กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ขออนุญาตทายนะครับ "สีม่วง"

 

สีแดง ฮาฟฟฟ 5555

 

สีขาว

 

ขอทาย สีเหลือง ครับ

 

มีคนทายถูก. ^_^


อื่นๆถือว่าใกล้เคียง Thx

เน้นบันเทิง

 

อ้าว มาช้า พลาดเลย

 

วันนี้ ปัญหาค่าน้ำมา 2พันกว่า ลมจับ
จากจะพักผ่อน กลายเป็นว่าเร่งไปที่การปะปา
สอบถามรายละเอียด การแก้ปัญหา
ได้ใจความมาคะว่า เป็นที่ท่อภายในบ้าน
เพราะเปิดมิเตอร์ แต่ปิดก๊อกน้ำทุกตัวในบ้าน
ยังหมุนติ้วๆ อยู่คะ ตายๆๆๆๆ ค่าน้ำ2พัน ลมจับสลบคาที่

ซวยรับปีใหม่จริงๆ ปีชง 100 % อีกด้วยคะ

 

ก่อนถึงพุทธอุทยานลป.ทวด 1 กม.
ซ้ายมือจะเป็นวัดศิมาลัยทรงธรรม
เป็นวัดที่มีการรวมศิลปะ ประติมากรรมจากหลายประเทศ
ทั้งอินเดีย ศรีลังกา ขอม ทิเบต
แวะเข้าไปทำบุญ เดินชมถ้ำพญานาคและอื่นๆ
ได้ทั้งบุญกุศล และเพลิดเพลินใจ

ส่วนรูปนี่...ที่เฮียหนุ่มถ่ายไว้
ก้อนเมฆสวยและแปลกตาดี
ขออนุญาตเซฟเก็บไว้
เพื่อส่งต่อให้ท่านปธ.ธีร์ ครับ

 

"สีขาว"

Wow ! โชคดีรับปีหมู
ลป.ทวด...ท่านทรงประทานให้จริงๆ

กราบขอบพระคุณครับผม

 

ค่าน้ำ ๒ พันกว่าบาท แสดงว่า มีการใช้น้ำไป
ปริมาณไม่ต่ำว่า ๒๐๐ ลูกบาศก์เมตร นึกภาพตาม
กว้างเมตร สูงเมตร ยาวเมตร นั่นหละ คือ ๑ ลูกบาศก์เมตร
นี่มันปริมาณการใช้น้ำระดับโรงแรมใหญ่แล้ว....

ปกติค่าเชพการใช้น้ำ ต่อคน ประมาณ ๒๐๐ ลิตรต่อวัน
นั้นหมายความว่า ๑ ลูกบาศก์เมตร ต่อ คน ต่อ ๕ วัน
เดือนหนึ่ง ต่อ คนก็ ๖ ลูกบาศก์เมตร จะเสียค่าน้ำประมาณ ๖๐ บาท
ดังนั้น ถ้าสมมุติมี ๕ คนค่าน้ำจะอยู่ประมาณ ๓๐๐ บาทต่อเดือน ประมาณนี้
ที่เขียนคือ แบบเผื่อเยอะแล้วนะ ปกติที่ใช้ออกแบบจะประมาณ
๑๕๐ ลิตรต่อคนต่อวันเท่านั้น....เพื่อคำณวนปริมาณการใช้น้ำ
ของผู้อยู่อาศัย ปริมาณนี้รวมทั้งใช้น้ำทำกิจกรรมอื่นๆด้วยแล้ว....

วิธีแก้ปัญหาดีสุด คือ ให้เดินระบบท่อที่ต่อจากมิเตอร์ใหม่
ด้วยการเดินเป็นช่วงๆ ในขณะที่เดินใหม่เป็นช่วงๆนี้ ปิดเปิดมิเตอร์ดู
ถ้าปิดก๊อกทั้งหมดแล้วมิเตอร์ยังวิ่งอีก ก็เดินท่อช่วงต่อไปใหม่เพิ่มขึ้นอีก..
จะค่อยๆพบได้เองว่า ระบบท่อภายในช่วงไหนที่มีปัญหา
เมื่อเดินท่อช่วงนั้นแล้ว ลองปิดก๊อกแล้วมิเตอร์ไม่หมุน ก็คือจบ

ไม่งั้นต้องได้ทุบแล้วรื้อ ซึ่งค่าให้จ่ายจะบานปลาย..
แม้ว่าจะไม่สวย แต่วางให้เรียบร้อยพอแก้ได้ จะแก้ปัญหาได้ง่ายกว่า....
ไม่งั้นอนาคตจะเสี่ยงต่อ การซึมของน้ำผ่านชั้นต่างๆที่เป็นส่วน
ของโครงสร้าง และการยุบตัวของฐานต่อม่ออาคารได้...
เนื่องจากปริมาณน้ำที่รั่วไหลผ่านเซาะนำพาดิน
ที่อยู่ใต้ชั้นฐานตอม่อ ที่นี้หละ
ค่าซ่อมพอๆกับซื้ออาคารหลังใหม่....
การจะดีดอาคารอะไรพวกนี้
มีแต่ วิศวกรระดับ วย.หรือระดับสูงสุด
ของสายอาชีพ่วิศวกรเท่านั้น
ที่จะมีสิทธิทำได้แบบถูกกฏหมาย
และถูกตามจรรยาบรรณวิชาชีพด้วยนะ......

