    "พระดี ที่ไม่ควรมองข้าม"
    หลวงพ่อไวทย์ อินทวังโส ท่านเป็นสหายกับ หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย, หลวงพ่อวาสน์ วัดบ้านแพน หลวงพ่อปี วัดกระโดงทอง และหลวงพ่อ
    กุหลาบ วัดรางจระเข้

    หลวงพ่อไวทย์ ท่านเป็นพระที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา ไม่เคยดุไม่เคยด่า ใจดี เป็นพระที่สมถะเป็นอย่างมาก ขนาดท่านเป็นถึงเจ้าคณะจังหวัด แต่กุฏิของท่านก็ยังคงเป็นเพียงกุฏิเล็กๆ เล็กขนาดที่ว่า คนที่สูงๆ ยืนนี่หัวชนเพดาน หลวงพ่อไวทย์ เป็นพระเกจิมากครู มากอาจาย์ วิชาดูดวง วิชาผูกดวงชะตา เป็นหนึ่งในวิชาที่ีท่านชำนาญ
    สมเด็จพระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ ท่านได้ สอนวิชาเหล่านี้ให้กับ หลวงพ่อไวทย์
    นอกจากวัตถุมงคลของท่านแล้ว ของดีอีก อย่างก็คือ "ยาไวทย์ประสิทธิ์" แต่ชาวบ้านจะเรียกว่า "ยาลมหลวงพ่อไวทย์"คล้ายยาวาสนาจินดามณี ของสายวัดกลางบางแก้ว นครปฐม ยาไวทย์ประสิทธิ์ จึงเปรียบเสมือนดั่ง ยาจินดามณี ฉบับจังหวัดอยุธยา (วัตถุมงคลเนื้อผงของท่าน ก็มีเนื้อยาผสมอยู่ )

    ยาเม็ดไวทย์ประสิทธิ์...
    หลวงพ่อไวทย์ท่านเริ่มทำยาเม็ดไวทย์ประสิทธิ์ ครั้งแรก เมื่อปีพ.ศ 2497 ยาเม็ดประกอบด้วยสมุนไพรแผนโบราณและพระพุทธมนต์โอสถของหลวงพ่อไวทย์ นอกจากมีสรรพคุณสูง สามารถบำบัดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้อย่าง
    วิเศษแล้ว ยังนำมาเป็นเครื่องรางของขลัง ใช้แก้อาถรรพณ์ถอนคุณไสยต่างๆ ทั้งยังใช้คุ้มครองตัวได้เป็นอย่างดี ยาทุกเม็ดท่านจะทำพิธีเพ่งสมาธิจิตปลุกเสกด้วยพุทธาคมเพื่อเป็นการเพิ่มฤทธิ์ยาให้เข้มขลังยิ่งขึ้น ตามกรรมวิธี ในตำราโบราณ

    หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    ยังกล่าวชม หลวงพ่อไวทย์ ว่าเป็นพระที่ปฏิบัติ ดี ปฏิบัติ์ชอบ ท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ในวันที่หลวงพ่อไวทย์ท่านมรณะภาพ หลวงปู่ดู่ ท่านบอกลูกศิษย์ให้ไปเอาน้ำรดร่างองค์ท่านมาอาบกิน
    เป็นมงคล ท่านมรณะภาพ 3 วัน กรรมการวัดไปจับองค์ท่านเหมือนคนนอนหลับ ยกแขนได้ไปมาไม่แข็ง ไม่มีกลิ่น

    เรื่องประสบการณ์จากลูกศิษย์
    มีอยู่ว่า ลูกศิษย์ผู้นี้ได้ถอยรถปิคอัพจะไปธุระปรากฏว่าได้ยินเสียงคนหลายคนตะโกนบอกว่า "รถทับเด็กๆๆ.." จึงจอดรถลงมาดู ปรากฏว่าเด็กที่ถูกรถทับเป็นหลานชายของตัวเองชื่อ นก อายุประมาณ 6-7 ขวบ ตัวผอมเล็กมากเป็นเด็กค่อนข้างแกน รถที่ถอยมายังทับอยู่บนตัวเด็ก จึงเรียกให้คนที่อยู่ใกล้ๆมาช่วยกันเลื่อนรถเพื่อเอาหลานออกมา เสร็จแล้วแกรีบบึ่งรถ
    พาหลานชายไปโรงพยาบาล จุดแรกที่ไปคือที่ อ.วังม่วง แต่ก่อนเป็นเพียงกิ่งอำเภอ หมอเช็คดูแล้วบอกไม่เป็นไร ลูกศิษย์ผู้นี้ยังไม่สบายใจ ขับรถพาหลานไปที่โรงพยาบาลในอำเภอพระพุทธบาท เอ๊กซเรย์ด้วย คำตอบที่ได้รับคือไม่เป็นไร หมอบอกคุณล้อผมเล่นหรือเปล่า ทั้งๆที่หน้าอกของหลานชายยังมีรอยล้อรถติดให้เห็นอยู่ ลูกศิษย์คนนี้พานกหลานชายไปเช็คอีกที่คือที่โรงพยาบาลในจังหวัดลพบุรี เหมือนเดิมคือปรกติทุกอย่าง วันนั้นนกห้อยพระของหลวงพ่อไวทย์เหรียญเล็กรุ่นพิเศษ (รุ่นนี้ออกที่วัดบรมวงศ์) เพียงเหรียญเดียวหลังจากวันนั้นมาพอที่บ้านลูกศิษย์จะมีงาน จึงได้นิมนต์หลวงพ่อไวทย์มาฉันเพล หลวงพ่อท่านเจอนก และถามนกเด็กชายว่า" เป็นไงรถหนักไหมลูก" นกตอบหลวงพ่อว่า "รถเบาครับหลวงปู่"
    จากคำเล่าปากต่อปาก ของนักเลง แถว อ.เสนาในสมัยก่อนนั้น เล่ากันว่าเหรียญรุ่นนี้แคล้วคลาดคงกระพันเป็นเลิศ โดนจ่อยิงระยะเผาขน ลูกกระสุนปืนออกและยิงโดน แต่ยิงไม่เข้าระคายเคืองผิวหนังเลย


    การสร้างอิทธิมงคล
    หลวงพ่อไวทย์ เป็นพระอาจารย์ที่ชอบสร้างพระมากท่านจึงได้สร้างพระประธานและพระพุทธรูปทั้งที่มีองค์ขนาดใหญ่และองค์เล็กประดิษฐานไว้หลายวัดด้วยกัน โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่ชำรุดแตกหักซึ่งมีมากในอยุธยา ถ้าท่านพบเห็นเข้าเป็นต้องนำมาปั้นต่อเศียรต่อแขนบูรณะตกแต่งให้เป็นองค์สมบูรณ์ตามเดิมด้วยฝีมือท่านเอง
    ส่วนการสร้างพระเครื่องหลวงพ่อไวทย์ก็ชอบสร้างมากเช่นกัน และสร้างมานานแล้วตั้งแต่ประมาณปีพ.ศ. 2485 เป็นต้นมาจนถึงปลายปีพ.ศ. 2530



    สภาพเก่าเดิม พุทธคุณหายห่วง นี้แหละครับของดีราคาเยาว์ ของท่านที่ทุกคนสามารถมีไว้ในครอบครองได้ แบ่งให้บูชา 567 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณsupachaipnu จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2024
  2. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    4066.สวยเดิมๆของดีเมืองเหนือ เหรียญพระเจ้า 700 ปี ศรีเมืองเชียงใหม่
    พระสังฆราช,ลป.ศรี,ลพ.อุตตมะ และพระคณาจารย์กว่า600รูปร่วมอธิษฐานจิต


    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    -700-749ec61b8fa37501.jpg

    image-1185_57f33190-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg image-125f_57f33190-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    เหรียญพระเจ้า 700 ปี ศรีเมืองเชียงใหม่ เนื่องในงานสมโภช700ปี เชียงใหม่ เนื้อทองแดงรมน้ำตาล ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อวัน ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2538 สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธาน จุดเทียนชัย

    รายนามพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วสารร่วมอธิฐานจิต มีดังนี้
    1.สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี วัดราชบพิตร กทม.
    2.สมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดสระเกศ กทม.
    3.พระธรรมปัญญาบดีวัดปากน้ำ กทม.
    4.พระธรรมสิริสารเวที วัดบวรนิเวศ กทม.
    5.หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดศรีสุทธาวาส เลย
    6.หลวงตาจันทร์ วัดป่าชัยรังสี สมุทรสาคร
    7.หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา
    8.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวกการาม กาญจนบุรี
    9.หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม ร้อยเอ็ด
    10.หลวงปู่ทองบัว วัดโรงธรรมสามัคคี เชียงใหม่
    11.หลวงพ่อสมชาย วัดเขาสุกิม จันทบุรี
    12.หลวงปู่เหรียญวัดอรัญญบรรพต หนองคาย
    13.พระญาณทีปหลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน เลย
    14.หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ นครราชสีมา
    15.หลวงพ่อทอง วัดอโศการาม สมุทรปราการ
    16.หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย นครพนม
    17.พระอาจารย์มหาถาวร วัดปทุมวนาราม กทม.
    18.หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
    19.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    20.พระอาจารย์ไพบูลย์ วัดอนาลโย พะเยา
    21.หลวงพ่อเปลื้อง วัดบางแก้วผดุงธรรม พัทลุง
    22.หลวงปู่แว่น วัดถ้ำพระสบาย ลำปาง
    23.หลวงปู่หลวง วัดป่าสำราญนิวาส ลำปาง
    24.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี เชียงใหม่
    25.ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ลำพูน
    26.ครูบาน้อย วัดบ้านปง เชียงใหม่
    27.ครูบาสร้อย วัดมงคลคีรีเขตสายเมือง ตาก
    28.ครูบาสามีแสงหหล้า วัดพระธาตุสายเมือง พม่า
    29.ครูบาบุญชุ่มวัดพระธาตุดอนเรือง พม่า
    30.หลวงพ่อวิชัย วัดถ้ำผาจม เชียงราย
    31.หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก ประจวบคีรีขันธ์
    32.พระครูสิงหวิชัย วัดฟ้าฮ่าม เชียงใหม่
    33.ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง เชียงใหม่
    34.ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล เชียงใหม่
    35.หลวงพ่อทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง เชียงใหม่
    36.หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน สิงห์บุรี
    37.หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ สมุทรสงคราม
    38. หลวงปู่บุญ วัดบ้านนา ระยอง
    39. หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า ระยอง
    40.พระราชมงคลญาณ วัดปากน้ำ กทม.
    41.พระภาวนาวิสุทธาจารย์ วัดไตรมิตร กทม.
    42.หลวงปู่บุญเพ็ง วัดถ้ำกลองเพล อุดรธานี
    43.หลวงปู่มหาปราโมทย์ วัดป่านิโครธาราม อุดรธานี
    44.พระอาจารย์เปลี่ยน วัดอรัญวิเวก เชียงใหม่
    45.หลวงปู่หลอด วัดใหม่เสนานิคม กทม.
    46.หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโม วัดป่าชุมพล อุดรธานี
    47.หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา
    48.หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย อยุธยา
    49.หลวงพ่อวิริยังค์ วัดธรรมมงคล

    และอีกมากมายหลายรูป รวมทั้งสิ้น 600 รูป


    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    : http://www.pralanna.com/boardpage.php?topicid=94391


    สภาพสวยเดิม พิมพ์คมชัดลึกเดิมๆ สวยมาก พุทธคุณล้นเปี่ยม แบ่งให้บูชา 222 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  3. supachaipnu

    supachaipnu ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    2,368
    ค่าพลัง:
    +7,310
    close

    4065.เมตตาโชคลาภแคล้วคลาด มวลสารใบลาน ลพ.ปาน วัดบางนมโค
    พระผงกริ่งรุ่นแรก วัดบรมวงศ์ ลพ.จง,ลพ.ยิ้ม,ลพ.ไวทย์,ลป.อยู่,ลป.แป้น ร่วมปลุกเสกมหาพิธี

    แบ่งให้บูชา 567 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

     
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    4067.เมตตาโชคลาภแคล้วคลาดเมืองอโยธยา พระนางพญา ลพ.ไวทย์ วัดบรมวงศ์
    ลพ.จง,ลพ.ยิ้ม,ลพ.ไวทย์,ลป.อยู่,ลป.แป้น ร่วมปลุกเสกมหาพิธี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    -141c43202ff50a0c.jpg

    444782274_2364625863746404_4737460477794309341_n-jpg.jpg
    พระนางพญา หลวงพ่อไวย์ วัดบรมวงศ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื้อดิน ผสมผงพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2495
    ** มีมุมกดไม่ติดบ้างตามแบบฉบับพระกดพิมพ์โบราณ



    พุทธลักษณะ
    - เป็นนางพญา มีทั้งแบบหน้าเดียวและสองหน้า มีทั้งจารไม่จารและบรรจุผงพุทธคุณกับไม่บรรจุผงพุทธคุณ ส่วนใหญ่หลวงพ่อไว้ได้บรรจุกรุไว้ในวัดต่างๆ และที่แจกจ่ายไปบางส่วน

    การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อไวทย์ อินฺทวังโส เริ่มครั้งแรกปี พ.ศ.2485 และ ครั้งที่ 2 ปี พ.ศ.2495 โดยการปลุกเสกพระคณาจารย์ชุดเดิม จะมีขาดเกินไม่ถึง 2 องค์ ในคราวนี้มี หลวงพ่อปี วัดกระโดงทอง มาร่วมปลุกเสกด้วย (ไม่มีหลวงพ่อแป้น วัดบ้านไร่ จ.สิงห์บุรี)

    พิธีพุทธภิเษก
    - เมื่อปี พ.ศ.2495 ณ พระอุโบสถ วัดสุธาโภชน์ หลวงพ่อไวทย์ ได้นิมนต์พระคณาจารย์ที่เคารพนับถือในอยุธยาที่อยู่ในเขตใกล้เคียงมาร่วมปลุกเสก คือ
    1.หลวงพ่ออยู่ วัดบ้านแพน
    2.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
    3.หลวงพ่อเปลื้อง วัดคู้สลอด
    4.หลวงพ่อเนตร วัดหนองคด
    5.หลวงพ่อยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน
    6.หลวงพ่อโฉม วัดเจ้าเจ็ดใน
    7.หลวงพ่อคำ วัดเจ้าเจ็ดใน
    8.หลวงพ่อแก้ว วัดเจ้าเจ็ดใน
    9.หลวงพ่อใหญ่ วัดเจ้าเจ็ดใน
    10.หลวงพ่อปี วัดกระโดงทอง



