เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ดูพระมาทั้งวัน เชิญเปลี่ยนอรรถรส เป็น "ฟังเรื่องผี" บ้าง

เขาบอกเป็น "ผีอินดี้" ไม่ทราบจะอินดี้ฮารากแตกประสาผีๆ หรือน่ากลัวชนิด พระยังวิ่งหนีจีวรปลิว? เพราะเขาเพิ่งส่งมายังไม่ได้ฟังเหมือนกัน

รีบส่งต่อให้สมาชิกฟังพร้อมๆกัน อย่าลืมกดไลค์ กดแชร์ให้คุณชาติด้วย เห็นบอกข่าวมาว่า อีกสักตอนสองตอนก็จะหยุด ต้องไปทำธุระแถวต่างจังหวัดสักระยะ อาจไม่สะดวกเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือในการทำคลิป แต่ก็จะพยายามทำให้ได้ ถ้าพอไหว

กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ...อย่าลืมกดติดตาม บอกเพื่อนฝูงฟังด้วย ของเค้าสนุกจริง แต่การเปิดหน้าจอยังน้อยไปหน่อย อาจเป็นเพราะยูทูปสมัยนี้เรื่องราวแข่งขันกันมาก ไม่ขึ้นหน้าจอถี่ๆคนก็ไม่รู้ ไม่เห็น ทั้งที่เรื่องของเขาดีกว่าผีบ้า ผีบอ ผีปัญญาอ่อน อีกหลายร้อยเรื่องในตลาด

 

"หลวงพ่อเงิน 45"
จอบใหญ่ต้นแบบ
============

เปิดกรุจ้าละหวั่นไม่ยั้ง ให้ชม "องค์ต้นแบบ" อีกหนึ่งพิมพ์เพื่อความเพลินตา หรรษาใจสบายใจว่า บูชา "หลวงพ่อเงิน 45" ชุดนี้มาจาก "ต้นน้ำ" ผู้สร้างตัวจริง ผู้ทุ่มเทให้พระชุดนี้ฝากไว้เป็นวัตถุมงคลล้ำค่าของแผ่นดิน...เป็นประวัติศาสตร์ชีวิต !!!

เพราะคงไม่มีปัญญาหรือเรี่ยวแรง สร้างอย่างนี้ได้อีกแล้ว

พิมพ์จอบใหญ่ข้างไข่ปลา เนื้อทองดอกบวบ...ดู "องค์ปฐม" สไตล์ 'ภาพเล่าเรื่อง' ยอดฮิตยอดนิยมกันเลยครับ...


แบบสำเร็จที่คณะกรรมการจัดสร้างตกลงให้ "คงด้านหน้า" ไว้แต่ให้ "ตัดหูเหรียญ" ออก เพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตนขึ้นมา ไม่ไปเลียนแบบปี 2515

เนื้อทองเหลือง หนาหนักสวยงาม ใบหน้าเดียวกับที่ให้บูชาไปหลายองค์

ด้านหลัง...จำลองแบบจากปี 2515 เพื่อให้คณะกรรมการดู แต่ทุกคนลงมติว่า เปลี่ยนทรงเป็นเหรียญไร้หู-ไร้ห่วงแล้ว ก็ "เปลี่ยนแบบด้านหลัง" เสียด้วย สร้างเป็น "หลังแบบ" หนแรก ไม่ซ้ำใครหรือเลียนแบบใคร ตอกรันนิ่ง นัมเบอร์ ตอกโค้ตปีสร้าง ส่วนอักขระยันต์ของศักดิ์สิทธิ์คงเอกลักษณ์ดั้งเดิมเอาไว้

การแก้ไขแบบครั้งสุดท้าย จึงลุล่วงด้วยมติเอกฉันท์ องค์ปฐมนี้ทำมา 4-5 เหรียญ เป็นตัวอย่าง ตกอยู่ที่นี่หนึ่งเหรียญหลังจากผ่านมหาพิธีภิเษกครบถ้วน จากอุโบสถสำนักตักศิลา บางคลาน 3 วันเต็มๆ

พระอย่างนี้ หากอีกสิบ-ยี่สิบปี ข้างหน้า "หลวงพ่อเงิน 45" ราคาหลักแสน หลักล้าน แล้วลูกหลานถือองค์นี้ออกไปในท้องตลาด ร้อยทั้งร้อยเสี้ยนก็จะตีเก๊ทันควัน หาว่าเก๊รุ่นปี 15 เสียด้วย แต่ก็งงเป็นไก่ตาแตกว่าทำไมใบหน้าจึงกลายเป็นปี 45...?

ใครหนออุตริ "เก๊" แบบไม่ดูตาม้าตาเรือหรือปัญญาเบาขนาดนั้น?!?

