เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 6 ธันวาคม 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๕


     
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    วันนี้ตรงกับวันอังคารที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพได้เดินทางไปยังมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อร่วมงานแต่งตั้งพระวิปัสสนาจารย์ ประจำกองการวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทย ประจำปี ๒๕๖๕

    ในฐานะรุ่นพี่ซึ่งได้รับแต่งตั้งไป โดยถือว่าเป็นรุ่นที่ ๑ เมื่อมีรุ่นน้องได้รับแต่งตั้ง ก็ต้องไปอำนวยความสะดวกและแสดงความยินดีด้วย โดยเฉพาะมีพระของวัดท่าขนุนได้รับแต่งตั้งด้วยหลายรูป ส่วนพระรูปอื่น ๆ ที่ได้รับการแต่งตั้ง ส่วนหนึ่งก็รู้จักมักคุ้นกันดีอยู่แล้ว

    กระผม/อาตมภาพเมื่อไปถึง ก็ได้รับฉันทานุมัติจากท่านพระครูธรรมธรสัมพันธ์ ถิรธมฺโม เลขานุการกองการวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทย ให้นำพระผู้ได้รับการแต่งตั้งเป็นพระวิปัสสนาจารย์ประจำปีนี้ทั้งหมด ร่วมกันถวายสักการะรูปหล่อพระเดชพระคุณท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาสภมหาเถร)

    หลังจากนั้นก็ได้เข้าร่วมการทำวัตรเช้าก่อนปฏิบัติงาน ซึ่งเป็นธรรมเนียมของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยว่า ทุกวันจันทร์แรกของเดือน บรรดาผู้บริหาร ตลอดจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ในสังกัดมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยส่วนกลาง จะต้องมาสวดมนต์ทำวัตรร่วมกัน นำโดยพระเดชพระคุณพระธรรมวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. (สมจินต์ สมฺมาปญฺโญ, ป.ธ. ๙) องค์อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สำหรับวันจันทร์แรกของเดือนนี้ เป็นวันพ่อแห่งชาติ จึงเลื่อนมาเป็นวันนี้แทน

    ในสิ่งที่องค์อธิการบดีท่านกระทำนั้นเป็นสิ่งที่ดีมาก เพราะถือว่าเป็นการเจริญพระกรรมฐานในรูปแบบหนึ่ง ก็คือการเจริญพระกรรมฐานด้วยการทำวัตรสวดมนต์ เนื่องเพราะว่าในพระพุทธศาสนาของเรานั้น ได้แบ่งการศึกษาและปฏิบัติธรรมออกเป็นปริยัติธรรมและปฏิบัติธรรม

    ปริยัติธรรมนั้นคือการศึกษาตำรา โดยเฉพาะการศึกษาพระไตรปิฏก การปฏิบัติธรรมนั้นก็คือการเจริญสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งทั้ง ๒ ส่วนนั้นเป็นการเอื้ออำนวยให้กับพระพุทธศาสนา

    ถ้าเราดูแล้วก็จะเห็นว่า พระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนานั้น มีหน้าที่ในการศึกษาพระปริยัติธรรม ปฏิบัติธรรม การเผยแผ่พระพุทธศาสนา และการปกป้องพระพุทธศาสนา ซึ่งงานทั้งหมดทั้งมวลนั้น ถ้าเราศึกษาและปฏิบัติธรรม ก็เท่ากับเป็นการเผยแผ่และการปกป้องพระพุทธศาสนาไปในตัว เนื่องเพราะว่าการที่บุคคลเห็นความเคร่งครัดในวัตรปฏิบัติของเรา แล้วเกิดความเลื่อมใสขึ้นมา ให้การสนับสนุนต่อพระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง ก็จะทำให้เกิดความเข้มแข็ง นับเป็นการปกป้องพระพุทธศาสนาอย่างหนึ่ง
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    ดังนั้น..ในส่วนของกองการวิปัสสนาธุระแห่งประเทศไทย ซึ่งได้เริ่มแต่งตั้งพระวิปัสสนาจารย์จากพระนักปฏิบัติทั่วประเทศ เป็นรุ่นที่ ๒ แล้ว ก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่คาบเกี่ยวอยู่ในการปกครองคณะสงฆ์ ๖ ด้าน ก็คือคาบเกี่ยวอยู่ระหว่างด้านการศึกษาและด้านการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ซึ่งผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งไปนั้น ก็จะต้องมีภาระหน้าที่อันสำคัญ ในการที่จะต้องเผยแผ่พระพุทธศาสนาผ่านการปฏิบัติธรรม ทั้งสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน ตามแนวทางที่ตนเองชำนาญมาแต่เดิม