    วัตถุมงคลของ หลวงพ่อไวทย์
    จัดเป็นของดีที่หลายคนมองข้าม ท่านเป็นพระที่มีเมตตาธรรมสูงมาก วัตถุมงคลของท่านจะปลุกเสกเน้นทาง เมตตา โชคลาภ แคล้วคลาด เป็นหลัก จะตามด้วยวิชาคงกระพัน เรื่องพุทธคุณในวัตถุมงคลของท่านเต็มเปี่ยมเพียบพร้อมอยู่แล้ว





    ***********************************************

    หลวงพ่อไวย์ วัดบรมวงศ์

    หลวงพ่อไวทย์ท่านเรียนวิชาหาความรู้จากสุดยอดพระเกจิอาจารย์หลายท่าน คือ
    - พระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ
    - พระหมอ หลวงพ่อปาน
    - พระเกจิอาจารย์ หลวงพ่อจง
    - พระเมตตาไหลหลง หลวงพ่อยิ้ม

    ครั้งหนึ่ง หลวงพ่อไวทย์ท่านไปเรียนวิชาตะกรุดสาริกาสามกษัตริย์ กับหลวงพ่อยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน แต่เมื่อหลวงพ่อไวทย์ไปถึงวัดเจ้าเจ็ดใน หลวงพ่อยิ้ม ล่วงรู้เหตุการล่วงหน้าได้นั่งรอท่านอยู่นานแล้ว ทั้งหมดเป็นที่น่าแปลกใจกับหลวงพ่อไวทย์มาก

    "พระดี ที่ไม่ควรมองข้าม"
    หลวงพ่อไวทย์ อินทวังโส ท่านเป็นสหายกับ หลวงพ่อมี วัดมารวิชัย, หลวงพ่อวาสน์ วัดบ้านแพน หลวงพ่อปี วัดกระโดงทอง และหลวงพ่อ
    กุหลาบ วัดรางจระเข้

    หลวงพ่อไวทย์ ท่านเป็นพระที่ยิ้มแย้มตลอดเวลา ไม่เคยดุไม่เคยด่า ใจดี เป็นพระที่สมถะเป็นอย่างมาก ขนาดท่านเป็นถึงเจ้าคณะจังหวัด แต่กุฏิของท่านก็ยังคงเป็นเพียงกุฏิเล็กๆ เล็กขนาดที่ว่า คนที่สูงๆ ยืนนี่หัวชนเพดาน หลวงพ่อไวทย์ เป็นพระเกจิมากครู มากอาจาย์ วิชาดูดวง วิชาผูกดวงชะตา เป็นหนึ่งในวิชาที่ีท่านชำนาญ
    สมเด็จพระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ ท่านได้ สอนวิชาเหล่านี้ให้กับ หลวงพ่อไวทย์
    นอกจากวัตถุมงคลของท่านแล้ว ของดีอีก อย่างก็คือ "ยาไวทย์ประสิทธิ์" แต่ชาวบ้านจะเรียกว่า "ยาลมหลวงพ่อไวทย์"คล้ายยาวาสนาจินดามณี ของสายวัดกลางบางแก้ว นครปฐม ยาไวทย์ประสิทธิ์ จึงเปรียบเสมือนดั่ง ยาจินดามณี ฉบับจังหวัดอยุธยา (วัตถุมงคลเนื้อผงของท่าน ก็มีเนื้อยาผสมอยู่ )

    ยาเม็ดไวทย์ประสิทธิ์...
    หลวงพ่อไวทย์ท่านเริ่มทำยาเม็ดไวทย์ประสิทธิ์ ครั้งแรก เมื่อปีพ.ศ 2497 ยาเม็ดประกอบด้วยสมุนไพรแผนโบราณและพระพุทธมนต์โอสถของหลวงพ่อไวทย์ นอกจากมีสรรพคุณสูง สามารถบำบัดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้อย่าง
    วิเศษแล้ว ยังนำมาเป็นเครื่องรางของขลัง ใช้แก้อาถรรพณ์ถอนคุณไสยต่างๆ ทั้งยังใช้คุ้มครองตัวได้เป็นอย่างดี ยาทุกเม็ดท่านจะทำพิธีเพ่งสมาธิจิตปลุกเสกด้วยพุทธาคมเพื่อเป็นการเพิ่มฤทธิ์ยาให้เข้มขลังยิ่งขึ้น ตามกรรมวิธี ในตำราโบราณ

    หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    ยังกล่าวชม หลวงพ่อไวทย์ ว่าเป็นพระที่ปฏิบัติ ดี ปฏิบัติ์ชอบ ท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์ ในวันที่หลวงพ่อไวทย์ท่านมรณะภาพ หลวงปู่ดู่ ท่านบอกลูกศิษย์ให้ไปเอาน้ำรดร่างองค์ท่านมาอาบกิน
    เป็นมงคล ท่านมรณะภาพ 3 วัน กรรมการวัดไปจับองค์ท่านเหมือนคนนอนหลับ ยกแขนได้ไปมาไม่แข็ง ไม่มีกลิ่น

    เรื่องประสบการณ์จากลูกศิษย์
    มีอยู่ว่า ลูกศิษย์ผู้นี้ได้ถอยรถปิคอัพจะไปธุระปรากฏว่าได้ยินเสียงคนหลายคนตะโกนบอกว่า "รถทับเด็กๆๆ.." จึงจอดรถลงมาดู ปรากฏว่าเด็กที่ถูกรถทับเป็นหลานชายของตัวเองชื่อ นก อายุประมาณ 6-7 ขวบ ตัวผอมเล็กมากเป็นเด็กค่อนข้างแกน รถที่ถอยมายังทับอยู่บนตัวเด็ก จึงเรียกให้คนที่อยู่ใกล้ๆมาช่วยกันเลื่อนรถเพื่อเอาหลานออกมา เสร็จแล้วแกรีบบึ่งรถ
    พาหลานชายไปโรงพยาบาล จุดแรกที่ไปคือที่ อ.วังม่วง แต่ก่อนเป็นเพียงกิ่งอำเภอ หมอเช็คดูแล้วบอกไม่เป็นไร ลูกศิษย์ผู้นี้ยังไม่สบายใจ ขับรถพาหลานไปที่โรงพยาบาลในอำเภอพระพุทธบาท เอ๊กซเรย์ด้วย คำตอบที่ได้รับคือไม่เป็นไร หมอบอกคุณล้อผมเล่นหรือเปล่า ทั้งๆที่หน้าอกของหลานชายยังมีรอยล้อรถติดให้เห็นอยู่ ลูกศิษย์คนนี้พานกหลานชายไปเช็คอีกที่คือที่โรงพยาบาลในจังหวัดลพบุรี เหมือนเดิมคือปรกติทุกอย่าง วันนั้นนกห้อยพระของหลวงพ่อไวทย์เหรียญเล็กรุ่นพิเศษ (รุ่นนี้ออกที่วัดบรมวงศ์) เพียงเหรียญเดียวหลังจากวันนั้นมาพอที่บ้านลูกศิษย์จะมีงาน จึงได้นิมนต์หลวงพ่อไวทย์มาฉันเพล หลวงพ่อท่านเจอนก และถามนกเด็กชายว่า" เป็นไงรถหนักไหมลูก" นกตอบหลวงพ่อว่า "รถเบาครับหลวงปู่"
    จากคำเล่าปากต่อปาก ของนักเลง แถว อ.เสนาในสมัยก่อนนั้น เล่ากันว่าเหรียญรุ่นนี้แคล้วคลาดคงกระพันเป็นเลิศ โดนจ่อยิงระยะเผาขน ลูกกระสุนปืนออกและยิงโดน แต่ยิงไม่เข้าระคายเคืองผิวหนังเลย


    การสร้างอิทธิมงคล
    หลวงพ่อไวทย์ เป็นพระอาจารย์ที่ชอบสร้างพระมากท่านจึงได้สร้างพระประธานและพระพุทธรูปทั้งที่มีองค์ขนาดใหญ่และองค์เล็กประดิษฐานไว้หลายวัดด้วยกัน โดยเฉพาะพระพุทธรูปที่ชำรุดแตกหักซึ่งมีมากในอยุธยา ถ้าท่านพบเห็นเข้าเป็นต้องนำมาปั้นต่อเศียรต่อแขนบูรณะตกแต่งให้เป็นองค์สมบูรณ์ตามเดิมด้วยฝีมือท่านเอง
    ส่วนการสร้างพระเครื่องหลวงพ่อไวทย์ก็ชอบสร้างมากเช่นกัน และสร้างมานานแล้วตั้งแต่ประมาณปีพ.ศ. 2485 เป็นต้นมาจนถึงปลายปีพ.ศ. 2530



    สภาพเก่าเดิม มีมุมกดไม่ติดบ้างตามแบบฉบับพระกดพิมพ์โบราณ พุทธคุณหายห่วง นี้แหละครับของดีราคาเยาว์ ของท่านที่ทุกคนสามารถมีไว้ในครอบครองได้ แบ่งให้บูชา 360 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2024
  5. พุทโธ ภควา

    พุทโธ ภควา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2009
    โพสต์:
    567
    ค่าพลัง:
    +1,772
    จองครับ
     
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    4068.ยอดของดีของพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ (๑)
    พระสมเด็จ หลวงพ่อสร้อยบาตรโต พุทธคุณครอบจักรวาล

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    auy6zr-jpg-jpg-jpg.jpg

    พระสมเด็จ หลวงพ่อสร้อย วิจาโร วัดเขาแก้ว (หลวงพ่อบาตรโต) จังหวัดสระบุรี เนื้อดินผสมผงพุทธคุณ จัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2503 หลวงพ่อสร้อย วิจาโร คือพระอรหันต์อีกหนึ่งรูปในนั้น ท่านมีฤทธิ์ไม่ด้อยไปกว่าใครเลย เพียงแต่ว่าปฎิปทาของท่านคือ ซ่อนตัวหลบเร้นซุกซ่อน เปรียบเหมือนช้างเผือกในป่าใหญ่ ไม่ได้ยุ่งสุงสิงกับใคร หากใครหาพระที่มีพลังวิเศษ พลังศักดิ์สิทธิ์ พระของหลวงพ่อสร้อยเนี่ยแน่นอน ท่านเสกเดี่ยว ประจุจนท่านมั่นใจ ท่านจึงแจกแก่ศิษย์ และท่านว่าการสร้างพระแต่ละอย่างแจกใครก็ตาม จะเสกส่งเดชทำเล่นไม่ได้ เสียชื่อครูบาอาจารย์ เพราะคนที่จะมาเป็นครูบาอาจารย์ คนที่เป็นลูกศิษย์เค้าเคารพนับถือคือมอบกายถวายชีวิตแขวนพระท่านด้วยความเคารพนับถือและศรัทธา หากทำไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์จริงไม่ขลังจริงเค้าเอาไปแขวนเอาไปตายเป็นอะไรไปท่านก็ว่าจะเป็นบาป ของของท่านเชื่อได้จริงขอให้มั่นใจได้ว่า ศักดิ์สิทธิ์จริงทำจริง ดีจริง ทั้งนอกและใจ เจตนาก็บริสุทธิ์

    หลวงพ่อสร้อย ... พระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ
    เล่าโดย หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (วีระ ถาวโร) วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี

    เคยพบพระองค์หนึ่งในสมัยปัจจุบันนี้ คือ พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๐๕ ต่อกัน
    พระรูปนั้นมีชื่อว่า "พระสร้อย"
    ท่านบอกว่า ท่านเป็นชาวจังหวัดสระบุรี ไม่เคยเรียนหนังสือมาก่อนเลย
    แม้หนังสือไทยนี้ ปกติท่านก็อ่านไม่ออก

    ท่านว่าเมื่อท่านอายุได้ ๗ ปี มีพระในถ้ำเขตสระบุรีท่านหนึ่ง ไปเยี่ยมโยมท่านที่บ้าน
    เมื่อพระรูปนั้นจะกลับถ้ำ ได้ออกปากชวนท่านไปอยู่ด้วย
    ท่านก็ขออนุญาตโยมหญิง - ชายจะไปอยู่กับพระรูปนั้น
    โยมทั้งสองก็อนุญาตด้วยความเต็มใจ

    ท่านเล่าให้ฟังว่า
    เมื่อไปอยู่กับพระรูปนั้นก็ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ
    เพราะในถ้ำนั้นมีพระอยู่ ๒ - ๓ รูป
    ท่านบิณฑบาตกลับมาแล้ว ท่านฉันจังหันเสร็จ
    ต่างก็บูชาพระ แล้วนั่งภาวนากันตลอดวันตลอดคืน ไม่ใคร่มีเวลาพูดคุยกัน
    ท่านก็สอนให้ท่านอาจารย์สร้อยภาวนาด้วย ทำอยู่อย่างนั้นจนครบบวช
    พระที่ท่านพาไปก็พาออกมาบวชที่บ้าน บวชแล้วก็พากลับมาอยู่ถ้ำ นั่งภาวนาตามเดิม

    ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๓ - ๒๕๐๔ ท่านป่วย
    ได้เดินธุดงค์มาปักกลดอยู่ที่บางกะปิ พระนคร
    ใครจะนิมนต์ท่านเข้าไปในชายคาบ้าน ท่านไม่ยอมเข้า
    ต่อมาพลเรือตรีสนิท เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือไปพบเข้า มีความเลื่อมใส
    นิมนต์ให้มารักษาตัวที่กรมแพทย์ทหารเรือ ให้พักอยู่ที่ตึก ๑ เป็นตึกคนไข้พิเศษ
    อาจารย์สร้อยนี่เป็น ... พระพิเศษ

    ปฏิปทาของท่านอาจารย์สร้อย ที่มาอยู่ที่กรมแพทย์ทหารเรือก็คือ
    ตอนเช้า ท่านจะต้องออกบิณฑบาตทุกวัน ท่านมีบาตรของท่านมาลูกหนึ่ง
    ไปยืนเอาบาตรแขวนไว้ ที่ต้นมะฮ็อกกานี
    ข้างประตูเข้ากรมแพทย์ทหารเรือ เวลาเข้าไป ไอ้ต้นนี้มันจะอยู่ซ้ายมือ ชิดประตู ต้นใหญ่มาก
    ยืนหลับตาประเดี๋ยว ... ก็เอาบาตรมา
    ตามปกตินายทหารประจำตึก เขาจะเก็บบาตรไว้
    แล้วเขาจะเช็ดจะขัดจะถูเป็นอย่างดี พอเช้าท่านจะมาเอา
    เขาตรวจดูว่า ไม่มีอะไรเขาก็ส่งมาให้
    เวลาท่านเอาบาตรไปแขวน ... ท่านก็ยืนหลับตา
    คนเขาผ่านไปผ่านมา มันไม่ใช่ป่านี่ คนเดินกันไขว่เทียว

