อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๑๔ : ธงมหาพิชัยสงคราม

ในห้อง 'อดีตที่ผ่านพ้น' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 7 กรกฎาคม 2019.

  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,672
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,552
    ค่าพลัง:
    +26,394
    14.jpg

    อดีตที่ผ่านพ้น ตอนที่ ๑๔ : ธงมหาพิชัยสงคราม


    วัตถุมงคลของ "หลวงพ่อ" ที่อาตมาประจักษ์ชัดในอานุภาพมากที่สุด เชื่อมั่นติดตัวเป็นที่พึ่งสุดท้ายในยามคับขันตลอดมา คือธงมหาพิชัยสงคราม ด้วยธงเล็ก ๆ ผืนเดียวนี่แหละ ที่ช่วยอาตมารอดจากการบอมบ์ด้วยปืนใหญ่ อย่างไม่ลืมหูลืมตาของฝ่ายตรงข้ามมาแล้ว ทั้งยังรอดจากจรวดอาร์พีจี และกระสุนปืนที่ระดมมาเป็นห่าฝนยิ่งกว่าปาฏิหาริย์...!

    ธงมหาพิชัยสงครามนั้นสร้างขึ้นตามตำราพระร่วง เป็นธงนำทัพในสมัยนั้น กว่าจะเขียนเสร็จกว่าจะปลุกเสกเป็นที่เรียบร้อย ก็กินเวลาเป็นเดือน ๆ แต่มีอานุภาพคุ้มกับความเหนื่อยยาก ผืนเดียวคุ้มกันได้ทั้งกองทัพ ตามตำรากล่าวว่า เพียงถือด้ามธงเข้าไปในป่า รับรองว่าไม่อดตาย ป้องกันอันตรายและเสนียดจัญไรทุกชนิด ซ้ำยังดึงดูดแต่สิ่งที่ดีมีมงคลเข้ามาสู่ผู้ใช้อีกด้วย ให้มีแต่ความสุขความเจริญทุกประการ...

    หลังจากอาจารย์แจง ชาวสวรรคโลกตาย "หลวงพ่อ" ก็ไปขอตำราพระร่วงที่ท่านยืมไปจากหลวงปู่ปานคืนมา เปิดดูแล้วชอบยันต์มหาพิชัยสงครามที่สุด แต่วิธีทำตามที่ระบุในตำรา มันช่างยากเย็นเหลือประมาณ นิสัยของ "หลวงพ่อ" นั้น ถ้าอะไรมันยากก็ไม่เอาซะเลยหมดเรื่อง...! จึงปล่อยทิ้งคาตำราไว้อย่างนั้นเอง...

    คืนหนึ่ง...ปรากฏท้าวมหาพรหมองค์หนึ่ง เสด็จมาหา "หลวงพ่อ" บอกว่า "หลวงพ่อ" เป็นเชื้อสายสุดท้ายของพระร่วง ขอให้ช่วยทำธงมหาพิชัยสงครามขึ้นมา ของวิเศษชิ้นนี้จะได้ไม่สูญหายไปจากโลก ถ้าผิดจาก "หลวงพ่อ" แล้ว คนอื่นเอาไปทำเท่าใดก็ไม่เป็นผล เพราะไม่ใช่เชื้อสายกัน หลวงพ่อท่านปฏิเสธไม่ขอทำ บอกว่า “มันยาก” ...

    ท่านท้าวมหาพรหมพยายามขอร้องให้ "หลวงพ่อ" ทำให้ได้ ต่อรองกันจนในที่สุดท่านขอแค่ว่า ถ้ากลัวเขียนยากก็ให้ลูกศิษย์ไปจ้างเขาพิมพ์มา แล้วตั้งเครื่องบวงสรวงไว้ ท่านจะเสด็จมาทำพิธีให้เอง...! เป็นอันว่าตกลงตามนี้ หลังเสร็จพิธีท่านบอกว่า “ลง” ให้หนักที่สุด อย่าให้ใครเอาไปทดลองปลุก จะทานอานุภาพไม่ไหว ถึงตายเอาง่าย ๆ....!

    ระยะแรก "หลวงพ่อ" ท่านแจกให้เฉพาะทหาร และต้องเป็นทหารที่อยู่แนวหน้าเท่านั้น อานุภาพประจักษ์ชัดเป็นที่เลื่องลือ ขนาดรถจิ๊ปโดนกับระเบิดแหลกราญหมดทั้งคัน ยังลุกขึ้นมายิงกับฝ่ายตรงข้ามได้หน้าตาเฉย ตกอยู่ในวงล้อมชนิดหนึ่งต่อร้อยยังฝ่าออกมาได้ ชนิดที่กลับถึงฐานเพื่อนเผ่นกระเจิง...นึกว่าผีหลอกเพราะจำหน่ายว่าตายไปแล้ว...!