นี่ปะไร...ปัญหาที่เกิดบ่อยๆว่า พระที่พ่อแม่ปู่ย่าตายายรับจากวัด จากหลวงพ่อ จากพิธีในงาน บางครั้งไปถึงเสี้ยนดูแล้วเก๊ ไม่มีในสาระบบ

ก็น่าเห็นใจคนซื้อ-คนขาย พวกเขาต้องเล่นในสิ่งที่ตัวเองรู้เห็น เคยซื้อมา-ขายไป-ขายได้...ของผิดหูผิดตามาด้วยนิยายนิทานปู่ย่าตาทวด พวกไม่สน!

มุมพุทธพาณิชย์ จึงทำให้พระดี ของดีกลายเป็นของเก๊ หาที่มาที่ไปในความเก๊ไม่ได้ว่า...

--เก๊ทำไม?
--เก๊ไปขายใคร ?
--เก๊ดีอย่างนี้ไหงมีองค์เดียว?
--รึเก๊ฝีมือดีขนาดนี้ ไฉนไม่ทำให้เหมือนที่เขาเล่นกันซะเลย

นี่แหละครับ...พระแท้ทรงคุณค่า ที่กลายเป็น "พระเก๊ชวนพิศวง" เต็มไปด้วยคำถามที่มีเยอะแยะในตลาด!!!

แต่ถ้าลูกหลานแน่วแน่รู้ประวัติ ก็ไม่เห็นจะต้องเสียใจ หรือตกใจ ใจเสีย...เก็บไว้เป็นสมบัติตระกูล บูชาเป็นศิริมงคลหนึ่งเดียวสืบทอดต่อๆกันไป หรือจะมอบให้คนที่เขาเชื่อว่า...ใช่!.. ไปบูชาต่อก็ไม่แปลก

องค์นี้จึงบันทึกความจริงไว้ก่อนดังนี้ จะได้ไม่เป็น "ของเก๊พิศดาร" วันหน้า หากเกิดหลุดหลงออกไปในตลาด

ให้ชมกันแล้ว ก็ถ่ายภาพ
ทุกมิติ ทุกมุมมอง ดูเพลิน
ว่าของตัวอย่างขั้นเทพเขา
ทำอย่างดี พิถีพิถันไม่สุก-
เอา เผากินหรือทำขอไปที!

เปรียบเทียบกับองค์จริงที่มอบให้บูชา เห็นชัดว่าของจริงขนาดย่อมลงกว่า "ต้นฉบับ"เล็กน้อย แต่เหมือนกันทั้งใบหน้า ทรวดทรงองค์เอว ริ้วรอยศิลปในองค์พระทุกเฉด

ความเข้มข้นของสีทองดอกบวบ 'องค์ปฐม' ก็สีเข้มกว่า เพราะยังไม่ได้ผสมชนวนโลหะล้ำค่า อาทิ แผ่นพระยันต์ ชนวนมงคลสารพันชนิด เหมือน 'องค์จริง' ที่ปรุงแต่งสำเร็จเสร็จสรรพครบเครื่อง เช่นเพชรแท้ที่ผ่านการเจียระไน!

 

รับครับคุณอา

 

สวัสดีครับ คุณอา wanwi และ พี่ๆนักขุดทุกท่าน
พระหลวงพ่อเงิน เดินทางมาถึงแล้วครับ

รบกวนสอบถามคุณอา wanwi ครับ รูปหล่อลอยองค์เหล็กน้ำพี้ หมายเลของค์พระ ไม่ทราบว่า เริ่ม RUN ตั้งแต่เลขไหนถึงไหน หรือว่า RUN ต่อจากเนื้ออื่น องค์ที่ได้รับมานี้มองเลขไม่ค่อยเห็น เพราะติดขอบครับ

 

แวะเข้าเว็ปอีกสักเที่ยว วันนี้นั่งหน้าจอซะตาลาย กลายเป็นวันหยุด...หยุดอยู่หน้าจอ-ฮ่า

รับการเคาะชุดนวะโลหะ+เลขมงคลจากน้องศิวะ หมายเลขประจำองค์คลาสสิคมาก เห็นแล้วน้ำลายไหลทั้งพระกับเลขชุด

โมทนาส่งพร้อมชุดแรกวันจันทร์ครับ

 

การเดินทางในวันหยุดเฉลิมพระชนมพรรษาของ "หลวงพ่อเงิน 45" ไม่ขลุกขลักไม่ติดขัด ต้องขอบคุณไปรษณีย์ไทย

สำหรับคำถามน้องภาส ขอเรียนว่า พระรูปหล่อเหล็กน้ำพี้ รันนัมเบอร์ตั้งแต่หมายเลข 1 ครับ ไปตามปกติ ส่วนองค์นี้ผมไม่ทราบนัมเบอร์ท่าน เพราะรับมาจากผู้สร้างซึ่งท่านเหลือ 3 องค์(ตอนนั้น ตอนนี้ไม่ทราบ) แบ่งมาให้ผม 1 องค์ พร้อมกับเลี่ยมจับกระเช้าทองคำมาให้เรียบร้อยตามภาพ

