เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๖

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 17 มกราคม 2023.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๖


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๑๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖ กระผม/อาตมภาพต้องขออภัยทุกท่านที่รอบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เหตุเพราะว่าต้องไปร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่วัดอินทรวิหาร (บางขุนพรหม) พิธีเริ่มตอน ๑๗.๑๙ น. แล้วกว่าจะเลิกก็ทุ่มกว่า จึงทำให้ช้า โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่รถติดค่อนข้างจะสาหัส..!

    การพุทธาภิเษกครั้งนี้ก็มีเหรียญหลวงปู่โต วัดระฆัง และรูปหล่อพระศรีอาริยเมตไตรย หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่าหลวงพ่อโต วัดอินทร์ ทางพิธีกรรมพิธีการต่าง ๆ นั้นก็มีขาดบ้างเกินบ้างตามปกติ จะให้ทุกคนรู้พิธีการโดยครบถ้วนย่อมเป็นไปไม่ได้

    แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ทางสายของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง สั่งเอาไว้หนักหนาก็คือเรื่องของการบวงสรวง ถ้าหากว่าเป็นเรื่องที่ต้องการการสงเคราะห์จากพระรัตนตรัย โดยเฉพาะการปลุกเสกวัตถุมงคล ท่านไม่ให้ทำเกิน ๙ โมงครึ่งตอนช่วงเช้า เพราะว่าถ้าสายกว่านั้นแล้ว บรรดาพรหมเทวดาส่วนใหญ่ต้องไปประชุมที่เทวสภา อาจจะทำให้บุคคลที่โดนกำหนดให้ดูแลวัตถุมงคลแต่ละชิ้นแต่ละส่วนนั้นไม่ได้มาอยู่ในพิธี ไม่มีผู้รับหน้าที่เป็นการเฉพาะ ซึ่งทำให้ผู้จัดพิธีกรรมนั้นเสียประโยชน์ไปเอง

    อีกประการหนึ่งที่ฟังบรรดาพิธีกรหรือว่าโฆษก ได้พูดโดยเอ่ยนามหลวงพ่อเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี (ธงชัย ธมฺมธโช) กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าการเรียกชื่อหรือว่าออกชื่อบุคคลใดบุคคลหนึ่งนั้น ผู้ที่เรียกควรที่จะมีอาวุโส ก็คืออยู่ในลักษณะที่มากกว่าด้วยวัยวุฒิและคุณวุฒิ ไม่ใช่ว่าใครก็ได้มาเรียกชื่อในลักษณะอย่างนั้น ซึ่งเป็นการแสดงออกโดยปราศจากความเคารพ

    กระผม/อาตมภาพเอง ถ้าหากว่าเรียกแบบสั้น ๆ ก็จะเรียกว่า พระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จหนกลาง ซึ่งก็พอที่จะเป็นที่เข้าใจว่าในปัจจุบันนี้ หมายถึงพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลางนั่นเอง

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ พวกเราทั้งหลายที่เป็นนักปฏิบัติธรรม จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีความละเอียดในจิตของตน ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะทำให้ตัวเราอาจจะเกิดการปรามาสพระรัตนตรัยโดยไม่รู้ตัว ซึ่งปิดโอกาสที่เราจะเข้าถึงมรรคถึงผลไปโดยปริยาย
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    อีกส่วนหนึ่งในพิธีกรรมวันนี้นั้น บรรดาพระเกจิอาจารย์อาวุโสมากอย่างหลวงปู่เจ้าคุณวัดดอนไก่ดี - พระราชมงคลวุฒาจารย์ (สุวรรณ สุวิชาโน) ท่านก็อายุถึง ๑๐๕ - ๑๐๖ ปีแล้ว หลวงปู่สมบุญ (พระครูสุวรรณธรรมานุยุต) วัดลำพันบอง ท่านก็อายุ ๑๐๑ - ๑๐๒ ปีแล้ว ซึ่งผู้จัดงานก็ไม่ควรที่จะทำให้ท่านต้องเหนื่อยยากในการประชาสัมพันธ์ ก็คือมีการให้ท่านต้องทำอย่างโน้นทำอย่างนี้

    กระผม/อาตมภาพเข้าใจอยู่ว่า ท่านทั้งหลายเมื่อสร้างวัตถุมงคล ก็ต้องการที่จะจำหน่ายให้หมด จึงมีการให้พระเกจิอาจารย์ท่านทำอย่างโน้นอย่างนี้ แล้วมีการถ่ายคลิปบ้าง ถ่ายรูปบ้างเพื่อทำประชาสัมพันธ์ ถ้าท่านที่อายุกาลพรรษายังไม่มาก ก็พอที่จะทำกันได้ แต่ถ้าท่านที่อายุกาลผ่านวัยระดับเป็น ๑๐๐ ปีแล้ว หรือท่านที่อายุ ๘๐ - ๙๐ ปี แล้วแต่ไม่แข็งแรง นำท่านไปทำหน้าที่อย่างโน้นอย่างนี้ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ ดูอย่างไรก็เป็นการไม่เหมาะสม

