กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,047
    มาด้านขวาถือว่ามาดีหมดนั่นแระ
    ถ้ายืนตรงหัวไหล่ แต่เหมือนมองดูโน้นนี่นั้น คือ ท่านที่ดูแลเราตอนนั้น
    ถ้ายืนตรงเอว จะเป็นพวก กุมารเทพ พวกที่เป็นกึ่งเทพกึ่งสัตว์
    เช่น เสือ สิงโต ที่เป็นเครืองราง อย่าตกใจหละ ส่วนตัวมี พกติดกระเป๋าสะพายอยู่
    ถ้ายืนปลายเท้า ก็จะเป็นภูมิระดับความสูงบนโลกเรานี่หละ
    ยกเว้นพวกภูมิที่สูงกว่าโลกแวะ จะอยู่ตรงปลายเท้า
    มีประกายระยิบระยับ ให้เห็นความแตกต่าง (หมายถึง ญ )

    แต่ถ้าเป็นท่านมีฤิทธิ์มีชื่อ รับรองอลังการงานสร้างเวลาปรากฏตัว

    ถ้ามาด้านซ้าย ให้เตรียมอุทิศส่วนกุศลทำบุญ ทำตัวให้ดี
    เจ้ากรรมนายเวร มาซ้าย แต่เยื้องๆไปไกลหน่อย
    ส่วนถ้าพวกอยู่นานอยากให้เราทำบุญให้ ก็จะอยู่เหนือเอวขึ้นมาไม่เกินไหล่
    พวกนี้ผิวดำด้าน หรือไม่ก็ออกดำเขียว

    เอาหน้ามา จ่อๆ ห่างไม่เกิน คืบ เป็นพวกภูติ แค่มาทดสอบ ส่วนใหญ่แปลงร่างได้
    และพวกนี้ลอยได้ ขาไม่ติดพื้น แต่ถ้านิ่งๆ อุทิศแล้วไม่ไปไหน
    แบบนี้ให้เราระวัง เป็ฯพวกอสูรกาย แต่จะมาหาเฉพาะพวกนักปฏิบัติบางกลุ่ม
    ที่ฝึกวิชาพิเศษเท่านั้น นั่งสมาธิ มีสัมผัสภายในทั่วไป จะไม่ไปให้เสียเวลา
    ถ้ามาตรงๆ มุมประมาณ หน้าฝาก เป็นญาติเราเอง
    ในทำนองเดียว แสงสว่างๆมาด้านซ้าย หน้าฝาก ก็อดีตญาติเรามาดูแลนั่นหละ

    เทพมีฤิทธิ์ก็มักจะมาด้านขวา อยู่ลงไปเยื้องๆ ทางปลายเท้าไปหน่อย
    ส่วนครูบาร์อาจารย์ มาทางอากาศ มีหลายๆกรณี โผล่ๆตรงๆเลยก็มี

    ส่วนถามว่า ผีสาวชาติไหน เฮี้ยนกว่ากัน ตอบไม่ได้ เพราะว่า
    ความหึงหวง เป็นนิสัยที่ติดตัวมาตั้งแต่ก่อนตาย คือ หึง ผู้ ชาย หรือคนรัก
    เรียกว่าเสียทองเท่าตัว แต่จะไม่ยอม เสียคนรักให้ใคร
    และความเฮี้ยน ก็เป็นนิสัยในลักษณะที่ หวงสิ่งของ ที่ตนได้ครอบครอง
    เช่น แหวน สมบัติต่างๆ อาจจะรวมทั้งเด็กๆ เป็นต้น คือ ถ้าไปเอาของเค้ามา
    เค้าถึงจะเฮี้ยน แต่อยู่ดีๆ จะมาปรากฏในส้วมแบบหนังไทย
    ในขณะที่กำลังคะระรี่ คงไม่มี ๕๕๕

    การที่มีวิญญานมาให้เราเห็น และให้เราได้ทำบุญ ณ ถือว่าดีมากแล้ว
    ดีกว่าไม่เคยเห็นเลย แล้วทำบุญไปเรื่อยๆ แบบเชื่อว่าได้ผล
    ๔ วันมา ๓ คืนถือว่า เป็นการเริ่มต้นที่ดี และควรเป็นเช่นนั้น
    ส่วนตัวตอนที่ศึกออกมา...
    ถ้าถามว่า ในรอบ ๒ ถึง ๓ ปีมีวันไหน
    ไม่เจอผีมาหาบ้าง จะพอตอบได้
    แต่ถ้าถามว่า เคยเจอผีแบบนี้ไหม
    ไม่รู้จะตอบยังไงดี ๕๕๕๕ อันนี้โม้...

    พยายามสังเกตุแววตา ดูดีๆจะเขียว
    ถ้าผมเส้นเล็กตรงยาว หน้าจะคม
    ถ้าผมดูหนาตรง หน้าจะวงรีหรือออกกลม
    ถ้าผมดูหนา คล้ายๆไม่หวี หน้าจะดูแข็งแรง คล้ายมีกาม
    แต่โดยรวมๆ คือ สวยทุกแบบ ขึ้นอยู่กับว่า จะออกสวยเปรี้ยว
    สวยหวาน หรือสวยเท่ห์ ถ้าเค้ามาดี อย่าไปขัดไปว่าเค้า
    ถ้าเค้ามาลวนลาม ต้องไว้ลาย ลูกผู้ชาย
    ทำเป็นฝืนๆก่อนในช่วงแรก ๕๕๕๕

    ทำไมเป็น ผี สาว ต้องมาสวยๆ ก็ขนาดมาสวยๆคนยังกลัวไง ๕๕๕

    ปล. ถ้าเจอ ผี ญ แบบมีฤิทธิ์ ถ้าเค้าคิดจะลวนลามเรา
    ยังไงเราก็ไม่รอด เพราะฉนั้นให้แล้วก็แล้วไปนะ ๕๕๕
    อย่ามาขอให้ช่วย ตัวใครตัวมันนะ ๕๕๕๕
     