    อาตมาขึ้นชายแดนคราวนั้น สิ่งเดียวที่ติดกระเป๋าไปคือธงมหาพิชัยสงครามที่รับมาจาก "หลวงพ่อ" ภารกิจหลักอย่างหนึ่งของอาตมาคือ ๒-๓ วันต้องเข้าไปอรัญประเทศ เพื่อซื้ออาหารสดมาเลี้ยงกำลังพล ระยะทาง ๕๐ กิโลเมตร มีโจรเขมรดักปล้นทุกวัน ออกไปลำบากยากเข็ญขนาดนั้น แต่เพื่อขวัญและกำลังใจของเพื่อน ๆ ก็ต้องยอมเสี่ยงเอา...

    รถขนเสบียงนั้น จ่าสิบเอกสมชัย สะอิ้งทอง รับมาจากตอนยานยนต์ มีธงมหาพิชัยสงครามติดอยู่ด้วย เก่าแก่จนแทบจะกลายเป็นสีขาว ไม่ทราบว่าใครเอามาติดไว้ตั้งแต่เมื่อไร วันเกิดเหตุนั้น อาตมากับลุงจ่าและเพื่อนทหารอีกหนึ่งนาย ออกไปรับเสบียงตามปกติ...

    ขาไปสะดวกราบรื่นดี ขากลับมาถึงทางช่วงสุดท้ายเลยบ้านนางามไปเล็กน้อย เป็นรอยต่อระหว่าง ร้อย ร. ๙๑๐๒ กับ ร้อย ร. ๙๑๐๓ ซึ่งเป็นเขตติดต่อระหว่างกองร้อยของอาตมากับกองร้อยข้างเคียง เสียงจรวดอาร์พีจีก็ลั่น...แ..ว้..ด...ด...!

    จุดอ่อนของจรวดทำลายรถถังชนิดนี้คือ ขณะถูกส่งออกจากลำกล้องจะมีเสียงดังให้รู้ตัวชั่วเสี้ยววินาที จ่าสมชัยกระทืบเบรกทันที เสียงตูมสนั่นฝุ่นตลบ จรวดมหาประลัยตกห่างจากหน้ารถไม่ถึง ๑๐ เมตร แรงอัดระเบิดกระแทกทุกคนผงะหงายหลัง...!

    ถ้าไปด้วยความเร็วเดิมรับรองเละทั้งคัน...! ไม่ทราบว่าลุงจ่าแกเหยียบคลัชเปลี่ยนเกียร์อีท่าไหน รถทั้งคันกระโจนพรวดอย่างกับเหาะ พร้อม ๆ กับเสียง แ..ว้...ด..ตูม..! สนั่นขึ้นอีกครั้ง ตรงที่รถเพิ่งกระโจนออกมากลายเป็นหลุมมหึมา แรงอัดอากาศกระแทกจนตับไตไส้พุงแทบขย้อนออกทางปาก...!

    ยอดพลขับเหยียบคันเร่งจนมิด ยี.เอ็ม.ซี. คู่ใจทะยานแข่งกับเสียงจรวดที่ลั่นตามมาอีกอย่างจะไม่ให้รอดกันเลย แถมด้วยกระสุนปืนเล็กกลแตกกราวไล่หลังมา ผู้ที่รับไปเนื้อ ๆ คือ ป่าไผ่ข้างถนน ขาดระเนนระนาดด้วยฤทธิ์อาวุธสงครามนานาชนิด...!

    สิงห์ทะเลทรายประจำกองร้อยของเราสวนออกมาเร็วทันใจดีเหลือเกิน เอ็ม.๖๐ ผงาดร่า พ่นมัจจุราชหัวทองแดงเข้าหาฝ่ายตรงข้ามเป็นห่าฝน เท่านั้นเอง...ฟาดกันนัวไม่รู้ว่าใครเป็นใคร จนกองร้อยทหารพรานที่ตั้งอยู่ใกล้ ๆ ต้องยกกำลังมาเสริมทั้งกองร้อย...!