ผมก็เป็นคนช่างสงสัย ได้ให้ลูกน้องไปทดสอบราคาทองกับโรงเตี้ยม...เอ้ยโรงตึ๊ง (ถ้าไปร้านทองเขาจะไม่ตีราคาให้ เผลอๆต้องแกะออกชั่ง ) เถ้าแก่โรงตึ๊งใจดี บอกลูกน้องว่า รับจำนำเฉพาะทอง ให้ 5,000 บาท แสดงว่าราคาทองจริงต้องเกินนั้นอีกสักพันกว่าบาทหรือสองพัน

ได้ขออนุญาตท่านแล้วจะนำให้สมาชิกบูชาเพื่อทำบุญ ท่านก็บอก..."ท่านเป็นของคุณแล้ว จะทำอะไรก็เป็นสิทธิ์เต็มร้อย แต่ผมไม่มีให้แล้วนะ "....นี่คือผู้ใหญ่น่านับถือตัวจริง

วันไหนน้องภาสแกะทองออก เห็นเลขนัมเบอร์อะไร บอกผมด้วย ซึ่งคงเป็นเลขดีต้นๆที่ท่านผู้สร้างต้องควักเงินจ่ายตามราคาจอง ไม่ใช้อภิสิทธิ์ใดๆ

ขอบคุณการแจ้ง หลวงพ่อเงินเข้าบ้าน วันศุกร์มหามงคล สุขสำราญ เงินไหลมา เฮง เฮง ครับ

 

ขอบคุณครับคุณอา wanwi

ขอรบกวนอีกนิดครับ ถ้ายังพอมี ชุดนวโลหะ เหลืออีก ขอบูชาสัก 1 ชุด ถ้าไม่มีไม่เป็นไรครับ แต่ขอเว้นช่วงหน่อยนะครับ 55

 

มีอีกหนึ่งชุดครับ เป็นชุดสุดท้าย ไม่ได้ขอผู้ใหญ่เพิ่ม ไม่ทราบว่าท่านยังมีอีกหรือเปล่า แต่ชุดนวะโลหะก็เป็นหนึ่งใน "ชุดตัวตึง" เหมือนเหล็กน้ำพี้ รับการจองหมดเร็วไวถัดมา

"หลวงพ่อเงิน 45" มีพิมพ์ "ตัวตึง" ภาษาวัยรุ่นสมัยนี้อยู่ 2-3 อย่าง...

--เหล็กน้ำพี้ อันดับ1
--นวะโลหะ อันดับ 2 เพราะเป็นนวะเต็มสูตรสุดๆที่หาผู้สร้างลงทุนอย่างนี้ยาก
--"ตัวตึง" สุดท้ายคือ เนื้อดินแจกคณาจารย์-กรรมการ พิมพ์หลังยันต์พระเจ้า 5 พระองค์นี่ละ

ถ่ายภาพ "นวะโลหะ" ให้น้องภาสชมด้านล่าง การโอนช้า-เร็ว ก็ตามสะดวกครับ

 

ชุดรูปหล่อนวะโลหะ
หมายเลขชุด1268
==============


ถ่ายภาพสดๆร้อนๆให้น้องภาสชม หมายเลข 1268 รวมเลขสุดท้ายได้ "8" อภิมหามงคลคนจีนชอบเป็นอันดับ 1

จากหน้ากล่องตามภาพ ไม่จับท่านพลิกหรือเอาออกมาถ่ายให้โดนไอเหงื่อที่มือ ชมภาพแค่นี้ก็ "สุโค่ย-น่ารัก" แล้ว

ตามสบายและตามสะดวกเลยน้องภาส ตอบรับผมก็จัดส่งวันจันทร์พร้อม "จอบใหญ่" โมทนาครับ

 

หลวงพ่อเงิน45-จอบเล็ก
===============

ก่อนปิดเครื่องพักสายตาที่กรำศึกหน้าจอมาทั้งวัน ฝากราตรีสวัสดิ์ในวันศุกร์มหามงคลให้สุขเลิศล้ำกับ "หลวงพ่อเงิน 45" องค์งามราคาบางเบา

=======450=======

จอบเล็กเนื้อทองดอกบวบแต่มีโลหะชนวนมงคลผสมเพียบ ไม่ใช่โลหะของโรงงานแม้กรัมเดียว ทุกชิ้นผู้สร้างจัดให้เองล้วนๆ โรงปั้มมีหน้าที่แค่รีดแผ่นโลหะที่ผสมแล้ว กับปั้มพระออกมาแค่นั้น

เนื้อพระจึงดูค่อนข้างคล้ำ แต่เข้มขลังดังใจหมาย!

เล็กพริกขี้หนู ดูไม่เบื่อ

กล่องครบ
เก็บไว้ก็ได้
ขึ้นคอก็ดี!