  2. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062
    มาแล้วจ้าอาจารย์นพ อาจารย์9 และพี่ๆ ทุกท่าน
    มีนิทานมาเล่า ปนเศร้าปนฮา (คือมันอารมณ์นี้จริงๆคะ)

    เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อคืนนี้ฝัน
    เจนฝันว่า เจนร้องไห้ อุ้มชายคนหนึ่ง (หล่อหนุ่ม)
    ตัวเจนก็เล็กแต่อุ้มชายคนนี้ได้ง่ายๆ
    ร้องไห้ขอความช่วยเหลือจากทุกๆคน
    ชายคนนี้ อาจเป็นอดีตที่เจนเคยรู้จัก หรือ รัก มาก่อน
    เพราะความรู้สึกต่อเขา เราห่วงและกลัวเขาตายจากไป
    ร้องไห้ไป อุ้มขอความช่วยเหลือไป เพราะเขาใกล้จะตายแล้ว
    ที่คอเขา มีรูใหญ่ เหมือนถูกแทงเป็นรู หรืออะไรสักอย่าง
    เจนก็ไม่ทราบว่า เพราะอะไร ที่คอเขาเป็นรู และจะตายแล้ว

    เจนเดินอุ้มเขาไปเจอพระท่านหนึ่ง
    เจนนั่งลงขอความช่วยเหลือพระท่าน แต่เจนก็ยังอุ้มชายคนนี้อยู่
    “ท่านอาจารย์เจ้าขา โปรดช่วยเขาด้วยเจ้าคะ เขากำลังจะตาย”
    (พูดอ้อนวอนต่อพระท่าน ให้ช่วยเหลือ ดั่งคนใจจะขาด)
    พระท่านมองมา ด้วยสายตาเวทนาแท้ แต่ท่านก็ทำบางอย่าง
    เหมือนการตัดสายใย ของเจนกับเขา
    **มันเหมือนกับ เวลาที่เราจีบมือ นิ้วชี้กับนิ้วโป้งติดกันอยู่
    พระท่านนี้ก็ เอามือท่าน ตัดผ่านิ้วชี้กับนิ้วโป้งออกจากกัน***
    จากนั้น ชายที่เจนอุ้มแบกอยู่นี้ ก็ค่อยๆ สลายหายไปต่อหน้าเจน
    เจนอาลัย ร้องไห้หนัก เหมือนคนใจจะขาด เหมือนฟ้าดินสลาย
    “ท่านเจ้าขา ทำไมถึงทำแบบนี้ ทำไมท่านถึงได้ทำอย่างนี้”
    พระอาจารย์ท่านนี้ ก็ได้พูดขึ้นมาว่า

    “เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็รวยแล้ว เอ๋า เอาไป 27”
    (คือ~~~~ ฟิว อารมย์ คนละอย่างกันเลย 55555 เป็นฝันที่ พีคมากกก)

    แล้วเจนก็ตื่นจากฝัน แต่อยู่ในฝันอยู่ (ฝันซ้อนฝันคะ)

    เจนเลยเล่าให้แฟนฟังว่า เฮ่ย ฝันแบบนี้ แต่พระท่าน ให้หวยมาเฉยเลย

    ปล::: จบฝันคะ ตื่นจริงๆ

    อาจารย์ว่า ฝันนี้ มั่วซั่วดีมั้ยคะ
    แต่ความรู้สึกที่มีต่อชายในฝัน มันจริงจัง มากเลย
    ตื่นมาน้ำตายังมีที่แก้ม

    เจนแปลกใจที่
    1, ชายที่เจนอุ้ม ทำไมเขามีรูที่คอแต่เลือดไม่ออก แต่จะตาย
    เหมือนขาดอะไรไปบางอย่าง จนเขาจะต้องตาย

    2, พระที่เจนเห็นในฝัน ท่านบอกเลขได้ ด้วยหรอคะ
    แต่ท่านก็บอกไปแล้ว แม่นไม่แม่นไม่รู้ละ เจนจดไว้แล้วคะอาจารย์

    ขอบคุณอาจารย์ล่วงหน้าค่า~~~~
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2018
  3. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,344
    ค่าพลัง:
    +4,820
    อันนี้เคยเจออยู่ครับ กึ่งฝัน กิึ่งตื่น แต่เป็นแบบ ญ ครึ่งงู โอ้วแม้เจ้า กอดรัดซะแน่น กระดูกลั่น กรอบๆ ดิ้นไม่หลุด สุดท้ายก็ Head Butt ไป ถึงได้ตื่นขึ้นมา
     
  4. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +4,720

    "๔ วันมา ๓ คืนถือว่า
    เป็นการเริ่มต้นที่ดี
    และควรเป็นเช่นนั่น"


    สาธุๆๆ ครับ
    ...ท่านอาจารย์นพ
    ...อ่านถึงบรรทัดข้างบน
    ผมปลื้ม และยิ้มได้เลย
    ...ขนลุกด้วยครับ
    ...แสดงว่าเริ่มมาถูกทาง

    ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น
    (4 วันมา 3 คืน) เกิดขึ้นหลังจาก
    ที่ผมได้รับพระสรีระธาตุและพระอรหันต์ธาตุ
    ...อาจเนื่องจากผมอิงและศรัทธา
    เรียกว่าจะจับผอบที...
    ผมต้องล้างมือก่อนทุกที
    ทั้งๆที่มือสะอาดเพิ่งล้างไปหยกๆ

    เทวดาที่เฝ้าดูแลรักษาพระธาตุ
    คงพอรับรู้ได้เนาะ
    (เห็นมีคนบอกว่า....
    พระธาตุทุกองค์จะมีเทวดาประจำ)
    ...จริงเท็จอย่างใด..ผมไม่ทราบ
    ...เพราะฟังมาอีกที


    ...พออ่านเรื่องราวที่ท่านอจ.นพเขียนมา
    ผมอยากร้องขอให้ท่านผู้ดูแลเว็ปบอร์ด
    กรุณาช่วยเพิ่มรูปอิโมจิ
    รูปสัญลักษณ์แสดงความรู้สึกหลังอ่านจบ
    ให้ผู้อ่านเลือกกดได้ 2 ตัว ดีไหม

