กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,344
    ค่าพลัง:
    +4,820
    แต่ก็มีเจได รายนึง ที่นำวิชาของพวกซิธ มาศึกษา เขาเชื่อว่ามันเป็นแค่พลังเท่านั้น เขานำวิชาของซิธและเจไดมาประยุกต์ใช้เข้าด้วยกัน จนเป็น วิถี แห่งวาแพด สุดยอดทั้งด้าน พลัง และการใช้งาน แม้กระทั้ง เจ้านิกายแห่งความมืด ซิเดียส ก็พ่ายจนต้องเสียดาบในการประลอง หรือแม้แต่ เคาน์ ดูกู ก็ไม่กล้าปะทะกับเขา

    ว่ากันว่า ฝีมืดตอนเขาพีคๆ นั้น อาจจะเหนือกว่าโยดา ด้วยซ้ำ สังเกต EP3 ที่เขาไล่ต้อน ซิเดียส จนหมดท่า แต่โยดา สู้กับซิเดียส เต็มที่แค่ปัดป้องตัวเองเท่านั้น

    ข้าได้สร้างวาแพดขึ้นมาเพื่อทดแทนจุดอ่อนของข้า มันเป็นการส่งด้านมืดของข้าเองเข้าไปในอาวุธ

    — เมซ วินดูพูดกับโอบีวัน เคโนบี
     
  2. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720

    (เจได)
    ".....เนื่องจากยังเข้าไม่ถึงพลังงาน
    อันจะนำไปโม้ก็เกรงจะเกิดโทษ....."

    คคห.ส่วนตัวคิดว่า...คงไม่เป็นไรเนอะ
    ถ้าเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง(ประสบการณ์)
    จะโม้ไปมั่งก็ไม่น่าจะเป็นไร
    โม้ไปแล้ว"อย่าทำให้ใครเกิดทุกข์"
    ...มีแต่ความสุข
    อย่างนี้คงไม่เป็นไร
    ถ้าไม่ไปเบียดเบียนโลก...เบียดเบียนใคร
    ใจบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง
    "ยึดเจตนาดีเป็นฐานที่มั่นคง"
    พระจะคุ้มครองท่านเอง


    ...บางครั้งที่เรามักได้ยินคำว่า
    ".....ไม่มีเจตนา"
    ...รอดตัว รอดค.ไปก็มีให้เห็น
    แคล้วคลาดเหมือนเช่นสวดมนต์ขอพร

    เจตนาเป็นเรื่องของจิตใจ
    ที่อยู่ภายในร่างกาย
    ...คงยังไม่มีเครื่องมือหรือปรอทใดๆ
    ที่สามารถตรวจวัด"ระดับ"ของคำว่าเจตนา
    แล้วอย่างนี้จะพิสูจน์อย่างใดว่า...
    ...ใครมีเจตนาหรือไม่มี

    ...จึงต้องดูที่การกระทำก่อนเกิดเหตุ
    และสิ่งแวดล้อมต่างๆประกอบ

    ...ตราบใดที่ยังไม่มีปรอทตรวจวัด
    คงต้องยึดหลัก “กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา”

    ขอสรุป...สั้นๆ ให้สบายใจ....

    "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว"
    (ไม่ต้องคิดมากเด๋อ)

    ส้นทางสวรรค์รออยู่

    ขุมนรกก็เปิดกว้างเช่นกัน

    555...ทั้งหมดเป็นคคห.ส่วนตัวๆ
    (ปิดท้ายด้วยสัญลักษณ์ 555)
    ...พอจะคลายเครียดได้บ้างนะคร๊าบ
     
  3. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720

    555....อยากฟังต่อ ฟังต่อ
    กำลังติดลม...ติดเจได
    ...แต่ก่อนไม่เคยสนใจเลย
    (ไม่ชอบด้วยซ้ำ...เรื่องราวไฮเทคเช่นนี้)
    อ่านพระอภัยมณีกับผีเสื้อสมุทร...ดีกว่า
    555...สว. สูงวัย สุกเกินแกง
    ตามไม่ทันโลก...หรอกเจ๊า
    ...กำลังภายในฝรั่งแต่ละดอก
    ใช้อาวุธไฮเทคล้วนๆ
    นอกจากตามไม่ท้น...ยังหลบไม่พ้น
    ...แต่ชื่นชอบตรงคำคมต่างๆที่เขียนไว้

    ...อ่านนิทานพื้นบ้านยังพอไหวนะ

    ...แต่มาถึงวันนี้ขอฝืนสังขารหน่อย
    ช่วยเล่าต่อ...เล่าต่อ

    หยุดเล่าเมื่อใด
    *เจไดหรือธิสแทรก...ด่วนเลยนะ*
    ประมาณจานด่วน...ปานสายฟ้า
    ....555
     
  4. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,344
    ค่าพลัง:
    +4,820
    โอบีวัน เคโนบี เป็นผู้เข้าถึงด้านสุดยอดเพลงดาบ โซเรสุเน้นหนักไปที่การป้องกัน เป็นหลัก ป้องกันได้แม้กระทั่ง กระสุนเลเซอร์ที่ระดมยิงได้จากทุกทิศทาง โอบีวัน เคโนบี ไม่เคยแพ้การดวลดาบให้กับใคร นอกจาก เคาน์ ดูกู เพราะ เพลงดาบมาคาชิของ เคาน์ ดูกู เน้นไปที่การแทง สามารถทำลายวิถิการตั้งรับของโอบีวันได้อย่างง่ายดาย กล่าวคือ เคาน์ ดูกู จะฟันให้โอบีวัน เอาดาบมาตั้งรับก่อน พอดาบกระทบกันเสร็จ เคาน์ ดูกู ก็จะเอี้ยวตัวไปด้านข้างนิดหน่อย เพื่อให้ดาบลอดเข้าได้การ์ดของโอบีวัน เคาน์ ดูกู หลังจากนั้นก็ปาดเข้าไปยังแขนอย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นโอบีวันก็หมดสภาพ กล่าวกันว่า โซเรสุ โอบีวันนั้นสุดยอด แต่มันไร้ค่าเมื่อเจอ เคาน์ ดูกู เพราะเพลงดาบแพ้ทางกัน โซเรสุสามารถรับวิถีกับวิถีดาบ ฟาดฟัน ได้ดี แต่ถ้าเจอคู่ต่อสู้ใช้วิถี จ้วง ปาด แทง ก็รับมือยาก เพราะต้องหลบสถานเดียวเท่านั้น โอบีวัน เจอ เคาน์ ดูกู เมื่อไหร่ก็ หมอบกระแตเมื่อนั้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. เจไดหรือธิส

    เจไดหรือธิส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2017
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +359
    อิอิ วันนี้ดู x-men Dark Phoenix มา เพิ่งจะรู้จักพลังงานระดับ cosmic being ที่เป็นพลังงานระดับการสร้างจักรวาล เลยทีเดียว ซึ่งจากในหนัง นี้พลังงานนี้ถูก ดึงดูดเข้าหา จีน เกรย์ ซึงเป็น มนุษย์กลายพันธ์ที่มีพลังที่แข็งแกร่งที่สุด ก็เลยมีความคิดว่า ในโลกเราจะเป็นเช่นนี้หรือไม่นะ สิ่งที่มีระดับใกล้กันจะถูกดึงดูดให้มาใกล้กัน คุณ 9 มีความเห็นเป็นเช่นไรครับ
     
  6. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    (เจได)
    ".....ก็เลยมีความคิดว่า
    นโลกเราจะเป็นเช่นนี้หรือไม่นะ
    สิ่งที่มีระดับใกล้กันจะถูกดึงดูดให้มาใกล้กัน....."