 

รับชุด นวโลหะ ครับคุณอา wanwi ขอบคุณครับ
โอนเงินเรียบร้อยครับ


ส่วนสาเหตุที่ผมสอบถามเกี่ยวกับการ RUN หมายเลขของชุดเหล็กน้ำพี้ เป็นเพราะว่า ผมลองไปดูในเวบอื่นที่มีให้บูชา ลอยองค์เนื้อเหล็กน้ำพี้ หมายเลขประจำองค์พระหลายพัน แต่มีคนคอมเม้นต์ว่า หมายเลขไม่ใช่ จึงสงสัยว่าหมายเลขควรจะเท่าไรถึงเท่าไรครับ

พี่ๆนักขุด ท่านใดจะทดลอง ชุดพิมพ์สี่เหลี่ยมกับแม่เหล็ก ก็ระวังหน่อยครับ เช่น องค์สีดำผสมเหล็กน้ำพี้ ดูดกับแม่เหล็กแรงมากๆ พระเนื้อผงกระแทกเหล็ก ประเดี๋ยวเนื้อจะกะเทาะนะครับ 55

 

วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๖ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๘ ๘ ปีเถาะ
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

น้องภาสรับแล้วโอนส่วนผมปิดเครื่องพักสายตาก่อนหน้านั้นเพราะอยู่หน้าจอทั้งวัน เล่นเอาต้องทานยา หยอดยาอุตลุด

เช้านี้ได้คุยกับท่านผู้สร้างเพิ่มเติมเรื่อง "รูปหล่อเหล็กน้ำพี้" ปรากฏว่าข้อมูลที่ผมเขียนทีแรก คลาดเคลื่อนเล็กน้อย คือผมเอา "ยอดจองเกิน" มาเป็นยอดสร้างเพราะการสนทนาคราวแรกๆ คุยกันทั้งวันไม่ได้จดตัวเลขไว้ จึงพลาดได้ประสาสว.

ยอดสร้างจริง "รูปหล่อเหล็กน้ำพี้" 5,545 องค์ รันนัมเบอร์ตั้งแต่ 1-องค์สุดท้ายตามนั้น องค์แรกเบอร์ 1น่าเป็นของท่านผู้ใหญ่ที่ต่อมาได้เป็นนายกรัฐมนตรีหลังสร้างพระชุดนี้อีกไม่นาน...(ของน้องภาสก็น่าจะเป็นเบอร์ดี-เบอร์สวยเพราะเป็นของท่านผู้สร้าง)

ส่วนตัวเลข 1,500 คือการจองที่เกินมาหลังจากปิดยอดสรุป จึงต้อง "เกลี่ย" กันอุตลุด ได้ไปแค่คนละองค์สององค์ดังกล่าว จำได้ว่าตอนนั้นผมเขียนจองไป 3 องค์ แต่เด็กรับจองที่สนิทกันบอกว่า อย่าจองเลยพี่ หมดตั้งนานแล้ว ก็ไม่ได้เซ้าซี้สงสัยข้องใจอันใด

ราคาจองเมื่อ 21 ปีที่แล้ว องค์ละ 1,945 บาท แพงมากทีเดียวเป็นรองแค่ "เนื้อทองคำ" เท่านั้น

ต้องขอบคุณ ความละเอียดรอบคอบของน้องภาสที่ทำให้ผมต้องสอบถามผู้ใหญ่อีกครั้งอย่างถี่ถ้วน เป็นบทเรียนว่า การคุยเกี่ยวกับตัวเลข ต่อไปต้องจดบันทึก อย่าคิดว่าสมองดีจำได้ บางทีวัยสว.มันก็เล่นงานให้เราสลับข้อมูลได้เหมือนกัน

โมทนากับการโอนอีกครั้งครับน้องภาส ทุกชุดทุกองค์ ส่งวันจันทร์ก่อนหยุดวันพระใหญ่อีก 2 วัน ส่วนช่วงวันหยุดนี้ขอให้มีความสุขมากๆ บารมี "หลวงพ่อเงิน พุทธโชติ" พิทักษ์รักษานำมาแต่ความโชคดี มีโชคลาภและสุขภาพแข็งแรง

 

ยามเช้าวันหยุดกับบุญริมฟุตบาธที่ปักษ์ใต้ ข่าวว่าฝนกับน้ำถล่มแถวตะกั่วป่า พังงาอ่วมอรทัย แต่ชุมพรดูถนนแห้งดีไม่เป็นไร อนุโมทนาบุญใส่บาตรส่งถึงพระพิรุณเทพแห่งฝน กรุณาส่งฝนมาตามฤดูเป็นปกติ อย่ารุนแรงเสียจนผู้คนเดือดร้อน

 

"หลวงพ่อเงิน 45"
'จอบเล็ก'ต้นแบบ
============

ให้ชม "จอบใหญ่-องค์ต้นแบบ" ไปแล้ว คราวนี้ถึงคิว "จอบเล็ก" ตัวอย่างสุดท้ายก่อนผ่าน "แอ็ฟพรู้ฟ" จากทีมสร้าง

องค์ต้นแบบปั้มมาด้วยเนื้อชนวนของจริง 4-5 องค์ อยู่ที่นี่หนึ่งองค์ ทุกองค์ผ่านมหาพิธีพุทธาภิเษกครบถ้วน เฉกเช่นองค์ที่ปล่อยออกให้บูชา