    ตอนเช้า ทุกคนก็เห็นว่า ... ท่านยืนหลับตาเฉยๆ บาตรก็แขวนที่กิ่งมะฮ็อกกานี
    สักประเดี๋ยวหนึ่งท่านก็กลับ สะพายบาตรกลับไป ส่งให้นายทหารหัวหน้าตึก
    ก็ปรากฏว่า ... มีข้าว ประมาณ ๒ - ๓ ทัพพี
    แล้วมีดอกไม้แปลกๆ ๑ ดอกทุกวัน ดอกใหญ่เกือบจะเต็มบาตร
    แต่ไม่รู้ว่าดอกอะไร ไม่มีใครรู้จัก ... เป็นแบบนั้นทุกวัน

    สำหรับท่าน อาจารย์สร้อย ปรากฏภายหลังว่า ... รู้ภาษาได้ทุกภาษา
    มีนายทหารมาพูดแบบนั้น แล้วพูดถึงปฏิปทาบางอย่างของท่าน
    ดู ๆ แล้วคล้ายจะ ... ไม่ใช่พระธรรมดา
    ที่ว่า ... ไม่ใช่พระธรรมดา คือ คิดว่าพระองค์นี้จะเป็น "พระอริยเจ้า"
    เวลานั่งพูดคุยกับใคร ท่านไม่ได้นั่งหลับตาปี๋ ทำท่าเป็นคนเคร่งครัดมัธยัสถ์ไม่ใช่ยังงั้น
    แสดงตัวเป็นกันเองตามปกติ พูดแบบกันเองธรรมดาๆ
    แต่ว่าทรมานเอานายทหารไม่กินเหล้าไปหลายคน

    ฉันสงสัยเหลือเกินละว่า พระองค์นี้จะเป็น ... "พระอริยเจ้า"
    สำหรับ พระอริยเจ้า มีอยู่ ๔ ประเภทด้วยกัน
    ว่ากันเฉพาะ พระอรหันต์ คือมี
    - สุขวิปัสสโก
    - เตวิชโช ( วิชชา ๓)
    - ฉฬภิญโญ (อภิญญา ๖)
    - ปฏิสัมภิทัปปัตโต (ปฏิสัมภิทาญาณ)

    สำหรับพระอริยเจ้าที่เป็น ... พระสุขวิปัสสโก
    ประเภทนี้ ไม่มีบทบาทอะไรทั้งหมด
    หมายความว่า ละกิเลสได้แบบเงียบๆ
    ผีสางเทวดา ... ท่านก็ไม่เห็น
    นรกสวรรค์ ... ท่านก็ไม่เห็น
    แต่ว่า จิตสงัดจากกิเลส

    สำหรับท่าน "เตวิชโช"
    อันนี้ได้ ทิพยจักขุญาณ กับ ปุพเพนิวาสนุสติญาณ คือว่า
    สามารถจะเห็นผี เห็นเทวดา เห็นสวรรค์ เห็นนรก เห็นพรหมโลก เห็นนิพพาน ได้ตามอัธยาศัย
    แล้วก็สามารถระลึกชาติได้ ชาติของตัวเองเคยเป็นอะไรมาบ้างรู้หมด

    ต่อไปก็ "ฉฬภิญโญ" (อภิญญา ๖) อันนี้ ... แสดงฤทธิ์ต่างๆ ได้
    สำหรับ "ปฏิสัมภิทัปปัตโต" ก็แสดงได้อย่างกับท่านอภิญญา ๖
    แต่มีกรณีพิเศษโดยเฉพาะ เอาอย่างที่แปลกที่สุดคือ
    รู้ภาษาทุกภาษาโดยไม่ต้องเรียน นี่ก็ว่ากันอย่างย่อๆ
    รู้ภาษาทุกภาษาทั้งหมดโดยไม่ต้องเรียน
    ภาษาคน ภาษาสัตว์ ... รู้หมด

    ทีนี้สำหรับ "หลวงพ่อสร้อย" องค์นี้
    อาตมาสงสัยว่า จะเป็น พระอรหันต์ ขั้นปฏิสัมภิทัปปัตโต
    ก็เลยบอกบรรดาท่านนายทหารว่า เอายังงี้ก็แล้วกัน
    สำหรับพระอรหันต์มี ๔ แบบ สำหรับแบบอื่นเราจะพิสูจน์ได้ด้วยการทดลองอย่างอื่น
    แต่องค์นี้ฉันสงสัยว่เป็น ปฏิสัมภิทาญาณ

    ลองดูนะ ไม่แน่นัก ถามว่าพวกคุณนี่น่ะพูดภาษาอะไรได้บ้าง เอาภาษาที่ถนัด
    บางคนก็บอกว่า ภาษาอังกฤษผมเก่ง
    บางคนบอกว่า ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน
    ภาษาจีน เพราะเคยเป็นลูกจีน
    แล้วก็ภาษาแขก บังเอิญมีนายทหารแขกอยู่คนหนึ่ง พูดภาษาแขกเร็วปรื๋อ
    เรียกว่าได้กันหลายๆ ภาษา
    เมื่อได้กันแล้วซักซ้อมกันดีแล้ว ก็ส่งเข้าไปทีละคน
    คนไหนถนัดภาษาอะไร เข้าไปหาท่าน
    พูดภาษาแบบนั้น พูดภาษาที่ตนถนัด
    พอเขาเข้าไปพูด จะเป็น ... ภาษาอะไรก็ตาม
    หลวงพ่อสร้อย ... ตอบภาษานั้นได้อย่างชัดเจน
    คล้ายๆ กับเป็นเจ้าของภาษาเอง ทุกภาษา
    ในที่สุด พวกนายทหารถามว่า หลวงพ่อเรียนมาจากไหน
    ท่านบอกว่า ท่านไม่ได้เรียน
    อยู่ในถ้ำนั่น ... เจริญสมาธิมันเกิดความรู้สึกขึ้นเอง
    เขาถามว่า ในเมื่อเขาพูดภาษาอื่น หลวงพ่อมีความรู้สึกยังไง
    ท่านก็บอกว่า มีความรู้สึกเหมือนเขาพูดภาษาไทย
    เวลาที่จะตอบไปก็เหมือนกัน
    มีความรู้สึกว่า ... ตอบเป็นภาษาไทย
    นี่แหละท่านผู้ฟัง

    สำหรับ ท่านอาจารย์สร้อย ... มีกรณีพิเศษ แปลกแบบนี้
    แล้วต่อมาพวกนายทหารแจ้งให้ทราบว่า ท่านกำหนดเวลาตาย
    ท่านบอกว่า ใครจะเอาอะไรก็เอา ท่านจะตายเดือนนั้นเดือนนี้
    ถ้าจะต้องการอะไร ให้ไปหาท่านก่อน
    คนที่ไปก็ได้ของดีพิเศษมาทุกคน คือว่า
    มีคำสั่งมอบหมายสมบัติชิ้นสำคัญนั่นก็คือ
    ให้รู้จักเป็นคนมีจิตเมตตา ให้มีเมตตาเป็นปกติ มีกรุณา มีมุทิตา มีอุเบกขา
    แล้วก็มีการให้ทานการสงเคราะห์ รู้จักรักษาศีล
    สำหรับศีลอย่าให้ขาดตลอดชีวิต
    แล้วให้รู้ตัวอยู่เสมอว่าเราจะตาย

    นี่สมบัติชิ้นสุดท้าย ... ที่ "หลวงพ่อสร้อย" มอบให้แก่บรรดานายทหารที่มีความเคารพในท่าน
    และเมื่อพวกนายทหารได้รับมาแล้ว ก็มาบอกให้อาตมาทราบ
    อาตมาก็บอกว่า ... นั่นเป็นของดีที่สุด
    ที่คุณจะไปเอาพระ เอาตะกรุด อะไรนั่นก็ดีเหมือนกัน
    ถ้าหากพวกคุณแขวนพระไว้แต่คุณประพฤติตัวเป็นโจร พระท่านก็ไม่เอาด้วย
    เพราะหากว่าพระเป็นโจร พระก็ศีลขาด
    ถ้าหากว่า คุณเอาพระแขวนคอไว้แล้ว ... ใจคุณเป็นพระ
    หรือว่าคุณไม่มีพระแขวนคอ แต่ว่า ... ใจคุณเป็นพระ
    ถึงแม้ว่าร่างกายคุณเป็นฆราวาส แต่ "ใจคุณเป็นพระ" แล้ว
    ก็ชื่อว่า คุณเป็นพระทั้งตัว พระนี่แปลว่า ผู้ประเสริฐ


    สภาพสวยเดิมพระเนื้อดินกดพมิพ์โบราณ มีกดไม่ติดบ้างตามขอบตามมุมครับ พระไม่ช้ำเก่าเก็บไม่ได้ใช้ครับ พุทธคุณหายห่วง เมตตาค้าขาย โชคลาภมหานิยมดีนักแล แบ่งให้บูชา 299 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  7. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    4069.ของดีที่ถูกลืม มหาพิธี 12วาระ(๑) พระสมเด็จชินบัญชร(พิมพ์อกร่อง)
    พระสังฆราช,ลป.สิม,ลพ.ฤาษีลิงดำ,ลพ.อุตตมะ,ลป.ชื้น ร่วมอธิษฐานจิต


    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    -07ca8d039cec5677.jpg


    uaddhy-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    uadycj-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    พระสมเด็จชินบัญชร พิมพ์อกร่อง รุ่นประวัติศาสตร์ รุ่น 5 รอบ 60พรรษา พระบรมราชินีนาถ เนื้อผงมหาพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2534 (รุ่นแจกทหารไปร่วมรบกับกองทหารสหประชาชาติ(UN)ที่ติมอร์ตะวันออกที่ประเทศ อินโดเนเซีย) สร้างโดยมูลนิธิธรรมชีวิน วัดอรุณราชวราราม กทม.

    มวลสารศักดิ์สิทธิ์
    ผงวัดระฆัง,วัดบางขุนพรหม,วัดเกสไชโย,วัดสะตือ,วัดไก่จ้น,ผงอิทธิเจ,ผงปัถ มัง,ผงมหาราช,ผงตรีนิสิงเห,ผงกระแจจันทร์หอน,ผงพุทธคุณ,ผงธรรมคุณ,ผงสังฆ คุณ,ผงมาตาปิตุปัจฐานมงคล38ประการที่สำคัญยิ่งในชีวิต
    นอกจากนี้ยังมีเกสรดอกไม้จากพระอุโอสถ 108 วัดอาทิจากวัดพระแก้ว วัดพระพุทธโสธร วัดบ้านแหลม วัดพระปฐมเจดีย์ วัดพระธาตุพนม วัดรพะธาตุดอยสุเทพ วัดพระธาตุผาเงา วัดพระธาตุดอยตุง วัดพระธาตุดอยเวา เป็นต้นฯ บรรดาดอกไม้มี ดอกกาหลง ดอกรักขาว ดอกกุหลาบแดงจากเชียงตุงประเทศพม่า ดอกกุหลาบขาวจากดอยเหมยจากประเทศจีน ดอกรักซ้อนตัวผู้ตัวเมีย ใบพลูสองหาง ไส้เทียนหรือขี้เทียนบูชาพระพุทธเจ้า ดิน 7 ป่า ตะไคร่เสมา ใบราชพฤกษ์ น้ำเซาะหินที่หยดในถ้ำขุลแผน กาญจนบุรี ผงใบลาน ผงปูนเปลือกหอย ข้าวสุก และภัตตาหารที่มีรสอร่อยๆที่ท่านเก็บไว้มาผสมกัน

    วาระการอธิษฐานจิต
    เริ่มพิธีพุทธาภิเษกตลอดปี2534

    ครั้งที่ : 1
    - วันที่9ม.ค.2534 ล.พ. สมชาย วัดเขาสุกิม จ.จันทบุรี เจริญสมาธิ เปลุกเสกเดี่ยว

    ครั้งที่ : 2
    - วันที่9ก.พ.2534 ล.พ. เปิ่น วัดบางพระ จ.นครปฐม เจริญสมาธิปลุกเสกเดี่ยว

    ครั้งที่ : 3
    - วันที่9 ม.ค.2534
    ล.พ.เกษม เขมโก สุสานไตรลักณ์ จ.ลำปาง เจริญสมาธิปลุกเสกเดี่ยว

    ครั้งที่ : 4
    - วันที่9 เม.ย.2534
    หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง จ.สิงห์บุรี เจริญสมาธิปลุกเสกเดี่ยว

    ครั้งที่ : 5
    - วันที่9พ.ค.2534 หลวงพ่อจรัล วัดอัมพวัน สิงห์บุรี เจริญสมาธิปลุกเสกเดี่ยว

    ครั้งที่ : 6
    -วันที่9 มิ.ย.2534
    หลวงปู่หล้าตาทิพย์ วัดป่าตึง เชียงใหม่ เจริญสมาธิปลุกเสกเดี่ยว

    ครั้งที่ : 7
    - วันที่9 ก.ค.2534
    หลวงปู่ทองมา ถาวโร วัดสว่างท่าสี จ. ร้อยเอ็ด เจริญสมาธิปลุกเสกเดี่ยว

    ครั้งที่ : 8
    - วันที่9 ส.ค.2534
    หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรีเจริญสูข สิงห์บุรี เจริญสมาธิปลุกเสกเดี่ยว

    ครั้งที่ : 9
    -วันที่9 ก.ย.2534
    หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการามจ.กาจนบุรี เจริญ สมาธิปลุกเสกเดี่ยว

    ครั้งที่ : 10
    - วันที่9 ต.ค.2534
    หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา เจริญสมาธิปลุกเสกเดี่ยว

    ครั้งที่ : 11
    - วันที่ 9 พ.ย.2534 มหาพุทธาภิเษกที่วัดอรุณราชวราราม โดยมีสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ พร้อมเกจิอาจารย์จากทั่วประเทศอีก 108 รูป

