เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 4 กุมภาพันธ์ 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพมีภารกิจต้องวิ่งไปยังวัดหนองโพ จังหวัดราชบุรี เพื่อร่วมงานทำบุญร้อยวันของคุณแม่ดำ ฉ่ำเม้า โยมมารดาของพระมหาสมคิด อตฺถสิทฺโธ รองเจ้าคณะอำเภอโพธาราม เจ้าอาวาสวัดหนองโพ ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์มาด้วยกัน

    ในงานก็เจอพรรคพวกเพื่อนฝูงหลายต่อหลายท่านด้วยกัน อย่างเช่น พระครูวิสุทธานันทคุณ (สุรศักดิ์ วิสุทฺธาจาโร ป.ธ.๓ , ผศ.ดร.)เจ้าคณะอำเภอโพธาราม เจ้าอาวาสวัดเขาช่องพราน

    พระครูวาทีวรวัฒน์, ดร. (กล้า วีรรตโน) รองเจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดมหาธาตุวรวิหาร เมืองเพชรบุรี ซึ่งเป็นเพื่อนเรียนปริญญาเอกมาด้วยกัน

    หรือว่าพระเดชพระคุณพระภาวนาวิหารกิจ วิ. (ทองย้อย สญฺญโม) หรือหลวงพ่อเจ้าคุณทองย้อย เจ้าอาวาสวัดเขาวัง (พระอารามหลวง) เป็นเพื่อนร่วมรุ่นพระอุปัชฌาย์ที่กระผม/อาตมภาพภูมิใจมาก เนื่องเพราะว่าท่านเป็นพระเถระที่อายุกาลผ่านวัยถึง ๘๐ กว่าปีแล้ว ได้มีโอกาสอบรมพระอุปัชฌาย์ด้วยกัน เห็นความน่ารัก ความใจเย็นของท่าน โดยเฉพาะสภาพร่างกายของท่านแข็งแรงมาก อาจจะเป็นเพราะว่าเดินขึ้นเขาวัง ราชบุรีอยู่ทุกบ่อย จึงทำให้คนหนุ่มรู้สึกอายท่านเวลาเดินขึ้นเขาไม่ค่อยจะไหว

    หลังจากที่เจริญพระพุทธมนต์ ฉันเพล โดยมีท่านเจ้าคุณอาจารย์พระปิฎกโกศล, ดร. (ปราโมทย์ ปโมทิโต ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นอาจารย์สอนกระผม/อาตมภาพมา ตั้งแต่สมัยที่ยังเรียนประกาศนียบัตรบริหารกิจการคณะสงฆ์อยู่

    เมื่อเสร็จภารกิจ ฉันเพลกันเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ต้องรีบวิ่งไปยังวัดสันติคีรี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดตลุงใต้ หมู่ที่ ๖ ตำบลดอนแสลบ อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อเจริญพระพุทธมนต์ในงานทำบุญอายุวัฒนมงคล ๕๒ ปี พระวิสุทธิพงษ์เมธี, ดร. (วีระ มหาวีโร ป.ธ.๗) เจ้าคณะอำเภอศรีสวัสดิ์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสันติคีรี ซึ่งในงานนั้นพระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดี (พิมพ์ ญาณวีโร) กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะภาค ๗ เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาราชวรวิหารเป็นประธานสงฆ์อยู่

    หลวงพ่อพระพรหมเสนาบดี พอเห็นหน้าก็รีบบอกว่า "วันก่อนในงานเปิดอบรมบาลีก่อนสอบที่วัดสามพระยา เซียนพระเขามาดูพระที่ท่านถวายมาให้ ตีราคามาให้ ๔๒ ล้านบาท..!" กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ขำ จึงกราบเรียนไปว่า "หลวงพ่อปล่อยไปได้เลยครับ เดี๋ยวกระผมจะหาให้ใหม่..!"
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    พระเดชพระคุณพระพรหมเสนาบดีนั้น ด้วยความที่ท่านเป็นพระเถระผู้ใหญ่ เมื่อถึงเวลาบรรดาลูกคณะต่าง ๆ หาของขวัญไปมุทิตาสักการะในวาระสำคัญ ส่วนหนึ่งก็เป็นวัตถุมงคล แต่ท่านปรารภว่า เมื่อให้เซียนเขาตรวจสอบแล้ว ปลอมเสียทั้งหมด..! ไม่มีอะไรที่เป็นของดีในลักษณะของเบญจภาคีเมืองไทยบ้างเลย