ปล. ลองสังเกตุตามพนัง พื้นต่างๆดู ว่าพบรอยซึมอะไรไหม
หรือที่บริเวณไหน จับดูแล้วรู้สึกว่ามันมีความเย็นมากกว่าปกติ
เมื่อเทียบกับบริเวณที่ใกล้เคียง..
ถ้าไม่พบ ก็เป็นไปได้ว่า จะเป็นที่ท่อเมนหลัก
ที่ต่อออกจากตัวมิเตอร์ ถ้าเป็นส่วนนี้ ถือว่าปัญหาเล็กน้อย...

 

อันนี้อยากเล่าประสบการณ์หมอเทวดาให้เพื่อนๆฟัง
เมื่อก่อนปีใหม่ได้มีโอกาสไปซ่อมร่างที่พังมานาน คือผมมีอาการผิดปกติในแนวกระดูกสันหลัง ตอนแรกเข้าใจเองว่ากระดูกเชิงกรานเคลื่อนเพราะขาข้างขวาลอยไม่ติดพื้นประมาณ 1-2 มิลช่วงส้นเท้า ทำให้แนวกระดูกสันหลังมันบิดไปหมด เคยไปกายภาพบำบัดด้านกระดูกโดยตรงจัดกระดูกใหม่ก็ได้แค่ดีขึ้น
อาการที่มีคือนั่งหลังตรงไม่ได้ถ้านั่งคือจะปวดล้าหลังมากและมีอาการเจ็บแปล่บๆยืนทำงานนานๆไม่ได้ ก็คิดว่าชาตินี้คงจะต้องอยู่กับมันไปตลอดละ

จนได้รับคำแนะนำจากพี่นพว่าไปหาหมอคนนี้สิหาย อย่างเรารักษาแค่สามนาที ตอนแรกที่ฟังเชื่อนะว่าหายแน่ ก็คิดในใจแต่ๆๆๆๆ เฮียครับ สามนาทีเองเหรอครับ ก็เอานะว่าแล้วก็ไปลองดู

ไปถึงเค้าก็ให้นั่งเก้าอี้ถามอาการว่าเป็นอย่างไรเป็นอะไรก็เล่าไป แกก็หลับตาสักสองสามวิ แล้วบอกว่าหมอนรองกระดูกเคลื่อน6 ข้อ ก็ทำการรักษา 3-5 นาทีไม่เกินนั้น

เอิ่มๆๆ เป็นมายี่สิบกว่าปี รักษามาหลายที่หมดเงินไปก็หลาย บทจะหายนี่แค่สามนาทีเองเนอะ ขับรถไปยังนานกว่าเลย 5555

วันที่ไปก็มีคนเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส่นประสาทถ้าไม่กระดูกผุก็รักษาครั้งเดียวก็หาย อัมพฤกนี่มาจากลาวเลยรายนี้เดินไม่ได้มา 18 ปีมารักษาเก้าครั้งและเห็นว่าไปรักษาครั้งแรกก็เริ่มขยับได้เลย

ก็เหมือนกับที่พี่นพแกเล่าว่าคนที่รักษาอาการแบบนี้จะเกี่ยวกับหมอท่านนึง กับพญานาคท่านนึง

- เรื่องวิธีการรักษาถ้าพี่นพเห็นว่าพอจะเล่าขยายความหรือเกร็ดความรู้เพิ่มเติมได้ก็ขอรบกวนเป็นความรู้หรือเป็นนิทานไว้ฟังกันพอขำๆ จักเป็นพระคุณยิ่งครับ

เห็นพี่นพเขียนเรื่องเจอเพื่อนต่างภพภูมิที่พักหน้าวัดแล้วเสียวแทน โชคดีที่ไปกลับทุกรอบ นอนรอในรถหน้าวัดเอาไม่หลับด้วย ขอบอกว่ากลัว ดีนะเกิดมาไม่เคยเห็นตัวเป็นๆ ไม่งั้นมีช๊อคแน่ 5555555

- ในกรณีที่พี่นพเจอแบบมาแบบคนปกติมีวิธีแยกยังไงว่าอันไหนคน อันไหนต่างภพภูมิครับ ผมว่าอันนี้น่ารู้ดีนะ55555 เผื่อบางคนในนี้อาจจะเคยเจอแล้วแต่ไม่รู้ตัว จะได้ลองๆสังเกตกัน

 

เอ่อ มาถามได้จัวหวะพอดีเนาะ กำลังจะอ๊วก เพราะนั่งเล่นโปรแกรมหนึ่งอยู่พอดี....
จะเอาเรื่องผีหรือเรื่องการรักษาก่อนดี......

เอาเรื่องผีก่อน กรณีนี้
สมมุติ เหมารวมทุกภพภูมิ ว่าผีแล้วกัน
ถามว่าเวลาเจอผี ณ กลัวและเสียวไหม
ตอบว่า กลัวและเสียว ทั้งสองอย่างนั่นหละ..มันก็มีบ้าง
ที่ต้องตกกะใจเล็กน้อยถึงปานกลาง จะไม่รู้สึกเลย
มันก็จะเก่งเกิ๊น มันจะออกแนวโม้ของจริงแล้ว ๕๕๕

เพียงแต่ว่ามันตัดเรื่องนี้ได้เร็ว
เพราะเคยฝึกมาก่อนบ้างแล้ว ก่อน ที่จะมาโม้เป็นตุเป็นตะ ณ ปัจจุบันนี้
วิธีฝึก เรื่องแก้ความกลัวแบบทั่วไปคือ

