ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

กราบเรียน พี่ คณานัน ครับ ผมในฐานะอยู่อาศัยที่สมุยครับ จะขอชี้แจงต่อจากข่าวนี้ว่า เกิดขึ้นจริง ผมและเมียนั้นตกใจมากตอนที่เห็นพายุลักษณะนี้เกิดขึ้นคือว่ามันไม่เชิงตกใจนะครับเพราะว่าข้อมูลต่างๆที่ผมได้เคยได้จากพวกพี่ๆหรือผู้มีคุณทุกคนแล้วนั้นพอจะรู้ว่ามันเกิดการเปลี่ยนแปลงมากพอสมควรในเวลาปัจจุบันขณะนี้ คือว่า มันไม่เคยเกิดขึ้นมาให้เห็นในลักษณะที่ใหญ่และ ไม่ห่างจากแหล่งชุมชนแบบนี้มาก่อน ตอนที่จอดรถดูอยู่นั้นมันเหมือนเกิดอาการหวาดๆจนจับขั้วหัวใจท้องฟ้าก็อึมครึมดูหดหู่ เป็นเวลานานพอสมควรและเขาก็ไปเหมือนมาทักทายแต่ทุกคนตอนนั้นหยุดรถแล้วมองดูหมดส่วนคนที่จะไปทางทิศนั้นก็เกิดอาการจะไปดีไม่ไปดีนะครับ มาชี้แจงไว้ตามหัวข้อ ข้อมูลต่อจากของพี่ครับ ขอบคุณครับ

 

ถึงได้ บอกว่าอย่าประมาทกันครับ

ทำความดีกุศลให้มากๆ

ความรู้ทั้งทางโลกทางธรรมที่เตรียมไว้ให้ในห้องนี้ถึงเวลาได้ใช้กันครับ

 

พระธาตุข้าวบิณฑ์​

พระธาตุข้าวบิณฑ์ ไม่จัดเป็นพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุ แต่จัดเป็นพระธาตุเทพนิมิต ตามตำรากล่าวว่า ในสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เสด็จไปตามสถานที่ต่างๆ เพื่อโปรดเวไนยสัตว์ วันหนึ่งได้เสด็จมาไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของแม่ระมิงค์ เพื่อไปโปรดพวกละว้า

พวกละว้าเหล่านั้นอยู่ในภาวะอดอยาก ผืนดินแห้งแล้งทำการเพาะปลูกไม่ได้ผล ต้องหาหัวเผือกหัวมันมาต้มผสมกับข้าวกินเป็นอาหาร เมื่อพระพุทธองค์ได้เสด็จมาถึงที่นั่น พวกละว้าก็เอาข้าวผสมมันซึ่งเป็นโภชนาหารของตนมาใส่บาตร พระบรมโลกนาถก็ทรงรับแล้วฉันภัตตาหารเช้า ณ ที่นั้นซึ่งเรียกว่า ดอยน้อย เสร็จแล้วก็ทรงให้ศีลให้พรพวกละว้าทั้งหลาย

หลังจากนั้นจึงทรงโปรดให้พระอานนท์ นำข้าวในบาตรหลังจากฉันเสร็จไปเทคว่ำไว้ และแสดงปาฏิหาริย์ให้ข้าวนั้นกลายเป็นหิน กลายเป็นพระธาตุข้าวบิณฑ์ เพื่อให้พวกลั้วะ หันมานับถือพระรัตนตรัย แทนการนับถือผี และเพื่อเป็นตัวแทนของพระพุทธองค์ บางคนเรียกว่า พระธาตุข้าว หรือ พระธาตุพุทธนิมิตร ลักษณะเป็นองค์กลมๆสีขาวแกมเหลือง

พวกละว้าเมื่อเห็นดังนั้นก็เกิดเลื่อมใสศรัทธาเป็นอันมาก พระพุทธองค์จึงทรงให้ศีล 5 และแสดงธรรม และรับสั่งให้พวกละว้ารักษาดอยน้อยไว้ให้ดี ให้รักษาศีล 5 ไว้เป็นปกติ ถ้ารักษาศีลได้ก็เหมือนอยู่ใกล้พระพุทธองค์ ถ้ารักษาศีลไม่ได้ก็เหมือนอยู่ไกลสุดขอบฟ้าจักรวาล

ที่มา http://www.konmeungbua.com/forum/topic3417.html

พระธาตุข้าวบิณฑ์ ถือได้ว่าตัวแทนของพระพุทธองค์ จึงมีคุณค่าเช่นเดียวกันกับพระบรมสารีริกธาตุครับ สามารถตั้งบูชาไว้ได้ระดับเดียวกับพระพุทธรูป แต่ถ้าเป็นพระธาตุของพระอรหันต์สาวก ควรตั้งบูชาให้ต่ำลงมาจากพระพุทธรูปครับ

 

<table id="post2303401" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> วันนี้, 10:48 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #ข้อคิดจากในหลวง[/B]

[/LEFT]

</td></tr></tbody></table>

 

เห็นด้วยค่ะ กรมอุตุมีแต่ข่าวเบสิค เช่นที่คัดมานี้

ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น-ทะเลมีกำลังแรง เดินเรือระมัดระวัง <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1"></td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">30 กรกฎาคม 2552 06:07 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle"></td> </tr> </tbody></table> กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศประจำวันพฤหัสบดีที่ 30 กรกฎาคม 2552 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น. มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนคลื่นลมในทะเลมีกำลังแรงขึ้น ชาวเรือควรเพิ่มความระมัด ระวังในการเดินเรือระยะนี้

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน แพร่ เพชรบูรณ์และตาก ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดเลย หนองคาย นครพนม สกลนคร หนองบัวลำภู อุดรธานี และ ขอนแก่น ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดอุทัยธานี กาญจนบุรี และราชบุรี ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และนราธิวาส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ใกล้ฝั่งทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 2 เมตร

กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

rabbit_

เดี๋ยวนี้ไม่อ่านข่าวกรมอุตุแล้ว ตามพี่เกษมกับ falkman (สุดหล่อ อิอิ) มานานแล้วทันสมัยทันเหตุการณ์ บางทีล้ำหน้าเหตุการณ์อีกค่ะ

ขอขอบคุณและขออนุโมทนาบุญกับผู้สื่อข่าวทุกท่านค่ะ

_heart+love_

 

คุณเฉ((เฌ)เฉไฉ) ถ้าคุณอ่านดี ๆ หรือดูเจตนาของกระทู้นี้ดี ๆ ตั้งแต่แรกคุณก็จะรับรู้ได้ว่ากระทู้เป็นเพียงการนำเรื่องราวเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นมาเพื่อให้ผู้อ่านผู้ติดตามได้รับทราบข้อมูลแล้วใช้ปัญญาพิจารณาตาม ไม่ได้กระพือความแตกตื่นหวาดกลัวให้เกิดขึ้น ส่วนตัวผมเองหลังจากได้เข้ามาอ่านแล้ว ลองคิดตามว่าหากเกิดขึ้นจริงเราจะเตรียมกายเตรียมใจอย่างไร แรกสุดคิดถึงลูกจากเดิมที่เคยให้สวดมนต์บ้างไม่สวดบ้าง ก็กลายเป็นสวดบ่อยมากขึ้น ๆ อบรมสั่งสอนให้รู้จักเสียสละเอื้อเฟื้อหากถึงเวลาที่ทรัพยากรจำกัด ฝึกให้อยู่ได้ในอุณหภูมิห้อง(อยากให้ลูกเป็นซุปเปอร์คอนดัคเตอร์รุ่นใหม่ ทำงานได้อุณหภูมิห้องไม่ใช่รุ่นเก่าทำงานภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัด) อดทนต่อความแปรปรวนของอากาศ ฝึกวิธีคิดให้อยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติ แต่ไม่เคยพูดให้ลูกหวาดกลัวหรือตระหนก ซึ่งสิ่งทั้งหลายที่ได้ฝึกลูกมาก็เป็นสิ่งที่ดีหากมันไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้น ลูกเราหรือคนอื่น ๆ ที่ได้เตรียมการทั้งกายทั้งใจไว้ก็จะเป็นมนุษย์ที่อยู่อย่างสอดคล้องกับธรรมชาติมีสติรู้เท่าทันสภาวะการณ์ต่าง ๆ ซึ่งมันก็เป็นสิ่งดีที่เราชาวพุทธหรือใคร ๆ พึงปฏิบัติตน
ถ้าจะเปรียบลองนึกถึงไข้หวัด ๒๐๐๙ คุณบอกได้ไหมว่ามันจะมาถึงชุมชน บ้าน ครอบครัว จนถึงตัวคุณวันไหนเมื่อไหร่ คุณจะรอให้มันมาถึงโดยไม่ทำอะไร หรือไม่มีใครบอกคุณ สิ่งที่คล้ายกัน คือ เมื่อคุณรับทราบข้อมูลว่าไข้หวัด๒๐๐๙ มันเป็นอย่างไร วิธีป้องกันตัวเองทำอย่างไร สอนลูกสอนหลาน หากมันไม่ติดก็เป็นการฝึกสุขนิสัยที่ดี เช่นเรื่องล้างมือทานร้อนช้อนกลาง หรือเรื่องรับผิดชอบต่อสังคม เช่นการใส่หน้ากากเมื่อตนเองเป็นหวัด ซึ่งทั้งหมดก็ไม่ได้ทำให้คนตระหนกเป็นเรื่องของการบอกกล่าวเพื่อระมัดระวังตนเอง เตรียมกายเตรียมใจไว้ก็เท่านั้นเอง คงกราบเรียนคุณเฌเท่านี้ก่อน หากวันหน้าไม่เข้าใจอะไรอีกผมจะเข้ามาแปลให้ฟังใหม่ครับ (เผื่อไม่เข้าใจ)

 

ชื่อบอร์ด....บอร์ดภัยพิบัติและการเตรียมการ
มันควรเป็นอะไรที่..วิทยาศาสตร์
ระดมหลักการ วิชาการ การเอาตัวรอด
การใช้ชีวิตในระหว่างมีภัย
การป้องกันตัวก่อนมีภัย
การช่วยเหลือตัวเอง
การช่วยเหลือคนอื่น
การให้ความรู้คนอื่น​

 

ปีศาจร้ายจากกล่องแพนโดรา



​

แพนโดรา (Pandora) เป็นสตรีนางแรกบนโลกมนุษย์ผู้ซึ่งเปิดกล่องที่บรรจุความชั่วร้ายนานาซึ่งทำให้จิตใจของมนุษย์ไม่บริสุทธิ์ ตำนานได้กล่าวว่าแพนโดร่าถูกสรรค์สร้างขึ้นมาจากฝีมือที่ประณีตของเทพและเทพีหลายองค์โดยมีจุดประสงค์เพื่อจะลงโทษมนุษย์ เหตุเพราะก่อนหน้านี้ เทพโปรมีทีอุส ได้ขโมยไฟจากเตาของเทวีเฮสเทียบนเขาโอลิมปัสเพื่อนำมาให้มนุษย์

ส่งผลให้มนุษย์เริ่มแข็งข้อต่อเทพเจ้า เทพซุสได้ใส่ความอยากรู้อยากเห็นลงในตัวของแพนดอร่า พร้อมกับมอบกล่องแพนดอร่าซึ่งกำชับไม่ให้นางเปิดดู แล้วส่งนางลงไปยังโลกมนุษย์ แพนดอร่าได้แต่งงานกับไททันเอพะมีธีเอิส และมีลูกหลานหญิงชายสืบต่อกันมาเป็นเผ่าพันธุ์ของมนุษย์

นับวันความสงสัยของนางแพนดอร่าก็มีมากขึ้น จนนางตัดสินใจเปิดกล่องแพนดอร่าออก ทันใดนั้นเอง ความชั่วร้ายต่างๆนาๆก็พวยพุ่งออกมาจากกล่องตรงเข้าไปกัดกินหัวใจมนุษย์ให้ฆ่าฟันกันเองจนกลายเป็นยุคมืด นางแพนดอร่าตกใจรีบปิดกล่องโดยทำให้กักขัง ความหวัง ซึ่งเป็นสิ่งที่จะทำลายความชั่วร้ายต่างๆนั้นเข้าไว้ในกล่อง

มนุษย์เริ่มมีจิตใจชั่วร้ายโสมมมากขึ้น จนสุดท้ายเทพเจ้าจึงบันดาลให้เกิดน้ำท่วมโลกจนมนุษย์ผู้ชั่วร้ายตายกันหมด มนุษย์ผู้มีจิตใจดีที่ยังเหลือรอดจึงได้สืบเชื้อสายเผ่าพันธุ์ต่อมาโดยที่ยังมีความชั่วร้ายเกาะติดอยู่ในหัวใจ ทว่าหากมีความหวัง อดกลั้นข่มใจไม่ทำความผิด ความชั่วร้ายต่างๆก็มิอาจทำอันตรายใดได้อีก

ที่มา วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
http://th.wikipedia.org/

 

เกิดแผ่นดินไหว 5.9 ริกเตอร์ ทางใต้ของไต้หวัน ​

​

ไทเป 30 ก.ค. - เกิดเหตุแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 5.9 ริกเตอร์ ทางใต้ของไต้หวัน แต่ไม่มีรายงานความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

ศูนย์กลางแผ่นดินไหว ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.53 น. ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 23.53 น. วานนี้ ตามเวลาในไทย อยู่ห่างจากเมืองเฮงชุนไปทางทิศตะวันตกประมาณ 37 กม. และอยู่ลึก 62 กม.