    ครั้งที่ : 12
    - วันที่ 10 ธ.ค.2534 มหาพุทธาภิเษกที่มณฑณท้องสนามหลวงโดยมี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัยพร้อมด้วยเกจิอาจารย์ทั่วประเทศจำนวน 108 รูปเจริญสมาธิพุทธาภิเษก อาทิ
    1.) สมเด็จพระสังฆราช(วาส) วัดราชบพิตรฯ
    2.) สมเด็จพระญาณ สังวร วัดบรวนิเวศวิหาร ( พระสังฆราชองค์ปัจจุบัน)
    3.) สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา
    4.) สมเด็จพระวันรัด วัดโสมนัสววิหาร
    5.) สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดปธุมคงคา
    6.) พระพรหมคุณาภรณ์ (สมเด็จพุฒาจารย์เกี่ยว)วัดสระเกศ (รักษาการองค์พระสังฆราช)
    7.) พระมหาวีระ ถาวะโร (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง)
    8.) พระอาจารย์ ชื้น พุทธสาโร วัดญาณเสน
    9.) หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    10.) พระครูสันติวรญาณ (สิม) วัดถ้ำผาปล่อง
    11.) พระอุดมสังวรเถร (ล.พ.อุตตมะ) วัดวังค์วิเวการาม เทพเจ้าแห่งสังขระบุรี
    12.) พระครูฐาปนกิจสุนทร (ล.พ.เปิ่น) วัดบางพระ
    13.) พระครูปริมานุรักษ์ (ล.พ.พูล) วัดไผ่ล้อม
    14.) หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก
    15.) พระครูเกษมธรรมนันท์ (ล.พ.แช่ม) วัดดอนยายหอม
    เป็นต้น
    และ
    สมเด็จพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา เป็นประธานดับ เทียนชัย

    หลังพิธีเสร็จสิ้น ทหาร,หมอ,พญาบาลทุกคนที่ได้รับมอบให้เป็นของป้องกันตัวที่ประเทศติมอร์ทุกๆ คนกลับมาด้วยความปลอดภัยไม่มีใครได้รับอันตรายทั้งสิ้น
    ที่สำคัญคือ หลวงพ่อฤาษีลิงดำปลุกเสกด้วย ในหมู่ลูกศิษย์สายหลวงพ่อฤาษีลิงดำบอกว่า พระรุ่นนี้ใช้กันนิวเคลียร์ได้ด้วยครับ นับเป็นพระดีราคาเบาที่น่าเก็บอย่างยิ่ง

    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    - http://www.klungpra.99wat.com/product/156479/พระสมเด็จชินบัญชรที่ระลึก 60 พ.html



    สภาพสวยผิวแป้งเดิมๆ พระผงดีมีสิริมงคล พุทธาภิเษกหลายวาระใหญ่พ่อแม่ครูอาจารย์สุดยอดทั้งนั้นครับ พุทธคุณครอบครบเมตตา คลาดแคล้วปลอดภัยไม่สวยไม่แท้คืนเต็ม แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  8. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    4070.สุดยอดเหรียญประสบการณ์ หยุดปืน หยุดระเบิด สะกดพลัง สยบภูตผีปิศาจ
    เหรียญสยบมารบันดาลโชค รุ่นแรก พ่อท่านแก้ว วัดสะพานไม้แก่น

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    -13267f645017e333.jpg

    vz4r4e-jpg-jpg.jpg
    vz4j0z-jpg-jpg.jpg
    เหรียญสยบมารบันดาลโชค รุ่นแรก พ่อท่านแก้ว วัดสะพานไม้แก่น จังหวัดสงขลา เนื้อทองแดงเถื่อน ผสมชนวนศักดิ์สิทธิ์ รมดำ ตอกโค้ดที่สังฆาฎิ ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2545 เนื่องในวาระฉลองอายุ 90 ปี

    - หลวงปู่เมตตา อธิษฐานจิตปลุกเสก 1 ไตรมาส


    ชนวนศักดิ์สิทธิ์
    - ทองแดงยอดพระธาตุ
    - ชนวนพระปิดตาพังพะกาฬ
    - ปลอกกระสุนปืนสงคราม
    - โลหะอถรรพเวทโครตขลัง เป็นต้น



    หลวงปู่แก้ววัดสะพานไม้แก่น

    เทพเจ้าแห่งป่าช้าควนข้าวแห้ง เป็นพระอริยะสงค์ผู้บรรลุอภิญญาณ เรืองโรจน์พุทธาคม และไสยศาสตร์ แตกฉานเอกอุในวิชาอาคมครบถ้วนกระบวนยุทธ์ จนยากจะหาใครยุคกึ่งศตวรรษเทียมเท่าได้?

    ธุดงค์ปฏิบัติวิปัสนาญาณสมาธิเป็นกิจวัตร บรรลุ ญาณ แก่กล้าเพ่งกระแสจิตสะกดพลังสยบภูตผีปิศาจวิญญาณมารร้าย แม้สัตว์ป่าอสรพิษแสนดุร้ายก็ยอมสยบราบคาบ

    หลวงปู่แแก้ว พื้นเพเดิมท่านเป็นคน บ้านฉาง ต.บางโกระ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ท่านเป็นศิษย์ของ พระครูวิรัชโสภณ หรือ หลวงปู่แดง วัดศรีมหาโพธิ์ ท่านออกธุดงควัตรมาตั้งแต่สมัยเป็นพระหนุ่ม บางครั้งก็แวะจำพรรษาตามป่าช้าในวัดต่างๆ จนเวลาล่วงเลยมาหลายปี ร่างกายท่านไม่แข็งแรงเหมือนก่อน ท่านจึงตัดสินใจจำพรรษา ที่วัดสะพานไม้แก่น อ.จะนะ จ.สงขลา หลังจากที่ท่านมาจำพรรษาที่วัดสะพานไม้แก่น ท่านได้พัฒนาอารามแห่งนี้จากสำนักสงฆ์เล็กๆ ให้กลายเป็นวัดที่ใหญ่โตสวยงามในเวลาเพียงไม่กี่ปี

    ประสบการณ์มากมาย
    - สามารถหยุดปืน หยุดระเบิด สะกดพลัง สยบภูต ผีปิศาจจอมมารร้ายกระทั่งสัตว์ป่าอสรพิษ
    - พระเครื่องของท่านมีประสบการณ์ จากเหตุการณ์สามจังหวัดชายแดนใต้มาแล้ว
    - ล่าสุดชาวมาเลเซียโดนกุญไสย (เวทมนต์สายดำ) หาผู้ที่มีวิชาทั่วทั้งมาเลเซียหมดแล้วก็ไม่สามารถแก้ไขได้ คณะลูกศิษย์ท่านจึงนำตัวมาที่วัดสะพานไม้แก่น ทันทีที่ลงจากรถปิกอัพที่หน้ากุฏิ มองไปที่หน้าของท่านก็เป็นลมหมดสติ (กลับหายเป็นปกติ) โดยที่ท่านยังไม่ทันทำอะไรเลย นับเป็นปาฎิหาริย์ที่เห็นกันจะๆในเรื่องของบารีของท่านชาวไทยและชาวมาเลเซีย จึงเลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านมาก
    - ประสบการณ์เหตุระเบิดเกาะบาหลี อินโดนีเซีย ลูกศิษย์หลวงปู่แก้วห้อยเหรียญนี้ รอดชีวิตปาร์ฏิหารย์ 6 คน จึงโด่งดังไปทั่ว

    - ชาวมาเลย์เซียขับรถพลิกคว่ำก็ไม่เป็นอะไร จึงนิยมเหรียญนี้มาก


    สภาพสวยผิวเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก เหรียญดีราคาเยาว์ พุทธคุณล้นฟ้าราคาหลักร้อย แบ่งให้บูชา 345 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณจินดา จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2024
  9. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,926
    ค่าพลัง:
    +6,845
    -ขอจองครับ
     
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    4071.สภาพหิ้งเก่าของขลังวัดสุทัศน์(๑) พระชัยพิมพ์ครึ่งซีก เจ้าคุณศรีสนธิ์
    มหาพิธีพุทธาภิเษกของเมืองไทย ลพ.จาด,ลพ.จง,ลพ.รุ่ง,ลพ.เหลือ ร่วมปลุกเสก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    -45d5000eb42be713.jpg

    35317789512395d15210d5af7ea891b1.jpg

    พระชัยวัฒน์พิมพ์ครึ่งซีก (พิมพ์วัดแหลมฟ้าผ่า) ท่านเจ้าคุณศรีสนธิ์ วัดสุทัศน์ฯ กทม. เนื้อดินผสมผงวิเศษ โรยตะไบพระกริ่งของสมเด็จพระสังฆราช(แพ) และชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2482-2485

    *** จุดดำๆที่เห็นบนเนื้อขององค์พระ คือ ผงตะไบทองพระกริ่งของสมเด็จพระสังฆราช(แพ) และชนวนโลหะเก่า ที่หลอมละลายหลังการเผา จะเหลือเป็นจุดสีดำ บางองค์ก็จะนูนขึ้น บางองค์ก็แบน บางองค์ก็ละลายซึมในเนื้อพระ ***


    ตัวอย่าง พิมพ์ใหญ่ และ พิมพ์เล็ก ขออนุญาตท่านเจ้าของข้อมูลด้วยนะครับ
    https://www.facebook.com/share/p/ospdj7s3jCe8aT5V/

    https://prathaprachan-mag.com/web/certCard/41945




    มวลสารศักดิ์สิทธิ์
    - ผงวิเศษต่างๆที่เจ้าคุณศรี(สนธิ์) เขียน-ลบด้วยตนเอง เนื่องจากท่านได้ศึกษามาอย่างเจนจบ ไม่ว่าจะเป็นผงมหาราช ปัถมัง อิทธิเจ พุทธคุณฯลฯ
    - พระเก่า พระชำรุดของวัดระฆังบ้าง พระกรุเก่าบ้าง
    - ผสมกับว่านทั้งหลาย ๑๐๘ ชนิด
    - ผงธูป ผงเกสร ดอกไม้
    - เศษตะไบพระกริ่งของสมเด็จพระสังฆราช(แพ)
    - ดินส่วนใหญ่ท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์)จะนำมาจากดินที่ขุดเสาเข็มสะพานพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ต้นบรมวงศ์จักรี รัชกาลที่๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์(สะพานพุทธ) ขณะที่ขุดดินทำเสาเข็ม ท่านใช้ให้คนไปขอดินบ่อยๆได้ยินท่านว่าเป็นดินที่ดี และอยู่ในกลางใจเมืองไทย ดินเหล่านี้ท่านนำมาผสมกับดินจากสถานที่ต่างๆอีกมาก เป็นต้น


    โดยเจ้าคุณศรีได้เร่งให้พิมพ์พระเป็นการใหญ่ โดยที่ท่านนั่งคุมอยู่ด้วยทั้งวัน ไม่ยอมละสายตาไปไหน และผู้ที่มาช่วยในการพิมพ์พระ ถ้าเป็นฆราวาส ก็ต้องนุ่งขาวห่มขาวถือศีล๘อย่างเคร่งครัด ต้องตั้งอกตั้งใจภาวนาพระคาถาตั้งแต่ปั้นเนื้อผงพระ-กดลงแม่พิมพ์-นำพระออกจากแม่พิมพ์ เมื่อขณะทำพระพิมพ์ก็ต้องระมัดระวังคำพูดจาไม่ให้พูดคำเพ้อเจ้อ ตลกโปกฮาเหลวไหล ทำน้ำมนต์หกเลอะเทอะท่านก็ดุ ให้มีการสำรวม ท่านว่าของจะดีอยู่ที่การเริ่มต้น และเจตนาที่เป็นกุศลเป็นที่ตั้ง มิใช่สักแต่พิมพ์เป็นพระเท่านั้น



    พุทธาภิเษกใหญ่
    - พิธีในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2485 ที่วัดสุทัศน์ โดยมีสมเด็จพระสังฆราชแพ เป็นองค์ประธาน และท่านเจ้าคุณศรีสนธิ์ เป็นแม่งาน


    พระเกจิอาจารย์ชื่อดังร่วมนั่งปรกปลุกเสก 108 องค์ รายนามดังนี้
    1.สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ 2.ท่านเจ้าคุณศรีสนธิ์ 3.หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา 4.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก 5.หลวงปู่นาค วัดระฆัง 6.หลวงปู่จันทร์ วัดนางหนู 7.หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว 8.หลวงพ่อทองสุข วัดโตนดหลวง 9.หลวงพ่อแช่ม วัดตากล้อง 10. หลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว 11.หลวงพ่อโอภาสี อาศรมบางมด 12.หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ 13.หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง 14.หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ 15.หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา 16.หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ 17. หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก 18.พระพุทธโฆษาจารย์เจริญ วัดเทพศิรินทร์ 19.หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่ 20.หลวงพ่อติสโสอ้วน วัดบรมนิวาส 21.สมเด็จพระสังฆราชชื่น วัดบวรนิเวศ 22.พระพุฒาจารย์นวม วัดอนงค์ 23.หลวงพ่อเส็ง วัดกัลยา 24.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ 25.หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ 26.หลวงพ่อเล็ก วัดบางนมโค 27.หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ 28.หลวงพ่อช่วง วัดบางแพรกใต้ 29.หลวงพ่ออาจ วัดดอนไก่ดี 30.หลวงพ่อกลิ่น วัดสพานสูง 31.สมเด็จพระสังฆราชอยู่ วัดสระเกศ 32.หลวงพ่อเชย วัดเจษฎาราม 33.หลวงพ่อปาน วัดเทพธิดาราม 34.หลวงพ่อเซ็ก วัดทองธรรมชาติ 35.หลวงพ่อเจีย วัดพระเชตุพน 36. หลวงพ่อเผื่อน วัดพระเชตุพน 37.หลวงพ่อหลิม วัดทุ่งบางมด 38. หลวงพ่อแพ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก 39.หลวงพ่อสอน วัดพลับ 40.หลวงพ่อเฟื่อง วัดสัมพันธวงศ์ 41.หลวงพ่อบัว วัดอรุณ 42. หลวงพ่อนาค วัดอรุณ 43.หลวงพ่อปลั่ง วัดคูยาง 44.หลวงพ่อชุ่ม วัดพระประโทน 45.หลวงพ่อสนิท วัดราษฎร์บูรณะ 46.หลวงพ่อเจิม วัดราษฎร์บูรณะ 47.หลวงพ่อสุข วัดราษฎร์บูรณะ 48.หลวงพ่ออาคม สุนทรมา วัดราษฎร์บูรณะ 49.หลวงพ่อดี วัดเทวสังฆาราม 50.หลวงพ่อประหยัด วัดสุทัศน์ พยัคฆาราม 61.หลวงพ่อเส็ง วัดประจันตาคาม 62.หลวงพ่อพิศ วัดฆะมัง 63.หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก 64.หลวงพ่อหมา วัดน้ำคือ 65. หลวงปู่จันทร์ วัดบ้านยาง 66.หลวงปู่เหมือน วัดโรงหีบ 67.หลวงปู่เหรียญ วัดหนองบัว 68.หลวงพ่อฉาย วัดพนัญเชิง 69.หลวงพ่อปลื้ม วัดปากคลองมะขามเฒ่า 70.หลวงพ่อแนบ วัดระฆัง 71.หลวงพ่อเลียบ วัดเลา 72.หลวงพ่อพักตร์ วัดบึงทองหลาง 73.หลวงพ่อสอน วัดลาดหญ้า 74.หลวงปู่เผือก วัดโมรี 75.หลวงพ่อผิน วัดบวรนิเวศ 76. หลวงพ่อเจียง วัดเจริญธรรมาราม 77.หลวงพ่อทองอยู่ วัดประชาโฆษิตาราม 78.หลวงพ่อไวย์ วัดดาวดึงส์ 79.หลวงพ่อกลึง วัดสวนแก้ว 80. หลวงพ่ออ่ำ วัดวงฆ้อง 81.หลวงปู่จันทร์ วัดคลองระนง 82.หลวงพ่ออ๋อย วัดไทร 83.หลวงพ่อศรี วัดพลับ 84.พระอาจารย์เชื้อ วัดพลับ 85. หลวงพ่อพริ้ง วัดบางประกอก 86.หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ 87.หลวงพ่อพริ้ง วัดราชนัดดา 88.หลวงพ่อขำ วัดตรีทศเทพ 89.หลวงพ่อหนู วัดปทุมวนาราม 90.หลวงพ่อทองคำ วัดปทุมคงคา 91.หลวงพ่อเจียง วัดเจริญสุธาราม 92.หลวงพ่อกรอง วัดสว่างอารมณ์ 93.หลวงพ่อเนียม วัดเสาธงทอง 94.หลวงพ่อบุญ วัดอินทราราม 95.หลวงพ่อเปลี่ยน วัดบึง 96. หลวงพ่อฉ่ำ วัดท้องคุ้ง 97.หลวงพ่อพรหมสรรอด วัดบ้านไพร 98. หลวงปู่จันทร์ วัดโสมนัสวิหาร 99.หลวงพ่อโสม วัดราษฎร์บูรณะ 100. หลวงพ่อบุตร วัดบางปลากด 101.หลวงพ่อโต วัดบ้านกล้วย 102. หลวงพ่อทองอยู่ วัดบางหัวเสือ 103.หลวงพ่อวงศ์ วัดสระเกศ 104. พระอาจารย์พงษ์ วัดกำแพง 105.พระอธิการชัย วัดเปรมประชา 106. หลวงปู่รอด วัดเกริ่น 107.หลวงพ่อเที่ยง วัดบางหัวเสือ 108.หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ (ตัวท่านไม่ได้มาร่วมปลุกเสก แต่จารแผ่นทองเหลือง ทองแดงมาร่วมพิธี)