    เมื่อหลาย ๆ ท่านร่วมกันทำหน้าที่นั้น ก็จะสร้างความมั่นคงให้กับพระพุทธศาสนาได้มาก เพราะว่าญาติโยมทั้งหลายที่ต้องการแหล่งพักใจ ในการที่ตนเองเหน็ดเหนื่อยจากภาระหน้าที่ต่าง ๆ ก็จะได้มีสถานที่ในการปฏิบัติธรรม เพื่อสร้างความสงบให้เกิดกำลังในการช่วยกันค้ำจุนอุดหนุนพระพุทธศาสนาต่อไป

    เมื่อพระเดชพระคุณพระธรรมวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. องค์อธิการบดี ได้กล่าวเปิดการสัมมนาพระวิปัสสนาจารย์และอนุโมทนาแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้กราบลา เพื่อเดินทางไปยังวัดบางหัวเสือ หมู่ที่ ๘ ตำบลบางหัวเสือ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้รับการนิมนต์ผ่านทางหลวงพ่อช้าง (พระครูปลัดรณชัย เตชปุญฺโญ)
    วัดจุกเฌอ จังหวัดฉะเชิงเทรา ให้มาร่วมปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นเมตตาบารมี ๘๘ ปี ของหลวงปู่ถวิล (พระครูวิบูลสีลวัฒน์) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน

    เมื่อเข้าไปถึงวัดบางหัวเสือแล้ว ท่านทั้งหลายก็จะเห็นความยิ่งใหญ่ของวัด ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ก็ดี สิ่งก่อสร้างก็ตาม เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าตั้งแต่หลวงปู่บัว อดีตเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดบางหัวเสือ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ ทรงทั้งคุณวุฒิและวิทยาคม เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน ตลอดจนกระทั่งพระภิกษุสงฆ์เป็นจำนวนมาก แล้วพระเถระเจ้าอาวาสรูปต่อ ๆ มา ไม่ว่าจะเป็นหลวงพ่ออ้น หลวงพ่อพิณ หลวงพ่อเที่ยง จนกระทั่งถึงหลวงพ่ออยู่ (พระครูวิบูลสิกขกิจ) วัดบางหัวเสือก็ตาม ล้วนแล้วแต่เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ทรงความเข้มขลัง เป็นที่พึ่งของชาวบ้านอย่างมั่นคงตลอดมา

    โดยเฉพาะหลวงปู่บัว วัดบางหัวเสือนั้น ประวัติบอกว่าท่านเป็นน้องชายของสุดยอดพระเกจิอาจารย์ทางสายพระปิดตา ก็คือหลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือ ซึ่งถ้าท่านทั้งหลายศึกษาเกี่ยวกับเบญจภาคีพระปิดตาของประเทศไทย ต้องทราบดีว่าพระปิดตาของหลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือนั้นยอดเยี่ยมขนาดไหน
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,663
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,551
    ค่าพลัง:
    +26,390
    หลวงปู่บัว ท่านยังเป็นพระอุปัชฌาย์ บวชให้กับหลวงพ่อพิณ และหลวงพ่อเที่ยง วัดบางหัวเสือ ซึ่งสืบทอดวิทยาคมของท่านต่อเนื่องกันมา จนกระทั่งมาถึงหลวงปู่อยู่ วัดบางหัวเสือ ซึ่งบวชมาจากทางด้านวัดพลับ หรือว่าวัดราชสิทธาราม สืบสายวิทยาคมทางด้านสมเด็จพระสังฆราชสุก ไก่เถื่อนมา จึงได้ประยุกต์วิทยาคมทั้งสายหลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือ และสมเด็จพระสังฆราช สุก ไก่เถื่อน เข้าด้วยกัน ยิ่งทำให้ท่านโด่งดังคับฟ้าขึ้นไปอีก