ตัวอย่างที่ออกแบบให้ "หลวงพ่อเงิน" อวบ ท้วม สมบูรณ์เป็นสัญลักษณ์พระมหากัจจายนะเถระเจ้า ยืนยันว่านอกจากพุทธานุภาพด้านอื่นครบแล้ว ความมีโชคลาภ อุดมสมบูรณ์พูนสุขมั่งคั่ง เป็นสิ่งที่ "หลวงพ่อเงิน 45" เน้นย้ำในยุคที่ต้องทำมาหากินแข่งขันรุนแรง

ความอ่อนโยน มีเสน่ห์ต่อผู้พบเห็น จึงฉายประกายอยู่ใน "หลวงพ่อเงิน 45" จอบเล็ก แทนความขึงขัง ดูเป็นนักเลงโต

มติผู้สร้างให้ "ตัดหู-ห่วง" ออกเหมือนพิมพ์ใหญ่

ด้านหลัง-ยังถอดแบบจาก "หลวงพ่อเงิน 15" แต่มติให้เปลี่ยน เป็น "หลังแบบ" เช่นเดียวกับพิมพ์ใหญ่

เทียบกับ จอบเล็กองค์จริงที่ปล่อยออกทำบุญบูชา คราวนี้องค์จริงโดดเด่น ใหญ่กว่าองค์ตัวอย่างเล็กน้อย กลับกันกับพิมพ์ใหญ่ที่ต้นแบบโตกว่าองค์จริง

"หลวงพ่อเงิน 45" องค์แทนแห่งมหาเสน่ห์ มหาเมตตา และมหาโชคลาภ ยังมีให้ร่วมบุญบูชาเป็นศิริมงคลชีวิตอีกพอประมาณรวมทั้งเรื่องราวน่าทึ่ง+ตัวอย่างดีๆ...ติดตามต่อไป!

 

ขอบคุณครับคุณอา wanwi
จะได้เป็นข้อมูลและแนวทางในการสะสมต่อไปครับ

 

ดีครับน้องภาส ผมก็ชอบมากในการรู้อะไร รู้ละเอียดถ่องแท้ รอบคอบ ยิ่งการสะสมบูชาวัตถุมงคลซึ่งต้องใช้เงินไม่ใช่น้อยในยุคปัจจุบัน การรู้เท่าทันก็เป็นสิ่งสุดยอด

ใครจะไปรู้วันข้างหน้า จาก "ผู้ซื้อ" เราต้องเป็น "ผู้ขาย" ขึ้นมาบ้าง ซึ่งนักขายส่วนใหญ่ร้อยละร้อยก็พัฒนาตัวเองมาจากการเป็นนักซื้อ-นักสะสมทั้งสิ้น ใครบอกว่าจู่ๆมา"ขายพระ-วัตถุมงคล"ได้เลยโดยไม่เคยซื้อ สะสม ศึกษา

ไอ้หมอนั่นไม่บ้า ก็เมา หรือเพี้ยน ปัญญาอ่อนสติไม่ดี คิดว่าคนอื่นโง่เหมือนมัน!

มีความสุขกับการเป็นผู้ซื้อ-สะสมครับน้องภาส วันหนึ่งจะเป็นผู้ขายที่เพียบพร้อมด้วยของดี ข้อมูล และสติปัญญา

 

"หลวงพ่อเงิน 45"
มีดหมอเหล็กน้ำพี้
1 ใน 45 ด้ามตัวจริง!
===============

ตัวเลขคราวนี้ ไม่ผิด ไม่คลาดเคลื่อนในจำนวนการผลิต เพราะ "เหล็กน้ำพี้" มีจำนวนจำกัด แถมการผลิตยังจำกัดจำเขี่ยด้วยเวลากระชั้น

มีดหมออันเปรียบประดุจ "ดาบฟ้าฟื้น-ขุนแผนแสนสะท้าน" ในชุด "หลวงพ่อเงิน 45" เนื้อเหล็กอัศจรรย์ล้วนๆ จึงผลิตได้เพียง 45 เล่ม หรือด้ามแล้วแต่จะเรียก

ชม "ภาพเล่าเรื่อง" ไม่ต้องเกริ่น "อินโทร" มาก...

ใหญ่กว่ามีดปากกา ไม่ใหญ่เกินเหน็บหรือพกพา ขนาดความยาวทั้งเล่มยังไม่ดึงจากฝัก 6 นิ้วครึ่งเป๊ะ

ฝักกับด้ามทำด้วยไม้สักทอง อีกร้อยปึก็ไม่ผุถ้าไม่แช่น้ำ ด้ายแดงมงคลรับจากเกจิคณาจารย์ในงานมาผูกร้อย ส่วนด้ายแดงกลุ่มใหญ่มาจากร้านรับตีเสริมความงามมาให้

พลิกกลับให้ชมความงามอีกด้าน ก่อนดึงมีดออกจากฝักที่ไม่เคยดึงมานาน 21 ปี

นี่แหละ...ใบมีดเหล็กน้ำพี้ตัวจริง เสียงจริง เป็นสุดยอดตัวตึงที่สร้างไว้ 45 เล่มเพื่อมอบกรรมการผู้ใหญ่ที่ไม่ได้มาร่วมงาน เป็นพวกประสงค์ออกเงิน แต่ไม่ประสงค์ออกนามที่มีหลายท่าน