๑. ฝืน ๓ ถึง ๔ ครั้งในกิริยานั้นๆ
แล้วจิตจะมีกำลังเพียงพอที่จะต้าน ส่วนนี้ ลพ.มีชื่อ ที่ ขก. สอนมา

๒.หัดสังเกตุ การปรุงแต่ง สมมุติว่า เจอความมืด เจอความเปลี่ยว
แล้วขนลุก แสดงว่า จิตปรุงแต่งแล้ว ส่วนนี้ ได้มาตอนไปเจอ
ดร. นาซ่า ท่านหนึ่งคนที่ตัวเล็กๆ ที่ ขอนแก่น คือ เค้าไปกันเป็นกลุ่มมาจาก กทม.
ส่วนตัวเองกะว่า ไปเดินเล่นตอนดึกๆซะหน่อย ไปเจอกลุ่ม ดร.นาซ่า พอดี
ท่านเห็นเดินอยู่แถวนั้น คงนึกว่า เป็นกลุ่มที่มาด้วยกัน
ก็เลยเรียกเข้าพาไปฝึกด้วย ไอ้เราก็เนียนๆไป เข้าใจตอนนั้นว่า ขำดี น่าสนุก
แล้วที่สำคัญกลุ่มนั้นมีแต่ ญ ซะด้วย ๕๕๕๕
ฝึกด้วยการ ให้เดินขึ้นเมรเผาศพ คนเดียวตอนดึกๆนะ
และเอามือแหย่เข้าไปในเตาเผาศพ ทีละคน
แล้วตัวท่าน ก็ไซโค อำคนไปเรื่อย ประมาณว่า สร้างสัญญา
ให้รู้สึกถึงความกลัว เป้าหมายก็เพื่อดูว่า ใจมันปรุงหรือเปล่านั่นหละ
ตรงนี้ ทำให้เห็นเรื่องการปรุงแต่ง จากการไปดึงภายนอกเข้ามาได้ชัดเจน
ยังนึกว่า ตอนนั้น ท่านนี้มีวิธีการสอนคนดีเหมือนกันเนาะ...
ความจริง ๒ วิธีข้างบนก็เพียงพอแล้วหละ แต่ยังไม่ซะใจเท่าไร เลยเป็น
ที่มาของ
วิธีที่ ๓.คือ ไปเดินเล่นตรงโซนป่าช้า คนเดียวเลย จะได้เห็นการ
ปรุงแต่งชัด เพื่อดูว่า จะดึงภายนอกมาปรุงไหม บริเวณที่ลำลือว่า เฮี้ยน แรง
ก็ไปเดินผ่าน แรกๆ ก็พก วัตถุมงคงไป ๕๕๕ หลังๆก็เอาวะ
ไปตัวเปล่าๆนี่หละ....ก็ไม่มีอะไร ก็ไปไม่บ่อยเท่าไร
แต่เวลาไป ชวนใครแล้ว ไม่มีใครไปด้วยซักคน คือ จะไปเดินประมาณ
หลังเที่ยงคืนขี้นไป ย้ำว่า ไปคนเดียว.....

ส่วนกรณี จะแยกผีกับคนออกได้อย่างไร เชื่อว่า ทั่วๆไป
น่าจะพอแยกกันได้ปกติ.....มีแค่ครั้งเดียวที่ไม่รู้จริงๆ
ว่าไม่ใช่คน..เพราะดูเหมือนคนปกติทุกอย่าง
แบบนี้ถ้าใครเจอก็ตัวใครตัวมันนะ.....

มีช่วงขับรถขึ้นเขาประมาณ ตีหนึ่งหรือตีสองนี่หละ ช่วงทางที่มีแต่เข้าทั้งสองข้าง
ก็เจอ คนใส่สูทเต็มยศยิวคล้ำๆ ยืนเก๊ทหันข้างให้อยู่ข้างทางอยู่
ถามว่า รู้ได้ไงว่าไม่ใช่คน ไม่ใช่เวลาที่เจอตอนตีหนึ่งตีสองนะ
เพราะผีเนี่ย เจอตอนบ่ายๆเป็นกลุ่มแบบตาเปล่าก็เจอมาแล้ว
ดังนั้น ทฤษฎีที่บอกว่า ผีจะออกแต่ตอนกลางคืน ใช้ไม่ได้หรอก ๕๕
ส่วนเวลาที่เจอนั้น เอามาวัดไม่ได้
เพราะอาจมีใครนึกเฮี้ยนมาทำแบบนั้นก็ได้ หรืออาจจะตกรถ ก็ว่าไป ๕๕
ให้สังเกตุที่กระจกมองข้างของเรา
คือ ถ้าเราขับรถผ่านเค้า เราเห็นเค้ายืนท่าไหน
เวลาเรามองในกระจกมองข้างเรา เราจะเห็นในท่านั้นๆนั่นหละ
นึกออกไป ปกติถ้าคนยืนกันหน้าให้เรา เรามองกระจกจะต้องเห็นหลังเค้า
แต่ถ้าเป็นแบบไม่ใช่คน เราเห็นอย่างไร เวลาใช้ตาปกติมอง
ในกระจกเราจะเห็นแบบนั้นหละ หลักเอาไว้สังเกตุนะ เผื่อใครเจอบ้าง ๕๕