ไต้หวันเกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง เนื่องจากตั้งอยู่บนบริเวณที่ยังมีการเคลื่อนตัวของเปลือกโลกในมหาสมุทรแปซิฟิก แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในปี 2542 วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 7.6 ริกเตอร์ ทำให้ประชาชนกว่า 2,400 คน เสียชีวิต และอาคารบ้านเรือนเสียหาย 50,000 หลัง. - สำนักข่าวไทย

2009-07-30 07:22:07

ไฟป่าในสเปนยังลามไม่หยุด​

​

สเปน 30 ก.ค. - มีผู้เสียชีวิตอีก 2 คน จากเหตุไฟป่าในแคว้นกัสตีลยาและเลออน ทางตอนกลางของสเปน ซึ่งเจ้าหน้าที่สงสัยว่าอาจเป็นการลอบวางเพลิง

ตำรวจระบุว่า ไฟป่าในเขตเทือกเขาใกล้เมืองอาบีลา ในแคว้นกัสตีลยาและเลออน ซึ่งเริ่มเกิดขึ้นตั้งแต่วันพุธ เผาผลาญพื้นที่ป่าเกือบ 2,000 ไร่ ในช่วงเวลาเพียง 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ต้องอพยพชาวบ้านนับพันคนออกจากบ้านเรือน และสั่งปิดโรงเรียน รวมถึงสนามกีฬาทุกแห่ง

ไฟป่ายังส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน โดยรายหนึ่งเป็นคนขับรถเกลี่ยดินที่ช่วยสกัดเพลิง แต่ถูกไฟคลอกเสียชีวิต ส่วนอีกคนเป็นชายวัย 63 ปี ถูกไฟป่าคลอกภายในบ้านของตัวเอง ขณะที่เจ้าหน้าที่ผจญเพลิงนับร้อยนายยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ

เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เหตุไฟป่าในพื้นที่ดังกล่าวอาจเป็นการลอบวางเพลิง แต่ยังไม่สามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ ทั้งนี้ เหตุไฟป่าในสเปนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 8 คน. - สำนักข่าวไทย

2009-07-30 05:51:00

ทางการซินเจียงปฏิเสธข้ออ้างคนหายเกือบหมื่นหลังจลาจล​

​

ปักกิ่ง 30 ก.ค. – ทางการเขตปกครองตนเองซินเจียงของจีนปฏิเสธข้ออ้างของผู้นำชาวอุยกูร์พลัดถิ่นที่ว่ามีประชาชนเกือบ 10,000 คนหายสาบสูญไปหลังเกิดเหตุจลาจลในเดือนนี้

โกลบัล ไทมส์รายงานอ้างโฆษกเขตปกครองตนเองซินเจียงว่า ข้ออ้างของนางเรบียา คาเดียร์ ไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด และว่าถ้ามีคนหายไปถึงหมื่นคน คนที่มาร่วมในการชุมนุมจะต้องมีจำนวนมากเท่าใด ทั้งนี้ นางคาเดียร์ อดีตนักธุรกิจหญิงอาศัยในสหรัฐ กล่าววานนี้ว่า มีประชาชนเกือบ 10,000 คนสูญหายไปภายในคืนเดียว หลังจากเกิดการปะทะอย่างรุนแรงในเมืองอุรุมชี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียง

ทางการจีนกล่าวหาว่า นางคาเดียร์ อยู่เบื้องหลังเหตุรุนแรงเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ซึ่งมีคนเสียชีวิตไปถึง 197 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวจีนฮั่นถูกกลุ่มชาวอุยกูร์ที่โกรธแค้นสังหาร และว่าสาเหตุที่ตำรวจต้องเปิดฉากยิงก็เพราะต้องการสกัดเหตุไม่ให้ลุกลามบานปลาย และมีประชาชนกว่า 1,400 คน ถูกรวบตัวฐานพัวพันในเหตุการณ์ไม่สงบ -สำนักข่าวไทย

2009-07-30 10:13:55

หวัดใหญ่ 2009 ส่งผลต่อสตรีมีครรภ์อย่างรุนแรง​

​

ชิคาโก 29 ก.ค. - คณะนักวิจัยสหรัฐ เผยวันนี้ว่า สตรีมีครรภ์ที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 เสี่ยงจะมีอาการป่วยรุนแรง และเสียชีวิตได้มากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่น เป็นการยืนยันแนวโน้มซึ่งกำลังเป็นที่วิตกกังวลของผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขทั่วโลก

การศึกษาครั้งนี้ตีพิมพ์ลงในวารสารการแพทย์แลนเซต โดยคณะนักวิจัย ระบุว่า ในขณะที่สตรีมีครรภ์มีความเสี่ยงจากไข้หวัดใหญ่ธรรมดามากกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่นอยู่แล้ว แต่จากการศึกษาล่าสุดพบว่า เชื้อไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 ยิ่งเป็นอันตรายต่อสตรีมีครรภ์มากกว่า

ดร.เดนิส เจมีสัน แห่งศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) กล่าวว่า พบอัตราสตรีมีครรภ์เข้ารับการรักษาอาการไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า เมื่อเทียบกับประชากรกลุ่มอื่น นอกจากนี้ยังพบว่าอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยมีครรภ์ยังมีสูง โดยในรายงานฉบับนี้ ระบุว่า อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ที่มีครรภ์อยู่ที่ร้อยละ 13 แต่ชี้ว่าตัวเลขดังกล่าวยังไม่แน่นอนอยู่มาก เพราะทำการศึกษาจากรายงานการเสียชีวิตของสตรีมีครรภ์เพียง 6 คน จากรายงานผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 จำนวน 45 คน ที่รายงานต่อซีดีซีระหว่างวันที่ 15 เม.ย.-16 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยสตรีมีครรภ์ทั้งหมดมีสุขภาพแข็งแรงก่อนจะติดเชื้อ และทั้งหมดมีอาการปอดบวม และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ

ดร.เจมีสัน ยังระบุว่า ขณะนี้ซีดีซีได้รับรายงานอย่างเป็นทางการว่ามีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 302 คน ในจำนวนนี้ 266 คน สามารถติดตามข้อมูลได้ และพบว่ามี 15 คน เป็นสตรีมีครรภ์ ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 6 ของผู้เสียชีวิตทั้งหมด อย่างไรก็ดี ดร.เจมีสัน แนะว่า สตรีมีครรภ์ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการใช้ชีวิต หรือวิตกกังวลมากเกินไป เพราะยังไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า สตรีมีครรภ์เสี่ยงติดเชื้อได้มากกว่าคนทั่วไป เพียงแต่หากติดเชื้อแล้วก็เสี่ยงจะมีอาการรุนแรงกว่าผู้ป่วยกลุ่มอื่น ดังนั้น เมื่อสงสัยว่าอาจติดเชื้อจึงควรพบแพทย์ในทันที และหากติดเชื้อก็ควรได้รับยาต้านไวรัสโดยเร็วที่สุดภายใน 48 ชม. เพื่อให้การรักษาได้ผลดีที่สุด ขณะที่แพทย์ควรจัดพื้นที่นั่งรอสำหรับสตรีมีครรภ์ที่ต้องสงสัยจะติดเชื้อโดยเฉพาะเพื่อป้องกันไม่ให้สตรีมีครรภ์คนอื่นติดโรค. -สำนักข่าวไทย

2009-07-29 16:35:19

กลุ่มสายแข็งในอิหร่านเตือนอาห์มาดิเนจาดให้เชื่อฟังผู้นำสูงสุด​

​

เตหะราน 29 ก.ค. - กลุ่มเคร่งศาสนาในอิหร่านเตือนประธานาธิบดีมาห์มุด อาห์มาดิเนจาด ให้ทำตามคำสั่งของผู้นำสูงสุด ท่ามกลางวิกฤติการเมืองจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ผ่านมา

ประธานาธิบดีอาห์มาดิเนจาด ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์แม้แต่ภายในกลุ่มเคร่งศาสนาที่ให้การสนับสนุนเขา ภายหลังจากที่เขาชนะการเลือกตั้งอีกสมัย แต่กลุ่มหัวปฏิรูปกล่าวหาว่าโกงการเลือกตั้ง นายอาห์มาดิเนจาดมีความขัดแย้งภายในกลุ่ม ทั้งการสั่งปลดรัฐมนตรีข่าวกรอง และการทำงานด้านการเมืองอื่น ๆ หนังสือพิมพ์ยาเลซารัต ของกลุ่มเคร่งศาสนา รายงานว่า นายอาห์มาดิเนจาดต้องขออภัยต่อประชาชน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอนุรักษ์นิยมที่กล่าวเตือนผู้นำอิหร่านว่า การสนับสนุนของประชาชนขึ้นอยู่กับการที่นายอาห์มาดิเนจาดต้องเชื่อฟังผู้นำสูงสุด และการแตกแถวจะทำให้เกิดผลกระทบตามมา

ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีอาห์มาดิเนจาดสั่งปลดนายโกลัม ฮอสเซน โมห์เซนี เอเจอี รัฐมนตรีข่าวกรอง หลังมีรายงานว่าเขาไม่ลงรอยกับนายเอสฟานเดียร์ ราฮีม มาชาอี ซึ่งนายอาห์มาดิเนจาดเลือกให้เป็นรองประธานาธิบดีอันดับหนึ่ง แต่ผู้นำสูงสุดคัดค้าน นายมาชาอีเคยตกเป็นประเด็นร้อนจากคำกล่าวว่าอิหร่านเป็นมิตรกับชาวอิสราเอลเมื่อปีที่แล้ว ทำให้อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี สั่งให้นายอาห์มาดิเนจาดปลดเขาออก นอกจากนี้ สมาชิกสภา 210 คน จาก 290 คน ลงชื่อสนับสนุนนายเอเจอี และว่าเขาสอบผ่านบททดสอบในการปกป้องผู้นำสูงสุดของอิหร่าน. -สำนักข่าวไทย

2009-07-29 15:39:50

สหรัฐขยายเวลาคว่ำบาตรพม่า​

​

วอชิงตัน 29 ก.ค. - ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐขยายเวลาการคว่ำบาตรพม่าเมื่อวานนี้ ซึ่งรวมทั้งการห้ามนำเข้าอัญมณี ในช่วงที่พม่าเตรียมตัดสินคดีฝ่าฝืนคำสั่งกักบริเวณในบ้านพักของนางออง ซาน ซู จี ในวันศุกร์นี้

ทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโอบามาได้ลงนามในกฎหมายที่ได้รับความเห็นชอบอย่างท่วมท้นจากสภาคองเกรสในการขยายระยะเวลาคว่ำบาตรพม่า โดยห้ามการนำเข้าสินค้าทุกชนิดจากพม่าต่อไปอีก 3 ปีจากเดิมที่จะหมดอายุลงในสัปดาห์นี้ มาตรการดังกล่าวยังเพิ่มความเข้มงวดการห้ามขายอัญมณีจากพม่า ซึ่งยังสามารถเข้าสู่ตลาดสหรัฐได้จากช่องว่างทางกฎหมาย

ส.ส.โจเซฟ โครว์ลีย์ จากพรรคเดโมแครต ผู้เสนอร่างกฎหมายฉบับนี้สู่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐต้องหยุดยั้งรัฐบาลทหารพม่า พร้อมประณามการที่พม่ากระทำรุนแรงต่อประชาชนของตนเอง จนก่อให้เกิดปัญหาผู้ลี้ภัยจำนวนมาก รวมทั้งการที่พม่าไม่ยอมให้นายบัน คี-มูน เลขาธิการสหประชาชาติได้เข้าพบนางซู จี ระหว่างการเยือนพม่าครั้งล่าสุด. -สำนักข่าวไทย

2009-07-29 12:46:51

ที่มา http://news.mcot.net

 

7 ปีกลียุค
(สัปตะที่ 70 ของดาเนียล)​

​

ความสัมพันธ์ระหว่างพระธรรมวิวรณ์กับพระธรรมดาเนียลนั้นใกล้ชิดกันมาก เราจะไม่สามารถทำความเข้าใจกับพระธรรมวิวรณ์ได้เลย ถ้าเราไม่โยงกับพระธรรมดาเนียลโดยฉพาะอย่างยิ่งจากพระธรรมดาเนียล 9:27 แต่ถ้าเรานำมาพูดโดดๆโดยไม่เริ่มต้นที่ข้อ 24 ก็จะทำให้เราหาที่มาที่ไปของ "สัปปตะที่ 70 ของดาเนียล" ไม่ได้และจะไม่เข้าใจที่มาที่ไปของคำๆนี้