    เป็นกฏธรรมชาติที่น่าสนใจ
    เช่นกันกับคนที่ถูกธาตุกันก็จะดึงดูดเข้าหากัน
    ...โดยผ่านใจ-กาย...ใจที่มีพลังงาน
    อย่างคนที่รักกันจนถึงขั้นแต่งงานกัน
    อยู่ด้วยกันฉันผัวๆเมียๆ
    มีลูกมีเต้า 1-2 คน...สมัยนี้
    หรือ 1-2 โหล...ในสมัยโน่น
    (55...สมัยคุณปู่คุณย่า)

    นี่เป็นความดึงดูดบุคคล/บุคคล
    หรือเรามักพูดว่าถูกตาถูกใจ
    แล้วลูกๆที่เกิดมาตั้งโหล2โหลล่ะ
    นอกจากรักใคร่ชื่นชอบกัน
    บางครั้งบางวันบางครอบครัว
    ก็มีขัดใจโต้แย้งกันบ้าง
    ...แต่ที่ไม่ธรรมดาๆ คือ
    อิจฉาตาร้อน อาฆาตกัน
    ทำลายล้างกันมีให้เห็น มีเป็นข่าวบ่อยครั้ง
    "พ่อแม่ถูกธาตุกัน ลูกๆอาจไม่ถูกธาตุกัน"
    ....สุดท้ายก็เวียนมาหา"กฏแห่งกรรม"

    อันนี้รวมไปถึงญาติมิตรเผ่ากอ
    และบุคคลที่พบปะระหว่างวัน
    ก็มีทั้งถูกธาตุ...เข้าหากัน
    และไม่ถูกธาตุ...ประมาณแรกเจอก็เกลียดกัน
    ...บ้างก็มีเหตุมาจากปัจจัยอื่นๆ
    เช่น ทัศนคติ รสนิยม
    ...เล็งเป้าหมายที่ตรงกัน หรือต่างกัน
    ถ้าต่างกันสุดกู่...ย่อมไปด้วยกันยาก
    ...แม้ฝืนไปด้วยกัน...ยอมกลืนขม-อมทุกข์
    ...อาจไปได้ในระยะแรกๆ
    ...แต่ไม่นานก็พังด้วยกันทั้งคู่
    "ผลักไสออกจากกัน"



    นิสัยคล้ายกันย่อมชอบพอกัน
    ย่อมจะดึงดูดเข้าหากัน
    เช่นมีความคิดที่คล้ายกัน
    ทั้งทางสังคม...และการเมือง

    ...เคยได้ยินมาว่า...
    หากใจคิด...คิดบ่อยๆถึงสิ่งหนึ่งๆ
    ไม่นานจะดึงดูดสิ่งเหล่านั้นเข้ามาหาตัวเรา
    อันนี้จะจริงหรือไม่...ไม่ทราบ
    เพราะเท่าที่ผ่านมา(จากประสบการณ์)
    ...แต่ส่วนมากมักจะเป็นสิ่งที่เราไม่ชอบ
    เช่นควันบุหรี่...กลิ่นเหม็นจากรถขยะ
    ยิ่งไม่เสน่ห์หา...ยิ่งเจอ
    หลบซ้ายก็เจอ...ไปขวาก็เจอเบิ้ล
    แฮะๆ...ทีสิ่งที่เราชื่นชอบ
    ...ไม่ยักเจอแบบเบิ้ลๆ
    เช่นอยากถูกหวย กลับนานทีปีหน

    เข้าทำนองว่า...
    "ยิ่งเกลียดอะไร ยิ่งเจอสิ่งนั่น"
    สุดท้ายก็ปลอบใจตัวเองว่า...
    เป็นเพราะกฎแห่งกรรม
    (ความจริงก็ใช่นั่นแหละ)

    ...ที่ว่ามาเป็นแค่ส่วนหนึ่ง
    เศษเสี้ยวเล็กๆในเรื่อง"กฎแห่งแรงดึงดูด"
    ...ในเรื่องของมนุษย์...ใกล้ๆตัวเรา

    ส่วนเรื่องพลังงานยังมีอีกมากมาย
    เสียดายท่านอจ.นพลาพักร้อน
    ท่านถนัดเลยแหละ...เรื่องพวกนี้
    (ฝากท่านตรงนี้เลยคร๊าบ)
     
  7. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    พอดีเคยอ่านเจอ...เห็นว่าดี(ดีมาก)
    ....เลยค้นมาให้อ่าน
    (ควรอ่านอย่างยิ่ง)
    แล้วทุกท่าน "จะโอบกอดโลกด้วยความอบอุ่น"
    (ฝากเจ้แอม...เป็นพิเศษ 555)


    ********************************

    เราอยู่ในโลกของพลังงาน ทุกสิ่งทุกอย่าง(แม้แต่วัตถุที่เป็นของแข็ง) ดูเหมือนสงบนิ่ง แต่แท้จริงแล้วมันกำลังสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา หากส่องเข้าไปดูในระดับอะตอม นักวิทยาศาสตร์ได้พบความจริงข้อนี้ แล้วประกาศออกมาเป็นทฤษฎีควอนตัมฟิสิกส์ ซึ่งความจริงนั้น พระพุทธเจ้าทรงค้นพบเรื่องนี้มาเกือบสองพันหกร้อยปีแล้ว และตรัสไว้ผ่านทางหลักธรรมคำสอน ด้วยพุทธพจน์ที่ว่า ทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยง (อนิจจัง) ต้องเปลี่ยนแปลง (ทุกขัง) และไม่มีตัวตน (อนัตตา) สามสภาวะนี้เรียกรวมกันว่า “กฎไตรลักษณ์”

    กฎข้อนี้ในบางส่วน นักจิตวิทยาก็ค้นพบ เขาจึงกล่าวว่า “จิต” เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง พลังงานจะอยู่ในรูปของคลื่นความถี่ ที่สั่นสะเทือนอยู่ตลอด ซึ่งมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่รับรู้และใช้ประโยชน์จากมันได้ เช่น คลื่นโทรศัพท์ คลื่นวิทยุ คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น

    ชีวิตทางกายภาพของมนุษย์ประกอบด้วยส่วนต่างๆ อยู่ ๒ ส่วน คือ

    ๑. ส่วนที่เป็นกายภาพ สามารถสัมผัสจับต้องได้ มองเห็นได้ เรียกว่า “กายเนื้อ” ภาษาธรรมะเรียกว่า “รูป”