.อ่อเรื่องกรณีที่แยกไม่ออกจริงๆ.เหตุเกิดในวัดนั้นหละ...ตอนนั้นบวชอยู่
และยังไม่เอะใจ แต่แปลกใจเล็กน้อยว่า ตื่นก่อนเวลาที่ตื่นประจำ
ประมาณ ๑๐ นาทีได้ เอาว่าเห็นท่านหนึ่งชุดขาว มานั่งคุกเข่าตรงแยก
แล้วลุกขึ้นเดิน ส่วนตัวก็เดินตามปกติ เดินตามท่านนี้ ห่างไม่เกิน ๒ เมตร
กำลังจะเข้าไปคุยด้วย อยู่ดีๆ ก็ค่อยๆ ลอยไป แบบนิ่งๆ และหายไปต่อหน้า
ต่อหน้า ๕๕๕๕ ถามว่ากลัวไหม ไม่กลัว แต่งงๆ....
เรื่องนี้รู้กันทั้งวัด ณ เวลานั้น รู้ว่าท่านเป็นใคร
เอาว่า อยู่ก่อนที่ ลพ.จะมาสร้างวัดแล้วกัน...
และเอาว่า ท่านจะมาสอนสมาธิพระแล้วกัน
คือ ช่วยในหลายๆเรื่อง ที่เหนือวิสัยเกินที่จะเล่าได้...

ส่วนที่ไปพักวัด ปกติก็เจออยู่ เพียงแต่ช่วงหลังๆจะเริ่ม
มีอะไรแปลกๆหน่อย เด่วไว้จะลองถามพระครูดูก่อน
เพราะบางเรื่องนั้น ก็เคยถูกท่านบอกว่า อย่าพึ่งไปสนใจ
อะไรประมาณนี้ เด่วค่อยว่ากันภายหลัง.....

ข้ามมาขึ้นเขา เขาลูกนี้ เคยมีช่วงขับรถยนต์ อยู่ดีๆก็มี ที่ไม่ใช่คนนั่งเบาะหลังมาด้วยก็มีนะ
ในใจตอนนั้นคิดว่า เอ่อดีเหมือนกัน มีเพื่อนนั่งรถไปด้วย จะได้ไม่เหงา ๕๕๕
แต่ว่า ขึ้นตอนไหน ลงตอนไหน ส่วนนี้ไม่ทันได้สังเกตุ ๕๕

เอาว่า เรื่อง แยกแยะ ไม่น่าจะยากอะไร
นอกจากว่า จะมาเหมือนคนจริงๆเท่านั้น
ที่เราจะดูไม่ออก เอาเด่วไปโม้เรื่องวิธีการรักษาใน Rep ต่อไปแล้วกัน
เรื่องผี เอาแค่พอเป็นนำจิ้มพอ....แค่ที่พอเล่าได้เนาะ พอขำๆ

 

มาเรื่องการรักษาโรค เกี่ยวกับการจัดกระดูก บอกไว้ก่อนนะว่า
กรณีถ้า กระดูกผุ หรือว่า ดามเหล็กมาแล้วนี่จะยากหน่อย
เผลอๆจัดกระดูกไม่ได้เลย
กับอีกกรณีหนึ่งก็คือ กระดูกงอก นี่ก็รักษายากเหมือนกัน
แต่นานๆจะเจอซักที....ส่วนตัวเคยเจอแค่คนเดียว

ว่าด้วยการจัดกระดูก ทั่วไปก็ต้องเป็นบุคคลที่ผ่านการเรียน
หลักสูตรแพทย์แผนไทยมานั่นหละ ปัจจุบันเรียก แพทย์ทางเลือกใหม่
ใช้เวลาเรียนทั้งหมด
ประมาณ ๓ ปีได้ คือ มีหลายๆศาสตร์รวมๆกัน
ทั้งสมุนไพร จัดกระดูก ฝั่งเข็ม นวดแผนโบราณ ฯลฯ
มีการยกครูแบบจริงจัง ทางแพทย์แผนไทยจะเคารพ
ท่านปู่ฯที่ใครก็ทราบดี และยังมีหลายๆท่านอีกด้วย....
หนึ่งในนั้น ก็คือ อดีต กรมฯ มีชื่อท่านหนึ่ง
เป็นที่มา ของคำว่า ยาผีบอก ที่ปรากฏในตำรานั่นหละ...อิอิ

คือสมัยก่อน เสด็จท่าน ชอบออกไปช่วยเหลือชาวบ้าน
แต่มักจะปลอมตัวไป และไม่ต้องการให้เปิดเผย
คนไม่เลยจะพูดอย่างไร เมื่อมีการมาถาม
ก็เลยพูดไปว่า ผีบอก เป็นที่มายาผีบอกนั่นหละ

ส่วนกรณีที่ ผีมาเข้าฝันก็มี แต่ส่วนมากจะโดนผีหลอกมากกว่า ๕๕๕

แต่แบบที่เรียนมา ก็จะมีทฤษฏีมารองรับ ข้อควรระวังอะไรต่างๆมากมาย
แต่ในกรณี ที่เป็นหมอชาวบ้าน หรือ เรียกอีกอย่างว่า ปราชญชาวบ้าน
ก็จะมีการรักษาเกี่ยวกับกระดูกหลายหลายวิธี.....
เช่น บางท่านก็รักษากระดูกที่แตกได้
ด้วยการบริกรรมคาถา
เอาใบไม้บางอย่างมาปิดแล้วเป่า กลุ่มนี้จะกำลังสมาธิสูงหน่อย
บ้างก็ใช้นำมันสูตรพิเศษนวดแล้วบริกรรมคาถาเป่า..
ตลอดจนบางกรณี ใช้วิธีเฉพาะที่มีการบวงสรวงเช่นไหว้
มักจะเจอในกรณี ที่สืบทอดกันมารุ่นต่อรุ่น

บางคนก็ใช้กำลังภายในก็มี ๕๕
บางท่านก็ใช้การจัดกระดูก บวกความสามารถ
เฉพาะตัวเหมือน อ.หมอเสน่ห์(ชื่อเสน่ห์)
จริงๆก็มีอีกหลายท่านนะ อย่างท่านที่ไว้ผมยาวๆผอมๆจำชื่อไม่ได้
และก็มีบางท่าน ที่ใช้วิธีจิ้มๆเอาก็มี อยู่ที่ โรงพยาบาลพุทธชินราช
กับอีกวิธีหนึ่ง คือ การจัดกระดูกด้วยการไม่ถูกตัวเลยก็มี...