ความพิเศษสุดของพระธรรมดานเนียล 9:24 -27 ซึ่งเป็นที่สนใจของพี่น้องคริสเตียนที่ศึกษาอนาคตศาสตร์ เพราะดาเนียลแท้จริงแล้วเป็นหนึ่งในชนชาติอิสราเอลที่ถูกกวาดต้อนไปเป็นเชลย ณ กรุงบาบิโลนเมื่อคราวที่กษัตริย์เนบูคัดเนสซาร์แห่งมหาอาณาจักรบาบิโลนได้ยกกองทัพถล่มกรุงเยรูซาเล็ม เผาพระวิหารหลังแรกที่สร้างโดยกษัตริย์โซโลมอน ทำลายกรุงเยรูซาเล็ม และกวาดต้อนชาวยิวไปเป็นเชลยเมื่อ 586 ปีก่อน ค.ศ. ซึ่งขณะนั้นดาเนียลยังเป็นวัยรุ่นอยู่ เมื่อเวลาผ่านไปจนกระทั้งดาเนียลเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ คือเมื่อ 538 ปีก่อน ค.ศ. พระเจ้าทรงใช้ทูตสวรรค์กาเบรียล องค์เดียวกันกับที่พระองค์ทรงใช้มาหานางมารีย์เพื่อบอกเธอเรื่องการตั้งครรภ์ของเธอ โดยเดชพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อพระผู้ช่วย ให้รอดจะบังเกิดหรือเสด็จลงมารับสภาพเป็นมนุษย์แท้ๆในครรภ์ของเธอ

เราอาจแยกการอรรถาธิบายพระธรรมดาเนียล 9:24 -27 โดยแบ่งออกเป็นหัวข้อต่างๆเพื่อความเข้าใจดังต่อไปนี้

(-1-) คำพยากรณ์นี้กินเวลา 70 สัปตะ
(-2-) สัปตะที่ 1 จนถึง สัปตะที่ 69 ได้สำเร็จแล้ว
(-3-) สัปตะที่ 70 หรือ สัปตะสุดท้าย ยังไม่สำเร็จ

รายละเอียดของแต่ละประเด็นมีดังต่อไปนี้

(-1-) คำพยากรณ์นี้กินเวลา 70 สัปตะ

ก่อนอื่นเราคงต้องทำความเข้าใจกับคำว่า "สัปตะ" เสียก่อน เป็นคนละเรื่องกับคำว่า "สัปดาห์" ที่เราคุ้นเคยว่า 1 สัปดาห์ = 7 วัน ส่วนคำ "สัปตะ" หมายถึง ช่วงระยะเวลา 7 ปี และคำว่า "ปี" ในที่นี้เป็นปีของชาวยิวหรือปีแห่งพันธสัญญาเดิมซึ่งมีจำนวนวันอยู่ 360 วัน ซึ่งก็ใกล้เคียงกับปีในปฏิทินสากลซึ่งมี 365 วัน คำพยากรณ์นี้จึงกินเวลาทั้งสิ้น = 70 x 7 = 490 ปี

(-2-) สัปตะที่ 1 จนถึง สัปตะที่ 69 ได้สำเร็จแล้ว

จากดาเนียล 9:24 -26 ก็อยากสรุปสั้นๆว่า คำพยากรณ์ส่วนนี้คือคำพยากรณ์ตั้งแต่สัปตะที่ 1 จนถึงสัปตะที่ 69 ซึ่งกินเวลา = 69 X 7 = 483 ปี (ปีของยิวหรือของพันธสัญญาเดิม) สรุปอย่างง่ายๆอย่างนี้ว่า ระยะเวลา 69 สัปตะ หรือ 483 ปีนั้นก็คือระยะเวลาเริ่มต้นสัปตะที่ 1 เมื่อ 445 ปีก่อน ค.ศ. ซึ่งเป็นปีที่เริ่มลงมือซ่อมแซมกรุงเยรูซาเล็ม และเริ่มก่อสร้างพระวิหารหลังที่สอง สัปตะที่สองที่สามและต่อเนื่องมาเรื่อยๆมาสิ้นสุดที่สัปตะที่ 69 ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อ ค.ศ.33 เมื่อองค์พระเยซูคริสต์ทรงสิ้นประชนม์บนไม้กางเขน นี่คือข้อความที่ว่า "ท่านผู้หนึ่งที่ถูกเจิมจะต้องถูกตัดออก"(ดาเนียล 9:26) นี่คือการสิ้นสุดของสัปตะที่ 69 ซึ่งกินเวลา = 69 X 7 = 483 ปี ณ จุดนี้เองที่เกิดช่องว่าง คือกาลเวลาไม่ได้ต่อเนื่องด้วย"สัปตะที่ 70 ของดาเนียล" ทันที ซึ่งเป็นสัปตะสุดท้าย หรือ "7 ปีสุดท้าย" มนุษยชาติและมีเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้เกิดช่องว่างดังต่อไปนี้

(-๑-) ภายหลังการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขนเมื่อ ค.ศ. 33 ประมาณ 50 วัน เป็นวันเพนเตคอส ซึ่งพระวิญญาณบริสุทธิ์เสด็จลงมาประทับตราและสถาปนา "คริสตจักรสากล" ขึ้นอย่างเป็นทางการ เรื่องนี้บันทึกไว้ในพระธรรม กิจการบทที่ 2 ซึ่งอาจารย์เปโตรได้เทศนาในวันนั้นและมีคนที่กลับใจเสียใหม่นับพันๆคนพระกิตติคุณของพระเยซูคริสต์เริ่มประกาศไปทั่วโลก ทำให้เกิดยุคต่างๆ ของคริสตจักรจนถึงปัจจุบันกินเวลาประมาณ 2,000 ปี

ซึ่งเราได้เรียนรู้มาแล้วจาก "ทฤษฎีการแบ่งยุคสมัย" (Dispensationalism) คริสตจักรท้องถิ่นทั้งเจ็ดแห่งไม่เพียงแต่มีตัวตนเท่านั้น แต่เป็นแม่แบบของยุคต่างๆตั้งแต่ยุคอัครทูตซึ่งมีคริสตจักรเอเฟซัสเป็นแม่แบบ จนกระทั่งถึงคริสตจักรเลาดีเซียซึ่งเป็นแม่แบบของคริสตจักรยุคสุดท้ายคือคริสตจักรยุคปัจจุบัน เป็นคริสต์"อุ่นๆ" จะเป็นก็ไม่ใช่ จะตายก็ไม่เชิง เป็นคริสตจักรยุคบิดเบือนพระคำ (Apostasy)

(-๒-) กรุเยรูซาเล็มล่มสลาย ชนชาติอิสราเอลกระจักกระจายไปทั่วโลก ตั้งแต่ ค.ศ. 70 ไม่มีประเทศอิสราเอลอยู่ในแผนที่โลกประมาณ 2000 ปี สิ่งที่จำเป็นต่อคำพยากรณ์ของดาเนียลคือการมีตัวตนของประเทศอิสราเอลซึ่งได้เกิดขึ้นมาใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1948 และกรุงเยรูซาเล็มได้กลับมาอยู่ภายใต้การครอบครองของชาวยิวใหม่เมื่อปี ค.ศ. 1967 และที่สำคัญจำเป็นต้องมีพระวิหารหลังที่สามเกิดขึ้นบนภูเขาโมริยาห์ ณ กรุงเยรูซาเล็มจึงจะทำให้สัปตะที่ 70 ของดาเนียล หรือ "7 ปีสุดท้ายของมนุษยชาติ" บรรลุผลตามคำพยากรณ์ได้

(-3-) สัปตะที่ 70 หรือ สัปตะสุดท้าย ยังไม่สำเร็จ (ดาเนียล 9:27)

“ท่านจะทำพันธสัญญาเข้มแข็งกับคนเป็นอันมากอยู่หนึ่งสัปตะ ท่านกระทำให้การถวายสัตวบูชา และเครื่องบูชาอื่นๆหยุดไปครึ่งสัปตะ ผู้ที่จะทำให้เกิดความวิบัตินั้น จะมาบนปีกของสิ่งน่าสะอิดสะเอียน จนความอวสานได้กำหนดไว้ จะถูกเทลงเหนือผู้กระทำให้เกิดความวิบัตินั้น” (ดาเนียล 9:27)

"สัปตะที่ 70 ของดาเนียล" จากพระธรรมดาเนียล 9:27 ยิ่งใหญ่มากจริงๆที่นักอนาคตศาสตร์ทั่วโลกจับตาดูอย่างไม่กระพริบ ถึงแม้นักอนาคตศาสตร์อาจมีความเห็นที่แตกต่างกัน บ้างก็ว่า "สัปตะที่ 70 ของดาเนียล" ได้เกิดขึ้นแล้วต่อเนื่องทันทีกับสัปตตะที่ 69 ซึ่งตรงกับ ค.ศ. 33 เมื่อองค์พระเยซูคริสต์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน แต่ดูเหมือนว่าส่วนมากจะมีความเห็นว่ายังไม่สำเร็จ คำพยากรณ์ในดาเนียล 9:27 ยังไม่เกิดขึ้น เพราะเกิดช่องว่างของกาลเวลาเนื่องจากการเกิดของคริสตจักรยุคต่างๆซึ่งดาเนียลเองก็มองไม่เห็น อย่างไรก็ตาม นักอนาคตศาสตร์ได้แบ่ง "สัปตะที่ 70 ของดาเนียล" ซึ่งจะกินเวลา 7 ปี ออกเป็นจุดต่างๆดังต่อไปนี้

(-๑-) ยุคแสนเข็น (สามปีครึ่งแรก) (Time of Sorrows)
(-๒-) จุดแห่งความสะอิดสะเอียนจนเกิดมหาวิบัติ (The Abomination of Desolation) จุดกึ่งกลาง
(-๓-) มหากลียุค (สามปีครึ่งหลัง) (Great Tribulation)

รายละเอียดแต่ละประเด็นมีดังต่อไปนี้

(-๑-) ยุคแสนเข็น (สามปีครึ่งแรก) (Time of Sorrows) เราทราบแล้วว่า "สัปตะที่ 70 ของดาเนียล" นั้นเป็นเจ็ดปีสุดท้ายของมนุษยชาติ ในการเริ่มต้นนั้น ดาเนียล 9:27 บอกเราว่า “ท่านจะทำพันธสัญญาเข้มแข็งกับคนเป็นอันมากอยู่หนึ่งสัปตะ…" (ดาเนียล 9:27) คำว่า “ท่าน" ในที่นี้นักอนาคตศาสตร์ลงความเห็นว่านี่คือ "ปฏิปักษ์พระคริสต์" (Antichrist) เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในวาระสุดท้ายของมนุษยชาติ

เป็นบุคคลที่ซาตานได้เข้าสิงด้วยตัวของซาตานเอง เช่นเดียวกับที่เคยทำกับยูดาอิสการิโอด เป็นบุคคลที่มีความโดดเด่นในทางการเมือง และที่สำคัญเป็นตัวตั้งตัวตีในการทำสนธิสัญญาสันติภาพซึ่งกินเวลา 7 ปีพอดิบพอดี สนธิสันญานี้ทำขึ้นเพื่อปกป้องประเทศอิสราเอล เพื่อที่คนอิสราเอลจะไม่ต้องพะว้าพะวงกับศึกเหนือเสือใต้ และที่สำคัญเพื่อที่ชนชาติอิสราเอลจะมีโอกาสได้สร้างพระวิหารหลังที่สาม

แม้ว่าในยุคปัจจุบันเราทราบดีว่า มีองค์กรชาวยิวจำนวนมากที่ก่อสร้างขึ้นมาเพื่อการทำอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในพระวิหาร และพวกเขาพยายามสุดความสามารถที่จะสร้างพระวิหารขึ้นให้ได้ บนภูเขาโมริยาห์ซึ่งเป็นที่ๆอับราฮัมถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา และเป็นที่ตั้งเดิมของพระวิหารหลังที่หนึ่งและหลังที่สอง นักอนาคตศาสตร์ทั่วโลกกำลังจับตาดูเรื่องนี้อยู่ว่าจะลงมือสร้างจริงๆเมื่อใด

(-๒-) จุดแห่งความสะอิดสะเอียนจนเกิดมหาวิบัติ (The Abomination of Desolation) จุดกึ่งกลาง เรื่องนี้ยากแก่ความเข้าใจเพราะเป็นการแปลคำมาจากภาษาฮีบรู ที่ชาวยิวใช้เรียกสิ่งที่พวกเขาคิดว่าน่าสะอิดสะเอียนที่สุด และถ้าสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนเกิดขึ้นแล้วผลที่ตามก็คือมหาวิบัติ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการนำรูปเคารพเข้าไปตั้งยังสานที่ที่บริสุทธิ์ของพระวิหารเพื่อการนมัสการ แทนที่จะเป็นพระเยโฮวาห์พระเจ้าเที่ยงแท้แห่งอิสราเอล ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้น สิ่งที่ตามมาก็คือมหาวิบัติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ข้อความที่ดาเนียลบอกเราเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ "…ท่านกระทำให้การถวายสัตว์บูชา และเครื่องบูชาอื่นๆหยุดไปครึ่งสัปตะ ผู้ที่จะทำให้เกิดความวิบัตินั้น จะมาบนปีกของสิ่งน่าสะอิดสะเอียน…" (ดาเนียล 9:27) แปลอย่างง่ายๆก็คือเมื่อได้เริ่มเซ็นสัญญาสันติภาพแล้ว อิสราเอลก็จะสร้างพระวิหารหลังที่สาม แล้วปฏิปักษ์พระคริสต์จะเข้าไปยังที่ที่บริสุทธิ์แห่งพระวิหาร เมื่อถึงจุดกึ่งกลางของสัปตะที่ 70 ของดาเนียล คือสามปีครึ่ง แล้วสั่งห้ามการถวายสัตวบูชาและประกาศว่าตนเองคือพระเจ้า การกระทำของปฏิปักษ์พระคริสต์ก็เป็นที่น่าสนใจของนักอนาคตศาสตร์ และกำลังมองไปข้างหน้าว่าเวลานั้นคือเมื่อใด ?

