เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 5 เมษายน 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพุธที่ ๕ เมษายน ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖ ความจริงวันนี้กระผม/อาตมภาพมีเรื่องหลายอย่างที่อยากจะพูด ก็ต้องแล้วแต่เวลาว่าจะได้สักกี่เรื่อง เรื่องแรกเลยก็คือ วันนี้ไอ้ตัวเล็กโพสต์รูปประคำมือลงในกลุ่มไลน์ ถามว่า "พอใช้ได้หรือยัง ?" ซึ่งกระผม/อาตมภาพตอบไปว่า "พอใช้ได้" เนื่องเพราะว่าลูกประคำนั้นต้องบอกว่า "ช่างฟ้อง" ถ้าเจ้าของไม่ขยันใช้ ก็จะซีด มัว ไม่เงามัน แล้วใช้วิธีขัดก็ไม่ได้อีกด้วย นอกจากนับด้วยมือเท่านั้น

    สมัยที่อยู่วัดท่าซุง กระผม/อาตมภาพภาวนาพระคาถาเงินล้านวันละ ๓๐๐ จบ เป็นเวลา ๓ ปี นับจนประคำลูกหวาย ซึ่งโดยปกติก็จะมีผิวเป็นลอน ๆ ลื่นเป็นแก้วไปเลย ใครเห็นก็บอกว่าสวย มีคนอยากจะได้ลักษณะเดียวกัน ไปใช้กระดาษทรายขัดแล้วลงน้ำมัน ก็ไม่เหมือน เพราะว่ามือเราไม่ได้หยาบเหมือนกับกระดาษทราย

    ถ้าหากว่านับด้วยมือ นอกจากเป็นการขัดลูกประคำไปในตัวแล้ว พลังหรือที่เรียกว่ากันว่าปราณจากเรา ก็จะเข้าไปอยู่ในวัตถุต่าง ๆ นั้นด้วย

    ก็คือไม่ว่าเราจะใช้สิ่งของใด ๆ ก็ตาม พลังชีวิตหรือว่าปราณ จะเข้าไปอยู่ในสิ่งของนั้น ถ้าหากว่าเป็นกระแสที่ดี ใครมาใช้ต่อ ก็จะได้รับแต่สิ่งที่ดีงามไป ถ้าเป็นกระแสที่ไม่ดี ใครมาใช้ต่อก็อาจจะเดือดร้อนวุ่นวายกว่าที่คิด..! โดยเฉพาะในยุคปัจจุบัน มีหลายท่านใช้เครื่องนับอัตโนมัติแทนลูกประคำ กระผม/อาตมภาพขอยืนยันว่า "อย่างไรก็ไม่เหมือนกัน" แต่ว่าก็แล้วแต่ผู้ใช้จะสบายใจก็แล้วกัน

    สมัยก่อนการทำลูกประคำนั้นพิถีพิถันมาก อย่างลูกประคำยาวาสนาจินดามณีร้อยไหมเจ็ดสี ของหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ต้องจารตะกรุดเป็นแกน เมื่อพอกยาวาสนาจินดามณีแล้ว ค่อยร้อยด้วยไหมเจ็ดสี ซึ่งถือเคล็ดกัน อย่างเช่นว่า "ม่วงช่วงโชติ ครามงามล้ำ น้ำเงินเพลินสุข เขียวเหนี่ยวทรัพย์ เหลืองเรืองรุ่ง ส้มสมบูรณ์
    แดงแรงฤทธิ์" เหล่านี้เป็นต้น
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    ในเว็บไซต์วัดท่าขนุน กระผม/อาตมภาพได้ให้เอาประคำไปลงกระทู้จำหน่ายหลายต่อหลายครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วก็เกิดจากฝีมือท่านอั๋น (พระอัศนีย์ โฆสทินฺโน) เป็นคนกลึงให้แทบทั้งนั้น

    แต่ว่าช่วงระยะนี้มีประคำโบราณของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองวัดมะขามเฒ่า เป็นต้น ประคำของท่านจะทำจากกะลาตาเดียว สลับกับงาช้างกำจัด ร้อยไหมเจ็ดสี ซึ่งหาพวงที่สมบูรณ์แบบได้ยากมาก คราวที่แล้วลงไปพวงหนึ่ง แคล้วคลาด "รอดปากเหยี่ยวปากกา" มาได้ กระผม/อาตมภาพดีใจเกือบตาย เพราะว่าประคำผงวิเศษพวงนั้น ท่านปั้นได้ประณีตมาก โดยปั้นเป็นรูปทรงมะยม ก็คือเม็ดประคำจะมีลอน ๆ สม่ำเสมอกัน แสดงออกซึ่งกำลังใจของผู้สร้างว่าตั้งใจทำจริง ๆ แล้วส่วนใหญ่พวกเราก็เอาไปใช้ในการป้องกันตัว มากกว่าใช้ในการภาวนา

    สมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็ก ๆ อยู่ ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่นหลายต่อหลายรูป แนะนำให้ว่า การใช้ประคำนั้น อันดับแรกเลย ให้ภาวนา อิติปิ โสฯ ๓ ห้อง ๓ จบก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อย "พุทโธ..พุทโธ" ไปเรื่อย ๑๐๘ จบ "ธัมโม..ธัมโม" ไปเรื่อย ๑๐๘ จบ "สังโฆ..สังโฆ" ไปเรื่อย ๑๐๘ จบ ถ้ากำลังใจยังไม่เต็ม คิดว่า
    ยังภาวนาต่อได้ ก็เริ่มต้นวน "พุทโธ..พุทโธ" ใหม่ เป็นต้น ซึ่งวิธีการทั้งหลายเหล่านี้ จะว่าไปแล้วก็คือการฝึกในอนุสติ ระลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นั่นเอง

    เพียงแต่ว่าการนับลูกประคำนั้น เป็นอิริยาบถและสัมปชัญญะในมหาสติปัฏฐานสูตร คือดูการเคลื่อนไหวไปด้วย ขณะเดียวกันก็เป็นการซักซ้อมแยกจิตแยกกายทำงานหลายอย่างพร้อมกัน ก็คือต้องภาวนาด้วย จดจำด้วยว่านับไปกี่จบกี่รอบแล้ว เรื่องพวกนี้ก็อยู่ที่พวกเราจะไปพลิกแพลงทำกันเอง

    อีกเรื่องหนึ่งก็คือวันนี้มีงานแทรกเข้ามามาก ทั้ง ๆ ที่โดยปกติแล้วเป็นวันที่กระผม/อาตมภาพไม่มีตารางงานเลย แต่ท่านทั้งหลายจะเห็นว่า ตั้งแต่เข้ามาก็ต้องเปิดโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม "คังด้งสร้างสมาธิ" ของโรงเรียนทองผาภูมิวิทยา แล้วก็ยังมีบรรดาผู้สูงอายุจากสถานสงเคราะห์คนชราเฉลิมราชกุมารี (หลวงพ่อลำใยอุปถัมภ์) มาฟังการบรรยายธรรม แล้วก็ยังต้องไปเป็นประธานในการรดน้ำศพ จสต.เฉลิมพล รูปคมสัน เป็นต้น
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    คราวนี้โครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรม "คังด้งสร้างสมาธิ" นั้น เมื่อผ่านการอบรมเรียบร้อยแล้ว มีการมอบวุฒิบัตร แล้วกระผม/อาตมภาพก็เห็นว่า เด็กสมัยนี้ไม่ได้ฝึกมารยาทในการเข้าสังคมอะไรไว้เลย..! ก็คือรับวุฒิบัตรก็จับมือเดียว สักแต่ว่าหยิบ ๆ ไป ขนาดดุแล้วก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องรับสองมือด้วย ?! ในเมื่อกระดาษแผ่นหนึ่ง มือเดียวก็หยิบได้แล้ว

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมาก เพราะว่าเด็กสมัยนี้ขาดการอบรม ต้องบอกว่าทั่วประเทศไทยเลย ในกรุงเทพฯ กระผม/อาตมภาพเวลาเดินต้องระวังมาก เด็กสมัยนี้ไม่หลีกพระ ถ้าเผลอจะโดนเดินชนหงายท้องไปเลย..!

    ถ้าเป็นสมัยที่กระผม/อาตมภาพยังเด็กอยู่ ถ้าพระเดินมา ไม่ว่าจะเด็กจะผู้ใหญ่ จะหลีกลงข้างทางให้พระไปก่อน ตัวเองก็ยกมือน้อมไหว้ ถ้าเดินผ่านผู้ใหญ่ก็ต้องก้มหลัง แสดงออกซึ่งความเคารพและขอลุกะโทษ รับของจากผู้ใหญ่ ก็ต้องรับสองมือ ซึ่งเรื่องทั้งหลายเหล่านี้คนรุ่นใหม่ ๆ ไม่ได้รับการอบรมเอาไว้ แม้กระทั่งเด็กสมัยนี้ ทั้งผู้หญิงผู้ชาย เวลาพูดกับผู้ใหญ่หรือกับครูบาอาจารย์ ไม่มีหางเสียง ไม่มีครับ ไม่มีคะ ไม่มีขาใด ๆ ทั้งสิ้น ถ้าเป็นสมัยก่อน เขาบอกว่า "พวกมะนาวไม่มีน้ำ" ปัจจุบันนี้เป็นกันทุกแห่งทุกโรงเรียน