    ๒. ส่วนที่เป็นพลังงาน สัมผัสถูกต้องไม่ได้ เรียกว่า “กายใน” เป็นพลังงานเรืองแสง มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น กายในดังกล่าวนี้จะแทรกอยู่ในกายเนื้อ คนโบราณเรียกว่า “กายทิพย์” ทางพระเรียกว่า “นาม” ซึ่งพระพุทธเจ้าทรงอธิบายละเอียดลึกซึ้งลงไปอีกว่า นามนั้นประกอบด้วย ความรู้สึก (เวทนา), ความจำ (สัญญา), ความคิด (สังขาร), การรับรู้ (วิญญาณ)

    ข้อดีของสัจธรรมก็คือ เป็นกฎของธรรมชาติที่ให้ผลเป็นจริง อยู่เหนือกาลเวลา และนำมาปรับใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

    เคยสงสัยไหมว่า ทำไมในชีวิตประจำวัน เราต้องมาพบ มาทำงานร่วมกับคนคนนี้ ซึ่งอาจเป็นเจ้านาย ลูกน้อง แฟน คู่แค้น เพื่อนร่วมงาน หรือใครก็ตาม ทั้งๆที่เราก็ไม่ได้ชอบหน้าเขาสักเท่าไหร่ นั่นก็เพราะเรายังมี “กายใน” ที่เป็นพลังงานสั่นสะเทือนอยู่ในระดับเดียวกับเขา

    “คนที่มีระดับพลังงานเดียวกัน
    จะถูกดึงดูดเข้ามาหากัน”

    เหมือนนกที่มีสายพันธุ์เดียวกัน ก็จะอยู่ในฝูงเดียวกัน บินไปไหนพวกมันก็ไปด้วยกัน บินกันไปเป็นฝูง เราจะไม่เคยเห็นอีกาบินร่วมไปกับหงส์ หรืออีแร้งบินไปกับนกอินทรี นั่นเพราะนกชนิดเดียวกัน มันจะอยู่ในฝูงเดียวกันเท่านั้น

    ฉะนั้น ตราบใดที่พลังงานในตัวเรายังไม่เปลี่ยนระดับความถี่ที่สั่นสะเทือน เราก็จะต้องพบเจอบุคคลเหล่านี้อยู่ร่ำไป และวิธีการสลัดตนให้หลุดพ้นจากคนที่เราไม่ชอบนั้น ไม่ใช่การนินทา และก็ไม่ใช่การพยายามเปลี่ยนคนอื่น แต่เราจะต้องเปลี่ยนตัวเองจากภายในคือ “ระดับพลังงาน” ต้องยกมันให้อยู่ในระดับที่สูงขึ้นไป เหนือกว่าพลังงานของคนที่เราไม่ชอบ โดยเริ่มต้นจากความอยากเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี
    “ความรู้สึก” ถ้าเราหมั่นตรวจสอบความรู้สึก รู้จักฝึกควบคุมอารมณ์ของตัวเอง ให้เป็นคนที่รู้สึกดีได้มากที่สุด ยิ้มแย้มแจ่มใส จิตใจเมตตา ไม่จับกลุ่มนินทา เลิกเสพข่าวร้าย มีความสำนึกรู้คุณต่อทุกสรรพสิ่ง ไปวัด นั่งสมาธิ รักษาศีล ออกกำลังกายอยู่เสมอ ว่ายน้ำ ดูปะการัง อะไรก็ว่าไป

    ในที่สุด เมื่อระดับพลังงานสูงพอ เราก็จะไม่มีทางพบเจอคนเหล่านั้นอีกเลย แต่จะเปลี่ยนไปเจอคนที่มีระดับพลังงานเดียวกันกับเรา ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ นักจิตวิทยาสมัยใหม่บอกว่า เกิดขึ้นเพราะ “พลังจิตใต้สำนึก” ปลดปล่อยพลังงานสั่นสะเทือนออกไปโดยอัตโนมัติอยู่ตลอดเวลา แบบที่เราเองก็ไม่รู้ตัว พวกเขาเรียกมันว่า “กฎแห่งแรงดึงดูด”

    ดังนั้น หากอยากเปลี่ยนโลก ต้องเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน โดยเริ่มต้นจาก “ความอยาก” “ความรู้” และ “ความรู้สึก” แล้วโลกรอบข้างเราก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง สมดังคำสอนเปลี่ยนโลกที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า

    “การไม่ทำบาปทั้งปวง
    การทำกุศลให้ถึงพร้อม
    การทำจิตของตนให้ผ่องแผ้ว
    นี้คือคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย”

    ทาน บอกระดับความมีใจโอบอ้อมอารี ศีล บอกพฤติกรรม กิริยาท่าทางที่แสดงออก สมาธิ บอกระดับความสุขสงบเย็น ปัญญา บอกระดับความรู้ ความเข้าใจต่อโลก และสรรพสิ่ง

    ขอย้ำอีกสักครั้ง “คนที่เสมอกัน จะถูกดึงดูดเข้ามาอยู่ใกล้กัน” ตามระดับคุณธรรมที่เป็นพลังงานสั่นสะเทือนอยู่ตลอดเวลา


    (จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 193 มกราคม 2560
    โดย ทาสโพธิญาณ)
     
  8. เจไดหรือธิส

    เจไดหรือธิส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2017
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +359
    แบบนี้การที่เรา ได้มีเหตุมาพบเจอกัน ได้สนทนากัน ใน กระทู้นี้ก็น่าจะมีเหตุของมัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ พลังงาน หรือ วาระกรรม ก็ตาม...
     
  9. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720

    เคยได้ยินบ่อยๆว่า...
    ทุกสิ่งบนโลกใบนี้ได้ถูกกำหนดไว้แล้ว
    นี่คือ*พรหมลิขิต*
    ไม่ว่าใครต้องพบเจอกัน...ทั้งดี/ร้ายในชาตินี้
    แสดงว่าชาติก่อนต่างฝ่ายเคยมีกรรมร่วมกัน
    บางคนเชื่อเรื่องพรหมลิขิต
    ...แต่บางคนก็ไม่เชื่อ

    เคยได้ยินข่าวคนที่เป็นเพื่อนรักกัน
    เกิดวันเดียวกัน แล้วเสียชีวิตในวันเดียวกัน
    นี่คือความบังเอิญ หรืออะไรกันแน่ ?