    อย่างวันนี้(ถ้าได้)
    ผมคงกดทั้ง *ถูกใจ* และ*ฮ่าๆ*

    "...ถ้าเค้ามาดี อย่าไปขัดไปว่าเค้า
    ถ้าเค้ามาลวนลาม ต้องไว้ลาย ลูกผู้ชาย
    ทำเป็นฝืนๆก่อนในช่วงแรก ๕๕๕๕"



    ขอบคุณครับท่านอจ.นพ
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,047
    สงสัยถ้าอยู่ต่อ คงจะส่งผลไม่ดีกับเรา ในอนาคต
    อาจจทำให้ยึดติดเรื่องนามธรรมทำนองนี้ได้..
    ปกติหน้าที่ธนูส่วนหนึ่ง
    คือป้องกันเรื่องพวกนี้ ไม่ได้ตายหรอก
    แค่เปลี่ยนภพภูมิไปภูมิที่เหมาะสมตามกำลังบุญ ...นิทาน พอขำๆ

    พระท่านไม่ได้บอกหรอก แต่สัญญาในจิตเรามันมีเรื่องแบบนี้
    ดีแล้วที่ท่านบอก ทำไมพระจะบอกไม่ได้หละ มันในฝันนะ
    ขนาดไม่ฝันก็ยังมีบอกกันเยอะแยะ....พอขำๆ..
     
  6. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,047
    เมื่อก่อน มีช่วงหนึ่งเคยเกิดอาการหลงตัวเองแบบฮาๆ
    ช่วงที่มีพระสรีระเสด็จมา
    เคยเหมือนๆฝัน และออกมายืนอยู่บริเวณ หน้าบ้านตัวเอง
    ในตอนสว่างๆหน่อย มองไปทางด้านขวาสุดซอย
    เจอคนใส่ชุดขาว เป็นกลุ่มประมาณ ๒๐ กว่าคนได้
    หันไปอีกที เห็นกลุ่มนั้นมาที่หน้าบ้าน แล้วก็พากันนั่งคุกเข่าพนมมือลง
    ไอ้เราก็ยืนตรงนั้นพอดี รีบทำเป็นเก๊กหล่อทันที
    เข้าใจว่า เค้ามาไหว้เรา (ช่างกล้าคิดได้ ๕๕)
    เลยรีบบอก เห้ยๆ ไม่ต้องทำอย่างนั้น ผมแค่คนธรรมดา
    แต่ที่ไหนได้ หันไปมองอีกที คนกลุ่มนั้น เค้ามองไป
    ข้างบนห้องพระชั้น ๒ ที่วางพระธาตุไว้
    โอ้ยยยย อายม้วนต้วน แทบจะแทรกแผ่นดินหนี
    อ๊ายๆผี...
    ฮากันเลย เรียกว่า ผีฮากันเป็นกลุ่ม ๕๕๕๕๕๕
     
  7. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062

    ว้าววว แสดงว่า ที่คอเขาเป็นรู เพราะธนูอาจารย์แน่เลย
    เจนก็แปลกใจอยู่นะคะอาจารย์
    ช่วงหลังมานี้ เจนฝันถึงพระสงฆ์ ครูบาอาจารย์บ่อยๆมากคะ

    ท่านคงมาช่วยเหลือแน่ๆเลยคะ

    ยังไง เจนจะลองเสี่ยงดวงดู เบาๆ
    เผื่อได้ตามที่ท่านบอก 555555
     
  8. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +4,720

    "....ฝันนี้ มั่วซั่วดีมั้ยคะ"

    ตอบและยืนยันได้ว่า...
    ถ้างวดนี้มา 27 ตรงๆ
    ...อนุโลมบวกลบ 1

    ไม่มั่วซัวครับ...

    เออ...ของแถมแด่คนบ้าหวย
    27 รวมกันได้เท่าใด

    ...แค่พอขำๆ
     
  9. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +4,720

    "...แต่เป็นแบบ ญ ครึ่งงู โอ้วแม้เจ้า กอดรัดซะแน่น..."


    ถ้ายังโสดจะพบหญิงงาม
    ถ้ามีคู่แล้วครอบครัวจะอบอุ่น

    89 ดีไหม
    ผมแค่ถาม...ไม่ได้ให้ซื้อ

     
  10. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +4,720
    เออ...เมื่อคืนนอนหลับสบายดีครับ
    ไม่ได้ฝัน ไม่มีเพื่อนยามวิกาล

    เช้านี้...
    ผมเข้าไปค้นหาสาระเกี่ยวกับพระธาตุ
    เพราะช่วงนี้กำลังอิงอย่างใจจดใจจ่อ

    ไปเจอกระทู้หนึ่งซึ่งไม่เกี่ยวกับพระธาตุ
    อ่านแล้วรู้สึกว่าเรื่องราวบางอย่าง..น่าสนใจ

    ผมจึงขออนุญาตนำมาลงไว้ที่นี่

    (เป็นกระทู้จากเวปพันทิป)

    กระทู้...การที่เราสวดมนต์บ่อยๆมันทำให้เราต้องเจอกับเรื่องแปลกๆตลอด ควรเลิกสวดดีไม๊ค่ะ?

    คืออย่าเพิ่งว่าๆเรางมงายนะคะ พยามบอกตัวเองตลอดว่าผีมันไม่มีจริง แค่เชื่อเรื่องบาปบุญแค่นั้น ส่วนตัวทำงานไอทีที่สิงคโปร์ เริ่มสวดมนต์ก่อนนอนตั้งแต่อายุ 14 15 ปี แรกๆก็สวดบทง่ายๆแบบที่โรงเรียนสอน และก็เริ่มเห็นอะไรแปลกๆ เช่นเห็นคนรู้จักที่เพิ่งเสียไปข้างถนน ขณะที่เรานั่งหลังรถกะบะเพื่อนตอนกำลังไปเที่ยวกัน เห็นมาตลอดทางคือเขาโผล่มายืนข้างทางเป็นระยะๆ จนเรารู้สึกไม่ดีเลยบอกเพื่อนขอลงก่อนแล้วโทรให้แม่มารับ ตอนนั้นดึกเท่าไหร่จำไม่ได้ พอเช้ามาถึงรู้ว่ารถคันนั้นขับไปซักพักรถพลิกคว่ำ เพื่อนที่ขับตาย เพื่อนที่นั่งท้ายกะบะมาด้วยกันกับเราเจ็บระนาว ส่วนเพื่อนที่ลงตามเรามาคือรอด อันนี้คร่าวๆที่จำได้ และก็มีเรื่องอะไรแปลกๆแบบนี้มาตลอดตั้งแต่เริ่มสวดมนต์ แต่เราไม่ได้บอกใครมาก บอกแต่แม่กับคนสนิทๆกัน กลัวหาว่าเราเพ้อเจ้อ