แต่อย่าลืมว่า สิ่งที่อยู่ข้างๆกับกระดูกมันก็คือ เส้นเอนต่างๆ
ดังนั้น ท่านที่รักษาเกี่ยวกับกระดูกได้นั้น มักจะมีความรู้เกี่ยวกับเส้นต่างๆ
ในร่างกายเป็นอย่างดีร่วมด้วยนั่นเอง พวกช่องประตูลม เส้นโน้นนี่นั้น
โยงกับเส้นโน้นนั่นนี่ กลุ่มนี้จะทราบดี กลุ่มที่ที่นวดแผนไทยก็ทราบเช่นกัน....
เพราะว่า มันเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน....

อย่าง ญ ที่กลัวเป็น มาเล็งๆ แถวๆหน้าอก แล้วไม่ยิงซักทีเนี่ย
ไปจัดกระดูก ให้แนวกระดูกตรงช่วงหน้าอกตรง
ก็ไม่ต้องกลัวว่า จะมีใครมาเล็งๆยิงๆ แถวๆหน้าอกแล้ว...

กระดูกทับเส้น กระดูกเสียรูปต่างๆ ถ้าผ่าตัดมีไม่ต่ำกว่าแสน
แต่การไปหา อ.เสน่ห์ เสียค่าครู พันต้นๆ ถ้าหายก็ถือว่า คุ้มเลยนะ.....

แต่กรณี อ.เสน่ห์ จะเท่ห์หน่อย ตรงที่มีพื้นฐาน ทางด้านสมาธิดีอยู่แล้วเป็นทุน
บวกกับใช้วิชาพลังงานที่มาจากร่วมนอกร่วมด้วยนะ...
จริงๆก็ยังมี อ.กิตติ ที่โรงพยาบาลพุทธฯ กับ อ.ที่ผอมๆผมยาว
อ.เสน่ห์ เห็นอย่างนั้น ทุกวันหยุดคือ วันศุกร์ ถ้าไม่มีบุคคลที่ ถูกส่ง มาจาก กทม.
เผื่อบินมารับ เพื่อให้ท่าน เข้าไปรักษา บางท่านที่ไม่ควรกล่าวถึงเป็น ญ ที่อยู่ กทม. นั้น
ปกติ ท่านจะไป นั่งสมาธิเสริมกำลังตนเองประจำนะ..
เอาว่า นั่งตั้งแต่หัวค่ำยันเช้า เรียกว่า เหนื่อยก็พัก หายเหนื่อยนั่งต่อ
ยันสว่างเป็นอย่างนี้จริงๆ เพราะ เคยไปนั่ง มาแล้วในถ้ำกับท่าน
๒ ต่อสอง แต่ส่วนตัว เน้นนอน แถมนอนกร๊นด้วย ๕๕๕๕
ถ้าบอกว่า คนที่มาจาก เวบพลังจิต ที่ไปนอนกร๊นในถ้ำ
รับรองว่า ท่านจะอ้อเลย ๕๕๕๕

อย่างกรณีที่ อ.รู้ว่า กระดูกส่วนไหน เป็นอย่างไร นั่นหละเค้าเรียกว่า
การสแกน ซึ่งก็แล้วแต่ว่า ใครจะมีความชำนาญและละเอียดมากกว่ากัน..
บ้างก็ใช้ด้านพลังงานจับ บ้างก็ใช้ตาพิเศษจับ บางก็รู้เร็วป่านจรวด
อย่าง พระครูปลัดจิตไว นั่นหละ ถามปุ๊บตอบปั๊บ...

และการจะรักษาหายไม่หาย ก็ขึ้นอยู่กับ ต้นกำเนิดกำลังในการรักษา
นั่นก็คือ จิตของบุคคลนั้นๆ.....

ทั่วๆไป กรณีถ้าร่างกายเราเกิดป่วยขึ้นมา
ทางปฏิบัติ จะเรียกว่า ธาตุพร่อง
เวลาทำการรักษา ก็จะเข้าไปใช้วิธีใดๆก็ได้
แล้วแต่ความชำนาญ ในการปรับธาตุต่างๆบริเวณนั้น
ให้เกิดความสมดุลย์ขึ้นมานั้นเอง......