    เรื่องแปลกๆแต่จริง
    ได้เกิดขึ้นมากมายบนโลกใบนี้
    เรื่องบางเรื่องวิทยาศาสตร์ก็หาคำตอบให้ได้
    ส่วนตัวก็เคยพบเรื่องบังเอิญที่หาความตอบไม่ได้
    ...ตามกระทู้ที่เคยลงไว้

    ทางพุทธศาสนาเชื่อว่า...
    “ความบังเอิญไม่มีในโลกนี้”
    ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนมีเหตุปัจจัยทั้งสิ้น
    เช่นการได้พบและอยู่ร่วมกัน
    ไม่ว่าคู่ชีวิต หรือบุคคลในครอบครัว
    ญาติมิตร ศัตรู และคนทั่วๆไป
    ต่างมีผล“กรรม”จากอดีตชาติเป็นตัวกำหนด
    ให้มาได้พบเจอ เชื่อมโยงไปมาหาสู่กัน
    เมื่อหมดวาระกรรม...ก็จากกันไป
     
  10. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    "ความบังเอิญไม่มีในโลกนี้"
    ....จะจริงเหรอ

    แล้วภาพนี้ที่บ้านเอง(เมื่อวาน)
    จะอธิบายอย่างใด
    ต้นมะละกออยู่ใกล้ๆกับต้นมะม่วง
    คืนดีวันดี...มันออกลูกมาเหมือนลูกมะม่วง

    ช่วงว่างยามดึกมันคงสื่อภาษารักกัน
    ...คงไม่ได้แอบคบชู้กันนะ...ฮา55

    "ถ้ารสชาติมันเหมือนมะม่วง(อีก)"
    ...คงเป็นเรื่องแปลกดี
    และคงต้องนำไปตรวจ DNA
    เพื่อพิสูจน์ความเป็นบิดา-มารดา
    .....555

    (ไว้ชิมแล้วจะบอกนะคร๊าบ)

    70400.jpg
    ใครๆดูก็บอกว่าเป็นมะม่วง
    บางคนบอกน้ำดอกไม้
    บ้างก็บอกเขียวเสวย
    พอเฉลย.....ฮาแล้วงงเลย


    แค่รูปทรงก็น่าจะบอกได้ว่า

    "ความบังเอิญมี(มี)ในโลกนี้"
    เพราะถ้าไม่บังเอิญมันจะเหมือนกันได้ไง
    .....?????
     
  11. เจไดหรือธิส

    เจไดหรือธิส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2017
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +359
    เมื่อคืน ฝันครับ เอิ้กๆโดนด่าอบรมสั่งสอน หน่อยหนึ่ง หลังจากใจเรายอมรับว่าเป็นจริง ผู้ที่มาสงเคราะห์กลับดูใจดีขึ้นมาซะงั้น เอิ้กๆ ... ว่าแค่ คุณ 9 เคยมีประสบการณ์แนววนี้ไหมคับ มาโม้ให้ฟังหน่อย...
     
  12. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    (เจได)
    ".....ว่าแต่ คุณ 9 เคยมีประสบการณ์แนวนี้ไหมคับ
    มาโม้ให้ฟังหน่อย....."



    555....เวลาโดนผู้ใหญ่ พ่อแม่อบรมสั่งสอน
    ...ผ่านไปแล้วมักจำไม่ได้
    แรกอาจขุ่นมัวใจ..แต่สุดท้ายสุขใจดี
    เหตุหนึ่งเพราะเป็นเด็กดื้อ...ในบางครั้ง
    ...ดื้อแบบกุกกิ๊ก...แซมอ่อนน้อม

    แต่เท่าที่จำได้ชีวิตจริงในวัยแรกรุ่น15 16
    แทบไม่เคยพูดย้อนใส่พ่อแม่เลย
    ...แต่ตอนก่อนวัยแรกรุ่น
    ประมาณ 8 9 10 ขวบจำไม่ได้แร้ววว์

    ขอพูดกว้างๆซะนิดหน่อย
    ...พอหอมปากหอมคอ..โม้ไปตามฝัน

    การดำเนินชีวิตบางครั้งมันไม่ง่ายเลย
    เมื่อเรารู้ว่า อะไรผิด การถูกติติงว่ากล่าว
    หรืออบรมสั่งสอนจากผู้ใหญ่ หรือพ่อแม่
    สุดท้ายเรายอมรับความผิด
    ผู้ใหญ่หรือพ่อแม่
    หรือผู้ที่มาสงเคราะห์
    ย่อมสบายใจ และแอบดีใจ
    แต่ถ้าเราเลือกที่จะแสดงออกตรงข้าม
    คือไม่พอใจ โกรธ โต้เถียง
    เรื่องราวก็อาจจบลงไม่สวย

    แม้อยู่ในระหว่างฝัน
    เวลาตื่น...ยังรู้สึกเหนื่อยและเพลียใจ
    ....ไม่ค่อยสดชื่นเลย...ใช่ไหม

    555...ความฝันกับชีวิตจริง
    แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
    แต่บางครั้งความฝันก็สะท้อนบางอย่างในชีวิต
     
  13. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    พระคาถาชั้นสูง ศักดิ์สิทธิ์มาก เรื่องร้ายๆกลับกลายเป็นดี พระคาถามหาจักรพรรดิ "หลวงปู่ดู่"ช่วยให้โชคชะตาดีขึ้น ปรับภพภูมิเจ้ากรรมนายเวร..
    Publish 2018-06-28 19:59:38

    คาถามหาจักรพรรดิ เป็นพระคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์มาก และถือว่ามีพลังครอบจักรวาล ทั้งทำให้ชะตาชีวิตดีขึ้น ปฏิบัติธรรมได้เร็วขึ้น เป็นการเพิ่มบุญให้กับตัวเอง ทั้งยังเคล็ดในการปรับภพภูมิให้ผู้ที่ล่วงลับและเจ้ากรรมนายเวร คาถามหาจักรพรรดิ เป็นพระคาถาที่ได้แรงบันดาลใจมาจาก “ชมพูปติสูตร” ในตอนที่พระพุทธเจ้าทรงเนรมิตพระองค์เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเพื่อกำราบทิฐิพญา ชมพูบดีพระมหากษัตริย์ผู้มากด้วยอิทธิฤทธิ์ โดยผู้ที่รจนาพระคาถาบทนี้ขึ้นมาก็คือ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก จ.อยุธยา



    20076982611.jpg

    พระมหาจักรพรรดิ

    พระผู้เป็นดั่งร่มโพธิ์แก้วที่แผ่กิ่งก้านใบบุญบารมีมอบความร่มเย็นเป็นสุข ให้แก่ลูกศิษย์ทั่วทุกชนชั้นอย่างไม่มีประมาณตามแนวทางแห่งพระศรีอาริยเมตไตรย์โพธิสัตว์และหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งพระคาถานี้เป็นพระคาถาหลักที่หลวงปู่ดู่ใช้ในการรวมบารมีแผ่เมตตาช่วย เหลือภพภูมิทั้งหลายทั่วสามแดนโลกธาตุ และใช้ในการอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องทุกชนิดของท่าน โดยท่านได้ถ่ายทอดความรู้ทั้งหลาย รวมทั้งพระคาถามหาจักรพรรดินี้ ไว้ให้แก่ลูกศิษย์ผู้เป็นหน่อโพธิ์แก้วต้นใหม่ที่จะทำหน้าที่สร้างความร่ม เย็นเป็นสุขให้แก่ลูกศิษย์ในรุ่นหลังต่อไปก็คือ พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร หรือ หลวงตาม้า แห่งวัดถ้ำเมืองนะ นั่นเอง