    มาเข้าเรื่อง หลังจากแม่เสียเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ก็เริ่มสวดบทที่ยากขึ้นอย่าง พาหุงฯ, มหากาฯ, ชินบัญชร และปิดท้ายด้วยแผ่เมตตากับแผ่ส่วนกุศล ถามว่าทำไมถึงสวด เพราะเขาบอกว่าสวดแล้วดีก็สวด ไม่ได้คิดอะไร แต่ทุกครั้งที่สวด ไม่ว่าจะอยู่ไทยหรืออยู่ต่างประเทศ พอมาถึงบท พาหุงฯ, มหากาฯ, ชินบัญชร จะมีเสียงในห้อง นอกห้อง กึกๆกักๆ หน้าต่าง ปึกๆปักๆตลอด จนสวดจบก็จะเงียบไป เป็บแบบนี้ตลอดโดยเฉพาะเวลาที่ไปนอนตามโรงแรม และเรื่องแปลกๆแบบนี้เจอจนคิดว่ามันเป็นปกติ แต่ที่ไม่ปกติคือเรื่องโดนผีอำ ไม่หลับค่ะ เป็นคนหลับยากตื่นง่าย ทุกครั้งมั่นใจว่าไม่หลับแต่ขยับไม่ได้ และทุกครั้งที่เจอก็จะสวดชินบัญชร เพียงแค่เริ่มสวด พวกเขาก็จะหายไป แล้วเราก็จะขยับได้แต่เหนื่อยมาก เคยมีครั้งนึงไปเยอรมันเมื่อปลายปีที่แล้ว เราไปเที่ยวปราสาทแล้วปากไม่ดีเองค่ะ ไปว่าผู้หญิงในภาพๆนึงว่าไม่สวยอะคนนี้ อีกคนสวยกว่า(ปากน่าตบมาก) พอคืนนั้นกลับมานอน ยังไม่ทันจะหลับก็รู้สึกขยับตัวไม่ได้แล้วเห็นผู้หญิงคนนั้นที่ปลายเตียง นางเอื้อมมือมาจับที่คางเราแล้วบีบแรงมาก แล้วบิดหัวเราไปทางขวากดกับหมอน เหมือนจะพยามหักคอเรา เราขยับตัวไม่ได้พยามเรียกเพื่อน แต่เสียงเราเหมือนถูกดูดหายไปในอากาศ เราเลยตั้งสติ สวดชินบัญชร แล้วเราก็เห็นแสงสีทองแว่บออกมา แล้วนางก็กระเดนถอยกลับไปที่ปลายเตียง แล้วนางก็มองมาที่เราแบบแค้นมาก แล้วเดินหายไปทางประตูห้อง พอขยับได้เราเหงื่อแตก เหนื่อยมาก ได้แต่ถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้น ผีหลอกหรอ อันนี้แค่ยกตัวอย่างนะคะ จริงๆมันเจออะไรแปลกๆแบบนี้เยอะมาก จนมาเมื่อคืนนี้ก็โดนผีอำอีก

    เพื่อนที่เช่าบ้านด้วยกันเป็นคนอินเดียและอินโดนีเซีย(เป็นกัปตัน) เขาบอกว่าคืนไหนที่เราเข้างาน ที่บ้านเหมือนจะมีคนมาทำอะไรที่ห้องนั่งเล่น มีเสียงกุกๆกักๆ คนลากเก้าอี้ตลอดทั้งคืน แต่พอออกมาก็ไม่มีใคร แต่ถ้าคืนไหนที่เราอยู่ เสียงแบบนี้จะมีแค่ช่วงที่เราสวดมนต์แล้วจะหายไป เพื่อนร่วมบ้านขอให้เราเลิกสวดมนต์ เขาบอกไม่รู้ว่าเกี่ยวกันไม๊ แต่เหมือนยิ่งเราสวดเหมือนยิ่งดึงดูดอะไรพวกนี้เข้ามา เขากลัว เราจะทำไงดีค่ะ ควรเลิกสวดจริงๆไม๊ เครียดนะเนี้ยะ กลัวคนจะหาว่างมงายเพ้อเจ้อ บอกตัวเองตลอดว่าผีไม่มีจริง ทุกอย่างแค่บาปบุญ ตายไปก็จบ แต่เจอแบบนี้ก็หาเหตุผลไม่ได้เหมือนกัน ใครเคยมีประสบการณ์แนะนำหน่อยค่ะ ว่าเราควรจะเชื่อเพื่อนแล้วเลิกสวดมนต์ดีไม๊ เหนื่อยนะคะ จะนอนแล้วต้องมารบกับผี เพลียแย่แล้วยังต้องมาทำงานต่ออีก ใครไม่เป็นแบบเราไม่รู้หรอกค่ะ อนาถชีวิต ต้องมาตั้งกระทู้ถามเรื่องสู้ผีในพันทิพ T-T

    hutty1980
    13 พฤษภาคม 2560
     
  11. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +4,720
    รบกวนถามท่านอาจารย์นพครับ

    ต่อเนื่องจาก...
    เรื่องเล่าข้างบนที่ผมนำมาลงไว้

    คือผมก็เคยได้ยินสายบุญ สายสมาธิ
    เล่าให้ฟังบ่อยๆว่า
    "บางคนเริ่มหันมาปฎิบัติทางนี้อย่างจริงจัง
    จะพบเหตุการณ์แปลกๆ...เช่นเรื่องเล่าข้างบน
    ...แต่จะแตกต่างในรายละเอียดบ้าง"

    ผมอาจเข้าข่าย..หนึ่งในนั่นหรือไม่
    เพราะตลอดกาลนาน...ที่ผ่านมา
    ผมแค่สวดมนต์ง่ายๆตามปกติ

    *บทสวดมนต์ยาวๆ...ผมจะผ่านไป
    ...จะเลือกสวดแต่บทเฉพาะย่อๆสั้นๆ*


    นี่แสดงว่าผมยังไม่ "จริงจัง"
    ถ้าจริงจังหมั่นปฏิบัติโดยเคร่ง...
    คงได้พบอะไรดีๆมากกว่าหรือไม่ ?