เหล็กน้ำพี้ เมื่อได้จากชาวบ้านเขาเหล็กน้ำพี้ทั้งหาและสกัดได้แล้ว ก็แบ่งส่วนหนึ่งนำไปให้ร้านรับตีเหล็กที่อยู่ในชุมชนหมู่บ้าน แจ้งความประสงค์มอบเนื้อเหล็กน้ำพี้ให้ บอกจำนวน รับรู้ราคาแล้วให้ตีโดยทิ้งคนเฝ้าไว้หนึ่งคน ช่างก็เร่งทำจนเสร็จภายใน 2 วันไม่ผิดรูปแบบ

เสร็จก่อนถึงวันมหาพิธีปลุกเสกเพียงวันเดียว!!!

ใบมีดส่วนกว้างสุด 'ครึ่งนิ้วเศษ' ความยาวจากปลายมีดมาสุดกั่น 3 นิ้ว 4 มิล

ดึงออกจากฝัก 21 ปีผ่านไป ไม่มีสนิมขุมรบกวน เป็นอานุภาพเหล็กน้ำพี้ ใบมีดสีเข้มราวปีกแมลงทับ แม่เหล็กดูดติดเป็นปกติ

ตรงโคนมีด ตอกโค้ตรูป "หัวช้าง" เป็นสัญลักษณ์ของสัตว์ประเสริฐที่ หลวงพ่อเงิน บางคลาน เทพเจ้าเมืองชาละวัน ท่านโปรดปราน

พลิกอีกอีกด้านสลักยันต์ นะ โม พุท ธา ยะ พระเจ้า 5 พระองค์ มหายันต์ที่เทพเจ้าบางคลานชอบใช้มากที่สุด!

ส่งท้ายอีกหนึ่งภาพ ก็อย่างที่เขียนบอกเสมอ...สิ่งของพิเศษ มีคุณค่าพิเศษ สร้างเป็นพิเศษ เกือบไม่มีคนภายนอกทราบ ถ้าเรารู้ไว้บ้างทำนอง...รู้ไว่ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม

สักวันหนึ่งมีลูกหลานของผู้รับไป นำออกมาขาย บังเอิญจ๊ะเอ๋กับเราผู้รู้...นั่นคือโอกาสอันดีในการซื้อหา ที่ชาววงการชอบพูดกันว่า...ฟลุ๊ค!

คำนี้ยังใช้ได้ดีสำหรับ วงการวัตถุมงคล ผู้รู้มากกว่าย่อมได้เปรียบ หากรู้เท่ากัน ก็ไม่ต้องหาของไปขายใคร เพราะทุกคนมีปัญญาหากันเองเป็นหมด

ส่งท้ายมินิซีรีส์ "มีดหมอเหล็กน้ำพี้" ที่ผ่านการปลุกเสกสุดลิ่มทิ่มประตูในมหาพิธี "หลวงพ่อเงิน 45" ครบถ้วนบริบูรณ์ ทั้งยังยกพานให้หลายคณาจารย์เป่ามนต์เป็นพิเศษ 45 เล่มมีไม่มาก ยกพานไม่ยาก... ใครขอก็บอก "ของผู้ใหญ่"!

มีดหมอด้ามนี้ ชุดนี้ จึงหลุดรอดมาให้ท่านชมและรู้เรื่องราวอย่างมีความสุขในวันหยุด ไม่ต้องออกไปสิ้นเปลืองนอกบ้าน ฉะนี้แล!!!

 

"หลวงพ่อเงิน 45"
มีดหมอเหล็กน้ำพี้
ร่วมบุญ-1ใน45เล่ม
=============

ขุนแผนแสนสะท้าน รังสรรค์ "ดาบฟ้าฟื้น" ตำนานที่ไม่มีวันตายของดาบไทย ใช้ "เหล็ก" อะไรบ้าง?

***เอาเหล็กยอดเจดีย์มหาธาตุ
ยอดปราสาททวารามาประสม
เหล็กขนันผีพลายตายทั้งกลม
เหล็กตรึงโลงตรึงปั้นลมสลักเพชร

หอกสัมฤทธิ์กริชทองแดงพระแสงหัก
เหล็กปฏักสลักประตูตะปูเห็ด
พร้อมเหล็กเบญจพรรณกัลเม็ด
เหล็กบ้านพร้อมเสร็จทุกสิ่งแท้
เหล็กไหลพร้อมเสร็จหล่อบ่อพระแสง
เหล็กกำแพงเหล็กน้ำพี้ทั้งเหล็กแร่ ฯลฯ

แล้วดาบของท่าน "พระยาพิชัยดาบหัก" ขุนศึกกู้แผ่นดินเคียงข้าง พระเจ้าตากสินมหาราช คือดาบ "เหล็กน้ำพี้" จากบ้านเกิดเมืองนอนของท่าน...อุตรดิตถ์ หรือไม่?