    14354918_340080402993293_5900198181582764725_n.jpg

    พระมหาจักรพรรดิ

    การจะปรับภพภูมิได้ต้องอาศัยกำลังบุญที่เราได้สร้างบุญมา ได้ทำการอธิษฐานและเชื่อมบุญให้แก่เจ้ากรรมนายเวรไปให้ตามเงื่อนไข 3 ประการคือ มีความสม่ำเสมอ มากพอ และนานพอแล้วจึงสวดคาถาพระจักรพรรดิ พระจักรพรรดินั้นเป็นพระปางหนึ่งของพระพุทธเจ้า ที่ครั้งหนึ่งพระองค์ทรงเนรมิตพระรูปของพระองค์เองเป็น พระจักรพรรดิที่ใหญ่กว่ากษัตริย์ทั้งปวงเพื่อปราบมาร หากเป็นในยุคปัจจุบันก็คือพระพุทธรูปปางทรงเครื่องที่รู้จักกันดีก็คือ พระประธานที่หน้าวัดพระเมรุ จ.อยุธยา



    441111111(1).jpg

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ


    คาถาพระจักรพรรดิ นั้นเป็นคาถาที่รวมพุทธคุณครอบจักรวาลที่มีพลานุภาพมาก ช่วยปรับในเรื่องต่างๆ จากร้ายให้กลับกลายมาเป็นดี หรือจากเรื่องที่ดีอยู่แล้วก็จะยิ่งทำให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป เป็นการสวดแผ่เมตตาให้ดวงจิตวิญญาณและเจ้ากรรมนายเวรทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิตทั้งหลายที่อยู่รอบๆ ตัวเรา เพื่อปรับภพภูมิต่างๆ ให้เขาสูงขึ้นไม่ต้องทนทุกข์ทรมานไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตามในบริเวณบ้าน ตามถนน ตลาด หรือที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆก็สามารถทำให้เขาเหล่านั้นได้ทั้งสิ้น


    -21.jpg

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    หากเราไปอยู่ ณ ที่แห่งใดก็ตาม หากต้องการเชื่อมบุญเพื่อการปรับภพปรับภูมิส่งวิญญาณแก้ภพภูมิในบริเวณนั้น ก็ให้กำหนดจิตแล้วสวดบทคาถาพระจักรพรรดิแล้วน้อมแผ่ออกไปจะเป็นการส่งวิญญาณภพภูมิแถวนั้น โดยวิชานี้เราสามารถจะทำได้ แม้ยังเราจะยังไม่มีตาทิพย์ดังเช่นพระอริยสงฆ์ ไม่อาจเห็นรูปกายของ เหล่าโอปปาติกะที่อยู่ต่างภพภูมิก็ตาม ขอเพียงแค่จิตเรามีความใสสะอาดมากพอ และน้อมจิตนั้นไปด้วยความเป็นบุญเมตตาและหวังดีต่อเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย


    download(1).jpg

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    การแผ่บุญครอบบุญนี้สามารถใช้กับคนที่เรามีความปรารถนาหวังดีได้ด้วยหรือแม้กระทั่งกับศัตรู ที่เราจะเปลี่ยนให้เขาเปลี่ยนกลับกลายมาเป็นมิตรก็ได้เช่นกัน ขอให้นึกถึงความดีของพระพุทธเจ้าไว้เป็นการทำใจให้ทรงอยู่ในคุณงาม ความดี มีพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุติทา อุเบกขา เป็นที่พึ่งการไม่ถือโกรธผู้ใดมีแต่ความหวังดีเป็นการทำใจให้สว่างเมื่อใจเราสว่างฉันใดย่อมกลบความมืดได้ฉันนั้น


    100235_20121108-091428_1.jpg

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ


    วิธีการสวดมหาจักรพรรดิเพื่อปรับภพภูมิ

    ***สำหรับท่านที่ไม่มีพระผงจักรพรรดิ ขอให้ทำจิตน้อมรำลึกถึงพระพุทธรูปปางพระจักรพรรดิหรือพระพุทธรูปทรงเครื่องและเริ่มสวดคาถา



    6356461373157100001(1).jpg

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ 3 จบ

    (กราบ 3 ครั้ง แล้วสวดคาถามหาจักรพรรดิตามกำลังของผู้ที่เกิดในแต่ละวันดังนี้ คือ อาทิตย์ 6 จันทร์ 15 อังคาร 8 พุธ 17 พฤหัส 19 ศุกร์ 21 และเสาร์ 10)



    b_0_0_0_10_images_images_amulet_109.jpg

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    คาถามหาจักรพรรดิ

    นะโมพุทธายะ พระพุทธะ ไตรรัตนะญาณ มณีนพรัตน์ สีสะหัสสะ สุธรรมา พุทโธ ธัมโม สังโฆ ยะธาพุทโมนะ พุทธะบูชา ธัมมะบูชา สังฆะบูชา อัคคีทานัง วะรังคันธัง สีวลี จะมหาเถรัง อะหังวันทามิ ทูระโต อะหังวันทามิ ธาตุโย อะหังวันทามิ สัพพะโส พุทธะ ธัมมะ สังฆะ ปูเชมิ


    ขอสิ่งที่ข้าพเจ้าอธิษฐาน จงศักดิ์สิทธิ์สำเร็จเป็นจริงโดยฉับพลันทันใจทุกประการ


    payslip_20100111103848.jpg

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    อิมัง สัจจะวานัง อธิษฐามิ พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ

    หลังจากนั้นก็ให้เชิญพระเข้าตัว แผ่บุญปรับภพภูมิส่งวิญญาณด้วย บทสวดว่า

    สัพเพพุทธา สัพเพธัมมา สัพเพสังฆา พะลัปปัตตา ปัจเจกานัญ จะยังพลัง


    อรหันตานัญ จะ เตเชนะรักขัง พันธามิ สัพพะโส (ว่า 5 จบ)

    แล้วกล่าวว่า พุทธัง อธิษฐามิ ธัมมัง อธิษฐามิ สังฆัง อธิษฐามิ ให้อธิษฐานจิตแผ่เมตตาออกไปให้กับดวงจิตวิญญาณเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จะระบุสถานที่ด้วยก็ได้




    ขอขอบคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาข้อมูล

    ที่มา http://horoscope.sanook.com

    เพื่อเผยแผ่เป็นธรรมทาน


    สำนักข่าวทีนิวส์
    เรียบเรียงโดย
    ศักดิ์ศรี บุญรังศรี
     
  14. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,773
    อาจารย์9 หมูฝันน่ากลัวมากเลย
    ฝันถึงผีปอบ ทั้งคืน ผีฟ้าผีปอบ
    ฝันว่าเขาให้เลือกได้แล้ว
    เขาบอกเจนเป็นเหมือนทายาทโดยธรรม
    เจนหนี ตลอดคืนในฝัน
    แต่ว่ามีสิ่งหนึ่งมาช่วยไว้ เป็นมีดเหมือนกริช
    ด้ามจับน่าจะเป็นงาช้าง
    ส่วนของกริช ออกหยักๆ นิดๆ
    แถมกริช ลอยได้ด้วย โอ้ยยย
    น่ากลัว คนทั้งหมู่บ้าน เป็นผีหมด
     