    สภาพผิวหิ้งเก่าผิวหลุดร่อนตามกาลเวลา ไม่หักไม่ซ่อม เนื้อหาเข้มข้นถึงเก่ากึ๊กถึงใจ พุทธคุณล้นฟ้าราคาหลักร้อย สุดยอดของพิธีรวมพระเกจิรุ่นนี้หาไม่ได้ง่ายๆครับ แบ่งให้บูชา 456 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2024
  11. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    4072.เล็กดีรสโต เสกประจุธาตุทั้ง 4 หายากสุดๆ (๒) พระรอดยันต์เฑาะว์มหาอุตม์
    หลวงพ่อทบ วัดชนแดน ทายาทพุทธาคม ลป.ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า, ลป.เง่า วัดศรีภูมิ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    vkz2vw-jpg.jpg

    v4xqcf-jpg-jpg.jpg
    พระรอด หลังยันต์เฑาะว์มหาอุตม์ พิมพ์เล็ก หลวงพ่อทบ วัดชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์ เนื้อเขียวหินครก แร่หมัดไฟครบสูตร ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อ ปีพ.ศ.2510-2515 เพื่อแจกเป็นที่ระลึกให้แก่บรรดาลูกศิษย์และผู้ร่วมทำบุญสร้างพระอุโบสถ " องค์นี้เนื้อแก่แร่ไหลละลายเต็มหลังปิดทับยันต์ "

    หลวงพ่อทบ ท่านสำเร็จกสิณไฟอย่างที่เราทราบกัน
    ท่านได้ใช้ธาตุทั้ง 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ มาใส่ในพระรอดเนื้อดิน โดยใช้ดินผสมน้ำมาปั้น แล้วกดพิมพ์ในดิน ในน้ำ ในอากาศ(ลม) แล้วนำมาเผาไฟ ธาตุทั้ง 4 จึงมารวมอยู่ในพระรอดเอนื้อดินองค์นี้ เป็นพระหายากไม่ค่อยได้พบเห็นนักในปัจจุบัน

    หลวงพ่อทบ ท่านปลุกเสกบรรจุพลังพุทธคุณเต็มเปี่ยม

    พุทธคุณ
    - เด่นทางด้านแคล้สคลาด มหาอุตม์ และคงกระพันชาตรีเป็นเลิศ



    ประวัติหลวงพ่อทบ
    หลวง พ่อทบ ธัมมปัญโญ (พระครูวิชิตพัชราจารย์) เทพเจ้าแห่งความเมตตา มีพลังจิตแก่กล้าเหลือธรรมชาติวัดพระพุทธบาทชนแดนอ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์

    อัตโนประวัติ เกิดในสกุล ม่วงดี ที่บ้านยางหัวลม ต.นายม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2424 โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายเผือกและนางอินทร์ ม่วงดี ในช่วงวัยเยาว์ เกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะดี จึงไม่ค่อยเดือดร้อนและลำบากเท่าใด
    เมื่ออายุได้ 16 ปี โยมบิดา ได้นำไปฝากให้พระอาจารย์สี วัดช้างเผือก ต.วังชมภู อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ให้บวชเป็นสามเณร ได้ศึกษาเล่าเรียน พระธรรมวินัยและวิทยาคมจนแตกฉานจากพระอาจารย์สี

    พ.ศ.2445 เมื่ออายุครบ 21 ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ที่วัดศิลาโมง ต.นายม อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ มีพระครูเมือง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์ปาน เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์สี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า ธัมมปัญโญ หมายถึง ผู้มีความรู้ในพระธรรม

    หลังอุปสมบท ท่านย้ายไปจำพรรษาที่วัดช้างเผือก เพื่อศึกษาด้านวิปัสสนากัมมัฏฐานและวิทยาคมจากพระอาจารย์ปาน จนมีความเชี่ยวชาญ จากนั้นได้ออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ บำเพ็ญภาวนา แสวงหาสถานที่สัปปายะทำกัมมัฏฐาน ขณะเดียวกัน ได้ศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมด้านวิทยาคมจากพระเกจิอาจารย์ต่างๆ

    ในขณะออกท่องธุดงควัตร ได้มีโอกาสพบกับหลวงพ่อเขียน ธัมมรักขิโต พระเกจิชื่อดัง โดยหลวงพ่อเขียนเป็นคนบ้านตะลิ่งชัน ต.ชอนไพร อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ แต่มีอายุและพรรษามากกว่า หลวงพ่อทบจึงเรียกขานหลวงพ่อเขียน ว่า "หลวงพี่" ทุกครั้งไป ทั้งสองท่าน เป็นสหายธรรม ที่ใกล้ชิดกันมากที่สุด

    เรียนวิชากับหลวงปู่ศุข
    หลัง จากที่หลวงพ่อทบได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดศิลาโมงแล้ว ท่านยังคงตั้งใจที่จะแสวงหาวิชาความรู้อยู่อย่างไม่หยุดยั้ง เมื่อท่านทำการบูรณปฏิสังขรณ์วัดศิลาโมงเข้าที่เข้าทางแล้ว ท่านได้ยินชื่อเสียงเกียรติคุณของ พระครูวิมลคุณากร หรือ หลวงปู่ศุข แห่งวัดปากคลองมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ว่าเป็นผู้สำเร็จวิชา 8 ประการ ซึ่งมีน้อยองค์นักที่จะสำเร็จได้ ท่านจึงได้เดินธุดงค์ออกจากวัดศิลาโมง มุ่งหน้าไปที่จังหวัดชัยนาท ในที่สุดท่านก็ได้กราบนมัสการหลวงปู่ศุขสมความปรารถนา และที่วัดปากคลองมะขามเฒ่านี้เอง ท่านก็ได้พบกับพระเกจิอาจารย์อีก 2 รูปที่ได้เดินทางมากราบนมัสการหลวงปู่ศุข เพื่อขอเรียนวิชาก่อนหน้าที่ท่านจะมาคือ 1. หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน 2. หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้งการเรียนวิชาจากหลวงปู่ศุขนั้นก่อนที่ท่านจะมอบวิชาอาคมอะไรก็ ตามให้กับศิษย์นั้น ท่านจะทดสอบพลังจิตของศิษย์แต่ละองค์เสียก่อนว่ามีความกล้าแข็งสักเพียงใด จากนั้นจะถามถึง วัน เดือน ปี เกิด ของแต่ละองค์เสียก่อน ซึ่งการที่ท่านต้องทดสอบและไต่ถามก็เพื่อท่านจะได้ทราบถึงความสามารถ วาสนา บารมีของแต่ละองค์ ว่ามีมากน้อยเพียงใด ควรจะมอบวิชาอะไรให้ถึงจะเหมาะสมที่สุด ซึ่งหลวงปู่ศุขท่านก็ได้มีเมตตา มอบวิชาอาคมต่างๆ ให้กับหลวงพ่อทบหลายอย่าง ซึ่งท่านก็ได้ใช้วิชาเหล่านั้นสงเคราะห์ญาติโยมมาตลอดชีวิตของท่าน

    มอบตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อเง่า
    หลัง จากที่หลวงพ่อทบได้กลับจากการธุดงค์ไปกราบนมัสการท่านพระครูวิมลคุณากรหรือ หลวงปุ่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า ซึ่งหลวงพ่อทบก็ได้เดินธุดงค์กลับมาจำพรรษาที่วัดศิลาโมงตามเดิม หลังจากนั้นในระหว่างปี พ.ศ. 2461-พ.ศ.2468 หลังจากการออกพรรษาทุกปี ท่านได้ใช้เวลาในช่วงนี้เดินทางไปกราบนมัสการขอเรียนวิชาอาคมเพิ่มเติมกับ ท่านพระครูสังวรธรรมคุต หรือ หลวงพ่อเง่า พระเถระผู้เฒ่า อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีภูมิ(วัดบ้านติ้ว) และอดีตเจ้าคณะจังหวัดหล่มสัก ซึ่งท่านก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของหลวงพ่อเง่า และหลวงพ่อเง่าได้มีความเมตตาถ่ายทอดพระเวทวิทยาคมให้กับท่านอย่างไม่มีปิด บังอำพราง ไม่ว่าจะเป็นทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาด คงกระพัน มหาอุด มหาอำนาจ กำบัง ล่องหนหายตัว ซึ่งท่านก็ใช้เวลาหลังออกพรรษาถึง 3 ปี จึงได้เล่าเรียนจนสำเร็จ

    หลวงพ่อทบมรณภาพเมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ.2519 รวมสิริอายุ 95 ปี 74 พรรษา บรรดาศิษยานุศิษย์และผู้เคารพนับถือ ได้นำสังขารของท่านบรรจุไว้ในโลงแก้วเพื่อสักการบูชาและรำลึกถึงตลอดไป
    " อย่าเผาร่างกู ให้เก็บไว้ !! จนกลายเป็นหิน !! แต่ละปีเปลี่ยนจีวร ศิษย์นำไปพกติดตัว ศักดิ์สิทธิ์ไม่เสื่อมคลาย "


    สภาพสวยเดิมๆ เก่าเก็บรักษาไว้อย่างดีตั้งแต่สมัยนั้นเลย พุทธคุณคงไม่ต้องบรรยายแล้วหละครับ แบ่งให้บูชา 499 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    4073.สวยซองเดิมๆ เสกโดยสายเหนือโลก หรียญจอมทัพไทย เสด็จพ่อ ร.5
    ยอดประสบการณ์ อ.หม่อม จัดสร้างทูลเกล้าถวายพระราชทานทหารชายแดนใต้

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    -.5-..jpg

    f96904df33de36600d4791ce3b2e13a9.jpg
    เหรียญจอมทัพไทย เสด็จพ่อ ร.5 มหายันต์ เนื้อทองแดงบริสุทธิ์ขัดเงา ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2551 โดยอาจารย์หม่อมนิรนาม ไตรภูมิ (อาจารย์ ศุภณัฐ ชัยชนิตย์)

    พุทธศิลป์
    - เหรียญทรงกลม
    ด้านหน้า เป็นพระบรมรูปเสด็จพ่อ ร.5 ครึ่งพระองค์ ทรงพระมาลาสูง และ ยันต์เทพเทวานิมิต โดยมียันต์ช้างสามเศียรล้อมองค์ด้านนอก
    ด้านหลัง มีพระศรีอริยเมตตรัยประทับเหนือพญาครุฑ และล้อมรอบด้วยยันต์พญาครุฑ เป็นเหรียญที่มีพุทธคุณสูงมากในเรื่องบารมีมหาอำนาจ มีผลในเรื่องการทำงานดีมาก


    วัตถุประสงค์หลักในการสร้าง
    - นำไปแจก ตำรวจ ทหาร อาสาสมัคร และ ประชาชน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งแจกผู้ไปร่วมพิธี อีกส่วนหนึ่ง ไม่มีการจำหน่าย พุทธคุณ เน้นทางด้าน มหาอุด คงกระพัน และ แคล้วคลาด ประสบการณ์เหลือกินในพื้นที่ เพราะก่อนแจกได้ลองยิงกันจะจะ (เหรียญนี้ได้ทำพิธีที่วัดชนะสงครามอีกครั้งหนึ่งด้วย)



    ประวัติ อ.หม่อม นิรนามไตรภูมิ
    อ.หม่อม พุทธิโพธิสัตว์ นิรนามไตรภูมิ
    เป็นเวลากว่าสิบปี แห่งการสร้างทานบารมี โดยการแจกพระเครื่อง-เครื่องรางของขลังฟรี ให้กับนายทหาร ตำรวจ ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่ปฏิบัติการรักษาชาติ แผ่นดิน โดยไม่มีการพานิชย์เข้ามาเกี่ยวข้อง ของชายนิรนามผู้ไม่เคยเผยประวัติที่แท้จริง แต่เหล่าผู้ศรัทธา และลูกศิษย์ ต่างรู้จักและขนานนามว่า "อาจารย์หม่อม พุทธิโพธิสัตว์ นิรนาม ไตรภูมิ" หรือในสายนักปฏิบัติจะขนานนามว่า "อาจารย์ใหญ่ นิรนาม ไตรภูมิ" ชื่อนี้ที่บรรดาผู้คนต่างแซ่ซ้อง สรรเสริญ กล่าวขวัญถึงความศักดิ์สิทธิ์ และความเข้มขลัง