ซึ่งอาจจะใช้ได้ทั้งวิธีทางด้านพลังงาน
วิธีทานยาสมุนไพร ร่วมกับการรักษาสุขภาพจิต
การรับประทานอาหาร การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่างๆ เป็นต้น

และเมื่อทำการปรับแล้ว ต้นกำเนิดพลังงาน
ก็ต้องมีการตั้งค่าใหม่ การล้างทำความสะอาด
เพื่อป้องกัน การตกค้างของพลังงานต่างๆที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วย
ความสามารถในการปรับตั้งค่า และการล้างทำความสะอาดนั้น
ก็ขึ้นอยู่กับ ต้นกำเนิดพลังงานนั้นๆนั่นเอง

ส่วนครูบาร์อาจารย์ ที่ท่านต่างๆเหล่านั้น เคารพนับถือ
หรือภพภูมิที่คอยสนับสนุนอยู่เบื้องหลังนั้น
ส่วนมากก็มักจะเป็นท่านๆเดียวกัน ที่รู้ๆกันดีนั่นหละ

ส่วนพิธีกรรมที่เกี่ยวข้อง ก็ขึ้นอยู่กับว่า บุคคลนั้น
จะรักษาอย่างเป็นทางการหรือไม่ทางการ
ถ้าเป็นทางการ ก็จำเป็น จะต้องมีกำลังหนุนต่างๆ
จากท่านๆต่างๆที่อยู่เบื้องหลัง มาสนับสนุน
เพื่อช่วยเคลียร์สิ่งตกค้างๆต่างๆ ของผู้ที่มารักษา
ให้เบาบางลงนั่นเอง....เพราะถ้าไม่ทำ หรือ ใช้กำลังตัวเอง
เพียวๆ ในการรักษา จะส่งผลต่อร่างกายตัวเองได้

เมื่อก่อน ไปเจอ อ.เสน่ห์ ครั้งแรก แบบไปชิวๆ โม้ไปฮาไป
อ. ลอง รักษาปรับธาตุภายในร่างกายให้ แบบไม่เป็นทางการ
ทำเสร็จ ท่านยกแขนแทบไม่ขึ้นนะ..น่าจะไม่ต่ำกว่า ครึ่งชั่วโมง
คือมารู้ภายหลัง เพราะท่านเจอแล้วบอกว่า กรณีจะปรับธาตุ
ให้คน แบบนี้(ละไว้ในฐานที่เข้าใจ) ให้คนทั่วไป มารักษาให้ไม่ได้
ท่านว่านะ...

แต่สรุปแล้ว การรักษาในระดับปรับธาตุ(เฉพาะกรณีที่ร่างกายป่วยนะ
ไม่ใช่กระดูก) วิธีดีสุดก็คือ ให้เข้าเตาอบ ดมไอสมุนไพร แล้วปรับระบบหายใจใหม่
เพื่อเป็นการเปลี่ยนในระดับเซลกันเลยทีเดียว บางเคสทำร่วมกับ
ทานยาเป็นหม้อๆ ทานยกอ๊วก จนคะรี่รี่เป็นน้ำเลยทีเดียว
ก็หายได้นะ เคยเจอเคสหนึ่ง รถมูลนิธี ห้ามใส่เปล มาส่งที่วัด
เพราะที่โรงพยาบาล บอกให้ญาติมารับกลับบ้าน เตรียมทำพิธีได้
ผ่านไป สัปดาห์เดียวเดินได้ คุยได้ปกติเฉยเลย.....

และก็การรักษาตัวเอง แบบชิวๆ ด้วยการแลกเปลี่ยนพลังงาน
ด้วยการสร้าง ก้อนพลังงาน เพื่อให้หลักของแรงในการรวม
แรงต่างๆเข้าหากัน แล้วก็นำไปทิ้ง เหมือนจะเคยเขียนไว้
แล้วในนี้นี่หละ ที่บอกว่า ให้สร้างลูกบอลบนมือไว้ ก่อน
อะไรประมาณนี้นั่นหละ วิธีการนี้ใช้ได้ทั่วไป.....

เสียดาย ทั้ง ๒ วิธีล่าสุด ท่านผู้สอนวิธีนี้
ท่าน มรณภาพไปแล้ว.......
ฉายา ท่านผู้พลิกนามธรรมเป็นรูปธรรมได้นั่นหละ
เอาว่า เคยได้ยินทางตำรามาว่า สาวกสมัยพุทธกาล
มีฤิทธิแบบไหน ท่านนี้ก็เป็นแบบนั่นหละครับ.....

เอาละ พอแระ ไม่รู้จะโม้ตรงไหนต่อ
เอาว่า ฟังเป็นนิทาน พอขำๆแล้วกันเนาะ...

 

...อ่านเพลินเลยครับ
เห็นผีที่ไหน มุมไหน พอเอาตัวรอดได้
แต่ถ้าขับรถอยู่เห็นนั่งอยู่เบาะหลัง
ถ้าตั้งสติไม่ได้ คงอันตรายสุดๆ
ไม่ลงข้างทาง ก็เสยรถ10ล้อ

ส่วนตัว...หลายครั้งขับรถคนเดียวมืดค่ำในที่เปลี่ยวๆ
ขับไปสักระยะ มักชอบแว๊บมองเบาะหลัง
เพราะจิตไปปรุงแต่งจากที่ฟังมา
...แต่ก็ไปเคยเจออะไรตามที่อาจารย์เล่า

แต่ที่เจอบ่อยคือหลับใน...ชั่วเสี้ยววินาที
พอรถส่าย จะสะดุ้งตื่น..ตั้งสติได้ทันที
ล่าสุดไม่กี่วันก่อน...
ขับรถออกจากเขาใหญ่ 2 ทุ่มครึ่ง
เพื่อหนีรถติด ระหว่างทาง รถส่ายเสี้ยววิ(น่าจะ)
หันมองกระจกหลัง...รถเราคร่อมเลนซ้ายขวา
รถหลัง 2 คัน..ขับตามมาห่างๆไม่กล้าแซง
พอเลยแยกบางปะอินใกล้ๆกรุงเทพ
...ต้องขอยอมแพ้
เลี้ยวเข้าปั้ม...พอจอดรถ...หลับไม่รู้ตัว