  15. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720

    โบราณว่าใครฝันถึงผี
    จะมีโชคลาภด้านการเงิน


    ...แต่ขณะเดียวกันถูกผีไล่ล่า
    ...เขาว่าไม่ดี
    ให้ทำบุญ-กรวดน้ำในช่วงนี้

    สรุปคือจะมีโชคมีลาภ
    และให้ทำบุญด้วย

    555....งงไหม
     
  16. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 149 ลำดับที่ #2973

    ป็นข้อสงสัยของ*เจน*
    คือมีอาการ หนาวเข้ากระดูก
    แล้วจะเกิดอาการสั่นสะบั้นเข้ากระดูก
    สั่นแบบปากสั่นตัวขด อาการนี้เคยเป็นมาตั้งแต่เด็กๆ
    บางคนบอก เพราะมีลูกแล้วผิดกรรม อยู่ไฟไม่ครบ
    แต่เจนเป็นตั้งแต่เด็กๆ เลย การอยู่ไฟไม่ครบ คงไม่เกี่ยว


    [QUOTE="nopphakan, post:
    อาการหนาวสั่นจนสุดขั้วกระดูกนั้น
    เป็นกิริยาเชิงเตือนเฉยๆ แต่ถือว่าเตือนแบบดีครับ
    ถามว่าเค้าทำได้อย่างไร
    ก็ทำด้วยการเปิดการรับรู้ของเราบริเวณฝ่าเท้า
    ให้ขึ้นไปบนศรีษะแบบอยู่ใกล้ๆกับเทพเทวดา
    ประจำตัวเรา เอาว่าเทพเทวดาประจำตัว
    ท่านรู้และดูอยู่....

    หรือการอาจจะเผลอโดนความเย็นมากไป
    อาการโดนความเย็นมากไปส่วนตัวเป็นบ่อย
    ถ้าเผลอนอนหลับแบบไม่ห่มผ้า

    ถ้ากรณีถูกผีเข้าหรือถูกวิญญานภายนอกมาสิง
    หรือถูกของ หรือ ของเข้านั้น หรือเป็นการสืบเชื้อมาก็ตาม
    กิริยาทางร่างกายจะควบคุมไม่ได้เลย
    เรียกว่า ร้องเสียงหลง ในกรณีที่คนไม่เคยฝึกอะไรมา
    และถ้าพอมีอะไรบ้าง(อาจจะถูกหลอกให้กินอะไรเข้าไป)
    จะไม่มีอาการทางกาย

    แต่ที่แน่ๆคือว่า
    มันจะต้องปวดศรีษะร่วมด้วย
    แต่เป็นการปวดจากแก่นสมอง
    คือปวดออกมาจากใต้กระโหลกเรา
    ชนิดที่ว่า มีน้ำตาซึม หรือปวดจนสลบ ทานยาไม่หายและ
    ไม่ใช่แบบไมเกรนที่ปวดข้างเดียว
    หรือปวดแบบทั่วไป ที่ปวดภายนอกทั่วศรีษะ
    พวกนี้ ถ้าถึงโรงพยาบาล ต้องฉีดยา
    ให้หลับเข้าเส้นเลือดกรณีเดียวเพื่อบรรเทา........
    แต่ในเวลาทั่วไป ถ้าไม่เป็นก็จะไม่เป็นอะไรเลย....

    กรณีบางคนที่หลอกให้รับขันธ์มา
    จะมีอาการประสาทตาหลอนเห็นโน้นนั้นนี่
    บางทีก็คิดว่า ตนเองถูกจับโยนให้ลอยก็มี.....
    แต่ถ้ากรณีสืบเชื้อแบบไม่รู้ตัว
    จะป่วยเป็นโรคอย่างอื่นๆร่วมด้วย
    แบบที่หมอแผนปัจจุบันหาไม่พบ
    เพราะเวลาไปตรวจที่ไรหายทุกที
    ...ประมาณนี้
     
  17. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,887
    ค่าพลัง:
    +4,720
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 149 ลำดับที่ #2979

    เป็นเรื่องเล่ากึ่งคำถามจากหนุ่มโชคชัย(ยาวครับ)
    ...แต่เห็นว่าน่าสนใจจึงลงให้อ่านเต็มๆ
    คนตอบอย่างอาจารย์นพก็สนองตามเจตนา
    คือตอบยาวๆๆๆเหมียนกัลล์
    *ผมเลยสบโอกาสหยุดพักร้อนไปธุระต่างถิ่นสัก 5-6วัน*

    (หนุ่มโชคชัย)
    พูดเรื่องหนาวจนสุดขั้วหัวใจ ผมเคยมีอาการแบบนี้ครั้งนึงนานมาแล้ว ตอนแรกผมมีอาการไข้นิดๆ ก็ไปซื้อยาชุดจากร้านหมอตี๋มากิน แล้วนอนหลับ พอประมาณซัก 4-5 ทุ่ม ก็มีอาการหนาวมากๆจากข้างใน ห่มผ้ากี่ผืนกี่ผืนก็ไม่หาย ผมก็นึกว่าแพ้ยาแก้ไข้ เลยให้น้องตามพี่ข้างบ้านที่ เขามีรถยนต์ ให้พาไป รพ.ศิริราช แต่ต้องเดินออกมาขึ้นรถข้างนอกไกลพอสมควร เดินแทบไม่ไหว มันสั่นไปหมด

    จนไปถึงโรงพยาบาล ตอนนอนบนรถเข็น ก็มีอาการเย็นจนชาจากปลายเท้าขึ้นมาเรื่อยๆ ผมรู้สึกเหมือนว่าจะตาย เลยมองหน้าน้องชายแล้วนึกในใจ พี่ลาก่อน แล้วนึกถึงลูกชายที่ยังเด็ก แล้วใครจะเลี้ยงลูกแฟนก็ไม่มีงานทำ ก็เคยคิดว่า เรายังตายไม่ได้ ก็เกิดอาการร้อนวูบๆ ตีกลับลงไปจนสุดปลายเท้า จนรู้สึกอุ่นๆ เลยคิดว่า เราไม่ตายแล้ว นอนอยู่ รพ. 3-4 วัน หมอก็หาสาเหตุไม่เจอ ตรวจเลือดก็ไม่มีอะไรผิดปกติ ให้น้ำเกลือจนแข็งแรง ก็ให้กลับบ้านได้ ผมก็คิดแต่ว่าแพ้ยา