    กระผม/อาตมภาพได้ยินท่านปรารภเช่นนั้น จึงปลดสมเด็จวัดระฆังองค์ที่แขวนติดประคำอยู่เป็นประจำถวายท่านไป โดยกราบเรียนท่านว่า "ถ้าเขาให้ต่ำกว่า ๒๐ ล้าน หลวงพ่ออย่าปล่อยนะครับ" หลังจากนั้นก็ยังหาพระผงสุพรรณองค์ "สวยหูตากระพริบ" ให้ท่านไปอีก ๑ องค์ กำลังรออยู่ว่าจะไปขุดกรุเจอเมื่อไรว่าเบญจภาคีในส่วนที่เหลือยังมีองค์ใดบ้าง เนื่องเพราะว่าการย้ายวัดหลายต่อหลายครั้งด้วยกันนั้น ทำให้ข้าวของต่าง ๆ ส่วนหนึ่งก็หมกอยู่ก้นลัง ไม่มีเวลาที่จะไปค้นดู ถ้าหากว่าค้นของอื่นแล้วไปเจอเข้า ก็ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญอย่างยิ่ง

    คราวนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจอหน้าเมื่อไร ก็ตบหน้าอกให้ดูตรงกระเป๋าอังสะว่า "ใช้ติดตัวอยู่นะ" แต่งานนี้ปรากฏว่าเจอเซียนพระตีราคาเข้า กระผม/อาตมภาพก็เลยขำ ตรงที่ว่าท่านเองก็เกรงใจคนถวาย ก็เลยไม่กล้าที่จะปล่อยให้เซียนตามราคาที่เขาตั้ง หรืออาจจะคิดว่า ถ้าปล่อยไปแล้ว ไม่มีทางที่จะหาองค์สวยขนาดนี้ได้อีก จึงตัดใจเก็บเอาไว้บูชาเองดีกว่า

    หลังจากที่เสร็จจากงานทำบุญอายุวัฒนมงคล ๕๒ ปี ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิพงษ์เมธี, ดร. แล้ว พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ปรารภว่า "อีกไม่กี่วันเราก็ต้องมีการประชุมพระสังฆาธิการในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี ระดับเจ้าคณะจังหวัด รองเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ รองเจ้าคณะอำเภอ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๖ กัน ก็ในเมื่อวันนี้ทุกท่านมากันเกือบจะครบถ้วนแล้ว ก็ประชุมเสียเลยเป็นอย่างไร ?"

    พวกเราทุกคนก็เห็นด้วย จึงได้เข้าร่วมประชุมกันก่อน โดยที่ท่านปรารภว่าจะให้จบภายใน ๓๐ นาที เพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้น รับอธิษฐานจิตปลุกเสกวัตถุมงคลให้กับท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิพงษ์เมธี, ดร. เนื่องในโอกาสที่ท่านจะหาปัจจัยในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดสันติคีรี หรือว่าวัดตลุงใต้ ซึ่งเป็นวัดบ้านเกิดของท่าน ซึ่งหลวงพ่อของท่านเองที่มาบวชในยามชรา จนกระทั่งได้เป็นฐานานุกรมที่พระครูใบฎีกา หลังจากที่มรณภาพ
    แล้ว ท่านเจ้าคุณพระวิสุทธิพงษ์เมธี, ดร. ก็ฌาปนกิจหลวงพ่อของท่านที่นี่ แล้วรักษาการเจ้าอาวาสเรื่อยมา
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เมื่อเสร็จจากการประชุมแล้ว พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. ก็บอกว่า "อาจารย์เล็กไปเข้าปลุกเสกวัตถุมงคลได้เลยครับ ทางด้านนี้ที่เหลือ ถ้ามีอะไรก็จะว่ากันต่อไปเอง" กระผม/อาตมภาพจึงไปยังมณฑลพิธี ซึ่งจะมีการหล่อพระด้วย

    เมื่อทำการอาราธนาบารมีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พรหม เทวดา ครูบาอาจารย์เรียบร้อยแล้ว หลับตาลงภาวนา ก็เห็นหลวงพ่อรูปหนึ่ง นั่งอยู่กลางวง กระผม/อาตมภาพยังคิดว่าตัวเองตาฝาด หรือว่าเฝือไปหรือเปล่า ? ลืมตาขึ้นมา ปรากฏว่าหลวงพ่อองค์นั้นคือหลวงพ่อขาว พระประธานในศาลาการการเปรียญของวัดสันติคีรีนั่นเอง

    แต่แปลกตรงที่ว่าท่านมาในรูปของพระสงฆ์ พอลืมตาดูรูปพระสงฆ์ก็กลืนกับรูปพระพุทธที่ตั้งเป็นประธานอยู่ ถึงได้เข้าใจว่าพระพุทธเจ้าท่านมาสงเคราะห์ โดยเฉพาะเทวดาที่รักษาองค์หลวงพ่อขาว ท่านแสดงนิมิตให้เห็นว่า ท่านรับรู้ในการที่สร้างรูปของท่านให้ประชาชนที่เคารพนับถือได้บูชา

    เมื่อเสร็จพิธีเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ขอตัว เดินทางไปยังวัดวังโพธิการาม หมู่ที่ ๑ ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี เพื่อถวายมุทิตาสักการะพระครูโพธิกาญจนธรรม (ทองยุ้ย ฐานธมฺโม) เจ้าคณะอำเภอทองผาภูมิ - สังขละบุรี (ธรรมยุต) เจ้าอาวาสวัดวังโพธิการาม ซึ่งท่านเจริญอายุวัฒนมงคล ๖๐ ปี เจอหน้าก็หัวเราะใส่กัน เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเรียกท่านว่า "หลวงพี่ยุ้ย" มาตลอด โดยที่เพิ่งจะรู้ว่าท่านอายุน้อยกว่าในวันนี้เอง