อยากทราบครับ...
ดึกดื่นใกล้เที่ยงคืนขับรถไปที่เปลี่ยวคนเดียว
ให้เลือก....ระหว่าง
เห็นผีตาโป๋หน้าซีดขาวนั่งอยู่เบาะหลัง
กับเกิดอาการง่วงจัดใกล้หลับใน
อันไหน...น่ากลัวกว่ากัน
ถ้าเลือกได้...จะเลือกข้อไหน

555 ขำๆ....แฝงแง่คิดเพื่อเตือนใจ

 

ปัญหาประปารั่วซึมพบได้บ่อยๆ
ปกติที่ช่างแนะนำคือเดินท่อลอยทั้งบ้าน

แต่ตามที่อาจารย์นพแนะนำมา...เยี่ยมมากเลย
".....การเดินเป็นช่วงๆ ในขณะที่เดินใหม่เป็นช่วงๆนี้ ปิดเปิดมิเตอร์ดู ถ้าปิดก๊อกทั้งหมดแล้วมิเตอร์ยังวิ่งอีก ก็เดินท่อช่วงต่อไปใหม่เพิ่มขึ้นอีก...จะค่อยๆพบได้เองว่า ระบบท่อภายในช่วงไหนที่มีปัญหา เมื่อเดินท่อช่วงนั้นแล้ว ลองปิดก๊อกแล้วมิเตอร์ไม่หมุน ก็คือจบ....."

ที่บ้านก็รั่วนิดรั่วหน่อยเป็นประจำ
กลางคืนดึกๆ ไม่มีคนใช้น้ำ
แต่ได้ยินเสียงปั้มน้ำทำงาน
แสดงว่าท่อประปารั่ว
ตอนนี้ให้ช่างซ่อมเสร็จสรรพแล้ว

ท่านอจ.นพบอก....
".....การซึมของน้ำผ่านชั้นต่างๆที่เป็นส่วน
ของโครงสร้าง และการยุบตัวของฐานต่อม่ออาคารได้...
เนื่องจากปริมาณน้ำที่รั่วไหลผ่านเซาะนำพาดิน
ที่อยู่ใต้ชั้นฐานตอม่อ ที่นี้หละ
ค่าซ่อมพอๆกับซื้ออาคารหลังใหม่...."

ฟังแล้วมีกังวลนิดๆ
สำหรับบ้านที่สร้างใกล้ร่องน้ำหรือธารน้ำเล็กๆไหลผ่าน
โดยไม่ได้ทำเขื่อนกั้นไว้
ระยะยาวอาจมีปัญหาตามที่อาจารย์ชี้แนะมา

 

ปัญหาเรื่อง ปะปาอย่างไง ให้ดูค่าน้ำที่เราใช้ปกติร่วมด้วยนะครับ
ว่ามันโดดมากกว่าปกติขึ้นมาหลายเท่าหรือเปล่า
บางทีอาจเป็นที่มิเตอร์เสียก็เป็นได้
เพราะที่บ้านก็เคยเจอ กรณีนี้เหมือนกัน
ปกติเดือนละ สองร้อย ขึ้นมา เกือบสองพันก็มี.....

ยังไงแนะนำให้ ติดต่อปะปา เพื่อตรวจสอบมิเตอร์ก่อนนะครับ
เค้าจะเอามิเตอร์อื่นๆมาลองเปลี่ยนดูให้ ถ้าเราไม่ได้เปิดก๊อก
แล้วมิเตอร์ที่เปลี่ยนไม่หมุน ก็โชคดีไป....

เด่วถ้าไปเดินท่อลอยไปแล้ว แล้วเกิดมิเตอร์มีปัญหาอีก
จะเสียตังค์เปล่าๆ...

ปล.โทรไปไม่ค่อยมีคนรับ....ต้องโทรบ่อยๆ

 

พี่ข้างบ้านบอกว่า ผนังบ้านเขา เป็นซึมๆ
และสีหลุด ตรงที่ห้องน้ำเจนพอดีเลยคะอาจารย์
เพราะจุดห้องน้ำบ้านเจน ตรงกับตรงทีวีบ้านพี่เขา
ทีนี้ ถ้าหาจุด ต้องทุบพื้นแน่นอนเลย เพราะเขาฝังท่
ตาย~~… เจนคงต้องเดินท่อใหม่อย่างอาจารย์ว่ามาคะ
เพราะค่าใช้จ่ายจะได้ลดลงมา
ถึงไม่สวย เอาที่ประหยัดและไม่งบปานปลาย
เมื่อคืนนี้นอนกุมขมับ คิดไม่ออกจะทำไงดี
พออาจารย์ว่าเดินสายใหม่เอาง่ายกว่า สบายใจขึ้นมาหน่อย
โอ้ยยย ราคาค่าน้ำ เอาเจนลมจับเลยคะ

 

ยังไงถ้าเจอจุดที่มีปัญหาแล้วก็ดีแล้ว
ช่างปะปา มักจะแนะนำให้เดินลอยนั่นหละ
เพราะว่า ทำง่าย ดูแลง่ายกว่า
อีกอย่างค่าใช้จ่ายไม่มากด้วย

ที่บ้านเดือนนี้ก็เจอ ปัญหานี้เหมือนกัน
ค่าน้ำโดดมา ๘ เท่า ๕๕๕
แต่ยังสรุปไม่ได้ว่าเป็นที่
มิเตอร์หรือระบบท่อภายในรั่ว.... ประมาณนี้


ยกเว้น ถ้ากรณี ที่สรุปได้ว่าเป็นที่มิเตอร์
เราสามารถคุยเรื่องจ่ายค่าน้ำปะปาได้นะ
เค้าจะดูประวัติย้อนหลังเราในเรื่องค่าใช้จ่ายให้
อาจจะไม่ได้เสียเท่ากับบิลล่าสุด ลองคุยดูได้..
ถ้าเค้ายอมให้นะ...