    แต่ว่าก็ต้องแล้วแต่ท่านผู้เป็นเจ้าภาพ เพราะว่าในเมื่อท่านเป็นผู้จัดงาน ก็ย่อมต้องการที่จะให้งานของตนออกมาในลักษณะที่ดีที่สุด ถ้าหากว่าเป็นวัตถุมงคล ก็อยากจะให้จำหน่ายให้หมดชนิดที่ผู้คนถามหาไปอีกนาน

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จะว่าไปแล้ว ความต้องการของท่านกับเรื่องของทางธรรม ค่อนข้างที่จะไปคนละทิศกัน ในเรื่องของทางธรรมะ เราต้องการจิตใจที่สะอาดบริสุทธิ์ โดยเฉพาะไม่ปรามาสพระรัตนตรัย ด้วยกาย ด้วยวาจา หรือด้วยใจ แต่เรื่องของทางโลกนั้นมักจะเดินสวนทางกันอยู่เสมอ จึงทำให้เรื่องทั้งหลายเหล่านี้หาจุดพอดีได้ยาก

    สำหรับวันนี้ เนื่องจากว่าบริเวณพิธีอยู่หน้าองค์หลวงพ่อโต วัดอินทร์ ก็คือสมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรยองค์ยืน จึงทำให้ลมพัดแรงมาก แล้วก็ได้พัดเอาสายสิญจน์ที่กระผม/อาตมภาพจับอยู่เพื่อทำพิธีพุทธาภิเษกไปพาดอยู่กับเปลวเทียน ซึ่งทางเจ้าภาพจุดเทียนเอาไว้ ก็คือเทียนน้ำมนต์นั่นเอง

    แต่ว่าด้วยเดชะบุญคุณพระคุ้ม ถึงแม้ว่าสายสิญจน์จะโดนเทียนจนดำไปหมด แต่ว่าก็ไม่ได้ไหม้ไฟแต่ประการใด ได้ยินลูกศิษย์มาบอกทีหลังว่า พระเกจิอาจารย์ที่นั่งอยู่ด้านข้างนั้น สายสิญจน์โดนไฟไหม้ขาดไปเลย..! เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ก็คงต้องแล้วแต่ว่าอะไรเป็นอะไร
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    อีกประการหนึ่งก็คือในส่วนของพิธีพุทธาภิเษกนั้น มีผู้ที่ตาดีมาแอบดูกระผม/อาตมภาพจัดระเบียบการพุทธาภิเษก เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าพระมหานาคที่สวดพุทธาภิเษกนั้น ท่านเริ่มต้นด้วยเรื่องของลาภผล แล้วปิดท้ายด้วยแคล้วคลาดและมหาอุด ซึ่งถ้าหากว่าเป็นไปในลักษณะอย่างนี้ ก็แปลว่าเรื่องลาภผลซึ่งควรจะเป็นเรื่องออกหน้า กลายเป็นถูกล้อมอยู่ตรงกลาง ไม่สามารถที่จะแสดงผลออกมาอย่างชัดเจนได้ อยู่ในลักษณะถูกซ่อนอยู่ข้างใน

    พระเกจิอาจารย์รูปไหนถ้าหากว่ามีความรู้ในเรื่องของการตั้งธาตุ ปลุกธาตุ หนุนธาตุ ตลอดจนกระทั่งเรื่องของการจัดลำดับเกี่ยวกับบรรดาคาถาอาคมต่าง ๆ ก็คงจะต้องรับหน้าที่ไปโดยปริยาย เพียงแต่ว่าผู้แอบดูนั้น มาถามกระผม/อาตมภาพตรง ๆ ว่ากระแสที่เห็นนั้น โดยปกติแล้วก็ต้องมาจากข้างบน ทำไมวันนี้ถึงมาจากรอบข้าง ?

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าจำเป็นที่จะต้องดึงเอากระแสจากพระเกจิอาจารย์ทุกรูปมาจัดวางให้อยู่ในตำแหน่ง สถานที่ ตลอดจนกระทั่งระยะเวลาที่เหมาะสม ถ้าหากว่าใครสายตาดี ๆ บางทีอาจจะมีความรู้สึกเหมือนกับว่ากำลังต่อ "จิ๊กซอว์" อยู่ ก็คือนำเอาส่วนที่เหมาะสมกับตรงไหนไปไว้ตรงนั้นนั่นเอง