    หลายวันผ่านไป พี่สาวจากโคราช มาเยี่ยมเลยเล่าให้ฟัง พี่สาวเลยเอาวัน เดือน ปี ไปให้หมอทรงที่บ้านดู แล้วรีบเขียนจดหมายมาบอกอย่างไว ให้รีบกลับไปบ้านด่วน ที่มีอาการป่วย ทั้งหลาย เกิดจากการมาเตือนของเจ้าที่ ที่ผมกำลังจะปลูกบ้าน แล้วเอาดินไปถมทับศาลเดิม โดยไม่ได้บอกกล่าวครับ หมอทรงบอกว่า เจ้าที่เห็นว่าเราเป็นคนดี ก็เลยมาเตือน แต่เราก็สื่อความหมายของท่านไม่ได้ เลยป่วยออดๆแอดๆ สามวันดี สี่วันไข้ซะ ห้า หกเดือนเต็มๆ หากเตือนแล้วยังไม่ฟัง ก็อาจเล่นงานจนถึงชีวิตครับ จนหมอทรงมาช่วยทำพีธี ตั้งศาลให้ อาการป่วยไข้ หายเป็นปลิดทิ้งเลยครับ นอกจากนี้ผมยังสอบเลื่อนยศได้ แฟนก็สอบเข้ารับราชการได้ด้วยครับ


    [QUOTE="nopphakan, post:]
    ทางโลกเจ้าของบ้านเจ้าของที่ดิน
    คือผู้ที่มีรายชื่อบนโฉนดและมีรายชื่อ
    เป็นผู้ครอบครอง....หรือผู้ที่อยู่อาศัยประจำ...
    รู้กันเป็นสากล....

    แต่ที่ดินที่เราเข้าไปสร้างสิ่งปลูกสร้างเพื่อ
    อยู่อาศัยหรือทำการค้านั้น เมื่อก่อนเคยเป็น
    อะไรมา เคยมีใครครอบครองมาก่อนนั่นหละ
    ที่เรามักไม่ค่อยรู้ และจะส่งผลให้เกิด
    เรื่องเหนือธรรมชาติแบบนี้ได้

    เรื่องแบบนี้ จะว่าไป ก็พูดให้เป็นสากลยาก
    เอาว่าถ้าไม่เจอกับตัวเอง ก็คงไม่เข้าใจจริงๆ...

    ส่วนการเตือนก็มีหลายแบบ
    อาการแบบหนาวสุดขั้วกระดูกหรือหัวใจนี่ก็
    วิธีการหนึ่งทั่วไป

    แต่ถ้าอยู่อาศัยแล้ว คนในบ้านหรือตัวเรา
    ป่วยบ่อยๆ เป็นๆหายๆ
    หรือ มีเหตุทะเลาะเบาะแว้งกัน
    แบบเรื่องไม่เป็นเรื่องบ่อยๆ
    มีเหตุข้าวของเสียหายชำรุดบ่อยๆ ตกเองบ้าง
    แตกหักง่ายๆบ้าง....
    หรือ มีของหายเล็กๆน้อยๆบ่อยๆแบบหาไม่เจอ
    แล้วค่อยมาเจอภายหลัง. อะไรแบบนี้
    ให้พึ่งระลึกเอาไว้ว่า อาจจะมีอะไรแปลกๆแระ

    ส่วนอาการทางกายพวกนี้ สมมุติว่า เจอการรักษาแบบพิเศษ
    จะไม่หายด้วยนะครับ
    ....เพราะถือว่าเป็นกรณีวิบากเฉพาะบุคคล
    และก็ประมาณ คนทรง ร่างทรง หมอธรรม
    หมอเชื้อ หรือ พระฯบางท่าน ที่เข้าถึงแบบนี้
    นั่นหละที่จะบอกวิธีแก้ได้

    อย่างที่บนเขาที่ ทางแม่บ้านไปซื้อไว้
    แล้วให้แม่ยายไปอยู่กับช่างตอนนี้
    ไม่มีศาลอะไรนะครับ...
    แต่อยู่ดีๆ แม่ยาย ดันเกิดปวดขาข้างเดียวช่วงต่ำกว่าหัวเข่า
    ขึ้นมาเฉยๆ ไปนวด ไปรักษาทานยา ฝั่งเข็มยังไงก็ไม่หาย
    ส่วนตัวก็เคยดู แต่ก็ไม่หาย ยังเป็นเหมือนเดิม

    สุดท้ายเจ้าที่ ไปเข้าฝันคนแถวนั้นให้มาบอก
    ว่าอยากได้ศาลไม้ ให้ตั้งให้หน่อย
    และอยากสูบฝิ่นหรือกัญชา นี่หละจำไม่ได้
    พอนึกออกเนาะ มันเป็นเขตภาคเหนือเก่า

    ก็เลยต้องได้ไปทำศาลไม้ไม่ใหญ่มากให้
    และก็ไปหา สิ่งที่อยากสูบ
    จากกลุ่มพี่น้องชาวไทยภูเขามาถวาย
    อย่างว่า ไม่เชื่อ ไม่หลบหลู่
    ถือว่า เป็นการปรับตัวเพื่ออยู่อาศัยร่วมกัน

    อย่างที่บอก พอทำเสร็จถวายเสร็จ
    อาการที่ปวดขาช่วงต่ำกว่าหัวเข่า
    มันก็หายไปเลย แบบเหมือนกับว่า
    ไม่เคยเป็นมาก่อน จนถึงทุกวันนี้นี่หละครับ.......

    ที่ตรงนี้ ตอนที่ขุดบ่อบาดาลยังไม่เสร็จ
    จนเลยไปถึงช่วงหัวค่ำ แล้วปรากฏว่า
    ยังขุดไม่เสร็จเพราะน้ำมันหมดพอดี
    เครื่องขุดจะใช้น้ำมันประมาณ ๕ ลิตรและ
    ปั๊มนำนั้นใกล้สุดตอนนั้น ประมาณ ๑๐ กิโลเมตรได้

    เคยมี บุคคล ลึกลับ ที่ทุกวันนี้
    ข้างบ้าน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ คนที่อยู่แถวนั้น
    ทุกวันนี้ ยังไม่ทราบว่า คนบุคคลิกแบบนี้เป็นใคร
    (แต่ส่วนตัวพอทราบ)
    อยู่ดีๆก็เดินถือถังน้ำมันมาให้ จำนวนเท่าที่
    ต้องการจะใช้ในเวลานั้นพอดี
    เดินฝ่าความมืดเข้ามาหาช่าง
    แล้วก็เอาถังน้ำมันมาให้เฉยๆ
    ยังไม่คิดสตางค์อะไรด้วย....

    ช่างก็ไม่เอะใจอะไรในตอนแรก
    ก็รับไว้ แล้วก็รีบขุดต่อ จนเจอระดับน้ำบาดาล
    หลังจากวันนั้น แล้วค่อยมานึกย้อนภายหลัง
    ว่าเป็นใคร เพื่อที่จะจ่ายค่าน้ำมันให้
    แต่ทุกวันนี้ แถวนั้นก็ยังไม่มีใครรู้ว่าเป็นใคร
    ผู้ใหญ่บ้าน ก็บอกว่า ไม่เคยเห็นคนบุคคลิกแบบนี้
    อาศัยในบริเวณนี้เช่นกัน

    เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อน ที่จะปวดขา......