    อาจารย์หม่อม นิรนามไตรภูมิ ย่อมบอกความเป็นตัวตนของท่านได้ดี ถ้าท่านอยากมีชื่อเสียง ท่านก็ควรจะแจ้งหรือประกาศชื่อเสียง ที่แท้จริงของท่าน ต่อสาธารณชนแล้ว แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักชื่อจริง นามสกุลจริงของท่าน และด้วยคำจำกัดความของ "นิรนาม" ก็คือไม่มีชื่อเสียงเรียงนามอะไร สภาวะของผู้ที่ไม่ต้องการให้รู้เห็น ถึงความเป็นมา และหากแปลความหมายของคำว่า "นิรนาม" ในทางโลกอุตรธรรม คือการดับรูป ดับนาม เพื่อการดับภพ ดับชาติ ส่วน "ไตรภูมิ" หมายถึง สามโลกตามความเชื่อในพระพุทธศาสนาซึ่งประกอบไปด้วย สวรรค์ นรก และมนุษย์นั่นเป็นความหมายในโลกแบบง่ายๆ แต่สำหรับท่านอาจารย์ใหญ่แล้ว ความหมายของของคำว่าไตรภูมิคือ กุตรธรรม ที่ประกอบไปด้วย กามภูมิ รูปภูมิ และ อรูปภูมิ

    ด้วยเพราะตำนานเรื่องราวความศักดิ์สิทธิ์ของท่านนั้นเป็นเรื่องเหลือเชื่อ เกินบรรยาย ยังมีเรื่องราวเหนือธรรมชาติอีกมากมายที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ทางด้านวิทยาศาสตร์ นอกเสียจากท่านจะประจักษ์ด้วยสายตาเอง และได้รับประสบการณ์จริงจากการบูชา หรือได้ครอบครองวัตถุมงคลของท่านอาจารย์ใหญ่ นิรนามไตรภูมิ และทุกครั้งที่ท่านปลุกเสกวัตถุมงคลมักปรากฏลำแสง หรือแม้กระทั่งภาพถ่ายแปลกๆ จากกล้องที่ลูกศิษย์ถ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นดวงจิตของเทพเทวดา ภาพฤาษี ภาพพระโพธิสัตว์ หรือพญานาคในท่ามกลางเปลวเทียนหรือแสงที่ปรากฏท่ามกลางวัตถุมงคล ฯลฯ ในขณะที่ท่านกำลังเชื่อมต่อฌานบารมี เป็นสิ่งยืนยันถึงพลังงานบารมี ที่แก่กล้าของท่าน กับคำถามที่ว่าทำไมเกิดปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติมากมายเหล่านี้ทุกครั้งที่ท่านอาจารย์ใหญ่ นิรนาม ทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลจนเป็นปรากฏการณ์ปรกติสำหรับลูกศิษย์ใกล้ชิดที่ติดตามท่านอาจารย์ใหญ่ นิรนาม มาโดยตลอด


    ประกอบพิธีจักพรรดิ์มหาพุทธาภิเษก - เทวาธิเษก

    - เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2551 ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จัดพิธีพุทธาภิเษกของท่านอาจารย์ใหญ่ นิรนามไตรภูมิ ท่านได้นิมนต์ พระอริยะสงฆ์ พระเกจิอาจารย์ ผู้ทรงอภิญญาสายปฏิบัติกรรมฐาน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังทั่วฟ้าเมืองไทย เข้าพิธีอธิฐานจิตร่วมกัน อาทิ


    - หลวงปู่พระครูโกวิทพัฒโนดม (หลวงปู่เกลี้ยง เตชฺธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดโนนแกด จ.ศรีสะเกษ
    - หลวงปู่ละมัย ฐิตมโน เจ้าสำนักสงฆ์สวนป่าสมุนไพร จ.เพชรบูรณ์
    - หลวงปู่จันทร์หอม สุภาธโร วัดบุ่งขี้เหล็ก จ.อุบลราชธานี
    - พระอาจารย์แดง โอภาโส วัดไร่ จ.ปัตตานี
    - พระอาจารย์ประสูติ ปิยธัมโม (หลวงพ่อประสูติ) วัดในเตา จ.ตรัง
    และอีกมากมายหลายท่านเข้าร่วมพิธี


    โดยปกติคนทั่วไปมักได้ยินคำว่า "พุทธาภิเษก" ซึ่งความหมายก็คือการปลุกเสกพระพุทธ หรือการปลุกเสกพระพุทธเจ้า ท่านอาจารย์ใหญ่ กล่าวว่า ไม่มี ใครปลุกเสกพระพุทธเจ้าได้หรอก พระพุทธเจ้าเป็นสิ่งเคารพสูงสุด เหนือสามโลก คือโลกสวรรค์ โลกมนุษย์ และยมโลก

    ท่านอาจารย์ใหญ่ นิรนามไตรภูมิ จึงต้องอัญเชิญบารมีของพระพุทธเจ้า บารมีของพระโพธิสัตว์ทุกๆ พระองค์ บารมีของพระปัจเจกพระพุทธเจ้า เทพพรหมเทวดาทุกเหล่าชั้น เชื่อมสภาวะเหล่านั้นกับจิตให้เป็นหนึ่งเดียว ก็จะเกิดเป็นพลังงานมหาศาล เป็นพลังงานของจักรวาล ทำให้วัตถุมงคลที่เป็นดิน เป็นหิน เป็นโลหะ กลายเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีพลังงานก็เปรียบเทียบง่ายๆ วัตถุมงคลที่เป็นตัวเก็บพลังงาน เหมือนแบตเตอรี่ ที่สามารถเก็บพลังงานไฟเอาไว้แล้วแจกจ่ายกระแสไฟออกมา เช่นเดียวกับเครื่องรางของขลัง วัตถุมงคลของท่านก็จะปล่อยพลังงานออกมา เวลาที่คนอธิฐานหรือการเพ่งจิตน้อมนำจิตเชื่อมกับวัตถุมงคลนั้นๆ ทำให้เกิดอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ตามแรงอธิฐาน

    วัตถุมงคลที่ท่านจัดสร้างขี้นเต็มไปด้วยความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ และเป็นการออกแบบที่มีการผสมผสานของพุทธศิลป์ เทวะศิลป์ อักษร เลขยันต์ สัญลักษณ์ต่างๆ รวมทั้งภาษาเทพ ภาษาธรรม และภาษาจักรวาล ได้ถูกถ่ายทอดผ่านพระเครื่อง-เครื่องรางไว้เพื่อเป็นสรรพวิชาของจักรวาล ท่านได้กล่าวไว้ว่า ท่านได้ทำการบำเพ็ญเพียรมาหลายภพ หลายชาติ ทำให้เกิดตัวรู้ถึงสรรพวิชาแขนงต่างๆ โดยไม่ต้องเรียนจากครูบาอาจารย์องค์ใด เวลากำหนดจิตเมื่อเชื่อมสภาวะจิต ระหว่างพระเวทย์กับพระธรรมก็จะเกิดตัวรู้ ซึ่งเกิดมาจากบารมีเดิมที่สะสมมาจากอดีตชาติผุดขึ้นมาในจิต เป็นสภาวะจิตนึกอยากรู้เรื่องของพระเวทย์เกี่ยวกับอักขระ อักขระก็จะผุดขึ้นมาเป็นภาษาโบราณ ทั้งบาลี สันสกฤต เทวนาครี กูโบ๊ต และอีกมากมายหลายภาษา


    พุทธคุณ
    - เต็มไปด้วยอิทธิปาฏิหาริย์ และบุญฤทธิ์ ของผู้จัดสร้างซึ่งมีจิตเจตนาอันบริสุทธิ์ และอำนาจของพระกรรมฐาน อำนาจจากเหล่าเทพพรหมเทวดาอำนาจจากสิ่งศักดิ์ทั้งไตรภูมิ ซึ่งผู้นำไปเคารพศรัทธาก็จะเกิดอิทธิฤทธิ์ ปาฏิหาริย์คุ้มครองปกปักรักษาชีวิต บันดาลให้เกิดโชคลาภ ร่ำรวย เจริญในหน้าที่การงาน พบความสำเร็จ ขจัดภัย ปัญหาอุปสรรคทั้งหลายทั้งปวง



    สภาพสวยเดิมสมบูรณ์ใหม่กริ๊บ ซองเดิมๆ พระไม่ช้ำไม่ได้ใช้ พุทธคุณครอบครบ คลาดแคล้วปลอดภัย ไม่สวยไม่สวยคืนเต็มครับ แบ่งให้บูชา 456 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณธนกฤต จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กันยายน 2024
  13. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    4074.มวลสารผงคำข้าว+เกศา+ผงไตรมาส ลพ.ฤาษีลิงดำ อนุภาพกันภัย
    พระพุทธสิกขีทศพลญาณที่ 1 หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    -1c9f8312b149a821.jpg

    457050344_8573303059346316_7424800474754083343_n-jpg.jpg

    พระพุทธสิกขีทศพลญาณที่ 1 หรือ สมเด็จองค์ปฐมพุทธนิมิต หลังยันต์เกราะเพชร หลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จังหวัดลำพูน เนื้อผงวิเศษ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2540

    มวลสารศักดิ์สิทธิ์ประกอบด้วย
    - ผงดินสอพองที่ หลวงพ่อฤาษีฯ ท่านปลุกเสกไว้ทุกวันตลอดไตรมาส พร้อมกันกับพระทุ่งเศรษฐี รุ่น 100ปีเกิดหลวงปู่ปาน
    - ผงคำข้าว ที่นำมาทำเป็นพระคำข้าว
    - เกศาหลวงพ่อฤาษีฯ ที่นำมาป่นละเอียด จะเห็นได้จากเนื้อพระมีเม็ดๆ สีดำๆ อยู่ นี่คือ เกศาหลวงพ่อฤาษีฯ
    - เนื้อพญากวางคำที่กลายเป็นหิน สามารถทำน้ำมนต์ได้ มีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก
    หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง กล่าวไว้ว่า
    "องค์ปฐม หมายถึงแรกสุด ไม่มีครูสำหรับท่านเลย ต้องบำเพ็ญบารมีอย่างหนัก ต้องเข้มแข็ง" วัตถุมงคลมิใช้เพื่อให้ผู้รับต้องถูกมอมเมาด้วยอำนาจของขลัง ถ้าพ่อไม่อยู่ให้มาช่วยหลวงปู่ครูบาวงศ์

    อานุภาพยันต์เกราะเพชร
    เป็นหนึ่งในตำรับยันต์พิชัยสงคราม มีมากมายนัก เมตตาแคล้วคลาด คงกระพันคุ้มกัน เสริมมหาบารมี กันคุณไสยโดยตรง เป็นยันต์อันเลื่องลือระบือนามว่า ศักดิ์สิทธิ์มาก หลวงปู่ปาน ท่านสรรเสริญว่ายันต์เกราะเพชรเป็นยันต์ที่เป็นเอกในโลกทีเดียว เพราะเป็นบารมีของพระพุทธเจ้าท่านสงเคราะห์โดยตรง หลวงพ่อท่านบอกว่า "ยันต์เกราะเพชรเขาเอาไว้กันไสยศาสตร์ ไสยศาสตร์ละเอียดกว่าเชื้อโรคเยอะ ในเมื่อเรามีความมั่นใจจริง ๆ สิ่งที่หยาบกว่าทำไมจะกันไม่ได้


    วัตถุมงคลชุดนี้
    จัดสร้างโดย
    - ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ที่ชลบุรีเป็นผู้จัดสร้าง หลังจากที่หลวงพ่อมรณะภาพแล้ว โดยถือเอานิมิตของหลวงพ่อที่เล่าให้บรรดาลูกๆฟัง

    การพบสมเด็จองค์ปฐม ครั้งแรกของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(องค์หลวงพ่อฤาษี) เมื่อประมาณ พ.ศ. 2511 คืนหนึ่ง พระเดชพระคุณหลวงพ่อกำลังสอนพระกรรมฐาน และเมื่อเสร็จจากการแนะนำ ก็ได้ทำสมาธิ ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดมาก่อน ปรากฏขึ้น คือเห็นพระพุทธเจ้าในปางพระนิพพานทรงยืน สองแถวยาวเหยียดไปข้างหน้าแล้ว ก็พนมมือ พระเดชพระคุณหลวง พ่อมีความรู้สึกในใจว่า บางทีอาจจะเป็น อุปาทาน เพราะว่า พระพุทธเจ้า ไม่เคยก้มศรีษะให้ใคร แม้แต่บ้านเรือน เล็กๆ หลังคา ตํ่าๆ หาก พระพุทธองค์เสด็จเข้าไป หลังคาก็จะสูงขึ้นเอง แต่เวลานี้เห็น พระพุทธเจ้ายืนพนมมือ เมื่อนึกเพียงนี้ ก็เห็นภาพหลวงปู่ปาน ปรากฏขึ้นข้างหน้า หลวงปู่ปานท่านบอกว่า "คุณ..ไม่ใช่อุปาทาน ประเดี๋ยวพระพุทธเจ้าองค์ปฐมจะเสด็จมา " จึงเป็นที่มาในการสร้างพระพิมพ์นี้