(-๓-) มหากลียุค (สามปีครึ่งหลัง) (Great Tribulation) นี่คือเหตุการณ์แห่งความโกลาหล ที่เกิดขึ้นกับมนุษยชาติบนโลกใบนี้ ความทุกขเวนาอย่างไม่เคยมีมาก่อนเลย พระเยซูได้ตรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "ด้วยว่าในคราวนั้น จะเกิดความทุกข์ลำบากใหญ่ยิ่ง อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มโลกมาจนถึงทุกวันนี้ และในเบื้องหน้าจะไม่มีต่อไปอีก" (มัทธิว 24:21) มหากลียุคมีอีกชื่อหนึ่งว่า "เวลาแห่งความทุกข์ลำบากของยาโคบ" (Time of Jacob's trouble)

​

สามทฤษฎีเกี่ยวกับเรื่อง "การถูกรับขึ้นไปทั้งเป็น"

เป็นที่แน่ชัดว่าบทเรียนที่ยิ่งใหญ่ ณ บนภูเขาแห่งการจำแลงพระกายขององค์พระเยซูคริสต์ต่อหน้าต่อตาเปโตร ยอห์นและยากอบ พบว่ามีบุคคลสำคัญแห่งพันธสัญญาเดิม สองท่านมาสนทนากับพระเยซูคริสต์ในเรื่องที่สำคัญสุดยอดในประวัติศาสตร์แห่งการสนทนาของมนุษย์ชาติ บุคคลสองท่านก็คือโมเสสซึ่งได้ตายไปก่อนหน้านั้นแล้วประมาณ 1500 ปี และเอลียาห์ซึ่งได้ถูกรับขึ้นไปก่อนหน้านั้นประมาณ 800 ปี

เอลียาห์นั้นไม่เคยได้ชิมกับความตายเลยว่าเป็นอย่างไร ทั้งสองสนทนาเรื่องสำคัญสุดยอดคือ "เรื่องการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน" ซึ่งกำลังจะเกิดในอีกไม่นาน เพราะถ้าเรื่องนี้พลาดก็แปลว่าโมเสสหมดหวังและเอลียาห์ก็หมดหวัง และมนุษย์ทุกคนต้องเข้าสู่ความพินาศ เพราะความรอดจะเป็นไปไม่ได้เลยถ้าไม่มีการสิ้นพระชนม์บนไม้กางเพื่อรับแบกบาป เหตุการณที่ยิ่งใหญ่ ณ ภูเขาแห่งการจำแลงพระกายบอกเราว่า

คริสเตียนที่บังเกิดใหม่จะมีประสบการณ์ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งคือเผชิญกับความตายเช่นเดียวกับโมเสส หรือไม่ก็ไม่รู้ว่าความตายเป็นอย่างไรเช่นเดียวกับเอลียาห์ คือจะมีคริสเตียนยุคหนึ่งสมัยหนึ่งหรือกาลเวลาหนึ่งที่จะ "ถูกรับขึ้นไปทั้งเป็น" คือได้รับการเปลี่ยนแปลงเพื่อเข้าสู่ความเป็นอมตะภายในกระพริบตา อาจารย์เปาโลได้ยืนยันในเรื่องนี้ว่า "ในข้อนี้เราขอบอกให้ท่านทราบ ตามพระวจนะขององค์พระผู้เป็นเจ้าว่า เราผู้ยังเป็นอยู่และคอยองค์พระผู้เป็นเจ้าเสด็จมา จะล่วงหน้าไปก่อนคนเหล่านั้นที่ล่วงหลับไปแล้วก็หามิได้

ด้วยว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมาจากสวรรค์ด้วยพระดำรัสสั่ง ด้วยสำเนียงเรียกของเทพบดี และด้วยเสียงแตรของพระเจ้า และคนทั้งปวงในพระคริสต์ที่ตายแล้วจะเป็นขึ้นมาก่อน หลังจากนั้นเราทั้งหลายซึ่งยังเป็นอยู่ จะถูกรับขึ้นไปในเมฆ พร้อมกับคนเหล่านั้น และจะได้พบองค์พระผู้เป็นเจ้าในฟ้าอากาศ อย่างนั้นแหละ เราก็จะอยู่กับองค์พระผู้เป็นเจ้าเป็นนิตย์ เหตุฉะนั้นจงปลอบใจกันด้วยถ้อยคำเหล่านี้เถิด" (1 เธสะโลนิกา 4:15-18)

พวกที่โจมตีอาจารย์เปาโลกก็เยาะเย้ยจากที่อาจารย์เปาโลเขียนว่า "เราผู้ยังเป็นอยู่" และ "เราทั้งหลายซึ่งยังเป็นอยู่" พวกเขาเยาะเย้ยในทำนองว่าอาจารย์เปาโลหลงตัวเอง เห็นไหมละอาจารย์เปาโลและเพื่อนๆก็ตายไปนานแล้ว ไม่เห็นมีอะไรเกิดขึ้นเลย แท้ที่จริงแล้วเมื่ออาจารย์เปาโลบอกว่า "เราผู้ยังเป็นอยู่" และ "เราทั้งหลายซึ่งยังเป็นอยู่" อาจารย์เปาโลหมายถึงคริสเตียนที่บังเกิดใหม่ในยุคหนึ่งสมัยหนึ่งซึ่งอาจเป็นยุคของเราที่กำลังอ่านอรรถาธิบายอยู่นี้ก็เป็นได้ ใครจะรู้ ?

อย่างไรก็ตามในความสัมพันธ์กับ "สัปตะที่ 70 ของดาเนียล" หรือ เจ็ดปีสุดท้ายของมนุษย์ชาติ ในวงการคริสเตียนที่สนใจอนาคตศาสตร์ได้แบ่งทฤษฎี "การถูกรับขึ้นไปทั้งเป็น" ออกเป็น 3 ทฤษฎี หรือ 3 ความเห็น ณ จุดนี้ให้เรามาทำความเข้าใจความเห็น 3 ความเห็นเสียก่อน ที่เกี่ยวข้องกับหลักข้อเชื่อทางอนาคตศาสตร์เรื่อง "การถูกรับขึ้นไปทั้งเป็น" (The Rapture of the Church) ผู้ที่ศึกษาแนวความคิดทั้งสามนี้ไม่ควรฟันธงว่าใครถูกต้องที่สุด (เพราะจริงๆแล้วไม่มีใครทราบนอกจากพระเจ้าแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น) ความเห็นทั้ง 3 ความเห็นเรื่องการถูกรับขึ้นไปทั้งเป็นที่เกี่ยวข้องกับ "สัปตะที่ 70 ของดาเนียล" มีดังต่อไปนี้

(-1-) ถูกรับขึ้นก่อนเข้าสู่ยุคแสนเข็น 70 (PreTtribulation Rapture)
(-2-) ถูกรับขึ้นไปกลางสัปตะที่ 70 (Mid Tribulation Rapture)
(-3-) ถูกรับขึ้นไปหลังมหากลียุค (Post Tribulation Rapture)

เนื่องจาก "สัปตะที่ 70 ของดาเนียล" ก็คือ "7 ปีสุดท้ายของมนุษยชาติก่อนการเสด็จมาครั้งที่สองขององค์พระเยซูคริสต์ เราจินตนาการได้ไม่ยากเกี่ยวกับ 3 ทฤษฎีหรือ 3 ความเห็นที่ การถูกรับขึ้นจะเกิดขึ้น "ก่อนยุคแสนเข็น" เริ่มต้น คือพอเริ่มสัมผัสกับ "สัปตะที่ 70 ของดาเนียล" ก็จะมีคริสเตียนที่บังเกิดใหม่อันตรธานหายจากโลกนี้ไป หรือว่าเกิด "กลางสัปตะที่ 70 ของดาเนียล" ก็แปลว่าเมื่อสิ้นสุด "ยุคแสนเข็น" และก่อนเข้าสู่ "มหากลียุค" ซึ่งเป็นความเลวร้ายที่สุดสามปีครึ่งหลัง ก็จะมีคริสเตียนที่บังเกิดใหม่อันตรธานหายจากโลกนี้ไป ส่วนพวกพวกที่เชื่อว่าการถูกรับขึ้นไปเกิดขึ้น "หลังมหากลียุค"ก็แปลว่าเมื่อ "สัปตะที่ 70 ของดาเนียลสิ้นสุดลง" ก็จะมีคริสเตียนที่บังเกิดใหม่อันตรธานหายจากโลกนี้ไป

{-4-} ประเด็นต่างๆที่น่าคิดเกี่ยวกับทฤษฎีเรื่อง "การถูกรับขึ้นไปทั้งเป็น"

ในการศึกษาอนาคตศาสตร์นั้นให้เรา "เฝ้าระวัง" จะปลอดภัยกว่า เราควรยึดเอาพระดำรัสขององค์พระเยซูคริสต์ที่ทรงตรัสสอนว่า "แต่วันนั้น โมงนั้นไม่มีใครรู้ ถึงบรรดาทูตสวรรค์หรือพระบุตรก็ไม่รู้ รู้แต่พระบิดาองค์เดียว" (มาระโก <TIME w:st="on" hour="13" minute="32"></TIME>13:32) ดังนั้นในการอรรถาธิบายก็จะได้นำเอาความคิดเห็นต่างๆเพื่อเราจะได้รู้ คริสเตียนคนอื่นๆคิดอย่างไร แต่อย่าให้เรา "ฟันธง" คือให้เรารอคอยท่าพระเจ้าดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด คือเราจะต้องไม่เพิกเฉยหรือไม่สนใจที่จะศึกษาอนาคตศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพระธรรมวิวรณ์

การที่จะมีคริสเตียนที่บังเกิดใหม่กลุ่มหนึ่ง ในช่วงระยะหนึ่งของกาลเวลาที่จะได้รับฤทธิ์เดชจากพระเจ้าให้ได้รับ"การถูกรับขึ้นไปทั้งเป็น" จึงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน "เพราะว่าไม่มีสิ่งหนึ่งสิ่งใดซึ่งพระเจ้าทรงกระทำไม่ได้" (ลูกา <TIME w:st="on" hour="13" minute="37"></TIME>1:37)

ที่มา http://nakhonsawanchurch.net/index.php?option=com_content&view=article&id=124:-11-&catid=35:2008-11-20-16-07-25

 

วันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6818 ข่าวสดรายวัน


ไข่มุกพร้อมแล้วชิงมิสยูนิเวิร์ส



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>เตรียมขึ้นเครื่องไปร่วมกิจกรรมการประกวดนางงามจักรวาล-มิสยูนิเวิร์ส วันที่ 31 ก.ค.นี้

กองประกวดมิสไทยแลนด์ ยูนิเวิร์ส ค่ายช่อง 7 สี จึงเปิดตัว น.ส.ชุติมา ดุรงค์เดช หรือ "ไข่มุก" มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สประจำปี 2552 ในชุดที่จะไปใช้ในการประกวดให้ชมก่อน

ชุดเด่นที่สุดมาจากประกวดโครงการออก แบบชุดประจำชาติ เป็นผลงานออกแบบของ นายธัชกร ตั้งธนากรกิจ อายุ 29 ปี ในชื่อชุดว่า "ญ.งามท้องถิ่นสุวรรณภูมิ" โดยมี นางนาถ จิรกิติ แห่งห้องเสื้อ โนริโกะ (Noriko) เป็นผู้ดำเนินการตัดเย็บ

ไข่มุก กล่าวว่า ชอบชุดนี้มาก รู้สึกโชคดีที่ได้ใส่ชุดนี้ เหมือนได้เป็นหัวหน้าเผ่าหรือเจ้าหญิง