เรื่องนี้ สงสัยต้องคัดลอกเพลงยาว...เอ้ย เรื่องยาวให้ท่านอ่านจุใจ

(((ขอบพระคุณเรื่องและภาพ-ข้อมูลจาก "เรื่องเล่าชาวสยาม" และ AppGeji )))

***ตำนานดาบแดงหรือดาบเหล็กน้ำพี้ขุนพันธฯ


ประการแรก ดาบเล่มนี้เป็นของพระยาพิชัยหรือไม่?

ประการที่สองเป็นดาบคู่ที่ใช้รบหรือดาบเดี่ยวที่ใช้ถือ?

ประการที่สาม ใครเป็นผู้ปลุกเสกและลงอาคมในดาบ?

ประการที่สี่ ท่านขุนพันธฯ ท่านได้รับดาบเล่มนี้มาจากใคร และมีจำนวน กี่เล่มกันแน่?

ประการสุดท้าย เจาะลึกเรื่อง "เหล็กน้ำพี้" มีพลังอำนาจเร้นลับในการนำมาสร้างดาบ อย่างไรบ้าง?

ที่มาของการเรียก ดาบเหล็กน้ำพี้นี้ว่า "ดาบแดง" มาจากการที่ท่านขุนพันธฯ เห็นว่าดาบเหล็กน้ำพี้เป็นดาบศักดิ์สิทธิ์ จึงนำผ้าแดงมาเย็บเป็นถุงหรือซองผ้า สวมทับดาบไว้อีกชั้น

หากไม่จำเป็นท่านจะไม่นำดาบออกมาจากซองผ้าสีแดง อีกทั้งเป็นการป้องกันสิ่งสกปรกที่ไม่ควรให้เกิดแก่ดาบอาคม ซึ่งท่านอาจจะเผลอเรอนำไปวางที่ใดที่หนึ่งโดยไม่ตั้งใจ

สาเหตุที่ใช้ผ้าสีแดงนั้น มีผู้รู้ได้อธิบายไว้ว่า หากเราต้องการเพิ่มความเข้มขลัง ให้กับเครื่องรางของขลัง ตามตำราในอาถรรพ์เวทของอินเดียโบราณจะใช้ผ้าสีแดงเป็นหลัก อาจจะใช้สีขาวบ้าง สุดแท้แต่ว่าเครื่องรางของขลังนั้นจะป็นอะไร เราจะเห็นว่า แม้แต่ผ้ายันต์หรือเสื้อยันต์ก็นิยมใช้ผ้าสีแดง

สำหรับผ้าสีเหลือง ที่นิยมนำมาใช้ในตอนหลังนั้น น่าจะมาจากความเชื่อตามคตินิยมของชาวพุทธที่ว่า สีเหลืองเป็นสีของธงชัยพระอรหันต์

สำหรับประเด็นแรกที่ว่า ดาบแดงนี้ เป็นดาบของพระยาพิชัยดาบหักหรือไม่?...เรื่องนี้มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่า จากข้อมูลที่ตรงกัน ท่านขุนพันธฯ ได้ให้สัมภาษณ์กับบุคคลหลายท่านว่า...

ดาบนี้ เป็นดาบที่ท่านได้รับมาจาก หลวงกล้ากลางณรงค์ ที่เดินทางมารับราชการที่พิจิตร ในสมัยเดียวกับท่านขุนพันธฯ โดยท่านขุนพันธฯ ได้ฝากตัวเป็นบุตรบุญธรรมกับหลวงกล้ากลางณรงค์ ก่อนที่หลวงกล้าฯ ท่านจะมอบดาบแดง หรือดาบเหล็กน้ำพี้ ซึ่งเป็นดาบประจำตระกูลเล่มนี้ ให้กับท่านขุนพันธฯ เป็นที่ระลึก

ซึ่งตามธรรมเนียมโบราณ หากใครเป็นลูกบุญธรรม ผู้เป็นพ่อก็จะมอบของสำคัญของตน ตามความเหมาะสมของฐานะ ของผู้ให้และผู้รับ

และจากการสืบข้อมูล หลวงกล้ากลางณรงค์ผู้นี้ ท่านเป็นผู้สืบเชื้อสายมาจากต้นตระกูลของ พระยาพิชัยดาบหัก จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีตระกูลเดิมว่า วิชัย ขันทคะ ซึ่งเป็นนามสกุลที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 ที่พระราชทานให้กับ ผู้ที่สืบเชื้อสายของพระยาพิชัย

หากเป็นดั่งนี้ ดาบแดงก็น่าจะเป็นดาบของพระยาพิชัยดาบหักแน่นอน !