    ถือว่าเป็นนิทาน
    เรื่องที่อยู่อาศัยก็แล้วกัน...

    อนาคต ถ้ามีโอกาสเป็นเจ้าของที่ดินของตัวเองบ้าง
    ไม่แน่ก็อาจจะเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้เช่นกัน

    แต่กรณีไปนอนที่ไหน แล้วเจ้าที่มาให้เห็นก่อน
    หรือออกมาทัก แวะมาหา หรือพวกที่อยู่บริเวณนั้น
    ออกมาให้เห็น. สำหรับส่วนตัวถือว่าเป็นเรื่องปกติ


    บางทีก็มานึกแก้ปัญหาแบบนี้ด้วยการ
    เปิดไฟนอนดีกว่า และดูโน้นนี่นั้นไปเรื่อยจนหลับ ๕๕๕
    นึกแล้วก็ขำดี...
    คือ การเปิดไฟ ก็พอช่วยได้
    แต่ไม่ใช่ทุกกรณีหรอกนะ ๕๕ คือเป็นวิธีที่คิดเอาไงว่าได้ผล...๕๕

    อย่างไปปีใหม่ วัดพระครูปลัดจิตไว
    สถานที่นอนก็ว่า ดีแล้วนะ
    คืนที่ ๒ ลองปิดไฟนอนดู เพราะรู้สึกว่าแสงแยงตา

    พอปิดไฟเท่านั้นหละ แค่หลับตาลง
    เท่านั้นหละ มาเพียบ ไม่รู้ใครเป็นใคร
    ทั้ง ญ ทั้ง ช ทั้งที่แปลกๆคือ การแต่งตัว
    เครื่องทรง อาวุธที่มี ไม่ใช่เหมือนคนเดินดินปกติ
    และไม่แปลกก็คือ ดูโดยรวมๆก็คล้ายคน...
    แล้วแต่ว่าจะ ปรากฏแบบไหน บ้างก็อยู่นิ่งๆ
    บ้างก็ชอบลอยมา บ้างก็เอียงตัวลงมาได้เกือบติดพื้น
    ทั้งตัวแต่ว่าเค้าไม่ล้มนะ...บ้างก็ชอบลอยอยู่บนเพดาน
    ก็แล้วแต่ว่า จะปรากฏแบบไหนให้เห็น ก็ตามอัธยาศัยแล้วกัน

    ไหนๆคงเลี่ยงไม่พ้นแระ ก็ตีเนียนเลยแล้วกันตรู...
    ส่วนตัวก็เลยแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วยการ ทักทาย
    ประหนึ่งว่า เคยรู้จักกันมาก่อน

    เช่น เอ๊าสวัสดีครับ บางเคสก็ยกมือทักทายก็มีเหมือนเพื่อนกัน
    บ้างก็ถามไป อยู่แถวนี้มานานแล้วหรือ ?
    เอ๊าเป็นใครหรือครับ?. ทำอะไรอยู่?
    สบายดีไหม? ๕๕๕๕๕ เรียกว่า ตีเนียนป่านว่ารู้จักกัน
    เพื่อให้เค้างงกันเล่นๆ ว่าเอ๊า !
    มารู้จักกับตรูตอนไหนวะ ๕๕๕.......
    แต่ก็ไม่มีใครตอบหรอกนะ แต่เนียนๆทักทายไว้ก่อน...
    (แต่ต้องไม่ลืมอุทิศบุญไว้ก่อนทุกเคสนะ)

    พอหลังจากเหตุการณ์ตีเนียนแล้ว
    ก็จะหลับสบาย หลับลึก สบายใจเฉิบ...

    นึกแล้วขำดี จะลองเอาวิธีนี้ไปใช้ก็ได้นะ
    ไม่สงวนลิขสิทธิ์ ๕๕๕๕๕๕

    จบเรื่องโม้แระ...

    ปล. ปีหมู ให้เรามาดูพฤติกรรมของหมู
    ว่าปกติหมู กระทำตัวอย่างไร
    อะไรที่เรามองเห็น ที่ไม่ควรที่หมูกระทำ
    ก็ให้เราระวังอย่าไปทำตาม
    แบบที่หมูกระทำ นั่นหละ นัยยะทางการปฏิบัติ
    ตามแนวที่ ได้มีการแฝงไว้ ในรูปของนักษักตร์
    ตั้งแต่สมัยพุทธกาลนั่นแล......

    ไม่ใช่พากันแปลงร่างเป็นหมูนะจะ
    อันนี้ จะฮาเกิ๊นไป ๕๕๕

    หลวงปู่ ที่เรานำมาลงกัน
    ท่านจะมีอีกพระวรกายหนึ่ง
    คล้ายพระพุทธรูป เป็นสีทอง เป็นรูปยืน
    เอกลักษณ์คือ พระวรกาย. และพระพักษ์
    ท่านจะเพียวบาง
    ดูร่างเล็ก และยืนบนดอกบัว
    เข้าใจว่า ถ้าปรากฏในกายแบบนี้
    คนจะไม่ทราบว่าท่านเป็นใครแน่นอน
    เวลาท่านเสด็จลงมา ยังรูปแทนขนาดใหญ่นั้น
    ท่านจะลอยมาจากข้างบนทางด้านขวาด้านบน
    ลอยมาแบบโค้งๆหน่อย

    ส่วนรูปปั้นพระใหญ่ๆ ที่มีชื่อเรียกเฉพาะ
    ท่านจะปรากฏในลักษณะแบบนั้นเลย สีนั้นด้วย
    เพราะง่ายในการจำได้....
    มักจะลอยไปลอยมา บริเวณที่รูปปั้นท่านสถิตย์นั่นหละ
    แต่เวลาที่ลอยบริเวณนั้น จะไม่ปรากฏดอกบัว

    บางท่านที่เป็นระดับพุทธฯบางองค์ เวลาเสด็จมา
    บางทีก็เหยียบภูเขาลงมาเลยก็มี.....

    พวกนี้เป็นเรื่องเล่าให้ฟังเป็นนิทาน
    เอาไว้ มีประสบการณ์ จะเข้าใจ
    ด้วยตนเอง ได้เองในอนาคต..... ^_^
     
  18. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,223
    ค่าพลัง:
    +10,118
    เรียกตะขอสับช้างรึเปล่าน้องเจน
     
  19. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,773
    หมูก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะพี่เอก
    แต่ว่า เหมือนมีดสั้น ที่ด้ามจับเป็นสีขาวงาช้าง
    ปลายมีจะหยังๆนิดๆ คล้ายๆกริช
    แต่เจนกลัวมากเลยค่ะในฝัน
    เพราะมีการบูชายัน เอาคนมาปาดคอ
    เจนเลยวิ่งเอาไปช่วยคนที่กำลังจะถูกบูชายัน
    ร้องไห้หนักด้วยในฝัน
    เป็นหลุมใหญ่ที่เอาคนลงไปบูชา
     
  20. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,223
    ค่าพลัง:
    +10,118
    ฝันร้ายกลายเป็นดี สวดยันทุนแก้ฝันร้ายนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...