ด้านธัชกร เจ้าของผลงาน กล่าวว่า ได้แนวคิดมาจากเครื่องประดับของชาวไทยภูเขาที่เป็นสัญลักษณ์บ่งบอกถึงความงาม กล้าหาญ เข้มแข็ง และอดทน ของหญิงไทย ประกอบด้วย ห่วงหลายขนาดซ้อนกันตั้งแต่คอถึงบ่า สไบแท่งพาดผ่านไหล่ยาวจรดพื้น มวยผม กำไลข้อแขน กำไลข้อมือ และกำไลข้อเท้า <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

เครื่องประดับทั้งหมดผลิตจากทองเหลืองชนิดกลวง เส้นผ่าศูนย์กลาง 6 มิลลิเมตร ผ่านกระบวนการดัดด้วยเครื่องและความร้อนให้เป็นวงตามแบบและขนาดที่แตกต่างกันไป และดัดด้วยมืออีกครั้ง ก่อนเชื่อมวงทองเหลืองให้ติดกัน ขัดแต่งด้วยตะไบและกระดาษทรายหยาบ และนำมาชุบด้วยน้ำยาที่มีส่วนผสมของทองคำแท่ง 98 เปอร์เซ็นต์เป็นขั้นตอนสุดท้าย หนักรวม 2.4 กิโลกรัม

"ชุดที่ออกมามีความหมายลึกซึ้งมากกว่าเสื้อผ้าภายนอก โดยคำนึงถึงลักษณะ และรูปร่างของไข่มุกเป็นธีมในการออกแบบเสื้อผ้า มีความเป็นกะเหรี่ยงที่สวมใส่ห่วงทองเหลืองเป็นจุดขาย สื่อให้เห็นถึงความงาม กล้าหาญ เข้มแข็ง และอดทน จึงนำมาเป็นนิยามของหญิงไทย นอกจากนี้ ช้าง บริเวณหน้ากระโปรงยังบ่งบอกความเป็นไทยอย่างชัดเจน โดยเป็นสิ่งที่คนไทยและชาวต่างชาติคุ้นเคย โดยทั้งหมดใช้เวลาตัดเย็บ 1 เดือน หวังว่าจะประทับใจทั้งคนไทยและต่างชาติ" นายธัชกร กล่าว

สำหรับชุดราตรีหลักเป็นของห้องเสื้ออามอเร่ (Amore) ได้แก่ ชุดราตรียาวผ่าหน้าสีเขียว เทอร์ควอยส์ เน้นความเรียบหรูดูสง่า โดยเฉพาะช่วงขาที่เรียวยาวของผู้สวมใส่ เติมความโดดเด่นของชุดด้วยการปักคริสตัลบริเวณช่วงอก นอก จากนี้ ยังมีชุดราตรีสำหรับสวมใส่ในการเข้าร่วมกิจกรรมของกองประกวดอีกหลายชุด อาทิ ชุดราตรียาวเกาะอกสีแดงเพลิง ชุดราตรียาวสีช็อกกิ้ง พิงก์ผสมกลิ่นอายของชุดไทย ฯลฯ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ไข่มุก กล่าวก่อนไปประกวดว่า มีความมั่นใจเต็มร้อยที่จะทำให้ประทับใจทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ เตรียมต่างหู และขนตาปลอมไปเป็นของที่ระลึกให้กับเพื่อนนางงามด้วยกัน เพราะรุ่นพี่ที่เคยไปประกวด บอกมาว่าเพื่อนนางงามชอบขนตาปลอมของไทย และจะนำเรื่องการไหว้ไปแสดงให้ทุกคนรู้จักเมืองไทย ด้วยการบอกว่า การไหว้เป็นการแสดงความเคารพ ซึ่งแสดงถึงความอ่อนโยนของคนไทย พร้อมทั้งอธิบายให้ทราบว่า เมืองไทยมีวัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม รวมถึงผู้คนที่ยิ้มง่าย อ่อน น้อม ถ่อมตน และเป็นคนจิตใจดี

นอกจากนี้ ไข่มุกกล่าวว่า ได้ศึกษาภาพการประกวดในปีก่อนๆ ไว้ทั้งหมด แม้กระทั่งคำถามที่อาจจะเจอบนเวที ก็ได้เตรียมพร้อมทุกอย่าง โดยมี แก้ม กวินตรา โพธิจักร มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ประจำปี 2008 และกวาง ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส 2007 คอยแนะนำในเรื่องการทำตัวในกองประกวด

หากว่ามีการแสดงในการประกวดครั้งนี้ ไข่มุกกล่าวว่า อยากเผยแพร่เพลงพระราชนิพนธ์ "แสงเดือน" ทั้งเนื้อร้องไทยและภาษาอังกฤษ โดยภาษาไทยทำให้ทราบถึงความอ่อนหวานของภาษา และภาษาอังกฤษทำให้ทราบถึงความหมาย โดยจะบอกต่อด้วยความภาคภูมิใจว่า ในหลวงทรงมีพระปรีชาในเรื่องของศิลปะและดนตรี นอกเหนือจากเรื่องการบ้านการเมืองที่ได้ทรงอยู่

สำหรับการประกวดรอบตัดสินกำหนดจัดขึ้น ที่แอตแลนติส พาราไดซ์ ไอส์แลนด์ รีสอร์ต เกาะพาราไดซ์ ประเทศบาฮามาส ตรงกับวันที่ 24 ส.ค. เวลา 08.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย

อากาศเปลี่ยนอย่าโทษดาว

หมุนก่อนโลก



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>สมาคมดาราศาสตร์ไทยรายงานว่า ลมฟ้าอากาศของ โลกเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอนับตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์มา สาเหตุของการเปลี่ยนแปลงยังไม่มีใครทราบ ทฤษฎีหนึ่งที่เสนอโดย เนียร์ ชาวีฟ และ แจน ไวเซอร์ กล่าวว่า ความเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของอากาศโลกในช่วง 500 ล้านปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่ง ซึ่งอาจมากราวสองในสามจนถึงสามในสี่ เกิดจากการที่ระบบสุริยะเคลื่อนที่ผ่านเข้าไปในแขนต่างๆ ของดาราจักรทางช้างเผือก

ทฤษฎีนี้ดูมีหลักฐานสนับสนุนที่ดี เพราะพบว่าการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศโลกในอดีตมีคาบประมาณ 140 ล้านปี สอดคล้องกับความถี่ของการที่ระบบสุริยะเคลื่อนที่ผ่านเข้าไปในแขนของดาราจักร

แนวคิดพื้นฐานของทฤษฎีนี้คือ เมื่อระบบสุริยะเคลื่อนที่ผ่านเข้าไปในแขนของดาราจักรทางช้างเผือก ปริมาณรังสีคอสมิกที่โลกได้รับจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากในแขนของดาราจักรจะมีซูเปอร์โนวามากกว่าที่ว่างระหว่างแขน สิ่งนี้มีผลต่อการกำเนิดเมฆเพิ่มขึ้นและทำให้ความรุนแรงของปฏิกิริยาเรือนกระจกรุนแรงขึ้น

นักวิทยาศาสตร์ประเมินความถี่ของเหตุการณ์นี้โดยอาศัยสัณฐานของดาราจักรทางช้างเผือกตามผังดาราจักรที่เคยสำรวจในอดีต ซึ่งโครงสร้างของทางช้างเผือกตามที่เข้าใจก่อนหน้านี้คือ เป็นดาราจักรแบบก้นหอยที่มีสี่แขน

แต่นับจากปี 2546 นักดาราศาสตร์ได้มีการปรับปรุงแผนที่ดาราจักรใหม่ให้สอดคล้องกับข้อมูลการสำรวจ โครงสร้างของดาราจักรตามที่ประเมินใหม่นี้ต่างจากความเข้าใจเดิมอยู่พอสมควร โดยเฉพาะในปี 2551 ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์อวกาศสปิตเซอร์ เผยว่า ทางช้างเผือกแท้จริงมีแขนสองแขน และเป็นชนิดก้นหอยมีคาน นอกจากนี้ ในปี 2552 ก็มีข้อมูลเพิ่มเติมมาอีกว่า ดาราจักรของเรามีมวลมากกว่าที่เคยคิดไว้มาก และเคลื่อนที่เร็วกว่าที่เคยเข้าใจด้วย นั่นหมายความว่า ระยะเวลาและความถี่ที่โลกจะผ่านไปยังแขนต่างๆ ของดาราจักรที่เคยคำนวณไว้ย่อมเปลี่ยนไปด้วย

"แม้งานวิจัยก่อนหน้านี้จะพบความสอดคล้องกันระหว่างคาบ 140 ล้านปีของการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศกับคาบการเคลื่อนฝ่าเข้าไปในแขนดาราจักรของโลก แต่ข้อมูลใหม่เกี่ยวกับโครงสร้างของดาราจักรทางช้างเผือกนี้ ทำให้ความสัมพันธ์ดังกล่าวหายไปทันที" จากรายงานการวิจัยที่เขียนโดย เอเดรียน เมอลอตต์, แอนดรู โอเวอร์โฮลต์ และ มาร์ติน พอห์ล

ต้นไม้ปกป้องตัวเองให้พ้นภัยจากสัตว์-โรค



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
</TD></TR></TBODY></TABLE>ดร.แอนเดรียส บักแมร์ จากมหาวิทยาลัยเวียนนา ประเทศออสเตรีย เปิดเผยว่า ต้นไม้สามารถกำจัดตัวเองได้ เมื่อถูกสัตว์หรือโรครุกราน ซึ่งนับเป็นการปกป้องภัยของมัน

"เมื่อถูกสัตว์ทำร้ายหรือติดเชื้อจากโรค ต้นไม้สามารถกำจัดบางส่วนของมันเพื่อปกป้องส่วนที่เหลือ อย่างกรณีการติดโรค เมื่อส่วน นั้นตายก็จะทำให้โรคตายไปด้วย ต้นไม้จะตั้งโปรแกรมพิเศษเพื่อปกป้องส่วนที่สามารถปกป้องได้ มันยอมตายบางส่วน แต่สามารถเก็บรักษาส่วน ที่สำคัญไว้ มันไม่ใช่ตายเพราะถูกความร้อนสูง" ดร.บักแมร์ กล่าว

ต้นไม้ยังมีวิธีการป้องกันตนเองแตกต่างไปจากสัตว์ เพราะไม่สามารถวิ่งหนีศัตรู ทั้งยังมีระบบภูมิคุ้มกันในรูปแบบของอาวุธเคมี เพื่อต่อสู้กับโรคอย่างเชื้อรา นอกจากนี้ คณะของดร.บักแมร์กำลังศึกษาว่า การกำจัดบางส่วนของต้นไม้นั้นเกี่ยวข้องกับใบไม้ที่ร่วงหล่นในฤดูใบไม้ร่วงหรือไม่ด้วย

สามีมะกันสาปส่งเมียฆ่ากินลูก



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ก่อนสยอง-ภาพนางออตตี้ ซานเชซ หญิงอเมริกัน ดูแลหนูน้อยสก็อตตี้ เมื่อ 18 ก.ค. ก่อนก่อเหตุสยองฆ่าและกินอวัยวะลูก ซึ่งนายสก็อตต์ บุคโชลซ์ สามี (ภาพเล็ก) หวังให้ศาลตัดสินประหารภรรยา ตามข่าว เมื่อ 29 ก.ค. (เอพี)

</TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อ 29 ก.ค. จากกรณีคดีสยองโลกนางออตตี้ ซานเชซ วัย 33 ปีชาวเมืองซานอันโตนิโอ รัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา ใช้ทั้งมีดและดาบตัดคอลูกน้อยทารกวัย 3 สัปดาห์ เปิดกะโหลกควักกินสมอง รวมทั้งตัดนิ้วเท้า 3 นิ้วมากิน ก่อนใช้มีดแทงอก-ปาดคอตัวเอง โดยให้การว่า ปิศาจสั่งให้ทำนั้น เอพีรายงานความคืบหน้าว่า นางออตตี้ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมอุกฉกรรจ์ ขณะที่นายสก็อตต์ เวสลีย์ บุค โชลซ์ สามีนางออตตี้ เรียกร้องให้ศาลตัดสินโทษประหารชีวิตภรรยา ด้วยความเจ็บช้ำใจที่ด.ช.สก็อตตี้ ลูกชายถูกฆ่า

"เธอฆ่าลูกชายผม สมควรตกนรกหมกไหม้" นายสก็อตต์ กล่าวและว่า นางออตตี้มีประวัติเข้ารับการบำบัดทางจิต เมื่อ 2-3 เดือนก่อน เพราะเป็นโรคจิตเภทอยู่แล้ว แต่หลังคลอดก็มีอาการซึมเศร้า ซึ่งนางออตตี้ก็ไปรับการบำบัดอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ยอมกินยา อย่างไรก็ตาม เท่าที่ผ่านมาก่อนเกิดเหตุ นางออตตี้ก็ดูเป็นแม่ที่รักและใส่ใจลูกมาก อุ้มและให้นม ดูแลทุกอย่างเป็นอย่างดี

นายสก็อตต์ วัย 33 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเหมือนกัน พบกับนางออตตี้เมื่อ 6 ปีก่อนขณะที่เรียนเป็นผู้ช่วยเภสัชกรอยู่ด้วยกัน นางออตตี้เพิ่งไปเข้าโรงพยาบาลรักษาอาการซึมเศร้าเมื่อวันที่ 20 ก.ค. และไม่ถึงวันก็กลับมาบ้าน ก่อนเกิดเหตุ 1 สัปดาห์ นายสก็อตต์ มีปากเสียงกับนางออตตี้อย่างรุนแรง ก่อนเก็บข้าวของออกจากบ้านไป ทิ้งนางออตตี้อยู่กับแม่และพี่สาว เบื้องต้นมีความเป็นไปได้ว่าความเครียดจากการทะเลาะกับสามี บวกอาการของโรคซึมเศร้าหลังคลอดบุตร อาจมีส่วนทำให้นางออตตี้ก่อเหตุสุดสะเทือนขวัญ

ขณะนี้ นางออตตี้ถูกส่งตัวไปยังเรือนจำเขตบีซาร์ มีวงเงินประกันตัวสูง 1 ล้านดอลลาร์ หรือ 35 ล้านบาท ภายหลังเสร็จจากการบำบัดจิตที่โรงพยาบาลยูนิเวอร์ซิตี้เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

 

UFO ส่งรหัสเตือนภัยชาวโลก และมีคนถอดรหัสได้แล้ว !!!