 

เจนไปเมื่อวานนี้เพื่อขอให้เขามาตรวจสอบ

คำที่ได้จากป้าพนักงานคือพึ่งขอมิเตอร์ไปใหม่ เมื่อ4เดือนไม่ใช่หรอ
ถ้าปิดมิเตอร์แล้ว มิเตอร์ไม่หมุน แสดงว่าไม่เกี่ยวกับมิเตอร์
ถ้าเปิดมิเตอร์ แต่ปิดก๊อกทุกตัว มันยังหมุน แสดงว่าท่อภายในแตก
ไม่เกี่ยวกับมิเตอร์นะคะ ต้องเรียกช่างปะปามาดู
ป้าแนะนำ เดินท่อใหม่เลย

โอ้ยยย เจนจะบ้าตาย แต่วันจันทร์จะถึงนี้ เจนจะไปแจ้งให้ปะปามาตรวจมิเตอร์ ตามที่อาจารย์ว่ามา ก่อนคะ เพราะเอาเพื่อความชัวร์
ตอนนี้เจนปิดวาวน้ำไปเลย
และมาคิดกันว่า จะเดินท่อใหม่ ช่างจะทำยังไงดี
เพราะท่อหลัก เป็นสายเดี่ยวกับ ก๊อกน้ำในห้องน้ำ
ก๊อกน้ำที่เปิดให้น้ำเข้าตรงปั๊มน้ำ
และก๊อกน้ำล้างจานหลังบ้าน
มันเป็นเส้นเดียวกันเลยคะอาจารย์

งบจะถึงหมื่นมั้ยน้อ โอ้ยยย

 

อาจารย์นพคะ ช่วงนี้ มีคำถาม แฮร่ๆ
เคยเห็นแว่บๆว่าอาจารย์นพ บอกว่า
พญานาคสีดำ ท่าน ดูแลสมบัติ มากมาย
แล้วถ้า เพชรพญานาคสีดำ จะเกี่ยวกับท่านพญานาคสีดำ
มั้ยคะอาจารย์ (อย่าสับมะกอกเจนนะ เจนหลบทัน)
หรือเจนจำผิด เพราะไอแพดเข้าดูอะไรก็ช๊าช้า~~~
เน็ตเน่ามากกก เต่าเรียกพี่ บางบทจะเร็ว รูดปื้ด

ถ้าเกี่ยวกัน คือว่า เจนมีเพชรพญานาคสีดำ ที่ได้มา
เจนอยากแบบว่า ใส่ห้อยคอ ติดตัว
แล้วแอบหวังนิดๆว่า จะขออะไรเกี่ยวกับโชคลาภเงินทองบ้าง
แต่!! เจนไม่รู้หลัก วิธี การขอ การท่องคาถา
และเขา คือคนที่ให้มา บอกเจนว่า
มีพญานาคสถิตอยู่ที่เพชร ตามแต่ละสี
เจนจะสื่อสารกับเพชรพญานาคยังไงดีคะ
(เป็นความเชื่อส่วนบุคคลห้ามลอกเลียนแบบ5555)

ปีนี้เจนมีความรู้สึกท้อแท้จังเลย กลัว กลัวอะไรไม่รู้คะอาจารย์
ปีชงเจนด้วย และปัญหาทางการเงิน
เจนก็อยากได้แรงทางใจเข้ามาช่วย
หวยก็เฉียด เฉียดแบบแต้มเดียวจริงๆคะ
เลขที่บ้าน ออกมา2งวด เจนไม่ซื้อ ดันออก
พอซื้อก็ไม่ออก
กิจการก็เงียบ เศรษฐกิจแย่
อยากเริ่มทำธุรกิจใหม่ ก็ดันมามีรายจ่ายทางอื่น
สิ่งที่เจนคิดจะทำเพิ่ม คือ
เจนอยากทำกำไลเชือกเทียนประดับหินมงคลขาย
อยากจะรับน้ำหอมมาขาย
อยากจะทำพันหอม ปอเปี๊ยะสด ขาย
นี้คือสิ่งที่เจนคิดจะเอามาเสริมกับน้ำคะอาจารย์

แต่ที่ถามเรื่องเพชรพญานาคเพราะถามใครต่อใคร
เจนไม่เต็มที่ เท่าถามอาจารย์นพ
ไปถามหลวงพ่อที่เคารพก็กลัวถูกด่า

อยากมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองไปทุกที่
จะใส่พระ ก็คิดอยู่
ถ้ามีของมงคลเสริมดวงเสริมการเงินโชคลาภ
ก็มีเพชรพญานาคสีดำอยู่
เพื่อความมั่นใจ ถามอาจารย์ดีกว่า

รบกวนอาจารย์ไขข้อนี้ให้ลูกคนนี้ทีนะคะ