    ทั้งๆที่...ช่วงอยู่ในวัยเบญจเพส
    ผมเริ่มสนใจการนั่งสมาธิ
    ถึงกับซื้อตำรามาอ่าน
    (ปัจจุบันนี้เข้าถึงง่ายกว่า
    ทั้งกระแส ทั้งทีวี ทั้งสายบุญ)

    หลังจากพอเริ่มเข้าใจจากตำรา..
    จึงเริ่มต้นฝึกนั่งสมาธิกรรมฐาน
    คือเป็นระยะๆ...หยุดบ้าง...นั่งบ้าง
    เป็นอยู่อย่างนี้ครึ่งปี...

    **คืนดีวันดี...**
    ผมเลิกกลางคั่นแบบไม่มีเหตุผล


    จำได้แม่นยำ...
    หลังเลิกนั่งสมาธิกรรมฐาน 1 ปี
    ...วันหนึ่ง
    จู่ๆความคิดแล่นเข้ามาในสมอง
    อยากจัดกองผ้าป่าหาเงินให้วัดสักกอง
    วัดอะไร? ที่ไหนไม่มีเป้าหมาย?

    พูดง่ายๆ...คือคิดจะจัด...ก็จัดเลย

    ทั้งที่ช่วงนั่นปีหนึ่งเข้าวัดนับครั้งได้
    ประมาณว่าวัดไม่ได้อยู่ในใจเลย
    (อยู่ในสายตา แต่ไม่ได้อยู่ในใจ)

    คำถามคือ...
    "ทำไมถึงมีความคิดจะจัดผ้าป่า
    ...ทั้งที่ไม่สนใจวัดเลย"


    คำตอบคือ "ไม่รู้เหมือนกัน"
    "งงมากครับท่าน"

    ...นี่คือหนึ่งปริศนาที่ถามท่านในวันนี้

    ที่ประหลาดใจอีกอย่างคือ
    ได้เงินเข้าวัดถึง 5 หมื่น
    ดูแล้วเล็กน้อยสำหรับปัจจุบันนี้
    แต่..กับคนงานที่ได้ค่าแรงวันละ 20-30 บาท
    แสดงว่ามีแรงศรัทธาหนุนส่งเกินคาด
    กับคนที่ไม่มีเส้นสาย ไม่มีสาขา
    ...ไม่สนใจวัด ไม่รู้เรื่องผ้าป่า

    พลังงานบุญเหล่านี้...มาจากไหน?
    จึงเป็นอีกหนึ่งที่รบกวนถาม
    ท่านอจ.นพ


    *ที่เล่าให้ฟังละเอียด*
    เพื่อให้เข้าใจ...
    ไม่มีจุดประสงค์อะไรครับ


    (เดี๋ยวมาต่อ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2018
  12. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +4,720
    (ต่อครับ)


    ช่วงระยะเวลาเพียงสั้นๆปีสองปี
    กับการรู้สึกอยากฝึกนั่งสมาธิกรรมฐาน
    และเรื่องดีๆการจัดกองผ้าป่า
    ...ที่เข้ามาในชีวิตอย่างบังเอิญ

    หลังจากนั่นห่างเหินวัดไป
    ชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ

    คือไม่ได้อยู่ในใจมากมาย
    บางครั้งรู้สึกขาดตกบกพร่องด้วยซ้ำ
    แค่ทำบุญธรรมดาๆตามชาวพุทธทั่วไป

    *แต่ระหว่างทางก็มีเรื่องแปลกๆ*

    ...เกิดขึ้นกับตนเองบ่อยๆ

    เสมือนดลใจให้ได้รับรู้
    หรือเตือนให้ผมควรเข้ามาสนใจ


    อย่าง...บ่อยครั้งไปนอนต่างที่ต่างถิ่น
    จะพบอะไรแปลกๆ
    ตามโรงแรม บ้านเพื่อน
    ดึกๆบางครั้งจะฝันเห็นผีๆ ผีอำบ้าง
    หรือผีมาบอกว่าเขานอนตายที่เตียงนี่

    ...อย่างข้าวของดังกุกๆ กักๆ
    ...เสียงตบหน้าต่างดังๆ
    ...เจอมาหลายครั้งเหมือนกัน

    (ตามกระทู้บางเรื่องที่เคยโพสต์ไว้)



    ก่อนปิดท้าย

    ผมขอแจ้งข่าวดีให้ทุกท่านได้ทราบว่า

    "ลป.ทวดองค์ใหญ่ที่สุดในโลก"
    อำเภอปากช่อง เขาใหญ่



    "ได้ฤกษ์มงคล พิธีเปิดอย่างเป็นทางการ
    ในวันที่ 1 มกราคม 2562"

    1535373852858.jpg

    1535373862005.jpg

    ผมแอบดีใจลึกๆขึ้นมาทันที
    ที่เฝ้าภาวนา...มา 2-3 ปี
    รอคอยข่าวดี...อันยิ่งใหญ่และสิริมงคลนี้
    ในที่สุด...ทุกอย่างได้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

    แม้จะเป็นข่าวที่ยังไม่เป็นทางการ
    แต่ผู้ที่โทรมาบอกผมเดือนที่แล้วคือ
    ท่านผู้ใหญ่ ปธ.ที่รับดำเนินการสร้างต่อ

    แม้เราต่างไม่เคยเห็นหน้ากัน...ก็จริง
    ...แต่ทำไมท่านจึงต้องโทรมาบอกผม

    *ผมรู้สึกแปลกและงงๆอยู่เหมือนกัน*
    และต้องขอบคุณท่านที่ให้เกียรติผม




    หมายเหตุ
    ที่เล่าไปทั้งหมด
    เขียนไปตามอารมณ์
    ความคิดแล่นไปเรื่อยๆ
    ...ไม่มีเป้าหมายอะไร
    คิดซะว่าอ่านนวนิยายก็แล้วกันครับ

    (ถ้าน่าเบื่อ

    ต้องขออภัยครับผม)



    เออ...คุยเรื่องพญานาคดีกว่าเนอะ

    แหะๆ รอคุณ Nagamanee มาหลายวัน

    ไม่ทราบสบายดีขึ้นแล้วยัง ?