UFO ส่งรหัสว่า IVr

IV = ภาษากรีกโรมัน คือ 4
r= ภาษากรีก คือ Gamma
Gamma = Y
Y = Year

ดังนั้น IVr = 4 Year
วีดีโอนี้ถ่ายเมื่อ 9 Dec 2008
ผลลัพพ์ คือ 2008 + 4 = 2012

UFO พยายามจะบอกอะไรชาวโลก
และในปี 2012 จะต้องเกิดอะไรกับโลกใบนี้แน่ๆ

รับชมที่นี่ครับ - version แปลรหัสแล้ว
[ame="http://www.youtube.com/watch?v=BT6X4jxd4Ok"]YouTube - version ???????????[/ame]

ส่วนตัวอักษรกรีกผมได้แนบภาพประกอบมาให้ดูด้วย ลองดูควบคู่กันไปน่ะครับ
​

 

วิเคราะห์เรื่องภัยพิบัติในปี ค.ศ.2012​

​

เรื่องวันพิพากษาโลก ที่ได้ถูกเลื่อนจากปี ค.ศ.2012 ไปเป็นปี ค.ศ.2017 นั้น ไม่ได้หมายความว่าปี ค.ศ.2012 จะไม่เกิดเหตุการณ์อะไรเลยนะครับ ผมคิดว่ามันยังจะต้องมีเรื่องร้ายแรงอะไรบางอย่างเกิดขึ้น เพียงแต่ยังไม่ใช่ปีที่สิ้นสุดของการชำระโลกเท่านั้นเองครับ

ในพุทธทำนายจากศิลาจารึกก็ได้บอกเอาไว้ว่า:-

เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน

ปี ค.ศ.2012 ตรงกับปีพุทธศักราช 2555 ถ้าเราลดจำนวนปีลง 48 ปีให้ตรงกับความเป็นจริงในพุทธทำนาย ก็จะตรงกับปี พ.ศ.2507 (ปีมะโรง) ซึ่งมีคำทำนายเอาไว้ว่า "คนจะเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน" ซึ่งแปลความหมายออกมาได้เป็นหลายอย่าง

เช่นในปี ค.ศ.2012 ขั้วแม่เหล็กโลกอาจจะเกิดการพลิกกลับขั้วอย่างรุนแรง ทำให้พลังงานไฟฟ้าขัดข้องไปทั่วโลก เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ที่ให้ความสะดวกสบายทุกอย่างบนโลกนี้ใช้การไม่ได้ เครื่องจักรกลทุกอย่างหยุดทำงาน เพราะความแปรปรวนของสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ผู้คนบนโลกนี้จะเกิดความโกลาหล ปั่นป่วนกันไปหมดทั้งโลก ฯลฯ

คำพยากรณ์โลกของ อ.เลือง มินห์ ด๋าง ได้บอกเอาไว้ว่า<O</O
<O</O
เมื่อสิ้นศตวรรษที่ 20 นี้ สนามแม่เหล็กไฟฟ้าของโลกจะมีการเปลี่ยนแปลง สลับสับสนกันอย่างยุ่งเหยิงไฟฟ้าบนโลกจะขัดข้อง การติดต่อสื่อสารรับรู้กันทั่วโลกโดยอิเลคทรอนิค จะใช้การไม่ได้ภัยพิบัติหลายๆ อย่างจะเกิดขึ้น คนที่เคยสนุกสุขสบายจะทนต่อสภาวะนั้นไม่ได้ เดือดร้อนเรื่องที่พัก อาหาร เครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ผู้คนจะเกิดความเครียด คลุ้มคลั่ง ปั่นป่วนกันไปหมดทั้งโลก <O</O
<O</O
ในวันนั้นน้ำ 1 ลิตรจะมีค่ามากกว่าทองคำ 1 กิโลกรัม และอาจจะไม่สามารถแลกซื้อได้ อาหารขาดแคลนมาก นับเป็นภัยอันตรายยิ่งกว่าสงครามใดๆ ภัยนี้จะคุกคามไปทั่วโลก ผู้คนที่ทนต่อสภาวะการณ์ดังกล่าวไม่ได้จะต้องตายไป และประมาณว่าอาจตายกว่า 70 เปอร์เซนต์ทั้งโลก

จากคำทำนายนี้จะเห็นได้ว่าตรงกับเรื่อง แกนแม่เหล็กโลกกำลังพลิกกลับขั้ว
ทำให้กระแสไฟฟ้าขัดข้องไปทั่วโลก เครื่องมืออีเลคทรอนิคต่างๆ ใช้การไม่ได้โดยเฉพาะเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมกระบวนการผลิตสิ่งอุปโภค บริโภคทุกอย่างในปัจจุบันนี้ก็จะใช้การไม่ได้ไปด้วย เพราะไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้นั่นเอง

การเตรียมตัวเพื่อรับกับเหตุการณ์นี้ เราควรจะเริ่มคิดตั้งแต่บัดนี้ว่าเราจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไรเมื่อต้องพบเจอกับสภาพไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำประปา ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องใช้ไฟฟ้าไว้คอยอำนวยความสะดวกสบายแบบในปัจจุบันนี้

ที่มา คัดลอกข้อความบางส่วนมาจากหนังสือ"พลังจักรวาลรักษาโรค"<!-- google_ad_section_end -->

 

31 ก.ค. 52 มหกรรมรถยนต์
<O</O
<O</O
ภาพเมื่อวันที่ 26 ก.ค. 52 ผมเห็นนักร้อง ศรคีรี ศรีประจวบออกมาร้องเพลง “ น้ำท่วม “
<O</O
<O</O
มาวันนี้ผมเห็นผู้คนต่างขับรถออกมาเต็มท้องถนน มุ่งไปทางเดียวกัน ทำให้รถติดขัดมาก “ จะรีบไปไหนหรือครับพี่น้อง? “
<O</O
<O</O
ถ้านำสองภาพมาต่อกันแล้วเป็นเรื่องจริงขึ้นมา ผมว่าอาการน่าเป็นห่วงครับ

พื้นที่ๆน่าเป็นห่วงคือ พื้นที่ๆเก็บกักน้ำ<O</O

 

เรื่องใช้ไฟฟ้าไม่ได้นี่น่าเป็นห่วงจริงๆแบบนี้คนตกงานกันระนาว โจรเพียบ แถมที่น่าเสียดายคือจะฟังเทปธรรมมะไม่ได้แล้วนี่สิ - -*

 

เรื่องไฟฟ้า แก้ไขไว้เนิ่นๆด้วย ทางเลือกที่ผมทำอยู่ตอนนี้คือ ข้อมูลที่เป็นการถอดจากเทปของหลวงพ่อก็ดีของการฝึกฝนต่างๆ จะสามารถ ปริ้น ออกมาและจัดทำเป็นเล่มให้ดีกันน้ำได้โดยการเคลือบไว้ด้วยแผ่นพลาสติกทำให้สามารถพกใส่กระเป๋าได้เป็นเวลานานไม่เกิดการเสียหาย แนะนำสำหรับผู้ที่มีอุปกรณ์พร้อม ส่วน จำเป็นจะต้องปริ้นจากร้าน ควรจัดหาแต่ที่สำคัญเท่านั้นเพื่อลดต้นทุนของเอกสารด้วยครับเพราะมีมากมายครับ ในส่วนของข้อมูลในการฝึกสมาธิของตนควรเอาแต่ที่ตนฝึกถนัดและชอบเท่านั้น แต่ถ้าให้ดีควรมองถึงความถนัดของจริตของบุคคลในครอบครัวหรือคนใกล้ตัวที่ท่านสามารถช่วยเหลือได้ขณะนั้นเมื่อเหตุการณ์ต่างเกิดขึ้นจะได้เผื่อแผ่แก่คนรอบข้างได้อีกด้วยครับ มาบอกกล่าวไว้ตามที่ผมได้เตรียมอยู่ครับ ขอบคุณครับที่อ่าน รักษาตัวกันด้วยครับ
ปล. เตรียมไว้อยู่แค่กระเป๋าเราถือไปไม่หนักใครเมื่อถือเอง หากใครไม่ช่วยถือเราป่าวใช้ เขาช่วยเอง เจ้าอย่าเอาความหนักของของในกระเป๋าไปใส่ใจ เพราะของในกระเป๋าเราอาจจะไม่ได้หนักเสมือนสิ่งที่ใจเจ้าเอาไปถือเลย

 

ภัยพิบัติอาจจะดีสำหรับโลก

บางครั้ง ใจก็อยากให้เกิดภัยพิบัติขึ้นเร็วๆ
เผื่อว่าโลกนี้จะดีขึ้น คนเห็นแก่ตัว คนทำนาบนหลังคน
ใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์แก่ตัวและพวกพ้อง
ถ้าโลกนี้ ไม่มีมนุษย์ ความสวยงามคงบังเกิด

 

น่ากลัวค่ะ ไม่มีไฟฟ้าใช้ ระบบเศรษฐกิจ, ธนาคาร, โรงเรียน ทุกอย่างในโลกต้องหยุดอย่างถาวร
คนตกงาน โรงเรียน, มหาลัย, โรงพยาบาล, ทุกอย่างต้องใช้ไฟฟ้าหมด โลกจะกลับไปสู่ยุคโบราณอีกครั้ง

ไม่มี โทรทัศน์, วิทยุ, หม้อหุงข้าว, ตู้เย็น, เตารีด, เครื่องซักผ้า ,เครื่องปรับอากาศ, โทรศัพท์,
แล้วจะอยู่กันยังไงน้อ -*-

เผลอๆระบบคมนาคมจะใช้ไม่ได้อีกต่างหาก เช่น รถ, เครื่องบิน, เรือ, เพราะถูกสนามแม่เหล็กรบกวน
นี่มันนรกชัดๆ สมแล้วที่เรียกยุคนั้นว่า "กลียุค" แล้วที่แย่สุดๆ ยุคนั้นจะไม่มีอินเตอร์เน็ตให้เล่นกันอีกต่อไป
แงๆๆๆๆ แล้วที่แย่กว่านั้นคือ ปี 2017 คือปีแห่งวันพิพากษา

 

ไลฟ์การ์ดภูเก็ต 1 เดือน ช่วยชีวิตนักท่องเที่ยวได้กว่า 200 ราย ​

​

ภูเก็ต 30 ก.ค. - นายณัฐพล ศิริสว่าง กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล พี ลายคำ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับการว่าจ้าง จาก อบจ.ภูเก็ต ให้ทำหน้าที่ช่วยเหลือและป้องกันเหตุนักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำ บริเวณชายหาดต่าง ๆ ในพื้นที่ ตามโครงการจ้างรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หรือ ไลฟ์การ์ด ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.-18 พ.ย. 2552 ภายใต้งบประมาณ 10 ล้านบาท กล่าวว่า จากการทำงานดูแลนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำบริเวณชายหาดต่าง ๆ ตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา สามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุจมน้ำ ได้จำนวน 227 ราย

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหานักท่องเที่ยวฝ่าฝืนลงเล่นน้ำทะเล แม้จะมีการปักธงแดงในช่วงที่มีคลื่นลมแรงแล้วก็ตาม ดังนั้น ไลฟ์การ์ดจึงต้องทำงานให้หนักขึ้น เร่งทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว รวมถึงการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้ การปฏิบัติงานของไลฟ์การ์ดจะประจำจุดละ 3 คน รวม 22 จุด ตลอดแนวชายหาด 7 แห่ง โดยแบ่งหน้าที่กันทำงานอย่างชัดเจน.- สำนักข่าวไทย