    วันนี้กระผม/อาตมภาพเข้าไปค้นดูในกูเกิ้ล ปรากฏว่าไม่มี "หลักสมบัติผู้ดี" เอาไว้ให้ดูเลย ซึ่งรุ่นของกระผม/อาตมภาพนั้นโดนบังคับให้ท่องจำ สมบัติผู้ดีซึ่งแบ่งออกเป็น ๑๐ ภาคด้วยกัน แต่ละภาค แต่ละหัวข้อจะบอกว่าต้องประพฤติทางกายอย่างไร ทางวาจาอย่างไร แล้วก็ทางใจอย่างไร โดยมีการสรุปเป็นกลอนเอาไว้ว่า
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    "สมบัติผู้ดีมีข้อ.................กล่าวย่อพอยกหยิบอ้าง

    ภาคหนึ่งระวังท่าทาง....................รู้วางไว้ตัวชั่วดี

    ภาคสองสำรวมนิสสัย.................มิให้เสื่อมเสียราศี

    ภาคสามน้อมกายวจี...................ท่วงทีคารวะผู้ควร

    ภาคสี่มีกริยา...........................วาจาน่ารักเสสรวล

    ภาคห้ากว้างขวางทางชวน..........ชักมวลหมู่เพื่อนนิยม

    ภาคหกปฏิบัติงานดี...................เรียบมีหลักมั่นคงสม

    ภาคเจ็ดจิตเอื้ออุดม............เกลียวกลมช่วยเหลือหมู่ชน

    ภาคแปดไม่เห็นแก่ตัว..................เมามัวตั้งหน้าหาผล

    ภาคเก้าสุจริตในกมล..................ไม่ค้นของใครใฝ่ปอง

    ภาคสิบไม่ประพฤติชั่ว............เกลือกกลั้วพาตัวมัวหมอง

    ทั้งสิบภาคนี้ใครครอง..................ผลต้องเกิดล้วนดีเอย"
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ ถ้ากระผม/อาตมภาพไม่พูดเอาไว้ตรงนี้ ก็ไม่สามารถที่จะไปค้นหาที่ไหนได้อีก เนื่องเพราะว่าแม้แต่ในกูเกิ้ลที่เชื่อว่ามีข้อมูลทุกอย่างก็ไม่มี แล้วส่วนที่มีก็คือส่วนที่กระผม/อาตมภาพเคยพูดเอาไว้เล็กน้อยเท่านั้น ก็แปลว่าสิ่งดี ๆ ที่เป็นภูมิปัญญาโบราณ ตกผลึกมาจนกระทั่งเป็นสมบัติของชาติ สูญไปอย่างน่าเสียดาย

    ถ้าท่านทั้งหลายสังเกตจะเห็นว่าทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยทำไมถึงโด่งดังไปทั่วโลก ? ก็เพราะว่าทุกคนอ่อนน้อมถ่อมตน ไปลามาไหว้ ยิ้มแย้มแจ่มใส ทำไมน้องลิซ่า (ลลิษา มโนบาล) จึงเป็นที่ชื่นชมของบรรดาแฟนทั่วโลก ก็เพราะว่าเป็นคนยิ้มง่าย อ่อนน้อมถ่อมตน เข้าถึงได้ง่าย สิ่งทั้งหลายเหล่านี้เป็นส่วนของสมบัติผู้ดีทั้งนั้น ใครทำเอาไว้ก็ถือว่าเป็นคุณสมบัติส่วนตัว ผู้ใหญ่เห็นก็เอ็นดู ให้ความรักความเมตตา

    จึงเป็นเรื่องที่ครูบาอาจารย์ควรที่จะค้นคว้ามา ช่วยสั่งช่วยสอนลูกศิษย์ จะเป็นการศึกษานอกเวลา นอกห้องเรียนอะไรก็ได้ แต่ไม่ควรทิ้งให้สิ่งที่มีคุณค่าขนาดนี้สาบสูญไปเฉย ๆ ไม่เช่นนั้นแล้ว พวกเราก็จะมีแต่จิตใจที่หยาบกระด้าง การแสดงออกทางกายก็หยาบกระด้างไปด้วย ในเมื่อกาย วาจา ใจ หาความละเอียดไม่ได้ โอกาสที่จะเข้าถึงธรรมก็ยิ่งลดน้อยถอยลง จนกระทั่งแทบจะไม่มีโอกาสเลย..!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพุธที่ ๕ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...