    ...เป็นห่วงครับ

    ...ฮิเมะ ซัง ด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 สิงหาคม 2018
  13. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062
    เจนเคยไปเหมือนกันคะอาจารย์สวยมากคะ
    เสียดายที่ วันที่1มกราคม ยังอยู่บ้านของแม่สามี
    ไปช่วยงานเขา
    ถ้าไม่ติดภารกิจ คงได้ไป เสียดายๆ อยู่ลึกๆคะ
     
  14. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,047


    สิ่งต่างๆที่ มองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่า
    มีการเปลี่ยนแปลงได้ รักษาให้อยู่นาน
    ตามใจเราไม่ได้. หรือจับต้องไม่ได้
    เราเรียกว่า นามธรรม
    เช่น อารมย์โกรธ อารมย์ไม่ชอบ ความรู้สึกดีไม่ดี
    คลื่นต่างๆ อากาศ ในที่นี้ รวมทั้งเรื่องภพภูมิต่างๆด้วย.....

    ถ้าตัดภาษาที่ใช้เรียกพวกนี้ออกไป
    หากสังเกตุ แล้วมาดูที่ต้นกำเนิดของมัน เราจะพบว่า
    มันจะเหลือให้ในรูปของพลังงานอย่างหนึ่งเท่านั้น
    อารมย์ก็เป็นพลังงาน ความรู้สึกก็เป็นพลังงานอย่างหนึ่ง
    คลื่น ก็เป็นพลังงานอย่างหนึ่ง
    ผีภพภูมิก็เป็นพลังงานเช่นกัน พลังงานต่างๆเหล่านี้
    ปกติมันไม่สามารถที่จะเอาอะไรมาวัดได้
    นอกจากจะมีเครื่องมือในการตรวจจับ
    แต่แม้ว่า เราจะมองไม่เห็น แต่ก็รู้ว่ามันมีอยู่จริง
    เหมือน ตดนั้นหละ แม้จับต้องไม่ได้ แต่ก็รู้ว่า
    มันมีกลิ่นปนอยู่ด้วยจริงนั่นหละ ๕๕๕
    และพลังงานเหล่านี้ เป็นก็เป็นสื่อนำแรงในตัวเอง
    เหมือนทางวิทย์ที่กล่าวว่า อนุภาคทุกอนุภาคมัน
    มีแรงดึงดูซึ่งกันและกัน แต่พูดไปอาจจะยังไม่เห็นภาพ
    แต่ให้เข้าใจก่อนว่า ก่อนจะเกิดแรงหรือพลังงานเหล่านั้น
    มัน สร้างจากแหล่งพลังงานที่มาจากจิตเรานั้นเอง

    เรียกว่า จิตเป็นต้นกำเนิดพลังงาน. อารมย์ ความรู้สึก
    ผี ภพภูมิ ขึ้นมาเป็นพลังงาน(ทางวิทย์อาจจะเรียกว่าแรง)
    เมื่อมีต้นกำเนิดพลังงาน สร้างให้เกิดพลังงานแล้ว
    อากาศภายนอกดูผิวเพิน
    ก็จะเป็นเสมือนสื่อนำแรงต่างๆเหล่านั้นออกไปภายนอก
    แต่ความจริงแล้ว เมื่อเรามาดูข้อมูลทางธรนีวิทยาของ
    โลกเรานี้จะพบว่า

    ในโลกเรานี้ มันมีสนามพลังแม่เหล็กอยู่แล้วเป็นปกติ
    และเราก็อยู่ภายใต้แรงดึงดูดของโลก(ถ้าไม่มี
    เวลาเรากระโดด เราจะลอยออกจากโลกไปเลย)
    รวมทั้งมันก็ยังอยู่ภายใต้แรงโน้มถ่วงต่างๆ มันจึงหมุน
    รอบดวงอาทิตย์ และ มีดวงจันทร์มาหมุนรอบตัวมัน....

    เราจะพบว่า แท้จริงๆแล้ว เราก็อยู่ภายใต้แรงดึงดูด
    ภายใต้สนามพลังงานแม่เหล็ก ตลอดจนภายใต้แรงโน้มถ่วง
    อยู่แล้วเป็นปกติ. พวกนี้ก็เสมือนเป็นสื่อนำแรงนั่นเอง
    เป็นนามธรรมเช่นกัน เราจึงมองไม่เห็นได้ด้วยตาปกติ


    ดังนั้นเมื่อเราแค่คิดอะไรลงไป เมื่อจิตสร้างแรงขึ้นมาแล้ว
    มันก็จะเหมือนว่า เราได้สร้างสื่อนำแรงขึ้นมาเพื่อเข้าไปรวม
    กับสนามพลังงานแม่เหล็ก แรงโน้นถ่วง แรงดึงดูดของโลก
    ใบนี้ไปโดยปริยายนั้นเอง.....

    เคยได้ยินไหม เด็ดดอกไม้ สะเทือนถึงดวงดาวนั้นหละ.....