2009-07-30 15:06:08

พัทลุงห่วงยอดป่วยเพิ่มรายวัน เน้นคัดกรองเข้มหวัด 2009​

​

ภูมิภาค 31 ก.ค.- สสจ.พัทลุงกำชับทุกโรงพยาบาลคัดกรองเข้มหวัด 2009 หลังพบผู้ป่วยเพิ่มรายวัน หวั่นระบาดหญิงตั้งครรภ์ ส่วนโรงเรียนอนุบาลยะลาปิด 1 วัน เร่งทำความสะอาดเพราะมีเด็กเป็นไข้ 7 ราย

นพ.บรรเจิด สุขพัฒปานันท์ แพทย์ชำนาญการพิเศษ (เวชกรรมป้องกัน) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพัทลุง เปิดเผยถึงไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ระบาดในพื้นที่ว่า ผู้ป่วยที่เข้ามารักษาตามโรงพยาบาลรัฐในแต่ละวันมีจำนวนเพิ่มขึ้น และพบว่าติดหวัด 2009 รวมยอดสะสมแล้ว 51 ราย ส่วนอำเภอที่ยังไม่พบผู้ป่วยโรคดังกล่าว คือ อำเภอบางแก้ว และศรีนครินทร์ อย่างไรก็ตาม ได้กำชับโรงพยาบาลทุกแห่งคัดแยกกลุ่มเสี่ยงต่อการรับเชื้อไข้หวัด โดยเฉพาะหญิงตั้งครรภ์ นอกจากนี้ ยังมีแพทย์-พยาบาลออกตรวจตามชุมชนหรือสถานีอนามัยแทน เพื่อค้นหาผู้ป่วยรายใหม่

ส่วนโรงเรียนอนุบาลยะลา วันนี้ (31 ก.ค.) ปิดเรียน 1 วัน เพื่อทำความสะอาดห้องเรียนและอุปกรณ์การเรียนการสอน นางสมบูรณ์ สุวรรณราช ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า จากมาตรการคัดกรองนักเรียนตั้งแต่ประตูก่อนเข้าโรงเรียนช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาพบนักเรียนเป็นไข้ 7 ราย โดย 3 รายหายเป็นปกติแล้ว อีก 4 ราย อยู่ระหว่างการพักฟื้น.-สำนักข่าวไทย

2009-07-31 12:29:52

หญิงตั้งครรภ์ชาวโคราชป่วยหวัด 2009 แท้งลูกรายแรกของประเทศ​

​

นครราชสีมา 30 ก.ค.-หญิงชาวนครราชสีมาตั้งครรภ์ 6 เดือน ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่แท้งลูกเป็นรายแรกของประเทศ

หญิงอายุ 16 ปี ซึ่งติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ ขณะตั้งครรภ์ได้ 6 เดือน ถูกส่งตัวจากโรงพยาบาลด่านขุนทด จ.นครราชสีมา มารักษาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา ก่อนจะแท้งลูกเมื่อ 2 วันก่อน ขณะนี้อาการยังน่าเป็นห่วง ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู
แพทย์ระบุว่า เป็นหญิงท้องคนแรก ซึ่งแท้งลูกจากการป่วยเป็นโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ เนื่องจากผู้ป่วยมีไข้สูง ไอ เหนื่อย และมีอาการหอบรุนแรง ประกอบกับทารกในครรภ์ไม่สมบูรณ์

สำหรับ จ.นครราชสีมา มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จำนวน 16 คน อาการน่าเป็นห่วง 3 คน และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คน.-สำนักข่าวไทย

2009-07-30 16:07:59

หวัด 2009 ระบาดระยอง-แม่ฮ่องสอนเกือบทุกอำเภอ​

​

ระยอง,แม่ฮ่องสอน 31 ก.ค.-ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 2009 ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ที่ระยองพบเกือบทุกอำเภอ เว้นเขาชะเมา ส่วนแม่ฮ่องสอนระบาด 5 อำเภอ โดยเฉพาะเขตเมืองมากสุด

นพ.ปรเมษฐ์ กิ่งโก้ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดระยอง เปิดเผยถึงผู้ป่วยไข้หวัดที่มีผลตรวจยืนยันติดเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยเพิ่มเป็น 42 รายแล้ว จากเดิม 33 คน อยู่ในอันดับที่ 42 ของประเทศ ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นนักเรียนและนักศึกษารวม 23 ราย พนักงานบริษัท 11 ราย รับราชการ 3 ราย และอื่น ๆ 5 ราย โดยมีผู้ป่วยกระจายอยู่ใน 7 อำเภอจาก 8 อำเภอ และอำเภอที่พบผู้ป่วยมากสุด ได้แก่ อ.เมือง 22 ราย รองลงมา อ.บ้านฉาง บ้านค่าย แกลง ปลวกแดง นิคมพัฒนา วังจันทร์ ส่วนอำเภอยังไม่พบผู้ป่วย คือ อำเภอเขาชะเมา

ด้าน นพ.สุวัฒน์ กิตติดิลกกุล นายแพทย์สาธาณสุขจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวเช่นกันว่า มีผู้ป่วยสะสมไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 จำนวน 61 ราย ต้องเฝ้าระวังอาการ 122 ราย อยู่ระหว่างรอผลตรวจ 10 ราย และยังมีแนวโน้มการระบาดเพิ่มขึ้นจากทั้งหมด 7 อำเภอ โดยเฉพาะ อ.เมือง เป็นพื้นที่พบผู้ป่วยมากกว่าอำเภออื่น คือ 15 ราย อ.ปางมะผ้า 30 ราย อ.ปาย 12 ราย อ.ขุนยวม 3 ราย และ อ.แม่ลาน้อย 1 ราย นอกจากนี้ ยังมีการระบาดตามโรงเรียนทั้งในเมืองและชนบท.-สำนักข่าวไทย

2009-07-31 18:19:58

ไข้เลือดออกระบาดโคราช นศ.พยาบาลเสียชีวิตรายล่าสุด​

​

นครราชสีมา 31 ก.ค.- แพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเผยมีผู้ป่วยไข้เลือดออกเสียชีวิตรายที่ 2 เป็นนักศึกษาพยาบาล เกิดภาวะช็อก-ไตวายฉับพลัน ขณะที่ สสจ.กำชับเข้มกำจัดยุงลาย เน้นพิเศษพื้นที่ระบาดฉีดพ่นฆ่าเชื้อ 3 รอบ

นพ.วีรศักดิ์ เกียรติผดุงกุล รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เปิดเผยถึงการเสียชีวิตของผู้ป่วยไข้เลือดออกรายที่ 2 ของจังหวัดนครราชสีมาว่า ผู้ป่วยดังกล่าวเป็นนักศึกษาพยาบาลอายุ 21 ปี ชั้นปีที่ 3 วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีนครราชสีมา เข้ารักษาที่โรงพยาบาลมหาราช เมื่อวันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยอาการไข้สูง ไม่รู้สึกตัว ช็อกและเสียเลือดมาก ซึ่งแพทย์ให้การรักษาอย่างเต็มที่

โดยให้เกล็ดเลือด คนไข้เริ่มมีอาการดีขึ้น แต่วันถัดมากลับมีเลือดออกมากและเกิดภาวะช็อกอีกครั้ง แม้แพทย์ให้ยาช่วยให้เลือดแข็งตัว แต่อาการไม่ดีขึ้นและมีภาวะไตวาย ตับไม่ทำงาน รวมทั้งมีโรคแทรกซ้อนหลายอย่าง จนคนไข้เสียชีวิตเมื่อเช้าที่ผ่านมา (31 ก.ค.) ทางโรงพยาบาลได้ให้การช่วยเหลือนำศพนักศึกษาพยาบาลส่งไปยังภูมิลำเนาเดิมที่ จ.นราธิวาส เพื่อบำเพ็ญกุศลตามศาสนา ส่วนเพื่อนของนักศึกษาที่เข้ามารักษาพร้อมกันผลการตรวจเลือดไม่เป็นไข้เลือดออก ขณะนี้ปลอดภัยดีแล้ว แต่แพทย์ยังคงให้พักอยู่ในโรงพยาบาลจนกว่าจะหายเป็นปกติ

นพ.วิชัย ขัตติยะวิทยากุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า นักศึกษาพยาบาลที่เสียชีวิตเป็นนักเรียนพยาบาลในโครงการแก้ไขปัญหาขาดแคลนพยาบาลในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล มาศึกษาที่วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี จ.นครราชสีมา ถือว่าเป็นผู้ป่วยเสียชีวิตรายที่ 2 ในปีนี้ โดยรายแรกเป็นเด็ก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา สำหรับสถานการณ์ไข้เลือดออกตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 31 ก.ค. 2552 มีผู้ป่วย 196 ราย เสียชีวิต 2 ราย ขณะนี้ได้ให้นโยบายบุคคลากรของกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มมาตรการคุมเข้มในการกำจัดลูกน้ำยุง และฉีดพ่นยาในพื้นที่ที่พบการระบาดอย่างน้อย 3 รอบ ในส่วนของวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี ได้ดำเนินการฉีดพ่นสารเคมีกำจัดยุงไปครบทั้ง 3 รอบแล้ว และปรับสภาพแวดล้อมที่เป็นมุมอับและเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย.-สำนักข่าวไทย

2009-07-31 17:55:17

พบเห็ดประหลาดที่สมุทรสาคร ​

​

สมุทรสาคร 31 ก.ค. - พบเห็ดประหลาดที่ จ.สมุทรสาคร ลักษณะเป็นกอใหญ่เกือบ 90 ซม. แต่ละต้นสูงประมาณ 30 ซม.

เห็ดประหลาดผุดขึ้นมาจากพื้นดิน ซึ่งมีสภาพเป็นดินทรายมีปูนผสม ภายในอู่ซ่อมรถของนายนเรศ ปานทอง เลขที่ 83/4 ต.สวนส้ม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ทั้งกอใหญ่เกือบ 90 ซม. มีไม่น้อยกว่า 30 ต้น ความสูงแต่ละต้นประมาณ 30 ซม. แต่ละดอกเส้นผ่าศูนย์กลาง 26-27 ซม. แต่ที่น่าแปลก คือ แต่ละวันเห็ดจะโตขึ้นราว 1 ซม. ขณะนี้มีประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางมาดูเป็นจำนวนมาก

ส่วนที่โรงพยาบาลขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ แพทย์และพยาบาลเร่งช่วยเหลือนางขวัญเรือน ศรีมุม และนางรี เทพแสง 2 แม่ลูก ซึ่งมีอาการอาเจียนอย่างหนัก หลังกินเห็ดพิษที่เก็บได้ในป่าใกล้หมู่บ้าน จากนั้นไม่นานมีอาการมึน เบื้องต้นแพทย์ได้ทำการล้างท้อง ฉีดยาแก้แพ้ และให้น้ำเกลือ เนื่องจากทั้งคู่มีอาการอ่อนเพลีย ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว จึงย้ายไปรักษาตัวที่ห้องพักผู้ป่วยรวม. - สำนักข่าวไทย

2009-07-31 04:06:42

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

เอ็มอาร์ซีเริ่มศึกษาผลกระทบการสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำในแม่น้ำโขง​

​

ฮานอย 31 ก.ค. - คณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (เอ็มอาร์ซี) เริ่มการศึกษาข้อเสนอสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำในแม่น้ำโขง และผลกระทบต่อประชาชนหลายสิบล้านคนที่อาศัยริมฝั่งโขง

การศึกษาครั้งนี้มีขึ้นเพื่อช่วยประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำให้สามารถตัดสินใจว่า ต้องการดำเนินโครงการนี้ต่อไปหรือไม่ นายเดเมียน คีน โฆษกสำนักงานเลขาธิการเอ็มอาร์ซี ในลาว เผยว่า น่าจะได้ผลการศึกษาชิ้นนี้ภายในเดือน ก.ค. หรือ ส.ค. ปีหน้า โดยจีน ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกของเอ็มอาร์ซี แต่ได้เข้าร่วมการประชุมกับชาติสมาชิก 4 ประเทศในสัปดาห์นี้ แสดงความเต็มใจจะจัดหาผู้เชี่ยวชาญในการศึกษาครั้งนี้

เอ็มอาร์ซี ระบุว่า แม้ก่อนหน้านี้จะมีการใช้พลังงานน้ำมาผลิตกระแสไฟฟ้าตามแหล่งน้ำสาขาของแม่น้ำโขง แต่ภาคเอกชนไม่เคยพิจารณาอย่างจริงจังในการใช้แม่น้ำสายหลักเป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า ปัจจุบันมีการศึกษาโครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 7 แห่ง ในกัมพูชา ลาว และไทย ขณะที่จีนมีเขื่อนสร้างแล้ว หรือโครงการจะสร้าง 8 แห่ง บนทางสายหลักของแม่น้ำโขง