ประเด็นที่สอง ที่ว่า ดาบแดงเป็นดาบคู่หรือดาบเดี่ยว จากข้อมูลที่สืบค้นจากจังหวัดพิจิตร และมีบุคคลยืนยันว่าดาบแดงเล่มนี้ เป็นดาบเหล็กน้ำพี้จริง แต่เป็นดาบเดี่ยวหรือดาบเล่มเดียวเท่านั้น ไม่ใช่ดาบคู่ อย่างที่เข้าใจกัน

ดาบเหล็กน้ำพี้ของแท้นั้นจะไม่เป็นสนิมง่าย และถ้าจะให้ดี ต้องใช้ดาบสะกิดดื่มเลือดผู้ที่เป็นเจ้าของก่อน เป็นเคล็ดที่ทำให้ดาบมีความเข้มขลัง เมื่อออกศึกมากเท่าใด ก็จะทำให้สีของดาบเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น...

***เป็นสีเขียวคล้ำ คมวาว เป็นสีน้ำตาลอมดำฝังแน่น บางทีเรียกว่า 'สีปีกแมลงทับ'!!! ***

ใครที่จับดาบเหล็กน้ำพี้แล้ว จะฮึกเหิมอยากจะใช้งาน หรือออกศึก เป็นอาวุธที่ทรงพลังมาก แม้แต่นักรบของอยุธยาก็ยังใฝ่หาดาบที่สร้างจากเหล็กน้ำพี้...

เพราะไม่เพียงใช้เป็นอาวุธ ยังสามารถใช้เป็น " เครื่องราง" ได้ด้วย...

หากเวลา 'มีภัย' มาถึงตัว ดาบจะสั่น หรือบางทีขยับเลื่อนออกจากฝัก บอกให้เจ้าของรู้ตัว การตีดาบต้องกระทำกลางแจ้ง และเนื่องจากอณูมวลสารของดาบเหล็กน้ำพี้โดยธรรมชาติ จะขยับหนีหรือแยกตัวออกในขณะที่โดนความร้อน ดังนั้นผู้ตีดาบจึงต้องมีคาถาอาคมกำกับ มิฉะนั้นจะตีดาบ ทำดาบไม่สำเร็จ

ประการสำคัญบ้างก็ว่า ดาบเหล็กน้ำพี้ของพ่อหลิม หรือเสือไท ได้มอบแก่ลูกศิษย์คนสำคัญคนหนึ่งไปแล้ว แต่จะเป็นท่านขุนพันธฯ หรือไม่ ไม่มีใครทราบ จึงทำให้ยังไม่แน่ใจด้วยว่าดาบของท่านขุนพันธฯ นี้เป็นของหลวงกล้ากลางณรงค์หรือ พ่อหลิม อาจารย์ของท่านขุนพันธฯ กันแน่

ประการสุดท้าย ใครเป็นผู้ปลุกเสกดาบลงอาคมให้ ท่านขุนพันธฯ ?

ในสมัยอยู่ที่จังหวัดพิจิตร หลวงตาแวว ลูกศิษย์ก้นกุฏิของ "หลวงปู่ศุข" ท่านเป็นผู้ปลุกเสกเครื่องของขลังต่างๆให้แด่ท่านขุนพันธฯ

แต่คุณฉันทิพย์ ลูกชายของท่านขุนพันธฯ ได้เล่าไว้ว่า ในสมัยที่ท่านขุนพันธฯ มีชีวิตอยู่ ท่านได้เล่าว่า ท่านผู้ปลุกเสกดาบให้ท่านขุนพันธฯ คือ พระสงฆ์รูปหนึ่งซึ่งมีศักดิ์ป็นญาติผู้น้องของ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า!

ซึ่งหากเป็นเช่นนี้ ดาบเหล็กน้ำพี้ที่เข้าใจว่าน่าจะเป็นดาบของพระยาพิชัยนี้ ก็ได้ผ่านการปลุกเสกมาถึงสองครั้ง จากสองเกจิอาจารย์ผู้เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ศุขดังที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งไม่ใช่การปลุกเสกของหลวงปู่ศุขเองแน่นอน เพราะท่านได้มรณภาพไปก่อน นานแล้ว...!
-----------------------

เรื่องราวอัศจรรย์ "หนึ่งในร้อย-พัน" ที่สรรมาให้ทราบสรรพคุณวิเศษ "เหล็กน้ำพี้" อาถรรพ์ธาตุมหัศจรรย์อยู่คู่กับสังคมนักรบกู้ชาติชาวไทยมาแต่บรรพกาล

การนำเหล็กน้ำพี้สร้างดาบ-มีด-หอก จึงไม่ใช่ของง่าย ทุกขั้นตอนต้องมี "วิชา" สืบทอดกันมากำกับ เป็นของสูงที่อย่าทำเล่น จะเข้าตัว

มีดเหล็กน้ำพี้ "หลวงพ่อเงิน 45" ซึ่งตีไว้เพียง 45 ด้ามนี้ ได้ขออนุญาตนำมาเป็นการบุญเรียบร้อย เชิญร่วมบุญบูชาหนึ่งเดียวที่คงไม่มีมาให้เห็นอีก นอกจาก..ฟลุค!

=======9,000=======




รายละเอียด ไม่เขียนซ้ำ มีอยู่กระทู้บนหมาดๆ เลื่อนขึ้นไปอ่านได้เลยครับ

 

รับครับ