    เพราะฉนั้นถ้าเราคิดทำอะไร ที่เป็นกุศล ตัดคำว่า กุศลออกไป
    เหลือแต่แรงนะ เมื่อเกิดแรงขึ้นมา คงไว้ก่อนนะ

    อนุภาคที่เป็นสือนำแรงที่เหมือนกัน ย่อมดึงดูดเข้าหากัน
    พอคุ้นๆไหมคำนี้ และสื่อนำแรง อย่าลืมว่า มันไม่ต้องใช้
    พื้นที่ เมื่อไม่ใช้พื้นที่ ก็ไม่มีระยะทางและเวลามาเกี่ยวข้อง

    ดังนั้น เมื่อมีต้นกำเนิดแรงขึ้นมา แล้วอยู่ภายใต้แรงโน้นถ่วง
    สนามแม่เหล็กโลก. และมีแรงที่อยู่ภายนอกอยู่แล้ว
    ลักษณะคล้ายๆกันดวงจิตที่ไม่มีกาย
    และไปเจอต้นกำเนิดแรงอื่นๆ(จิตดวงอื่นๆ
    ที่สามารถสร้างแรงแบบเดียวกันได้ที่มีกาย)
    แรงในลักษณะเดียวกันที่ออกมา มันก็เป็นเสมือนการ
    ไปเชื่อมแรงชนิดนั้นๆเข้าด้วยกัน มันก็ย่อมมีการดึงดูดซึ่งกัน
    และกัน......นั่นหละเป็นที่มาของการ ชอบอะไรเหมือนๆกัน
    ทำอะไรเหมือนกันเป็นกลุ่ม ในที่นี้รวมทั้งแรงที่ออกฝ่ายดี
    และแรงที่ออกฝ่ายไม่ดี เช่นกัน

    และแรงไม่แน่ใจ คงว่าเล่าไปในกระทู้อื่นมั่ง
    อะตอม มันประกอบด้วยอนุภาค ๒ ส่วน นอกจากนิวเคียส
    และอิเลคตรอน คือ อนุภาคที่เรียกว่า เฟอมิอ้อน กับ บัวซอง
    ซึ่งเฟอมิอ้อน มันเป็นองค์ประกอบสะสาร มันซ้อนทับกันไม่ได้
    อยู่แล้ว แต่ บัวซอง เป็นสื่อนำแรง มันซ้อนทับกันได้ไม่จำกัด
    ซึ่งมันสามารถสร้างสนามแรงให้เกิดขึ้นได้มากมาย.....

    ดังนั้นเมื่อ ผีหรือวิญญาน เป็นพลังงาน และแรงอย่างหนึ่ง
    เค้าสร้างพลังงานขึ้นมา (อยู่บนโลกใบนี้ ก็จะอยู่ภายใต้
    สนามแม่เหล็ก แรงโน้นถ่วง แรงดึงดูดไปในตัว)
    เป็นรูปเป็นร่าง ก็เพื่อเป็นสื่อนำแรง
    ให้เข้ามาเชื่อมกันต้นพลังงานของเรานั้นเอง ทำไม่ต้องมา
    เชื่อมกับเรา ก็เพราะการสวดมนต์ การทำสมาธิ การอุทิศ
    ส่วนกุศลนั้น เป็นเหตุให้จิต สามารถสร้างต้นกำเนิดของแรง
    (แต่เรามักเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ว่า บุญ กุศล แล้วแต่จะเรียก)
    เพื่อไปรวมไปสร้าง ให้แรงพลังงานที่มาจากภายนอกหรือผีนั้น
    เกิดการเปลี่ยนแปลงพลังงานไปในทิศทางเดียวกัน
    ที่จิตได้สร้างขึ้นมา จากการสวดมนต์
    นั่งสมาธิอุทิศส่วนกุศลนั้นเอง

    แต่การสวดมนต์ ก็สามารถสร้างต้นกำเนิดแรง
    ที่จะผลักหรือดึงดูก็ได้
    เราเรียกว่า แรงสนามแม่เหล็ก(มีทั้งขั้วบวกและขั้วลบ)
    ถ้ากรณีเราไปสวดมนต์ แล้วเกิดเป็นขั้วเดียวกัน
    กับพลังงานภายนอกที่สร้างสื่อนำแรงแล้ว
    ก็จะเกิดการผลักกันเกินขึ้น(เราเรียกว่าคาถากันผีนั่นหละ)

    มันก็จะปิดโอกาส ของตัวจิต ที่จะสร้างพลังงานขึ้นมา
    เรียกว่า พลาดโอกาส ในการสร้างพลังงานบุญ กุศล
    ขึ้นมาอย่างที่เราคาดไม่ถึงได้นั้นเอง.....

    ดังนั้น เลยมีคำพูดว่า อย่าสวดมนต์ไล่ผี
    ปรมจารย์ด้านการปราบผี ท่านไม่ได้ใช้
    คาถาหรือฤิทธิอะไรเลย ท่านใช้เมตตานำ
    ก็คือ ท่านมีสื่อนำแรง ที่มีอนุภาคมากพอ
    ที่จะเปลียนแรงต่างๆภายนอก ให้เปลี่ยนไป
    ตามกำลังของแรง(เมตตา)ท่านนั้นเอง....


    เนี่ย ถ้าเรามามองในต้นกำเนิดของมัน
    เราจะพบเหตุและผลในการเกิดขึ้นได้เอง....
    แต่มันไม่ใช่สากลที่จะพูดแล้วเข้าใจเห็นได้ง่ายทุกคน
    จริงใช้คำพูดในเชิงที่ เอื้อต่อการให้จิตสร้างต้นกำเนิด
    แรงขึ้นมาก่อน เช่น ทำแล้วได้บุญ ทำแล้วได้กุศล
    ทำแล้วจะเป็นโน้นนี่นั้น ฯลฯ ก็เพื่อเป็นอุบายตรงนี้นั้นเอง

    ปล. ตั้งแต่เกิดมาเท่าที่เคยเห็นผีมาตอนเด็กๆ
    หรือโตหน่อย หรือ ย้อนไปไม่นาน หรือจะปัจจุบัน
    ไม่ว่าจะเจอที่ไหน เมื่อไรก็ตาม แบบตาเปล่าๆ
    หรือว่าจะหลับตาเห็น หรือ ครึ่งหลับครึ่งตื่นก็ตาม
    สิ่งที่ไม่เคยคิดจะทำเลย ก็คือ การไปสวดมนต์ไล่ผี
    เพราะจะตัดโอกาสในการสร้างต้นกำเนิดแรง
    ในทางด้านกุศลของเราได้อย่างคาดไม่ถึงหากไปทำ.....
    และการที่สวดมนต์แล้วพบเห็นโน้นนี่นั้น จะเลิกสวดดีไหม
    นั่งสมาธิแล้วเห็นโน้นนี่นั้น เลยกลัวแล้วเลิก...
    ก็เหมือนการตัดการสร้างต้นกำเนิดแรงฝ่ายกุศลนั่นหละ
    ทางปฏิบัติเค้าเรียกว่า ตัดการสร้างบารมีให้ตนเอง
    อย่างที่เราคาดไม่ถึง เพราะเราอาจจะไม่ได้ย้อนมา
    มองในเรื่องของแรง แต่อยู่ภายใต้สัญญาต่างๆนั่นเอง....