เอ็มอาร์ซี ระบุว่า มีประชาชนกว่า 60 ล้านคน ที่อาศัยแถบลุ่มน้ำโขงตอนล่างต้องพึ่งพาแม่น้ำโขงในด้านอาหาร การคมนาคม และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ แม่น้ำโขงยังเป็นแหล่งประมงน้ำจืดที่มีคุณค่ามากที่สุดในโลก. - สำนักข่าวไทย

2009-07-31 15:49:09

มีผู้เสียชีวิตจากฝนตกหนักในจีนแล้ว 66 คนตั้งแต่เดือน มิ.ย.​

​

ปักกิ่ง 30 ก.ค. - สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวันนี้ว่า ฝนตกหนัก และดินถล่มทางภาคใต้ และภาคกลางของจีนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 66 คน และสูญหายอีก 66 คน นับแต่ต้นเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา

รายงานระบุว่า มีประชาชนกว่า 30,000 คน ต้องอพยพหนีภัยน้ำท่วม และดินถล่มในมณฑลเสฉวน เจียงซี หูหนาน กุ้ยโจว และเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง โดยพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนหนักที่สุดคือ มณฑลเสฉวน ทางตะวันตกเฉียงใต้ นายเหว่ย หง รองผู้ว่าการมณฑล เผยว่า ดินถล่มจากพายุฝนตกหนักทำให้มีผู้เสียชีวิต 46 คน และสูญหาย 66 คน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่มณฑลเจียงซี ทางภาคตะวันออก เผยว่าฝนตกหนักยังทำให้มีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายย่อยยับ 180 หลัง และก่อให้เกิดความเสียหายมูลค่า 342 ล้านหยวน ( ราว 1,700 ล้านบาท )

ส่วนเจ้าหน้าที่ในเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางภาคใต้ เตือนว่ามีพื้นที่ 1,868 แห่ง อาจเผชิญดินถล่ม และให้ทำประชาชน 190,000 คน รวมทั้งทรัพย์สินมูลค่า 1,500 ล้านหยวน ( ราว 7,500 ล้านบาท) ตกอยู่ในความเสี่ยง ในมณฑลหูหนาน ทางภาคกลาง มีผู้เสียชีวิต 17 คน จากเหตุดินถล่ม ขณะที่ฝนตกหนักในมณฑลกุ้ยโจว ตั้งแต่วันพฤหัสบดีก่อน จนถึงวันอังคารนี้ คร่าชีวิตประชาชนไป 3 คน และทำให้บ้านเรือนของประชาชนราว 490,000 คนต้องจมอยู่ใต้น้ำ สำนักอุตุนิยมวิทยาจีนเตือนว่า จะเกิดฝนตกหนักในพื้นที่ประสบภัยต่อไปจนถึงวันศุกร์นี้. -สำนักข่าวไทย

2009-07-30 12:09:42

มีผู้เสียชีวิตจากดินถล่มที่ฟิลิปปินส์​

​

มะนิลา 31 ก.ค. - เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ฝนตกหนักทำให้เกิดดินถล่ม มีผู้เสียชีวิต 2 คน ประกอบด้วยเด็กหญิงวัย 4 ขวบ และยายของเด็กคนดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ศูนย์ภัยพิบัติฟิลิปปินส์กล่าวว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก 2 ชั่วโมง ทำให้ดินอ่อนจนเป็นโคลน หิน และซากหักพังไหลถล่มบ้านเชิงเขาทางตะวันออกของกรุงมะนิลา ขณะที่คนในบ้านกำลังนอนหลับ เจ้าหน้าที่กล่าวว่า แม่เด็กซึ่งกำลังตั้งครรภ์รอดชีวิตมาได้จากเหตุดินถล่มเมื่อช่วงรุ่งเช้า หน่วยกู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์และมือเปล่ากู้ซากศพเด็กหญิงและยายใน 4 ชั่วโมงต่อมา ทั้งนี้ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันในกรุงมะนิลาและพื้นที่โดยรอบ เจ้าหน้าที่พยากรณ์อากาศรายงานว่า มีพายุโซนร้อนก่อตัวทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ .-สำนักข่าวไทย

2009-07-31 14:44:06

สหรัฐเลิกค้นหาชาวอพยพเฮติที่เรือคว่ำแล้ว ​

​

ไมอามี 30 ก.ค.- หน่วยยามฝั่งสหรัฐเผยว่า ได้ยุติการค้นหาผู้อพยพชาวเฮติอีก 67 คน ที่ยังหาตัวไม่พบหลังจากเรืออับปางในมหาสมุทรแอตแลนติกเมื่อวันค่ำวันอาทิตย์ เพราะสันนิษฐานว่าน่าจะเสียชีวิตแล้ว

เรือลำดังกล่าวบรรทุกชาวเฮติเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายราว 200 คน อับปางลงเพราะชนเข้ากับแนวปะการังนอกชายฝั่งหมู่เกาะเติร์กส์และเคคอส ดินแดนของอังกฤษที่เป็นแหล่งดำน้ำยอดนิยม เครื่องบินและเรือของหน่วยยามฝั่งสหรัฐช่วยเจ้าหน้าที่หมู่เกาะเติร์กส์และเคคอสช่วยชีวิตผู้อพยพได้แล้ว 118 คน พบศพ 15 ศพ และค้นหาผู้ที่ยังสูญหายตลอด 2 วันที่ผ่านมา จนกระทั่งประกาศยุติการค้นหาเพราะเชื่อว่าเสียชีวิตแล้ว เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าวว่า ชาวเฮติมักลงเรือแน่นขนัดหนีความยากจน เพื่อลอบไปหางานทำในบาฮามาสหรือรัฐฟลอริดา แต่ไม่ควรเสี่ยงชีวิตเช่นนี้ เพราะมีอีกหลายวิธีในการเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมายและปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

2009-07-30 12:13:49

นิวซีแลนด์ยังมีอาฟเตอร์ช็อคหลังแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อกลางเดือน​

​

เวลลิงตัน 30 กค. - ศูนย์แผ่นดินไหวนิวซีแลนด์ รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวปานกลางสามครั้ง ขนาดตั้งแต่ 5.0-5.1 ริกเตอร์ ทางใต้ของนิวซีแลนด์เมื่อเช้าวันนี้ นับเป็นอาฟเตอร์ช็อก หรือแรงสั่นสะเทือนล่าสุดในหลายร้อยครั้งที่เกิดขึ้นหลังแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ 7.8 ริกเตอร์เมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินกล่าวว่า ยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือทรัพย์สินเสียหายจากแผ่นดินไหวล่าสุดที่เขตฟยอร์ดแลนด์บนเกาะใต้เมื่อช่วงก่อนเวลาประมาณ 08.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลา 03.00 น.เช้าวันนี้ตามเวลาในไทย คณะกรรมการด้านแผ่นดินไหวในนิวซีแลนด์ กล่าวว่า ค่าเสียหายจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และอาฟเตอร์ช็อกที่ตามมาอาจเพิ่มเป็น 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 136 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

2009-07-30 12:23:34

ไต้หวันจะเริ่มฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ พ.ย.นี้​

​

ไทเป 31 ก.ค. - เจ้าหน้าที่สาธารณสุขไต้หวัน กล่าวว่า ไต้หวันจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ให้แก่ประชาชนในราวเดือนพฤศจิกายนนี้

ทั้งนี้ การผลิตวัคซีนยังคงเดินหน้าต่อไปตามกำหนด และคาดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนได้ในเดือนพฤศจิกายนนี้ รายงานคาดว่าบริษัทผู้ผลิตวัคซีนสำหรับมนุษย์เพียงแห่งเดียวของไต้หวัน จะเริ่มส่งมอบวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่จำนวน 5 ล้านชุด เพื่อการทดลองทางคลินิกในปลายเดือนกันยายนนี้

ไต้หวันพบผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่รายแรก เป็นชายอายุ 39 ปี เคยมีประวัติเป็นมะเร็งตับและไวรัสตับอักเสบมาก่อน และมีผู้ป่วยอาการรุนแรงจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 10 คน ในจำนวนนี้ 3 คน อยู่ในห้องไอซียู และมี 1 คน เป็นเด็กอายุ 6 ปี. -สำนักข่าวไทย

2009-07-31 18:39:02

กรีซจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ให้ประชากรทั้งประเทศ​

​

เอเธนส์ 31 ก.ค. -นายดิมิทริส อวรามูปูลอส รัฐมนตรีสาธารณสุขกรีซ ประกาศในวันนี้ ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า กรีซจะฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ

รัฐมนตรีสาธารณสุขกรีซ กล่าวว่า กรีซจะเป็นประเทศแรก ๆ ที่ได้รับวัคซีน แต่จะยังไม่นำมาใช้ก่อนได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการจากนานาประเทศและยุโรป แต่ไม่แน่ชัดว่ามาตรการดังกล่าวจะครอบคลุมถึงผู้อพยพเข้าเมืองที่ได้รับการขึ้นทะเบียนและไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากแอลเบเนีย บัลแกเรีย และโรมาเนีย ปัจจุบันกรีซมีประชากรราว 11 ล้านคน

กรีซมีผู้ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 กว่า 700 คน ส่วนใหญ่ไม่ได้มีอาการรุนแรง โดยมีผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 15 คน ในจำนวนนี้ 4 คน อาการหนัก ซึ่ง 1 คนเป็นวัยรุ่นหญิงชาวอังกฤษ

รัฐมนตรีสาธารณสุขกรีซ กล่าวด้วยว่า กระทรวงฯ จะจ้างเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านห้องฉุกเฉินเพิ่ม และจะเพิ่มเตียงในห้องฉุกเฉินอีก 100 เตียง หลังจากถูกวิจารณ์จากฝ่ายค้านและสื่อมวลชน. -สำนักข่าวไทย

2009-07-31 18:06:48

ซาอุดีอาระเบียมีผู้เสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ เอช 1 เอ็น 1 รายที่ 2​

​

ริยาด 31 ก.ค. - หญิงชาวอินโดนีเซียเสียชีวิตจากไข้หวัดใหญ่ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 นับเป็นรายที่ 2 ในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งกำลังจะมีผู้แสวงบุญชาวมุสลิมนับล้านคนมาร่วมประกอบศาสนกิจในเดือน พ.ย.นี้

สำนักข่าวซาอุดี เพรสส์ ของทางการซาอุดีอาระเบีย รายงานอ้างกระทรวงสาธารณสุขที่ระบุว่า ผู้เสียชีวิตล่าสุดเป็นหญิงชาวอินโดนีเซีย วัย 28 ปี ที่เมืองดัมมัม ทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งมีแรงงานต่างชาติจากประเทศเอเชียอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซาอุดีอาระเบียเพิ่งพบผู้เสียชีวิตรายแรกจากไวรัส เอช 1 เอ็น 1 เป็นชายชาวซาอุดีอาระเบีย วัย 30 ปี ที่เมืองดัมมัม และมีรายงานผู้ติดเชื้อ 300 คน เจ้าหน้าที่ซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า จะใช้กล้องตรวจวัดอุณหภูมิและแพทย์ในมาตรการสกัดการระบาดของไข้หวัดใหญ่ เอช 1 เอ็น 1 ในช่วงพิธีฮัจญ์ แต่ไม่คาดว่าจะสามารถยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสได้ทั้งหมด. - สำนักข่าวไทย

2009-07-31 08:55:03

เกาหลีเหนือกล่าวหาสหรัฐและเกาหลีใต้ส่งเครื่องบินสอดแนมกว่า 180 เที่ยว​

​

โซล 31 ก.ค. - สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเกาหลีเหนือ รายงานอ้างแหล่งข่าวทางทหารว่า สหรัฐและเกาหลีใต้ส่งเครื่องบินจารกรรมความลับกว่า 180 เที่ยว ในเดือนกรกฎาคมนี้​

รายงานระบุว่า สหรัฐส่งเครื่องบินจารกรรมความลับในเกาหลีเหนือกว่า 120 เที่ยว ขณะที่เกาหลีใต้ส่งเข้ามาปฏิบัติการดังกล่าวอีกกว่า 60 เที่ยว ก่อนหน้านี้ รองผู้บัญชาการทหารสหรัฐในเกาหลีใต้ กล่าวว่า อาจส่งเครื่องบินจารกรรมไร้คนขับไปคอยจับตาดูเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด

ข่าวการส่งเครื่องบินจารกรรมความลับในเกาหลีเหนือ มีขึ้นหลังจากเกาหลีเหนือทดลองนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังยกเลิกข้อตกลงสงบศึก ทดสอบยิงขีปนาวุธพิสัยใกล้ถึง 6 ครั้ง และข่มขู่จะโจมตีเกาหลีใต้. -สำนักข่าวไทย

2009-07-31 19:38:06

ที่มาhttp://news.mcot.net