    เรื่องพวกนี้เป็นเรื่องตลกที่บางทีก็หัวเราะไม่ออก อย่างเช่นว่ากระผม/อาตมภาพนั้นเรียกท่านเจ้าคุณองอาจ พระภาวนาประชานุกูล วิ. (องอาจ อาภากโร) เจ้าคณะอำเภอคลองหลวงแพ่ง เจ้าอาวาสวัดวีระโชติธรรมารามว่า "หลวงพี่" หรือไม่ก็เรียกสั้น ๆ ว่า "พี่องอาจ" มาตลอด

    แต่เมื่อจับกลุ่มเข้าวงกันไป มีอยู่ครั้งหนึ่งที่วัดเขาวง (ถ้ำนารายณ์) ก็มีการไล่อายุไล่พรรษากัน ปรากฏว่าท่านเจ้าคุณองอาจเด็กที่สุด ตอนนั้นท่านเพิ่งจะอายุ ๔๘ - ๔๙ ปี ท่านถึงขนาดนั่งบ่นว่า "ทำไมกูหน้าแก่แท้วะ ?" กระผม/อาตมภาพก็ยังขำ ถึงได้เรียนถวายไปว่า "เรียกแล้วไม่รับคืนครับ" ในเมื่อเรียกพี่มาตลอด ก็ขออนุญาตเรียกต่อไปก็แล้วกัน..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    หลังจากนั้นก็ได้ขอตัวกับหลวงพ่อทองยุ้ย ไปกราบหลวงพ่อพระพุทธชินราชที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำแควน้อย ซึ่งตกคุ้งตรงบริเวณหน้าวัดของท่านพอดี บรรยากาศงดงามมาก ข้างล่างยังมีเรือนแพอีกต่างหาก

    ถ้าหากว่าทางด้านวัดท่าขนุนนั้น มีการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณตอนล่างตามโครงการเดิม กระผม/อาตมภาพก็ตั้งใจจะสร้างหมู่เรือนแพเป็นแถวยาวตลอดหน้าวัด แต่ปรากฏว่าโครงการนี้ต้องล้มพับไป เนื่องเพราะว่าทันทีที่ประกาศโครงการ แล้วรู้ว่าบริเวณที่จะสร้างเขื่อนตอนล่างเพื่อสูบน้ำกลับใช้ในการปั่นไฟฟ้านั้น อยู่บริเวณบ้านจันเดย์ ที่ดินบริเวณนั้นก็ขึ้นราคาไปหูดับตับไหม้..! จากราคาประเมินไร่ละหนึ่งแสนก็ขึ้นไปถึงสามล้านบาท ทำให้ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ไม่สามารถที่จะหางบประมาณมาซื้อที่ดินเพื่อใช้ในการสร้างเขื่อนได้

    กระผม/อาตมภาพก็ยังเคยท้วงในวงประชาพิจารณ์ว่า "ทำไมเราไม่ทำการซื้อที่ดินก่อนแล้วถึงประกาศโครงการ ? เพราะว่าประกาศไปแล้วก็จะมีแต่คนฉวยโอกาสขึ้นราคาในลักษณะอย่างนี้" ปรากฏว่าทางด้านการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยก็มีเหตุผลของเขาว่า "ถ้าหากว่าซื้อที่ดินไปแล้ว โครงการไม่ผ่านการพิจารณาก็แปลว่า กฟผ.เสียเงินฟรีอีก" ตกลงว่าไม่ว่าจะซื้อก่อนหรือว่าซื้อหลัง ก็มีแต่จุดบกพร่องให้คนฉวยโอกาสได้ทั้งสิ้น

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้นกระผม/อาตมภาพจึงกลายเป็น "ฝันค้าง" เพราะว่าหลังจากที่ยื้อกันมา ๘ ปี ๑๐ ปี เพิ่งสรุปได้อย่างชัดเจนเมื่อไม่กี่วันนี้เองว่า โครงการสร้างเขื่อนวชิราลงกรณตอนล่างนั้น พับทิ้งไปโดยปริยาย เพราะว่าไม่สามารถหางบประมาณที่จะมาดำเนินการได้

    เป็นที่น่าเสียดายว่าหมู่เรือนแพวัดท่าขนุนไม่สามารถที่จะปรากฏขึ้น ไม่เช่นนั้นถึงเวลาจัดการบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ แล้วท่านทั้งหลายเดินจงกรมในเรือนแพรับลมแม่น้ำเย็นชื่นใจ แค่ฟังดูก็รู้แล้วว่าบรรยากาศน่าปฏิบัติธรรมขนาดไหน ตอนนี้ก็ได้แต่ฝันไปก่อนก็แล้วกัน

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๔ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...