    เล่าให้ฟังเฉยๆ พอขำๆ
     
  15. maxmi

    maxmi แม็กคับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    479
    ค่าพลัง:
    +1,205
    ขอเลขสามตัวตรงคับ
     
  16. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,344
    ค่าพลัง:
    +4,820
    เหมือน กับ ฟอรซเลยแฮะ

    ในจักรวาลสตาร์ วอร์ส นั้น "พลัง" หมายถึงสิ่งเหนือธรรมชาติที่มีอยู่ทุกหนทุกแห่งซึ่งถูกใช้โดยลัทธิเจไดและซิธ ด้วยเหตุว่ามีเพียงสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว มิดิคลอเรียน เท่านั้น ที่สามารถสื่อสารกับ "พลัง" ได้ การที่บุคคลจะมี "พลัง" สถิตแข็งกล้านั้นย่อมขึ้นอยู่กับจำนวนของมิดิคลอเรียนที่อยู่ในร่างของบุคคลนั้น

    อาจารย์เจได โอบีวัน เคโนบี อธิบายว่า "พลัง" คือ "สนามพลังที่ถูกสร้างโดยสิ่งมีชีวิตทั้งมวล" บางสังคมหรือกลุ่มองค์กรเชื่อว่า "พลัง" เป็นสิ่งที่มีความคิดสติปัญญาราวกับเป็นพระเจ้าอย่างหนึ่ง ในขณะที่กลุ่มคนอื่นเชื่อว่า "พลัง" เป็นสิ่งที่มีอยู่เป็นธรรมดา และสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำการต่างๆ ได้ตามปรารถนา

    นอกจากเจไดและซิธที่นำ "พลัง" มาใช้ได้แล้ว ยังมีกลุ่มบุคคลและแนวคิดอีกมากที่สามารถใช้ประโยชน์จาก "พลัง" ได้ในรูปแบบต่างๆ กันออกไป
     
  17. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062

    อ่านแล้ว สำหรับเจน สรุปความของเจนเองว่า
    ความคิดดี ก็เหมือนพลังงานดี ที่ดึง พลังงานดีดี เข้าหา
    อาจจะ มีงง กับ นิวเคลียส หลักเคมีบ้าง (เพราะหนีเรียนบ่อยคะ)

    แต่พอเข้าใจถึง พลังงาน กฏแรงดึงดูด
    เคยพูดสอนให้เพื่อนเจนฟัง ครั้งที่มันท้อ
    ครั้งหนึ่ง ว่า “เวลาที่เราคิดแต่สิ่งดีดี เคยเชื่อมั้ยว่ามันจะดูดสิ่งดีดีเข้าหากัน
    ถ้ากูคิดถึงเรื่องดีดีเสมอ กูก็เชื่อว่า วันข้างหน้ากูจะได้เจอสิ่งดีดี
    มันจะมาช้า มาเร็ว สักวันมั้ยว่ะ มันก็ต้องมา ไอ้สิ่งดีดีเนี้ย” (อาจมีคำไม่สุภาพ)


    มันอาจเป็นคำพูดเฉยๆ พื้นๆ แต่มันสามารถเปลี่ยนความคิดคนได้
    ก็รู้สึกดี ทุกวันนี้ เจนก็ยังเชื้อเสมอคะว่า
    ถ้าเราคิดดี กับคนอื่นก่อน เดี๋ยวเขาก็จะคิดดีดี กับเราเอง
    (ช้าหรือเร็ว อยู่ที่ตัวบุคคล 5555)
     
  18. สะไบดินแดง

    สะไบดินแดง ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,062

    งวดนี้ จะเบาๆมือ ไม่เล่นหนักแน่นอนคะอาจารย์
     
  19. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,344
    ค่าพลัง:
    +4,820
    โสดแต่ผู้หญิงไม่กล้าเข้าใกล้ครับ
     
  20. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,888
    ค่าพลัง:
    +4,720
    ----------------------------------

    "...แต่การสวดมนต์
    ก็สามารถสร้างต้นกำเนิดแรง
    ที่จะผลักหรือดึงดูดก็ได้
    เราเรียกว่า แรงสนามแม่เหล็ก
    (มีทั้งขั้วบวกและขั้วลบ)

    ถ้ากรณีเราไปสวดมนต์ แล้วเกิดเป็นขั้วเดียวกัน
    กับพลังงานภายนอกที่สร้างสื่อนำแรงแล้ว
    ก็จะเกิดการผลักกันเกิดขึ้น
    (เราเรียกว่าคาถากันผีนั่นหละ)

    มันก็จะปิดโอกาส ของตัวจิต ที่จะสร้างพลังงานขึ้นมา
    เรียกว่า พลาดโอกาส ในการสร้างพลังงานบุญ กุศล
    ขึ้นมาอย่างที่เราคาดไม่ถึงได้นั้นเอง.....

    ดังนั้น เลยมีคำพูดว่า อย่าสวดมนต์ไล่ผี
    ปรมาจารย์ด้านการปราบผี ท่านไม่ได้ใช้
    คาถาหรือฤทธิ์อะไรเลย
    ท่านใช้เมตตานำ..."


    ...อ่านแล้วเข้าใจและเห็นภาพเลย
    ขอบคุณมากครับอจ.นพ
     

แชร์หน้านี้

Loading...