    หลวงปู่อยู่ ท่านเป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้กับหลวงปู่ถวิล เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ซึ่งอายุกาลพรรษาถึง ๘๘ ปีแล้ว แต่ว่าแข็งแรงปราดเปรียวเหมือนกับหนุ่ม ๆ โดยเฉพาะรูปร่างผอมบาง ในลักษณะของพระเกจิอาจารย์ผู้เคร่งครัดต่อวัตรปฏิบัติ

    แต่เนื่องจากว่าการเสกรูปเหมือนของท่านในงานทำบุญอายุ ๘๘ ปีครั้งนี้ มีรูปหล่อท้าวเวสสุวรรณด้วย ท่านจึงได้รับคำแนะนำจากหลวงพ่อช้าง วัดจุกเฌอว่า "ควรที่จะมีหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุนมาร่วมด้วย" ท่านจึงให้ลูกศิษย์เดินทางไปนิมนต์กระผม/อาตมภาพถึงวัดท่าขนุน ทั้งที่กระผม/อาตมภาพบอกแล้วว่า ให้ส่งฎีกานิมนต์ไปทางไลน์ก็ได้

    แต่ด้วยความเคร่งครัดต่อวัตรปฏิบัติแบบพระเกจิอาจารย์รุ่นเก่า หลวงปู่ถวิลท่านยืนยันกับลูกศิษย์ว่าไม่ได้ "เราจะนิมนต์ครูบาอาจารย์ ต้องแสดงความจริงใจ ด้วยการเดินทางไปให้ถึงวัดของท่าน แม้ว่าไกลแค่ไหนก็ต้องไปด้วยตนเอง" ในเมื่อเป็นดังนั้น กระผม/อาตมภาพจึงรับนิมนต์อย่างเต็มอกเต็มใจ

    โดยเฉพาะการปลุกเสกวัตถุมงคลรุ่นนี้ ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่เบาแรงสุด ๆ เพราะว่าครูบาอาจารย์อดีตเจ้าอาวาส ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่บัวก็ดี หลวงปู่พิณก็ดี หลวงปู่เที่ยงก็ดี มาจนถึงหลวงปู่อยู่ ตลอดจนกระทั่งหลวงปู่ถวิล ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ล้วนแล้วแต่เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อเสียงโด่งดังคับฟ้าในยุคของแต่ละท่าน

    ถ้าอยากจะรู้ว่าท่านดังขนาดไหน แค่เข้าไปในอุโบสถวัดบางหัวเสือ ซึ่งได้รับการก่อสร้างอย่างประณีตอลังการแล้ว ท่านทั้งหลายก็จะเห็นสังฆคุณของอดีตครูบาอาจารย์ทั้งหลายเหล่านี้ ว่าท่านเป็นที่พึ่งที่ระลึก ในลักษณะของสังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ในรูปแบบใดบ้าง

    กระผม/อาตมภาพจึงได้อาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันตเจ้า และครูบาอาจารย์ทั้งหลาย โดยเฉพาะอดีตเจ้าอาวาสวัดบางหัวเสือทุกรูป ได้เมตตาอนุเคราะห์สงเคราะห์ในการปลุกเสกวัตถุมงคลในครั้งนี้ ถึงได้บอกว่าเป็นการเบาแรงเป็นพิเศษ เพราะว่าแทบไม่ต้องทำอะไรเลย นอกจากนั่งมองหลวงปู่อดีตเจ้าอาวาสทุกรูปท่านได้กระทำตามตำราที่ตนเองศึกษามา ไม่ว่าจะเป็นสายหลวงปู่จีน วัดท่าลาดเหนือก็ดี สายสมเด็จพระสังฆราชสุก ไก่เถื่อน วัดราชสิทธารามก็ตาม

    เมื่อเสร็จพิธีแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้โปรยดอกไม้ถวายเป็นพุทธบูชา รับไทยธรรมแล้วก็กราบลา เพื่อที่จะเดินทางกลับยังวัดท่าขนุน ในระหว่างทางก็ได้บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนนี้เอาไว้ เพื่อให้พระภิกษุสามเณร ตลอดจนกระทั่งญาติโยมที่ติดตามฟังอยู่ทางช่องยูทูบ ไม่ว่าจะเป็นในประเทศหรือว่าต่างประเทศก็ตาม ได้ทราบว่ากิจกรรมในวันนี้ได้กระทำอะไรไปบ้าง

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๖ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...