60.สุดเขตที่มุกดาหาร ข้ามด่านที่อุบลฯ ชุมพลที่โคราช

​

 

...BINGO...
​

 

ของรางวัล บิงโก ตุ๊กตาตัวใหญ่....

​

 

ตอนนี้อาหารเผ็ด เริ่มจะทำพิษเสียแล้ว...

​

 

งานนี้ทั้งบิงโก ทั้งปาลูกดอก ไม่ได้ตุ๊กตาสักตัว...
​

 

เกือบเที่ยงคืนแล้ว น้องๆ ก็พามาส่งที่โรงแรม
สนุกกันได้ไม่นาน แต่ก่อนก็เคยไปเที่ยวด้วยกัน
แต่ด้วยหน้าที่ และถิ่นฐาน ก็เลยต้องห่างกันไป....

เห็นบันไดอย่างนี้แล้วนึกถึง ซินเดอเรลล่า

​

 

ส่องเมืองโคราช ยามค่ำคืน

วันนี้กว่าจะนอนก็เลยเที่ยงคืนแล้ว





​

 

.....................................................................
อย่างนี้เค้าเรียกกันว่า"ฟ้าเปลี่ยนสี" แสดงว่าพิษแรง

 

ขั้นวิกฤต...

 

แต่ละที่ที่นำมาให้ชมทั้งสถานที่ อาหารละลานตาน่าดูชม ขอบคุณครับ

 

ขอบคุณสำหรับคอมเม้นท์จ้า....

 

​

เช้านี้ยังไม่อยากตื่นเลยเพราะเมื่อคืนนอนดึก แต่ก็ต้องลุกๆๆๆ เดี๋ยวไม่ทันคนอื่นเขา วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเดินทางทัศนาจร ซึ่งวันนี้ไม่มีการทัศนศึกษา

 

​

กำหนดการเช้านี้ทางไกด์บอกว่าจากที่จะไปไหว้ย่าโม แต่รถจอดตรงบริเวณใกล้ๆ กับอนุสาวรีย์ย่าโมไม่ได้เพราะมีงานกาชาด ถ้าจะจอดก็ต้องเลยไปไกลและจะเดินไกลมาก ไกด์ก็เลยหาสถานที่อื่นให้พวกเราไปกันแต่ก็ได้ไปไหว้ย่าโมเหมือนกันซึ่งเขาบอกว่าเป็นที่เก็บอัฐิของย่าโมนั่นก็คือ วัดศาลาลอย

 

พระประธาน และพระบรมสารีริกธาตุ
ในพระอุโบสถหลังเก่า
​

วัดศาลาลอย เป็นจุดที่แพรูปศาลาซึ่งท้าวสุรนารีหรือย่าโมได้สั่งให้ทหารทำขึ้นมาเพื่อเสี่ยงทายให้ลอยไปตามลำตะคองหลังจากเสร็จศึกสงครามที่ทุ่งสัมฤทธิ์จากการรบชนะกองทัพของเจ้าอนุวงศ์ เมื่อปี พ.ศ.๒๓๗๐ ในระหว่างยกไพล่พลกลับเมืองโคราชได้แวะพักที่บริเวณท่าตะโก เมื่อสร้างแพเสร็จก็ได้ตั้งจิตอธิษฐานว่าถ้าแพนี้ลอยไปติดอยู่ที่ใดจะสร้างวัดไว้เป็นอนุสรณ์ ณ ที่แห่งนั้น ซึ่งแพได้ลอยไปติดอยู่ริมฝั่งขวาของลำตะคอง จึงได้สร้างพระอุโบสถเป็นวัดศาลาลอยในปัจจุบัน ภายหลังที่ท่านได้ถึงแก่อสัญกรรมแล้ว ก็ได้บรรจุอัฐิท้าวสุรนารีไว้ภายในวัดด้วย

 

​

 

บานประตูพระอุโบสถ
​

 

​

 

​

จุดเด่นของวัดนี้ อยู่ที่พระอุโบสถหลังใหม่ ที่ได้รับรางวัลดีเด่นแนวบุกเบิกอาคารทางศาสนา จากสมาคมสถาปนิกสยามปี พ.ศ. ๒๕๑๖ และรางวัลจากมูลนิธิเสฐียรโกเศศและนาคะประทีป ใช้วัสดุพื้นเมืองคือกระเบื้องดินเผาด่านเกวียนนำมาประดับตกแต่ง เช่น ผนังด้านหน้าอุโบสถเป็นภาพพุทธประวัติตอนมารผจญ ผนังด้านหลังเป็นภาพตอนพระพุทธเจ้าเสด็จลงมาจากดาวดึงส์ ส่วนบานประตูเป็นโลหะลายนูน ภาพเล่าเรื่องเวชสันดรชาดก (๑๓ กัณฑ์) ตัวอุโบสถล้อมรอบด้วยกำแพงแก้วรูปเสมา สัญลักษณ์ของเมืองเสมาเดิม

 

​

ภายในพระอุโบสถมีพระประธานปูนปั้นสีขาว ปางห้ามสมุทร เป็นพระพุทธรูปยืนประทับ ณ ประตูเมืองสังกัสนคร พระนามว่า "พระพุทธประพัฒน์สุนทรธรรมพิศาล ศาลาลอยพิมาลวรสันติสุขมุนินทร์"

 

"พระพุทธประพัฒน์สุนทรธรรมพิศาล ศาลาลอยพิมาลวรสันติสุขมุนินทร์"​