    (((((ตำนานประวัติดอยพญากวางคำ)))))
    ครั้งพุทธกาลแต่เดิมมา ณ ขุนห้วยโป่งแดงปัจจุบันเวลาบ่ายคล้อยมีกวางฝูงหนึ่งประมาณสิบกว่าตัวออกหากินตามประสาสัตว์โลกโดยการนำของจ่าฝูง
    ในขณะเดียวกันนั้นก็มีพรานล่าเนื้ออยู่สองกลุ่มออกล่าสัตว์ กลุ่มหนึ่งมาทางทิศเหนือ อีกกลุ่มหนึ่งมาทางทิศใต้ ได้มาเจอกวางคำกับฝูงกวางกำลังออกหากินอยู่พอดี ด้วยความเป็นจ่าฝูงโดยสัญชาตญาณแห่งโพธิสัตว์ที่จะให้บริวารพ้นภัยอันตรายจากกลุ่มพรานอันมีสติปัญญาว่องไวและความเสียสละ จึงตัดสินใจหลอกล่อนายพรานทั้งสองกลุ่มให้สนใจติดตามตัวเองแต่ผู้เดียวโดยมุ่งหน้าวิ่งหลอกล่อพรานขึ้นไปบนเขาที่อยู่ใกล้ที่สุด คือ พระธาตุดอยกวางคำปัจจุบันเพื่อให้พ้นและห่างจากบริวารที่หากินอยู่ โดยไม่ห่วงตัวเองไม่หวั่นเกรงกลัวต่อความตาย ในขณะนั้นบนจอมเขาขุนห้วยโป่งแดงที่พญากวางคำกำลังวิ่งขึ้นไปนั้น มีพระมหาเถระรูปหนึ่งออกเดินธุดงค์โปรดสัตว์โลกมาพักปักกลดจำศีลภาวนาอยู่บนจอมเขา ขณะนั้นกำลังทำวัตรสวดมนต์พระอภิธรรมอยู่พญากวางได้วิ่งหนีพรานมาเจอะพระมหาเถระสวดมนต์พระอภิธรรมอยู่จึงได้หยุดยืนฟังและพิจารณาว่าเสียงนี้เหมือนเคยได้ยินได้ฟังมาก่อนไพเราะมาก จิตจึงเกิดความเพลิดเพลินหลงใหลติดในเสียงสวดมนต์ของพระมหาเถระ ลืมว่ากำลังวิ่งหนีกลุ่มพรานอยู่ ไม่สนใจ ไม่กลัวความตายว่าจะมาถึงตัว พรานล่าเนื้อทั้งสองกลุ่มได้วิ่งไล่พญากวางขึ้นมาบนจอมเขา เพราะเห็นรูปร่างลักษณะใหญ่โตสวยงาม พอมาเจอพญากวางหยุดอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไหว ก็ใช้อาวุธคือธนูยิงใส่พญากวางทันที โดยไม่ลังเลและไม่ทันสังเกตว่ามีพระธุดงค์ปักกลดอยู่ใกล้ ๆ (หลวงปู่เมตตาบอกว่า ด้วยบารมีบุญเก่าเดิมมาและอานิสงส์ที่จิตติดในเสียงสวดมนต์เป็นธรรมของพระพุทธเจ้า)
    ในขณะนั้นพญากวางคำไม่รู้สึกตัวว่าถูกยิงเสียชีวิต แต่รู้ตัวว่าเหมือนหลับแล้วตื่นขึ้นมาก็ได้อุบัติจุติเป็นเทพบุตรอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงสา(ดาวดึงส์) มีประสาทวิมานกว้างได้สิบสองโยชน์ สูงสิบสองโยชน์และมีเทพธิดานางฟ้าเป็นบริวารอีกเป็นพันองค์ ส่วนพรานทั้งสองกลุ่มก็ได้แบ่งเนื้อกวางโดยไม่สนใจพระธุดงค์ที่ปักกลดสวดมนต์อยู่ ส่วนหนังของกวางนั้นพรานได้เอาตากไว้บนก้อนหินใกล้ ๆ กับเขาลูกนี้ (ปัจจุบันกลายเป็นแท่งหินหนังกวางอยู่ห่างจากวัดไม่ไกลนัก หลวงปู่เมตตาพาชาวบ้านไปดูและยืนยันด้วยองค์ท่านเอง) ส่วนหัวกวางพรานได้นำไปคั่ว ปัจจุบันคือบ้านหัวขัว แต่หลวงปู่บอกว่า “บ้านหัวขัว” ไม่ถูกต้องเป็น “หัวคั่ว” เพราะพรานเอาหัวกวางมาคั่วที่นี่ ปัจจุบันนี้ชาวบ้านเรียกเพี้ยนเป็นภาษาล้านนาว่า “หัวขัว” (หัวสะพาน) เป็นจริงอย่างที่หลวงปู่บอกเพราะชาวบ้านได้ไปขุดลอกลำเมืองข้างวัดม่วงคำในสมัยที่องค์ท่านได้บูรณะวัดม่วงคำ ปัจจุบันได้ไปเจอกระดูกกะโหลกกวางฝังอยู่จึงนำไปให้หลวงปู่ดู ท่านบอกว่าใช่เป็นกระดูกส่วนหัวพญากวางคำ (น่าเสียดายมิได้มีใครสนใจเก็บรักษาไว้จึงได้สูญหายไปในที่สุด) พระมหาเถระนั้นเมื่อสวดมนต์ไหว้พระปฏิบัติกรรมฐานแล้วจึงได้มาเทศน์โปรดสั่งสอนบอกกล่าวให้กลุ่มพรานที่กำลังแบ่งเนื้อพญากวางคำและได้ชี้บอกพรานทั้งหลายว่า “สูทั้งหลายทำบาปมากแล้ว สูรู้ไหมว่ากวางที่สูยิงนั้นไม่ใช่กวางธรรมดาทั่วไป แต่เป็นกวางคำโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีได้พาบริวารออกหากินต่อไปภายภาคหน้าจักได้เป็นพระพุทธเจ้าอีกตนหนึ่ง” แล้วเทศน์โปรดพรานเลิกฆ่าสัตว์ ตัดชีวิตหันมาทำบุญรักษาศีล โดยการนำศีลห้าไปปฏิบัติ พรานทั้งหมดเมื่อได้ฟังพระมหาเถระเทศน์จบก็มีจิตศรัทธาเลื่อมใสพระรัตนตรัยจึงขอรับศีลห้าไปปฏิบัติ แล้วพร้อมใจกันนำอาวุธทั้งหลาย ถวายพระมหาเถระเพื่อบูชาพระธรรมคำสอนของพระมหาเถระและบูชาศีลห้า (หลวงปู่จึงบอกว่าดอยลูกนี้ คือ ดอยศีลห้า) เมื่อกลุ่มพรานมีจิตศรัทธาเลื่อมใสในพระรัตนตรัยแล้วจึงนึกถึงคุณของพระมหาเถระ หัวหน้ากลุ่มพรานจึงได้ขอให้พระมหาเถระทำสัญลักษณ์ไว้เป็นอนุสรณ์ตัวแทนของพระมหาเถระ เพื่อเขาจะได้สักการบูชาต่อไปในวันข้างหน้า พระมหาเถระจึงได้อธิษฐานจิตเหยียบรอยเท้าไว้บนหินให้พรานรักษาและได้มากราบไหว้สักการบูชา พระมหาเถระได้เล็งเห็นว่าในอนาคต ณ สถานที่แห่งนี้คงจะดำรงอายุสืบทอดพระพุทธศาสนาในอนาคตข้างหน้า พระมหาเถระจึงได้ขอเอาเขาพญากวางพระโพธิสัตว์จากพรานไว้ หลังจากพรานกลับกันไปหมดแล้วพระมหาเถระจึงได้นำเขาพญากวางคำที่ได้ขอมาจากพรานอธิษฐานจิตฝังเขาพญากวางคำไว้ตรงจุดสูงสุดของจอมเขาและทำสัญลักษณ์ไว้โดยการนำเอาหินสามก้อนมาวางไว้เป็นรูปสามเหลี่ยม(ปัจจุบันหลวงปู่ได้สร้างพระธาตุครอบตรงหินสามก้อนที่ฝังเขาพญากวางคำ) พรานทั้งสองได้แยกย้ายกันกลับ อีกพวกหนึ่งไปทางทิศใต้อีกพวกหนึ่งไปทางทิศเหนือ พอไปได้สักระยะหนึ่ง ทั้งสองพวก จึงมาคิดทบทวนคำบอกของพระมหาเถระว่ากวางตัวนี้ไม่ใช่กวางธรรมดา แต่เป็นพญากวางคำโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมี วันข้างหน้าจักได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า ในอนาคตกาลข้างหน้า เมื่อคิดได้จึงปรึกษาพร้อมใจกันไม่กินเนื้อพญากวางคำ นำเอาเนื้อพญากวางคำมากองรวมกันไว้ทั้งหมดแล้วแยกย้ายกันกลับ ปัจจุบันเนื้อพญากวางคำได้กลายเป็นหินหมดและหลวงปู่ได้ให้ไปเก็บเอามารักษาไว้บนวัดเพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้เห็นเป็นอนุสติเตือนใจ
    ในสมัยที่องค์หลวงปู่มาเจอรอยพระบาทแล้วให้ชาวบ้านกะเหรี่ยงมาช่วยสร้างให้เป็นวัดขึ้นจึงได้บอกให้ชาวบ้านไปดูจุดที่พรานนำเนื้อพญากวางคำกองไว้ไม่ห่างจากวัดพระธาตุดอยพญากวางคำไปเท่าใดนัก
    ครูบาชัยวงศาพัฒนา ท่านเป็นศิษย์เอกอีกรูปหนึ่งของครูบาเจ้าศรีวิชัยนักบุญแห่งลานนาไทย อีกทั้งยังมีปาฏิหาริย์ประทับฝ่ามือ และเหยียบศิลาเป็นรอยและเมื่อดับขันธ์แล้วสรีระก็ไม่เน่าเปื่อย ยังคงโปรดลูกศิษย์ลูกหาอยู่ที่วัดแสดงให้เห็นภูมิธรรมอันไม่ธรรมดาของท่านวัตถุมงคลของครูบาท่านมีประสบการณ์ต่าง ๆ มากมาย
    อิทธิบุญฤทธิ์ "ครูบาเหยียบศิลาเป็นรอย"
    เมื่ออายุได้ ๒๒ ปี ท่านจึงเดินทางกลับมาหาครูบาศรีวิชัยพร้อมกับชาวกะเหรี่ยงที่เป็นศิษย์ของ ท่าน เพื่อช่วยครูบาศรีวิชัยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพในครั้งนี้ ครูบาศรีวิชัยได้เมตตาให้ท่านเป็นกำลังสำคัญทำงานร่วมกับครูบาขาวปีในการควบ คุมชาวเขาช่วยสร้างทางอยู่เสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ยากลำบา เช่น การสร้างถนนในช่วงหักศอกก่อนที่จะถึงดอยสุเทพ (ช่วงที่คนวิพากษ์วิจารณ์ครูบาศรีวิชัยกันมากที่สร้างถนนหักศอกมากเกินไป)
    ใน ระหว่างกำลังสร้างทางช่วงนี้ ได้มีหินก้อนใหญ่มากติดอยู่ใกล้หน้าผา จะใช้กำลังคนหรือช้างลากเช่นไรก็ไม่ทำให้หินนั้นเคลื่อนไหวได้ ชาวกะเหรี่ยงที่ทำงานอยู่นั้นจึงไปกราบเรียนให้ ครูบาศรีวิชัยทราบ ท่านจึงให้คนไปตามหลวงพ่อซึ่งกำลังสร้างทางช่วงอื่นอยู่ เมื่อหลวงพ่อครูบาวงศ์มาถึงท่านได้ยืนพิจารณาอยู่ครู่หนึ่ง จึงได้เดินทางไปผลักหินก้อนนั้นลงสู่หน้าผานั้นไป เหตุการณ์นี้ทำให้ ผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์แปลกใจไปตามๆกันที่เห็นท่านใช้มือผลักหินนั้นโดยไม่ อาศัยเครื่องมือใด ๆ ครูบาศรีวิชัยได้ยืนยิ้มอยู่ข้างๆ ท่านด้วยความพอใจ
    และ ขณะที่ท่านช่วยครูบาศรีวิชัยสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ครูบาชัยวงศาฯท่านได้ประทับรอยเท้าลึกลงไปในหินประมาณ ๑ ซ.ม. ข้างน้ำตกห้วยแก้ว ช่วงตอนกลางๆ ของทางขึ้นดอยสุเทพ เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่ท่านได้มาช่วย ครูบาศรีวิชัยสร้างทาง โดยตอนนั้น ท่านเพิ่งเป็น"ตุ๊เจ้าหนุ่มน้อย" อายุเพียง "22" ปีเท่านั้น

    ............................................................................................................


    ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม (ข้าวต้ม) อ.ลี้ จ.ลำพูน

    ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ที่รู้ใจคน ถอดกายได้โดยมีผู้ถ่ายรูปเดี่ยวของท่าน แต่ปรากฏว่ารูปถ่ายที่ออกมากลายเป็น 2 องค์ คือองค์หนึ่งนั่งอีกองค์หนึ่งยืน ท่านออกธุดงค์ตั้งแต่ยังหนุ่ม ครูบาศรีวิชัยซึ่งเป็นอาจารย์องค์แรกของท่านเคยทำนายตอนที่ท่านยังเป็นเณรว่า ท่านจะเป็นผู้มาสร้างวัดพระพุทธบาทห้วยต้มแห่งนี้ นอกจากนั้นท่านยังเป็นลูกศิษย์ของครูบาพรหมจักร (พระอุปัชฌาย์ของท่าน) และครูบาอภิชัย ขาวปี ที่มรณะแล้วร่างไม่เน่าเปื่อยอีกด้วย

    ท่านยังได้เรียนวิชาทางจิตจากตำราเก่าสมัยอยุธยาที่พระเก่งๆ ในสมัยโบราณนำมาซ่อนไว้ในถ้ำเพื่อไม่ให้ตกไปอยู่ในมือพวกพม่า โดยเทวดามาบอกที่ซ่อนคัมภีร์นี้ เมื่อท่านฝึกสำเร็จแล้วท่านจึงนำเข้าไปเก็บรักษาไว้ในเจดีย์ที่วัด ท่านฉันเจและชอบฉันลูกเกาลัด ที่แปลกก็คือท่านชอบไปเข้าฝันคนทั่วไป เช่นเคยไปเข้าฝันบอกตัวยาแก้โรคกระเพาะให้ คนตายแล้วฟื้นเล่าว่าได้ไปพบครูบาศรีวิชัยท่านบอกให้มากราบครูบาวงศ์เพราะท่านเป็นพระอริยะ และเทวดาที่วัดพระบาทห้วยต้มบอกวัดนี้จะเป็น 1 ใน 3 วัด ที่จะอยู่ได้จนครบ 5,000 ปี


    สภาพสวยเก่าเก็บมาหลายปี พิมพ์คมชัดลึกพุทธคุณครอบครบ เมตตาคลาดแคล้วดีนักแล แบ่งให้บูชา 234 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  14. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    .
    .