    จ่าสิบเอกสมชัย สะอิ้งทอง กลายเป็นวีรบุรุษไปเลย แต่ลุงจ่าแกบอกอยู่คำเดียวว่า “ไม่ใช่ฝีมือผม...ผมทำแบบนั้นได้ซะเมื่อไหร่..เดชะบุญคุณพระคุ้มแท้ ๆ...!” แต่ไม่มีใครฟังแกเลย ต่างคว้าพระที่คอของลุงจ่าไปดูกันเป็นการใหญ่ แต่สรุปไม่ได้ว่าองค์ไหนช่วย...!

    อีกไม่กี่วันต่อมา หมู่ปืนเล็กลาดตระเวนของสิบเอกอภิชาติ อินต๊ะรัตน์ ไปถูกล้อมกรอบที่เนิน ๔๒... สิบเอกบุญยูร ทรัพย์อุปการ ตัดสินใจขับรถปาฏิหาริย์คันนี้ ลุยเข้าไปกลางวงล้อมช่วยพรรคพวกทั้งหมดออกมา ชนิดที่รถไม่ระคายเลยแม้เท่ารอยแมวข่วน...!

    ทุกคนอัศจรรย์ใจเหลือที่จะกล่าว รถคันเท่าบ้านเท่าตึก ฝ่ายตรงข้ามยิงไม่ถูกซักนัด...! มีเพียงพลทหารวรรณะ ใสรังกา บาดเจ็บที่ข้อเท้าคนเดียว...!

    อานุภาพธงมหาพิชัยสงครามที่เด่นชัดที่สุดที่อาตมาพบ เกิดขึ้นเมื่อฝ่ายตรงข้ามถล่มกองร้อยของอาตมาด้วยปืนใหญ่ขนาด ๑๕๕ ม.ม. เสียงระเบิดปานฟ้าผ่าปลุกทุกคนขึ้นมาตอนใกล้รุ่ง อาตมากระโดดลงหลุมปืนกลหนักขนาด ๑๒.๗ ม.ม.ระดมยิงสวนไปอย่างหูดับตับไหม้ หมู่ ค. ๘๑ เผ่นเข้าประจำที่ ส่งกระสุนตอบโต้อย่างกับเด็กหาญสู้ผู้ใหญ่...!

    ตามปกติแล้วหมู่ปืนใหญ่ที่ชำนาญมาก ๆ ภายในสามวินาทีจะยิงได้ ๑ นัด อาตมาให้อย่างช้าหกวินาทีต่อนัดเลยเอ้า ...ปืนใหญ่ทั้งสามกระบอกรุมบอมบ์อยู่ ๑๕ นาที ๔๕๐ นัด...!

    มัจจุราชแตกอากาศ ที่รัศมีแห่งความตายของแต่ละนัดเท่ากับ ๕๐๐ เมตร ไม่ทราบว่าวิ่งชนกำแพงอะไร ตกอยู่แค่แถวหน้าฐานทั้งหมด กระทั่งข้ามฐานยังข้ามไม่ได้เลย...!

    “ผืนเดียวคุ้มได้ทั้งฐาน” เสียง "หลวงพ่อ" ที่บอกขณะอาตมารับมอบธงจากท่านดังก้องขึ้นในใจ อาตมาขนลุกซู่ไปทั้งตัว สาธุ...พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ถ้าไม่ได้บารมีท่านช่วยคุ้มครอง ลูกคงตายไปหลายวาระแล้ว...!

    ต่อมาภายหลัง อาตมาได้รับวัตถุมงคลรุ่นเก่าของ "หลวงพ่อ" หลายอย่าง ที่คนอื่นเขาหากันทั้งชีวิตก็ไม่ได้ เช่น เหรียญเกลียวเชือก ธงเขียว ธงแดง ลูกแก้วจักรพรรดิ มีดหมอ (ดาบฟ้าฟื้น) พระเนื้อชินตะกั่ว ยันต์ท้าวมหาชมภู ตลอดถึงพระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุพระสีวลี เป็นต้น ไว้ในครอบครองอย่างง่ายดาย อาตมามั่นใจว่าเป็นอานุภาพของธงมหาพิชัยสงคราม ที่ดึงดูดแต่สิ่งที่ดีเข้าหาเจ้าของ ช่วยบันดาลให้เป็นไปอย่างแน่นอน...!

    ๒๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๓
    พระใบฎีกาเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

    ที่มา www.watthakhanun.com
    ภาพประกอบโดย สำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี
    #๖๐ปีพระครูวิลาศกาญจนธรรม
     

แชร์หน้านี้

Loading...