    ปัจจุบันนี้บรรดาพระเกจิอาจารย์ที่ท่านศึกษาในเรื่องของกรรมฐานจนครบถ้วน เหมือนอย่างที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านได้ศึกษาเอาไว้ก็มีน้อยลงไปทุกที สมัยก่อนที่เห็นอย่างถนัดชัดตาก็คือ พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านเจ้าคุณพระราชสังวราภิมณฑ์ (หลวงปู่โต๊ะ อินฺทสุวณฺโณ) วัดประดู่ฉิมพลี ถ้าหากว่าท่านอยู่ในพิธีกรรมเมื่อไร ก็ต้องทำหน้าที่ในการจัดระเบียบ จนกระทั่งบางที บรรดาลูกศิษย์ปากจัดก็บอกว่าท่านทำหน้าที่เหมือนกับเทศบาล ต้องคอยเก็บกวาดทุกอย่างให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ต้องบอกว่า ถ้าหากว่าไม่ใช่ความเมตตาที่ตั้งใจจะอนุเคราะห์สงเคราะห์กับสถานที่นั้น ๆ แล้ว หลวงปู่ท่านก็คงไม่เสียเวลามาเหนื่อยยากในการจัดระเบียบในลักษณะอย่างนั้น แต่ด้วยความเมตตาที่มีอยู่อย่างเหลือล้น ต้องการให้วัตถุมงคลนั้นสำแดงอานุภาพแต่ละด้านออกมาอย่างเต็มที่โดยที่ไม่ขัดกันเอง หลวงปู่ท่านก็ต้องค่อย ๆ มาลำดับ ค่อย ๆ มาจัดการให้
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า "รู้มากก็ยากนาน" ถ้ารู้น้อยอย่างกระผม/อาตมภาพก็ต้องพลอยรำคาญ ก็คือรู้สึกว่า บางทีหลวงปู่ท่านก็เมตตาจนเกินไป บางอย่างควรที่จะปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ ก็อุตส่าห์ไปช่วยแก้ไขปรับปรุง จนกระทั่งออกมาดีงาม สมควรแก่กาลเทศะและเหตุผลต้นกรรม

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้จึงเป็นความโชคดี ตลอดจนกระทั่งบุญกุศลที่ทางเจ้าภาพได้สร้างสมเอาไว้ จึงได้ครูบาอาจารย์ที่มีความรู้ความสามารถในด้านนี้ เหมือนอย่างกับพระเดชพระคุณหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีไปร่วมพิธีกรรมให้ จึงสามารถจัดการทุกอย่างให้ลงตัวได้อย่างเหมาะสม

    ส่วนทางด้านสายของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุงนั้น พวกเรากราบขอบารมีพระท่านสงเคราะห์ เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าหากว่าพระท่านแผ่บารมีลงมา ทุกอย่างก็เป็นอันว่าโดนชำระเกลี้ยงเกลาขาวสะอาด แล้วแต่พระองค์ท่านจะเมตตาสงเคราะห์ไปในด้านใด ก็จะเป็นไปในด้านนั้น

    ดังนั้น..ตั้งแต่สมัยแรก ๆ ที่กระผม/อาตมภาพสร้างวัตถุมงคล เมื่อลูกศิษย์นำไปอวดหลวงปู่หลวงพ่อพระเกจิอาจารย์ แต่ละท่านจับแล้วก็ตกใจว่าใครเสกมาถึงได้แรงขนาดนี้ ? เมื่อรู้ว่าเป็นกระผม/อาตมภาพก็ยังออกปากว่า "พระหนุ่ม ๆ ทำไมถึงทำได้ขนาดนี้ ?!" โดยที่ไม่ได้คิดว่ากระผม/อาตมภาพนั้น บางงานไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากนั่งดูเฉย ๆ รอพระพุทธเจ้าท่านอนุเคราะห์สงเคราะห์ให้เท่านั้น

    แต่กลายเป็นว่าท่านอื่น ๆ ล้วนแล้วแต่บอกว่าเป็นกระผม/อาตมภาพเองกระทำขึ้นมา ซึ่งขอปฏิเสธไว้ ณ ที่นี้ เพราะว่าบางงาน
    กระผม/อาตมภาพก็ไม่ได้ทำอะไรเลย บางงานก็ทำเฉพาะที่พระท่านสั่ง บางงานก็ทำเฉพาะที่ครูบาอาจารย์ท่านสั่ง

    โดยเฉพาะงานนี้ หลวงปู่สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) วัดระฆังโฆสิตาราม ท่านมาเสกรูปของท่านเอง แล้วขณะเดียวกัน สมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรยท่านก็มาเสกรูปของท่านเอง โดยเฉพาะสมเด็จพระศรีอาริยเมตไตรย ทรงเมตตาเตือนว่า "เธอยังจำคำของฉันที่หลวงพ่อเธอฝากไว้ได้ไหม ?" จึงได้กราบทูลไปว่า "จำได้ขอรับพระเจ้าข้า บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ถ้าหากว่าตั้งความปรารถนาเอาไว้ ว่าจะเกิดในยุคในสมัยของพระองค์ท่าน ถ้าจะเอาให้มั่นคง ควรที่จะรักษากรรมบถ ๑๐ โดยเคร่งครัดพระเจ้าข้า" ท่านเองยิ้มชอบใจว่ายังอุตส่าห์จำได้ แล้วก็เมตตาอนุเคราะห์สงเคราะห์ในพิธีวันนี้ให้เป็นไปตามสมควรแก่เหตุ

    เมื่อเสร็จพิธี กระผม/อาตมภาพก็ต้องฝ่ารถติดสาหัสสากรรจ์เพื่อกลับเข้าสู่ที่พัก ณ วัดอุทยาน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี ซึ่งห่างจากวัดอินทรวิหารไม่กี่กิโลเมตร แต่ใช้ระยะเวลาเดินทางนานเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๑๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...