    ขออนุญาตแจ้งกำหนดการจัดส่งครับ



    *** วันที่ 27/09/2567 มีรอบจัดส่งของ ตัดรอบเวลา 11.00 น. ครับผม ***




    หากเลยกำหนดนี้จะมีรอบอีกสัปดาห์หน้าเลยครับผม


    เนื่องจากพอดีผมไม่สบาย ประสาทกล้ามเนื้อหลังอักเสบครับ ยังไม่หายดีเลยครับ จึงรวบยอดส่งสัปดาห์ละ 1 ครั้งครับ


    กราบขออภัยในความล่าช้าด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ



    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif
     
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    4075.ยอดมวลสารมหาพิธี ของดีราคาเบา พระขุนแผนพรายกุมาร
    หลวงปู่กล้าย วัดหงษ์รัตนาราม ลพ.จง,ลพ.กวย,ลพ.มุ่ย ปลุกเสก


    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    --30269edf93ab5e7c.jpg

    9jdruz-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    พระขุนแผนพรายกุมาร หลวงปู่กล้าย วัดหงษ์รัตนาราม ฝั่งธนบุรี ออกที่วัดศรีจันทร์ เนื้อดินผสมผงธาตุศักดิ์สิทธิ์ และชิ้นส่วนแตกหักของพระขุนแผน กรุบ้านกร่างจำนวนมาก ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2498

    มวลสารศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้เป็นมวลสาร
    - ในปี 2498 หลวงปู่กล้าย ได้กลับวัดศรีจันทร์ สุพรรณบุรี บ้านเกิดนั่งสมาธิพบผงธาตุศักดิ์สิทธิ์ที่วัดร้างมีเจดีย์ครอบอยู่ พออธิษฐานบวงสรวงรื้อเจดีย์ออกพบตาน้ำและบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ เมื่องมลึกลงไปพบผงสีขาวขุ่นตรงตามนิมิต(ผงนี้ต่อมาทราบว่าเป็นผงศักดิ์สิทธิ์ที่ปุ่คงอาจารย์ขุนแผนทำไว้สมัยอยุธยา วิญญาณปู่คงเข้าทรงอาจารย์ชุม ไชยคีรี นำมาขุดพบตรงตามนิมิตหลวงปู่กล้ายพร้อมกัน)
    - ในสมัยนั้นพระขุนแผนกรุวัดบ้านกร่าง ยังหาง่าและมีชิ้นส่วนที่แตกหักจำนวนมาก วัดศรีจันทร์ห่างจากวัดบ้านกร่าง 4-5กิโลเท่านั้น หลวงปู่กล้ายจึงได้เก็บพระขุนแผนที่ชำรุดบ้างไม่ชำรุดบ้างมาบดเก็บไว้เป็นตุ่มมังกร
    - หลวงปู่กล้ายเป็นพระที่เก่งมาก(ศพท่านไม่เน่าเปื่อย) ได้บรรจงเขียนผงวิเศษอีก 5 ชนิด ภายในกุฏิของท่านอีก 3ปีกว่า
    แล้วนำผงพุทธคุณทั้งหมดใส่โอ่งและปลุกเสกต่อไปอีกยาวนานเมื่อสำเร็จแล้วก็ได้นำผงวิเศษของปู่คงกับผงพระกรุวัดบ้านกร่าง รวมกับผงวิเศษของท่านที่เขียนขึ้น สร้างเป็นพระขุนแผนพรายกุมารขึ้น

    การอธิษฐานจิตปลุกเสก
    วาระที่ : 1
    => หลวงปู่กล้าย วัดหงษ์รัตนาราม ปลุกเสกแบบบินเดี่ยวยาวนานหลายปี

    วาระที่ : 2
    ประกอบพิธีพุทธาภิเษกใหญ่โดยมีพระคณาจารย์มาร่วมพิธีดังนี้
    - หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
    - หลวงพ่อหรุ่น วัดเสาธงทอง
    - หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    - หลวงพ่อกวย วัดบ้านแค
    - หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    - หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    - หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม
    - หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    - หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง
    - หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว
    - หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง
    - หลวงพ่อกาพย์ วัดจรรย์
    - หลวงพ่อถิร วัดป่าเลย์ไลย์
    - หลวงพ่อสม วัดดอนบุปผา
    - หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคอก
    - หลวงปู่กล้าย วัดหงษ์รัตนาราม เป็นต้น

    หลวงปู่กล้ายได้ปลุกเสกอยู่หลายปี ในสมัยนั้นหลวงปู่ถิรวัดป่าเลย์ไลย์ ดังมากแต่ในเรื่องพุทธคุณท่านยอมให้หลวงปู่กล้ายองค์เดียว ต่อมาหลวงปู่กล้ายได้นำพระทั้งหมดไปให้พระเกจิในยุคนั้นปลุกเสกที่วัดหงษ์ฯบ้างวัดศรีจันทร์บ้าง หรือคราวใดมีพิธีเสกใหญ่ท่านก็จะนำเข้าร่วมพิธี ตัวอย่างพระที่ดังๆพูดเกี่ยวกับพระขุนแผนรุ่นนี่ว่า หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ได้กล่าวว่า หลวงพ่อผมเสกไม่เข้าแล้วนะ หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง ได้พูดกับหลวงปู่กล้ายว่า ขุนแผนของพระครูพอๆกับพระกรุเลยนะ หลวงพ่อจงได้บอกกับลูกศิษย์ที่ถามท่านถึงพระรุ่นนี้ว่า ดีมากจ๊ะดีมาก หลวงพ่อเต๋ได้พูดกับหลวงปู่กล้ายว่า หลวงพ่อครับพระของหลวงพ่อเสกเต็มหมดแล้วไม่มีที่ว่างผมจึงลงวิชาตุ๊กตาทองให้เพราะที่ใต้พระเป็นกุมารทองนอนอยู่นี้

    พุทธคุณ :
    - เด่นมากทางด้านเมตตา มหาเสน่ห์ ค้าขาย คลาดแคล้วดีนักแล

    สภาพสวยเดิม พระสวยผิวเดิม เก่าเก็บไม่ได้ใช้ พิมพ์คมชัดลึกสุดยอดมวลสารผงวิเศษยอดเยี่ยมโดยแท้ พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 999 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    .



    รายการจัดส่ง แฟลช 27/09/2567



    27092567-fff.jpg



    ***สรุปรายการที่ หน้า1 ครับผม***
    Tel: 086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    Line id : engiman_nu



    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif
     
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    4076.ของRareเมืองเหนือ พระสมเด็จปรกโพธิ์รุ่นแรก วัดพระพุทธบาทสี่รอย
    หลวงปู่สิม และพระสุปฏิปันโน สายหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ปลุกเสก 22 รูป


    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    -058bb35d4ed734bd.jpg

    1374578-49d0e-jpg.jpg
    พระผงสมเด็จปรกโพธิ์ หลังพระพุทธบาทสี่รอย รุ่นแรก วัดพระพุทธบาทสี่รอย จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อผงพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2534

    => หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล้อง จังหวัดเชียงใหม่ และพระสุปฏิปันโน สายหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ปลุกเสก 22 รูป จำนวนการสร้างน้อยหายาก



    เรื่องเล่าตำนานพระพุทธบาท 4 รอย
    เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในศาสนาปัจจุบันนี้ได้เสด็จจารึกประกาศธรรม และโปรดเวไนยสัตว์มายังปัจจัยตะประเทศ (ประเทศไทยในปัจจุบัน)จนกระทั่งมาถึงเทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศ ชื่อเขา เวภารบรรพต

    ซึ่งขณะนั้นได้เสด็จพร้อมกับพุทธสาวก 500 องค์ และได้แวะฉันจังหันอยู่บนเขา เวภารบรรพตแห่งนี้ เมื่อพระพุทธองค์ฉันจังหันเสร็จ ขณะประทับอยู่ที่นั้น ก็ได้ทราบด้วยญาณสมาบัติว่าบนเทือกเขาแห่งนี้ ได้มีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ามาประทับอยู่บนก้อนหินก้อนใหญ่คือ พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้ภัทรกัลป์นี้ แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงเล็งดูรอยพระพุทธบาทแห่งพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ , พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ , พระพุทธเจ้ากัสสปะ
    อันมีในที่นี้พุทธสาวกทั้งหลาย มีพระสารีบุตรเป็นประธานเมื่อเห็นเช่นนี้จึงทูลถามว่า พระพุทธองค์ทรงเล็งดูด้วยเหตุใด

    พระพุทธองค์จึงตรัสตอบว่า ดู ก่อนท่านทั้งหลายสถานที่แห่งนี้แม้นว่าพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ ที่ล่วงมาแล้วในอดีตกาล ก็มาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี่ทุกๆ พระองค์ และ แม้นว่าพระศรีอริยเมตไตร ก็จักเสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี่ และจักประทับรอยพระบาท 4 รอยให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว ( คือประทับลบรอยทั้ง 4 ให้เหลือรอยเดียว )
    เมื่อพุทธองค์ตรัสแก่สาวกทั้งหลาย เสร็จแล้ว พระองค์ก็เสด็จไปประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ จึงมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์ จึงเกิดเป็นพระพุทธบาท 4 รอย

    เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์นั้นแล้วก็ทรงอธิษฐานว่า
    ในเมื่อ (เรา) ตถาคตนิพพานไปแล้ว เทวดาทั้งหลายก็จักนำเอาพระธาตุของตถาคต มาบรรจุไว้ที่รอยพระพุทธบาทที่นี่ ในเมื่อตถาคตนิพพานไปแล้ว 2000 ปี พระพุทธบาท 4 รอยนี้ก็จักปรากฏแก่ปวงชนและเทวดาทั้งหลาย ก็จักได้มาไหว้และบูชา
    เมื่อทรงอธิษฐานและทำนายไว้ดังนี้แล้วพระพุทธองค์ก็เสด็จไปเชตุวันอารามอัน มีในเมืองสาวัตถีนั้นแล เมื่อพระพุทธเจ้านิพพานไปแล้วเทวดาทั้งหลายก็นำเอาพระธาตุของพระพุทธองค์มา บรรจุไว้ที่พระพุทธบาท 4 รอยเมื่อพระพุทธองค์นิพพานล่วงมาแล้วประมาณ 2000 วัสสา

    เทวดาทั้งหลายต้องการอยากให้พระพุทธบาท 4 รอย ปรากฏแก่คนทั้งหลายตามที่พระพุทธองค์ทรงอธิษฐานไว้ ก็จึงเนรมิตเป็นรุ้งตัวใหญ่ (เหยี่ยว) ก็บินลงจากภูเขาเวภารบรรพต อันเป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธบาทสี่รอยในปัจจุบันนี้เพื่อบินลงไปเอาลูกไก่ของ ชาวบ้าน ( คนป่า ) ที่อยู่ตีนเขาเวภารบรรพต แล้วก็บินกลับขึ้นไปสู่ยอดเขา มันก็โกรธมากจึงตามขึ้นไปคิดว่าจะยิงเสียให้ตาย มันก็คิดตามไปค้นหาดู แต่ก็ไม่เห็นรุ้งตัวนั้น แต่เห็นรอยพระพุทธบาท 4 รอยอันอยู่พื้นต้นไม้และเถาวัลย์

    พรานป่าผู้นั้นก็ทำการสักการะบูชาเสร็จแล้วก็ลงจากภูเขา พอมาถึงหมู่บ้านก้เล่าบอกแก่ชาวบ้านทั้งหลายฟัง ข้อความอันนั้นก็ปรากฏสืบๆ กันไปแรกแต่นั้น คนทั้งหลายที่ทราบก็พากันไปสักการะบูชามาก แต่นั้นมาจึงได้ชื่อว่าพระบาทรังรุ้ง (รังเหยี่ยว)
    ในสมัยนั้นมีพระยาคนหนึ่งชื่อว่า พระยาเม็งราย เสวยราชสมบัติในเมืองเชียงใหม่ ได้ทราบข่าวจึงมีพระราชศรัทธาอยากเสด็จขึ้นไปกราบบูชาพระพุทธบาท 4 รอย ก็นำเอาราชเทวีและเสนาพร้อมกับบริวารทั้งหลาย เมื่อพระยาเม็งรายกราบนมัสการเสร็จแล้ว ก็นำเอาบริวารของตนกลับสู่งเมืองเชียงใหม่ ก็ตั้งอยู่เสวยราชสมบัติตราบเมี้ยนอายุขัย แล้วลูกหลายที่สืบราชสมบัติก็เจริญรอยตามและได้ขึ้นมากราบพระพุทธบาท 4 รอย ทุกๆ พระองค์

    หลังจากนั้นมาพระบาทรังรุ้งหรือรังเหยี่ยวนี้ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น พระพุทธบาทสี่รอย เพราะมีรอยพระพุทธบาทประทับซ้อนกันถึง4 รอย มาในสมัยยุคหลังคนทั้งหลายจึงเรียกขานกันว่าพระพุทธบาทสี่รอย คือมี
    รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 4 พระองค์ ที่ล่วงมาแล้วในภัทรกัลป์นี้ คือ
    1 รอยพระบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ รอยแรก เป็นรอยใหญ่สุดยาว 12 ศอก
    2 รอยพระบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ เป็นรอยที่ 2 ยาว 9 ศอก
    3 รอยพระบาทของพระพุทธเจ้ากัสสปะ เป็นรอยที่ 3 ยาว 9 ศอก
    4 รอยพระบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ (ศาสนาปัจจุบันนี้) เป็นรอยที่ 4 รอยเล็กสุดยาว 4 ศอก



    สภาพหิ้งเก่าเก็บ ของRareสายเหนืออีกรุ่นที่น่าบูชาอย่างมาก ของดีที่ถูกลืม เนื้อดีพิธีดี พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 290 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334
    4077.สวยกล่องเดิมๆวัดสร้างเอง รูปหล่อเหมือนรุ่น7 หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    เจตนาการสร้างบริสุทธิ์ พระอริยเจ้าเถราจารย์เมตตาอธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    -e1678695971534.jpg

    -5a2246318766ba89.jpg
    รูปหล่อเหมือนบรรจุกริ่ง รุ่น7 หลวงปู่สิม พุทธจาโร วัดถ้ำผาปล่อง จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อทองแดงรมดำ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2535

    สภาพสวยกล่องเดิมๆ ผิวปรอทน้ำยาเดิมๆมีทั่วเหรียญ รมดำเปิดบ้างเล็กๆน้อยๆ เก่าเก็บพระไม่ช้ำไม่ได้ใช้ เหรียญดีปีลึกอีกรุ่นของหลวงปู่ ที่ดีครบทั้งพุทธคุณและเจตนาการจัดสร้างเพื่อการบุญการกุศล สุดยอดคำเดียวครับผม แบ่งให้บูชา 345 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณหนุ่ย จองแล้วครับ)



    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 กันยายน 2024
  19. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,590
    ค่าพลัง:
    +30,884
    สวัสดียามเช้า.jpg
     
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,225
    ค่าพลัง:
    +14,334



    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...